เดี๋ยวนี้สภาพธรรมเกิดดับนับไม่ถ้วนที่พระพุทธเจ้าสอนให้รู้ดับแล้ว
เออนะคนเรายังไม่รู้จักกิเลสตัวเองอีกเหรอทำตัวเป็นทัพพีไม่รู้รสแกง
มีพระพุทธเจ้ากับพระสาวกอรหันต์เท่านั้นที่หมดกิเลสแล้วไม่มีกิเลสแล้วจ้ะ
ตัวเองน่ะมองยังไงกิเลสก็ไม่ถลอกเลยอ่ะค่ะเพราะไม่รู้ไม่เห็นตามปกติแต่คิดเอาว่าตูดีเลิศ555

ไม่รู้จักการทำสุตมยปัญญาคือฟังตามปกติตามเสียงเดี๋ยวนี้แปลว่าไม่มีปัญญาใหม่เพิ่ม
มันมัวแต่ไปทำตามใจอยากทำที่มันคิดเองว่าตัวมันดีมันไม่รู้ตัวว่ากำลังแสวงหานายช่างอยู่
การจะรู้สึกตัวแล้วคิดตามคำสอนได้ต้องกำลังทำฟังอยู่เดี๋ยวนี้ผลิตกิเลสแล้วถึงแสนล้านขณะ
เมื่อไหร่จะเริ่ม คิด ให้ มัน ตรง ตาม ได้ ที ละ 1 คำ ตรง 1 ทาง คือเอกายโนมัคโคทางสายเอกคิดถูกตามได้

อัญญาณจริยาคือความประพฤติของจิตด้วยความไม่รู้
เดี๋ยวนี้เลยไม่เคยคิดตามคำสอนได้ตรงความจริงที่กำลังมี
แต่คิดจะไปทำอย่างอื่นได้ยังไงไม่รู้จักฟังตามปกติเป็นปกติหรือ
ทุกอย่างเกิดแล้วดับทันทีไม่มีตัวจริงธัมมะไหนไม่ดับเพราะทุกขณะ
กำลังเป็นไปตามเหตุปัจจัยไหลไปตามปกติแต่ความไม่รู้ปกปิดอยู่ไงคะ
ต้องอาศัยฟังคำสอนแหวกกิเลสตัวเองตามรู้จิตตนเองตามคำสอนเดี๋ยวนี้

ญาณจริยาคือความประพฤติของจิตตรงตามปัญญาที่เพิ่มขึ้น
ไม่มีใครเลือกทำอะไรได้เพราะทุกอย่างเกิดแล้วดับทันที
จนกว่าจะเริ่มฟังคำสอนแล้วคิดถูกตรงตามคำสอนได้
โลกคือที่ดูผลของบุญและบาปตามการสะสมและ
มีความประพฤติเป็นไปของจิตตรงตามพฤติกรรมต่างๆ
ทุกขณะกำลังเป็นไปตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสแสดงไว้ดีแล้วทุกคำ
https://youtu.be/_tbOqf7hdsw

คริคริ

เม ไม่มาหลายวัน คุณยายมั่วได้ ตามที่สะบายใจ

แต่พอเมมา คงอดสบายใจ

เม มาบอกอาการมั่วแหลกของคุณยาย ที่ไม่ตรงพระธรรมให้น๊าค๊ะ

ญาณจริยา ชื่อว่า. การเที่ยวไปในอริยสัจ ๔

ไม่ใช่เที่ยวไป ตาม ตา หู จมูก ลิ้น ... แบบคุณยาย

เห็นแต่เกิดดับ ไม่เห็นอริยะสัจจะ
เรยไม่เจอสิ่งประเสริฐ

คริคริ
คำว่าอริยสัจจ นี้ พระพุทธองค์ ก็กล่าวไว้ดีแล้วน้อ ค๊ะ

ไม่เคยจำถูกตามคำสอนจำแต่ชื่อตัวเองได้บ่อยๆคิดออกไหมว่าชื่อน่ะมีตัวตนแล้วทำอะไรได้เป็นอวิชชาแล้ว

เพราะจิตเกิดดับนับไม่ถ้วนตามที่ตถาคตทรงตรัสรู้ทรงแสดงว่าดับถึงแสนโกฏิดวงจิตให้เข้าใจถูกตามทันที
ถามหน่อยสิว่ามนุษย์หน้าไหนมันจะนับได้คะแค่คิดให้ตรง1คำตรง1สัจจะที่กายมีตรงคิดที่คิดทันยังทำไม่ได้
จิตวิปลาสไปตามความคิดและการสะสมความเกิดดับสืบต่อทุกแสนโกฏิขณะผลิตกิเลสใหม่มากกว่าปัญญา
เพราะไม่พึ่งคิดตามตรงสัจจะทีละ1ทางตามเป็นจริงที่กำลังมีตัวจริงธัมมะที่กายใจตนเองปรากฏว่ากำลังมี
มีจริงๆแท้ๆเดี๋ยวนี้ต้องฟังเพื่อคิดตามตรงทางหนึ่งทางใดใน6ทางนี้แค่ทางเดียวจนกว่าจะรู้ทั่วถึงตรงทางจริงๆ
https://youtu.be/oihLV1oRvpo

สำนักนี้สุดโต่ง

คำสอนตรงขณะตรงอริยสัจจะเดี๋ยวนี้
จิตเห็นสี1ขณะดับในตาดำไม่มีใครเห็นสีแบบตถาคต
แต่คิดตามคำสอนถูกได้ว่าสีที่เห็นเดี๋ยวนี้เกิน1ขณะไปแล้วค่ะ
เพราะมันดับนับไม่ถ้วนไปแล้ว(แสนล้านขณะ)จริงๆตรงสัจจะเปะๆว่าตาเนื้อเห็นผิดแน่ๆค่ะ

คริคริ

ขื่อแบบตาโช ยายสุจีน ยายโรสรีน อันนี้ เป็น อวิชชา
ชื่อแบบ เม แบบ พระสารีบุตร พระอานนท์ พระโมคคัลลานะ อันนี้ เป็นวิชชาค่ะ

เพราะคุณยายโรส ไม่ได้เรียนพระอภิธรรม พระไตรปิฎก
ไปฟังแต่ยู๊ทู๊ป

เรยเข้าใจผิดๆๆๆ

ไม่รู้ว่า ชื่อ ไม่ได้ เป็นอวิชชา
และไม่รู้ว่า อวิชชา คืออะไร
อวิชชา ไม่ได้เป็นสหะชาตะปัจจัย แก่จิตที่เป้นวิชชา ไม่ได้เป็นสหะชาตะปัจจัยแก่จิตพระอรหันต์

ทำไปทำมาสำนักนี้ เป็นสำนักอนัตตา แต่เป็นอนัตตาตามความเข้าใจของเจ้าสำนัก คือ ไม่มีอะไรเลย อนัตตาของเขาไม่มีอะไรเลย โล่งๆ ซึ่งไม่ตรงกับความหมายทางพระพุทธศาสนา

ทางพระพุทธศาสนา อนัตตา (น+อัตตา) มันมีอยู่สรรพสิ่งมีอยู่นะ แต่มิใช่อัตตา

ถ้าไปเข้าใจอนัตตาไม่มีอะไรอย่างนั้น ก็มีคำถามว่า แล้วที่ตามองเห็นนั่นเห็นนี่ล่ะมันอะไร

อะไรนี่

คุณโรสขอรับ อย่าเพิ่งไปคิดเรื่องอนัตตาอนัดยายเลยขอรับ ไกลเกินไป อนัตตามโนเอาไม่ถึงนะขอรับ ต้องเห็นด้วยปัญญา เอาเรื่องถวายสังฆทาน ทำบุญทำทานด้วยการเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กกำพร้า ปิดทองฝังลูกนิมิต เป็นต้นไปก่อนนะนะ

ที่ว่าเห็นด้วยปัญญา คือ อย่างนี้

(จขกท. คคห. 51 http://topicstock.pantip.com/religious/ ... 85609.html)



นั่นแหละคือการเริ่มต้นที่ถูกต้อง มิใช่มโนเอา ต้องเห็นด้วยภาวนามยปัญญา

มองแง่นี้ด้วย คือ เมื่อเขาเห็นว่าร่างกายเป็นอนัตตาเป็นอยู่เป็นไปของมันเองอย่างนั้นแล้ว ชีวิตร่างกายจิตใจก็ยังอยู่มีอยู่เป็นอยู่ ไม่ได้หายไปไหน (ยังไม่ตาย) แต่มันมิใช่อัตตา (น+อัตตา = อนัตตา)

เนี่ยรู้รึเปล่าว่า...พระพุทธเจ้าแสดงความเป็นอนัตตาชัดเจนมากแม้รู้นามรูปแล้วก็โดยอนัตตา
ไม่มีอัตตาในอนัตตาแต่ต้องอาศัยอัตตานำทางโดยความเป็นอนัตตาอ่านแล้วนึกออกไหมคะ

สภาพธัมมะที่กำลังเกิดดับถึงแสนโกฏิขณะที่ตาเนื้อทุกคนไม่สามารถนับได้เกิดดับตรงทาง
และไม่มีใครไปหยุดยั้งหรือบังคับการเกิดดับนั้นไม่ให้เกิดขึ้นได้หรือทำให้ตั้งอยู่โดยไม่ดับได้
ความตั้งมั่นตรงทางคือสมาธิมีอยู่ทุกขณะจิตอยู่แล้วไม่มีใครทำสมาธิได้เพราะเกิดดับตรงทาง
เกิดที่ละ1ทางและดับทีละ1ทางไม่ปนกันไม่ซ้ำขณะเก่าตามเหตุตามปัจจัยทุกแสนโกฏิขณะ
ไม่มีใครทำตัวจริงของธัมมะที่กำลังเกิดดับตามเหตุปัจจัยเพราะเกิดแล้วมีแต่ตัวตนทำไปตามยถากรรม
การปรุงแต่งอะไรก็ตามล้วนแต่ทำตามความคิดพูดทำของตัวตนลืมฟังคำสอนและไม่เคยคิดตรงตามได้
ตรงความจริงของตนเองที่กำลังมีตาหูจมูกลิ้นกายใจครบแล้วเพราะแสนโกฏิขณะมีแค่6ทางเดี๋ยวนี้มีแล้ว
ตรงทางคือมีความจริงที่กำลังปรากฏตรงแค่1ทางคือทางเดียวที่คิดถูกตรงสัจจะตามที่คนคิดได้ตรงทีละ1คำ

เข้าใจไหมอนัตตาแปลว่าจิตที่กำลังเกิดดับทีละ1ทางนั้นกำลังเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยดับแล้วไม่ได้ทำอะไร
ทรงตรัสรู้และแสดงสัจจะนั้นละเอียดทีละ1ขณะจิตตรงทางอย่างไรแสนล้านดวงจิตที่ดับแล้วก็ตั้งมั่นตรงทาง
ไม่มีใครแก้ไขจิตทั้งแสนล้านดวงทุกขณะที่กำลังเกิดดับนั้นได้เพราะสิ่งที่ดับเป็นอดีตไปแล้วเอากลับมาไม่ได้
จึงต้องเพียรฟังเพื่อเข้าใจตรงสัจจะตรง1ทางที่กายใจกำลังมีเพื่อรู้ตรงทางจึงละไม่รู้ที่ไหลไปไม่ขาดสายได้
อดีตผ่านไปแล้ว...อนาคตก็ยังมาไม่ถึง...มีแค่ปัจจุบันเท่านั้นที่รู้ตัวแล้วว่าเป็นคนนะจึงจะฟังคำสอนแล้วคิดได้

คำสั่งเสียของพระพุทธเจ้าก่อนดับขันธปรินิพพาน
จงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมด้วยการฟังพระธรรม
คำสอนตรงจริงแน่นอนแต่เดี๋ยวนี้มีความไม่รู้บอกยังไงก็ไม่ฟังแล้วจะไปรู้สึกตัวเมื่อไหร่กันคะ
ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่ตายไปแล้วไม่มีใครกลับมาบอกได้มีแต่คนเป็นที่กำลังบอกความจริงให้เข้าใจนะคะ