ไม่เข้าใจ คนบ้าตามความเข้าใจของผมคือเสียสติ การภาวนาทุกประเภทมันเป็นการเจริญสติ ภาวนายังไงให้บ้าไปได้

รู้จักอนุสาสนีปาฏิหาริย์ไหมตรงจริงๆเดี๋ยวนี้เลยค่ะ
ตัวเองลืมตาปริบๆเนี่ยเห็นคนสัตว์วัตถุไม่ใช่หรือคะ
พระพุทธเจ้าบอกจิตเห็นสีเทียบสิเห็นอันไหนถูก
คำสอนผิดหรือตาคุณกำลังเห็นผิดอยู่ดูสิคะ
คำสอนของพระพุทธเจ้าตร๊งตรงไม่อ้อมค่ะ

คุณกรัชกายอย่าเอาคำพูดผมไปพาดพิงสำนักเลยครับ ผมพิจารณาตอบออกมาจากใจของผมเองแต่สำนวนโวหารมันก็มาจากสัญญา ที่เคยอ่านตำราบ้าง ฟังครูบาอาจารย์บ้าง มันก็อาจไปเหมือนไปคล้ายคลึงบ้าง

ก็โฟกัส ที่อรรถ ที่ธรรม เรื่องของสำนักนั้น สำนักนี้ มันทำให้ใคว่เขวไปจากอรรถธรรม วางลงได้ค่อย ๆ เห็นตามเป็นจริง อันไหนเป็นทาง อันไหนไม่ใช่ทาง ทางไหนเหมาะกับเราก็เอามาใช้ ทางไหนไม่เหมาะก็วางไว้

ที่บอกให้พักก่อนเวลามีอาการทางกาย อย่างเช่นตัวเหวี่ยงโยกโครง วิงเวียนศรีษะใจสั่นพวกนี้อาจเกี่ยวกับโรคประจำตัว เช่นความดันโลหิต โรคหัวใจ หอบหืด อย่างนี้มันอันตรายจึงแนะนำไปอย่างนั้น

นั่งสมาธิเกิดอาการต่าง ๆ มันต้องมีเหตุมีผล ทำเหตุอย่างนี้ เกิดผลอย่างนี้ ทำอย่างนี้จึงเป็นสมาธิ ทำอย่างนี้ไม่เป็นสมาธิ ทำไมฟุ้งซ้าน ทำไมกลัว มีสติคอยติดตามพิจารณาเหตุผล อย่างนี้เรียกฝึกสมาธิ

ที่ยกมาเล่าอย่างนี้ทำจริง ทำอะทำจริงผมไม่เถียง แต่ผมว่ามันไม่ใช่สาระจริง ๆ สาระมันอยู่ที่ ธาตุ ๔ ขันธ์ ๕ อายตนะ ๖ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา พิจารณาอริยสัจ ๔ อริยมรรคมีองค์ ๘ อย่างนี้เรียกฝึกปัญญา

ชัดนะ นั่นล่ะคุณจำมาพูด ไม่ใช่ลงมือทำ

คริคริ

เพราะคุณยายไม่ได้เรียนพระอภิธรรม
เรยไม่รู้ว่า
ปาฏิหาริย์ มี 3 อย่าง คือ

1.อิทธิปาฏิหาริย์ ฤทธิ์เป็นอัศจรรย์

2.อาเทสนาปาฏิหาริย์ ทายใจเป็นอัศจรรย์

3.อนุสาสนีปาฏิหาริย์ คำสอนเป็นอัศจรรย์

แต่ ปรมัตถ์ธรรม สูงสุด เหนือ ปาฎิหารย์ ทั้งสาม
เป็นความอัศจรรย์ เหนือ อัศจรรย์ทั้งสาม

คือ จิต เจตสิก รูป นิพพาน

ไม่อาจอันตราธานหายไปได้ แม้สิ้นพุทธกาล

คุณโรสไม่เคยตอบคำถามกรัชกายสักครั้งเดียว ลองตอบดูนะ

คนมีไหม ?

1. มี
2. ไม่มี

ตอบตามที่คุณโรสเข้าใจ ข้อไหน หนึ่ง หรือ สอง

ยังอีกยังไม่รู้สึกตัวอีกเดี๋ยวนี้กิเลสเกิดแล้วดับแล้ว
ขาดการฟังสังขารขันธ์ปรุงแต่งจิตตามการเห็นผิด
พระพุทธเจ้าหมดกิเลสถึงนิพพานและทรงรู้ละเอียด
และทรงแสดงให้คิดถูกเข้าใจถูกว่าที่ดับไปนับไม่ถ้วน
ไม่มีใครนับถูกว่ามากแค่ไหนทรงเมตตาบอกว่าแสนโกฏิขณะ
ผลิตกิเลสทีละแสนโกฏิขณะเดี๋ยวนี้แล้วก็เห็นผิดและคิดเองอยู่นั่นน่ะ
เมื่อไหร่จะเริ่มฟังเพื่อให้สังขารขันธ์ปรุงแต่งคิดเห็นถูกตามตรงคำตรงจริงได้555
สงสารคนไม่รู้จริงจริ๊งมัวแต่คิดบัญญัติคำของตถาคตลืมว่าปัญญาตัวเองไม่มีและลืมทำสุตมยปัญญา
เจตสิกไม่ปรากฏให้รู้ไม่ว่าตอนไหนและที่ไม่ได้กำลังฟังก็ปรุงตามที่ตาเนื้อตัวเองเห็นผิดเป็นตัวอักษรอยู่ไงคะ

Rosarin

รู้จักอนุสาสนีปาฏิหาริย์ไหมตรงจริงๆเดี๋ยวนี้เลยค่ะ
ตัวเองลืมตาปริบๆเนี่ยเห็นคนสัตว์วัตถุไม่ใช่หรือคะ
พระพุทธเจ้าบอกจิตเห็นสีเทียบสิเห็นอันไหนถูก
คำสอนผิดหรือตาคุณกำลังเห็นผิดอยู่ดูสิคะ
คำสอนของพระพุทธเจ้าตร๊งตรงไม่อ้อมค่ะ

กรัชกาย
คุณโรสไม่เคยตอบคำถามกรัชกายสักครั้งเดียว ลองตอบดูนะ

คนมีไหม ?

1. มี
2. ไม่มี

ตอบตามที่คุณโรสเข้าใจ ข้อไหน หนึ่ง หรือ สอง

Rosarin
มีตามสมมุตินิมิตสีที่เกิดดับนับไม่ถ้วนไงคะคือเงาสีไม่ใช่สีตรงปัจจุบันขณะมันดับนานแล้วหลงเงาคืออัตตา

ตอบไม่เคยตรงคำถาม

ก็ตอบว่ามี
ยังไม่ตรงใจเหรอ
ตอบ 1มี คน เพราะเป็นอัตตา
ตอบ 2 ไม่มีคน เพราะมีแต่ธัมมะคือจิเจรุนิ

เออ แบบนี้พอคุยกันได้ เอานะ อัตตาตามความเข้าใจคุณโรส คือ ยังไง อัตตา

ก็ตอบว่ามี
ยังไม่ตรงใจเหรอ
ตอบ1มีคนเพราะเป็นอัตตา
ตอบ2ไม่มีคนเพราะมีแต่ธัมมะคือจิเจรุนิ

อัตตาคือความคิดที่คิดว่าตัวเองมีผมไงคะ...น่านแหละสักกายะทิฏฐิมีอุปาทานขันธ์5ที่เกิดดับว่ามีตัวตน
ส่วนอนัตตาคือคิดตามคำสอนถูกตามได้ตรง1คำวาจาสัจจะรู้สึกตัวว่าอะไรที่กำลังมีจริงๆที่ไม่ใช่ตัวคน

อัตตาคือความคิดที่คิดว่าตัวเองมีผมไงคะ...น่านแหละสักกายะทิฏฐิมีอุปาทานขันธ์5ที่เกิดดับว่ามีตัวตน
ส่วนอนัตตาคือคิดตามคำสอนถูกตามได้ตรง1คำวาจาสัจจะรู้สึกตัวว่าอะไรที่กำลังมีจริงๆที่ไม่ใช่ตัวคน

ตร๊งตรงนะคะทำได้แค่อธิบายเหตุและผล
ก็ผลท้ตัวเองกำลังคิดมันตรงกับอันไหน
ถ้าตรงกับอัตตาแสดงว่าไม่รู้ไงคะ
ถ้าระลึกที่กายตรงที่มีก็อนัตตา
ใครจะรู้ว่าปกติคนอื่นกำลัง
กายใจตัวเองระลึกตรง
กับคำไหนอยู่ล่ะคะ