| ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ | |
| กระทู้ Private http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=57639 | หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | 
| เจ้าของ: | ปฤษฎี [ 23 พ.ค. 2019, 19:31 ] | 
| หัวข้อกระทู้: | กระทู้ Private | 
| สืบเนื่องจากกระทู้ที่แล้ว มีการตั้งกระทู้ถามตอบ สนทนาออกไปยืดยาว จึงขอตั้งกระทู้ใหม่ ขอความกรุณา เพื่อนสมาชิกหากมีข้อสงสัย ให้ตั้งกระทู้แยก หรือ inbox มา ถ้าตอบได้จะไปตอบ ถ้าตอบไม่ได้หรือไม่อยากตอบก็จะขอไม่ตอบ เนื้อหาในกระทู้นี้จะขอนำธรรมมาแสดงตามความเข้าใจ ความต้องการ ตามจิต ขอให้ทุกท่านพิจารณา | |
| เจ้าของ: | sssboun [ 23 พ.ค. 2019, 19:46 ] | 
| หัวข้อกระทู้: | Re: กระทู้ Private | 
| ปฤษฎี เขียน: สืบเนื่องจากกระทู้ที่แล้ว มีการตั้งกระทู้ถามตอบ สนทนาออกไปยืดยาว  จึงขอตั้งกระทู้ใหม่ ขอความกรุณา เพื่อนสมาชิกหากมีข้อสงสัย ให้ตั้งกระทู้แยก หรือ inbox มา ถ้าตอบได้จะไปตอบ ถ้าตอบไม่ได้หรือไม่อยากตอบก็จะขอไม่ตอบ เนื้อหาในกระทู้นี้จะขอนำธรรมมาแสดงตามความเข้าใจ ความต้องการ ตามจิต ขอให้ทุกท่านพิจารณา อนุโมทนา สาธุ   | |
| เจ้าของ: | ปฤษฎี [ 23 พ.ค. 2019, 19:57 ] | 
| หัวข้อกระทู้: | Re: กระทู้ Private | 
| ขอนอบนอมแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงได้นามว่า ตถาคต ด้วยเหตุ 8 ประการ คือ ชื่อว่าตถาคต เพราะเสด็จมาเหมือนอย่างนั้น ชื่อว่าตถาคต เพราะเสด็จไปเหมือนอย่างนั้น ชื่อว่าตถาคต เพราะทรงรู้ลักษณะที่แท้จริง ชื่อว่าตถาคต เพราะตรัสรู้ธรรมที่แท้จริง โดยความเป็นจริง ชื่อว่าตถาคต เพราะทรงเห็นความแท้จริง ชื่อว่าตถาคต เพราะทรงสั่งสอนสิ่งที่แท้จริง ชื่อว่าตถาคต เพราะทรงกระทำแต่ความแท้จริง ชื่อว่าตถาคต เพราะอรรถว่าทรงครอบงำ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงประดุจบิดา อันเทวดาและมนุษย์บูชา เมื่อครั้งเป็นพระโพธิสัตว์ทรงบำเพ็ญพระบารมี คือความดีทั้งปวง ทุกประการ มี ทานบารมีเป็นต้น เป็นเวลาเนิ่นนาน หลายชาติ พระพุทธเจ้าโคดมของเราทรงเป็นพระพุทธเจ้าประเภทปัญญาธิกะคือยิ่งด้วยปัญญา ทรงบำเพ็ญพระบารมี หลังจากได้รับพุทธพยากรณ์ สี่อสงไขยแสนกัป พระองค์ทรงมีพระหฤทัยเด็ดเดี่ยว และมั่นคงยิ่ง แม้ครั้งเป็นพระโพธิสัตว์ก็เป็นผู้ควรแก่การบูชา ดังข้อความข้างต้นกล่าวถึง ความหมายการที่ได้พระนามว่า ตถาคต นำมาจาก อรรถกถา ขุททกนิกาย อิติวุตตกะ ทุกนิบาต ทุติยวรรค วิตักกสูตร http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=216 สามารถศึกษาข้อความโดยพิสดารได้ตามลิงค์ ทุกท่านจะได้ทราบเหตุที่ได้พระนามว่า ตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ทรงบำเพ็ญบารมีจนเต็มเปี่ยม จนกระทั่งพระญาณแก่กล้า สามารถตรัสรู้ธรรม คือ สัจจะ 4 อันประเสริฐได้ด้วยตนเอง แต่ยิ่งกว่านั้นคือทรงประกอบด้วยพระญาณ มีทศพลญาณ จตุเวสารัชญาณ อสาธารณญาณ ตลอดจนพุทธธรรม 18 ประการ ด้วยพระญาณเหล่านั้นพระองค์จึงทรงสามารถแสดงธรรม สามารถบัญญัติคำต่างๆ ที่แสดงถึงสภาวะธรรม ให้ผู้ฟังเกิดความเข้าใจ รู้ตามพระองค์ได้ จึงเกิดสงฆ์ คือหมู่ของผู้ที่ตรัสรู้ตาม สามารถดับกิเลสได้ตามลำดับ ด้วยเหตุนี้รัตนะ 3 จึงบริบูรณ์ และด้วยเหตุนี้พระองค์จึงประกอบด้วยพระคุณ อันประมาณไม่ได้ ไม่สิ้นสุด ไม่สามารถพรรณาได้หมดสิ้น เป็นบุคคลเอก อัจฉริยบุคคล อันควรแก่การสักการะบูชาของเทวดาและมนุษย์ | |
| เจ้าของ: | Duangtip [ 23 พ.ค. 2019, 21:28 ] | 
| หัวข้อกระทู้: | Re: กระทู้ Private | 
|    ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ       | |
| เจ้าของ: | ปฤษฎี [ 23 พ.ค. 2019, 21:51 ] | 
| หัวข้อกระทู้: | Re: กระทู้ Private | 
| พระพุทธเจ้า ทรงแสดงพระธรรม ว่าด้วยความจริงอันเป็นความจริงแท้อย่างที่สุด ไม่เป็นอย่างอื่น ที่ประเสริฐ 4 ประการ ว่าด้วยเรื่องทุกข์ เหตุ ความดับ และเหตุให้ถึงความดับ เป็นสุญญตาและปฏิจจสมุปบาท คือไม่ใช่สัตว์ ไม้ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน เป็นเพียงสภาวะที่อาศัยกันและกันเกิดและดับ หรือ มีและไม่มี ตามเหตุ ตามปัจจัย แบ่งเป็น รูปธรรม อรูปธรรม แบ่งเป็น สังขารธรรม วิสังขารธรรม พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมที่กล่าวเฉพาะถึงทุกข์ และความดับทุกข์ ตามเหตุตามปัจจัย และเป็นสุญญตา ด้วยพระญาณอันยอดเยี่ยมพระองค์จึงสามารถรู้ธรรมประการต่างๆโดยละเอียดอย่างถึงที่สุดแล้วนำมาจำแนก เปิดเผย สั่งสอน เพื่อให้ผู้ฟังรู้ตาม เพราะกิเลสอันประดุจมารดา ก็คืออวิชชา หรือความไม่รู้ในความจริง จึงเป็นผลให้เกิดหรือให้กำเนิดสิ่งต่างๆ อันเป็นทุกข์ตามมา พระธรรมที่แสดงจึงเป็นไปเพื่อความดับอวิชชาโดยแท้ เพราะไม่รู้จึงท่องเที่ยวไป เพราะไม่รู้จึงเกิดบ่อยๆ และเพราะเกิดบ่อยๆ จึงเป็นทุกข์ | |
| หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง | 
| Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ | |