ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

อานาปานสติสิ่งที่พระองค์สรรเสริญยิ่งนัก
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=57625
หน้า 2 จากทั้งหมด 6

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 20 พ.ค. 2019, 10:45 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อานาปานสติสิ่งที่พระองค์สรรเสริญยิ่งนัก

Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อีกตัวอย่างหนึ่ง

นั่งสมาธิแล้วได้ยินเสียงด่าตัวเอง

นั่งสมาธินั่งดูลม แล้วมามองกระจกแบบใช้ตาเพ่ง. กระจกมันบิดไปบิดมา บางทีก็ได้ยินเสียงคนพูดถึงเรืองที่ผมคิด แต่มองไม่เห็นคน ตอนนี้เพี้ยนครับ อาการแบบนี้เขาเรียกจิตหลอกรึเปล่า ตอนนี้ลำบากมาก หนวกหูเสียงด่ามาเป็นอาทิตย์แล้วครับ ได้ยินเสียงความคิดของตัวเองอีก หนวกหูมาก พอจะมีวิธีแก้ใหมครับ.


เสียงในใจอย่างนี้อาจจะเป็นเสียงดำริ เสียงดำรินี้จะมาก่อนที่จะ คิด พูด ทำ สิ่งต่าง ๆ ทั้งที่เป็น
ฝ่ายกุศล ฝ่ายอกุศล บางคนเมื่อจะดำริก็ไม่รู้ ดำริอยู่ก็ไม่รู้ ดำริเป็นกุศล หรือ อกุศลก็ไม่รู้ บางคน
จะดำริก็รู้ ดำริอยู่ก็รู้ ดำริเป็นกุศล หรือ อกุศลก็รู้ คนพวกแรกคือพวกไม่เจริญสติสัมปชัญญะ คน
พวกหลังคือพวกมีความเพียรเจริญสติสัมปชัญญะ


นี่ก็เช่นกัน เอาคำศัพท์มาพูดวาดภาพไป

เจ้าของ:  Love J. [ 20 พ.ค. 2019, 11:24 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อานาปานสติสิ่งที่พระองค์สรรเสริญยิ่งนัก

กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อีกตัวอย่างหนึ่ง

นั่งสมาธิแล้วได้ยินเสียงด่าตัวเอง

นั่งสมาธินั่งดูลม แล้วมามองกระจกแบบใช้ตาเพ่ง. กระจกมันบิดไปบิดมา บางทีก็ได้ยินเสียงคนพูดถึงเรืองที่ผมคิด แต่มองไม่เห็นคน ตอนนี้เพี้ยนครับ อาการแบบนี้เขาเรียกจิตหลอกรึเปล่า ตอนนี้ลำบากมาก หนวกหูเสียงด่ามาเป็นอาทิตย์แล้วครับ ได้ยินเสียงความคิดของตัวเองอีก หนวกหูมาก พอจะมีวิธีแก้ใหมครับ.


เสียงในใจอย่างนี้อาจจะเป็นเสียงดำริ เสียงดำรินี้จะมาก่อนที่จะ คิด พูด ทำ สิ่งต่าง ๆ ทั้งที่เป็น
ฝ่ายกุศล ฝ่ายอกุศล บางคนเมื่อจะดำริก็ไม่รู้ ดำริอยู่ก็ไม่รู้ ดำริเป็นกุศล หรือ อกุศลก็ไม่รู้ บางคน
จะดำริก็รู้ ดำริอยู่ก็รู้ ดำริเป็นกุศล หรือ อกุศลก็รู้ คนพวกแรกคือพวกไม่เจริญสติสัมปชัญญะ คน
พวกหลังคือพวกมีความเพียรเจริญสติสัมปชัญญะ


นี่ก็เช่นกัน เอาคำศัพท์มาพูดวาดภาพไป

ผมพูดตามจริงโดยใช้ภาษาที่ผู้อ่านในทีนี้พึงอ่านแล้วเข้าใจโดยไม่ยาก

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 20 พ.ค. 2019, 17:47 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อานาปานสติสิ่งที่พระองค์สรรเสริญยิ่งนัก

Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อีกตัวอย่างหนึ่ง

นั่งสมาธิแล้วได้ยินเสียงด่าตัวเอง

นั่งสมาธินั่งดูลม แล้วมามองกระจกแบบใช้ตาเพ่ง. กระจกมันบิดไปบิดมา บางทีก็ได้ยินเสียงคนพูดถึงเรืองที่ผมคิด แต่มองไม่เห็นคน ตอนนี้เพี้ยนครับ อาการแบบนี้เขาเรียกจิตหลอกรึเปล่า ตอนนี้ลำบากมาก หนวกหูเสียงด่ามาเป็นอาทิตย์แล้วครับ ได้ยินเสียงความคิดของตัวเองอีก หนวกหูมาก พอจะมีวิธีแก้ใหมครับ.


เสียงในใจอย่างนี้อาจจะเป็นเสียงดำริ เสียงดำรินี้จะมาก่อนที่จะ คิด พูด ทำ สิ่งต่าง ๆ ทั้งที่เป็น
ฝ่ายกุศล ฝ่ายอกุศล บางคนเมื่อจะดำริก็ไม่รู้ ดำริอยู่ก็ไม่รู้ ดำริเป็นกุศล หรือ อกุศลก็ไม่รู้ บางคน
จะดำริก็รู้ ดำริอยู่ก็รู้ ดำริเป็นกุศล หรือ อกุศลก็รู้ คนพวกแรกคือพวกไม่เจริญสติสัมปชัญญะ คน
พวกหลังคือพวกมีความเพียรเจริญสติสัมปชัญญะ


นี่ก็เช่นกัน เอาคำศัพท์มาพูดวาดภาพไป

ผมพูดตามจริงโดยใช้ภาษาที่ผู้อ่านในทีนี้พึงอ่านแล้วเข้าใจโดยไม่ยาก



สติ สัมปชัญญะ เป็นบาลี

ที่ว่าเข้าใจไม่ยาก เลิพ เจ. บอกสิ สติ ไม่ใช้คำว่าแปลก็ได้ ใช้คำว่า สติ หมายถึงยังไง สัมปชัญญะ หมายถึงยังไง

เจ้าของ:  Love J. [ 20 พ.ค. 2019, 19:06 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อานาปานสติสิ่งที่พระองค์สรรเสริญยิ่งนัก

กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อีกตัวอย่างหนึ่ง

นั่งสมาธิแล้วได้ยินเสียงด่าตัวเอง

นั่งสมาธินั่งดูลม แล้วมามองกระจกแบบใช้ตาเพ่ง. กระจกมันบิดไปบิดมา บางทีก็ได้ยินเสียงคนพูดถึงเรืองที่ผมคิด แต่มองไม่เห็นคน ตอนนี้เพี้ยนครับ อาการแบบนี้เขาเรียกจิตหลอกรึเปล่า ตอนนี้ลำบากมาก หนวกหูเสียงด่ามาเป็นอาทิตย์แล้วครับ ได้ยินเสียงความคิดของตัวเองอีก หนวกหูมาก พอจะมีวิธีแก้ใหมครับ.


เสียงในใจอย่างนี้อาจจะเป็นเสียงดำริ เสียงดำรินี้จะมาก่อนที่จะ คิด พูด ทำ สิ่งต่าง ๆ ทั้งที่เป็น
ฝ่ายกุศล ฝ่ายอกุศล บางคนเมื่อจะดำริก็ไม่รู้ ดำริอยู่ก็ไม่รู้ ดำริเป็นกุศล หรือ อกุศลก็ไม่รู้ บางคน
จะดำริก็รู้ ดำริอยู่ก็รู้ ดำริเป็นกุศล หรือ อกุศลก็รู้ คนพวกแรกคือพวกไม่เจริญสติสัมปชัญญะ คน
พวกหลังคือพวกมีความเพียรเจริญสติสัมปชัญญะ


นี่ก็เช่นกัน เอาคำศัพท์มาพูดวาดภาพไป

ผมพูดตามจริงโดยใช้ภาษาที่ผู้อ่านในทีนี้พึงอ่านแล้วเข้าใจโดยไม่ยาก



สติ สัมปชัญญะ เป็นบาลี

ที่ว่าเข้าใจไม่ยาก เลิพ เจ. บอกสิ สติ ไม่ใช้คำว่าแปลก็ได้ ใช้คำว่า สติ หมายถึงยังไง สัมปชัญญะ หมายถึงยังไง

สติ คือ ระลึก สัมปชัญญะ คือ รู้

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 20 พ.ค. 2019, 20:36 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อานาปานสติสิ่งที่พระองค์สรรเสริญยิ่งนัก

Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อีกตัวอย่างหนึ่ง

นั่งสมาธิแล้วได้ยินเสียงด่าตัวเอง

นั่งสมาธินั่งดูลม แล้วมามองกระจกแบบใช้ตาเพ่ง. กระจกมันบิดไปบิดมา บางทีก็ได้ยินเสียงคนพูดถึงเรืองที่ผมคิด แต่มองไม่เห็นคน ตอนนี้เพี้ยนครับ อาการแบบนี้เขาเรียกจิตหลอกรึเปล่า ตอนนี้ลำบากมาก หนวกหูเสียงด่ามาเป็นอาทิตย์แล้วครับ ได้ยินเสียงความคิดของตัวเองอีก หนวกหูมาก พอจะมีวิธีแก้ใหมครับ.


เสียงในใจอย่างนี้อาจจะเป็นเสียงดำริ เสียงดำรินี้จะมาก่อนที่จะ คิด พูด ทำ สิ่งต่าง ๆ ทั้งที่เป็น
ฝ่ายกุศล ฝ่ายอกุศล บางคนเมื่อจะดำริก็ไม่รู้ ดำริอยู่ก็ไม่รู้ ดำริเป็นกุศล หรือ อกุศลก็ไม่รู้ บางคน
จะดำริก็รู้ ดำริอยู่ก็รู้ ดำริเป็นกุศล หรือ อกุศลก็รู้ คนพวกแรกคือพวกไม่เจริญสติสัมปชัญญะ คน
พวกหลังคือพวกมีความเพียรเจริญสติสัมปชัญญะ


นี่ก็เช่นกัน เอาคำศัพท์มาพูดวาดภาพไป

ผมพูดตามจริงโดยใช้ภาษาที่ผู้อ่านในทีนี้พึงอ่านแล้วเข้าใจโดยไม่ยาก



สติ สัมปชัญญะ เป็นบาลี

ที่ว่าเข้าใจไม่ยาก เลิพ เจ. บอกสิ สติ ไม่ใช้คำว่าแปลก็ได้ ใช้คำว่า สติ หมายถึงยังไง สัมปชัญญะ หมายถึงยังไง

สติ คือ ระลึก สัมปชัญญะ คือ รู้


แล้วอยู่ๆ พูดๆสิ่งเหล่านั้นมันจะเกิดขึ้นมาเองหรือ

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 20 พ.ค. 2019, 20:39 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อานาปานสติสิ่งที่พระองค์สรรเสริญยิ่งนัก

หา กท.ที่ลงแล้วลงไม่ได้ไม่พบ วางไว้ตรงนี้ก่อน น่าจะไปกันได้ ถามบิ๊กทู่

วิธีแบบนี้ในการเดินจงกรมถูกต้องหรือไม่คะ

ขณะเดินจงกรม ดิฉันกำหนดจับอาการได้ยิน ตั้งใจฟังเสียง รับรู้ว่าเป็นเสียงอะไร เช่นรู้ว่า เป็นเสียงนกแต่ไม่ได้นำมาคิดต่อว่า เป็นนกอะไร เสียงคนก็ไม่ได้นำมาคิดว่าเขาพูดอะไร และมีบางครั้ง มารู้สึกตัวอาการการยกของขาขณะก้าวเดินเอง โดยไม่ไปกำหนดความคิดฟุ้งซ่านไม่มี ถ้าเริ่มจะคิด จะกำหนดในใจว่าฟังแล้วความคิดนั้นจะหยุดเข้าสู่สภาวะเดิมคือการจับที่เสียง มีบางครั้งร่างกายหายใจยาว จะรู้สึกตัวได้เองและเมื่อร่างกายรู้สึกตึง เครียด ปวดเมื่อยต้นคอ ดิฉันจะบอกตัวเอง ให้ผ่อนคลาย เช่น หายใจเข้าออกยาวขึ้นเปลี่ยนอิริยาบถย่อย เข้ามาช่วย และมีสลับกลับมาใช้กำหนดตัวเองว่า ดูทำแบบนี้ได้ 1 ชั่วโมงความคิดความฟุ้งซ่านไม่มี ใช่วิธีที่ถูกต้องหรือไม่คะ หรือเป็นแค่การสะกดจิตตัวเองเฉยๆ ซึ่งมันหยุดความคิดได้ยาวนาน ขอบคุณคะ

https://pantip.com/topic/38884597

เจ้าของ:  Love J. [ 20 พ.ค. 2019, 20:58 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อานาปานสติสิ่งที่พระองค์สรรเสริญยิ่งนัก

กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อีกตัวอย่างหนึ่ง

นั่งสมาธิแล้วได้ยินเสียงด่าตัวเอง

นั่งสมาธินั่งดูลม แล้วมามองกระจกแบบใช้ตาเพ่ง. กระจกมันบิดไปบิดมา บางทีก็ได้ยินเสียงคนพูดถึงเรืองที่ผมคิด แต่มองไม่เห็นคน ตอนนี้เพี้ยนครับ อาการแบบนี้เขาเรียกจิตหลอกรึเปล่า ตอนนี้ลำบากมาก หนวกหูเสียงด่ามาเป็นอาทิตย์แล้วครับ ได้ยินเสียงความคิดของตัวเองอีก หนวกหูมาก พอจะมีวิธีแก้ใหมครับ.


เสียงในใจอย่างนี้อาจจะเป็นเสียงดำริ เสียงดำรินี้จะมาก่อนที่จะ คิด พูด ทำ สิ่งต่าง ๆ ทั้งที่เป็น
ฝ่ายกุศล ฝ่ายอกุศล บางคนเมื่อจะดำริก็ไม่รู้ ดำริอยู่ก็ไม่รู้ ดำริเป็นกุศล หรือ อกุศลก็ไม่รู้ บางคน
จะดำริก็รู้ ดำริอยู่ก็รู้ ดำริเป็นกุศล หรือ อกุศลก็รู้ คนพวกแรกคือพวกไม่เจริญสติสัมปชัญญะ คน
พวกหลังคือพวกมีความเพียรเจริญสติสัมปชัญญะ


นี่ก็เช่นกัน เอาคำศัพท์มาพูดวาดภาพไป

ผมพูดตามจริงโดยใช้ภาษาที่ผู้อ่านในทีนี้พึงอ่านแล้วเข้าใจโดยไม่ยาก



สติ สัมปชัญญะ เป็นบาลี

ที่ว่าเข้าใจไม่ยาก เลิพ เจ. บอกสิ สติ ไม่ใช้คำว่าแปลก็ได้ ใช้คำว่า สติ หมายถึงยังไง สัมปชัญญะ หมายถึงยังไง

สติ คือ ระลึก สัมปชัญญะ คือ รู้


แล้วอยู่ๆ พูดๆสิ่งเหล่านั้นมันจะเกิดขึ้นมาเองหรือ

คนพวกแรกคือพวกไม่เจริญสติสัมปชัญญะ คน
พวกหลังคือพวกมีความเพียรเจริญสติสัมปชัญญะ

พวกที่ได้ยินนั่นได้ยินนี่ พวกได้ยินเสียงความคิด น่าจะเป็นพวกแรก
คือไม่เจริญสติสัมปชัญญะ ในกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ในชีวิต
ประจำวันเลยวันทั้งวันนึกคิดแต่เรื่องโลภ โกร หลง แต่ไม่ได้รู้ตัวเอง
เลย พอมานั่งภาวนาจิตมันก็แล่นไปในอารมณ์ที่มันคุ้นชิน พอมาเห็น
เข้ามันก็เอาก็เอาไม่อยู่มันก็เลยหลอน

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 20 พ.ค. 2019, 21:02 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อานาปานสติสิ่งที่พระองค์สรรเสริญยิ่งนัก

Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อีกตัวอย่างหนึ่ง

นั่งสมาธิแล้วได้ยินเสียงด่าตัวเอง

นั่งสมาธินั่งดูลม แล้วมามองกระจกแบบใช้ตาเพ่ง. กระจกมันบิดไปบิดมา บางทีก็ได้ยินเสียงคนพูดถึงเรืองที่ผมคิด แต่มองไม่เห็นคน ตอนนี้เพี้ยนครับ อาการแบบนี้เขาเรียกจิตหลอกรึเปล่า ตอนนี้ลำบากมาก หนวกหูเสียงด่ามาเป็นอาทิตย์แล้วครับ ได้ยินเสียงความคิดของตัวเองอีก หนวกหูมาก พอจะมีวิธีแก้ใหมครับ.


เสียงในใจอย่างนี้อาจจะเป็นเสียงดำริ เสียงดำรินี้จะมาก่อนที่จะ คิด พูด ทำ สิ่งต่าง ๆ ทั้งที่เป็น
ฝ่ายกุศล ฝ่ายอกุศล บางคนเมื่อจะดำริก็ไม่รู้ ดำริอยู่ก็ไม่รู้ ดำริเป็นกุศล หรือ อกุศลก็ไม่รู้ บางคน
จะดำริก็รู้ ดำริอยู่ก็รู้ ดำริเป็นกุศล หรือ อกุศลก็รู้ คนพวกแรกคือพวกไม่เจริญสติสัมปชัญญะ คน
พวกหลังคือพวกมีความเพียรเจริญสติสัมปชัญญะ


นี่ก็เช่นกัน เอาคำศัพท์มาพูดวาดภาพไป

ผมพูดตามจริงโดยใช้ภาษาที่ผู้อ่านในทีนี้พึงอ่านแล้วเข้าใจโดยไม่ยาก



สติ สัมปชัญญะ เป็นบาลี

ที่ว่าเข้าใจไม่ยาก เลิพ เจ. บอกสิ สติ ไม่ใช้คำว่าแปลก็ได้ ใช้คำว่า สติ หมายถึงยังไง สัมปชัญญะ หมายถึงยังไง

สติ คือ ระลึก สัมปชัญญะ คือ รู้


แล้วอยู่ๆ พูดๆสิ่งเหล่านั้นมันจะเกิดขึ้นมาเองหรือ

คนพวกแรกคือพวกไม่เจริญสติสัมปชัญญะ คน
พวกหลังคือพวกมีความเพียรเจริญสติสัมปชัญญะ

พวกที่ได้ยินนั่นได้ยินนี่ พวกได้ยินเสียงความคิด น่าจะเป็นพวกแรก
คือไม่เจริญสติสัมปชัญญะ ในกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ในชีวิต
ประจำวันเลยวันทั้งวันนึกคิดแต่เรื่องโลภ โกร หลง แต่ไม่ได้รู้ตัวเอง
เลย พอมานั่งภาวนาจิตมันก็แล่นไปในอารมณ์ที่มันคุ้นชิน พอมาเห็น
เข้ามันก็เอาก็เอาไม่อยู่มันก็เลยหลอน


เจริญสติสัมปชัญญะ อะไรที่ว่านั่นน่าทำยังไง หรืออย่างที่ว่า เจริญสติสัมปชัญญะ ในกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ดังว่านั่น

เจ้าของ:  Love J. [ 20 พ.ค. 2019, 21:10 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อานาปานสติสิ่งที่พระองค์สรรเสริญยิ่งนัก

Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อีกตัวอย่างหนึ่ง

นั่งสมาธิแล้วได้ยินเสียงด่าตัวเอง

นั่งสมาธินั่งดูลม แล้วมามองกระจกแบบใช้ตาเพ่ง. กระจกมันบิดไปบิดมา บางทีก็ได้ยินเสียงคนพูดถึงเรืองที่ผมคิด แต่มองไม่เห็นคน ตอนนี้เพี้ยนครับ อาการแบบนี้เขาเรียกจิตหลอกรึเปล่า ตอนนี้ลำบากมาก หนวกหูเสียงด่ามาเป็นอาทิตย์แล้วครับ ได้ยินเสียงความคิดของตัวเองอีก หนวกหูมาก พอจะมีวิธีแก้ใหมครับ.


เสียงในใจอย่างนี้อาจจะเป็นเสียงดำริ เสียงดำรินี้จะมาก่อนที่จะ คิด พูด ทำ สิ่งต่าง ๆ ทั้งที่เป็น
ฝ่ายกุศล ฝ่ายอกุศล บางคนเมื่อจะดำริก็ไม่รู้ ดำริอยู่ก็ไม่รู้ ดำริเป็นกุศล หรือ อกุศลก็ไม่รู้ บางคน
จะดำริก็รู้ ดำริอยู่ก็รู้ ดำริเป็นกุศล หรือ อกุศลก็รู้ คนพวกแรกคือพวกไม่เจริญสติสัมปชัญญะ คน
พวกหลังคือพวกมีความเพียรเจริญสติสัมปชัญญะ


นี่ก็เช่นกัน เอาคำศัพท์มาพูดวาดภาพไป

ผมพูดตามจริงโดยใช้ภาษาที่ผู้อ่านในทีนี้พึงอ่านแล้วเข้าใจโดยไม่ยาก



สติ สัมปชัญญะ เป็นบาลี

ที่ว่าเข้าใจไม่ยาก เลิพ เจ. บอกสิ สติ ไม่ใช้คำว่าแปลก็ได้ ใช้คำว่า สติ หมายถึงยังไง สัมปชัญญะ หมายถึงยังไง

สติ คือ ระลึก สัมปชัญญะ คือ รู้


แล้วอยู่ๆ พูดๆสิ่งเหล่านั้นมันจะเกิดขึ้นมาเองหรือ

คนพวกแรกคือพวกไม่เจริญสติสัมปชัญญะ คน
พวกหลังคือพวกมีความเพียรเจริญสติสัมปชัญญะ

พวกที่ได้ยินนั่นได้ยินนี่ พวกได้ยินเสียงความคิด น่าจะเป็นพวกแรก
คือไม่เจริญสติสัมปชัญญะ ในกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ในชีวิต
ประจำวันเลยวันทั้งวันนึกคิดแต่เรื่องโลภ โกร หลง แต่ไม่ได้รู้ตัวเอง
เลย พอมานั่งภาวนาจิตมันก็แล่นไปในอารมณ์ที่มันคุ้นชิน พอมาเห็น
เข้ามันก็เอาก็เอาไม่อยู่มันก็เลยหลอน


ส่วนอีกพวกมีความเพียรเจริญสติตามระลึก มีสัมปชัญญะใน กายกรรม
วจีกรรม มโนกรรม สำรวมระวังสังวรณ์อินทรีย์ มานั่งภาวนาจิตมันก็อยู่
ในอำนาจ จะเผลอไม่เผลอมันก็ไม่ไปไหน แล่นไปในสติปัฏฐาน มัน
ต่างกันอย่างนี้

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 20 พ.ค. 2019, 21:15 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อานาปานสติสิ่งที่พระองค์สรรเสริญยิ่งนัก

Love J. เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อีกตัวอย่างหนึ่ง

นั่งสมาธิแล้วได้ยินเสียงด่าตัวเอง

นั่งสมาธินั่งดูลม แล้วมามองกระจกแบบใช้ตาเพ่ง. กระจกมันบิดไปบิดมา บางทีก็ได้ยินเสียงคนพูดถึงเรืองที่ผมคิด แต่มองไม่เห็นคน ตอนนี้เพี้ยนครับ อาการแบบนี้เขาเรียกจิตหลอกรึเปล่า ตอนนี้ลำบากมาก หนวกหูเสียงด่ามาเป็นอาทิตย์แล้วครับ ได้ยินเสียงความคิดของตัวเองอีก หนวกหูมาก พอจะมีวิธีแก้ใหมครับ.


เสียงในใจอย่างนี้อาจจะเป็นเสียงดำริ เสียงดำรินี้จะมาก่อนที่จะ คิด พูด ทำ สิ่งต่าง ๆ ทั้งที่เป็น
ฝ่ายกุศล ฝ่ายอกุศล บางคนเมื่อจะดำริก็ไม่รู้ ดำริอยู่ก็ไม่รู้ ดำริเป็นกุศล หรือ อกุศลก็ไม่รู้ บางคน
จะดำริก็รู้ ดำริอยู่ก็รู้ ดำริเป็นกุศล หรือ อกุศลก็รู้ คนพวกแรกคือพวกไม่เจริญสติสัมปชัญญะ คน
พวกหลังคือพวกมีความเพียรเจริญสติสัมปชัญญะ


นี่ก็เช่นกัน เอาคำศัพท์มาพูดวาดภาพไป

ผมพูดตามจริงโดยใช้ภาษาที่ผู้อ่านในทีนี้พึงอ่านแล้วเข้าใจโดยไม่ยาก



สติ สัมปชัญญะ เป็นบาลี

ที่ว่าเข้าใจไม่ยาก เลิพ เจ. บอกสิ สติ ไม่ใช้คำว่าแปลก็ได้ ใช้คำว่า สติ หมายถึงยังไง สัมปชัญญะ หมายถึงยังไง

สติ คือ ระลึก สัมปชัญญะ คือ รู้


แล้วอยู่ๆ พูดๆสิ่งเหล่านั้นมันจะเกิดขึ้นมาเองหรือ

คนพวกแรกคือพวกไม่เจริญสติสัมปชัญญะ คน
พวกหลังคือพวกมีความเพียรเจริญสติสัมปชัญญะ

พวกที่ได้ยินนั่นได้ยินนี่ พวกได้ยินเสียงความคิด น่าจะเป็นพวกแรก
คือไม่เจริญสติสัมปชัญญะ ในกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ในชีวิต
ประจำวันเลยวันทั้งวันนึกคิดแต่เรื่องโลภ โกร หลง แต่ไม่ได้รู้ตัวเอง
เลย พอมานั่งภาวนาจิตมันก็แล่นไปในอารมณ์ที่มันคุ้นชิน พอมาเห็น
เข้ามันก็เอาก็เอาไม่อยู่มันก็เลยหลอน


ส่วนอีกพวกมีความเพียรเจริญสติตามระลึก มีสัมปชัญญะใน กายกรรม
วจีกรรม มโนกรรม สำรวมระวังสังวรณ์อินทรีย์ มานั่งภาวนาจิตมันก็อยู่
ในอำนาจ จะเผลอไม่เผลอมันก็ไม่ไปไหน แล่นไปในสติปัฏฐาน มัน
ต่างกันอย่างนี้


เอาอีกแระ :b1:

เจ้าของ:  Love J. [ 20 พ.ค. 2019, 21:28 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อานาปานสติสิ่งที่พระองค์สรรเสริญยิ่งนัก

กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อีกตัวอย่างหนึ่ง

นั่งสมาธิแล้วได้ยินเสียงด่าตัวเอง

นั่งสมาธินั่งดูลม แล้วมามองกระจกแบบใช้ตาเพ่ง. กระจกมันบิดไปบิดมา บางทีก็ได้ยินเสียงคนพูดถึงเรืองที่ผมคิด แต่มองไม่เห็นคน ตอนนี้เพี้ยนครับ อาการแบบนี้เขาเรียกจิตหลอกรึเปล่า ตอนนี้ลำบากมาก หนวกหูเสียงด่ามาเป็นอาทิตย์แล้วครับ ได้ยินเสียงความคิดของตัวเองอีก หนวกหูมาก พอจะมีวิธีแก้ใหมครับ.


เสียงในใจอย่างนี้อาจจะเป็นเสียงดำริ เสียงดำรินี้จะมาก่อนที่จะ คิด พูด ทำ สิ่งต่าง ๆ ทั้งที่เป็น
ฝ่ายกุศล ฝ่ายอกุศล บางคนเมื่อจะดำริก็ไม่รู้ ดำริอยู่ก็ไม่รู้ ดำริเป็นกุศล หรือ อกุศลก็ไม่รู้ บางคน
จะดำริก็รู้ ดำริอยู่ก็รู้ ดำริเป็นกุศล หรือ อกุศลก็รู้ คนพวกแรกคือพวกไม่เจริญสติสัมปชัญญะ คน
พวกหลังคือพวกมีความเพียรเจริญสติสัมปชัญญะ


นี่ก็เช่นกัน เอาคำศัพท์มาพูดวาดภาพไป

ผมพูดตามจริงโดยใช้ภาษาที่ผู้อ่านในทีนี้พึงอ่านแล้วเข้าใจโดยไม่ยาก



สติ สัมปชัญญะ เป็นบาลี

ที่ว่าเข้าใจไม่ยาก เลิพ เจ. บอกสิ สติ ไม่ใช้คำว่าแปลก็ได้ ใช้คำว่า สติ หมายถึงยังไง สัมปชัญญะ หมายถึงยังไง

สติ คือ ระลึก สัมปชัญญะ คือ รู้


แล้วอยู่ๆ พูดๆสิ่งเหล่านั้นมันจะเกิดขึ้นมาเองหรือ

คนพวกแรกคือพวกไม่เจริญสติสัมปชัญญะ คน
พวกหลังคือพวกมีความเพียรเจริญสติสัมปชัญญะ

พวกที่ได้ยินนั่นได้ยินนี่ พวกได้ยินเสียงความคิด น่าจะเป็นพวกแรก
คือไม่เจริญสติสัมปชัญญะ ในกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ในชีวิต
ประจำวันเลยวันทั้งวันนึกคิดแต่เรื่องโลภ โกร หลง แต่ไม่ได้รู้ตัวเอง
เลย พอมานั่งภาวนาจิตมันก็แล่นไปในอารมณ์ที่มันคุ้นชิน พอมาเห็น
เข้ามันก็เอาก็เอาไม่อยู่มันก็เลยหลอน


ส่วนอีกพวกมีความเพียรเจริญสติตามระลึก มีสัมปชัญญะใน กายกรรม
วจีกรรม มโนกรรม สำรวมระวังสังวรณ์อินทรีย์ มานั่งภาวนาจิตมันก็อยู่
ในอำนาจ จะเผลอไม่เผลอมันก็ไม่ไปไหน แล่นไปในสติปัฏฐาน มัน
ต่างกันอย่างนี้


เอาอีกแระ :b1:


เจริญสติสัมปชัญญะใน กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม อย่างไร
มีความเพียรตามระลึกใน ความคิด คำพูด การกระทำ .. อย่างนี้เป็นอกุศลอย่าคิด พูด ทำ อย่างนี้ ๆ
เป็นกุศลควรคิด พูด ทำ อย่างนี้ มีสัมปชัญญะ คิด พูด ทำ แต่สิ่งที่เป็นกุศล ละทุจริต ๓ เจริญสุจริต ๓

แล่นไปในสติปัฏฐาน ๔ อย่างไร .
พิจารณาเห็น กายในกายบ้าง เห็นเวทนาในเวทนาบ้าง เห็นจิตในจิตบ้าง เห็นธรรมในธรรมบ้าง

เจ้าของ:  Rosarin [ 21 พ.ค. 2019, 00:18 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อานาปานสติสิ่งที่พระองค์สรรเสริญยิ่งนัก

Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อีกตัวอย่างหนึ่ง

นั่งสมาธิแล้วได้ยินเสียงด่าตัวเอง

นั่งสมาธินั่งดูลม แล้วมามองกระจกแบบใช้ตาเพ่ง. กระจกมันบิดไปบิดมา บางทีก็ได้ยินเสียงคนพูดถึงเรืองที่ผมคิด แต่มองไม่เห็นคน ตอนนี้เพี้ยนครับ อาการแบบนี้เขาเรียกจิตหลอกรึเปล่า ตอนนี้ลำบากมาก หนวกหูเสียงด่ามาเป็นอาทิตย์แล้วครับ ได้ยินเสียงความคิดของตัวเองอีก หนวกหูมาก พอจะมีวิธีแก้ใหมครับ.


เสียงในใจอย่างนี้อาจจะเป็นเสียงดำริ เสียงดำรินี้จะมาก่อนที่จะ คิด พูด ทำ สิ่งต่าง ๆ ทั้งที่เป็น
ฝ่ายกุศล ฝ่ายอกุศล บางคนเมื่อจะดำริก็ไม่รู้ ดำริอยู่ก็ไม่รู้ ดำริเป็นกุศล หรือ อกุศลก็ไม่รู้ บางคน
จะดำริก็รู้ ดำริอยู่ก็รู้ ดำริเป็นกุศล หรือ อกุศลก็รู้ คนพวกแรกคือพวกไม่เจริญสติสัมปชัญญะ คน
พวกหลังคือพวกมีความเพียรเจริญสติสัมปชัญญะ


นี่ก็เช่นกัน เอาคำศัพท์มาพูดวาดภาพไป

ผมพูดตามจริงโดยใช้ภาษาที่ผู้อ่านในทีนี้พึงอ่านแล้วเข้าใจโดยไม่ยาก



สติ สัมปชัญญะ เป็นบาลี

ที่ว่าเข้าใจไม่ยาก เลิพ เจ. บอกสิ สติ ไม่ใช้คำว่าแปลก็ได้ ใช้คำว่า สติ หมายถึงยังไง สัมปชัญญะ หมายถึงยังไง

สติ คือ ระลึก สัมปชัญญะ คือ รู้


แล้วอยู่ๆ พูดๆสิ่งเหล่านั้นมันจะเกิดขึ้นมาเองหรือ

คนพวกแรกคือพวกไม่เจริญสติสัมปชัญญะ คน
พวกหลังคือพวกมีความเพียรเจริญสติสัมปชัญญะ

พวกที่ได้ยินนั่นได้ยินนี่ พวกได้ยินเสียงความคิด น่าจะเป็นพวกแรก
คือไม่เจริญสติสัมปชัญญะ ในกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ในชีวิต
ประจำวันเลยวันทั้งวันนึกคิดแต่เรื่องโลภ โกร หลง แต่ไม่ได้รู้ตัวเอง
เลย พอมานั่งภาวนาจิตมันก็แล่นไปในอารมณ์ที่มันคุ้นชิน พอมาเห็น
เข้ามันก็เอาก็เอาไม่อยู่มันก็เลยหลอน


ส่วนอีกพวกมีความเพียรเจริญสติตามระลึก มีสัมปชัญญะใน กายกรรม
วจีกรรม มโนกรรม สำรวมระวังสังวรณ์อินทรีย์ มานั่งภาวนาจิตมันก็อยู่
ในอำนาจ จะเผลอไม่เผลอมันก็ไม่ไปไหน แล่นไปในสติปัฏฐาน มัน
ต่างกันอย่างนี้


เอาอีกแระ :b1:


เจริญสติสัมปชัญญะใน กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม อย่างไร
มีความเพียรตามระลึกใน ความคิด คำพูด การกระทำ .. อย่างนี้เป็นอกุศลอย่าคิด พูด ทำ อย่างนี้ ๆ
เป็นกุศลควรคิด พูด ทำ อย่างนี้ มีสัมปชัญญะ คิด พูด ทำ แต่สิ่งที่เป็นกุศล ละทุจริต ๓ เจริญสุจริต ๓

แล่นไปในสติปัฏฐาน ๔ อย่างไร .
พิจารณาเห็น กายในกายบ้าง เห็นเวทนาในเวทนาบ้าง เห็นจิตในจิตบ้าง เห็นธรรมในธรรมบ้าง

:b12:
1เห็นกายในกาย/กายไม่ใช่จิต/กายไม่ใช่เรา/กายไม่ใช่เวทนา/กายไม่ใช่ตัวตนแต่ยังยึดถือคิดว่าเรามีกาย
ทราบไหมคะกายไม่รู้อะไรเลย
ทุกอย่างสักแต่ว่ามีชั่วคราวเป็นไปตามอำนาจของจิตตามการเกิดดับของจิตทีละ1ขณะ
:b53:
2เห็นเวทนาในเวทนา/เวทนาไม่ใช่กาย/เวทนาไม่ใช่จิต/เวทนาไม่ใช่เราแต่เป็นเรามีเวทนา
สุข-ทุกข์-เฉยเกิดเป็นเวทนาทางกายแล้วดับไปพร้อมจิต
โสมนัส-โทรมนัสเกิดทางใจเป็นเวทนาทางใจรู้สึกดีใจเสียใจก็ไม่ใช่กายไม่ใช่จิต
:b53:
3เห็นจิตในจิต
จิตแต่ละ1ทางไม่ใช่ตัวตน
เป็นจิตแต่ละ1ขณะแต่ละ1ทาง
เกิดแล้วดับทันทีไม่มีเราในจิตแต่ละขณะ
มีแต่ความคิดเห็นผิดและมีอุปาทานขันธ์ยึดถือขันธ์ทั้งหลายว่าเป็นตัวเราของเรากายเรา
:b53:
4เห็นธรรมในธรรม
ทุกอย่างเป็นธัมมะเป็นสิ่งที่มีจริงๆมีแล้ว
มีลักษณะเฉพาะของตนของตนแต่ละ1ไม่ซ้ำ
ทุกอย่างมีเพราะคิดถ้าไม่คิดอะไอะไรก็หามีไม่
จากไม่มีจึงเกิดปรากฏว่ามีตั้งอยู่ชั่วคราวให้รู้ว่ามีนิดนึง
ก่อนดับหายไปทางมโนทวารวิถีไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เที่ยงแท้ที่จริงล้วนมีแต่ความยึดมั่นถือมั่นในตัวตน
:b16:
:b4: :b4:

เจ้าของ:  bigtoo [ 21 พ.ค. 2019, 04:13 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อานาปานสติสิ่งที่พระองค์สรรเสริญยิ่งนัก

อานาปานสตินั้น. พระองค์ทำไมให้เราทำให้มากเจริญให้มาก
ทำให้มากนี้คือไม่ต้องพิจารณาปัญญาอะไรเลย. การหายใจเข้ายาวๆหรือสั้นๆถี่นั่น. จะสร้างความสงบขึ้นมาได้ สร้างปีติสุขอุเบกขา ขึ้นมาเป็นสมาธิระดับฌานจิตได้ในเรื่องความสงบก็มีเท่านี้.

เจริญให้มากคือในเรื่องของวิปัสสนา เมื่อเราอยู่ในอริยบทนั่งไม่ว่าจะนั่งตรงไหนก็ได้มันก็เหมือนกันแต่ที่พระองค์ให้ไปสู่ป่า สู่โคไม้ สู่เรือนว่างนั้น. เพราะความสัปปะยะมันแตกต่างกัน เหมาะแก่การพิจารณาใคร่ควรธรรมมะ. มันก็มีแค่นี้. เราจะนั่งในบ้านหรือตรงไหรก็ได้เท่าที่เราจะหาความเหมาะสมที่ดีที่สุดในขณะนั้น.เรื่องมันก็มีเท่านี้

คนที่ไม่เข้าใจจุดประสงค์ที่พระองค์แสดงก็มักจะบอกว่าจะไปทำไม เอาตัวตนไปทำอะไร. เอาความอยากเป็นตัวตนเป็นตัณหา. นั่งก็นั่งเลยเอาตรงนี้เลยก็ผู้มีปัญญาเข้ารู้ตรงไหนเหมาะสมแก่การเลือกเฝ้นธรรม. มันจะนั่งพิจารณาธรรมที่ลึกซึ้งละเอียดได้จริงมั้ย สมาธิระดับสูงที่สามารถดับนิวรณ์5จะเกิดขึ้นได้จริงมั้ย

สมถะกับวิปัสนาที่มันส่งเสริมกันอย่างยิ่งเพื่อการบรรลถธรรมอย่างที่พระองค์กล่าว. ว่าอาศัยปฐมฌานบ้าง ทุติยฌานบ้างฯ. นั้งในบ้านขณะที่มีคนมากมายเสียงดังโวยวายอะไรอีกมากมายมันจะสงบได้จริงมั้ย. สภาพแบบนี้เขาให้เพียงพิจารณาธรรมมะตามเป็นจริง. ตามเห็นการเกิดดับของรูปนามตามจริงของสภาวะปัจุบันขณะ แล้วแต่สติจะระลึกอะไรตามเหตุปัจจัย.

แต่การกระทำแบบนี้มันก็เหมาะแก่ผู้ที่ไม่มีเวลาปฏิบัติมีการงานทางโลกมากซึ่งทางนั้นแคบ เป็นทางมาแห่งธุรี เหตุปัจจัยเขาสร้างมาแค่นี้ก็ทำตามสมควรแก่ธรรม. บ้างคนเขามีเหตุปัจจัยที่ดีมีธุระน้อย. เขาก็ใช้ความเหมาะสมหาสถานที่สัปปานะที่เกื้อกูลแก่การปฏิบัติสมถะวิปัสสนาเพราะต้องการความวิเวก สงบเพื่อตัดสิ่งรบกวนทางอายตนะที่รุนแรง มันก็มีแค่นี้ เอากิเลสเอาตัวตนอะไรที่ไหนไปทำ. มันเป็นสังขารขันธ์ ที่มีผัสสะ เจตนา มนสิการเป็นองค์ประกอบ. วลีคำพูดที่ขาดการพิจารณาที่ถูกต้องต้องก็จะสร้างให้คนศึกษาธรรมมะใหม่ๆฝังใจคิดว่าคนทำแบบนั้นมีแต่กิเลส. มันผิดไปไกลมาก. ทำให้ผู้ฟังไม่กล้าที่จะสร้างโอกาสในการปฏิบัติอานาปานสติแบบสมบูรณ์ได้เลย พระองค์กล่าวสอนแท้ๆ

เจ้าของ:  bigtoo [ 21 พ.ค. 2019, 04:49 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อานาปานสติสิ่งที่พระองค์สรรเสริญยิ่งนัก

ที่นี้พิจารณากายท่านให้ 2ในยะคือ สมถะกับวิปัสสนา
นัยยะสมถะ. ท่านให้เราหายใจยาวๆเข้าลึกออกลึกช้าๆเบาๆให้ลึกที่สุด. เข้าสั้นออกสั้นเมื่อสั้นก็ให้สั้นที่สุดก็ปฏิบัติอย่างนี้ไป. เราก็จะเกิดอาการของสมาธิ. นัยยะวิปัสสนาท่านก็ให้เราเป็นผู้กระทำเฝ้าสังเกตุกองลมทั้งปวงมันเป็นอย่างไร ในลมหายใจเข้าออกสังเกตุให้ดีให้เรากั้นหายใจลองระงับลมหายใจดูซิทำได้มั้ย. ในการพิจารณนัยยะวิปัสนา.

เราจะเห็นความจริง คือลมหายใจมีความร้อน มีความเย็น มีความสั้นบ้างยาวบ้าง ควบคุมตามใจไม่ได้ถาวรบังคับไม่ให่ไม่หายใจก็ไม่ได้จริง ควบคุมได้ชั่วคราวลมมันก็เป็นกายหนึ่งที่เป็นธรรมชาติอย่านั่น. เราจะเห็นความจริงของธรรมชาติกายคือ. อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา. การพิจารณากายก็มีเท่านนี้ปัญญาทั้งหมดจบลงเท่านี้. นัยยะพิจารเวทนา ท่านก็ให้เราไปพิจารณาปีติที่เกิดขึ้นจากการที่เราพยามลมหายใจเข้ายาวๆช้าลึกๆหรือสั้นๆการทำแบบนั่นจะสร้างปีติ สุข ขึ้นมา. ท่านก็ให้เราไปพิจารณาปีติ. สุขที่เกิด. เราก็จะเห็นว่าปีติสุขน้่นเกิดขึ้นด้วยเหตุปัจจัย และก็ดับไปด้วยเหตุปัจจัย แต่มันก็ดับไปได้. ให้เราอยู่อุเบกขาแต่ก็อยู่ได้ควบคุมตลอดไม่ได้. มันก็เห็นเวทนาเป็น เพียง. อนิจจังทุกขังอนัตตา.

นัยยะจิตก็เข่นเดียวกัน เป็นอนิจจังทุกขัง อนัตตา. นัยยะพิจารณธรรม ท่านจะเห็นความเป็นอนิจจัง ของ กาย เวทนา จิต ธรรมทั้งหลายเกิดดับ ไม่เที่ยง เป็นทุก เป็นอนัตตาทั้งหมด. ท่านจะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนมันจะดับ. มันจะค่อยๆจางคลายไปทีละนิด จนดับไปนี่เรียกว่าเห็นความจางคลายส่วนมากคนจะเห็นเกิดแล้วก็ดับไม่เห็นความจางคลาย เมื่อมันจางคลายมันก็สลัดคืนดีบไปเหมือนเดิมอย่างนี้ตลอดไปไม่มีวันจบสิ้น เมื่อเราพิจารณเห็น กายในกายบ้างเห็นเวทนาในเวทนาบ้างเห็นจิตในจิตบ้างห็นในธรรมบ้าง. ติตท่านจะเบื่อหน่ายกับสิ่งที่ยึดมั่นถือมั่นไม่ได้เลยมันจางคลายดับไปหมดสลัดคืนไม่มีเหลือ.ปัญญาท่านก็เกืดตรงนี้ครบทั้งพลังองค์โพชฌงค์ ในที่สุดท่านก็จะเห็นความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งทั้วปวงของท่านก็จะมีอาการจางคลายเบื่อหน่ายในสิ่งทั่วปวง ไม่นานนักท่านก็จะสลัดคืนกิเลสตัณหาดับไปได้เช่นกัน.

เจ้าของ:  Rosarin [ 21 พ.ค. 2019, 07:43 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อานาปานสติสิ่งที่พระองค์สรรเสริญยิ่งนัก

Rosarin เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อีกตัวอย่างหนึ่ง

นั่งสมาธิแล้วได้ยินเสียงด่าตัวเอง

นั่งสมาธินั่งดูลม แล้วมามองกระจกแบบใช้ตาเพ่ง. กระจกมันบิดไปบิดมา บางทีก็ได้ยินเสียงคนพูดถึงเรืองที่ผมคิด แต่มองไม่เห็นคน ตอนนี้เพี้ยนครับ อาการแบบนี้เขาเรียกจิตหลอกรึเปล่า ตอนนี้ลำบากมาก หนวกหูเสียงด่ามาเป็นอาทิตย์แล้วครับ ได้ยินเสียงความคิดของตัวเองอีก หนวกหูมาก พอจะมีวิธีแก้ใหมครับ.


เสียงในใจอย่างนี้อาจจะเป็นเสียงดำริ เสียงดำรินี้จะมาก่อนที่จะ คิด พูด ทำ สิ่งต่าง ๆ ทั้งที่เป็น
ฝ่ายกุศล ฝ่ายอกุศล บางคนเมื่อจะดำริก็ไม่รู้ ดำริอยู่ก็ไม่รู้ ดำริเป็นกุศล หรือ อกุศลก็ไม่รู้ บางคน
จะดำริก็รู้ ดำริอยู่ก็รู้ ดำริเป็นกุศล หรือ อกุศลก็รู้ คนพวกแรกคือพวกไม่เจริญสติสัมปชัญญะ คน
พวกหลังคือพวกมีความเพียรเจริญสติสัมปชัญญะ


นี่ก็เช่นกัน เอาคำศัพท์มาพูดวาดภาพไป

ผมพูดตามจริงโดยใช้ภาษาที่ผู้อ่านในทีนี้พึงอ่านแล้วเข้าใจโดยไม่ยาก



สติ สัมปชัญญะ เป็นบาลี

ที่ว่าเข้าใจไม่ยาก เลิพ เจ. บอกสิ สติ ไม่ใช้คำว่าแปลก็ได้ ใช้คำว่า สติ หมายถึงยังไง สัมปชัญญะ หมายถึงยังไง

สติ คือ ระลึก สัมปชัญญะ คือ รู้


แล้วอยู่ๆ พูดๆสิ่งเหล่านั้นมันจะเกิดขึ้นมาเองหรือ

คนพวกแรกคือพวกไม่เจริญสติสัมปชัญญะ คน
พวกหลังคือพวกมีความเพียรเจริญสติสัมปชัญญะ

พวกที่ได้ยินนั่นได้ยินนี่ พวกได้ยินเสียงความคิด น่าจะเป็นพวกแรก
คือไม่เจริญสติสัมปชัญญะ ในกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ในชีวิต
ประจำวันเลยวันทั้งวันนึกคิดแต่เรื่องโลภ โกร หลง แต่ไม่ได้รู้ตัวเอง
เลย พอมานั่งภาวนาจิตมันก็แล่นไปในอารมณ์ที่มันคุ้นชิน พอมาเห็น
เข้ามันก็เอาก็เอาไม่อยู่มันก็เลยหลอน


ส่วนอีกพวกมีความเพียรเจริญสติตามระลึก มีสัมปชัญญะใน กายกรรม
วจีกรรม มโนกรรม สำรวมระวังสังวรณ์อินทรีย์ มานั่งภาวนาจิตมันก็อยู่
ในอำนาจ จะเผลอไม่เผลอมันก็ไม่ไปไหน แล่นไปในสติปัฏฐาน มัน
ต่างกันอย่างนี้


เอาอีกแระ :b1:


เจริญสติสัมปชัญญะใน กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม อย่างไร
มีความเพียรตามระลึกใน ความคิด คำพูด การกระทำ .. อย่างนี้เป็นอกุศลอย่าคิด พูด ทำ อย่างนี้ ๆ
เป็นกุศลควรคิด พูด ทำ อย่างนี้ มีสัมปชัญญะ คิด พูด ทำ แต่สิ่งที่เป็นกุศล ละทุจริต ๓ เจริญสุจริต ๓

แล่นไปในสติปัฏฐาน ๔ อย่างไร .
พิจารณาเห็น กายในกายบ้าง เห็นเวทนาในเวทนาบ้าง เห็นจิตในจิตบ้าง เห็นธรรมในธรรมบ้าง

:b12:
1เห็นกายในกาย/กายไม่ใช่จิต/กายไม่ใช่เรา/กายไม่ใช่เวทนา/กายไม่ใช่ตัวตนแต่ยังยึดถือคิดว่าเรามีกาย
ทราบไหมคะกายไม่รู้อะไรเลย
ทุกอย่างสักแต่ว่ามีชั่วคราวเป็นไปตามอำนาจของจิตตามการเกิดดับของจิตทีละ1ขณะ
:b53:
2เห็นเวทนาในเวทนา/เวทนาไม่ใช่กาย/เวทนาไม่ใช่จิต/เวทนาไม่ใช่เราแต่เป็นเรามีเวทนา
สุข-ทุกข์-เฉยเกิดเป็นเวทนาทางกายแล้วดับไปพร้อมจิต
โสมนัส-โทรมนัสเกิดทางใจเป็นเวทนาทางใจรู้สึกดีใจเสียใจก็ไม่ใช่กายไม่ใช่จิต
:b53:
3เห็นจิตในจิต
จิตแต่ละ1ทางไม่ใช่ตัวตน
เป็นจิตแต่ละ1ขณะแต่ละ1ทาง
เกิดแล้วดับทันทีไม่มีเราในจิตแต่ละขณะ
มีแต่ความคิดเห็นผิดและมีอุปาทานขันธ์ยึดถือขันธ์ทั้งหลายว่าเป็นตัวเราของเรากายเรา
:b53:
4เห็นธรรมในธรรม
ทุกอย่างเป็นธัมมะเป็นสิ่งที่มีจริงๆมีแล้ว
มีลักษณะเฉพาะของตนของตนแต่ละ1ไม่ซ้ำ
ทุกอย่างมีเพราะคิดถ้าไม่คิดอะไอะไรก็หามีไม่
จากไม่มีจึงเกิดปรากฏว่ามีตั้งอยู่ชั่วคราวให้รู้ว่ามีนิดนึง
ก่อนดับหายไปทางมโนทวารวิถีไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เที่ยงแท้ที่จริงล้วนมีแต่ความยึดมั่นถือมั่นในตัวตน
:b16:
:b4: :b4:

:b12:
ไป ดู ลม เอง โดย ไม่ ฟัง จะรู้ความจริงไหม
ไม่คิดตามคำตถาคตจะรู้ไหมว่าขณิกมรณะ
ตายทุกขณะลมหายใจสั้นแสนสั้นนับดูสิว่า
ลมขาดตอนไปนับไม่ถ้วนถึงแสนล้านครั้ง
เอาตัวตนไปกำหนดดูลมหายใจเองโดย
ไม่ระลึกตรงตามคำสอนตอนฟังแปลว่า
ขาดสติเข้าไม่ถึงสัจจะที่มีตามคำสอน
บอกให้ฟังคำสอนก่อนตายไม่ใช่ให้เชื่อ
แต่ให้มีศรัทธาในการฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า
:b55: :b55: :b55:
https://youtu.be/34vCK-WBYvE

หน้า 2 จากทั้งหมด 6 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/