วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 11:27  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 38 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มี.ค. 2019, 06:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2018, 07:07
โพสต์: 482

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เริ่มต้นเห็นไตรลักษณ์ โดยเขาไม่เข้าใจหลักวิชา กาย เวทนา จิต ธรรม ที่เรียกว่าสติปัฏฐานเลย

อ้างคำพูด:
รู้กาย รู้เวทนา รู้จิต รู้ธรรมนี่ได้ยินเขาสอนหมด เสียดายจำไม่ได้ ตอนฝึกก็ทำไม่เป็น

ตอนดิฉันเดินจงกรม ช่วงนาทีที่เห็นกายมันเดินเอง ร้องให้เลย ตอนนั้นรู้สึกว่า แม้ร่างกายมันยังไม่ใช่ของเรา จะมีอะไรเป็นของเราบ้างหนอ


ซึ่งอันที่จริงเดินจงกรมก็เป็นกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน



"เริ่มต้นเห็นไตรลักษณ์ โดยเขาไม่เข้าใจหลักวิชา กาย เวทนา จิต ธรรม ที่เรียกว่าสติปัฏฐานเลย "

s006 เอ่?

เห็นเค้าเรียนกันตั้งแต่วิชาสังคมประถมสี่น๊ะค๊ะ เรื่องพระพุทธศาสนา
มีว่าไตรลักษณ์ๆๆ ด้วยน๊ะค๊ะเนี่ย

เอ่? s006
ไม่ต้องใช้ อนิจจานุปัสนาในมหาวิปัสสนา 18 เรยหรอค๊ะ

smiley


ผมเห็นไตรลักษณ์ตอนยังไม่รู้จักคำว่า สติปัฏฐาน ๔ สัมมปทาน ๔ อิทธิบาท ๔
อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ สมถะ วิปัสสนะ มรรค ๘


โอ้ สุดยอด ๆๆ ปัญญาเป็นเลิศ

smiley

คุณเห็นแบบไหนหรอค๊ะ?


พระเถรีท่านแสดงการเห็นไตรลักษณ์จากการปฎิบัติ แบบนี้ค่ะ


เมื่อกล่าวถึงการปฏิบัติของตน จึงกล่าวคาถาที่สองว่า เอวํ วิหรมานาย เป็นต้น :-
ในคาถาที่สองนั้น บทว่า เอวํ วิหรมานาย ความว่า เมื่อเราตั้งอยู่ในโอวาทที่พระอภัยเถระผู้เป็นบุตรให้แล้วโดยนัยว่า อุทฺธํ ปาทตลา เป็นต้น เห็นกายทุกส่วนว่าไม่งาม มีจิตแน่วแน่กำหนดรูปธรรมชนิดมหาภูตรูปและอุปาทายรูปในกายนั้น และอรูปธรรมมีเวทนาเป็นต้นที่เนื่องด้วยรูปธรรมนั้น ยกขึ้นสู่ไตรลักษณ์พิจารณาด้วยอนิจจานุปัสสนาญาณเป็นต้นในกายนั้น.


ผมฟังเทศน์หลวงพ่อท่านหนึ่งฟังไปพิจารณาตามไป เห็นความจิตที่วิ่งไปรู้อารมณ์คันตามร่างกาย เดี๋ยวคันตรงนั้นเดี๋ยวคันตรงนี้ทั่วร่างกายให้ค่อยได้แกะเกา ผมเลยดำริในใจว่าดีล่ะงั้นจะเอาความคันนี้เป็นอารมณ์
คันเกิดขึ้นก็รู้ตามดูไปจนมันดับ เกิดไหม่ก็รู้ตามดูจนดับอย่างนี้ไม่แกะไม่เกาดูเฉย ๆ

จนกายหายหมดความคันกลายนิมิตให้รู้ความเกิดดับ จนช่วงท้าย ๆ เกิดแล้วก็ดับ เกิดแล้วก็ดับ ดับ ๆ ๆ ๆ
เกิดตรงไหนก็ดับ จิตตระหนกดิ้นรนหนีความดับ คือพอดับแล้วย้ายไปเกิดที่ไหม่ก็ดับอีกย้ายไปเกิดที่ไหม่ก็ดับอีก ความดิ้นรนนี้ราวกับว่าคนหนีตายแบบไม่คิดชีวิตหาที่จะพึ่งพาอาศัยให้หลบลอดจากความดับไปไม่ได้ จนสุดท้ายใจมันสรุปว่าเกิดแล้วต้องดับเกิดแล้วไม่ดับไม่มี ใจสรุปอย่างนี้จิตก็สลัด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มี.ค. 2019, 08:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


สลัด..อะไร?


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มี.ค. 2019, 13:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เริ่มต้นเห็นไตรลักษณ์ โดยเขาไม่เข้าใจหลักวิชา กาย เวทนา จิต ธรรม ที่เรียกว่าสติปัฏฐานเลย

อ้างคำพูด:
รู้กาย รู้เวทนา รู้จิต รู้ธรรมนี่ได้ยินเขาสอนหมด เสียดายจำไม่ได้ ตอนฝึกก็ทำไม่เป็น

ตอนดิฉันเดินจงกรม ช่วงนาทีที่เห็นกายมันเดินเอง ร้องให้เลย ตอนนั้นรู้สึกว่า แม้ร่างกายมันยังไม่ใช่ของเรา จะมีอะไรเป็นของเราบ้างหนอ


ซึ่งอันที่จริงเดินจงกรมก็เป็นกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน



"เริ่มต้นเห็นไตรลักษณ์ โดยเขาไม่เข้าใจหลักวิชา กาย เวทนา จิต ธรรม ที่เรียกว่าสติปัฏฐานเลย "

s006 เอ่?

เห็นเค้าเรียนกันตั้งแต่วิชาสังคมประถมสี่น๊ะค๊ะ เรื่องพระพุทธศาสนา
มีว่าไตรลักษณ์ๆๆ ด้วยน๊ะค๊ะเนี่ย

เอ่? s006
ไม่ต้องใช้ อนิจจานุปัสนาในมหาวิปัสสนา 18 เรยหรอค๊ะ

smiley


ผมเห็นไตรลักษณ์ตอนยังไม่รู้จักคำว่า สติปัฏฐาน ๔ สัมมปทาน ๔ อิทธิบาท ๔
อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ สมถะ วิปัสสนะ มรรค ๘


โอ้ สุดยอด ๆๆ ปัญญาเป็นเลิศ

smiley

คุณเห็นแบบไหนหรอค๊ะ?


พระเถรีท่านแสดงการเห็นไตรลักษณ์จากการปฎิบัติ แบบนี้ค่ะ


เมื่อกล่าวถึงการปฏิบัติของตน จึงกล่าวคาถาที่สองว่า เอวํ วิหรมานาย เป็นต้น :-
ในคาถาที่สองนั้น บทว่า เอวํ วิหรมานาย ความว่า เมื่อเราตั้งอยู่ในโอวาทที่พระอภัยเถระผู้เป็นบุตรให้แล้วโดยนัยว่า อุทฺธํ ปาทตลา เป็นต้น เห็นกายทุกส่วนว่าไม่งาม มีจิตแน่วแน่กำหนดรูปธรรมชนิดมหาภูตรูปและอุปาทายรูปในกายนั้น และอรูปธรรมมีเวทนาเป็นต้นที่เนื่องด้วยรูปธรรมนั้น ยกขึ้นสู่ไตรลักษณ์พิจารณาด้วยอนิจจานุปัสสนาญาณเป็นต้นในกายนั้น.


ผมฟังเทศน์หลวงพ่อท่านหนึ่งฟังไปพิจารณาตามไป เห็นความจิตที่วิ่งไปรู้อารมณ์คันตามร่างกาย เดี๋ยวคันตรงนั้นเดี๋ยวคันตรงนี้ทั่วร่างกายให้ค่อยได้แกะเกา ผมเลยดำริในใจว่าดีล่ะงั้นจะเอาความคันนี้เป็นอารมณ์
คันเกิดขึ้นก็รู้ตามดูไปจนมันดับ เกิดไหม่ก็รู้ตามดูจนดับอย่างนี้ไม่แกะไม่เกาดูเฉย ๆ

จนกายหายหมดความคันกลายนิมิตให้รู้ความเกิดดับ จนช่วงท้าย ๆ เกิดแล้วก็ดับ เกิดแล้วก็ดับ ดับ ๆ ๆ ๆ
เกิดตรงไหนก็ดับ จิตตระหนกดิ้นรนหนีความดับ คือพอดับแล้วย้ายไปเกิดที่ไหม่ก็ดับอีกย้ายไปเกิดที่ไหม่ก็ดับอีก ความดิ้นรนนี้ราวกับว่าคนหนีตายแบบไม่คิดชีวิตหาที่จะพึ่งพาอาศัยให้หลบลอดจากความดับไปไม่ได้ จนสุดท้ายใจมันสรุปว่าเกิดแล้วต้องดับเกิดแล้วไม่ดับไม่มี ใจสรุปอย่างนี้จิตก็สลัด


นับว่าเป็นความมหัศจรรย์ บังเกิดแล้วค่ะ
เริ่มตั้งแต่

"ผมฟังเทศน์หลวงพ่อท่านหนึ่งฟังไปพิจารณาตามไป "
"เห็นความจิตที่วิ่งไปรู้อารมณ์คันตามร่างกาย"

จิตเรยสลัด การฟัง ป่าวค๊ะ ?


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มี.ค. 2019, 14:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เริ่มต้นเห็นไตรลักษณ์ โดยเขาไม่เข้าใจหลักวิชา กาย เวทนา จิต ธรรม ที่เรียกว่าสติปัฏฐานเลย

อ้างคำพูด:
รู้กาย รู้เวทนา รู้จิต รู้ธรรมนี่ได้ยินเขาสอนหมด เสียดายจำไม่ได้ ตอนฝึกก็ทำไม่เป็น

ตอนดิฉันเดินจงกรม ช่วงนาทีที่เห็นกายมันเดินเอง ร้องให้เลย ตอนนั้นรู้สึกว่า แม้ร่างกายมันยังไม่ใช่ของเรา จะมีอะไรเป็นของเราบ้างหนอ


ซึ่งอันที่จริงเดินจงกรมก็เป็นกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน



"เริ่มต้นเห็นไตรลักษณ์ โดยเขาไม่เข้าใจหลักวิชา กาย เวทนา จิต ธรรม ที่เรียกว่าสติปัฏฐานเลย "

s006 เอ่?

เห็นเค้าเรียนกันตั้งแต่วิชาสังคมประถมสี่น๊ะค๊ะ เรื่องพระพุทธศาสนา
มีว่าไตรลักษณ์ๆๆ ด้วยน๊ะค๊ะเนี่ย

เอ่? s006
ไม่ต้องใช้ อนิจจานุปัสนาในมหาวิปัสสนา 18 เรยหรอค๊ะ

smiley


ผมเห็นไตรลักษณ์ตอนยังไม่รู้จักคำว่า สติปัฏฐาน ๔ สัมมปทาน ๔ อิทธิบาท ๔
อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ สมถะ วิปัสสนะ มรรค ๘


โอ้ สุดยอด ๆๆ ปัญญาเป็นเลิศ

smiley

คุณเห็นแบบไหนหรอค๊ะ?


พระเถรีท่านแสดงการเห็นไตรลักษณ์จากการปฎิบัติ แบบนี้ค่ะ


เมื่อกล่าวถึงการปฏิบัติของตน จึงกล่าวคาถาที่สองว่า เอวํ วิหรมานาย เป็นต้น :-
ในคาถาที่สองนั้น บทว่า เอวํ วิหรมานาย ความว่า เมื่อเราตั้งอยู่ในโอวาทที่พระอภัยเถระผู้เป็นบุตรให้แล้วโดยนัยว่า อุทฺธํ ปาทตลา เป็นต้น เห็นกายทุกส่วนว่าไม่งาม มีจิตแน่วแน่กำหนดรูปธรรมชนิดมหาภูตรูปและอุปาทายรูปในกายนั้น และอรูปธรรมมีเวทนาเป็นต้นที่เนื่องด้วยรูปธรรมนั้น ยกขึ้นสู่ไตรลักษณ์พิจารณาด้วยอนิจจานุปัสสนาญาณเป็นต้นในกายนั้น.


ผมฟังเทศน์หลวงพ่อท่านหนึ่งฟังไปพิจารณาตามไป เห็นความจิตที่วิ่งไปรู้อารมณ์คันตามร่างกาย เดี๋ยวคันตรงนั้นเดี๋ยวคันตรงนี้ทั่วร่างกายให้ค่อยได้แกะเกา ผมเลยดำริในใจว่าดีล่ะงั้นจะเอาความคันนี้เป็นอารมณ์
คันเกิดขึ้นก็รู้ตามดูไปจนมันดับ เกิดไหม่ก็รู้ตามดูจนดับอย่างนี้ไม่แกะไม่เกาดูเฉย ๆ

จนกายหายหมดความคันกลายนิมิตให้รู้ความเกิดดับ จนช่วงท้าย ๆ เกิดแล้วก็ดับ เกิดแล้วก็ดับ ดับ ๆ ๆ ๆ
เกิดตรงไหนก็ดับ จิตตระหนกดิ้นรนหนีความดับ คือพอดับแล้วย้ายไปเกิดที่ไหม่ก็ดับอีกย้ายไปเกิดที่ไหม่ก็ดับอีก ความดิ้นรนนี้ราวกับว่าคนหนีตายแบบไม่คิดชีวิตหาที่จะพึ่งพาอาศัยให้หลบลอดจากความดับไปไม่ได้ จนสุดท้ายใจมันสรุปว่าเกิดแล้วต้องดับเกิดแล้วไม่ดับไม่มี ใจสรุปอย่างนี้จิตก็สลัด


เล่าเป็นฉากๆเลยนะขอรับ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มี.ค. 2019, 14:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เริ่มต้นเห็นไตรลักษณ์ โดยเขาไม่เข้าใจหลักวิชา กาย เวทนา จิต ธรรม ที่เรียกว่าสติปัฏฐานเลย

อ้างคำพูด:
รู้กาย รู้เวทนา รู้จิต รู้ธรรมนี่ได้ยินเขาสอนหมด เสียดายจำไม่ได้ ตอนฝึกก็ทำไม่เป็น

ตอนดิฉันเดินจงกรม ช่วงนาทีที่เห็นกายมันเดินเอง ร้องให้เลย ตอนนั้นรู้สึกว่า แม้ร่างกายมันยังไม่ใช่ของเรา จะมีอะไรเป็นของเราบ้างหนอ


ซึ่งอันที่จริงเดินจงกรมก็เป็นกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน



"เริ่มต้นเห็นไตรลักษณ์ โดยเขาไม่เข้าใจหลักวิชา กาย เวทนา จิต ธรรม ที่เรียกว่าสติปัฏฐานเลย "

s006 เอ่?

เห็นเค้าเรียนกันตั้งแต่วิชาสังคมประถมสี่น๊ะค๊ะ เรื่องพระพุทธศาสนา
มีว่าไตรลักษณ์ๆๆ ด้วยน๊ะค๊ะเนี่ย

เอ่? s006
ไม่ต้องใช้ อนิจจานุปัสนาในมหาวิปัสสนา 18 เรยหรอค๊ะ

smiley


ผมเห็นไตรลักษณ์ตอนยังไม่รู้จักคำว่า สติปัฏฐาน ๔ สัมมปทาน ๔ อิทธิบาท ๔
อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ สมถะ วิปัสสนะ มรรค ๘


โอ้ สุดยอด ๆๆ ปัญญาเป็นเลิศ

smiley

คุณเห็นแบบไหนหรอค๊ะ?


พระเถรีท่านแสดงการเห็นไตรลักษณ์จากการปฎิบัติ แบบนี้ค่ะ


เมื่อกล่าวถึงการปฏิบัติของตน จึงกล่าวคาถาที่สองว่า เอวํ วิหรมานาย เป็นต้น :-
ในคาถาที่สองนั้น บทว่า เอวํ วิหรมานาย ความว่า เมื่อเราตั้งอยู่ในโอวาทที่พระอภัยเถระผู้เป็นบุตรให้แล้วโดยนัยว่า อุทฺธํ ปาทตลา เป็นต้น เห็นกายทุกส่วนว่าไม่งาม มีจิตแน่วแน่กำหนดรูปธรรมชนิดมหาภูตรูปและอุปาทายรูปในกายนั้น และอรูปธรรมมีเวทนาเป็นต้นที่เนื่องด้วยรูปธรรมนั้น ยกขึ้นสู่ไตรลักษณ์พิจารณาด้วยอนิจจานุปัสสนาญาณเป็นต้นในกายนั้น.


ผมฟังเทศน์หลวงพ่อท่านหนึ่งฟังไปพิจารณาตามไป เห็นความจิตที่วิ่งไปรู้อารมณ์คันตามร่างกาย เดี๋ยวคันตรงนั้นเดี๋ยวคันตรงนี้ทั่วร่างกายให้ค่อยได้แกะเกา ผมเลยดำริในใจว่าดีล่ะงั้นจะเอาความคันนี้เป็นอารมณ์
คันเกิดขึ้นก็รู้ตามดูไปจนมันดับ เกิดไหม่ก็รู้ตามดูจนดับอย่างนี้ไม่แกะไม่เกาดูเฉย ๆ

จนกายหายหมดความคันกลายนิมิตให้รู้ความเกิดดับ จนช่วงท้าย ๆ เกิดแล้วก็ดับ เกิดแล้วก็ดับ ดับ ๆ ๆ ๆ
เกิดตรงไหนก็ดับ จิตตระหนกดิ้นรนหนีความดับ คือพอดับแล้วย้ายไปเกิดที่ไหม่ก็ดับอีกย้ายไปเกิดที่ไหม่ก็ดับอีก ความดิ้นรนนี้ราวกับว่าคนหนีตายแบบไม่คิดชีวิตหาที่จะพึ่งพาอาศัยให้หลบลอดจากความดับไปไม่ได้ จนสุดท้ายใจมันสรุปว่าเกิดแล้วต้องดับเกิดแล้วไม่ดับไม่มี ใจสรุปอย่างนี้จิตก็สลัด


เล่าเป็นฉากๆเลยนะขอรับ :b1:




อ่าว s006 แล้วต้องแบบไหนหรอค๊ะ
แบบนี้ป่าว ?

ผม.. ฟัง .. เทศน์ .. หลวง .. พ่อ .. ท่าน .. หนึ่ง .. ฟัง .. ไป ..
.. พิจารณา.. ตาม .. ไป.. เห็น ..
ความ.. จิต .. ที่วิ่ง.. ไป .. รู้.. อารมณ์ .. คัน .. ตาม .. ร่างกาย

หรือแบบนี้ ผ...ม
หรือ ผ...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มี.ค. 2019, 14:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เริ่มต้นเห็นไตรลักษณ์ โดยเขาไม่เข้าใจหลักวิชา กาย เวทนา จิต ธรรม ที่เรียกว่าสติปัฏฐานเลย

อ้างคำพูด:
รู้กาย รู้เวทนา รู้จิต รู้ธรรมนี่ได้ยินเขาสอนหมด เสียดายจำไม่ได้ ตอนฝึกก็ทำไม่เป็น

ตอนดิฉันเดินจงกรม ช่วงนาทีที่เห็นกายมันเดินเอง ร้องให้เลย ตอนนั้นรู้สึกว่า แม้ร่างกายมันยังไม่ใช่ของเรา จะมีอะไรเป็นของเราบ้างหนอ


ซึ่งอันที่จริงเดินจงกรมก็เป็นกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน



"เริ่มต้นเห็นไตรลักษณ์ โดยเขาไม่เข้าใจหลักวิชา กาย เวทนา จิต ธรรม ที่เรียกว่าสติปัฏฐานเลย "

s006 เอ่?

เห็นเค้าเรียนกันตั้งแต่วิชาสังคมประถมสี่น๊ะค๊ะ เรื่องพระพุทธศาสนา
มีว่าไตรลักษณ์ๆๆ ด้วยน๊ะค๊ะเนี่ย

เอ่? s006
ไม่ต้องใช้ อนิจจานุปัสนาในมหาวิปัสสนา 18 เรยหรอค๊ะ

smiley


ผมเห็นไตรลักษณ์ตอนยังไม่รู้จักคำว่า สติปัฏฐาน ๔ สัมมปทาน ๔ อิทธิบาท ๔
อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ สมถะ วิปัสสนะ มรรค ๘


โอ้ สุดยอด ๆๆ ปัญญาเป็นเลิศ

smiley

คุณเห็นแบบไหนหรอค๊ะ?


พระเถรีท่านแสดงการเห็นไตรลักษณ์จากการปฎิบัติ แบบนี้ค่ะ


เมื่อกล่าวถึงการปฏิบัติของตน จึงกล่าวคาถาที่สองว่า เอวํ วิหรมานาย เป็นต้น :-
ในคาถาที่สองนั้น บทว่า เอวํ วิหรมานาย ความว่า เมื่อเราตั้งอยู่ในโอวาทที่พระอภัยเถระผู้เป็นบุตรให้แล้วโดยนัยว่า อุทฺธํ ปาทตลา เป็นต้น เห็นกายทุกส่วนว่าไม่งาม มีจิตแน่วแน่กำหนดรูปธรรมชนิดมหาภูตรูปและอุปาทายรูปในกายนั้น และอรูปธรรมมีเวทนาเป็นต้นที่เนื่องด้วยรูปธรรมนั้น ยกขึ้นสู่ไตรลักษณ์พิจารณาด้วยอนิจจานุปัสสนาญาณเป็นต้นในกายนั้น.


ผมฟังเทศน์หลวงพ่อท่านหนึ่งฟังไปพิจารณาตามไป เห็นความจิตที่วิ่งไปรู้อารมณ์คันตามร่างกาย เดี๋ยวคันตรงนั้นเดี๋ยวคันตรงนี้ทั่วร่างกายให้ค่อยได้แกะเกา ผมเลยดำริในใจว่าดีล่ะงั้นจะเอาความคันนี้เป็นอารมณ์
คันเกิดขึ้นก็รู้ตามดูไปจนมันดับ เกิดไหม่ก็รู้ตามดูจนดับอย่างนี้ไม่แกะไม่เกาดูเฉย ๆ

จนกายหายหมดความคันกลายนิมิตให้รู้ความเกิดดับ จนช่วงท้าย ๆ เกิดแล้วก็ดับ เกิดแล้วก็ดับ ดับ ๆ ๆ ๆ
เกิดตรงไหนก็ดับ จิตตระหนกดิ้นรนหนีความดับ คือพอดับแล้วย้ายไปเกิดที่ไหม่ก็ดับอีกย้ายไปเกิดที่ไหม่ก็ดับอีก ความดิ้นรนนี้ราวกับว่าคนหนีตายแบบไม่คิดชีวิตหาที่จะพึ่งพาอาศัยให้หลบลอดจากความดับไปไม่ได้ จนสุดท้ายใจมันสรุปว่าเกิดแล้วต้องดับเกิดแล้วไม่ดับไม่มี ใจสรุปอย่างนี้จิตก็สลัด


เล่าเป็นฉากๆเลยนะขอรับ :b1:




อ่าว s006 แล้วต้องแบบไหนหรอค๊ะ
แบบนี้ป่าว ?

ผม.. ฟัง .. เทศน์ .. หลวง .. พ่อ .. ท่าน .. หนึ่ง .. ฟัง .. ไป ..
.. พิจารณา.. ตาม .. ไป.. เห็น ..
ความ.. จิต .. ที่วิ่ง.. ไป .. รู้.. อารมณ์ .. คัน .. ตาม .. ร่างกาย

หรือแบบนี้ ผ...ม
หรือ ผ...


เล่าแบบนั้น เดี๋ยวก็เป็นโสดาบัน :b1:

ซึ่งไม่ใช่จากใจ ดังตัวอย่างนี้

https://scontent.fbkk5-4.fna.fbcdn.net/ ... e=5D049E8C

ถ้าเล่าแบบนี้ รู้ว่าเขาทำจริงปฏิบัติจริง

อ้างคำพูด:
เริ่มสงบจะมีอาการคันคอ

เวลานั่งสมาธิกำหนดคำภาวนา พร้อมไปกับลมหายใจ นั่งทำสมาธิไปสักพักจะต้องเริ่มมีอาการคันคอ ทุกครั้ง พยามยามฝืนไม่สนใจ แต่จะคันคอจนต้องไอออกมาทุกครั้ง บางครั้งน้ำลายกระเด็นออกมาเลอะปาก พร้อมน้ำตาไหล พอไอออกมา สักครั้ง สองครั้ง แล้วจะหายไป แล้วไม่คันคออีกเลย
อยากรบกวนสอบถามถึงอาการที่เกิด และทำอย่างไรถึงจะไม่ให้เกิดอาการคันคอได้ เพราะตอนนั่งพอจะเริ่มสงบนิ่งจะเป็นทุกครั้ง ทำให้เกิดความรำคาญ


แต่เขาไม่รู้จะเอายังไง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มี.ค. 2019, 14:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เริ่มต้นเห็นไตรลักษณ์ โดยเขาไม่เข้าใจหลักวิชา กาย เวทนา จิต ธรรม ที่เรียกว่าสติปัฏฐานเลย

อ้างคำพูด:
รู้กาย รู้เวทนา รู้จิต รู้ธรรมนี่ได้ยินเขาสอนหมด เสียดายจำไม่ได้ ตอนฝึกก็ทำไม่เป็น

ตอนดิฉันเดินจงกรม ช่วงนาทีที่เห็นกายมันเดินเอง ร้องให้เลย ตอนนั้นรู้สึกว่า แม้ร่างกายมันยังไม่ใช่ของเรา จะมีอะไรเป็นของเราบ้างหนอ


ซึ่งอันที่จริงเดินจงกรมก็เป็นกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน



"เริ่มต้นเห็นไตรลักษณ์ โดยเขาไม่เข้าใจหลักวิชา กาย เวทนา จิต ธรรม ที่เรียกว่าสติปัฏฐานเลย "

s006 เอ่?

เห็นเค้าเรียนกันตั้งแต่วิชาสังคมประถมสี่น๊ะค๊ะ เรื่องพระพุทธศาสนา
มีว่าไตรลักษณ์ๆๆ ด้วยน๊ะค๊ะเนี่ย

เอ่? s006
ไม่ต้องใช้ อนิจจานุปัสนาในมหาวิปัสสนา 18 เรยหรอค๊ะ

smiley


ผมเห็นไตรลักษณ์ตอนยังไม่รู้จักคำว่า สติปัฏฐาน ๔ สัมมปทาน ๔ อิทธิบาท ๔
อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ สมถะ วิปัสสนะ มรรค ๘


โอ้ สุดยอด ๆๆ ปัญญาเป็นเลิศ

smiley

คุณเห็นแบบไหนหรอค๊ะ?


พระเถรีท่านแสดงการเห็นไตรลักษณ์จากการปฎิบัติ แบบนี้ค่ะ


เมื่อกล่าวถึงการปฏิบัติของตน จึงกล่าวคาถาที่สองว่า เอวํ วิหรมานาย เป็นต้น :-
ในคาถาที่สองนั้น บทว่า เอวํ วิหรมานาย ความว่า เมื่อเราตั้งอยู่ในโอวาทที่พระอภัยเถระผู้เป็นบุตรให้แล้วโดยนัยว่า อุทฺธํ ปาทตลา เป็นต้น เห็นกายทุกส่วนว่าไม่งาม มีจิตแน่วแน่กำหนดรูปธรรมชนิดมหาภูตรูปและอุปาทายรูปในกายนั้น และอรูปธรรมมีเวทนาเป็นต้นที่เนื่องด้วยรูปธรรมนั้น ยกขึ้นสู่ไตรลักษณ์พิจารณาด้วยอนิจจานุปัสสนาญาณเป็นต้นในกายนั้น.


ผมฟังเทศน์หลวงพ่อท่านหนึ่งฟังไปพิจารณาตามไป เห็นความจิตที่วิ่งไปรู้อารมณ์คันตามร่างกาย เดี๋ยวคันตรงนั้นเดี๋ยวคันตรงนี้ทั่วร่างกายให้ค่อยได้แกะเกา ผมเลยดำริในใจว่าดีล่ะงั้นจะเอาความคันนี้เป็นอารมณ์
คันเกิดขึ้นก็รู้ตามดูไปจนมันดับ เกิดไหม่ก็รู้ตามดูจนดับอย่างนี้ไม่แกะไม่เกาดูเฉย ๆ

จนกายหายหมดความคันกลายนิมิตให้รู้ความเกิดดับ จนช่วงท้าย ๆ เกิดแล้วก็ดับ เกิดแล้วก็ดับ ดับ ๆ ๆ ๆ
เกิดตรงไหนก็ดับ จิตตระหนกดิ้นรนหนีความดับ คือพอดับแล้วย้ายไปเกิดที่ไหม่ก็ดับอีกย้ายไปเกิดที่ไหม่ก็ดับอีก ความดิ้นรนนี้ราวกับว่าคนหนีตายแบบไม่คิดชีวิตหาที่จะพึ่งพาอาศัยให้หลบลอดจากความดับไปไม่ได้ จนสุดท้ายใจมันสรุปว่าเกิดแล้วต้องดับเกิดแล้วไม่ดับไม่มี ใจสรุปอย่างนี้จิตก็สลัด


เล่าเป็นฉากๆเลยนะขอรับ :b1:




อ่าว s006 แล้วต้องแบบไหนหรอค๊ะ
แบบนี้ป่าว ?

ผม.. ฟัง .. เทศน์ .. หลวง .. พ่อ .. ท่าน .. หนึ่ง .. ฟัง .. ไป ..
.. พิจารณา.. ตาม .. ไป.. เห็น ..
ความ.. จิต .. ที่วิ่ง.. ไป .. รู้.. อารมณ์ .. คัน .. ตาม .. ร่างกาย

หรือแบบนี้ ผ...ม
หรือ ผ...


เล่าแบบนั้น เดี๋ยวก็เป็นโสดาบัน :b1:

ถ้าเล่าแบบนี้ รู้ว่าเขาทำจริงปฏิบัติจริง

อ้างคำพูด:
เริ่มสงบจะมีอาการคันคอ

เวลานั่งสมาธิกำหนดคำภาวนา พร้อมไปกับลมหายใจ นั่งทำสมาธิไปสักพักจะต้องเริ่มมีอาการคันคอ ทุกครั้ง พยามยามฝืนไม่สนใจ แต่จะคันคอจนต้องไอออกมาทุกครั้ง บางครั้งน้ำลายกระเด็นออกมาเลอะปาก พร้อมน้ำตาไหล พอไอออกมา สักครั้ง สองครั้ง แล้วจะหายไป แล้วไม่คันคออีกเลย
อยากรบกวนสอบถามถึงอาการที่เกิด และทำอย่างไรถึงจะไม่ให้เกิดอาการคันคอได้ เพราะตอนนั่งพอจะเริ่มสงบนิ่งจะเป็นทุกครั้ง ทำให้เกิดความรำคาญ


แต่ไม่รู้จะเอายังไง


s006 เอ่?

ความสืบต่อเนื่อง ปิดบัง ไตรลักษณ์ป่าว ค๊ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มี.ค. 2019, 19:56 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2018, 07:07
โพสต์: 482

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เริ่มต้นเห็นไตรลักษณ์ โดยเขาไม่เข้าใจหลักวิชา กาย เวทนา จิต ธรรม ที่เรียกว่าสติปัฏฐานเลย

อ้างคำพูด:
รู้กาย รู้เวทนา รู้จิต รู้ธรรมนี่ได้ยินเขาสอนหมด เสียดายจำไม่ได้ ตอนฝึกก็ทำไม่เป็น

ตอนดิฉันเดินจงกรม ช่วงนาทีที่เห็นกายมันเดินเอง ร้องให้เลย ตอนนั้นรู้สึกว่า แม้ร่างกายมันยังไม่ใช่ของเรา จะมีอะไรเป็นของเราบ้างหนอ


ซึ่งอันที่จริงเดินจงกรมก็เป็นกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน



"เริ่มต้นเห็นไตรลักษณ์ โดยเขาไม่เข้าใจหลักวิชา กาย เวทนา จิต ธรรม ที่เรียกว่าสติปัฏฐานเลย "

s006 เอ่?

เห็นเค้าเรียนกันตั้งแต่วิชาสังคมประถมสี่น๊ะค๊ะ เรื่องพระพุทธศาสนา
มีว่าไตรลักษณ์ๆๆ ด้วยน๊ะค๊ะเนี่ย

เอ่? s006
ไม่ต้องใช้ อนิจจานุปัสนาในมหาวิปัสสนา 18 เรยหรอค๊ะ

smiley


ผมเห็นไตรลักษณ์ตอนยังไม่รู้จักคำว่า สติปัฏฐาน ๔ สัมมปทาน ๔ อิทธิบาท ๔
อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ สมถะ วิปัสสนะ มรรค ๘


โอ้ สุดยอด ๆๆ ปัญญาเป็นเลิศ

smiley

คุณเห็นแบบไหนหรอค๊ะ?


พระเถรีท่านแสดงการเห็นไตรลักษณ์จากการปฎิบัติ แบบนี้ค่ะ


เมื่อกล่าวถึงการปฏิบัติของตน จึงกล่าวคาถาที่สองว่า เอวํ วิหรมานาย เป็นต้น :-
ในคาถาที่สองนั้น บทว่า เอวํ วิหรมานาย ความว่า เมื่อเราตั้งอยู่ในโอวาทที่พระอภัยเถระผู้เป็นบุตรให้แล้วโดยนัยว่า อุทฺธํ ปาทตลา เป็นต้น เห็นกายทุกส่วนว่าไม่งาม มีจิตแน่วแน่กำหนดรูปธรรมชนิดมหาภูตรูปและอุปาทายรูปในกายนั้น และอรูปธรรมมีเวทนาเป็นต้นที่เนื่องด้วยรูปธรรมนั้น ยกขึ้นสู่ไตรลักษณ์พิจารณาด้วยอนิจจานุปัสสนาญาณเป็นต้นในกายนั้น.


ผมฟังเทศน์หลวงพ่อท่านหนึ่งฟังไปพิจารณาตามไป เห็นความจิตที่วิ่งไปรู้อารมณ์คันตามร่างกาย เดี๋ยวคันตรงนั้นเดี๋ยวคันตรงนี้ทั่วร่างกายให้ค่อยได้แกะเกา ผมเลยดำริในใจว่าดีล่ะงั้นจะเอาความคันนี้เป็นอารมณ์
คันเกิดขึ้นก็รู้ตามดูไปจนมันดับ เกิดไหม่ก็รู้ตามดูจนดับอย่างนี้ไม่แกะไม่เกาดูเฉย ๆ

จนกายหายหมดความคันกลายนิมิตให้รู้ความเกิดดับ จนช่วงท้าย ๆ เกิดแล้วก็ดับ เกิดแล้วก็ดับ ดับ ๆ ๆ ๆ
เกิดตรงไหนก็ดับ จิตตระหนกดิ้นรนหนีความดับ คือพอดับแล้วย้ายไปเกิดที่ไหม่ก็ดับอีกย้ายไปเกิดที่ไหม่ก็ดับอีก ความดิ้นรนนี้ราวกับว่าคนหนีตายแบบไม่คิดชีวิตหาที่จะพึ่งพาอาศัยให้หลบลอดจากความดับไปไม่ได้ จนสุดท้ายใจมันสรุปว่าเกิดแล้วต้องดับเกิดแล้วไม่ดับไม่มี ใจสรุปอย่างนี้จิตก็สลัด


เล่าเป็นฉากๆเลยนะขอรับ :b1:

การเล่านี้เป็นการเล่ามาลำดับเหตุการณ์เล่าในภายหลัง

กบนอกกะลา เขียน:
สลัด..อะไร?

ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร พิจารณาภายหลังมันคือที่เกิดผมเลยเรียกมันว่าภพ
เหมือนผึ้งตัวหนึ่งบินหิ้วตุ่มน้ำหนัก ๆ ตุ่มหนึ่ง แล้วปล่อยทันทีมันก็หลุดผลุบเห็นความดับ


กรัชกาย เขียน:
เริ่มสงบจะมีอาการคันคอ
เวลานั่งสมาธิกำหนดคำภาวนา พร้อมไปกับลมหายใจ นั่งทำสมาธิไปสักพักจะต้องเริ่มมีอาการคันคอ ทุกครั้ง พยามยามฝืนไม่สนใจ แต่จะคันคอจนต้องไอออกมาทุกครั้ง บางครั้งน้ำลายกระเด็นออกมาเลอะปาก พร้อมน้ำตาไหล พอไอออกมา สักครั้ง สองครั้ง แล้วจะหายไป แล้วไม่คันคออีกเลย
อยากรบกวนสอบถามถึงอาการที่เกิด และทำอย่างไรถึงจะไม่ให้เกิดอาการคันคอได้ เพราะตอนนั่งพอจะเริ่มสงบนิ่งจะเป็นทุกครั้ง ทำให้เกิดความรำคาญแต่เขาไม่รู้จะเอายังไง


ถ้าคันเหมือนเกลียวด้ายเล็ก ๆ แหลม ๆในลมหายใจผมก็เป็น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มี.ค. 2019, 20:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เริ่มต้นเห็นไตรลักษณ์ โดยเขาไม่เข้าใจหลักวิชา กาย เวทนา จิต ธรรม ที่เรียกว่าสติปัฏฐานเลย

อ้างคำพูด:
รู้กาย รู้เวทนา รู้จิต รู้ธรรมนี่ได้ยินเขาสอนหมด เสียดายจำไม่ได้ ตอนฝึกก็ทำไม่เป็น

ตอนดิฉันเดินจงกรม ช่วงนาทีที่เห็นกายมันเดินเอง ร้องให้เลย ตอนนั้นรู้สึกว่า แม้ร่างกายมันยังไม่ใช่ของเรา จะมีอะไรเป็นของเราบ้างหนอ


ซึ่งอันที่จริงเดินจงกรมก็เป็นกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน



"เริ่มต้นเห็นไตรลักษณ์ โดยเขาไม่เข้าใจหลักวิชา กาย เวทนา จิต ธรรม ที่เรียกว่าสติปัฏฐานเลย "

s006 เอ่?

เห็นเค้าเรียนกันตั้งแต่วิชาสังคมประถมสี่น๊ะค๊ะ เรื่องพระพุทธศาสนา
มีว่าไตรลักษณ์ๆๆ ด้วยน๊ะค๊ะเนี่ย

เอ่? s006
ไม่ต้องใช้ อนิจจานุปัสนาในมหาวิปัสสนา 18 เรยหรอค๊ะ

smiley


ผมเห็นไตรลักษณ์ตอนยังไม่รู้จักคำว่า สติปัฏฐาน ๔ สัมมปทาน ๔ อิทธิบาท ๔
อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ สมถะ วิปัสสนะ มรรค ๘


โอ้ สุดยอด ๆๆ ปัญญาเป็นเลิศ

smiley

คุณเห็นแบบไหนหรอค๊ะ?


พระเถรีท่านแสดงการเห็นไตรลักษณ์จากการปฎิบัติ แบบนี้ค่ะ


เมื่อกล่าวถึงการปฏิบัติของตน จึงกล่าวคาถาที่สองว่า เอวํ วิหรมานาย เป็นต้น :-
ในคาถาที่สองนั้น บทว่า เอวํ วิหรมานาย ความว่า เมื่อเราตั้งอยู่ในโอวาทที่พระอภัยเถระผู้เป็นบุตรให้แล้วโดยนัยว่า อุทฺธํ ปาทตลา เป็นต้น เห็นกายทุกส่วนว่าไม่งาม มีจิตแน่วแน่กำหนดรูปธรรมชนิดมหาภูตรูปและอุปาทายรูปในกายนั้น และอรูปธรรมมีเวทนาเป็นต้นที่เนื่องด้วยรูปธรรมนั้น ยกขึ้นสู่ไตรลักษณ์พิจารณาด้วยอนิจจานุปัสสนาญาณเป็นต้นในกายนั้น.


ผมฟังเทศน์หลวงพ่อท่านหนึ่งฟังไปพิจารณาตามไป เห็นความจิตที่วิ่งไปรู้อารมณ์คันตามร่างกาย เดี๋ยวคันตรงนั้นเดี๋ยวคันตรงนี้ทั่วร่างกายให้ค่อยได้แกะเกา ผมเลยดำริในใจว่าดีล่ะงั้นจะเอาความคันนี้เป็นอารมณ์
คันเกิดขึ้นก็รู้ตามดูไปจนมันดับ เกิดไหม่ก็รู้ตามดูจนดับอย่างนี้ไม่แกะไม่เกาดูเฉย ๆ

จนกายหายหมดความคันกลายนิมิตให้รู้ความเกิดดับ จนช่วงท้าย ๆ เกิดแล้วก็ดับ เกิดแล้วก็ดับ ดับ ๆ ๆ ๆ
เกิดตรงไหนก็ดับ จิตตระหนกดิ้นรนหนีความดับ คือพอดับแล้วย้ายไปเกิดที่ไหม่ก็ดับอีกย้ายไปเกิดที่ไหม่ก็ดับอีก ความดิ้นรนนี้ราวกับว่าคนหนีตายแบบไม่คิดชีวิตหาที่จะพึ่งพาอาศัยให้หลบลอดจากความดับไปไม่ได้ จนสุดท้ายใจมันสรุปว่าเกิดแล้วต้องดับเกิดแล้วไม่ดับไม่มี ใจสรุปอย่างนี้จิตก็สลัด


เล่าเป็นฉากๆเลยนะขอรับ :b1:

การเล่านี้เป็นการเล่ามาลำดับเหตุการณ์เล่าในภายหลัง

กบนอกกะลา เขียน:
สลัด..อะไร?

ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร พิจารณาภายหลังมันคือที่เกิดผมเลยเรียกมันว่าภพ
เหมือนผึ้งตัวหนึ่งบินหิ้วตุ่มน้ำหนัก ๆ ตุ่มหนึ่ง แล้วปล่อยทันทีมันก็หลุดผลุบเห็นความดับ



พ่ะน่ะ ไม่รู้ว่าอะไร

ก่อนหน้าบอกแล้วว่า ถ้าเล่าเป็นฉากๆ แบบนี้นะ เดี๋ยวเถอะได้เป็นโสดาบัน คือ โสดาคิดเอาเอง เหมือนพะออระหัน นี่

https://www.youtube.com/watch?v=AnnomLIxYm0

:b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มี.ค. 2019, 20:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2018, 07:07
โพสต์: 482

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เริ่มต้นเห็นไตรลักษณ์ โดยเขาไม่เข้าใจหลักวิชา กาย เวทนา จิต ธรรม ที่เรียกว่าสติปัฏฐานเลย

อ้างคำพูด:
รู้กาย รู้เวทนา รู้จิต รู้ธรรมนี่ได้ยินเขาสอนหมด เสียดายจำไม่ได้ ตอนฝึกก็ทำไม่เป็น

ตอนดิฉันเดินจงกรม ช่วงนาทีที่เห็นกายมันเดินเอง ร้องให้เลย ตอนนั้นรู้สึกว่า แม้ร่างกายมันยังไม่ใช่ของเรา จะมีอะไรเป็นของเราบ้างหนอ


ซึ่งอันที่จริงเดินจงกรมก็เป็นกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน



"เริ่มต้นเห็นไตรลักษณ์ โดยเขาไม่เข้าใจหลักวิชา กาย เวทนา จิต ธรรม ที่เรียกว่าสติปัฏฐานเลย "

s006 เอ่?

เห็นเค้าเรียนกันตั้งแต่วิชาสังคมประถมสี่น๊ะค๊ะ เรื่องพระพุทธศาสนา
มีว่าไตรลักษณ์ๆๆ ด้วยน๊ะค๊ะเนี่ย

เอ่? s006
ไม่ต้องใช้ อนิจจานุปัสนาในมหาวิปัสสนา 18 เรยหรอค๊ะ

smiley


ผมเห็นไตรลักษณ์ตอนยังไม่รู้จักคำว่า สติปัฏฐาน ๔ สัมมปทาน ๔ อิทธิบาท ๔
อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ สมถะ วิปัสสนะ มรรค ๘


โอ้ สุดยอด ๆๆ ปัญญาเป็นเลิศ

smiley

คุณเห็นแบบไหนหรอค๊ะ?


พระเถรีท่านแสดงการเห็นไตรลักษณ์จากการปฎิบัติ แบบนี้ค่ะ


เมื่อกล่าวถึงการปฏิบัติของตน จึงกล่าวคาถาที่สองว่า เอวํ วิหรมานาย เป็นต้น :-
ในคาถาที่สองนั้น บทว่า เอวํ วิหรมานาย ความว่า เมื่อเราตั้งอยู่ในโอวาทที่พระอภัยเถระผู้เป็นบุตรให้แล้วโดยนัยว่า อุทฺธํ ปาทตลา เป็นต้น เห็นกายทุกส่วนว่าไม่งาม มีจิตแน่วแน่กำหนดรูปธรรมชนิดมหาภูตรูปและอุปาทายรูปในกายนั้น และอรูปธรรมมีเวทนาเป็นต้นที่เนื่องด้วยรูปธรรมนั้น ยกขึ้นสู่ไตรลักษณ์พิจารณาด้วยอนิจจานุปัสสนาญาณเป็นต้นในกายนั้น.


ผมฟังเทศน์หลวงพ่อท่านหนึ่งฟังไปพิจารณาตามไป เห็นความจิตที่วิ่งไปรู้อารมณ์คันตามร่างกาย เดี๋ยวคันตรงนั้นเดี๋ยวคันตรงนี้ทั่วร่างกายให้ค่อยได้แกะเกา ผมเลยดำริในใจว่าดีล่ะงั้นจะเอาความคันนี้เป็นอารมณ์
คันเกิดขึ้นก็รู้ตามดูไปจนมันดับ เกิดไหม่ก็รู้ตามดูจนดับอย่างนี้ไม่แกะไม่เกาดูเฉย ๆ

จนกายหายหมดความคันกลายนิมิตให้รู้ความเกิดดับ จนช่วงท้าย ๆ เกิดแล้วก็ดับ เกิดแล้วก็ดับ ดับ ๆ ๆ ๆ
เกิดตรงไหนก็ดับ จิตตระหนกดิ้นรนหนีความดับ คือพอดับแล้วย้ายไปเกิดที่ไหม่ก็ดับอีกย้ายไปเกิดที่ไหม่ก็ดับอีก ความดิ้นรนนี้ราวกับว่าคนหนีตายแบบไม่คิดชีวิตหาที่จะพึ่งพาอาศัยให้หลบลอดจากความดับไปไม่ได้ จนสุดท้ายใจมันสรุปว่าเกิดแล้วต้องดับเกิดแล้วไม่ดับไม่มี ใจสรุปอย่างนี้จิตก็สลัด


เล่าเป็นฉากๆเลยนะขอรับ :b1:

การเล่านี้เป็นการเล่ามาลำดับเหตุการณ์เล่าในภายหลัง

กบนอกกะลา เขียน:
สลัด..อะไร?

ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร พิจารณาภายหลังมันคือที่เกิดผมเลยเรียกมันว่าภพ
เหมือนผึ้งตัวหนึ่งบินหิ้วตุ่มน้ำหนัก ๆ ตุ่มหนึ่ง แล้วปล่อยทันทีมันก็หลุดผลุบเห็นความดับ



พ่ะน่ะ ไม่รู้ว่าอะไร

ก่อนหน้าบอกแล้วว่า ถ้าเล่าเป็นฉากๆ แบบนี้นะ เดี๋ยวเถอะได้เป็นโสดาบัน คือ โสดาคิดเอาเอง เหมือนพะออระหัน นี่

https://www.youtube.com/watch?v=AnnomLIxYm0

:b32:


ผมเล่าตามที่เห็นครับ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีความคิดว่าอยากบรรลุธรรม อยากพ้นทุกข์ อยากเป็นพระโสดาบัน ตอนเห็นนั้นยังไม่รู้เลยว่า โสดาบันคืออะไร สกิทาคืออะไร อนาคาคืออะไร

แต่รู้จักพระอรหันต์องค์หนึ่งในใจ ท่านแสดงธรรมเรื่องมรรค ผล นิพพาน จนทำให้ผมติดใจ สนใจ ใคร่รู้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มี.ค. 2019, 20:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Love J. เขียน:


ผมเล่าตามที่เห็นครับ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีความคิดว่าอยากบรรลุธรรม อยากพ้นทุกข์ อยากเป็นพระโสดาบัน ตอนเห็นนั้นยังไม่รู้เลยว่า โสดาบันคืออะไร สกิทาคืออะไร อนาคาคืออะไร

แต่รู้จักพระอรหันต์องค์หนึ่งในใจ ท่านแสดงธรรมเรื่องมรรค ผล นิพพาน จนทำให้ผมติดใจ สนใจ ใคร่รู้


ไม่เข้าใจ รู้จักพระอรหันต์องค์หนึ่งในใจ ... ยังไงอ่ะ รู้จักพระอรหันต์ในใจ แสดงธรรม เรื่อง มรรค ผล นิพพาน จนทำให้คุณติดอกติดใจ เขาเป็นใครซึ่งอยู่ในใจคุณ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มี.ค. 2019, 21:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2018, 07:07
โพสต์: 482

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:


ผมเล่าตามที่เห็นครับ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีความคิดว่าอยากบรรลุธรรม อยากพ้นทุกข์ อยากเป็นพระโสดาบัน ตอนเห็นนั้นยังไม่รู้เลยว่า โสดาบันคืออะไร สกิทาคืออะไร อนาคาคืออะไร

แต่รู้จักพระอรหันต์องค์หนึ่งในใจ ท่านแสดงธรรมเรื่องมรรค ผล นิพพาน จนทำให้ผมติดใจ สนใจ ใคร่รู้


ไม่เข้าใจ รู้จักพระอรหันต์องค์หนึ่งในใจ ... ยังไงอ่ะ รู้จักพระอรหันต์ในใจ แสดงธรรม เรื่อง มรรค ผล นิพพาน จนทำให้คุณติดอกติดใจ เขาเป็นใครซึ่งอยู่ในใจคุณ


หลวงตามหาบัวครับ ผมได้ฟังท่านเทศน์โดยบังเอิญทางยูทูป เล่าเรื่องกิเลส มรรคผล นิพพาน
ฟังท่านเทศน์พิจารณาตามก็มีแต่หลักความจริง จี้เข้ากิเลสในใจจนสะเทือน ฟังไปอมยิ้มไป

สำหรับผมไม่สงสัยความเป็นอรหันต์ ที่บอกว่าพระอรหันต์ในใจเพราะเดี๋ยวคนอื่นที่ไม่ศรัทธาจะแย้ง
ว่ารู้ได้ยังไงว่าท่านเป็นพระอรหันต์ มานั่งถกเถียงกันอีกจึงว่าพระอรหันต์ในใจ

เอ้อ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ที่อยู่ในใจก็มี ก็คือความดับที่ผมไปเห็นนั่นและ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มี.ค. 2019, 21:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:


ผมเล่าตามที่เห็นครับ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีความคิดว่าอยากบรรลุธรรม อยากพ้นทุกข์ อยากเป็นพระโสดาบัน ตอนเห็นนั้นยังไม่รู้เลยว่า โสดาบันคืออะไร สกิทาคืออะไร อนาคาคืออะไร

แต่รู้จักพระอรหันต์องค์หนึ่งในใจ ท่านแสดงธรรมเรื่องมรรค ผล นิพพาน จนทำให้ผมติดใจ สนใจ ใคร่รู้


ไม่เข้าใจ รู้จักพระอรหันต์องค์หนึ่งในใจ ... ยังไงอ่ะ รู้จักพระอรหันต์ในใจ แสดงธรรม เรื่อง มรรค ผล นิพพาน จนทำให้คุณติดอกติดใจ เขาเป็นใครซึ่งอยู่ในใจคุณ


หลวงตามหาบัวครับ ผมได้ฟังท่านเทศน์โดยบังเอิญทางยูทูป เล่าเรื่องกิเลส มรรคผล นิพพาน
ฟังท่านเทศน์พิจารณาตามก็มีแต่หลักความจริง จี้เข้ากิเลสในใจจนสะเทือน ฟังไปอมยิ้มไป

สำหรับผมไม่สงสัยความเป็นอรหันต์ ที่บอกว่าพระอรหันต์ในใจเพราะเดี๋ยวคนอื่นที่ไม่ศรัทธาจะแย้ง
ว่ารู้ได้ยังไงว่าท่านเป็นพระอรหันต์ มานั่งถกเถียงกันอีกจึงว่าพระอรหันต์ในใจ

เอ้อ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ที่อยู่ในใจก็มี ก็คือความดับที่ผมไปเห็นนั่นและ



อ้อ มันเป็นยังงี้นี่เอง :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มี.ค. 2019, 04:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


Love J. เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
สลัด..อะไร?

ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร พิจารณาภายหลังมันคือที่เกิดผมเลยเรียกมันว่าภพ
เหมือนผึ้งตัวหนึ่งบินหิ้วตุ่มน้ำหนัก ๆ ตุ่มหนึ่ง แล้วปล่อยทันทีมันก็หลุดผลุบเห็นความดับ


แปลก..นะครับ...ที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร..อาจเป็นเพราะพยายามจะเรียกเป็นภาษาบาลี..ละมั้ง?

เอาเป็นภาษาไทยง่ายๆ..ตามความรู้สึกตรงๆ.ที่มันสลัด...จะดีกว่านะครับ..อาจจะพูดได้ง่ายกว่า
เช่น.."ความอยากเกิด" "ความเห็นสาระของการเกิดในวัฏฏะสงสาร" เป็นต้น

คำว่า.."ภพ" .นี้.นั้นมันใหญ่ไป..ซึ่งหมายรวมได้ถึงวัฏฏะสงสารนี้ทั้งหมด..ได้เลยนะ..
แต่จากคำบอกเล่า...มันเป็นภาวะย่อยๆ..ที่เกิดกับผู้ปฏิบัติระหว่างทางเดินตามมรรคที่ถูกต้อง...เกิดญาณรู้ที่ถูกต้อง..จากคำบอกเล่า.สุดที่ไปเห็นญาณรู้ความดับ...

"ไปเห็น"...นี้...อย่าคิดว่า.."ได้"..นะครับ...
หากยังทุกข์อยู่..ก็อย่าคิดว่าเราได้อะไร..จะปลอดภัยที่สุดครับ

อย่างไรก็ตาม..ก็ขออนุโมทนากับภาวะที่ประสพ..นะครับ
:b8: :b8: :b8:


แก้ไขล่าสุดโดย กบนอกกะลา เมื่อ 15 มี.ค. 2019, 05:39, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มี.ค. 2019, 04:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


s006 เอ่?

การเห็นนี่ ตามพระธรรมจริงๆ เห็นกันยังไงน้อ

รถผ่านหน้าไป ไล่กวด ไปทันหน้าปากซอย อ่อ เห้น

รถผ่านหน้าไป อ่อ เห็น

เด็กสามขวบ น่ารัก
พ่อแม่พาไปห้าง เดินไปเดินมา แม่ก็ชี้ เอาของเล่นนี้มั๊ย?
เด็กตอบสวนว่า ไม่เอา เดียวมันก็เก่า เดียวมันก็พัง เอาไปทำไม

คนแก่อายุสี่สิบ คนขายถามลุงเอาไวอากร้ามั๊ย
คนแก่ก็บอกเดี๋ยวคิดก่อน ก็เดินไปมา จนกลับถึงบ้าน
กลับไปนั่งคิดนอนคิด ไวอากร้านี่จะช่วยเราได้มั๊ยเนี่ย คิดไปคิดมา
พอเช้าก็ไปบอกคนขายว่า เราพิจารณาแยบคายแล้วไม่เอา

smiley


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 38 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 120 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร