บางที..ก็ไม่ต้องไป..ฝืน..ความขี้เกียจ..หรอกนะครับ...

เหมือนผม..ในกระทู้.. พุทธะ...กับ สุขภาพของร่างกาย..และโรคภัย



บางที..มันมีเหตุผล...ทำให้เราขี้เกียจ..ครับ

:b8:

ประโยชน์จากการทานข้าวมื้อเดียวผมเห็นดั่งนี้

:b50: ประหยัดเวลา
ประหยัดทรัพย์
ประสุขภาพดีไม่อ้วนเกินไป หากทานพอเหมาะก็ไม่ผอมเกินไป
อายุยืน
ได้สติ
ได้ความอดทนอดกลั้น
ความขยัน หมั่นเพียร ความกล้าหาญ
ไม่ต้องเป็นภาระให้แม่บ้านมาก และคนอื่นมากในเรื่องกิน
มีเวลาว่างเพิ่มขึ้น เมื่อปฏิบัติได้
ได้ปัญญา เพราะรู้เห็นตามความเป็นจริง

ประหยัดเวลา คือ

+ได้จากทานมื้อเดียว
+ได้จากไม่เข้าบ่อย
+ได้จากลดการทำงานในการหาเงิน(เพื่อชื้ออาหาร)
+ได้จากลดเวลาหาอาหารมาทาน
+ได้จากไม่ต้องออกนอกไปหาชื้อเพื่อทาน(สำหรับผู้ไม่ได้ทำทานเอง)
+ได้จากไม่ต้องไปหาหมอหรือชื้อยามาทานบ่อย(เพราะสุขภาพดี)
+ได้จากมิต้องมานั่งคิดว่าจะทานอะไรมาก(เพราะเมื่อหิวทานอะไรก็อร่อย)
+ได้จากมีอายุยืน (ย่อมเพิ่มเวลา)

ยิ่งหิวยิ่งสุขภาพดี อายุยืน ประหยัด มีเวลาว่างมากขึ้น

นั่นแน่ ติดในรส



ผมสงสัย ทานมื้อเดียว "มีเวลาว่างมากขึ้น" เมื่อมีเวลาว่างแล้วเอาเวลาว่างเยอะๆนั่นไปทำอะไร

นอน ทำงาน ฯลฯ

ใครเหรอครับติดในรส

ผมคิดว่าตอบไปแล้วนะครับ หากไม่รู้จะทำอะไรก็เข้า
เว็บธรรมตอบ หรือหาสิ่งดีมาลงให้เพื่อนๆได้อ่าน หรือปฏิบัติ
ธรรม มีมากมายสิ่งที่จะทำ หรือไปวัด ทำบุญให้ทาน มิน่ากัง
วนเรื่องเวลาว่าง หากทำงานเหนื่อยมากก็พักผ่อน หรือหากรู้
สึกว่ายังไหวก็ทำงานเพิ่ม ..........มีแต่คนบนว่าไม่มีเวลาว่าง
กลัวไม่มีเวลาว่าง แต่พี่กับกลัวเวลาว่าง แปลกดี

:b8:

ในส่วนของเรื่องอายุยืนนั้น ดั่งผู้เขียนหนังสือก็ยกตัว
อย่างและทดลอง แต่ผมจะของเพิ่ม คือให้ดูอย่างเครื่องใช้
ไฟฟ้า หรือรถยนต์ เมื่อใช้งานมากย่อมจะมีอายุสั้นคือเสียหาย
มาก เช่นเดียวกับคนเรา เมื่อทานมากอวัยวะข้างในทำงานมาก

และหนักเกินไปย่อมจะเสื่อมเร็วขึ้น ทั้งยุคปัจจุบันอาหารมีสาเค
มีมาก มีพิษ และสิ่งแปลกปลอมมาก ทานมากก็เสี่ยงต่ออันตราย
มากเช่นกัน บางคนกินดื่มแทบทั้งวันโดยเฉพาะนักดื่มเหล้าเบียร์
ทั้งหลาย เดียวนี้เห็นหลายที่กินกันแต่วันนี้จนสว่างวันต่อไปเลย

กินดื่มมากแต่ออกกำลังน้อยก็ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างได้
ได้ง่าย

:b8:

ในส่วนของเรื่องอายุยืนนั้น ดั่งผู้เขียนหนังสือก็ยกตัว
อย่างและทดลอง แต่ผมจะของเพิ่ม คือให้ดูอย่างเครื่องใช้
ไฟฟ้า หรือรถยนต์ เมื่อใช้งานมากย่อมจะมีอายุสั้นคือเสียหาย
มาก เช่นเดียวกับคนเรา เมื่อทานมากอวัยวะข้างในทำงานมาก

และหนักเกินไปย่อมจะเสื่อมเร็วขึ้น ทั้งยุคปัจจุบันอาหารมีสาเค
มีมาก มีพิษ และสิ่งแปลกปลอมมาก ทานมากก็เสี่ยงต่ออันตราย
มากเช่นกัน บางคนกินดื่มแทบทั้งวันโดยเฉพาะนักดื่มเหล้าเบียร์
ทั้งหลาย เดียวนี้เห็นหลายที่กินกันแต่วันนี้จนสว่างวันต่อไปเลย

กินดื่มมากแต่ออกกำลังน้อยก็ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างได้
ได้ง่าย

เป็นฆราวาส ซึ่งต้องทำงานใช้แรงใช้กำลังซึ่งต้องใช้พลังงานมาก มื้อเดียวไม่น้อยไปรึ

บทนนำ
การมีสุขภาพดีเป็นสิ่งที่มนุษย์ทั่วไปพึงปราถนา แต่นั่นก็มิได้หมายความว่า
การมีสุขดีของแต่ละคนจะมีความหมายเหมือนกัน สุขภาพดีอาจแปลได้หลาย
ความหมาย ตั้งแต่การไม่โรค หุ่นดี ไม่มีหน้าท้อง ระบบขับถ่ายดี ฯลฯ แม้ว่า
ความหมายเหล่านั้น จะเกี่ยวข้องกับร่างกายเช่นกัน แต่ขอบเขตความหมายของ
แต่ละคำ ก็ไม่ลงรอยกัน และแทนกันไม่ได้ สุขภาพดีจึงเป็นคำทีมีนัยเชิงอุดมคติ
ในขณะเดียวกัน ก็คลุมเครือไม่ชัดเจน ทั้งนี้อาจสืบเนื่องมาจากความไม่ชัดเจนเป็น
คุณสมบัติประการหนึ่งของอุดมคติด้วยนั่นเอง

ทางไปสู่สุขภาพดีได้นั้นมาหลายประการ บางคนที่มีวินัยหรือมีความเพียรสูงก็จะออก
กำลังกายหรือใช้การคำนวนแคลอรี่เพื่อจำกัดอาหารในแต่ละมื้อ บางคนอาจหันไปใช้
ทางลัดชึ่งก็คืออาหารเสริมหลายรูปแบบชึ่งมีวางขายอยู่เป็นจำนวนมาก เราอาจได้ยินกัน
มาแต่เดิมว่าหากปล่อยให้ท้องหิวแล้ว อาจเกิดกรดไหลย้อนหรือหน้ามืดชึ่งมีผลแต่ร่างกาย
แต่ใครจะเชื่อว่าคนที่ปล่อยตัวเองให้ท้องหิวนั้นจะสุขภาพดีได้ ชาวบ้านทั่วไปอย่างผู้วิจารณ์
ชึ่งไม่ได้มีความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ดี จึงสนใจใคร่รู้ว่าถ้าปล่อยท้องให้หิวแล้วจะสุขภาพดีได้
อย่างไร

ถามแบบนี้คงยังอ่านหนังสือ ยังไม่จบสินะครับ
หมอเขาก็เป็นฆราวาส นี่ครับ การลดก็ควรค่อยๆทำ
ไปครับมิใช่ให้ทำแบบกระทันหัน จะไม่อันตราย

หมายถึงคนทำงาน ไม่ใช่คนเขียนหนังสือ เออ ถ้าเป็นนักบวชภิกษุ สามเณร กินมื้อเดียวพอได้ เพราะมิได้ออกแรงทำงานหนักหนาอะไรนัก มื้อเดียวพออยู่ได้ แต่โดยทั่วไปก็กินสองมื้อ

ก็แล้วแต่เห็นว่า อย่างไหนอะไรที่เหมาะสม
สำหรับแต่ละคน ว่าจะลดได้แค่ไหน ควรแค่ไหน
จะให้กำหนดตายตัวคงทำได้ยาก ตนแลเพิ่งรู้ตัวเอง
ค่อยปรับเอา หากน้อยไปก็ทานเพิ่ม หรือหากมากไป
ก็ลดลงอีก

“ยิ่งหิว ยิ่งสุขภาพดี” เป็นหนังสือแปลที่พิมพ์ออกมาเมื่อปลายปี พ.ศ.25 ผู้เขียนคือ นายแพทย์โยะชิโนะริ นะงุโมะ ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญการผ่าตัดมะเร เต้านมซึ่งเป็นอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับความสวยงาม ดังนั้นการมีสุขภาพดีตา ความเห็นของผู้เขียนหนังสือเล่มนี้จึงเกี่ยวข้องกับความงามด้วย (โยะชิโนะริ นะงุโ 2558 : 203) มิใช่เพียงสุขภาพร่างกายแข็งแรงไม่เจ็บป่วยเท่านั้น แต่ความสวยงาม ในที่นี้ถือว่าเป็นผลพลอยได้ มิใช่ประเด็นหลักที่หนังสือนี้ต้องการน ำเสน น่าสนใจก็คือ แม้ผู้เขียนจะไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์หรือนักโภชนาการ แต่ประวั การศึกษาและการท ำงานทางด้านการแพทย์คือ ต ำแหน่งหน้าที่ของผู้เขียนที่เป็ ผู้อ ำนวยการโรงพยาบาลถึง 4 แห่งในประเทศญี่ปุ่นก็ท ำให้หนังสือเล่มนี้ ความน่าเชื่อถืออยู่มาก สอดคล้องกับค่านิยมในสังคมไทยทั่วไปว่าแพทย์เป็นผ ผู้เชี่ยวชาญ ดังจะเห็นได้จากโฆษณาหลายชิ้นที่เราคุ้นเคย กล่าวคือ เราจะรู้สึ

“ยิ่งหิว ยิ่งสุขภาพดี” เป็นหนังสือแปลที่พิมพ์ออกมาเมื่อปลายปี พ.ศ.25 ผู้เขียนคือ นายแพทย์โยะชิโนะริ นะงุโมะ ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญการผ่าตัดมะเร เต้านมซึ่งเป็นอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับความสวยงาม ดังนั้นการมีสุขภาพดีตา ความเห็นของผู้เขียนหนังสือเล่มนี้จึงเกี่ยวข้องกับความงามด้วย (โยะชิโนะริ นะงุโ 2558 : 203) มิใช่เพียงสุขภาพร่างกายแข็งแรงไม่เจ็บป่วยเท่านั้น แต่ความสวยงาม ในที่นี้ถือว่าเป็นผลพลอยได้ มิใช่ประเด็นหลักที่หนังสือนี้ต้องการน ำเสน น่าสนใจก็คือ แม้ผู้เขียนจะไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์หรือนักโภชนาการ แต่ประวั การศึกษาและการท ำงานทางด้านการแพทย์คือ ต ำแหน่งหน้าที่ของผู้เขียนที่เป็ ผู้อ ำนวยการโรงพยาบาลถึง 4 แห่งในประเทศญี่ปุ่นก็ท ำให้หนังสือเล่มนี้ ความน่าเชื่อถืออยู่มาก สอดคล้องกับค่านิยมในสังคมไทยทั่วไปว่าแพทย์เป็นผ ผู้เชี่ยวชาญ ดังจะเห็นได้จากโฆษณาหลายชิ้นที่เราคุ้นเคย กล่าวคือ เราจะรู้สึ