วันเวลาปัจจุบัน 29 เม.ย. 2024, 23:25  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 155 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 ... 11  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 เม.ย. 2019, 14:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


sssboun เขียน:
โลกสวย เขียน:


พระพุทธเจ้า ทรงตรัสไว้โดยละเอียด ว่า อกุศลใดนำไปสู่อบาย และอกุศลใด ไม่นำสู่อบาย



[321] อกุศลกรรมบถ 10 (ทางแห่งอกุศลกรรม, ทางทำความชั่ว, กรรมชั่วอันเป็นทางนำไปสู่ความเสื่อม ความทุกข์ หรือทุคติ — unwholesome course of action)
ก. กายกรรม 3 (การกระทำทางกาย — bodily action)
1. ปาณาติบาต (การทำชีวิตให้ตกล่วง, ปลงชีวิต — destruction of life; killing)
2. อทินนาทาน (การถือเอาของที่เขามิได้ให้ โดยอาการขโมย, ลักทรัพย์ — taking what is not given; stealing)
3. กาเมสุมิจฉาจาร (ความประพฤติผิดในกาม — sexual misconduct)

ข. วจีกรรม 4 (การกระทำทางวาจา — verbal action)
4. มุสาวาท (การพูดเท็จ — false speech)
5. ปิสุณาวาจา (วาจาส่อเสียด — tale-bearing; malicious speech)
6. ผรุสวาจา (วาจาหยาบ — harsh speech)
7. สัมผัปปลาปะ (คำพูดเพ้อเจ้อ — frivolous talk; vain talk; gossip)

ค. มโนกรรม 3 (การกระทำทางใจ — mental action)
8. อภิชฌา (เพ่งเล็งอยากได้ของเขา — covetousness; avarice)
9. พยาบาท (คิดร้ายผู้อื่น — illwill)
10. มิจฉาทิฏฐิ (เห็นผิดจากคลองธรรม — false view; wrong view)

D.III 269, 290;
A.V.264. ที.ปา. 11/359/284; 470/337;
องฺ.ทสก. 24/165/285.

smiley

ที่ยกมาถูกต้องครับ แต่ศีล ๕ นั้นมี
อ้างคำพูด:
ศีล 5 มีความหมายคือ
๑. เว้นจากทำลายชีวิต
๒. เว้นจากถือเอาของที่เขามิได้ให้
๓. เว้นจากประพฤติผิดในกาม
๔. เว้นจากพูดเท็จ
๕. เว้นจากของเมา คือ สุราเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท

อาราธนาศีล 5
(ถ้าคนเดียวเปลี่ยนจากคำว่า "มะยัง" เป็น "อะหัง" และ "ยาจามะ" เป็น "ยาจามิ")

มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัติถายะ
ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ
ทุติยันปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตยาถะ
ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ
ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัติยาถะ
ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ข้าแต่ ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอสมาทานศีล 5 พร้อมด้วยไตรสรณคมน์ เพื่อประโยชน์แห่งการรักษา เป็นข้อ ๆ

คำสมาทาน ว่า
ปาณาติปาตา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ (ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการฆ่าสัตว์ด้วยตนเองและไม่ใช่ให้ผู้อื่นฆ่า)
อทินนาทานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ (ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการลัก ,ฉ้อ ของผู้อื่นด้วยตนเอง และไม่ใช่ให้ผู้อื่นลัก ฉ้อ)
กาเมสุมิจฺฉานารา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ (ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการประพฤติผิดในกาม)
มุสาวาทา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ (ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการพูดเท็จ คำไม่เป็นจริง และคำล่อลวง อำพรางผู้อื่น)
สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ (ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการดื่มสุรา เมรัย เครื่องดองของทำใจให้คลั่งไคล้ต่าง ๆ )

ที่มาhttp://www.larnbuddhism.com/grammathan/siil5.html

หรือว่า เม คิดว่า การดื่มของมืนเมานั้นดีครับ

อ้างคำพูด:
เพราะพระคุณเจ้า ท่าน สามเอส ไม่รู้ว่า
เหล้า เบียร์ ไม่ได้นำไปสู่อบาย
การหัวเราะ ไม่ได้นำไปสู่อบาย


มิควรพูดอะไรเกินไป เพราะจะเข้าคล้ายมุสาวาสครับ

อ้างคำพูด:
ไม่รู้ว่า เหล้า เบียร์ ไม่ได้นำไปสู่อบาย


แต่เป็นเหตุปัจจัย มิฉนั้น พระพุทธเจ้าพระองค์จะทรงบัญญัติไว้ทำไมครับ

อ้างคำพูด:
การหัวเราะ ไม่ได้นำไปสู่อบาย

หากจะหัวเราะก็ต้องดูเหตุการ สถานที่ และโอกาส ว่าควรไม่ควร
เช่นไร มิใช่ใช้พร่ําเพรื่อครับ



เพราะเธอยัง หลงตัวเองว่าเคยบวชเรียนเป็นพระมา เทศน์ไปเรื่อยเปื่อย ไม่ตรงตามหัวข้อกระทู้
เม เรยเรียกเธอว่า พระคุณเจ้า สามเอส ไงค๊ะ
เพราะเธอยังคงแสดงตัว เช่นนั้น

และเธอ เองไม่รู้ ว่า

สิ่งที่พระพุทธองค์บัญญัติแท้จริง คืออะไร
ที่ถูกต้อง ตามพระปริยัติคือ

ที่พระพุทธองค์บัญญัติ ทรงแสดงถึง อกุศลใด ที่นำไปสู่อบาย
และอกุศลใด ไม่นำไปสู่อบาย

และพระพุทธองค์ ไม่ได้ทรงบัญญัติศีล
เพราะศีล มีมาก่อน ตั้งแต่ก่อนสมัยพราหมณ์ และมีมาก่อนที่พระพุทธองค์จะทรงตรัสรู้



สิกขาที่ทรงบัญญัติ เฉพาะภิกษุ และพุทธามะกะ ไม่เนื่องด้วย ศาสนาอื่นๆ


ที่ถูกต้อง ตามพระอภิธรรม
อกุศล เป็นปัจจัยให้เกิด กุศลจิตได้ ด้วยอำนาจ อารัมณปัจจัย และปกตุปนิสสยปัจจัย
ไม่ใช่ เหตุเพราะเบียร์ เหล้าน๊ะค๊ะ

นอกจากนี้ พระพุทธองค์ ทรงยกเรื่องน้ำอัมฤต ทรงแสดง
การตีกันตาย ของเหล่าเทวดา ในสวรรค์ไว้ด้วย
ไม่ได้ เกิดจากเบียร์ และสุรา
แต่ เป็นอกุศลจิต ค่ะ


tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 เม.ย. 2019, 19:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
sssboun เขียน:
โลกสวย เขียน:


พระพุทธเจ้า ทรงตรัสไว้โดยละเอียด ว่า อกุศลใดนำไปสู่อบาย และอกุศลใด ไม่นำสู่อบาย



[321] อกุศลกรรมบถ 10 (ทางแห่งอกุศลกรรม, ทางทำความชั่ว, กรรมชั่วอันเป็นทางนำไปสู่ความเสื่อม ความทุกข์ หรือทุคติ — unwholesome course of action)
ก. กายกรรม 3 (การกระทำทางกาย — bodily action)
1. ปาณาติบาต (การทำชีวิตให้ตกล่วง, ปลงชีวิต — destruction of life; killing)
2. อทินนาทาน (การถือเอาของที่เขามิได้ให้ โดยอาการขโมย, ลักทรัพย์ — taking what is not given; stealing)
3. กาเมสุมิจฉาจาร (ความประพฤติผิดในกาม — sexual misconduct)

ข. วจีกรรม 4 (การกระทำทางวาจา — verbal action)
4. มุสาวาท (การพูดเท็จ — false speech)
5. ปิสุณาวาจา (วาจาส่อเสียด — tale-bearing; malicious speech)
6. ผรุสวาจา (วาจาหยาบ — harsh speech)
7. สัมผัปปลาปะ (คำพูดเพ้อเจ้อ — frivolous talk; vain talk; gossip)

ค. มโนกรรม 3 (การกระทำทางใจ — mental action)
8. อภิชฌา (เพ่งเล็งอยากได้ของเขา — covetousness; avarice)
9. พยาบาท (คิดร้ายผู้อื่น — illwill)
10. มิจฉาทิฏฐิ (เห็นผิดจากคลองธรรม — false view; wrong view)

D.III 269, 290;
A.V.264. ที.ปา. 11/359/284; 470/337;
องฺ.ทสก. 24/165/285.

smiley

ที่ยกมาถูกต้องครับ แต่ศีล ๕ นั้นมี
อ้างคำพูด:
ศีล 5 มีความหมายคือ
๑. เว้นจากทำลายชีวิต
๒. เว้นจากถือเอาของที่เขามิได้ให้
๓. เว้นจากประพฤติผิดในกาม
๔. เว้นจากพูดเท็จ
๕. เว้นจากของเมา คือ สุราเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท

อาราธนาศีล 5
(ถ้าคนเดียวเปลี่ยนจากคำว่า "มะยัง" เป็น "อะหัง" และ "ยาจามะ" เป็น "ยาจามิ")

มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัติถายะ
ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ
ทุติยันปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตยาถะ
ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ
ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัติยาถะ
ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ข้าแต่ ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอสมาทานศีล 5 พร้อมด้วยไตรสรณคมน์ เพื่อประโยชน์แห่งการรักษา เป็นข้อ ๆ

คำสมาทาน ว่า
ปาณาติปาตา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ (ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการฆ่าสัตว์ด้วยตนเองและไม่ใช่ให้ผู้อื่นฆ่า)
อทินนาทานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ (ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการลัก ,ฉ้อ ของผู้อื่นด้วยตนเอง และไม่ใช่ให้ผู้อื่นลัก ฉ้อ)
กาเมสุมิจฺฉานารา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ (ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการประพฤติผิดในกาม)
มุสาวาทา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ (ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการพูดเท็จ คำไม่เป็นจริง และคำล่อลวง อำพรางผู้อื่น)
สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ (ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการดื่มสุรา เมรัย เครื่องดองของทำใจให้คลั่งไคล้ต่าง ๆ )

ที่มาhttp://www.larnbuddhism.com/grammathan/siil5.html

หรือว่า เม คิดว่า การดื่มของมืนเมานั้นดีครับ

อ้างคำพูด:
เพราะพระคุณเจ้า ท่าน สามเอส ไม่รู้ว่า
เหล้า เบียร์ ไม่ได้นำไปสู่อบาย
การหัวเราะ ไม่ได้นำไปสู่อบาย


มิควรพูดอะไรเกินไป เพราะจะเข้าคล้ายมุสาวาสครับ

อ้างคำพูด:
ไม่รู้ว่า เหล้า เบียร์ ไม่ได้นำไปสู่อบาย


แต่เป็นเหตุปัจจัย มิฉนั้น พระพุทธเจ้าพระองค์จะทรงบัญญัติไว้ทำไมครับ

อ้างคำพูด:
การหัวเราะ ไม่ได้นำไปสู่อบาย

หากจะหัวเราะก็ต้องดูเหตุการ สถานที่ และโอกาส ว่าควรไม่ควร
เช่นไร มิใช่ใช้พร่ําเพรื่อครับ



เพราะเธอยัง หลงตัวเองว่าเคยบวชเรียนเป็นพระมา เทศน์ไปเรื่อยเปื่อย ไม่ตรงตามหัวข้อกระทู้
เม เรยเรียกเธอว่า พระคุณเจ้า สามเอส ไงค๊ะ
เพราะเธอยังคงแสดงตัว เช่นนั้น

และเธอ เองไม่รู้ ว่า

สิ่งที่พระพุทธองค์บัญญัติแท้จริง คืออะไร
ที่ถูกต้อง ตามพระปริยัติคือ

ที่พระพุทธองค์บัญญัติ ทรงแสดงถึง อกุศลใด ที่นำไปสู่อบาย
และอกุศลใด ไม่นำไปสู่อบาย

และพระพุทธองค์ ไม่ได้ทรงบัญญัติศีล
เพราะศีล มีมาก่อน ตั้งแต่ก่อนสมัยพราหมณ์ และมีมาก่อนที่พระพุทธองค์จะทรงตรัสรู้



สิกขาที่ทรงบัญญัติ เฉพาะภิกษุ และพุทธามะกะ ไม่เนื่องด้วย ศาสนาอื่นๆ


ที่ถูกต้อง ตามพระอภิธรรม
อกุศล เป็นปัจจัยให้เกิด กุศลจิตได้ ด้วยอำนาจ อารัมณปัจจัย และปกตุปนิสสยปัจจัย
ไม่ใช่ เหตุเพราะเบียร์ เหล้าน๊ะค๊ะ

นอกจากนี้ พระพุทธองค์ ทรงยกเรื่องน้ำอัมฤต ทรงแสดง
การตีกันตาย ของเหล่าเทวดา ในสวรรค์ไว้ด้วย
ไม่ได้ เกิดจากเบียร์ และสุรา
แต่ เป็นอกุศลจิต ค่ะ


tongue


สรุปว่า ดื่มเหล้า ดื่มเบียร์นี้ดีหรือไม่ครับคุณ เม

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 เม.ย. 2019, 20:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


sssboun เขียน:
โลกสวย เขียน:
sssboun เขียน:
โลกสวย เขียน:


พระพุทธเจ้า ทรงตรัสไว้โดยละเอียด ว่า อกุศลใดนำไปสู่อบาย และอกุศลใด ไม่นำสู่อบาย



[321] อกุศลกรรมบถ 10 (ทางแห่งอกุศลกรรม, ทางทำความชั่ว, กรรมชั่วอันเป็นทางนำไปสู่ความเสื่อม ความทุกข์ หรือทุคติ — unwholesome course of action)
ก. กายกรรม 3 (การกระทำทางกาย — bodily action)
1. ปาณาติบาต (การทำชีวิตให้ตกล่วง, ปลงชีวิต — destruction of life; killing)
2. อทินนาทาน (การถือเอาของที่เขามิได้ให้ โดยอาการขโมย, ลักทรัพย์ — taking what is not given; stealing)
3. กาเมสุมิจฉาจาร (ความประพฤติผิดในกาม — sexual misconduct)

ข. วจีกรรม 4 (การกระทำทางวาจา — verbal action)
4. มุสาวาท (การพูดเท็จ — false speech)
5. ปิสุณาวาจา (วาจาส่อเสียด — tale-bearing; malicious speech)
6. ผรุสวาจา (วาจาหยาบ — harsh speech)
7. สัมผัปปลาปะ (คำพูดเพ้อเจ้อ — frivolous talk; vain talk; gossip)

ค. มโนกรรม 3 (การกระทำทางใจ — mental action)
8. อภิชฌา (เพ่งเล็งอยากได้ของเขา — covetousness; avarice)
9. พยาบาท (คิดร้ายผู้อื่น — illwill)
10. มิจฉาทิฏฐิ (เห็นผิดจากคลองธรรม — false view; wrong view)

D.III 269, 290;
A.V.264. ที.ปา. 11/359/284; 470/337;
องฺ.ทสก. 24/165/285.

smiley

ที่ยกมาถูกต้องครับ แต่ศีล ๕ นั้นมี
อ้างคำพูด:
ศีล 5 มีความหมายคือ
๑. เว้นจากทำลายชีวิต
๒. เว้นจากถือเอาของที่เขามิได้ให้
๓. เว้นจากประพฤติผิดในกาม
๔. เว้นจากพูดเท็จ
๕. เว้นจากของเมา คือ สุราเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท

อาราธนาศีล 5
(ถ้าคนเดียวเปลี่ยนจากคำว่า "มะยัง" เป็น "อะหัง" และ "ยาจามะ" เป็น "ยาจามิ")

มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัติถายะ
ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ
ทุติยันปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตยาถะ
ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ
ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัติยาถะ
ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ข้าแต่ ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอสมาทานศีล 5 พร้อมด้วยไตรสรณคมน์ เพื่อประโยชน์แห่งการรักษา เป็นข้อ ๆ

คำสมาทาน ว่า
ปาณาติปาตา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ (ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการฆ่าสัตว์ด้วยตนเองและไม่ใช่ให้ผู้อื่นฆ่า)
อทินนาทานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ (ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการลัก ,ฉ้อ ของผู้อื่นด้วยตนเอง และไม่ใช่ให้ผู้อื่นลัก ฉ้อ)
กาเมสุมิจฺฉานารา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ (ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการประพฤติผิดในกาม)
มุสาวาทา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ (ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการพูดเท็จ คำไม่เป็นจริง และคำล่อลวง อำพรางผู้อื่น)
สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ (ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการดื่มสุรา เมรัย เครื่องดองของทำใจให้คลั่งไคล้ต่าง ๆ )

ที่มาhttp://www.larnbuddhism.com/grammathan/siil5.html

หรือว่า เม คิดว่า การดื่มของมืนเมานั้นดีครับ

อ้างคำพูด:
เพราะพระคุณเจ้า ท่าน สามเอส ไม่รู้ว่า
เหล้า เบียร์ ไม่ได้นำไปสู่อบาย
การหัวเราะ ไม่ได้นำไปสู่อบาย


มิควรพูดอะไรเกินไป เพราะจะเข้าคล้ายมุสาวาสครับ

อ้างคำพูด:
ไม่รู้ว่า เหล้า เบียร์ ไม่ได้นำไปสู่อบาย


แต่เป็นเหตุปัจจัย มิฉนั้น พระพุทธเจ้าพระองค์จะทรงบัญญัติไว้ทำไมครับ

อ้างคำพูด:
การหัวเราะ ไม่ได้นำไปสู่อบาย

หากจะหัวเราะก็ต้องดูเหตุการ สถานที่ และโอกาส ว่าควรไม่ควร
เช่นไร มิใช่ใช้พร่ําเพรื่อครับ



เพราะเธอยัง หลงตัวเองว่าเคยบวชเรียนเป็นพระมา เทศน์ไปเรื่อยเปื่อย ไม่ตรงตามหัวข้อกระทู้
เม เรยเรียกเธอว่า พระคุณเจ้า สามเอส ไงค๊ะ
เพราะเธอยังคงแสดงตัว เช่นนั้น

และเธอ เองไม่รู้ ว่า

สิ่งที่พระพุทธองค์บัญญัติแท้จริง คืออะไร
ที่ถูกต้อง ตามพระปริยัติคือ

ที่พระพุทธองค์บัญญัติ ทรงแสดงถึง อกุศลใด ที่นำไปสู่อบาย
และอกุศลใด ไม่นำไปสู่อบาย

และพระพุทธองค์ ไม่ได้ทรงบัญญัติศีล
เพราะศีล มีมาก่อน ตั้งแต่ก่อนสมัยพราหมณ์ และมีมาก่อนที่พระพุทธองค์จะทรงตรัสรู้



สิกขาที่ทรงบัญญัติ เฉพาะภิกษุ และพุทธามะกะ ไม่เนื่องด้วย ศาสนาอื่นๆ


ที่ถูกต้อง ตามพระอภิธรรม
อกุศล เป็นปัจจัยให้เกิด กุศลจิตได้ ด้วยอำนาจ อารัมณปัจจัย และปกตุปนิสสยปัจจัย
ไม่ใช่ เหตุเพราะเบียร์ เหล้าน๊ะค๊ะ

นอกจากนี้ พระพุทธองค์ ทรงยกเรื่องน้ำอัมฤต ทรงแสดง
การตีกันตาย ของเหล่าเทวดา ในสวรรค์ไว้ด้วย
ไม่ได้ เกิดจากเบียร์ และสุรา
แต่ เป็นอกุศลจิต ค่ะ


tongue


สรุปว่า ดื่มเหล้า ดื่มเบียร์นี้ดีหรือไม่ครับคุณ เม



สรุปว่า

ความดี คือ กุศลจิต21 เจตสิก 38 อันเป็นไปในกายทวาร วจีทวาร มโนทวาร
และความไม่ดี เป็น อุกศลจิต 12 เจตสิก 27 อันเป็นไปในกายทวาร วจีทวาร มโนทวาร
ของเธอเอง

ที่เธอจะเห็นได้เอง ว่า จิตใจเธอดี หรือ ชั่ว

ผู้อ่อนด้อยการปฎิบัติ เรยหลงเชื่อแต่คำโฆษณา แบบให้เหล้าเท่ากับแช่ง

โดยไม่รู้สภาพจิตใจตัวเอง หลงไปโทษแต่วัตถุและสิ่งของภายนอกค่ะ


tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 เม.ย. 2019, 20:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


งั้นคุณ เมก็ยังดื่มเหล้า เบียร์เป็นปกติสินะครับ

และที่มีมา ในศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ ศีล ๒๒๗ นั้นมีมาทำไม
เพราะเหตุอะไรช่วยแจกแจงด้วยครับ เหตุผลเพื่อความเข้าใจ
ที่ถูกต้องยิ่งขึ้นครับ

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 เม.ย. 2019, 21:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


sssboun เขียน:
งั้นคุณ เมก็ยังดื่มเหล้า เบียร์เป็นปกติสินะครับ

และที่มีมา ในศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ ศีล ๒๒๗ นั้นมีมาทำไม
เพราะเหตุอะไรช่วยแจกแจงด้วยครับ เหตุผลเพื่อความเข้าใจ
ที่ถูกต้องยิ่งขึ้นครับ



นั่นเธอเดาอย่างปกติของเธอ และจะเกิดปรามาสเอาเอง ไปเอง
เหมือนที่ไปเดาไปว่า คุณกบ หรือใครๆ ที่เข้ามาแย้ง นั้นเป็นนักดื่ม

ยิ่งแสดงซ้ำว่าเธอนั้น ไม่ใช่นักปฎิบัติอะไรเรย และไม่เรียนพระปริยัติ
เรยไม่รู้ว่า ศีลนั้น มีวิรัตจาก การประพฤติทุจริต
ในสิกขาที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติ
เธอจึง ไม่รู้ว่า กุศลเจตสิก 12 เจตสิก 38
อันเป็นไปในกายทวาร วจีทวาร มโนทวาร นั้นเป็นอย่างไร

การอ้างศีล และบัญญัติเรื่องเหล้า เบียร์ของเธอ

จึง ไม่อาจทำลายการกำหนดปรมัตถ์ธรรม ในปฎิบัติในมหาสติปัฎฐานและวิปัสสนา
ตามที่พระพุทธองค์สอนได้เรย

เพราะเธอไม่รู้ว่า บาทฐานของอธิศีลสิกขานั้น ต้องสัมปยุตต์พร้อมด้วยมรรค
และเป็นอริยะมรรค เท่านั้น

คาดว่ายังไง ๆ เธอก็ยังไม่อาจเข้าใจได้หรอก
เพราะไม่เรียนปริยัติ และไม่ได้ปฎิบัติ
มัวแต่โทษเหล้าเบียร์ ออกไปนอกตัว

แต่จริงๆ ความชั่ว ความดี เกิดจากใจเธอเอง

แนะนำน๊ะค๊ะ หัดทำความดีขั้นต้น ปล่อยนกปล่อยปลา ปล่อยเต่า ให้ตรงเสียก่อน
ไม่ใช่ปล่อยนกเล็กไปในหมู่นกใหญ่ ปล่อยเต่าบกไปในน้ำ ปล่อยปลาน้ำจืดในทะเล

smiley


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 เม.ย. 2019, 21:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
sssboun เขียน:
งั้นคุณ เมก็ยังดื่มเหล้า เบียร์เป็นปกติสินะครับ

และที่มีมา ในศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ ศีล ๒๒๗ นั้นมีมาทำไม
เพราะเหตุอะไรช่วยแจกแจงด้วยครับ เหตุผลเพื่อความเข้าใจ
ที่ถูกต้องยิ่งขึ้นครับ



นั่นเธอเดาอย่างปกติของเธอ และจะเกิดปรามาสเอาเอง ไปเอง
เหมือนที่ไปเดาไปว่า คุณกบ หรือใครๆ ที่เข้ามาแย้ง นั้นเป็นนักดื่ม

ยิ่งแสดงซ้ำว่าเธอนั้น ไม่ใช่นักปฎิบัติอะไรเรย และไม่เรียนพระปริยัติ
เรยไม่รู้ว่า ศีลนั้น มีวิรัตจาก การประพฤติทุจริต
ในสิกขาที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติ
เธอจึง ไม่รู้ว่า กุศลเจตสิก 12 เจตสิก 38
อันเป็นไปในกายทวาร วจีทวาร มโนทวาร นั้นเป็นอย่างไร

การอ้างศีล และบัญญัติเรื่องเหล้า เบียร์ของเธอ

จึง ไม่อาจทำลายการกำหนดปรมัตถ์ธรรม ในปฎิบัติในมหาสติปัฎฐานและวิปัสสนา
ตามที่พระพุทธองค์สอนได้เรย

เพราะเธอไม่รู้ว่า บาทฐานของอธิศีลสิกขานั้น ต้องสัมปยุตต์พร้อมด้วยมรรค
และเป็นอริยะมรรค เท่านั้น

คาดว่ายังไง ๆ เธอก็ยังไม่อาจเข้าใจได้หรอก
เพราะไม่เรียนปริยัติ และไม่ได้ปฎิบัติ
มัวแต่โทษเหล้าเบียร์ ออกไปนอกตัว

แต่จริงๆ ความชั่ว ความดี เกิดจากใจเธอเอง

แนะนำน๊ะค๊ะ หัดทำความดีขั้นต้น ปล่อยนกปล่อยปลา ปล่อยเต่า ให้ตรงเสียก่อน
ไม่ใช่ปล่อยนกเล็กไปในหมู่นกใหญ่ ปล่อยเต่าบกไปในน้ำ ปล่อยปลาน้ำจืดในทะเล

smiley


ถามอย่างก็ไปตอบอีกอย่าง ผมก็พอรู้ครับว่าทุกอย่างนั้น
ขึ้นอยู่กับจิตใจ หากเราไม่เสพก็ไม่เมา และคุณ เม รู้ได้อย่างไร
ว่าผมไม่ได้ปฏิบัติ และไม่เรียน แต่คำพูดที่คุณ เม พูดมานั้นนำไป
พูดไปบอกบุคคลทั่วไปเค้าจะเข้าใจอย่างไรครับ

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 เม.ย. 2019, 22:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


sssboun เขียน:
โลกสวย เขียน:
sssboun เขียน:
งั้นคุณ เมก็ยังดื่มเหล้า เบียร์เป็นปกติสินะครับ

และที่มีมา ในศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ ศีล ๒๒๗ นั้นมีมาทำไม
เพราะเหตุอะไรช่วยแจกแจงด้วยครับ เหตุผลเพื่อความเข้าใจ
ที่ถูกต้องยิ่งขึ้นครับ



นั่นเธอเดาอย่างปกติของเธอ และจะเกิดปรามาสเอาเอง ไปเอง
เหมือนที่ไปเดาไปว่า คุณกบ หรือใครๆ ที่เข้ามาแย้ง นั้นเป็นนักดื่ม

ยิ่งแสดงซ้ำว่าเธอนั้น ไม่ใช่นักปฎิบัติอะไรเรย และไม่เรียนพระปริยัติ
เรยไม่รู้ว่า ศีลนั้น มีวิรัตจาก การประพฤติทุจริต
ในสิกขาที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติ
เธอจึง ไม่รู้ว่า กุศลเจตสิก 12 เจตสิก 38
อันเป็นไปในกายทวาร วจีทวาร มโนทวาร นั้นเป็นอย่างไร

การอ้างศีล และบัญญัติเรื่องเหล้า เบียร์ของเธอ

จึง ไม่อาจทำลายการกำหนดปรมัตถ์ธรรม ในปฎิบัติในมหาสติปัฎฐานและวิปัสสนา
ตามที่พระพุทธองค์สอนได้เรย

เพราะเธอไม่รู้ว่า บาทฐานของอธิศีลสิกขานั้น ต้องสัมปยุตต์พร้อมด้วยมรรค
และเป็นอริยะมรรค เท่านั้น

คาดว่ายังไง ๆ เธอก็ยังไม่อาจเข้าใจได้หรอก
เพราะไม่เรียนปริยัติ และไม่ได้ปฎิบัติ
มัวแต่โทษเหล้าเบียร์ ออกไปนอกตัว

แต่จริงๆ ความชั่ว ความดี เกิดจากใจเธอเอง

แนะนำน๊ะค๊ะ หัดทำความดีขั้นต้น ปล่อยนกปล่อยปลา ปล่อยเต่า ให้ตรงเสียก่อน
ไม่ใช่ปล่อยนกเล็กไปในหมู่นกใหญ่ ปล่อยเต่าบกไปในน้ำ ปล่อยปลาน้ำจืดในทะเล

smiley


ถามอย่างก็ไปตอบอีกอย่าง ผมก็พอรู้ครับว่าทุกอย่างนั้น
ขึ้นอยู่กับจิตใจ หากเราไม่เสพก็ไม่เมา และคุณ เม รู้ได้อย่างไร
ว่าผมไม่ได้ปฏิบัติ และไม่เรียน แต่คำพูดที่คุณ เม พูดมานั้นนำไป
พูดไปบอกบุคคลทั่วไปเค้าจะเข้าใจอย่างไรครับ


จากคำกล่าวของเธอนั้นแหละ ที่แสดงตัวตนของเธอชัดแจ้ง
ว่าเธอไม่ได้ปฎิบัติ และไม่เรียนปริยัติ

จึงไม่รู้แม้แต่ศีล ว่า ศีล มีมาก่อนที่พระพุทธองค์จะตรัสรู้เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยซ้ำ
และพระพุทธองค์ ทรงบัญญัติสิกขา จาก การประพฤติทุจริต ที่เป็นไปตาม กายทวาร วจีทวาร มโนทวารไว้

เธอเที่ยวไปกล่าวหาสิ่งต่างๆรอบตัวว่าเลว ชั่ว ไม่ดี แล้วคิดว่าตนเป็นคนดี
ทั้งๆที่พระพุทธองค์ ทรงแสดง
สภาวะทั้งกุศล อกุศล อัพพยา อย่างละเอียดไว้
อกุศลใดนำไปสู่อบาย อกุศลใดไม่นำไปสู่อบาย
และทรงแสดงโดยพิศดารขึ้นไปอีก
แม้แต่อกุศล ก็ยังเป็นปัจจัยให้เกิดกุศลจิตได้ ด้วยอำนาจอารัมณปัจจัย และปกตูปนิสสยปัจจัย

นี่หรือจะนับได้ว่าเธอ ปฎิบัติ และ เล่าเรียนปริยัติมา

อมพระมาพูด ก็คงหาคนเชื่อยากหรอกน๊ะค๊ะเธอ


smiley


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 เม.ย. 2019, 22:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
อย่างอ๊บซ์ คงไม่ต้องถึงจับลูกจับเมียมาขู่หรอกมั๊ง

แค่จับหมาจรที่มาแอบนอนอยู่หน้าบ้านมาขู่ ก็ยอมแล้ว

:b32: :b32: :b32:


smiley

ถูก...ต้อง...แล้วคราบ..

:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 เม.ย. 2019, 22:45 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2018, 07:07
โพสต์: 482

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตั้งกระทู้ชวนผู้อื่นมาสมาทาน งดเว้นการดิ่มสุราซึ่งเป็นบุญ เป็นกุศล
บัณฑิตเห็นเค้าก็อนุโมทนา สาธุ การชักชวนผู้อื่นมาสร้างบุญ สร้างกุศล


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 เม.ย. 2019, 23:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
eragon_joe เขียน:
อย่างอ๊บซ์ คงไม่ต้องถึงจับลูกจับเมียมาขู่หรอกมั๊ง

แค่จับหมาจรที่มาแอบนอนอยู่หน้าบ้านมาขู่ ก็ยอมแล้ว

:b32: :b32: :b32:


smiley

ถูก...ต้อง...แล้วคราบ..

:b32: :b32:

บทว่า สุรา ได้แก่สุรา ๕ อย่างคือ ปิฏฐสุรา (สุราทําด้วยแป้ง) ๑
ปูวสุรา (สุราทําด้วยขนม) ๑ โอทนสุรา (สุราทําด้วยข้าวสุก) ๑ กิณฺณปกฺ-
ขิตฺตา (สุราที่เติมด้วยส่าเหล้า) ๑ สมฺภารสสยุตฺตา (สุราที่ประกอบด้วย
เครื่องปรุง) ๑.

บทว่า เมรย ได้แก่ของหมักดอง ๕ อย่าง คือ ปุปผาสวะ
(เครื่องดองด้วยดอกไม้) ๑ ผลาสวะ (เครื่องดองด้วยผลไม้) ๑ มัธวาสวะ
(เครื่องดองด้วยน้ําผึ้ง) ๑ คุฬาสวะ (เครื่องดองด้วยน้ําอ้อยงบ) ๑ สัมภารสังยุตตะ (เครื่องดองที่ประกอบด้วยเครื่องปรุง) ๑

แม้ทั้งสองอย่างนั้นชื่อว่า
มัชชะ เพราะอรรถว่า เป็นที่ตั้งแห่งความเมา เจตนาเป็นเหตุดื่มน้ําเมานั้น

ชื่อว่า ปมาทัฏฐานะ เพราะเป็นเหตุแห่งความประมาท.
แต่โดยลักษณะเจตนาที่ประมาท อันเป็นไปแล้วทางกายทวาร ด้วยสามารถแห่งความมึนเมา
เริ่มแต่เชื้อน้ําเมากล่าวคือสุราเมรัย ตามที่กล่าวแล้ว ชื่อว่า สุราเมรัยมัชชปมาทัฏฐาน.

สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐาน มีองก์ประกอบ ๔ อย่างคือ มชฺชภาโว
(ความเป็นของเมา) ๑ ปาตุกมฺยตาจิตฺต (จิตคิดจะดื่ม) ๑ ตชฺโช
วายาโม (ความพยายามอันเกิดแต่จิตนั้น ) ๑ อชฺโฌหรณ (กลืนให้ล่วงลงในลําคอ) ๑.



ก็ภาวะที่สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐานนั้น มีโทษโดยส่วนเดียวเพราะเขา
ดื่มด้วยจิตเป็นอกุศลอย่างเดียว

พระสุตตันตปิฎกขุททกนิกายอิติวุตตก


smiley


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 เม.ย. 2019, 23:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2018, 07:07
โพสต์: 482

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
eragon_joe เขียน:
อย่างอ๊บซ์ คงไม่ต้องถึงจับลูกจับเมียมาขู่หรอกมั๊ง

แค่จับหมาจรที่มาแอบนอนอยู่หน้าบ้านมาขู่ ก็ยอมแล้ว

:b32: :b32: :b32:


smiley

ถูก...ต้อง...แล้วคราบ..

:b32: :b32:

บทว่า สุรา ได้แก่สุรา ๕ อย่างคือ ปิฏฐสุรา (สุราทําด้วยแป้ง) ๑
ปูวสุรา (สุราทําด้วยขนม) ๑ โอทนสุรา (สุราทําด้วยข้าวสุก) ๑ กิณฺณปกฺ-
ขิตฺตา (สุราที่เติมด้วยส่าเหล้า) ๑ สมฺภารสสยุตฺตา (สุราที่ประกอบด้วย
เครื่องปรุง) ๑.

บทว่า เมรย ได้แก่ของหมักดอง ๕ อย่าง คือ ปุปผาสวะ
(เครื่องดองด้วยดอกไม้) ๑ ผลาสวะ (เครื่องดองด้วยผลไม้) ๑ มัธวาสวะ
(เครื่องดองด้วยน้ําผึ้ง) ๑ คุฬาสวะ (เครื่องดองด้วยน้ําอ้อยงบ) ๑ สัมภารสังยุตตะ (เครื่องดองที่ประกอบด้วยเครื่องปรุง) ๑

แม้ทั้งสองอย่างนั้นชื่อว่า
มัชชะ เพราะอรรถว่า เป็นที่ตั้งแห่งความเมา เจตนาเป็นเหตุดื่มน้ําเมานั้น

ชื่อว่า ปมาทัฏฐานะ เพราะเป็นเหตุแห่งความประมาท.
แต่โดยลักษณะเจตนาที่ประมาท อันเป็นไปแล้วทางกายทวาร ด้วยสามารถแห่งความมึนเมา
เริ่มแต่เชื้อน้ําเมากล่าวคือสุราเมรัย ตามที่กล่าวแล้ว ชื่อว่า สุราเมรัยมัชชปมาทัฏฐาน.

สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐาน มีองก์ประกอบ ๔ อย่างคือ มชฺชภาโว
(ความเป็นของเมา) ๑ ปาตุกมฺยตาจิตฺต (จิตคิดจะดื่ม) ๑ ตชฺโช
วายาโม (ความพยายามอันเกิดแต่จิตนั้น ) ๑ อชฺโฌหรณ (กลืนให้ล่วงลงในลําคอ) ๑.



ก็ภาวะที่สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐานนั้น มีโทษโดยส่วนเดียวเพราะเขา
ดื่มด้วยจิตเป็นอกุศลอย่างเดียว

พระสุตตันตปิฎกขุททกนิกายอิติวุตตก


smiley


การดื่มสุราเป็นเหตุให้ขาดสติ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 เม.ย. 2019, 23:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
eragon_joe เขียน:
อย่างอ๊บซ์ คงไม่ต้องถึงจับลูกจับเมียมาขู่หรอกมั๊ง

แค่จับหมาจรที่มาแอบนอนอยู่หน้าบ้านมาขู่ ก็ยอมแล้ว

:b32: :b32: :b32:


smiley

ถูก...ต้อง...แล้วคราบ..

:b32: :b32:

บทว่า สุรา ได้แก่สุรา ๕ อย่างคือ ปิฏฐสุรา (สุราทําด้วยแป้ง) ๑
ปูวสุรา (สุราทําด้วยขนม) ๑ โอทนสุรา (สุราทําด้วยข้าวสุก) ๑ กิณฺณปกฺ-
ขิตฺตา (สุราที่เติมด้วยส่าเหล้า) ๑ สมฺภารสสยุตฺตา (สุราที่ประกอบด้วย
เครื่องปรุง) ๑.

บทว่า เมรย ได้แก่ของหมักดอง ๕ อย่าง คือ ปุปผาสวะ
(เครื่องดองด้วยดอกไม้) ๑ ผลาสวะ (เครื่องดองด้วยผลไม้) ๑ มัธวาสวะ
(เครื่องดองด้วยน้ําผึ้ง) ๑ คุฬาสวะ (เครื่องดองด้วยน้ําอ้อยงบ) ๑ สัมภารสังยุตตะ (เครื่องดองที่ประกอบด้วยเครื่องปรุง) ๑

แม้ทั้งสองอย่างนั้นชื่อว่า
มัชชะ เพราะอรรถว่า เป็นที่ตั้งแห่งความเมา เจตนาเป็นเหตุดื่มน้ําเมานั้น

ชื่อว่า ปมาทัฏฐานะ เพราะเป็นเหตุแห่งความประมาท.
แต่โดยลักษณะเจตนาที่ประมาท อันเป็นไปแล้วทางกายทวาร ด้วยสามารถแห่งความมึนเมา
เริ่มแต่เชื้อน้ําเมากล่าวคือสุราเมรัย ตามที่กล่าวแล้ว ชื่อว่า สุราเมรัยมัชชปมาทัฏฐาน.

สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐาน มีองก์ประกอบ ๔ อย่างคือ มชฺชภาโว
(ความเป็นของเมา) ๑ ปาตุกมฺยตาจิตฺต (จิตคิดจะดื่ม) ๑ ตชฺโช
วายาโม (ความพยายามอันเกิดแต่จิตนั้น ) ๑ อชฺโฌหรณ (กลืนให้ล่วงลงในลําคอ) ๑.



ก็ภาวะที่สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐานนั้น มีโทษโดยส่วนเดียวเพราะเขา
ดื่มด้วยจิตเป็นอกุศลอย่างเดียว

พระสุตตันตปิฎกขุททกนิกายอิติวุตตก


smiley


การดื่มสุราเป็นเหตุให้ขาดสติ

อันนั้น มันเป็นคำตามป้ายโฆษณา
คำนี้ไม่ทั่วไป ไม่อาจใช้ได้ตลอดกับบุคคลทั้งหมด และพระอริยะสาวกบุคคลในพระศาสนา

พระพุทธองค์จึงทรงแสดง ปัจจัยของ กุศล อกุศล และอัพพยา โดยละเอียดค่ะ


tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 เม.ย. 2019, 23:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2018, 07:07
โพสต์: 482

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
eragon_joe เขียน:
อย่างอ๊บซ์ คงไม่ต้องถึงจับลูกจับเมียมาขู่หรอกมั๊ง

แค่จับหมาจรที่มาแอบนอนอยู่หน้าบ้านมาขู่ ก็ยอมแล้ว

:b32: :b32: :b32:


smiley

ถูก...ต้อง...แล้วคราบ..

:b32: :b32:

บทว่า สุรา ได้แก่สุรา ๕ อย่างคือ ปิฏฐสุรา (สุราทําด้วยแป้ง) ๑
ปูวสุรา (สุราทําด้วยขนม) ๑ โอทนสุรา (สุราทําด้วยข้าวสุก) ๑ กิณฺณปกฺ-
ขิตฺตา (สุราที่เติมด้วยส่าเหล้า) ๑ สมฺภารสสยุตฺตา (สุราที่ประกอบด้วย
เครื่องปรุง) ๑.

บทว่า เมรย ได้แก่ของหมักดอง ๕ อย่าง คือ ปุปผาสวะ
(เครื่องดองด้วยดอกไม้) ๑ ผลาสวะ (เครื่องดองด้วยผลไม้) ๑ มัธวาสวะ
(เครื่องดองด้วยน้ําผึ้ง) ๑ คุฬาสวะ (เครื่องดองด้วยน้ําอ้อยงบ) ๑ สัมภารสังยุตตะ (เครื่องดองที่ประกอบด้วยเครื่องปรุง) ๑

แม้ทั้งสองอย่างนั้นชื่อว่า
มัชชะ เพราะอรรถว่า เป็นที่ตั้งแห่งความเมา เจตนาเป็นเหตุดื่มน้ําเมานั้น

ชื่อว่า ปมาทัฏฐานะ เพราะเป็นเหตุแห่งความประมาท.
แต่โดยลักษณะเจตนาที่ประมาท อันเป็นไปแล้วทางกายทวาร ด้วยสามารถแห่งความมึนเมา
เริ่มแต่เชื้อน้ําเมากล่าวคือสุราเมรัย ตามที่กล่าวแล้ว ชื่อว่า สุราเมรัยมัชชปมาทัฏฐาน.

สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐาน มีองก์ประกอบ ๔ อย่างคือ มชฺชภาโว
(ความเป็นของเมา) ๑ ปาตุกมฺยตาจิตฺต (จิตคิดจะดื่ม) ๑ ตชฺโช
วายาโม (ความพยายามอันเกิดแต่จิตนั้น ) ๑ อชฺโฌหรณ (กลืนให้ล่วงลงในลําคอ) ๑.



ก็ภาวะที่สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐานนั้น มีโทษโดยส่วนเดียวเพราะเขา
ดื่มด้วยจิตเป็นอกุศลอย่างเดียว

พระสุตตันตปิฎกขุททกนิกายอิติวุตตก


smiley


การดื่มสุราเป็นเหตุให้ขาดสติ

อันนั้น มันเป็นคำตามป้ายโฆษณา
คำนี้ไม่ทั่วไป ไม่อาจใช้ได้ตลอดกับบุคคลทั้งหมด และพระอริยะสาวกบุคคลในพระศาสนา

พระพุทธองค์จึงทรงแสดง ปัจจัยของ กุศล อกุศล และอัพพยา โดยละเอียดค่ะ


tongue


ปริยัติสอนให้โง่อย่างนี้หรอ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 เม.ย. 2019, 23:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
eragon_joe เขียน:
อย่างอ๊บซ์ คงไม่ต้องถึงจับลูกจับเมียมาขู่หรอกมั๊ง

แค่จับหมาจรที่มาแอบนอนอยู่หน้าบ้านมาขู่ ก็ยอมแล้ว

:b32: :b32: :b32:


smiley

ถูก...ต้อง...แล้วคราบ..

:b32: :b32:

บทว่า สุรา ได้แก่สุรา ๕ อย่างคือ ปิฏฐสุรา (สุราทําด้วยแป้ง) ๑
ปูวสุรา (สุราทําด้วยขนม) ๑ โอทนสุรา (สุราทําด้วยข้าวสุก) ๑ กิณฺณปกฺ-
ขิตฺตา (สุราที่เติมด้วยส่าเหล้า) ๑ สมฺภารสสยุตฺตา (สุราที่ประกอบด้วย
เครื่องปรุง) ๑.

บทว่า เมรย ได้แก่ของหมักดอง ๕ อย่าง คือ ปุปผาสวะ
(เครื่องดองด้วยดอกไม้) ๑ ผลาสวะ (เครื่องดองด้วยผลไม้) ๑ มัธวาสวะ
(เครื่องดองด้วยน้ําผึ้ง) ๑ คุฬาสวะ (เครื่องดองด้วยน้ําอ้อยงบ) ๑ สัมภารสังยุตตะ (เครื่องดองที่ประกอบด้วยเครื่องปรุง) ๑

แม้ทั้งสองอย่างนั้นชื่อว่า
มัชชะ เพราะอรรถว่า เป็นที่ตั้งแห่งความเมา เจตนาเป็นเหตุดื่มน้ําเมานั้น

ชื่อว่า ปมาทัฏฐานะ เพราะเป็นเหตุแห่งความประมาท.
แต่โดยลักษณะเจตนาที่ประมาท อันเป็นไปแล้วทางกายทวาร ด้วยสามารถแห่งความมึนเมา
เริ่มแต่เชื้อน้ําเมากล่าวคือสุราเมรัย ตามที่กล่าวแล้ว ชื่อว่า สุราเมรัยมัชชปมาทัฏฐาน.

สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐาน มีองก์ประกอบ ๔ อย่างคือ มชฺชภาโว
(ความเป็นของเมา) ๑ ปาตุกมฺยตาจิตฺต (จิตคิดจะดื่ม) ๑ ตชฺโช
วายาโม (ความพยายามอันเกิดแต่จิตนั้น ) ๑ อชฺโฌหรณ (กลืนให้ล่วงลงในลําคอ) ๑.



ก็ภาวะที่สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐานนั้น มีโทษโดยส่วนเดียวเพราะเขา
ดื่มด้วยจิตเป็นอกุศลอย่างเดียว

พระสุตตันตปิฎกขุททกนิกายอิติวุตตก


smiley


การดื่มสุราเป็นเหตุให้ขาดสติ

อันนั้น มันเป็นคำตามป้ายโฆษณา
คำนี้ไม่ทั่วไป ไม่อาจใช้ได้ตลอดกับบุคคลทั้งหมด และพระอริยะสาวกบุคคลในพระศาสนา

พระพุทธองค์จึงทรงแสดง ปัจจัยของ กุศล อกุศล และอัพพยา โดยละเอียดค่ะ


tongue


ปริยัติสอนให้โง่อย่างนี้หรอ


ก็ภาวะที่สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐานนั้น มีโทษโดยส่วนเดียวเพราะเขา
ดื่มด้วยจิตเป็นอกุศลอย่างเดียว

พระสุตตันตปิฎกขุททกนิกายอิติวุตตก

ขอพระรัตนตรัย พระแม่ธรณี พยายมราช ทรงร่วมเป็นสักขีพยานด้วย
ว่า พระพุทธองค์ ทรงสอนเช่นนี้ ทั้งในพระอภิธรรม และพระสูตร

smiley


แก้ไขล่าสุดโดย โลกสวย เมื่อ 10 เม.ย. 2019, 23:48, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 เม.ย. 2019, 23:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2018, 07:07
โพสต์: 482

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
Love J. เขียน:
โลกสวย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
eragon_joe เขียน:
อย่างอ๊บซ์ คงไม่ต้องถึงจับลูกจับเมียมาขู่หรอกมั๊ง

แค่จับหมาจรที่มาแอบนอนอยู่หน้าบ้านมาขู่ ก็ยอมแล้ว

:b32: :b32: :b32:


smiley

ถูก...ต้อง...แล้วคราบ..

:b32: :b32:

บทว่า สุรา ได้แก่สุรา ๕ อย่างคือ ปิฏฐสุรา (สุราทําด้วยแป้ง) ๑
ปูวสุรา (สุราทําด้วยขนม) ๑ โอทนสุรา (สุราทําด้วยข้าวสุก) ๑ กิณฺณปกฺ-
ขิตฺตา (สุราที่เติมด้วยส่าเหล้า) ๑ สมฺภารสสยุตฺตา (สุราที่ประกอบด้วย
เครื่องปรุง) ๑.

บทว่า เมรย ได้แก่ของหมักดอง ๕ อย่าง คือ ปุปผาสวะ
(เครื่องดองด้วยดอกไม้) ๑ ผลาสวะ (เครื่องดองด้วยผลไม้) ๑ มัธวาสวะ
(เครื่องดองด้วยน้ําผึ้ง) ๑ คุฬาสวะ (เครื่องดองด้วยน้ําอ้อยงบ) ๑ สัมภารสังยุตตะ (เครื่องดองที่ประกอบด้วยเครื่องปรุง) ๑

แม้ทั้งสองอย่างนั้นชื่อว่า
มัชชะ เพราะอรรถว่า เป็นที่ตั้งแห่งความเมา เจตนาเป็นเหตุดื่มน้ําเมานั้น

ชื่อว่า ปมาทัฏฐานะ เพราะเป็นเหตุแห่งความประมาท.
แต่โดยลักษณะเจตนาที่ประมาท อันเป็นไปแล้วทางกายทวาร ด้วยสามารถแห่งความมึนเมา
เริ่มแต่เชื้อน้ําเมากล่าวคือสุราเมรัย ตามที่กล่าวแล้ว ชื่อว่า สุราเมรัยมัชชปมาทัฏฐาน.

สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐาน มีองก์ประกอบ ๔ อย่างคือ มชฺชภาโว
(ความเป็นของเมา) ๑ ปาตุกมฺยตาจิตฺต (จิตคิดจะดื่ม) ๑ ตชฺโช
วายาโม (ความพยายามอันเกิดแต่จิตนั้น ) ๑ อชฺโฌหรณ (กลืนให้ล่วงลงในลําคอ) ๑.



ก็ภาวะที่สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐานนั้น มีโทษโดยส่วนเดียวเพราะเขา
ดื่มด้วยจิตเป็นอกุศลอย่างเดียว

พระสุตตันตปิฎกขุททกนิกายอิติวุตตก


smiley


การดื่มสุราเป็นเหตุให้ขาดสติ

อันนั้น มันเป็นคำตามป้ายโฆษณา
คำนี้ไม่ทั่วไป ไม่อาจใช้ได้ตลอดกับบุคคลทั้งหมด และพระอริยะสาวกบุคคลในพระศาสนา

พระพุทธองค์จึงทรงแสดง ปัจจัยของ กุศล อกุศล และอัพพยา โดยละเอียดค่ะ


tongue


ปริยัติสอนให้โง่อย่างนี้หรอ


ขอพระรัตนตรัย พระแม่ธรณี พยายมราช ทรงร่วมเป็นสักขีพยานด้วย
ว่า พระพุทธองค์ ทรงสอนเช่นนี้ ทั้งในพระอภิธรรม และพระสูตร

smiley


ผมนี่แหละเป็นสักขีพยาน อะไรดี อะไรชั่วก็ไม่รู้


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 155 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 ... 11  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 87 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร