ลานธรรมจักร :: แสดงกระทู้ - ความรู้ (ปัญญา) VS ความรู้สึก (ชอบ,ไม่ชอบ)

Rosarin เขียน:

เอ้าคิดตามนะเดี๋ยวนี้กิเลสอยู่ในจิตตนเอง
สภาพธรรมเดี๋ยวนี้ดับนับแสนล้านครั้ง
คิดเองตามที่เห็นนับตรง1คำเลยสติ
ถ้าไม่เพียรฟังคำสอนไปเรื่อยๆ
ก็คิดตามเห็นผิดตลอดเลย
เดี๋ยวนี้แสนล้านครั้ง
ไม่ระลึกตามคำสอน
แปลว่าสะสมอวิชชาแล้ว
เห็นผิดอยู่ไปทำตัวตนที่มีอยู่แล้ว
ให้หลงคิดผิดไปตามเห็นของตนเองผิดไหม
ลืมฟังคำสอนแปลว่าไม่พึ่งคำสอนของพระพุทธเจ้า
ตูจะทำของตูเองตามที่ตูคิดว่าตูทำได้555
แสนล้านครั้งไปทำอะไรก็เป็นมิจฉาไง
ก็ไม่เคยระลึกตามคำสอนเลย
ไปทำรู้สึกตัวทั้งที่เห็นผิดอยู่
แสนล้านครั้งไม่เข้าใจเหรอ
การฟังเท่านั้นที่มีปัญญาเกิดตามหลังกิเลส
ปัญญาแทรกแทนกิเลส1ในแสนล้านขณะนั้นน่ะ

ขออนุญาตถามคุณโรสจริงๆสักทีนะขอรับ จะได้จำไว้เป็นตำรา

ที่คุณโรสคิด- พูด-ทำ - เขียน (ว่าธัมมะก็ธัมมะเอ้า) อยู่เนี่ย ทำไปเพื่อประโยชน์อันใด :b1:

มีอะไรเป็นที่หมายสุดท้ายปลายทางขอรับโผม :b8:

กรัชกาย เขียน:

Rosarin เขียน:

มีอะไรเป็นที่หมายสุดท้ายปลายทางขอรับโผม :b8:

เอ๊าท์ยังไม่เก็ตอีกเหรอ
คำสอนของพระพุทธเจ้า
คือความจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้
ทุกคำในพระไตรปิฎกคือปัจจุบัน
กำลังปรากฏความจริงโดยอนัตตาไง
ไม่มีใครทำสภาพธัมมะที่กำลังเกิดดับเลย
เกิดดับที่พระพุทธเจ้านับโดยละเอียดเดี๋ยวนี้
พระพุทธเจ้าเรียนให้ทราบว่านับได้แสนโกฏิขณะ
ยังไม่คิดตามอีกหรือว่าไม่รู้ว่าดับไปแล้วแสนล้านขณะจิตนั่นน่ะ
จะไปไหนไปทำอะไรก็ตามโดยไม่พึ่งการฟังคำสอนก็คือทำมิจฉามรรค
จะเกิดสัมมามรรคตามคำสอนคือทำสุตมยปัญญาตรงปัจจุบันขณะถ้าไม่ฟังก็ไม่มีปัญญาใหม่เกิดเพิ่มไง
:b12:

เนี่ยยังไม่รู้อีกเหรอว่าการป่าวประกาศความจริงตามคำสอนยิ่งเปิดเผยยิ่งรู่งเรือง
ใครมันนับสิ่งที่กำลังปรากฏว่าเกิดดับไปแล้วถึงแสนล้านขณะตอนลืมตาดูโลกตามปกติได้คะ
แสนล้านขณะเดี๋ยวนี้ที่ไม่เคยนับถูกที่กายใจตัวเองเลยเรียกว่ามีกิเลสอวิชชาปกปิดความจริงเป็นตัวตนไง
:b16:

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

Rosarin เขียน:

มีอะไรเป็นที่หมายสุดท้ายปลายทางขอรับโผม :b8:

จะบรรลุ18อรหันต์ก็นับแสนโกฏิขณะไม่ได้เพราะแสนโกฏิขณะเกิดจากตรัสรู้เป็นทศพลญาณของใครค๊ะะะ

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

Rosarin เขียน:

มีอะไรเป็นที่หมายสุดท้ายปลายทางขอรับโผม :b8:

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

Rosarin เขียน:

มีอะไรเป็นที่หมายสุดท้ายปลายทางขอรับโผม :b8:

พูดให้ฉุกคิดนะ ถ้าพุทธธรรม เป็นอย่างที่คุณโรสพูดคิดเข้าใจนะ พระพุทธศาสนาไม่อยู่จนถึงวันนี้ คือ พ.ศ.๒๕๖๒ ปีหรอก สูญสิ้นไปนานแล้ว

เพราะอะไร? เพราะที่คุณโรสพูดเขียนมานั่นเป็นเรื่องของการจินตนาการทั้งสิ้น สัมผัสถูกต้องอะไรไม่ได้เลย แล้วจะสืบต่อสืบทอดกันยังไง เช่น แสนล้านขณะ แสนโกฎิขณะ
ตัวอย่าง สมมุติคุณโรสตาย ใครจะสืบต่อแสนโกฎิขณะ จะส่งต่อให้ใครยังไง แสนล้านขณะ แสนโกฎิขณะ เคยนึกถึงประเด็นนี้ไหม ถึงว่าไงว่า ถ้าพุทธธรรมเป็นแบบนี้ สูญไปนานแล้ว

ถ้ายังมองไม่ออก คิดไม่ได้ จะยกตัวอยางที่เป็นรูปธรรมมองเห็นสัมผัสได้ เช่น ศาสนานิครนถ์ นักบวชเขาแก้ผ้ากันมาจากรุ่นสู่รุ่น ศาสนาเขาจึงมีอยู่ถึงทุกวันนี้

ถ้าวันหนึ่ง ยุคหนึ่ง เขาฉุกคิดว่า เฮ้ยแก้ผ้านี่ไม่เหมาะไม่ควรแล้ว หันมานุ่งผ้ากัน ศาสนาเขาก็สูญสิ้น :b32:

กรัชกาย เขียน:

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

Rosarin เขียน:

มีอะไรเป็นที่หมายสุดท้ายปลายทางขอรับโผม :b8:

ปัญญาน้อยลงเมื่อพ.ศ.เพิ่มมากขึ้น
พระพุทธศาสนาอันตรธานจากจิต
ของผู้ที่ไม่เคยระลึกตามคำสอน
ตรงสัจจะที่กำลังปรากฏตรงทาง
เดี๋ยวนี้รู้ตรงทางไหนที่กำลังมีล่ะ

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

Rosarin เขียน:

มีอะไรเป็นที่หมายสุดท้ายปลายทางขอรับโผม :b8:

ไปคนละเรื่องเลย

กรัชกาย เขียน:

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

Rosarin เขียน:

มีอะไรเป็นที่หมายสุดท้ายปลายทางขอรับโผม :b8:

ไปคนละเรื่องเลย

โลกมีมาก่อนจะมีพระพุทธศาสนา
ก็ไม่มีใครรู้สิ่งที่กำลังมีจริงๆ
เมื่อมีพระพุทธเจ้า
มาประกาศพระศาสนา
คือประกาศคำสอนคือพูดให้ได้ยิน
คนที่ฟังเท่านั้นถึงจะคิดถูกตามเสียง
ถามหน่อยสิรู้จักไหมองค์ประกอบของได้ยินมีอะไรบ้าง
นั่งคิดตามตัวหนังสือทางตานั่นน่ะหรือคือสุตมยปัญญา555555
:b32:

Rosarin เขียน:

คุณโรสพูดเหมือนว่า คนมีแต่หูอย่างเดียวงั้นแหละ คิกๆๆ เห็นอะกุสๆๆๆ ไม่สะลาสักที

เจ้าของ:	Rosarin [ 28 ก.พ. 2019, 22:21 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: ความรู้ (ปัญญา) VS ความรู้สึก (ชอบ,ไม่ชอบ)
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: เอ้าคิดตามนะเดี๋ยวนี้กิเลสอยู่ในจิตตนเอง สภาพธรรมเดี๋ยวนี้ดับนับแสนล้านครั้ง คิดเองตามที่เห็นนับตรง1คำเลยสติ ถ้าไม่เพียรฟังคำสอนไปเรื่อยๆ ก็คิดตามเห็นผิดตลอดเลย เดี๋ยวนี้แสนล้านครั้ง ไม่ระลึกตามคำสอน แปลว่าสะสมอวิชชาแล้ว เห็นผิดอยู่ไปทำตัวตนที่มีอยู่แล้ว ให้หลงคิดผิดไปตามเห็นของตนเองผิดไหม ลืมฟังคำสอนแปลว่าไม่พึ่งคำสอนของพระพุทธเจ้า ตูจะทำของตูเองตามที่ตูคิดว่าตูทำได้555 แสนล้านครั้งไปทำอะไรก็เป็นมิจฉาไง ก็ไม่เคยระลึกตามคำสอนเลย ไปทำรู้สึกตัวทั้งที่เห็นผิดอยู่ แสนล้านครั้งไม่เข้าใจเหรอ การฟังเท่านั้นที่มีปัญญาเกิดตามหลังกิเลส ปัญญาแทรกแทนกิเลส1ในแสนล้านขณะนั้นน่ะ ขออนุญาตถามคุณโรสจริงๆสักทีนะขอรับ จะได้จำไว้เป็นตำรา ที่คุณโรสคิด- พูด-ทำ - เขียน (ว่าธัมมะก็ธัมมะเอ้า) อยู่เนี่ย ทำไปเพื่อประโยชน์อันใด มีอะไรเป็นที่หมายสุดท้ายปลายทางขอรับโผม เอ๊าท์ยังไม่เก็ตอีกเหรอ คำสอนของพระพุทธเจ้า คือความจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ ทุกคำในพระไตรปิฎกคือปัจจุบัน กำลังปรากฏความจริงโดยอนัตตาไง ไม่มีใครทำสภาพธัมมะที่กำลังเกิดดับเลย เกิดดับที่พระพุทธเจ้านับโดยละเอียดเดี๋ยวนี้ พระพุทธเจ้าเรียนให้ทราบว่านับได้แสนโกฏิขณะ ยังไม่คิดตามอีกหรือว่าไม่รู้ว่าดับไปแล้วแสนล้านขณะจิตนั่นน่ะ จะไปไหนไปทำอะไรก็ตามโดยไม่พึ่งการฟังคำสอนก็คือทำมิจฉามรรค จะเกิดสัมมามรรคตามคำสอนคือทำสุตมยปัญญาตรงปัจจุบันขณะถ้าไม่ฟังก็ไม่มีปัญญาใหม่เกิดเพิ่มไง เนี่ยยังไม่รู้อีกเหรอว่าการป่าวประกาศความจริงตามคำสอนยิ่งเปิดเผยยิ่งรู่งเรือง ใครมันนับสิ่งที่กำลังปรากฏว่าเกิดดับไปแล้วถึงแสนล้านขณะตอนลืมตาดูโลกตามปกติได้คะ แสนล้านขณะเดี๋ยวนี้ที่ไม่เคยนับถูกที่กายใจตัวเองเลยเรียกว่ามีกิเลสอวิชชาปกปิดความจริงเป็นตัวตนไง

เจ้าของ:	Rosarin [ 28 ก.พ. 2019, 22:26 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: ความรู้ (ปัญญา) VS ความรู้สึก (ชอบ,ไม่ชอบ)
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: เอ้าคิดตามนะเดี๋ยวนี้กิเลสอยู่ในจิตตนเอง สภาพธรรมเดี๋ยวนี้ดับนับแสนล้านครั้ง คิดเองตามที่เห็นนับตรง1คำเลยสติ ถ้าไม่เพียรฟังคำสอนไปเรื่อยๆ ก็คิดตามเห็นผิดตลอดเลย เดี๋ยวนี้แสนล้านครั้ง ไม่ระลึกตามคำสอน แปลว่าสะสมอวิชชาแล้ว เห็นผิดอยู่ไปทำตัวตนที่มีอยู่แล้ว ให้หลงคิดผิดไปตามเห็นของตนเองผิดไหม ลืมฟังคำสอนแปลว่าไม่พึ่งคำสอนของพระพุทธเจ้า ตูจะทำของตูเองตามที่ตูคิดว่าตูทำได้555 แสนล้านครั้งไปทำอะไรก็เป็นมิจฉาไง ก็ไม่เคยระลึกตามคำสอนเลย ไปทำรู้สึกตัวทั้งที่เห็นผิดอยู่ แสนล้านครั้งไม่เข้าใจเหรอ การฟังเท่านั้นที่มีปัญญาเกิดตามหลังกิเลส ปัญญาแทรกแทนกิเลส1ในแสนล้านขณะนั้นน่ะ ขออนุญาตถามคุณโรสจริงๆสักทีนะขอรับ จะได้จำไว้เป็นตำรา ที่คุณโรสคิด- พูด-ทำ - เขียน (ว่าธัมมะก็ธัมมะเอ้า) อยู่เนี่ย ทำไปเพื่อประโยชน์อันใด มีอะไรเป็นที่หมายสุดท้ายปลายทางขอรับโผม เอ๊าท์ยังไม่เก็ตอีกเหรอ คำสอนของพระพุทธเจ้า คือความจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ ทุกคำในพระไตรปิฎกคือปัจจุบัน กำลังปรากฏความจริงโดยอนัตตาไง ไม่มีใครทำสภาพธัมมะที่กำลังเกิดดับเลย เกิดดับที่พระพุทธเจ้านับโดยละเอียดเดี๋ยวนี้ พระพุทธเจ้าเรียนให้ทราบว่านับได้แสนโกฏิขณะ ยังไม่คิดตามอีกหรือว่าไม่รู้ว่าดับไปแล้วแสนล้านขณะจิตนั่นน่ะ จะไปไหนไปทำอะไรก็ตามโดยไม่พึ่งการฟังคำสอนก็คือทำมิจฉามรรค จะเกิดสัมมามรรคตามคำสอนคือทำสุตมยปัญญาตรงปัจจุบันขณะถ้าไม่ฟังก็ไม่มีปัญญาใหม่เกิดเพิ่มไง เนี่ยยังไม่รู้อีกเหรอว่าการป่าวประกาศความจริงตามคำสอนยิ่งเปิดเผยยิ่งรู่งเรือง ใครมันนับสิ่งที่กำลังปรากฏว่าเกิดดับไปแล้วถึงแสนล้านขณะตอนลืมตาดูโลกตามปกติได้คะ แสนล้านขณะเดี๋ยวนี้ที่ไม่เคยนับถูกที่กายใจตัวเองเลยเรียกว่ามีกิเลสอวิชชาปกปิดความจริงเป็นตัวตนไง จะบรรลุ18อรหันต์ก็นับแสนโกฏิขณะไม่ได้เพราะแสนโกฏิขณะเกิดจากตรัสรู้เป็นทศพลญาณของใครค๊ะะะ

เจ้าของ:	กรัชกาย [ 01 มี.ค. 2019, 05:24 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: ความรู้ (ปัญญา) VS ความรู้สึก (ชอบ,ไม่ชอบ)
Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: เอ้าคิดตามนะเดี๋ยวนี้กิเลสอยู่ในจิตตนเอง สภาพธรรมเดี๋ยวนี้ดับนับแสนล้านครั้ง คิดเองตามที่เห็นนับตรง1คำเลยสติ ถ้าไม่เพียรฟังคำสอนไปเรื่อยๆ ก็คิดตามเห็นผิดตลอดเลย เดี๋ยวนี้แสนล้านครั้ง ไม่ระลึกตามคำสอน แปลว่าสะสมอวิชชาแล้ว เห็นผิดอยู่ไปทำตัวตนที่มีอยู่แล้ว ให้หลงคิดผิดไปตามเห็นของตนเองผิดไหม ลืมฟังคำสอนแปลว่าไม่พึ่งคำสอนของพระพุทธเจ้า ตูจะทำของตูเองตามที่ตูคิดว่าตูทำได้555 แสนล้านครั้งไปทำอะไรก็เป็นมิจฉาไง ก็ไม่เคยระลึกตามคำสอนเลย ไปทำรู้สึกตัวทั้งที่เห็นผิดอยู่ แสนล้านครั้งไม่เข้าใจเหรอ การฟังเท่านั้นที่มีปัญญาเกิดตามหลังกิเลส ปัญญาแทรกแทนกิเลส1ในแสนล้านขณะนั้นน่ะ ขออนุญาตถามคุณโรสจริงๆสักทีนะขอรับ จะได้จำไว้เป็นตำรา ที่คุณโรสคิด- พูด-ทำ - เขียน (ว่าธัมมะก็ธัมมะเอ้า) อยู่เนี่ย ทำไปเพื่อประโยชน์อันใด มีอะไรเป็นที่หมายสุดท้ายปลายทางขอรับโผม เอ๊าท์ยังไม่เก็ตอีกเหรอ คำสอนของพระพุทธเจ้า คือความจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ ทุกคำในพระไตรปิฎกคือปัจจุบัน กำลังปรากฏความจริงโดยอนัตตาไง ไม่มีใครทำสภาพธัมมะที่กำลังเกิดดับเลย เกิดดับที่พระพุทธเจ้านับโดยละเอียดเดี๋ยวนี้ พระพุทธเจ้าเรียนให้ทราบว่านับได้แสนโกฏิขณะ ยังไม่คิดตามอีกหรือว่าไม่รู้ว่าดับไปแล้วแสนล้านขณะจิตนั่นน่ะ จะไปไหนไปทำอะไรก็ตามโดยไม่พึ่งการฟังคำสอนก็คือทำมิจฉามรรค จะเกิดสัมมามรรคตามคำสอนคือทำสุตมยปัญญาตรงปัจจุบันขณะถ้าไม่ฟังก็ไม่มีปัญญาใหม่เกิดเพิ่มไง เนี่ยยังไม่รู้อีกเหรอว่าการป่าวประกาศความจริงตามคำสอนยิ่งเปิดเผยยิ่งรู่งเรือง ใครมันนับสิ่งที่กำลังปรากฏว่าเกิดดับไปแล้วถึงแสนล้านขณะตอนลืมตาดูโลกตามปกติได้คะ แสนล้านขณะเดี๋ยวนี้ที่ไม่เคยนับถูกที่กายใจตัวเองเลยเรียกว่ามีกิเลสอวิชชาปกปิดความจริงเป็นตัวตนไง จะบรรลุ18อรหันต์ก็นับแสนโกฏิขณะไม่ได้เพราะแสนโกฏิขณะเกิดจากตรัสรู้เป็นทศพลญาณของใครค๊ะะะ อะกุสๆๆๆ บรรลุ อรหันต์ แสนโกฏิขณะตอนลืมตา นี่ออระหัน ไม่ใช่ออเจ้า อรหันต์ตรงใจคุณโรสไหม หาได้แค่ 7 เอง

เจ้าของ:	กรัชกาย [ 01 มี.ค. 2019, 20:08 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: ความรู้ (ปัญญา) VS ความรู้สึก (ชอบ,ไม่ชอบ)
Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: เอ้าคิดตามนะเดี๋ยวนี้กิเลสอยู่ในจิตตนเอง สภาพธรรมเดี๋ยวนี้ดับนับแสนล้านครั้ง คิดเองตามที่เห็นนับตรง1คำเลยสติ ถ้าไม่เพียรฟังคำสอนไปเรื่อยๆ ก็คิดตามเห็นผิดตลอดเลย เดี๋ยวนี้แสนล้านครั้ง ไม่ระลึกตามคำสอน แปลว่าสะสมอวิชชาแล้ว เห็นผิดอยู่ไปทำตัวตนที่มีอยู่แล้ว ให้หลงคิดผิดไปตามเห็นของตนเองผิดไหม ลืมฟังคำสอนแปลว่าไม่พึ่งคำสอนของพระพุทธเจ้า ตูจะทำของตูเองตามที่ตูคิดว่าตูทำได้555 แสนล้านครั้งไปทำอะไรก็เป็นมิจฉาไง ก็ไม่เคยระลึกตามคำสอนเลย ไปทำรู้สึกตัวทั้งที่เห็นผิดอยู่ แสนล้านครั้งไม่เข้าใจเหรอ การฟังเท่านั้นที่มีปัญญาเกิดตามหลังกิเลส ปัญญาแทรกแทนกิเลส1ในแสนล้านขณะนั้นน่ะ ขออนุญาตถามคุณโรสจริงๆสักทีนะขอรับ จะได้จำไว้เป็นตำรา ที่คุณโรสคิด- พูด-ทำ - เขียน (ว่าธัมมะก็ธัมมะเอ้า) อยู่เนี่ย ทำไปเพื่อประโยชน์อันใด มีอะไรเป็นที่หมายสุดท้ายปลายทางขอรับโผม เอ๊าท์ยังไม่เก็ตอีกเหรอ คำสอนของพระพุทธเจ้า คือความจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ ทุกคำในพระไตรปิฎกคือปัจจุบัน กำลังปรากฏความจริงโดยอนัตตาไง ไม่มีใครทำสภาพธัมมะที่กำลังเกิดดับเลย เกิดดับที่พระพุทธเจ้านับโดยละเอียดเดี๋ยวนี้ พระพุทธเจ้าเรียนให้ทราบว่านับได้แสนโกฏิขณะ ยังไม่คิดตามอีกหรือว่าไม่รู้ว่าดับไปแล้วแสนล้านขณะจิตนั่นน่ะ จะไปไหนไปทำอะไรก็ตามโดยไม่พึ่งการฟังคำสอนก็คือทำมิจฉามรรค จะเกิดสัมมามรรคตามคำสอนคือทำสุตมยปัญญาตรงปัจจุบันขณะถ้าไม่ฟังก็ไม่มีปัญญาใหม่เกิดเพิ่มไง เนี่ยยังไม่รู้อีกเหรอว่าการป่าวประกาศความจริงตามคำสอนยิ่งเปิดเผยยิ่งรู่งเรือง ใครมันนับสิ่งที่กำลังปรากฏว่าเกิดดับไปแล้วถึงแสนล้านขณะตอนลืมตาดูโลกตามปกติได้คะ แสนล้านขณะเดี๋ยวนี้ที่ไม่เคยนับถูกที่กายใจตัวเองเลยเรียกว่ามีกิเลสอวิชชาปกปิดความจริงเป็นตัวตนไง จะบรรลุ18อรหันต์ก็นับแสนโกฏิขณะไม่ได้เพราะแสนโกฏิขณะเกิดจากตรัสรู้เป็นทศพลญาณของใครค๊ะะะ พูดให้ฉุกคิดนะ ถ้าพุทธธรรม เป็นอย่างที่คุณโรสพูดคิดเข้าใจนะ พระพุทธศาสนาไม่อยู่จนถึงวันนี้ คือ พ.ศ.๒๕๖๒ ปีหรอก สูญสิ้นไปนานแล้ว เพราะอะไร? เพราะที่คุณโรสพูดเขียนมานั่นเป็นเรื่องของการจินตนาการทั้งสิ้น สัมผัสถูกต้องอะไรไม่ได้เลย แล้วจะสืบต่อสืบทอดกันยังไง เช่น แสนล้านขณะ แสนโกฎิขณะ ตัวอย่าง สมมุติคุณโรสตาย ใครจะสืบต่อแสนโกฎิขณะ จะส่งต่อให้ใครยังไง แสนล้านขณะ แสนโกฎิขณะ เคยนึกถึงประเด็นนี้ไหม ถึงว่าไงว่า ถ้าพุทธธรรมเป็นแบบนี้ สูญไปนานแล้ว ถ้ายังมองไม่ออก คิดไม่ได้ จะยกตัวอยางที่เป็นรูปธรรมมองเห็นสัมผัสได้ เช่น ศาสนานิครนถ์ นักบวชเขาแก้ผ้ากันมาจากรุ่นสู่รุ่น ศาสนาเขาจึงมีอยู่ถึงทุกวันนี้ ถ้าวันหนึ่ง ยุคหนึ่ง เขาฉุกคิดว่า เฮ้ยแก้ผ้านี่ไม่เหมาะไม่ควรแล้ว หันมานุ่งผ้ากัน ศาสนาเขาก็สูญสิ้น

เจ้าของ:	Rosarin [ 01 มี.ค. 2019, 20:59 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: ความรู้ (ปัญญา) VS ความรู้สึก (ชอบ,ไม่ชอบ)
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: เอ้าคิดตามนะเดี๋ยวนี้กิเลสอยู่ในจิตตนเอง สภาพธรรมเดี๋ยวนี้ดับนับแสนล้านครั้ง คิดเองตามที่เห็นนับตรง1คำเลยสติ ถ้าไม่เพียรฟังคำสอนไปเรื่อยๆ ก็คิดตามเห็นผิดตลอดเลย เดี๋ยวนี้แสนล้านครั้ง ไม่ระลึกตามคำสอน แปลว่าสะสมอวิชชาแล้ว เห็นผิดอยู่ไปทำตัวตนที่มีอยู่แล้ว ให้หลงคิดผิดไปตามเห็นของตนเองผิดไหม ลืมฟังคำสอนแปลว่าไม่พึ่งคำสอนของพระพุทธเจ้า ตูจะทำของตูเองตามที่ตูคิดว่าตูทำได้555 แสนล้านครั้งไปทำอะไรก็เป็นมิจฉาไง ก็ไม่เคยระลึกตามคำสอนเลย ไปทำรู้สึกตัวทั้งที่เห็นผิดอยู่ แสนล้านครั้งไม่เข้าใจเหรอ การฟังเท่านั้นที่มีปัญญาเกิดตามหลังกิเลส ปัญญาแทรกแทนกิเลส1ในแสนล้านขณะนั้นน่ะ ขออนุญาตถามคุณโรสจริงๆสักทีนะขอรับ จะได้จำไว้เป็นตำรา ที่คุณโรสคิด- พูด-ทำ - เขียน (ว่าธัมมะก็ธัมมะเอ้า) อยู่เนี่ย ทำไปเพื่อประโยชน์อันใด มีอะไรเป็นที่หมายสุดท้ายปลายทางขอรับโผม เอ๊าท์ยังไม่เก็ตอีกเหรอ คำสอนของพระพุทธเจ้า คือความจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ ทุกคำในพระไตรปิฎกคือปัจจุบัน กำลังปรากฏความจริงโดยอนัตตาไง ไม่มีใครทำสภาพธัมมะที่กำลังเกิดดับเลย เกิดดับที่พระพุทธเจ้านับโดยละเอียดเดี๋ยวนี้ พระพุทธเจ้าเรียนให้ทราบว่านับได้แสนโกฏิขณะ ยังไม่คิดตามอีกหรือว่าไม่รู้ว่าดับไปแล้วแสนล้านขณะจิตนั่นน่ะ จะไปไหนไปทำอะไรก็ตามโดยไม่พึ่งการฟังคำสอนก็คือทำมิจฉามรรค จะเกิดสัมมามรรคตามคำสอนคือทำสุตมยปัญญาตรงปัจจุบันขณะถ้าไม่ฟังก็ไม่มีปัญญาใหม่เกิดเพิ่มไง เนี่ยยังไม่รู้อีกเหรอว่าการป่าวประกาศความจริงตามคำสอนยิ่งเปิดเผยยิ่งรู่งเรือง ใครมันนับสิ่งที่กำลังปรากฏว่าเกิดดับไปแล้วถึงแสนล้านขณะตอนลืมตาดูโลกตามปกติได้คะ แสนล้านขณะเดี๋ยวนี้ที่ไม่เคยนับถูกที่กายใจตัวเองเลยเรียกว่ามีกิเลสอวิชชาปกปิดความจริงเป็นตัวตนไง จะบรรลุ18อรหันต์ก็นับแสนโกฏิขณะไม่ได้เพราะแสนโกฏิขณะเกิดจากตรัสรู้เป็นทศพลญาณของใครค๊ะะะ พูดให้ฉุกคิดนะ ถ้าพุทธธรรม เป็นอย่างที่คุณโรสพูดคิดเข้าใจนะ พระพุทธศาสนาไม่อยู่จนถึงวันนี้ คือ พ.ศ.๒๕๖๒ ปีหรอก สูญสิ้นไปนานแล้ว เพราะอะไร? เพราะที่คุณโรสพูดเขียนมานั่นเป็นเรื่องของการจินตนาการทั้งสิ้น สัมผัสถูกต้องอะไรไม่ได้เลย แล้วจะสืบต่อสืบทอดกันยังไง เช่น แสนล้านขณะ แสนโกฎิขณะ ตัวอย่าง สมมุติคุณโรสตาย ใครจะสืบต่อแสนโกฎิขณะ จะส่งต่อให้ใครยังไง แสนล้านขณะ แสนโกฎิขณะ เคยนึกถึงประเด็นนี้ไหม ถึงว่าไงว่า ถ้าพุทธธรรมเป็นแบบนี้ สูญไปนานแล้ว ถ้ายังมองไม่ออก คิดไม่ได้ จะยกตัวอยางที่เป็นรูปธรรมมองเห็นสัมผัสได้ เช่น ศาสนานิครนถ์ นักบวชเขาแก้ผ้ากันมาจากรุ่นสู่รุ่น ศาสนาเขาจึงมีอยู่ถึงทุกวันนี้ ถ้าวันหนึ่ง ยุคหนึ่ง เขาฉุกคิดว่า เฮ้ยแก้ผ้านี่ไม่เหมาะไม่ควรแล้ว หันมานุ่งผ้ากัน ศาสนาเขาก็สูญสิ้น ปัญญาน้อยลงเมื่อพ.ศ.เพิ่มมากขึ้น พระพุทธศาสนาอันตรธานจากจิต ของผู้ที่ไม่เคยระลึกตามคำสอน ตรงสัจจะที่กำลังปรากฏตรงทาง เดี๋ยวนี้รู้ตรงทางไหนที่กำลังมีล่ะ

ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/

ความรู้ (ปัญญา) VS ความรู้สึก (ชอบ,ไม่ชอบ) http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=57195	หน้า 4 จากทั้งหมด 54

เจ้าของ:	กรัชกาย [ 02 มี.ค. 2019, 05:19 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: ความรู้ (ปัญญา) VS ความรู้สึก (ชอบ,ไม่ชอบ)
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: เอ้าคิดตามนะเดี๋ยวนี้กิเลสอยู่ในจิตตนเอง สภาพธรรมเดี๋ยวนี้ดับนับแสนล้านครั้ง คิดเองตามที่เห็นนับตรง1คำเลยสติ ถ้าไม่เพียรฟังคำสอนไปเรื่อยๆ ก็คิดตามเห็นผิดตลอดเลย เดี๋ยวนี้แสนล้านครั้ง ไม่ระลึกตามคำสอน แปลว่าสะสมอวิชชาแล้ว เห็นผิดอยู่ไปทำตัวตนที่มีอยู่แล้ว ให้หลงคิดผิดไปตามเห็นของตนเองผิดไหม ลืมฟังคำสอนแปลว่าไม่พึ่งคำสอนของพระพุทธเจ้า ตูจะทำของตูเองตามที่ตูคิดว่าตูทำได้555 แสนล้านครั้งไปทำอะไรก็เป็นมิจฉาไง ก็ไม่เคยระลึกตามคำสอนเลย ไปทำรู้สึกตัวทั้งที่เห็นผิดอยู่ แสนล้านครั้งไม่เข้าใจเหรอ การฟังเท่านั้นที่มีปัญญาเกิดตามหลังกิเลส ปัญญาแทรกแทนกิเลส1ในแสนล้านขณะนั้นน่ะ ขออนุญาตถามคุณโรสจริงๆสักทีนะขอรับ จะได้จำไว้เป็นตำรา ที่คุณโรสคิด- พูด-ทำ - เขียน (ว่าธัมมะก็ธัมมะเอ้า) อยู่เนี่ย ทำไปเพื่อประโยชน์อันใด มีอะไรเป็นที่หมายสุดท้ายปลายทางขอรับโผม เอ๊าท์ยังไม่เก็ตอีกเหรอ คำสอนของพระพุทธเจ้า คือความจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ ทุกคำในพระไตรปิฎกคือปัจจุบัน กำลังปรากฏความจริงโดยอนัตตาไง ไม่มีใครทำสภาพธัมมะที่กำลังเกิดดับเลย เกิดดับที่พระพุทธเจ้านับโดยละเอียดเดี๋ยวนี้ พระพุทธเจ้าเรียนให้ทราบว่านับได้แสนโกฏิขณะ ยังไม่คิดตามอีกหรือว่าไม่รู้ว่าดับไปแล้วแสนล้านขณะจิตนั่นน่ะ จะไปไหนไปทำอะไรก็ตามโดยไม่พึ่งการฟังคำสอนก็คือทำมิจฉามรรค จะเกิดสัมมามรรคตามคำสอนคือทำสุตมยปัญญาตรงปัจจุบันขณะถ้าไม่ฟังก็ไม่มีปัญญาใหม่เกิดเพิ่มไง เนี่ยยังไม่รู้อีกเหรอว่าการป่าวประกาศความจริงตามคำสอนยิ่งเปิดเผยยิ่งรู่งเรือง ใครมันนับสิ่งที่กำลังปรากฏว่าเกิดดับไปแล้วถึงแสนล้านขณะตอนลืมตาดูโลกตามปกติได้คะ แสนล้านขณะเดี๋ยวนี้ที่ไม่เคยนับถูกที่กายใจตัวเองเลยเรียกว่ามีกิเลสอวิชชาปกปิดความจริงเป็นตัวตนไง จะบรรลุ18อรหันต์ก็นับแสนโกฏิขณะไม่ได้เพราะแสนโกฏิขณะเกิดจากตรัสรู้เป็นทศพลญาณของใครค๊ะะะ พูดให้ฉุกคิดนะ ถ้าพุทธธรรม เป็นอย่างที่คุณโรสพูดคิดเข้าใจนะ พระพุทธศาสนาไม่อยู่จนถึงวันนี้ คือ พ.ศ.๒๕๖๒ ปีหรอก สูญสิ้นไปนานแล้ว เพราะอะไร? เพราะที่คุณโรสพูดเขียนมานั่นเป็นเรื่องของการจินตนาการทั้งสิ้น สัมผัสถูกต้องอะไรไม่ได้เลย แล้วจะสืบต่อสืบทอดกันยังไง เช่น แสนล้านขณะ แสนโกฎิขณะ ตัวอย่าง สมมุติคุณโรสตาย ใครจะสืบต่อแสนโกฎิขณะ จะส่งต่อให้ใครยังไง แสนล้านขณะ แสนโกฎิขณะ เคยนึกถึงประเด็นนี้ไหม ถึงว่าไงว่า ถ้าพุทธธรรมเป็นแบบนี้ สูญไปนานแล้ว ถ้ายังมองไม่ออก คิดไม่ได้ จะยกตัวอยางที่เป็นรูปธรรมมองเห็นสัมผัสได้ เช่น ศาสนานิครนถ์ นักบวชเขาแก้ผ้ากันมาจากรุ่นสู่รุ่น ศาสนาเขาจึงมีอยู่ถึงทุกวันนี้ ถ้าวันหนึ่ง ยุคหนึ่ง เขาฉุกคิดว่า เฮ้ยแก้ผ้านี่ไม่เหมาะไม่ควรแล้ว หันมานุ่งผ้ากัน ศาสนาเขาก็สูญสิ้น ปัญญาน้อยลงเมื่อพ.ศ.เพิ่มมากขึ้น พระพุทธศาสนาอันตรธานจากจิต ของผู้ที่ไม่เคยระลึกตามคำสอน ตรงสัจจะที่กำลังปรากฏตรงทาง เดี๋ยวนี้รู้ตรงทางไหนที่กำลังมีล่ะ ไปคนละเรื่องเลย

เจ้าของ:	กรัชกาย [ 08 มี.ค. 2019, 10:06 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: ความรู้ (ปัญญา) VS ความรู้สึก (ชอบ,ไม่ชอบ)
"สื่อนอก"มองยุบพรรคทำประเทศไทยตึงเครียดมากขึ้น http://www.komchadluek.net/news/politic ... 40x5d1J0UU ไม่รู้ใครเอาอย่างใครระหว่างเขมรกับไทย https://scontent.fbkk5-6.fna.fbcdn.net/ ... e=5D0D5B13 https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =3&theater

เจ้าของ:	Rosarin [ 08 มี.ค. 2019, 12:47 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: ความรู้ (ปัญญา) VS ความรู้สึก (ชอบ,ไม่ชอบ)
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: เอ้าคิดตามนะเดี๋ยวนี้กิเลสอยู่ในจิตตนเอง สภาพธรรมเดี๋ยวนี้ดับนับแสนล้านครั้ง คิดเองตามที่เห็นนับตรง1คำเลยสติ ถ้าไม่เพียรฟังคำสอนไปเรื่อยๆ ก็คิดตามเห็นผิดตลอดเลย เดี๋ยวนี้แสนล้านครั้ง ไม่ระลึกตามคำสอน แปลว่าสะสมอวิชชาแล้ว เห็นผิดอยู่ไปทำตัวตนที่มีอยู่แล้ว ให้หลงคิดผิดไปตามเห็นของตนเองผิดไหม ลืมฟังคำสอนแปลว่าไม่พึ่งคำสอนของพระพุทธเจ้า ตูจะทำของตูเองตามที่ตูคิดว่าตูทำได้555 แสนล้านครั้งไปทำอะไรก็เป็นมิจฉาไง ก็ไม่เคยระลึกตามคำสอนเลย ไปทำรู้สึกตัวทั้งที่เห็นผิดอยู่ แสนล้านครั้งไม่เข้าใจเหรอ การฟังเท่านั้นที่มีปัญญาเกิดตามหลังกิเลส ปัญญาแทรกแทนกิเลส1ในแสนล้านขณะนั้นน่ะ ขออนุญาตถามคุณโรสจริงๆสักทีนะขอรับ จะได้จำไว้เป็นตำรา ที่คุณโรสคิด- พูด-ทำ - เขียน (ว่าธัมมะก็ธัมมะเอ้า) อยู่เนี่ย ทำไปเพื่อประโยชน์อันใด มีอะไรเป็นที่หมายสุดท้ายปลายทางขอรับโผม เอ๊าท์ยังไม่เก็ตอีกเหรอ คำสอนของพระพุทธเจ้า คือความจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ ทุกคำในพระไตรปิฎกคือปัจจุบัน กำลังปรากฏความจริงโดยอนัตตาไง ไม่มีใครทำสภาพธัมมะที่กำลังเกิดดับเลย เกิดดับที่พระพุทธเจ้านับโดยละเอียดเดี๋ยวนี้ พระพุทธเจ้าเรียนให้ทราบว่านับได้แสนโกฏิขณะ ยังไม่คิดตามอีกหรือว่าไม่รู้ว่าดับไปแล้วแสนล้านขณะจิตนั่นน่ะ จะไปไหนไปทำอะไรก็ตามโดยไม่พึ่งการฟังคำสอนก็คือทำมิจฉามรรค จะเกิดสัมมามรรคตามคำสอนคือทำสุตมยปัญญาตรงปัจจุบันขณะถ้าไม่ฟังก็ไม่มีปัญญาใหม่เกิดเพิ่มไง เนี่ยยังไม่รู้อีกเหรอว่าการป่าวประกาศความจริงตามคำสอนยิ่งเปิดเผยยิ่งรู่งเรือง ใครมันนับสิ่งที่กำลังปรากฏว่าเกิดดับไปแล้วถึงแสนล้านขณะตอนลืมตาดูโลกตามปกติได้คะ แสนล้านขณะเดี๋ยวนี้ที่ไม่เคยนับถูกที่กายใจตัวเองเลยเรียกว่ามีกิเลสอวิชชาปกปิดความจริงเป็นตัวตนไง จะบรรลุ18อรหันต์ก็นับแสนโกฏิขณะไม่ได้เพราะแสนโกฏิขณะเกิดจากตรัสรู้เป็นทศพลญาณของใครค๊ะะะ พูดให้ฉุกคิดนะ ถ้าพุทธธรรม เป็นอย่างที่คุณโรสพูดคิดเข้าใจนะ พระพุทธศาสนาไม่อยู่จนถึงวันนี้ คือ พ.ศ.๒๕๖๒ ปีหรอก สูญสิ้นไปนานแล้ว เพราะอะไร? เพราะที่คุณโรสพูดเขียนมานั่นเป็นเรื่องของการจินตนาการทั้งสิ้น สัมผัสถูกต้องอะไรไม่ได้เลย แล้วจะสืบต่อสืบทอดกันยังไง เช่น แสนล้านขณะ แสนโกฎิขณะ ตัวอย่าง สมมุติคุณโรสตาย ใครจะสืบต่อแสนโกฎิขณะ จะส่งต่อให้ใครยังไง แสนล้านขณะ แสนโกฎิขณะ เคยนึกถึงประเด็นนี้ไหม ถึงว่าไงว่า ถ้าพุทธธรรมเป็นแบบนี้ สูญไปนานแล้ว ถ้ายังมองไม่ออก คิดไม่ได้ จะยกตัวอยางที่เป็นรูปธรรมมองเห็นสัมผัสได้ เช่น ศาสนานิครนถ์ นักบวชเขาแก้ผ้ากันมาจากรุ่นสู่รุ่น ศาสนาเขาจึงมีอยู่ถึงทุกวันนี้ ถ้าวันหนึ่ง ยุคหนึ่ง เขาฉุกคิดว่า เฮ้ยแก้ผ้านี่ไม่เหมาะไม่ควรแล้ว หันมานุ่งผ้ากัน ศาสนาเขาก็สูญสิ้น ปัญญาน้อยลงเมื่อพ.ศ.เพิ่มมากขึ้น พระพุทธศาสนาอันตรธานจากจิต ของผู้ที่ไม่เคยระลึกตามคำสอน ตรงสัจจะที่กำลังปรากฏตรงทาง เดี๋ยวนี้รู้ตรงทางไหนที่กำลังมีล่ะ ไปคนละเรื่องเลย โลกมีมาก่อนจะมีพระพุทธศาสนา ก็ไม่มีใครรู้สิ่งที่กำลังมีจริงๆ เมื่อมีพระพุทธเจ้า มาประกาศพระศาสนา คือประกาศคำสอนคือพูดให้ได้ยิน คนที่ฟังเท่านั้นถึงจะคิดถูกตามเสียง ถามหน่อยสิรู้จักไหมองค์ประกอบของได้ยินมีอะไรบ้าง นั่งคิดตามตัวหนังสือทางตานั่นน่ะหรือคือสุตมยปัญญา555555

เจ้าของ:	โลกสวย [ 08 มี.ค. 2019, 18:36 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: ความรู้ (ปัญญา) VS ความรู้สึก (ชอบ,ไม่ชอบ)
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: เอ้าคิดตามนะเดี๋ยวนี้กิเลสอยู่ในจิตตนเอง สภาพธรรมเดี๋ยวนี้ดับนับแสนล้านครั้ง คิดเองตามที่เห็นนับตรง1คำเลยสติ ถ้าไม่เพียรฟังคำสอนไปเรื่อยๆ ก็คิดตามเห็นผิดตลอดเลย เดี๋ยวนี้แสนล้านครั้ง ไม่ระลึกตามคำสอน แปลว่าสะสมอวิชชาแล้ว เห็นผิดอยู่ไปทำตัวตนที่มีอยู่แล้ว ให้หลงคิดผิดไปตามเห็นของตนเองผิดไหม ลืมฟังคำสอนแปลว่าไม่พึ่งคำสอนของพระพุทธเจ้า ตูจะทำของตูเองตามที่ตูคิดว่าตูทำได้555 แสนล้านครั้งไปทำอะไรก็เป็นมิจฉาไง ก็ไม่เคยระลึกตามคำสอนเลย ไปทำรู้สึกตัวทั้งที่เห็นผิดอยู่ แสนล้านครั้งไม่เข้าใจเหรอ การฟังเท่านั้นที่มีปัญญาเกิดตามหลังกิเลส ปัญญาแทรกแทนกิเลส1ในแสนล้านขณะนั้นน่ะ ขออนุญาตถามคุณโรสจริงๆสักทีนะขอรับ จะได้จำไว้เป็นตำรา ที่คุณโรสคิด- พูด-ทำ - เขียน (ว่าธัมมะก็ธัมมะเอ้า) อยู่เนี่ย ทำไปเพื่อประโยชน์อันใด มีอะไรเป็นที่หมายสุดท้ายปลายทางขอรับโผม เอ๊าท์ยังไม่เก็ตอีกเหรอ คำสอนของพระพุทธเจ้า คือความจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ ทุกคำในพระไตรปิฎกคือปัจจุบัน กำลังปรากฏความจริงโดยอนัตตาไง ไม่มีใครทำสภาพธัมมะที่กำลังเกิดดับเลย เกิดดับที่พระพุทธเจ้านับโดยละเอียดเดี๋ยวนี้ พระพุทธเจ้าเรียนให้ทราบว่านับได้แสนโกฏิขณะ ยังไม่คิดตามอีกหรือว่าไม่รู้ว่าดับไปแล้วแสนล้านขณะจิตนั่นน่ะ จะไปไหนไปทำอะไรก็ตามโดยไม่พึ่งการฟังคำสอนก็คือทำมิจฉามรรค จะเกิดสัมมามรรคตามคำสอนคือทำสุตมยปัญญาตรงปัจจุบันขณะถ้าไม่ฟังก็ไม่มีปัญญาใหม่เกิดเพิ่มไง เนี่ยยังไม่รู้อีกเหรอว่าการป่าวประกาศความจริงตามคำสอนยิ่งเปิดเผยยิ่งรู่งเรือง ใครมันนับสิ่งที่กำลังปรากฏว่าเกิดดับไปแล้วถึงแสนล้านขณะตอนลืมตาดูโลกตามปกติได้คะ แสนล้านขณะเดี๋ยวนี้ที่ไม่เคยนับถูกที่กายใจตัวเองเลยเรียกว่ามีกิเลสอวิชชาปกปิดความจริงเป็นตัวตนไง จะบรรลุ18อรหันต์ก็นับแสนโกฏิขณะไม่ได้เพราะแสนโกฏิขณะเกิดจากตรัสรู้เป็นทศพลญาณของใครค๊ะะะ พูดให้ฉุกคิดนะ ถ้าพุทธธรรม เป็นอย่างที่คุณโรสพูดคิดเข้าใจนะ พระพุทธศาสนาไม่อยู่จนถึงวันนี้ คือ พ.ศ.๒๕๖๒ ปีหรอก สูญสิ้นไปนานแล้ว เพราะอะไร? เพราะที่คุณโรสพูดเขียนมานั่นเป็นเรื่องของการจินตนาการทั้งสิ้น สัมผัสถูกต้องอะไรไม่ได้เลย แล้วจะสืบต่อสืบทอดกันยังไง เช่น แสนล้านขณะ แสนโกฎิขณะ ตัวอย่าง สมมุติคุณโรสตาย ใครจะสืบต่อแสนโกฎิขณะ จะส่งต่อให้ใครยังไง แสนล้านขณะ แสนโกฎิขณะ เคยนึกถึงประเด็นนี้ไหม ถึงว่าไงว่า ถ้าพุทธธรรมเป็นแบบนี้ สูญไปนานแล้ว ถ้ายังมองไม่ออก คิดไม่ได้ จะยกตัวอยางที่เป็นรูปธรรมมองเห็นสัมผัสได้ เช่น ศาสนานิครนถ์ นักบวชเขาแก้ผ้ากันมาจากรุ่นสู่รุ่น ศาสนาเขาจึงมีอยู่ถึงทุกวันนี้ ถ้าวันหนึ่ง ยุคหนึ่ง เขาฉุกคิดว่า เฮ้ยแก้ผ้านี่ไม่เหมาะไม่ควรแล้ว หันมานุ่งผ้ากัน ศาสนาเขาก็สูญสิ้น ปัญญาน้อยลงเมื่อพ.ศ.เพิ่มมากขึ้น พระพุทธศาสนาอันตรธานจากจิต ของผู้ที่ไม่เคยระลึกตามคำสอน ตรงสัจจะที่กำลังปรากฏตรงทาง เดี๋ยวนี้รู้ตรงทางไหนที่กำลังมีล่ะ ไปคนละเรื่องเลย โลกมีมาก่อนจะมีพระพุทธศาสนา ก็ไม่มีใครรู้สิ่งที่กำลังมีจริงๆ เมื่อมีพระพุทธเจ้า มาประกาศพระศาสนา คือประกาศคำสอนคือพูดให้ได้ยิน คนที่ฟังเท่านั้นถึงจะคิดถูกตามเสียง ถามหน่อยสิรู้จักไหมองค์ประกอบของได้ยินมีอะไรบ้าง นั่งคิดตามตัวหนังสือทางตานั่นน่ะหรือคือสุตมยปัญญา555555 คุณยายโรสเข้าใจผิดๆ หล่ะค่ะ เพราะพระพุทธองค์ตรัสว่า โลกที่แท้จริง ที่ปรากฎอยู่ คือ โลกท่างตา ที่กำลัง เห็น โลกทางหู ที่กำลังได้ยิน ..... อย่างนี้เป็นต้น เป็นตัวอย่างค่ะ นี่แหละ สุตมยปัญญาที่แท้จริง แบบเนี๊ยะ ค่ะ เพราะโลกคุณยาย ไม่ตรงตามพระองค์สอน

เจ้าของ:	กรัชกาย [ 08 มี.ค. 2019, 20:47 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: ความรู้ (ปัญญา) VS ความรู้สึก (ชอบ,ไม่ชอบ)
Rosarin เขียน: โลกมีมาก่อนจะมีพระพุทธศาสนา ก็ไม่มีใครรู้สิ่งที่กำลังมีจริงๆ เมื่อมีพระพุทธเจ้า มาประกาศพระศาสนา คือประกาศคำสอนคือพูดให้ได้ยิน คนที่ฟังเท่านั้นถึงจะคิดถูกตามเสียง ถามหน่อยสิรู้จักไหมองค์ประกอบของได้ยินมีอะไรบ้าง นั่งคิดตามตัวหนังสือทางตานั่นน่ะหรือคือสุตมยปัญญา555555 คุณโรสพูดเหมือนว่า คนมีแต่หูอย่างเดียวงั้นแหละ คิกๆๆ เห็นอะกุสๆๆๆ ไม่สะลาสักที

เจ้าของ:	Rosarin [ 08 มี.ค. 2019, 22:39 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: ความรู้ (ปัญญา) VS ความรู้สึก (ชอบ,ไม่ชอบ)
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: โลกมีมาก่อนจะมีพระพุทธศาสนา ก็ไม่มีใครรู้สิ่งที่กำลังมีจริงๆ เมื่อมีพระพุทธเจ้า มาประกาศพระศาสนา คือประกาศคำสอนคือพูดให้ได้ยิน คนที่ฟังเท่านั้นถึงจะคิดถูกตามเสียง ถามหน่อยสิรู้จักไหมองค์ประกอบของได้ยินมีอะไรบ้าง นั่งคิดตามตัวหนังสือทางตานั่นน่ะหรือคือสุตมยปัญญา555555 คุณโรสพูดเหมือนว่า คนมีแต่หูอย่างเดียวงั้นแหละ คิกๆๆ เห็นอะกุสๆๆๆ ไม่สะลาสักที เห็นแต่เพียงสิ่งที่กระทบตาได้เท่านั้นแล้วก็ดับทันที ไม่มีอะไรนอกตาอย่างที่กำลังคิดว่ามีคนสัตว์วัตถุ ตาไม่บอดมองไม่ชัดหรือคะว่ากำลังเห็นผิดอยู่ โลกทางตาไม่มีคิดปนไม่มีเสียงปนมีแค่สีค่ะ ตอนนี้เห็นแล้วคิดนึกรู้สึกเย็นร้อนปนกัน ความเข้าใจถูกตามคำสอนคือฟังเพื่อ เกิดสัมมามรรคตามทีละคำตรงสัจจะที่กำลังปรากฏ

เจ้าของ:	กรัชกาย [ 09 มี.ค. 2019, 21:29 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: ความรู้ (ปัญญา) VS ความรู้สึก (ชอบ,ไม่ชอบ)
10.45 น.คนไทยในมาเลเซีย ร้องเรียนมารอลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าที่สถานทูตไทย ณ.กรุงกัวลาลัมเปอร์จำนวนมาก แต่สถานทูตจัดให้ลงคะแนนแค่ 3 คูหา ต้องรอคิวตั้งแต่ก่อน 8.00 น.จนตอนนี้ คนล้นอยู่ด้านนอก บางคนเป็นลม ขอให้ทางการเร่งแก้ปัญหาด่วน กลัวลงคะแนนไม่ทันจะเสียสิทธิ จากทวิตเตอร์ เหมือนไม่อยากให้มีเลือกตั้ง ปว.หนนี้ ทำให้คนมีสิทธิ์ทั้งไม่มีสิทธิ์เลือกตั้งตื่นตัวกันเยอะ คงรู้สึกเข็ดบ้างเล็กน้อย (แต่ยังเข็ดไม่เท่ากับคนเมียนม่า ) เล่นเอาฝ่าย ผดก. แข็งขาสั่น ยื่นยุบพรรคฝ่าย ปชต. เป็นระวิง ยุบได้พรรคหนึ่งแล้ว ไม่พอ จะเอาอีกสักพรรคสองพรรค ว่า เข้ากับบทเพลงที่ว่า หนึ่งไม่พอเอาสอง สองไม่พอเอาสามสี่ห้า

เจ้าของ:	กรัชกาย [ 10 มี.ค. 2019, 14:04 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: ความรู้ (ปัญญา) VS ความรู้สึก (ชอบ,ไม่ชอบ)
บางคนสละสิทธิ์!! คนไทยในมาเลย์ โวย ‘กกต.’ จัดเลือกตั้งห่วย แฉ คูหาที่ 4 ทำจากลังกระดาษ หลายคนเป็นลมล้มพับ ต้องกลับบ้าน งง!! รู้จำนวนคนลงทะเบียน แต่จัดคูหาน้อย https://www.khaosod.co.th/election-2019/news_2291787 https://scontent.fbkk5-3.fna.fbcdn.net/ ... e=5D0EBC74 https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =3&theater เทียบ รู้จำนวนคนใช้สิทธิ์ แต่พิมพ์บัตรเกินเป็นล้านๆใบ

เจ้าของ:	กรัชกาย [ 10 มี.ค. 2019, 21:18 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: ความรู้ (ปัญญา) VS ความรู้สึก (ชอบ,ไม่ชอบ)
เลือกตั้งไทยล่วงหน้า ที่จีนป่วน บัตรหาย 500 ใบ!! ท้วงไป โดนแย้งแบบนี้ ? https://www.khaosod.co.th/election-2019/news_2294053 สถานกงสุลใหญ่ ณ เซี่ยงไฮ้ ยืนยันไม่มีบัตรเลือกตั้งสูญหายแต่อย่างใด ส่วนนักศึกษาที่โพสต์ข้อความ มีปัญหาเรื่องรับบัตรลงคะแนน ก็ได้รับบัตรเป็นที่เรียบร้อย ด้านโฆษก ก.ต่างประเทศ เผยภาพรวมเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรเป็นไปด้วยความเรียบร้อย https://prachatai.com/journal/2019/03/81441

เจ้าของ:	กรัชกาย [ 13 มี.ค. 2019, 10:14 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: ความรู้ (ปัญญา) VS ความรู้สึก (ชอบ,ไม่ชอบ)
ตอนนี้หลายคนที่เลือกตั้งทางไปรษณีย์ในนิวยอร์กถูกไปรษณีย์ตีกลับ เพราะซองของสถานกงสุลเขียนที่อยู่ไม่ชัดเจน น่าจะหลายคนที่ตั้งใจจะโหวตแต่คะแนนจะไม่ไปถึงสถานกงสุลเพราะซองไปรษณีย์ถูกตีกลับ ยังไม่รวมคนอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับบัตรเลือกตั้ง https://twitter.com/golf_panpan/status/ ... 4533530625 ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ร้องบอกมีปัญหาอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ จนท.ผู้เกี่ยวข้องบอกโนป๋อมแป๋ม ไม่มีปัญหา คิกๆๆ นี่เป็นวิธีการที่จะให้เป็นไปตามแนวที่ตั้งใจกันไว้

หน้า 4 จากทั้งหมด 54	เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/