วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 04:22  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 46 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2019, 20:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Love J. เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ปัญหาไม่ใช่อยู่ที่อานาปานสติ ไม่ใช่อยู่ที่พุทโธ แต่เข้าใช้อานาปานสติ

อยู่ที่ไหนดู



นั่งสมาธิแล้วเหมือนมีอีกร่างอยู่ในตัว

ขอสอบถามอาการของสมาธิค่ะ

รบกวนผู้รู้ชี้แนะด้วย

1. มีความรู้สึกมีอีกร่างอยู่ในตัวเรา แต่เราจะควบคุมอีกร่างไม่ได้ อีกร่างเหมือนกับจะพยายามออกมา จากร่างเรา รู้สึกว่าเค้าจะยืดออกทางหน้าซ้ายบ้าง สักพักก็มาทางขวา แต่ไม่เคยออกได้ ปกติเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นจะพยายามไม่ สนใจค่ะ ถูกต้องรึเปล่าค่ะ หรือควรจะทำอย่างไรกรุณาชี้แนะด้วยค่ะ

2. นั่งไปสักพัก จะไม่รู้สึกตัวเหมือนเราหายไป แต่รู้ว่าไม่ได้หลับ สักพักก็กลับมาเหมือนเดิม เหมือนหายไปแปล๊บเดียว แต่ค่อนข้างจะนานค่ะ ควรจะทำอย่างไรหรือปล่อยไปแบบนี้ค่ะรบกวนชี้แนะ ด้วย

ทั้งสองเหตุการณ์ จะไม่เกิดพร้อมกัน ถ้าวันนี้เกิดเหตุการณ์ที่ 1 วันต่อมาก็จะเกิด เหตุการณ์ที่ 2 สลับกันค่ะ หรือบางวันก็ไม่เกิดอาการทั้ง 2 เลยค่ะ

3. เคยนอนหลับตอนกลางวันที่บ้าน แล้วมีความรู้สึกว่าไม่ง่วงไม่นอนละ แล้วก็ลุกขึ้นมาทำอะไรตามปกติ เช่น กวาด บ้าน เดินอยู่ในบ้าน สักพักสะดุ้งตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์แล้วก็งงว่า เมื่อกี้เราไม่ได้หลับนี่ ยังทำอะไรตามปกติอยู่เลย แล้วทำไมมาสะดุ้งตื่นนอนบนที่นอนอย่างนี้

รบกวนผู้รู้ช่วยชี้แนะแนวทางที่ควรจะปฏิบัติต่อไปด้วย
ปกตินั่งสมาธิแบบอานาปานสติอย่างเดียวเลยค่ะ
ก่อนนอนก็จะนอนภาวนาตลอดเลยค่ะ

(คุณเลิฟ เจ พอเข้าใจไหมขอรับ)


ผมจะตอบตามความเห็น ตามที่เข้าใจ

1. ข้อหนึ่งผมไม่เคยพบสภาวะแบบนั้น

2. ข้อสองเคยมีประสบการณ์คล้าย ๆ แต่ไม่ใช่แบบนั้น

3. ข้อสามเผลอสติ จิตไม่หลบในก็ส่งนอก

คำแนะนำไม่ว่าเจอสภาวะอะไร ให้มีสติทำเครื่องระลึกไว้ในใจเยอะ ๆ พระพุทธเจ้า พระธรรมคำสอน ครูอาจารย์ เกิดสภาวะอะไรก็ระลึกจะช่วยให้ไม่สะดุ้งหวั่นไหว เมื่อไหม่หวั่นไหวก็ตั้งมั่น เมื่อตั้งมั่นก็พิจารณาได้ตามเป็นจริง

ประสบการณ์ : ผมนอนแล้วเกิดความคันขึ้นยิบ ๆ ก็เลยเอาความคันตามร่างกายเป็นอารมณ์ ไม่ไปเกา ไม่ไปยุ่งไปรุง คันเกิดขึ้นก็รู้ ตั้งอยู่ก็รู้ ดับไปก็รู้ ย้ายไปเกิดที่ไหม่ก็รู้ ตั้งอยู่ก็รู้ ดับไปก็รู้ ดูไปอย่างนี้นานเท่าไหร่ไม่รู้ ก็เห็นกายนี้โปร่งแสงเห็นความคันนั้นเกิดดับย้ายไปย้ายมาในร่างที่โปร่งแสงนั้น

ก็ดูไปนานเท่าไหร่ไม่รู้กายหายหมด แต่รู้อยู่เห็นอยู่ฉากหลังมืดดำความคันก็ไม่ใช่ความคันปรากฎเป็นแต่เพียงนิมิตแสงให้รู้ความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ดูไปอย่างนี้นานเท่าไหร่ไม่รู้ปรากฏแต่ความดับ เกิดตรงนี้ก็ดับย้ายไปเกิดที่ไหม่ก็ดับ เกิดที่ไหนก็มีแต่ดับ ก็ความตระหนักเห็นโทษในความเกิด ใจก็สรุปว่าเกิดเป็นทุกข์
พอใจสรุปจิตก็สลัด


จิตสลัดแล้วเป็นอะไร เป็นโสดาบัน :b10:


เป็นปัจจัตตังครับ ผมเองยังไม่ใส่ใจใคร่ครวญเลยว่าผมจะเป็นอะไร


อืม มันเป็นยังงี้นี่เอง เป็นปัจจัตตัง :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 46 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 146 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร