ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=56664 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 4 |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 23 ต.ค. 2018, 19:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ |
กระบวนการปฏิบัติ (แนววิธีปฏิบัติ) ต่อจาก กท. เหตุใดสติที่ตามทันขณะปัจจุบัน จึงเป็นหลักสำคัญของวิปัสสนา นี่ viewtopic.php?f=1&t=56670 |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 23 ต.ค. 2018, 19:05 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทางสายเอก + แก้อารมณ์ทางสายเอก (3) |
ไม่ลบก็เปลี่ยนชื่อใหม่สะเลย ![]() |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 23 ต.ค. 2018, 19:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทางสายเอก + แก้อารมณ์ทางสายเอก (3) |
![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 25 ต.ค. 2018, 05:18 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ |
ดูการอาศัยกันและกันระหว่าง สติ กับ สัมปชัญญะ หรือปัญญา สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ ความจริงนั้น สติไม่ใช่ตัววิปัสสนา ปัญญา หรือการใช้ปัญญาต่างหาก เป็นวิปัสสนา แต่ปัญญาจะได้โอกาส และจะทำงานได้อย่างปลอดโปร่งเต็มที่ ก็ต่อเมื่อมีสติคอยช่วยกำกับหนุนอยู่ด้วยเหตุผลดังกล่าวแล้วข้างต้น การฝึกสติจึงมีความสำคัญมากในวิปัสสนา |
เจ้าของ: | โลกสวย [ 25 ต.ค. 2018, 06:24 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ |
อ้า คุณลุงกรัชกายผิดรู้มาผิดๆ เข้าใจผิดๆ อีกแล้ว เพราะไม่ได้เรียนปริยัต์ เรยไม่รู้ว่า สติเจตสิก และเจตสิกที่มาของการตรัสรู้อันเรียกว่าโพชฌงค์ เป็นอาหารของจิตค่ะ เพราะจิตรับรู้อารมณ์ และธรรมรส ได้จากเจตสิกค่ะ คริคริ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 25 ต.ค. 2018, 11:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ |
อิอิ ต่อ พูดอีกอย่างหนึ่งว่า การฝึกสติ ก็เพื่อใช้ปัญญาได้เต็มที่ หรือเป็นการฝึกปัญญาไปด้วยนั่นเอง ในภาษาของการปฏิบัติธรรม เมื่อพูดถึงสติ ก็มักเล็งและรวมถึงสัมปชัญญะที่ควบอยู่ด้วย และสติจะมีกำลังกล้าแข็ง หรือชำนาญคล่องแคล่วขึ้นได้ ก็เพราะมีปัญญาร่วมทำงาน * ปัญญาที่ทำงานร่วมอยู่กับสติในกิจทั่วๆไป มักมีลักษณะอาการที่เรียกว่าสัมปชัญญะ ในขั้นนี้ ปัญญายังดูคล้ายเป็นตัวประกอบ คอยร่วมมือและประสานงานอยู่กับสติ การพูดจากล่าวขานมักเพ่งเล็งไปที่สติ เอาสติเป็นตัวหลักหรือตัวเด่น แต่ในขั้นที่ใช้ปัญญาพินิจพิจารณาอย่างจริงจัง ความเด่นจะไปอยู่ที่ปัญญา สติจะเป็นเหมือนตัวที่คอยรับใช้ปัญญา ปัญญาที่ทำงานในระดับนี้ เช่นที่เรียกว่า ธรรมวิจัย ในโพชฌงค์ ๗ ประการ เป็นต้น อ้างอิงที่ * * สติเกิดร่วมกับปัญญา จึงจะมีกำลัง ขาดปัญญา ย่อมอ่อนกำลัง (ม.อ.3/28 ฯลฯ) ปัญญาปราศจากสติ ไม่มีเลย (วิสุทธิ.ฎีกา 1/302) ผู้ปราศจากสติ ย่อมไม่มีอนุปัสสนา (ที.อ.2/474 ฯลฯ) พูดถึงสติอย่างเดียวเล็งถึงปัญญาด้วย (องฺ.อ.3/127 ฯลฯ) |
เจ้าของ: | โลกสวย [ 25 ต.ค. 2018, 15:38 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ |
กรัชกาย เขียน: อิอิ ต่อ พูดอีกอย่างหนึ่งว่า การฝึกสติ ก็เพื่อใช้ปัญญาได้เต็มที่ หรือเป็นการฝึกปัญญาไปด้วยนั่นเอง ในภาษาของการปฏิบัติธรรม เมื่อพูดถึงสติ ก็มักเล็งและรวมถึงสัมปชัญญะที่ควบอยู่ด้วย และสติจะมีกำลังกล้าแข็ง หรือชำนาญคล่องแคล่วขึ้นได้ ก็เพราะมีปัญญาร่วมทำงาน * ปัญญาที่ทำงานร่วมอยู่กับสติในกิจทั่วๆไป มักมีลักษณะอาการที่เรียกว่าสัมปชัญญะ ในขั้นนี้ ปัญญายังดูคล้ายเป็นตัวประกอบ คอยร่วมมือและประสานงานอยู่กับสติ การพูดจากล่าวขานมักเพ่งเล็งไปที่สติ เอาสติเป็นตัวหลักหรือตัวเด่น แต่ในขั้นที่ใช้ปัญญาพินิจพิจารณาอย่างจริงจัง ความเด่นจะไปอยู่ที่ปัญญา สติจะเป็นเหมือนตัวที่คอยรับใช้ปัญญา ปัญญาที่ทำงานในระดับนี้ เช่นที่เรียกว่า ธรรมวิจัย ในโพชฌงค์ ๗ ประการ เป็นต้น อ้างอิงที่ * * สติเกิดร่วมกับปัญญา จึงจะมีกำลัง ขาดปัญญา ย่อมอ่อนกำลัง (ม.อ.3/28 ฯลฯ) ปัญญาปราศจากสติ ไม่มีเลย (วิสุทธิ.ฎีกา 1/302) ผู้ปราศจากสติ ย่อมไม่มีอนุปัสสนา (ที.อ.2/474 ฯลฯ) พูดถึงสติอย่างเดียวเล็งถึงปัญญาด้วย (องฺ.อ.3/127 ฯลฯ) อ๊ะจ๊าก เพราะลุงกรัชกายไม่ได้เรียนพระอภิธรรม เรยไม่รู้ว่า สติเจตสิก กะปัญญาเจตสิก ต้องเกิดร่วมกะกุศลเจตสิกในองค์ของอริยะมรรค เท่านั้น ค่ะ ไม่งั้น ไปทำชั่ว แหละค่ะ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 25 ต.ค. 2018, 19:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ |
ต่อ ถึงตรงนี้ เห็นควรทบทวนหลัก ซึ่งได้แสดงไว้ตั้งแต่เริ่มมัชฌิมาปฏิปทา ที่ว่า สติปัฏฐาน ๔ เป็นอาหารหล่อเลี้ยงโพชฌงค์ ๗ และโพชฌงค์ ๗ นั้น ก็หล่อเลี้ยงวิชชาและวิมุตติ โดยยกพุทธพจน์มาย้ำ ดังนี้ "ภิกษุทั้งหลาย เรากล่าววิชชาและวิมุตติว่ามีอาหาร มิใช่ไร้อาหาร ก็อะไรเป็นอาหารของวิชชาและวิมุตติ พึงกล่าวว่า คือ โพชฌงค์ ๗ แม้โพชฌงค์ ๗ เราก็กล่าวว่ามีอาหาร มิใช่ไร้อาหาร ก็อะไรเป็นอาหารของโพชฌงค์ ๗ พึงกล่าวว่า คือ สติปัฏฐาน ๔ " "สติปัฏฐาน ๔ ที่บริบูรณ์ ย่อมยังโพชฌงค์ ๗ ให้บริบูรณ์ โพชฌงค์ ๗ ที่บริบูรณ์ ย่อมยังวิชชาและวิมุตติให้บริบูรณ์ วิชชาและวิมุตตินี้ มีอาหารอย่างนี้ และบริบูรณ์อย่างนี้" ตามพุทธพจน์นี้ ชัดว่า โพชฌงค์ ๗ เป็นธรรมที่ส่งผลแก่วิชชาวิมุตติ เท่ากับเป็นตัวที่ให้สำเร็จมรรคผล ส่วนสติปัฏฐานก็ช่วยโดยหล่อเลี้ยงโพชฌงค์ ๗ นั้น พุทธพจน์นี้ ช่วยให้มองวิปัสสนาได้ชัดขึ้น ในสติปัฏฐานนั้น สติทำงานเป็นพื้นยืนโรงอยู่ ปัญญาในชื่อว่า สัมปชัญญะ ก็ได้โอกาสทำงานไปด้วย โดยรู้เข้าใจทุกอย่างที่สติจับดึงตรึงไว้หรือเข้าไปถึง สติจับอันใดให้ สัมปชัญญะก็รู้เข้าใจอันนั้น เหมือนว่า มือจับอะไรเสนอมา ตาก็ได้ดูเห็นสิ่งนั้น |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 25 ต.ค. 2018, 19:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ |
![]() ถึงตรงนี้ เห็นควรทบทวนหลัก ซึ่งได้แสดงไว้ตั้งแต่เริ่มมัชฌิมาปฏิปทา ที่ว่า สติปัฏฐาน ๔ เป็นอาหารหล่อเลี้ยงโพชฌงค์ ๗ และโพชฌงค์ ๗ นั้น ก็หล่อเลี้ยงวิชชาและวิมุตติ โดยยกพุทธพจน์มาย้ำ ดังนี้ "ภิกษุทั้งหลาย เรากล่าววิชชาและวิมุตติว่ามีอาหาร มิใช่ไร้อาหาร ก็อะไรเป็นอาหารของวิชชาและวิมุตติ พึงกล่าวว่า คือ โพชฌงค์ ๗ แม้โพชฌงค์ ๗ เราก็กล่าวว่ามีอาหาร มิใช่ไร้อาหาร ก็อะไรเป็นอาหารของโพชฌงค์ ๗ พึงกล่าวว่า คือ สติปัฏฐาน ๔ " "สติปัฏฐาน ๔ ที่บริบูรณ์ ย่อมยังโพชฌงค์ ๗ ให้บริบูรณ์ โพชฌงค์ ๗ ที่บริบูรณ์ ย่อมยังวิชชาและวิมุตติให้บริบูรณ์ วิชชาและวิมุตตินี้ มีอาหารอย่างนี้ และบริบูรณ์อย่างนี้" (องฺ.ทสก.24/61/122 ฯลฯ) ตามพุทธพจน์นี้ ชัดว่า โพชฌงค์ ๗ เป็นธรรมที่ส่งผลแก่วิชชาวิมุตติ เท่ากับเป็นตัวที่ให้สำเร็จมรรคผล ส่วนสติปัฏฐานก็ช่วยโดยหล่อเลี้ยงโพชฌงค์ ๗ นั้น พุทธพจน์นี้ ช่วยให้มองวิปัสสนาได้ชัดขึ้น ในสติปัฏฐานนั้น สติทำงานเป็นพื้นยืนโรงอยู่ ปัญญา ในชื่อว่า สัมปชัญญะ ก็ได้โอกาสทำงานไปด้วย โดยรู้เข้าใจทุกอย่างที่สติจับดึงตรึงไว้หรือเข้าไปถึง สติจับอันใดให้ สัมปชัญญะก็รู้เข้าใจอันนั้น เหมือนว่า มือจับอะไรเสนอมา ตาก็ได้ดูเห็นสิ่งนั้น |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 25 ต.ค. 2018, 19:19 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ |
ส่วนโพชฌงค์ ก็คือ บนพื้นของสติปัฏฐานนี่แหละ คราวนี้สติจับเรื่องส่งให้ปัญญา ที่ชื่อว่าธรรมวิจัย แล้วคราวนี้ปัญญาเป็นเจ้าบทบาทรับเรื่องไปวิจัย เหมือนตาได้ดูต่อเนื่องไปทั่วตลอด ตอนนี้ก็เป็นกระบวนธรรมของปัญญา ที่เรียกว่าโพชฌงค์ ซึ่งแปลว่า "องค์แห่งการตรัสรู้" สัมปชัญญะ ก็ดี ธรรมวิจัย ก็ดี หรือปัญญาในชื่ออื่นๆก็ดี ที่ทำงานให้เกิดความเห็นแจ้งรู้เข้าใจสิ่งทั้งหลายตรงตามสภาวะที่มันเป็น เพื่อให้จิตหลุดพ้นเป็นอิสระ นี่แหละ คือ วิปัสสนา * (ดู อภิ.วิ.35/612/337 ฯลฯ) (ถ้าอ่านคำอธิบายหลักการนี้เข้าใจ ก็มองภาพการปฏิบัติกรรมฐานเข้าใจ หรือถ้าทำกรรมฐานถูกวิธีมาแต่ต้นก็อ่านคำอธิบายนี้เข้าใจมองออกเก็ตเรย คิกๆๆ) |
เจ้าของ: | โลกสวย [ 25 ต.ค. 2018, 19:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ |
กรัชกาย เขียน: ส่วนโพชฌงค์ ก็คือ บนพื้นของสติปัฏฐานนี่แหละ คราวนี้สติจับเรื่องส่งให้ปัญญา ที่ชื่อว่าธรรมวิจัย แล้วคราวนี้ปัญญาเป็นเจ้าบทบาทรับเรื่องไปวิจัย เหมือนตาได้ดูต่อเนื่องไปทั่วตลอด ตอนนี้ก็เป็นกระบวนธรรมของปัญญา ที่เรียกว่าโพชฌงค์ ซึ่งแปลว่า "องค์แห่งการตรัสรู้" สัมปชัญญะ ก็ดี ธรรมวิจัย ก็ดี หรือปัญญาในชื่ออื่นๆก็ดี ที่ทำงานให้เกิดความเห็นแจ้งรู้เข้าใจสิ่งทั้งหลายตรงตามสภาวะที่มันเป็น เพื่อให้จิตหลุดพ้นเป็นอิสระ นี่แหละ คือ วิปัสสนา (ถ้าอ่านคำอธิบายหลักการนี้เข้าใจ ก็มองภาพการปฏิบัติกรรมฐานเข้าใจ หรือถ้าทำกรรมฐานถูกวิธีมาแต่ต้นก็อ่านคำอธิบายนี้เข้าใจมองออกเก็ตเรย คิกๆๆ) วิชชาและวิมุตตินี้ มีอาหารอย่างนี้ และบริบูรณ์อย่างนี้ เห็นม๊ะคะ ว่าในที่สุด ก็มาสรุป ว่า เจตสิกองค์แห่งการตรัสรู้ เป็นเจตสิกสังขาร เป็นอาหารเป็นธรรมรสให้ จิต ค่ะ คริคริ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 25 ต.ค. 2018, 20:24 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ |
อ่านบทความต่อไปนี้เข้าใจ ก็เห็นทางแยก ทางร่วม ระหว่าง สมถะ กับ วิปัสสนา (สมถกรรมฐาน วิปัสสนากรรมฐาน) ดูดีๆ สติทำกิจสำคัญทั้งในสมถะ และในวิปัสสนา หากพูดเปรียบเทียบ ระหว่างบทบาทของสติในสมถะ กับ ในวิปัสสนา อาจช่วยให้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องที่กล่าวมานั้นชัดเจนยิ่งขึ้น ในสมถะ สติกุมจิตไว้กับอารมณ์ หรือดึงอารมณ์ไว้กับจิต เพียงเพื่อให้จิตเพ่งแน่วแน่หรือจับแนบสนิทอยู่กับอารมณ์นั้น นิ่งสงบไม่ส่าย ไม่ซ่านไปที่อื่น เมื่อจิตแน่วแน่แนบสนิทอยู่กับอารมณ์นั้น เป็นหนึ่งเดียวต่อเนื่องไปสม่ำเสมอ ก็เรียกว่าเป็นสมาธิ และเพียงเท่านั้น สมถะก็สำเร็จ ส่วนในวิปัสสนา สติกำหนดอารมณ์ให้แก่จิต หรือดึงจิตไว้กับอารมณ์เหมือนกัน แต่มุ่งใช้จิตเป็นที่วางอารมณ์ เพื่อเสนออารมณ์นั้นให้ปัญญาตรวจสอบพิจารณา คือจับอารมณ์ไว้ให้ปัญญาตรวจดู และวิเคราะห์วิจัยโดยใช้จิตที่ตั้งมั่น เป็นที่ทำงาน * (สติใช้กำหนด ปัญญาใช้ตรวจตรอง วิเคราะห์ วินิจฉัย - ดู วิสุทธิ.ฎีกา 1/301) หากให้อุปมา ในกรณีของสมถะ เหมือนเอาเชือกผูกลูกวัวพยศไว้กับหลัก ลูกวัวจะออกไปไหนๆ ก็ไปไม่ได้ คงวนเวียนอยู่กับหลัก ในที่สุด เมื่อหายพยศ ก็หมอบนิ่งอยู่กับหลักนั้นเอง จิตเปรียบเหมือนลูกวัวพยศ อารมณ์เหมือนหลัก สติเหมือนเชือก ส่วนในกรณีของวิปัสสนา เปรียบเหมือนเอาเชือกหรือเครื่องมือ ผูกตรึงคน สัตว์ หรือวัตถุบางอย่าง ไว้กับแท่นหรือเตียง แล้วตรวจดู หรือทำกิจอื่น เช่น ผ่าตัด เป็นต้น ได้ถนัดชัดเจน เชือกหรือเครื่องยึด คือ สติ คนสัตว์หรือวัตถุที่เกี่ยวข้อ คือ อารมณ์ แท่นหรือเตียงคือจิตที่เป็นสมาธิ การตรวจหรือผ่าตัดเป็นต้น คือ ปัญญา |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 25 ต.ค. 2018, 20:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ |
ที่กล่าวมานั้น เป็นการพูดถึงหลักทั่วไป ยังมีข้อสังเกตปลีกย่อยที่ควรกล่าวถึงอีกบ้าง อีกอย่างหนึ่ง คือ ในสมถะ ความมุ่งหมายอยู่ที่ทำจิตให้สงบ ดังนั้น เมื่อให้สติกำหนดอารมณ์ใดแล้ว สติก็ยึดตรึงดึงจิตกุมไว้กับอารมณ์นั้น ที่ส่วนนั้นอย่างเดียว ให้จิตจดจ่อแน่วแน่แนบสนิทอยู่กับอารมณ์นั้นเท่านั้น ไม่ให้คลาดไปเลย จนในที่สุด จิตน้อมดิ่งแน่วแน่อยู่กับนิมิต หรือมโนภาพของสิ่งที่กำหนด ซึ่งเป็นเพียงสัญญาที่อยู่ในใจของผู้กำหนดเอง ส่วนในวิปัสสนา ความมุ่งหมายอยู่ที่ความรู้ความเข้าใจสภาวธรรม ดังนั้น สติจึงตามกำหนดตามจับตามถึงอารมณ์เฉพาะตัวจริงของมันตามสภาวะเท่านั้น และเพื่อให้ปัญญารู้เท่าทันครบถ้วนชัดเจนเกี่ยวกับสภาวะของมัน สติจึงตามกำหนดกำกับจับอารมณ์นั้นๆ ให้ทันความเป็นไปของมัน เพื่อปัญญาจะได้รู้อารมณ์นั้นโดยตลอด เช่น ดูมันตั้งแต่มันเกิดขึ้น คลี่คลายตัว จนกระทั่งดับสลายไป นอกจากนั้น จะต้องให้ปัญญาดูรู้อารมณ์ทุกอย่างที่เข้ามา หรือเข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งปัญญาจะต้องรู้เข้าใจ เพื่อให้เกิดความรู้เท่าทันตามความเป็นจริง สติจึงเปลี่ยนอารมณ์ที่กำหนด หรือที่จับให้ดูไปได้เรื่อยๆ อีกทั้งเพื่อให้ปัญญาดูรู้เท่าทันตรงตามที่สิ่งนั้นเป็นอยู่เป็นไปแท้ๆ สติจึงต้องตามจับให้ทันความเป็นไปในแต่ละขณะนั้นๆ ทุกขณะ ไม่หยุดติดค้างอยู่กับอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่ง หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของอารมณ์ใดๆ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 25 ต.ค. 2018, 20:43 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ |
คุณโรส พี่เมโลกสวย พอเก็ตมั้ยขอรับโผม ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจ รู้มึนๆหัวอ้าปากหาวเหมือนคนฟังเทศน์ฟังธรรม แสดงว่า ขาดพื้นฐาน ไร้แววมยุรา |
เจ้าของ: | โลกสวย [ 26 ต.ค. 2018, 03:46 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สติปัฏฐาน เป็นอาหารของโพชฌงค์ |
กรัชกาย เขียน: คุณโรส พี่เมโลกสวย พอเก็ตมั้ยขอรับโผม ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจ รู้มึนๆหัวอ้าปากหาวเหมือนคนฟังเทศน์ฟังธรรม แสดงว่า ขาดพื้นฐาน ไร้แววมยุรา 555 เม เลิกอ่านไปนานแล้วค่ะ แล้วปิดหนังสือตัดแปะแบบนั้นไปนานแล้ว |
หน้า 1 จากทั้งหมด 4 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |