วันเวลาปัจจุบัน 28 เม.ย. 2024, 03:58  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 45 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2019, 17:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


บทความดังกล่าวนี้ ได้กล่าวถึงพระเจ้าฮ่องเต้อย่างน้อย 5 พระองค์ของจีน ในสมัยที่เชื่อถือลัทธิต๋าว และได้รับการสนับสนุนโดยปรมาจารย์นายแพทย์ซุนซุโหมว ต่างก็มีอายุระหว่าง 98 ปี ถึง 120 ปี หลักฐานดังกล่าวนี้ รวบรวมได้จากสมุดประวัติศาสตร์ ชื่อ ซุมาเซียงชีฉี ซึ่งต่อมานักประวัติศาสตร์ของจีนก็ยอมรับโดยทั่วกัน


ตอนหนึ่งของบทความนี้ ได้เขียนว่า "ถ้าจะถือกฎอีกกฎหนึ่ง ซึ่งก็จะทำให้ผู้ปฏิบัติมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงได้เช่นกันดังต่อไปนี้


1.โดยทั่วๆไป บุคคลที่แข็งแรงควรจะปล่อยให้น้ำอสุจิเคลื่อนได้เพียงเดือนละ 2 ครั้ง หรือปีละ 24 ครั้ง
2.ผู้ที่มีอายุ 20 ปี ควรให้เคลื่อนได้ทุกๆ 4 วัน
3.ผู้ที่มีอายุ 30 ปี ควรให้เคลื่อนได้ทุกๆ 8 วัน
4.ผู้ที่มีอายุ 40 ปี ควรให้เคลื่อนได้ทุกๆ 10 วัน
5.ผู้ที่มีอายุ 50 ปี ควรให้เคลื่อนได้ทุกๆ 20 วัน
6.ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ไม่ควรปล่อยให้เคลื่อนเลย แต่ถ้าหากร่างกายแข็งแรงจริงๆ ก็จะปล่อยได้เพียงเดือนละครั้งเท่านั้น

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2019, 17:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


"ชายที่แข็งแรงเป็นพิเศษ ถ้าอดกลั้นไว้นานมากเกินไปก็อาจทำให้ไม่สบายได้ อาจมีอาการเป็นผื่นแดงและคันตามตัว"


"ซุนซุโหมว ไม่แนะนำให้มีการงดเว้นการร่วมประเวณี เพราะจะเป็นการมีชีวิตที่ปราศจากประโยชน์จากความสมดุลที่ควรจะได้รับจากพลังหยิน และพลังหยาง"


คนไข้ถามว่า "มนุษย์เราที่มีอายุยังไม่ถึง 60 ปี ควรจะใช้ชีวิตโดยปราศจากเพศตรงข้ามดีหรือไม่"


ซุนซุโหมว ตอบว่า "ไม่ดี ชายจะไม่สามารถมีชีวิตยืนยาวได้ถ้าไม่มีหญิง และหญิงก็จะไม่สามารถมีชีวิตที่มีความสุขได้ถ้าไม่มีชาย ถ้าชายไม่มีหญิง เขาก็จะเรียกร้องหาหญิงตลอดเวลา การที่มีความอยากได้นี้ จะทำให้จิตใจอ่อนแอ ดังนั้น เมื่อจิตใจอ่อนแรง เขาก็จะมีชีวิตยืนยาวไม่ได้
แต่ถ้าเขาไม่มีความต้องการหญิงจริงๆ ก็จะเป็นการดีของชายสามารถมีอายุยืนยาวได้ แต่บุคคลเช่นนี้พบยากมาก"

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2019, 17:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผู้ที่พยายามจะเก็บพลังของตนเองเอาไว้ด้วยการอดกลั้น เอาไว้สำหรับปล่อยออกเป็นครั้งเป็นคราวนั้น จะพบว่าการอดกลั้นนั้นยากมาก แต่การปล่อยง่ายนิดเดียว การปล่อยออกอาจมีขึ้นได้ในระหว่างหลับ อาจมีขึ้นได้ในการถ่ายปัสสาวะ อาจมีขึ้นได้ในการฝัน หรือปล่อยออกมาด้วยตนเอง

การปล่อยในลักษณะนี้ ถือว่ามีโทษมากกว่าการปล่อยด้วยใจสมัครสักร้อยเท่า

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2019, 17:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ในเรื่องนี้ ถ้าจะเปรียบเทียบการร่วมประเวณีกับการกินอาหารก็หมายถึง การชิมลิ้มรสอาหารในลักษณะกินแต่ละคำด้วยการเคี้ยวอย่างมีรสชาติและอร่อย กินทีละนิดกินบ่อยได้ แต่อย่ากินจนอ้วกฉันใด ก็ฉันนั้น

ขอถามท่านว่า ความอร่อยของอาหารนั้น อิ่มจนท้องแน่นอืดแล้วถึงอร่อยหรือว่าอร่อยตั้งแต่ได้กลิ่น และลิ้นสัมผัสรสตั้งแต่คำแรก ?

ผู้เขียนได้อ่านบทความนี้แล้วอย่างน้อยผู้เขียนเชื่อในหลักของความพอดี และศิลปของกามารมณ์ และเชื่อในการออกกำลังกาย และการบังคับจิตโดยไม่ยอมเสียแรงด้วยการเคลื่อนอสุจิบ่อยครั้ง หรือทุกครั้งที่ร่วม
แต่ถ้าจะไม่เคลื่อนเลยทุกครั้งก็ผิดธรรมชาติ คำแนะนำนี้น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยทำให้เขามีชีวิตยืนยาวได้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2019, 17:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


"ซุนซุโหมว เป็นแพทย์จีนสมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ.618-906) ได้เขียนไว้ในตำราแพทย์ว่า การทำให้น้ำอสุจิออกจากร่างกายโดยเปล่าประโยชน์จะทำให้ผู้นั้นป่วย และถ้าไม่หยุดเขาจะต้องตาย (มีปรากฏเสมอเป็นข่าวหนังสือพิมพ์) เมื่อชายใดสามารถควบคุมการเคลื่อนได้ เขาผู้นั้น ไม่เพียงแต่รักษากำลังเอาไว้
เขากลับจะได้กำลังเพิ่มขี้นกว่าเดิมอีกมากมาย หญิงคู่นอนของเขาก็จะมีแต่ความพอใจ ซึ่งก็ทำให้เกิดเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น และทำให้เกิดความสามารถในอันที่จะร่วมหลับนอนกับหญิงได้บ่อยครั้งมากขึ้นเท่าที่ทั้งคู่จะมีความต้องการ และโดยที่เขาสามารถร่วมรักได้บ่อยครั้ง และ
แต่ละครั้งด้วยระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น ทั้งคู่ก็จะได้รับพลังซึ่งกันและกัน พลังที่ว่านี้ ได้แก่ พลังหยิน และพลังหยาง
ฝ่ายชายจะได้พลังหยินจากหญิง ฝ่ายหญิงจะได้รับพลังหยางจากชาย อย่างนี้ จึงเรียกได้ว่า ทั้งคู่ได้รับความสงบทางจิต มีความสมดุลด้วยกัน จากการร่วมรักกันตามหลักของต๋าว ดังนี้แล"

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2019, 18:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านจะเชื่อหรือไม่เชื่อตามลัทธิต๋าวนี้ก็ตาม ย่อมเป็นสิทธิของท่าน ผู้เขียนได้คัดข้อความที่มีผู้แปลและเรียบเรียง...บางท่านอาจจะมีข้อสงสัยว่า วิธีจะปฏิบัติตามลัทธิต๋าวนี้มีเขียนไว้หรือไม่ ตอบว่า มี ผู้เขียนเห็นว่าจะไม่เป็นการเหมาะสมที่จะเขียนไว้ในที่นี้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2019, 18:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผู้เขียนเคยคุยกับนักเลี้ยงไก่ชนเพื่อชนไก่เป็นอาชีพ ได้เล่าให้ผู้เขียนฟังและได้เห็นวิธีการฝึกปรือไก่ชนอย่างไรบ้าง
ได้ความว่า เขาไปซื้อลูกไก่ชนที่เขารู้ประวัติของพ่อแม่ปู่ย่าตาทวดของมันแล้วเอามาเลี้ยงดูด้วยอาหารที่ถูกต้อง และฝึกให้ออกกำลังกาย เพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกล้ามเนื้อขา หน้าอก และคอ พอรุ่นกระทงเขาก็ให้รู้จักลิ้มรสตัวเมียเพียง 1 หรือ 2 หน เขาบอกว่าเพียงให้รู้จักรสชาติเท่านั้น

ต่อจากนั้น เขาไม่ยอมให้ทับตัวเมียอย่างเด็ดขาดไปจนกว่าจะปลดระวาง เขาให้เหตุผลว่า มันจะเสียแรง ตีและชนกับใครไม่ไหว

ถ้าไก่รู้จักวิธีปล่อยให้น้ำเชื้อเคลื่อนทุกครั้งเหมือนมนุษย์ มันก็ตรงกับลัทธิต๋าว แต่ไก่เป็นสัตว์ไม่ประเสริฐเท่ามนุษย์ เขาจึงไม่ยอมให้ทับไก่ตัวเมียอย่างเด็ดขาด ตลอดระยะเวลาที่มันชนให้เจ้าของได้

คิดแล้วก็สงสารไก่ในด้านความสุขอย่างหนึ่ง แต่แน่นอนเหลือเกินว่าความแข็งแกร่งของมันนั้นสูงแน่ ผู้เขียนมิได้นิยมชมชื่นจะให้คนเหมือนไก่หรอก เพียงเสนอเรื่องราวให้เห็นความสำคัญบางอย่างเท่านั้นเอง

:b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2019, 19:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
sssboun เขียน:
:b8:


อ้างคำพูด:
จะทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะเขามีสอบวันเดียวให้เวลา 2 ชั่วโมงนะ :b32:

ตกลงสรุปว่า คนท้องน่าสงสารน้อยกว่าคนเห็นผิดว่างั้นเถอะนะ



ไม่ว่าเขาจะมีสอบกี่ชั่วโมงหรือกี่วัน เราก็ควรทำข้อง่ายก่อนแล้ว
ค่อยตามข้อที่ยากขั้นตามลำดับ และควรมิให้เกินเวลาที่เขากำหนดนั้น

เพราะคนเห็นผิด แล้วย่อมจะ คิดผิด พูดผิด กระทำผิด มีการงานผิด
อาชีพ....ทั้งมวลนี้เป็นภัยที่จะติดตามมาของคนมีความเห็นผิดจะได้รับทุกข์
ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ทั้งภพนี้และภพหน้าครับ

:b8:


ก็ปัญหามีอยู่ข้อเดียว นอกนั้นปัญหาลวง เราไปตอบปัญหาที่ลวง ก็เท่ากับเห็นผิดเข้าใจผิดนะ :b13:

:b8:

ไม่เข้าใจผิดหรอกครับ เพราะตอบไปก็เป็นไปเพื่อประโยนช์
แก่คนรุ่นหลังทั้งนั้น เพราะประกอบด้วยสาระและประโยชน์นำไป
ใช้ได้ครับ

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ม.ค. 2019, 08:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


sssboun เขียน:
กรัชกาย เขียน:
sssboun เขียน:
:b8:


อ้างคำพูด:
จะทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะเขามีสอบวันเดียวให้เวลา 2 ชั่วโมงนะ :b32:

ตกลงสรุปว่า คนท้องน่าสงสารน้อยกว่าคนเห็นผิดว่างั้นเถอะนะ



ไม่ว่าเขาจะมีสอบกี่ชั่วโมงหรือกี่วัน เราก็ควรทำข้อง่ายก่อนแล้ว
ค่อยตามข้อที่ยากขั้นตามลำดับ และควรมิให้เกินเวลาที่เขากำหนดนั้น

เพราะคนเห็นผิด แล้วย่อมจะ คิดผิด พูดผิด กระทำผิด มีการงานผิด
อาชีพ....ทั้งมวลนี้เป็นภัยที่จะติดตามมาของคนมีความเห็นผิดจะได้รับทุกข์
ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ทั้งภพนี้และภพหน้าครับ

:b8:


ก็ปัญหามีอยู่ข้อเดียว นอกนั้นปัญหาลวง เราไปตอบปัญหาที่ลวง ก็เท่ากับเห็นผิดเข้าใจผิดนะ :b13:

:b8:

ไม่เข้าใจผิดหรอกครับ เพราะตอบไปก็เป็นไปเพื่อประโยนช์
แก่คนรุ่นหลังทั้งนั้น เพราะประกอบด้วยสาระและประโยชน์นำไป
ใช้ได้ครับ

:b8:


เด็กและคนรุ่นหลังๆเขาอาจคิดว่า โจทก์มีแค่นั้นเท่านั้น แต่เราตอบนอกโจทก์นอกคำถาม มันจะได้ประโยชน์และได้คะแนนยังไงล่ะขอรับ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ม.ค. 2019, 08:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ต่อ

ผู้เขียนได้ลองนำเอาเรื่องลัทธิต๋าวนี้ไปคุยกับเพื่อนเพื่อศึกษาหาข้อเท็จจริง ผู้เขียนมีเพื่อนอย่างน้อย ๓ คน ล้วนแต่อายุมากกว่าผู้เขียน
เพื่อนทั้งสามปฏิบัติตามลัทธิต๋าวเป็นเวลานานแล้ว โดยเจ้าตัวไม่ทราบเรื่องลัทธิต๋าวมาก่อนเลย ทั้งสามท่านมีสุขภาพอนามัย และสมรรถภาพแข็งแรงดียิ่ง และหลังจากหนังสือเรื่องนี้แพร่หลาย เพราะมีผู้ขอเอาไปพิมพ์เองบ้าง แจกงานศพญาติ หรืองานทำบุญต่างๆ ก็มีผู้นำลัทธิต๋าวไปลองปฏิบัติดู เป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้ที่เห็นจริงจังและปฏิบัติตามลัทธินี้ ทุกคนมีร่างกายแข็งแรงเหนือระดับปกติทั้งสิ้น ขอให้ท่านพิจารณาด้วยตนเองก็แล้วกันอย่าได้หลงเชื่อผู้เขียน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ม.ค. 2019, 09:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ก่อนที่ผู้เขียนจะได้อ่านเรื่องลัทธิต๋าวนี้ ได้มีการถกเถียงกันอยู่ในเรื่องนี้โดยยังไม่มีข้อยุติว่า วิธีใดถูกต้องกันแน่ จนได้อ่านเรื่องนี้และได้ทราบว่า เพื่อนรุ่นน้องของพ่อของผู้เขียนบางท่าน รวมทั้งผู้แปลเรื่องนี้ ซึ่งเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนราชวิทยาลัย ได้ถือปฏิบัติตามลัทธิต๋าว รวมไปกับการออกกำลังกายด้วยวิธีต่างๆกัน

ท่านเหล่านั้นล้วนแล้วแต่มีสุขภาพอนามัยแข็งแรง อีกทั้งยังมีความหนุ่มแน่นกระชุ่มกระชวยเกินอายุจริงเป็นสิบๆปี
แม้บางท่านผ่านชีวิตเข้าวัยเกิน 7 รอบแล้วก็ตาม ท่านก็ปฏิบัติกิจทางเพศตามลัทธิต๋าวอย่างหน้าตาเฉย อย่างนี้ก็มีด้วย
ลูกหลานต้องเห็นใจท่าน ต้องช่วยเหลือท่านตามควร แต่โอกาส ทั้งนี้ เพื่อให้ท่านมีอายุยืนยาวนานด้วยความสุข ไปจนกว่าท่านจะสงบไปเอง โปรดอย่าคิดว่าไม่สำคัญหรือหาว่าผิดปกติเลย เรื่องของธรรมชาติแท้ๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ม.ค. 2019, 09:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผู้เขียนขอใคร่อธิบายเพิ่มเติมในเรื่องของลัทธิต๋าวสักเล็กน้อย กล่าวคือ ผู้อ่านเรื่องนี้ร้อยทั้งร้อยจะต้องกล่าวว่าเป็นการผิดธรรมชาติที่จะไม่ปล่อยให้น้ำกามเคลื่อนเวลาร่วมเพศ

ถ้าจะพิสูจน์ดูตามเรื่องจีนนี้ จะเห็นว่าสมัยโบราณนั้น ฮ่องเต้ทั้งหลายมีนางสนมกำนัลจำนวนมาก ฮ่องเต้ทั้งหลายที่เอ่ยพระนามแต่ละพระองค์อายุเกิน 100 ปีนั้น จะต้องเป็นมนุษย์ที่มีคุณสมบัติพิเศษโดยเฉพาะอย่างยิ่งความแข็งแรงของร่างกายต้องเป็นเลิศ สุขภาพจิตต้องดีเยี่ยม ในเมื่อมีนางสนมกำนัลจำนวนมากคอยยั่วกิเลสอยู่รอบด้านอย่างนี้ และยังจะต้องแจกจ่ายความรักให้ทั่วถึงด้วยแล้ว

ฮ่องเต้ก็คงต้องหาวิธีทำการบ้านให้เหมาะสมด้วยการลิ้มรสร่วมเพศได้บ่อยครั้งโดยตัวเองไม่เสียแรงทุกครั้งที่ร่วม คือ ฮ่องเต้คงจะต้องรู้วิธีสะกดใจ ไม่ให้น้ำกามเคลื่อนทุกครั้งที่ร่วม

วันหนึ่งอาจทำการบ้านได้หลายครั้ง และปล่อยให้เคลื่อนได้ตามระยะห่างตามวัยของตนให้พอเหมาะหรือจะให้เคลื่อนเมื่อมันล้นออก จะไม่ไปเค้นให้มันออกทุกครั้งที่ร่วมโดยเด็ดขาด
การจะทำอย่างที่กล่าวมานี้ให้ได้นั้น ก่อนสิ่งใดทั้งหมดร่างกายจะต้องสมบูรณ์แข็งแรง และสามารถควบคุมจิตใจของตนเองได้
ส่วนนางสนมกำนัลนั้น จะได้รับรสแห่งความสุขทางเพศสุดยอดคราวละหลายๆครั้ง ทุกคราวไป

ลัทธิต๋าวถือ ว่า ทั้งสองฝ่ายได้พลังชายและหญิง (หยินและหยาง) ซึ่งกันและกัน ทำให้ทั้งคู่ได้รับความสงบทางจิต ทำให้เกิดความรักซาบซึ้งแนบแน่น
ลัทธิต๋าวถือว่า ความรักแบบหยิน และหยางเป็นยาอายุวัฒนะอย่างหนึ่ง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ม.ค. 2019, 19:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทีนี้ หันมาดูมนุษย์ที่ไม่ใช่ฮ่องเต้หรือไม่สามารถจะใช้ชีวิตแบบฮ่องเต้ได้ และผู้นั้น มีความต้องการทางเพศอยู่ในระยะเวลาที่ลัทธิต๋าวกำหนดให้ โดยไม่ต้องไประบายออกทางอื่นอีก นอกจากภรรยาของตนเท่านั้น ผู้นั้นก็ถือว่าปกติ ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามแบบต๋าว เพราะอาจจะเกิดปัญหาวุ่นวายกับครอบครัว

ฉะนั้น ลัทธิต๋าวนี้จะใช้ประยุกต์เฉพาะผู้ที่มีความรู้สึกทางเพศฟุ่มเฟือย และเป็นผู้ที่มีหนทางหาทางออกได้หลายทาง ประกอบกับข้อสำคัญที่สุด ก็คือ ผู้นั้นจะต้องมีสุขภาพและจิตแข็งแรงสมบูรณ์ดีด้วยจึงจะทำให้มีพลังดังกล่าวได้

แต่ถ้ามนุษย์ผู้นั้นสุขภาพกาย และจิตไม่สมบูรณ์จริงแล้ว ยิ่งมีความรู้สึกทางเพศฟุ่มเฟือย และมีหนทางออกได้หลายทาง ถ้าปล่อยตัวตามใจทุกครั้งไป ผู้เขียนบอกได้เลยว่า ตายเร็วแน่ๆ และมักจะตายด้วยหัวใจวายอันสืบเนื่องจากกามารมณ์เสียด้วย
ตายแบบนี้ ที่ชาวบ้านเรียกว่า ”ตายคาอก” ซึ่งผู้เขียนได้กล่าวแล้วในตอนต้นว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งคู่กับโลกมนุษย์ ซึ่งมีทั้งคุณและโทษ
ฉะนั้น จงใช้ให้เป็น ดังนั้น พวกฮ่องเต้ประเภทขี้โรคอ่อนแอ จึงไม่มีรายงานจารึกไว้ในประวัติศาสตร์สักคนเดียว

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ม.ค. 2019, 19:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผู้อ่านบางท่านอาจจะนึกแปลกใจว่า อ่านตอนต้นก็ดูทำท่าจะดีๆ เหตุไฉนตอนท้ายจะจบอยู่แล้วจึงจะเอาเรื่องนี้มาปะปน ก็ต้องขอกราบเรียนด้วยสุจริตใจว่า ผู้เขียนไม่ได้อยู่ในสมณะเพศ
ประกอบกับผู้เขียนเห็นว่า เรื่องที่เขียนนี้เป็นวิชาการอย่างหนึ่ง เหมือนเรื่องเพศศึกษาที่ชาวตะวันออกอีกหลายประเทศยังไม่ค่อยจะยอมให้พูดกันอย่างเปิดเผย ทั้งๆที่วัยรุ่นปัจจุบันนี้ รู้ลึกซึ้งเพราะแอบอ่านแอบศึกษาค้นคว้าหาความรู้เอาเอง และส่วนใหญ่เข้าใจไม่ถูกต้อง เพราะผู้ใหญ่เห็นว่าเป็นเรื่องไม่ควรพูดถึง เด็กจึงแอบซ่อนไม่ให้ผู้ใหญ่รู้เห็น
ผู้เขียนกลับมองเห็นว่าถ้ายังจะมีความคิดอย่างนั้นอยู่อีก กลับยิ่งจะทำให้เกิดอันตรายเสียกว่าพูดหรือศึกษากันอย่างเปิดเผย และให้ถูกหลักวิชาการตลอดจนให้ความรู้อย่างถูกต้อง และเหมาะสมกับวัยด้วย เราควรจะได้เรียนรู้ความจริงกัน อย่างนี้จึงจะเรียกว่าก้าวทันโลก

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ม.ค. 2019, 20:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตอนจบ

"การก้าวให้ทันสมัยต่อโลกและเหตุการณ์กับการต่อสู้กับความชรา เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อชีวิตที่จะมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขและอายุยืนยาวนาน" ที่

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=57009

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 45 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 199 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron