แสงสี1สีกระทบกระจกตาดับมืดแล้วนะ
ถ่างตาดูสิไม่เห็นเหรอว่ามืดแล้ว555
คิดนึกในมืดจะเห็นตัวอักษรได้ไหม
ตอนคิดมืดไม่มีแสงปนและไม่เห็น
ไตร่ตรองให้เข้าใจตรงที่ตาคุณมีนะ

ปัญญาเข้าใจถูกเกิดจากฟังแล้วที่อ่านคือคิดนึกในมืดไม่มีปัญญาเกิดจริงๆไงคะแค่สัญญาจำตัวอักษร

จิตเป็นประธานรู้อารมณ์6ทางทีละ1ทางไม่ปนกันไม่พร้อมกัน
เห็นไม่ดับหมดทางอื่นก็เกิดไม่ได้เลยคุณเห็นปนกันหมดจะรู้ไหม
เริ่มฟังเพื่อสะสมปัญญาเจตสิกตามการฟังตรงทีละคำจริงๆทำฟังรู้ยัง

เป็นซะงั้น หวงวิชานี่ครับพูดแต่เดิมๆ สอนหน่อยสิครับ

ปัญญาคือเข้าใจความจริงถูกตามคำสอนตอนฟัง
ใครจะไปคิดแทนคนอื่นได้ว่าตรงหรือยังนะคะ
คุณก็ต้องฟังเองจะได้รู้ว่ากิเลสกับปัญญา
ของคุณเองกำลังแย่งเก้าอี้ดนตรีในใจ
และดิฉันจะไปคิดแทนตัวคุณได้ไหม
ในเมื่อความจริงรู้ที่กายใจตัวเอง
คุณก็รู้ตรงตามเสียงที่กำลังฟัง
ฟังจริงๆนั่งลงเงี่ยหูฟังแล้วก็
คิดตามทีละคำตามเสียง
555ไม่ฟังแล้วอยากรู้
ฝันไปม๊างว่ามีปัญญา
บอกวิธีการตรงมาก
บอกว่าฟังแล้วลืมตา
กายใจตนมีคิดก็คิด
ให้มันตรงว่าคิดนั้นมืด
เห็นน่ะรู้แจ้งสว่างตาดับ
มีอะไรข้างนอกให้เห็นไหม
พระพุทธเจ้ายกปัญญาให้ใครได้ไหม
ก็สาวกทุกคนเขาก็ทำได้แค่บอกให้ฟังเพื่อปัญญาปรากฏตามเป็นจริง

เอกอนว่า A-Gard ก็แจงชัดแล้วนะ

เออน่ะ...ก็บอกให้ฟัง...เรียนความจริงที่กายตัวเองมีตอนฟัง
จะได้เกิดปัญญาปรุงแต่งจิตตรงตามเสียงถูกตัวตนตามได้
จะให้บอกกี่ครั้งว่าเห็นสีกระทบที่กระจกตาดับมืดอีก5ขณะ
เห็น1ขณะไม่ปนกับ5ทางที่มืดนั้นมันสว่าง1ครั้งมืด5ครั้งค่ะ
มันมืดยาวกว่าสว่างก็ดูที่ตัวเองกำลังมองมืดแค่กะพริบตาน่ะผิดไหม
แค่นี้ก็คิดตามไม่ได้แล้วจะเกิดปัญญาเป็นของตัวเองได้ไหมไม่ทำ1ข้ามไป3โลด555

สิ่งที่ทำจนชิน มันจะกลายเป็นความเคยชิน นะคะ

แม้จะเป็นการทำจริง หรือแกลังทำก็ตาม ล้วนทำให้เกิดเป็นความเคยชินได้ทั้งนั้น

การทำในสิ่งที่สวนกระแสกับความเคยชิน เป็นสิ่งที่ไม่ง่ายเลย นะคะ

ซึ่งด้วยเหตุนี้ บางครั้งเอกอนก็จะลงเล่นกับมันบ้าง

และบางครั้งเอกอนก็เลือกที่จะไม่ลงไปเล่นกับมัน

เพราะเรื่องบางเรื่อง ไม่ใช่เรื่องที่จะทำเป็นเพลิดเพลินไปกับมัน

อะไรคือชิน
คำสอนคือสัจจะ
จริงไม่เปลี่ยนอยู่แล้ว
คิดอะไรก็รู้อยู่ว่าไม่ได้ฟัง
มีศรัทธาที่จะฟังเพราะอะไร
ตอบว่าเพราะสัจจะคือความจริงถึงปรมัตถสัจจะ
ที่พระพุทธเจ้ารู้ทั้งหมดนั้นละเอียดตรงจริงไม่มีใครทำ
ความจริงของจิตตนคือไม่รู้ว่ามีถึง7ชวนะที่ดับไปก็คือมีกิเลสอวิชชาแล้ว
กิเลสแปลว่าไม่รู้...มีกิเลสแปลว่ามีไม่รู้และไม่รู้ว่าตัวเองไม่รู้เพราะจำบัญญัติคำ
กิเลสมีที่จิตนอนมาในจิตรอไหลออกมาตามอารมณ์ที่จิตรู้ตอนลืมตาตื่นไม่ใช่ไปทำหลับตานะคะ
ทำปัญญาต้องลืมตาดูตามปกติแล้วฟังพระพุทธพจน์ไม่ได้ทำฌานที่ไปนั่งทรมาณกายหลับตามันขาดจิตเห็น
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงและทรงแสดงความจริงจากพระโอษฐ์ให้ผู้รู้ที่กำลังฟังเท่านั้นคิดถูกตามได้จริงๆ
ไม่ใช่เอากายไปทำอยู่กับปัจุจุบันคือแยกรู้ทีละ1ทางตามกำลังสติปัญญาตนเองคิดถูกตัวตนที่กำลังมีตามได้
ก็ตอนที่กำลังฟังน่ะกำลังคิดถูกตามได้ละตัวตนแล้วเพราะตามรู้ตัวจริงตรงทางไม่มีใครถอนไม่รู้ที่ดับแล้วได้
https://youtu.be/F0g-V4b1Cq8

ไปดีก่า

เหมือนจะมีคนเคยกล่าวว่า ของจริงต้องได้กับคนจริงเท่านั้น 555

การว่านั่นแหละเป็นต้นเหตุแห่งบาป เสียหาย ได้ทุกอย่าง ว่าได้แม้กระทั่งพระ เดี๋ยวก็ไม่ได้พบพระ เพราะพระไม่คบด้วย ถ้ารู้ไม่ทัยก็ไม่ใช่พระ ถ้าไปว่าพระก็ไม่ได้รู้ทัน ดับการว่าได้ก็จะหลุดพ้นจากกิเลส เดือดร้อน เสียหาย ทั้งปวง ออกจากความมือมนแห่งจิตวิญญาณ

รู้ทันจะคิดดับๆ ก็ไม่แพ้อะไรสักอย่าง

แค่รู้ทันจะคิดดับๆ ก็มีทรัพย์ได้ทุกพื้นที่ จะใช้ จะให้ กับใครเมื่อไหร่ก็ได้



จากสายสืบนิสัยศาสตร์

คำสร้อยพ่วงท้ายข้างล่างโพสต์น่ะเอาออกเถอะเขียนด้วยความไม่รู้อายคนที่เขารู้
รู้แจ้งเห็นจริงคือเดี๋ยวนี้เพราะรูปพิเศษคือจักขุปสาทรูปคือรูปพิเศษรูปเดียวที่เห็นได้
ในบรรดารูปทั้ง28รูปลืมตาเห็นสะสมอัพยากตาธรรมรูปอื่นๆอีก27รูปมองไม่เห็นและเห็นไม่ได้

จิตคือวิญญาณขันธ์เป็นประธานดูทุกอย่างที่ปรากฏเท่านั้น
ตัวปรุงต่างหากที่รู้คิดแยกแยะว่าอะไรสมมุติอะไรสัจจะ
กิเลสในใจน่ะมันติดแนบกับจิตต้องอาศัยคำตถาคต
พึ่งพระรัตนตรัยได้แค่ตอนที่กำลังฟังเท่านั้น5555
อันที่ไปนั่งหลับตาเดาจิตเห็นน่ะก็วิปลาสอีกแบบ
31ภพภูมิยังเกิดอยู่จนถึงอรหัตตมรรค55555
ประมาทการฟังเสียชาติเกิดอย่าหาว่าไม่บอก
ลืมตาตื่นรู้ดูสิว่าจิตเห็นวิจิตรแค่ไหนชอบเห็นไหม
ยังอยากตื่นขึ้นมาเห็นไม่มีใครอยากตื่นมาตาบอด
กำลังมีกามตัณหา/ภวตัณหา/วิภวตัณหาครบน๊า

แค่อากาศคะ...ที่เขียนน่ะลบออก...จิตเป็นจิตเป็นวิญญาณขันธ์

มีที่ไหนมีแต่รู้ทุกข์ละสมุทัยได้จึงถึงมรรคถึงผลถึงนิพพาน
แล้วจิตเป็นสภาพรู้2แบบคือจิตรู้รูปและจิตรู้นาม
จิตรู้สมมุติมีทุกคนไม่ใช่คนตายค่ะ แต่เหตุคือไม่รู้ว่าไม่มีตัวตนคือคิดเห็นผิดมีอุปาทานขันธ์
พระพุทธเจ้ามีจิตนะรู้ทั้งสมมุติรู้ทั้งสัจจะรู้ทั้งนิพพาน เป็นจิตพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่เป็นสมุทัยน๊า
พระพุทธเจ้าตรัสรู้และดับกิเลสสิ้นอวิชชาแล้วจึงมาเปล่งคำวาจาสัจจะที่เปลี่ยนไม่ได้แจกแจงไว้โดยละเอียด
ไม่ให้ไปคิดนึกด้นเดาหรือคิดค้นอะไรขึ้นมาใหม่ทรงแสดงให้ฟังนานถึง45ปีให้ฟังตามปกติเงี่ยหูฟังหรือยัง