ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

กรณีปัญหาฝุ่นพิษ วิเคราะห์หาสาเหตุและทางแก้ไขร่วมกัน
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=57008
หน้า 2 จากทั้งหมด 7

เจ้าของ:  sssboun [ 16 ม.ค. 2019, 20:52 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรณีปัญหาฝุ่นพิษ วิเคราะห์หาสาเหตุและทางแก้ไขร่วมกัน

:b8:

รอ ๓ ปี ชีวีคงดับไปหลายราย ตายกันเป็นจำนวนมากแน่

สร้างสิ่งหนึ่งได้ต้องทำลายอีกสิ่งนั้นก็คือชีวิต ชีวิตหนึ่งก็สร้าง
กันไม่ได้ ชื้อก็ไม่ได้ และกว่าจะเลี้ยงจนเติบโตมาเป็นหนุ่มเป็นสาว
ลูกใครหลานใครๆก็รัก เอาใจเขามาใส่ใจเราบ้างก็จะรู้ดี

:b8:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 17 ม.ค. 2019, 18:24 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรณีปัญหาฝุ่นพิษ วิเคราะห์หาสาเหตุและทางแก้ไขร่วมกัน

เผยต้นตอฝุ่นพิษ PM2.5 กว่า 35% มาจากการเผาชีวมวล ด้านเพจกฎหมายเผย คสช. ใช้ ม.44 ฉีกผังเมือง เปิดทางโรงงานเผาขยะผุดเกือบ 2 เท่า ใน 1 ปี

กรมควบคุมมลพิษ เผยถึงต้นตอปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM2.5) เกินค่ามาตรฐาน ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ในปัจจุบัน พบว่ามาจาก 5 ปัจจัยหลักประกอบด้วย

1. การเผาชีวมวล ซึ่งหมายถึงการเผาขยะ การเผาเศษไม้ การเผาเศษพืชต่าง ๆ ซึ่งในช่วงฤดูร้อนปี 2560 ที่มีการศึกษา การเผาชีวมวลนี้เป็นแหล่งที่มาของ PM2.5 ในอากาศถึง 35.5%

2. ไอเสียดีเซล ซึ่งเกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซล ซึ่งเป็นที่มาของฝุ่น PM2.5 ถึง 20.8%

3. ฝุ่นทุติยภูมิ ซึ่งรายงานฉบับดังกล่าวระบุว่าหมายถึง ฝุ่นที่เกิดจากปฏิกิริยารวมกันของไอเสียรถยนต์และแอมโมเนียจากปุ๋ยที่ใช้ในเกษตรกรรม ซึ่งเป็นที่มาของฝุ่น PM2.5 ถึง 15.8%

4. กิจกรรมจากโรงงานและฝุ่นดิน เป็นที่มาของฝุ่น PM2.5 รวมกัน 7.5%

5. กิจกรรมอื่น ๆ ซึ่งในรายงานไม่ได้ระบุว่ามาจากแหล่งไหนบ้าง เป็นที่มาของฝุ่น PM2.5 ทั้งสิ้น 20.4%

https://hilight.kapook.com/view/182749? ... XSaMBNZGQI

ม.44 ใช้แต่งตั้งคนนั้นคนนี้เข้ามา ปลดคนนั้นคนนี้ออกไป ได้ตามอำเภอใจ ไม่ต้องรับผิดแต่อย่างใด ตย. เช่น แต่งตั้งผู้ว่า กทม. คนปัจจุบันเข้ามา ปลดผู้ว่าคนก่อนออกไป แต่งตั้งนายกพัทยาคนปัจจุบันเข้ามา ปลดคนเก่าออกไป ที่เจ๋งสุดๆ คือ ปิดล้อมวัดแถวๆคลองหลวง ปทุม เป็นเดือนๆ ฯลฯ

เจ้าของ:  sssboun [ 17 ม.ค. 2019, 21:22 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรณีปัญหาฝุ่นพิษ วิเคราะห์หาสาเหตุและทางแก้ไขร่วมกัน

:b8:

ปัญหาทั้งหมดก็ล้วนเกิดจากความอยากที่ไม่เคยพอ
ของคนเรานี้เอง หากจะแก้ไขกันจริงๆก็ต้องหันกลับมา
แก้ที่ใจ ลดความอยากลง เมื่อความอยากลดลงปัญหาก็
ย่อมจะลดลงด้วยแน่นอน เมื่อสิ่งหนึ่งดับสิ่งหนึ่งก็ย่อมดับ

:b8:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 20 ม.ค. 2019, 14:04 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรณีปัญหาฝุ่นพิษ วิเคราะห์หาสาเหตุและทางแก้ไขร่วมกัน

ดม ‘ฝุ่น’ มากเสี่ยงนกเขาไม่ขัน

ด้านนพ.วิทวัส ศิริประชัย อดีตแพทย์รพ.เกาะลันตา จ.กระบี่ เพจ Kapooman ระบุว่า เรื่องฝุ่นควันอนุภาคขนาดโคตรเล็ก PM 2.5 ที่กำลังลอยฟุ้งทั่วเมืองหลวงในเวลานี้ นอกจากผลต่อปอดแล้ว รู้หรือไม่ว่ามันยังมีผลต่อหลอดเลือด และหัวใจโดยตรงด้วย โดยการสัมผัสสูดดมฝุ่นควัน PM 2.5 เข้าไป จะทำให้ การเสื่อมสภาพของเส้นเลือด จนเส้นเลือดเปราะแข็งหรือตีบตันเกิดไวขึ้น

ซึ่งมีงานวิจัยชัดเจนละ ว่าคนที่สัมผัส PM 2.5 เยอะๆจะเป็นโรคหัวใจ โรคเส้นเลือดในสมอง สูงกว่าคนที่ไม่ได้สัมผัสเยอะมาก

เรื่องกระปู๋นี่ก็เหมือนกัน เพราะการที่กระปู๋จะแข็งตัวได้ มันเกี่ยวข้องกับเส้นเลือด ถ้าเส้นเลือดมีปัญหา เช่น คนที่เป็นเบาหวานเยอะๆคุมไม่อยู่แล้วเส้นเลือดเริ่มเสื่อม ก็จะมีปัญหากระปู๋ไม่แข็งตัวได้ เลยมีนักวิจัยเขาไปวิจัยกันว่า การสัมผัสกับ PM 2.5 เข้าไปมันจะมีผลต่อการแข็งตัวของกระปู๋รึไม่

เบื้องต้นพบว่า การสัมผัสมลภาวะทางอากาศ แบบ PM 2.5 มีแนวโน้มว่าจะมีความสัมพันธ์กับภาวะนกเขาไม่ขัน ตอนนี้นักวิจัยเขากำลังไปวิจัยกันเพิ่มเติมเพื่อหาความสัมพันธ์กันแบบชัดๆอยู่ แต่ยังไงก็เตือนๆกันไว้ รีบแก้ไขปัญหา PM 2.5 ให้ไวๆ ก่อนที่คนกรุงจะนกเขาไม่ขันกันหมดนะแจ๊ะ

https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_2085082

เรื่องใหญ่เบย จขกท. :b32:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 20 ม.ค. 2019, 14:04 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรณีปัญหาฝุ่นพิษ วิเคราะห์หาสาเหตุและทางแก้ไขร่วมกัน

ดม ‘ฝุ่น’ มากเสี่ยงนกเขาไม่ขัน

ด้านนพ.วิทวัส ศิริประชัย อดีตแพทย์รพ.เกาะลันตา จ.กระบี่ เพจ Kapooman ระบุว่า เรื่องฝุ่นควันอนุภาคขนาดโคตรเล็ก PM 2.5 ที่กำลังลอยฟุ้งทั่วเมืองหลวงในเวลานี้
นอกจากผลต่อปอดแล้ว รู้หรือไม่ว่ามันยังมีผลต่อหลอดเลือด และหัวใจโดยตรงด้วย โดยการสัมผัสสูดดมฝุ่นควัน PM 2.5 เข้าไป จะทำให้ การเสื่อมสภาพของเส้นเลือด จนเส้นเลือดเปราะแข็งหรือตีบตันเกิดไวขึ้น

ซึ่งมีงานวิจัยชัดเจนละ ว่าคนที่สัมผัส PM 2.5 เยอะๆจะเป็นโรคหัวใจ โรคเส้นเลือดในสมอง สูงกว่าคนที่ไม่ได้สัมผัสเยอะมาก

เรื่องกระปู๋นี่ก็เหมือนกัน เพราะการที่กระปู๋จะแข็งตัวได้ มันเกี่ยวข้องกับเส้นเลือด
ถ้าเส้นเลือดมีปัญหา เช่น คนที่เป็นเบาหวานเยอะๆคุมไม่อยู่แล้วเส้นเลือดเริ่มเสื่อม ก็จะมีปัญหากระปู๋ไม่แข็งตัวได้ เลยมีนักวิจัยเขาไปวิจัยกันว่า การสัมผัสกับ PM 2.5 เข้าไปมันจะมีผลต่อการแข็งตัวของกระปู๋รึไม่

เบื้องต้นพบว่า การสัมผัสมลภาวะทางอากาศ แบบ PM 2.5 มีแนวโน้มว่าจะมีความสัมพันธ์กับภาวะนกเขาไม่ขัน ตอนนี้นักวิจัยเขากำลังไปวิจัยกันเพิ่มเติมเพื่อหาความสัมพันธ์กันแบบชัดๆอยู่
แต่ยังไงก็เตือนๆกันไว้ รีบแก้ไขปัญหา PM 2.5 ให้ไวๆ ก่อนที่คนกรุงจะนกเขาไม่ขันกันหมดนะแจ๊ะ

https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_2085082

เรื่องใหญ่เบย จขกท. :b32:

เจ้าของ:  แค่อากาศ [ 20 ม.ค. 2019, 14:58 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรณีปัญหาฝุ่นพิษ วิเคราะห์หาสาเหตุและทางแก้ไขร่วมกัน

กรัชกาย เขียน:
ดม ‘ฝุ่น’ มากเสี่ยงนกเขาไม่ขัน

ด้านนพ.วิทวัส ศิริประชัย อดีตแพทย์รพ.เกาะลันตา จ.กระบี่ เพจ Kapooman ระบุว่า เรื่องฝุ่นควันอนุภาคขนาดโคตรเล็ก PM 2.5 ที่กำลังลอยฟุ้งทั่วเมืองหลวงในเวลานี้
นอกจากผลต่อปอดแล้ว รู้หรือไม่ว่ามันยังมีผลต่อหลอดเลือด และหัวใจโดยตรงด้วย โดยการสัมผัสสูดดมฝุ่นควัน PM 2.5 เข้าไป จะทำให้ การเสื่อมสภาพของเส้นเลือด จนเส้นเลือดเปราะแข็งหรือตีบตันเกิดไวขึ้น

ซึ่งมีงานวิจัยชัดเจนละ ว่าคนที่สัมผัส PM 2.5 เยอะๆจะเป็นโรคหัวใจ โรคเส้นเลือดในสมอง สูงกว่าคนที่ไม่ได้สัมผัสเยอะมาก

เรื่องกระปู๋นี่ก็เหมือนกัน เพราะการที่กระปู๋จะแข็งตัวได้ มันเกี่ยวข้องกับเส้นเลือด
ถ้าเส้นเลือดมีปัญหา เช่น คนที่เป็นเบาหวานเยอะๆคุมไม่อยู่แล้วเส้นเลือดเริ่มเสื่อม ก็จะมีปัญหากระปู๋ไม่แข็งตัวได้ เลยมีนักวิจัยเขาไปวิจัยกันว่า การสัมผัสกับ PM 2.5 เข้าไปมันจะมีผลต่อการแข็งตัวของกระปู๋รึไม่

เบื้องต้นพบว่า การสัมผัสมลภาวะทางอากาศ แบบ PM 2.5 มีแนวโน้มว่าจะมีความสัมพันธ์กับภาวะนกเขาไม่ขัน ตอนนี้นักวิจัยเขากำลังไปวิจัยกันเพิ่มเติมเพื่อหาความสัมพันธ์กันแบบชัดๆอยู่
แต่ยังไงก็เตือนๆกันไว้ รีบแก้ไขปัญหา PM 2.5 ให้ไวๆ ก่อนที่คนกรุงจะนกเขาไม่ขันกันหมดนะแจ๊ะ

https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_2085082

เรื่องใหญ่เบย จขกท. :b32:



โอ้ว พระเจ้าจอร์จ ไม่นะไม่ แย่แล้วสิ :b19: :b19: :b19:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 21 ม.ค. 2019, 10:38 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรณีปัญหาฝุ่นพิษ วิเคราะห์หาสาเหตุและทางแก้ไขร่วมกัน

ดูหลายวิธี ในเมื่อไม่เอาแบบนั้นก็ ก็เอาอย่างนี้

ฯลฯ

ที่ปักกิ่ง เมืองเค้าเป็นแอ่ง เวลามีมลภาวะเนี่ย มีแล้วจะอยู่นานออกไปได้ยาก เค้าก็หาสาเหตุว่าเกิดจากอะไรบ้าง แน่นอนสาเหตุหนึ่งก็เกิดจากรถติด รถเยอะ และเครื่องยนต์ดีเซลทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเค้าเคยมีโรงไฟฟ้าที่ใช้พลังงานถ่านหินอยู่รอบเมืองปักกิ่ง ตอนหลังเค้าก็ยกเลิก และก็ไปใช้พลังงานอื่นที่สะอาด แล้วก็มีโรงงานอุตสาหกรรมรอบเมืองปักกิ่ง เค้าก็จับย้ายหมด

ส่วนเรื่องของปัญหาด้านรถยนต์ของเค้า เค้าก็มีนโยบายเลยว่า ภายใน 5-6 ปีข้างหน้า รถที่จะวิ่งในปักกิ่งต้องเป็นรถไฟฟ้าเท่านั้น และเค้าก็ถือโอกาสเอาวิกฤตนี้ มาส่งเสริมอุตสาหกรรมทำรถไฟฟ้าอย่างเป็นเรื่องเป็นราว เค้ามองถึงเรื่องแบตเตอรี่ เรื่องของที่ชาร์จ และจะเติมพลังไฟฟ้าอย่างไร

เวลารถวิ่งไปแล้วต้องชาร์จไฟยังไง เค้าทำแม้กระทั่งว่า บางที่เนี่ยมีเทคโนโลยีที่สามารถทำเหมือนพาวเวอร์แบงค์ เอารถไปจอด ลงไปเข้าห้องน้ำ กินน้ำสักแก้ว กลับมาวิ่งต่อได้เลยโดยไม่ต้องเสียบปลั๊ก เค้าใช้เป็นลักษณะของ Induction หรือว่าการเหนี่ยวนำ เค้าก็คิดไปเยอะแล้ว ส่งเสริมให้มีการผลิตอุตสาหกรรมไฟฟ้ามากขึ้น จริงจังขึ้น อันนี้ก็เป็นการถือเอาวิกฤตเป็นโอกาส


ดูไบที่ผมอยู่เนี่ย ถึงแม้จะมีฝุ่นเป็นอันดับ 10 ของโลก สิ่งที่ผมเห็นการเปลี่ยนแปลง คือ ฝุ่นดูไบเกิดจากพายุทะเลทราย ที่นี่เค้าไม่ค่อยมีรถดีเซล เค้าไม่ส่งเสริมรถดีเซลเลย แล้วก็ฝุ่นมันเยอะจากทะเลทราย แต่เค้าขยันปลูกต้นไม้ครับ ต้นไม้ที่นี่มาจากเมืองไทยแทบทั้งนั้น แถวบ้านผมมีสะเดา พวกแม่บ้านผมชอบไปเก็บสะเดามากินกับน้ำปลาหวานเรื่อย มีต้นปีบ มีเฟื่องฟ้า ต้นไม้พวกนี้เค้าซื้อมาจากไทยมาปลูก

เดี๋ยวนี้ต้นไม้ที่นี่เขียวชอุ่ม เขียวเยอะเลย จนเมื่อก่อนจากไม่มีฝน ตอนนี้มีฝนเรื่อยๆ แต่ไม่ได้มากเหมือนทางบ้านเรา แต่ว่าก็มีฝน เพราะว่าความชุมชื้นเกิดจากการที่เค้ามีต้นไม้มากขึ้นทุกวัน


ก็เป็นห่วงอยากให้กรุงเทพฯรักษาต้นไม้หรือเพิ่มต้นไม้หน่อย ถ้าไม่งั้นก็ต้องไปเพิ่มทาวเวอร์ไว้เพื่อขจัดมลพิษเหมือนที่ฮ่องกงทำ เพราะฉะนั้นประเทศเราเป็นประเทศที่ปลูกต้นไม้ได้ แต่วันนี้เราปลูกตึกจนทิ้งต้นไม้หมด

https://www.khaosod.co.th/politics/news_2114137

:b32: มีคนเคยพูดได้ยินหลายครั้งแล้ว ว่าแผ่นดินไทยเรามีทรัพยากรธรรมชาติทุกอย่าง แต่เสียอย่างเดียว คือ มีคนไทยอยู่

จริงไม่จริงคิดดู

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 21 ม.ค. 2019, 11:17 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรณีปัญหาฝุ่นพิษ วิเคราะห์หาสาเหตุและทางแก้ไขร่วมกัน

ประกาศกรมควบคุมมลพิษ ชี้ ‘ฝุ่นเกินค่ามาตรฐาน’ อยู่ในระดับ เริ่มมีผลต่อสุขภาพ

กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล มีค่าฝุ่นอยู่ที่ 52-83 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ซึ่งค่าฝุ่นตามมาตรฐานอยู่ที่ 50 มคก./ลบ.ม. คุณภาพอากาศอยู่ในระดับ คุณภาพปานกลางถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยพื้นที่ที่ตรวจพบค่าฝุ่นเกินมาตรฐานได้แก่ บริเวณริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ, แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ, แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ, แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ, ริมถนนพระราม 4 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ, ริมถนนอินทรพิทักษ์ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ, ริมถนนลาดพร้าว เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ, ริมถนนดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ, แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ, แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ,

https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_2114092

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 21 ม.ค. 2019, 11:29 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรณีปัญหาฝุ่นพิษ วิเคราะห์หาสาเหตุและทางแก้ไขร่วมกัน

‘อ.เจษฎา’ บอก ฟังแบบคนมีอคติ ยังทึ่ง ชี้ ‘ทักษิณ’ จับประเด็นฝุ่น 2.5 ได้ดี


รูปภาพ

https://www.matichon.co.th/politics/new ... oIy9IWW8e4

เจ้าของ:  sssboun [ 21 ม.ค. 2019, 17:31 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรณีปัญหาฝุ่นพิษ วิเคราะห์หาสาเหตุและทางแก้ไขร่วมกัน

กรัชกาย เขียน:
ดูหลายวิธี ในเมื่อไม่เอาแบบนั้นก็ ก็เอาอย่างนี้

ฯลฯ

ที่ปักกิ่ง เมืองเค้าเป็นแอ่ง เวลามีมลภาวะเนี่ย มีแล้วจะอยู่นานออกไปได้ยาก เค้าก็หาสาเหตุว่าเกิดจากอะไรบ้าง แน่นอนสาเหตุหนึ่งก็เกิดจากรถติด รถเยอะ และเครื่องยนต์ดีเซลทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเค้าเคยมีโรงไฟฟ้าที่ใช้พลังงานถ่านหินอยู่รอบเมืองปักกิ่ง ตอนหลังเค้าก็ยกเลิก และก็ไปใช้พลังงานอื่นที่สะอาด แล้วก็มีโรงงานอุตสาหกรรมรอบเมืองปักกิ่ง เค้าก็จับย้ายหมด

ส่วนเรื่องของปัญหาด้านรถยนต์ของเค้า เค้าก็มีนโยบายเลยว่า ภายใน 5-6 ปีข้างหน้า รถที่จะวิ่งในปักกิ่งต้องเป็นรถไฟฟ้าเท่านั้น และเค้าก็ถือโอกาสเอาวิกฤตนี้ มาส่งเสริมอุตสาหกรรมทำรถไฟฟ้าอย่างเป็นเรื่องเป็นราว เค้ามองถึงเรื่องแบตเตอรี่ เรื่องของที่ชาร์จ และจะเติมพลังไฟฟ้าอย่างไร

เวลารถวิ่งไปแล้วต้องชาร์จไฟยังไง เค้าทำแม้กระทั่งว่า บางที่เนี่ยมีเทคโนโลยีที่สามารถทำเหมือนพาวเวอร์แบงค์ เอารถไปจอด ลงไปเข้าห้องน้ำ กินน้ำสักแก้ว กลับมาวิ่งต่อได้เลยโดยไม่ต้องเสียบปลั๊ก เค้าใช้เป็นลักษณะของ Induction หรือว่าการเหนี่ยวนำ เค้าก็คิดไปเยอะแล้ว ส่งเสริมให้มีการผลิตอุตสาหกรรมไฟฟ้ามากขึ้น จริงจังขึ้น อันนี้ก็เป็นการถือเอาวิกฤตเป็นโอกาส


ดูไบที่ผมอยู่เนี่ย ถึงแม้จะมีฝุ่นเป็นอันดับ 10 ของโลก สิ่งที่ผมเห็นการเปลี่ยนแปลง คือ ฝุ่นดูไบเกิดจากพายุทะเลทราย ที่นี่เค้าไม่ค่อยมีรถดีเซล เค้าไม่ส่งเสริมรถดีเซลเลย แล้วก็ฝุ่นมันเยอะจากทะเลทราย แต่เค้าขยันปลูกต้นไม้ครับ ต้นไม้ที่นี่มาจากเมืองไทยแทบทั้งนั้น แถวบ้านผมมีสะเดา พวกแม่บ้านผมชอบไปเก็บสะเดามากินกับน้ำปลาหวานเรื่อย มีต้นปีบ มีเฟื่องฟ้า ต้นไม้พวกนี้เค้าซื้อมาจากไทยมาปลูก

เดี๋ยวนี้ต้นไม้ที่นี่เขียวชอุ่ม เขียวเยอะเลย จนเมื่อก่อนจากไม่มีฝน ตอนนี้มีฝนเรื่อยๆ แต่ไม่ได้มากเหมือนทางบ้านเรา แต่ว่าก็มีฝน เพราะว่าความชุมชื้นเกิดจากการที่เค้ามีต้นไม้มากขึ้นทุกวัน


ก็เป็นห่วงอยากให้กรุงเทพฯรักษาต้นไม้หรือเพิ่มต้นไม้หน่อย ถ้าไม่งั้นก็ต้องไปเพิ่มทาวเวอร์ไว้เพื่อขจัดมลพิษเหมือนที่ฮ่องกงทำ เพราะฉะนั้นประเทศเราเป็นประเทศที่ปลูกต้นไม้ได้ แต่วันนี้เราปลูกตึกจนทิ้งต้นไม้หมด

https://www.khaosod.co.th/politics/news_2114137

:b32: มีคนเคยพูดได้ยินหลายครั้งแล้ว ว่าแผ่นดินไทยเรามีทรัพยากรธรรมชาติทุกอย่าง แต่เสียอย่างเดียว คือ มีคนไทยอยู่

จริงไม่จริงคิดดู

:b8:

ต้นไม้ชื่อว่าให้ทุกสิ่ง เพราะให้ชีวิตแก่คนและสัตว์
คือให้อากาศ หายใจ ให้อาหาร และยา ให้เครื่องนุ่งหุ่มให้ที่
อยู่อาศัย ให้แหล่งน้ำ ให้ฝนตกถูกต้องตามฤดู ปรับอากาศ
ให้เหมาะได้ด้วย หากไม่ช่วยกันรักษาป้องกันและปลูกเพิ่มคงต้อง
พากันแย่แน่นอน

:b8:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 22 ม.ค. 2019, 04:42 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรณีปัญหาฝุ่นพิษ วิเคราะห์หาสาเหตุและทางแก้ไขร่วมกัน

'ประยุทธ์' แนะปัญหาฝุ่นละอองทุกคนต้องเรียนรู้ว่าอยู่กับธรรมชาติ

รูปภาพ

http://www.bangkokbiznews.com/news/deta ... Y_NeXootAw

วิธีแก้ทุกข์แก้ปัญหาของผู้นำจากรถถังและปากกระบอกปืน คือ ให้ชาวบ้านเรียนรู้เอา :b1:

จะให้รัฐแก้ให้หมดทุกเรื่องได้ไง

https://scontent.fbkk5-8.fna.fbcdn.net/ ... e=5CF8F393

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 22 ม.ค. 2019, 16:56 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรณีปัญหาฝุ่นพิษ วิเคราะห์หาสาเหตุและทางแก้ไขร่วมกัน

ฉีดน้ำลดฝุ่น กลางแยกอโศก 2 นาที ‘น้ำท่วม’ รถจอดติดไฟแดงเปียกชุ่ม ชาวบ้านมึน

มีการแชร์ภาพเหตุการณ์ ฉีดน้ำไลฝุ่นบริเวณแยกอโศก แต่เกิดน้ำเกิดท่วมขังบนผิวการจราจร จนมีการแชร์ต่อกันจำนวนมาก โดยเพจ FM 91 Trafficpro ได้โพสต์ข้อความระบุว่า 12:20 น. จนท. ฉีดน้ำลดฝุ่น (แค่ 2 นาที) บริเวณแยกอโศก หลังจากนั้นน้ำท่วมขัง รถยนต์/จยย.ที่ติดไฟแดงอยู่เปียกไปหมด

รูปภาพ

มีภาพเคลื่อนไหว

https://www.facebook.com/10000770391511 ... 813355261/


ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบของเราอยู่กันไปเดือนๆ ไม่มีอะไรพร้อมสักอย่าง ปะอะไรก็แก้ไปที

ตอนน้ำท่วมขังก็บอกหากุญแจสำรองเครื่องสูบน้ำไม่เจอ

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 27 ม.ค. 2019, 19:22 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรณีปัญหาฝุ่นพิษ วิเคราะห์หาสาเหตุและทางแก้ไขร่วมกัน

ฝุ่นพิษอันตราย 39 จุด ถกใช้ ม.9 ประกาศภาวะฉุกเฉิน

รูปภาพ


ฝุ่น PM 2.5 พุ่งสูงเกินค่ามาตรฐานอีกระลอก 39 จุด เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ กรมควบคุมมลพิษ นัดถกด่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพิจารณาให้นายกรัฐมนตรี บังคับใช้มาตรา 9 กฎหมายสิ่งแวดล้อม บังคับหน่วยงานท้องถิ่นแก้วิกฤตฝุ่น

http://news.thaipbs.or.th/content/277144

เจ้าของ:  แค่อากาศ [ 27 ม.ค. 2019, 20:36 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรณีปัญหาฝุ่นพิษ วิเคราะห์หาสาเหตุและทางแก้ไขร่วมกัน

smiley smiley smiley

เจ้าของ:  sssboun [ 28 ม.ค. 2019, 05:52 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กรณีปัญหาฝุ่นพิษ วิเคราะห์หาสาเหตุและทางแก้ไขร่วมกัน

กรัชกาย เขียน:
'ประยุทธ์' แนะปัญหาฝุ่นละอองทุกคนต้องเรียนรู้ว่าอยู่กับธรรมชาติ

รูปภาพ

http://www.bangkokbiznews.com/news/deta ... Y_NeXootAw

วิธีแก้ทุกข์แก้ปัญหาของผู้นำจากรถถังและปากกระบอกปืน คือ ให้ชาวบ้านเรียนรู้เอา :b1:

จะให้รัฐแก้ให้หมดทุกเรื่องได้ไง

https://scontent.fbkk5-8.fna.fbcdn.net/ ... e=5CF8F393

:b8:

ท่านพูดก็ถูกนะครับ เพราะทุกคนต่างก็มีส่วนร่วม
คือทุกคนต่างก็เป็นส่วนประกอบของสังคม ปัญหาใหญ่
จะให้แต่คนจำนวนน้อยแก้ไขคงยากครับ ไม่ต้องว่าไกล
แค่ลานแห่งนี้ มีแค่คนสองคนแก้ก็คงหยุ้งและเหนื่อยเหมือน
กัน

:b8:

หน้า 2 จากทั้งหมด 7 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/