| ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ | |
| ปัญญาทางศาสนา http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=56810 | หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | 
| เจ้าของ: | รสมน [ 27 พ.ย. 2018, 06:49 ] | 
| หัวข้อกระทู้: | ปัญญาทางศาสนา | 
| "ปัญญาทางพุทธศาสนา ไม่ได้หมายถึงว่า เป็นคนไอคิวสูง เป็นคนเฉลียวฉลาดทางโลก แต่หมายถึงว่า เป็นผู้ฉลาดทางธรรม ความฉลาดทางธรรม มีความหมายว่า เรามีอุบายที่จะระงับทุกข์ได้ แก้ปัญหาในชีวิตได้ จนถึงระดับไม่มีปัญหา" พระอาจารย์ญาณธัมโม “โดยมาก คนเรามักมีอคติ คนนี้พวกเราเข้าข้าง ทำดี เราก็สรรเสริญ แม้ทำไม่ดี เราก็ยังยกย่อง คนไหนที่ไม่ใช่พวกเรา ทำดีอย่างไร เราก็อิจฉา ไม่ชอบ ไม่พอใจ เพราะไม่ใช่พวกเรา ยิ่งถ้าทำไม่ดีแล้ว เราก็ไม่ยอมให้อภัย นั่นมันไม่ดีสำหรับใจเรา ไม่ใช่ดีชั่วอยู่ที่ตัวเขา แต่ดีชั่ว มันอยู่ที่ใจเราเสียแล้ว เพราะเราคิดไม่ดีกับคนอื่น" หลวงพ่อสนอง กตฺปุญโญ “ถ้าเราโดนด่าแล้วเฉยๆ หรือโดนอะไรกระทบแล้วเฉยๆ นั่นแหละ เป็นตัวชี้วัด ความมั่นคงในทางธรรม” หลวงตาม้า วิริยธโร ภาวนาเอาจิต ...นั่งภาวนาก็หวังเอาจิต จิตคือ ผู้รู้ จิตคือ พุทโธ ...อยากได้จิตก็จับเอาลมหายใจไปก่อน เพราะจิตอยู่ในลมหายใจ ผู้รู้ คือ พุทโธ คือ จิต ...เอาพุทโธ มาทำไม? เอามาเป็นสรณะที่พึ่ง เมื่อเห็นพุทโธแล้ว ก็เอาสติไปจับเอาพุทโธ ...เมื่อลมหายใจหาย จะปรากฎเห็นตัวพุทโธ ขึ้นมา พุทโธ คือผู้รู้ ไม่มีตัวตน มีแต่ความรู้ รู้อยู่เฉยๆ นั่นแหละ คือ'จิต'ของเรา ...แล้วก็เอาสติ ไปจับเอาจิต /พุทโธ /ผู้รู้ สติก็ไปรับรู้อยู่กับผู้รู้ อยู่อย่างนั้น เป็นอันว่า เราได้ พุทโธ เห็นพุทโธ ได้จิตแล้ว ....... หลวงตาศิริ อินทสิริ กิเลสมันมากกว่าธรรม ความชั่วมันมากกว่าคุณงามความดี คนชั่วมากกว่าคนดี พระพุทธเจ้าท่านตรัสเอาไว้แล้วว่า “ขนวัวกับเขาวัวอันไหนมันมากกว่ากัน เราคิดดูก็แล้วกัน คนที่ประพฤติปฏิบัติธรรมเหมือนกับเขาวัว แต่คนที่ไม่สนใจกับธรรมะ ไม่สนใจแก้ไขกาย วาจา ใจของตนเองนั้นเหมือนกับขนวัว” พระพุทธเจ้าตรัสมาแล้วตั้งแต่ยุคนั้นสมัยนั้น เพราะฉะนั้นพวกเราอย่าแปลกใจว่า ยุคนี้สมัยนี้ทำไมคนนั้นเป็นอย่างนั้น คนนี้เป็นอย่างนี้ เราไปคิดไปพูดให้โง่เท่านั้นเอง แต่ถ้าเราพูดก็เป็นข้อสังเกตสำหรับเราเอง แต่ส่วนลึกของใจแล้วให้รู้เอาไว้ว่า ความชั่วนั้นมากกว่าความดี ความดีนั้นน้อย แต่ถึงอย่างไรก็ตามให้สังเกตดูตัวเองก็แล้วกันว่า ในวันหนึ่งเราคิดไปทางไหน เราปล่อยจิตปล่อยใจไปทางไหนบ้าง พยายามอย่าให้ตนเองเป็นขนวัวก็แล้วกัน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก คัดจาก “ขนวัวหรือเขาวัว” หนังสือ “สันตุสสโกวาท” | |
| เจ้าของ: | แค่อากาศ [ 28 พ.ย. 2018, 11:50 ] | 
| หัวข้อกระทู้: | Re: ปัญญาทางศาสนา | 
|      สาธุ สาธุ สาธุ ...หลวงตาสิริ กับหลวงพ่อพุธท่านสอนชัดแจ้งมากเรื่องพุทโธหายไป สาธุ ..."พุทโธหายไปไม่ใช่ว่าตนไม่มีวิตกวิจาร แต่เพราะมีลมหายใจละเอียดเป็นหนึ่งเดียวกับจิต วิตก วิจารจึงละเอียดตาม กลายเป็นความตรึกแท้ๆที่ไม่ปรุงแต่งสมมติโดยความคิดปรุงแต่ง" อันมีกิริยาของความตรึก ที่ทำใจไว้แน่วแน่ปักจับแนบแน่นไว้ในภายในต่ออารมณ์ มีความนึกรู้อยู่ภายในใจแต่ไม่คิดเรียกว่าสำเนียก ให้จิตทำความรู้ เป็นผู้รู้ได้ชัดเจน คือจิตเป็นพุทโธนั่นเอง นี่คือความรู้โดยไม่คิด มีตั้งแต่อุปจาระฌาณขึ้นไป ...ครูบาอารจารย์หลายท่านจึงสอนว่า "ละวิตก" นั่นคือ ละสมมติความคิดกิเลสของปลอมในใจเสีย เพราะวิตกคือสมมติความคิดนี่แหละจึงมีรัก ชอบ ชัง หลง มันปิดกั้นปัญญาของจริง พระอรหันต์ท่านจึงสอนว่าวิปัสสนา คือ รู้โดยไม่คิด หากยังคิดอยู่ก็ไม่ใช่วิปัสสนา ละวิตกความคิดจึงเห็นจริง คือ ไม่คิดได้จึงรู้ และสอนให้ทำอานาปานาสติโดยไม่บริกรรม เพื่อละวิตกความคิดสมมติ เป็นการฝึกรู้โดยไม่คิด ปัญญาธรรม คือ กุศล แปลว่าฉลาด ฉลาดเลือกเฟ้นธรรม ฉลาดในการปล่อยวาง ส่วนปัญญาญาณคือเห็นจริงบรรลุธรรม สาธุ สาธุ สาธุ ครูบาอาจารย์ท่านสอนมาดีแล้วครับ ผมฉลาดในการปล่อยวางแล้วครับท่านรสมน ขอบคุณมากครับ | |
| หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง | 
| Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ | |