วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 23:04  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 26 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2018, 23:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
eragon_joe เขียน:
การเห็นอะไรตัดช่วงเป็นขณะๆ บางครั้งก็เป็นอาการของโรค

โรคทางระบบประสาทชนิดหนึ่ง

โรคทางระบบประสาทมีอีกมากมาย

เพียงแต่ผู้ปฏิบัติธรรมไม่เข้าไปศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับมัน

ผู้ปฏิบัติก็มักจะตื่นเต้นไปกับการปรากฏ และลุ่มหลงกับมัน

จนตั้งสติกลับมาอยู่บนทัศนะที่ปกติสามัญไม่ได้

ไม่จำเป็นต้องพยายามให้ใครต้องมามีอาการมองเห็นการรับรู้ตัดช่วง

เพราะนั่นอาจจจะเป็นการแสดงอาการของระบบประสาทที่ผิดปกติ

...

และไหนจะอาการย้ำคิดย้ำทำอีก

...

อาการแบบธรรมๆ
กับอาการแบบคนแก่
ถ้าสายตาไม่ลำเอียง ก็จะเห็น

:b32:
เอกอนลืมไปไหมคะ...ผู้รู้ความจริงทั้งหมดมีตถาคตคนเดียว
ใครพิศดารแปลว่าโกหกค่ะ

:b32: :b32:


:b32: :b32: :b32:

เอกอนไม่ได้ลืมหรอกค่ะ ว่านี่ปี 2018

https://www.ted.com/talks/oliver_sacks_ ... anguage=th

คลิปนี้ มีมาตั้งแต่ปี 2009 :b32: :b32: :b32: ผ่านไป 9 ปีแล้ว
วิทยาการก้าวหน้าขึ้นทุกปี ...

เอกอน ยังไม่ตกยุคค่ะ ยังมีการ Update การค้นคว้า คนพบใหม่ๆ

https://www.ted.com/talks/uri_hasson_th ... n#t-879620

ถ้าดูคลิป 2 จบ คาดว่าผู้ปฏิบัติน่าจะพอรู้ว่า
ถ้าจะฟังให้ได้ประโยชน์ทางธรรม ก็ฟังเสียงอ่านพระไตรปิฏก ดีก่า
หรืออ่านพระไตรปิฏก ดีก่าาาา
ได้อารมณ์ธรรมของพระพุทธองค์กว่า และมีโอกาสเจอการจูนคลื่นสมอง :b13:

:b32: :b32: :b32:

เรื่องนี้ จิน ๆ เอกอนเคยเผลอเกริ่นไว้ตั้งนานแล้ว
ก่อนที่คลิป 2 จะปรากฏบนโลก On line ตั้งหลายปี :b32: :b32:
ลักษณะการเกิด ความสัมพันธ์ของคลื่น

"เมื่อไรก็ตามที่หัวใจผู้ปฏิบัติเต้นในจังหวะเดียวกับตถาคต
เมื่อนั้น คำสอน(พระไตรปิฏก)จะปรากฎในความรู้สึกของผู้อ่าน
จะเกิดภาวะที่ทำให้ผู้ปฏิบัติเกิดอาการรับรู้ เห็นนัยยะอารมณ์ธรรมที่พิเศษ"

:b32: :b32: :b32:


แก้ไขล่าสุดโดย eragon_joe เมื่อ 03 ต.ค. 2018, 00:17, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2018, 00:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


แล้วทำไม ทำไง หัวใจถึงจะเต้นในจังหวะเดียวกับพระพุทธองค์ได้ล่ะ

พระองค์ไม่ได้พูดถึงวิถีจิตโดยมากนะ

พระองค์กล่าวถึง มรรค โดยมาก
ก็สิ่งที่พระองค์สอนโดยมาก
ให้ผู้ปฏิบัติฝึกให้มาก นั่นล่ะ
จากผู้ที่มักมีลมหายใจที่หยาบ ก็มีลมหายใจที่ละเอียด
จากผู้ที่มีจิตใจหยาบ ก็ให้ฝึกจนจิตใจมีความละเอียด ฯลฯ

เมื่อไรที่ลมหายใจ หัวใจ เคลื่อนในจังหวะเดียวกับพุทธองค์
อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด อะไรจะปรากฏก็ต้องปรากฏ

เพราะโดยมาก ไม่ปรากฏง่าย ๆ กับใคร ๆ
เมื่อใครเอามาพูด ก็ถูกมองหาว่า โกหก

:b32: :b32: :b32:

เป็นธรรมดา มันเป็นวิบากกรรมของผู้เดินตามมรรค

:b13: :b13: :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2018, 01:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
พูดไม่สุดแล้วคันปาก ต่อประเด็นให้ถกเถียงกันอีกหน่อย ไม่ว่าที่นี่ หรือที่ไหนๆ ที่พูดที่ถกเถียงกันนั่น ไม่พ้นจากขันธ์ ๕ ไปได้เลย ขันธ์ ๕ นี่ว่าตามภาษาพระภาษาทางธรรมเขาใช้ ถ้าพูดตามภาษาชาวบ้านร้านตลาด มันก็คนนี่เอง ก็มนุษย์หมดทั้งเนื้อทั้งตัวที่กิน ขี้ อี้ นอน อยู่นี่่ :b32:

พูดให้คิดต่ออีก เราๆ ท่านๆ ไอๆ ยูๆ อั้วๆ ลื้อๆ ฯลฯ จะกิน ดื่ม ทำ พูด คิด ขีด เขียน อะไรต่ออะไรจิปาถะ ถ้าพูดภาษาทางธรรมก็ใช้ขันธ์ ๕ นี่เอง กิน ดื่ม เป็นต้น ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย :b12:

:b12:
ตถาคตไม่ทะเลาะกับใครเลยนะคะ
คนทั้งโลกที่ทะเลาะกับคำตถาคตน๊า
เห็นตอนที่ภิกษุทะเลาะกันไหมล่ะคะ
พระองค์เสด็จไปอยู่ป่าให้สัตว์ดูแลแทนคน555
แสดงว่าสัตว์ยังรู้คุณของตถาคตมากกว่าผู้ที่คิดว่าตนเป็นภิกษุ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2018, 01:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


huh
ถ้าไม่รู้จักกิเลสให้ดูตอนที่กำลังง่วง
ภาษาบาลีว่าถีนมิทธะจะไม่รู้ตัว
ว่ายังมีกิเลสเลยหรือคะ555
หาวิธีหลับที่นอนนุ่มๆสวัสดี
ถ้านอนไม่หลับก็เป็นทุกข์
พ้นกิเลสความไม่รู้ได้ไหม
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2018, 04:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
huh
ถ้าไม่รู้จักกิเลสให้ดูตอนที่กำลังง่วง
ภาษาบาลีว่าถีนมิทธะจะไม่รู้ตัว
ว่ายังมีกิเลสเลยหรือคะ555
หาวิธีหลับที่นอนนุ่มๆสวัสดี
ถ้านอนไม่หลับก็เป็นทุกข์
พ้นกิเลสความไม่รู้ได้ไหม
:b32: :b32:


เม ชอบดู ชอบรู้ ตอนสลบไปแล้ว ค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2018, 05:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
พูดไม่สุดแล้วคันปาก ต่อประเด็นให้ถกเถียงกันอีกหน่อย ไม่ว่าที่นี่ หรือที่ไหนๆ ที่พูดที่ถกเถียงกันนั่น ไม่พ้นจากขันธ์ ๕ ไปได้เลย ขันธ์ ๕ นี่ว่าตามภาษาพระภาษาทางธรรมเขาใช้ ถ้าพูดตามภาษาชาวบ้านร้านตลาด มันก็คนนี่เอง ก็มนุษย์หมดทั้งเนื้อทั้งตัวที่กิน ขี้ อี้ นอน อยู่นี่่ :b32:

พูดให้คิดต่ออีก เราๆ ท่านๆ ไอๆ ยูๆ อั้วๆ ลื้อๆ ฯลฯ จะกิน ดื่ม ทำ พูด คิด ขีด เขียน อะไรต่ออะไรจิปาถะ ถ้าพูดภาษาทางธรรมก็ใช้ขันธ์ ๕ นี่เอง กิน ดื่ม เป็นต้น ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย :b12:

:b12:
ตถาคตไม่ทะเลาะกับใครเลยนะคะ
คนทั้งโลกที่ทะเลาะกับคำตถาคตน๊า
เห็นตอนที่ภิกษุทะเลาะกันไหมล่ะคะ
พระองค์เสด็จไปอยู่ป่าให้สัตว์ดูแลแทนคน555
แสดงว่าสัตว์ยังรู้คุณของตถาคตมากกว่าผู้ที่คิดว่าตนเป็นภิกษุ
:b32: :b32:


จากตถาคตมีองค์เดียว มาตถาคตไม่ทะเลาะกับใครๆนะคะ คิกๆๆ ต่อไป ตถาคตจะไปไหนไปทำยังไง ดูกันต่อไป :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2018, 05:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:

ถ้าไม่รู้จักกิเลสให้ดูตอนที่กำลังง่วง
ภาษาบาลีว่าถีนมิทธะจะไม่รู้ตัว
ว่ายังมีกิเลสเลยหรือคะ555
หาวิธีหลับที่นอนนุ่มๆสวัสดี
ถ้านอนไม่หลับก็เป็นทุกข์
พ้นกิเลสความไม่รู้ได้ไหม


คคห. มานิวรณ์ คิกกๆๆ

ดู

https://www.youtube.com/watch?v=gKXoSWwfzmU


นั่นแหละ ที่ทำกรรมฐานกันก็เพื่อกำจัดกิเลสมีนิวรณ์เป็นต้น นิวรณ์ ท่านว่าต้องใช้สมาธิปราบ

ศีล กำจัดกิเลสอย่างหยาบ ซึ่งล่วงออกมาทาง กาย วาจา

สมาธิ กำจัดกิเลสอย่างกลาง มีนิวรณ์ เป็นต้น

ปัญญา กำจัดอนุสัยกิเลส คือ กิเลสอย่างละเอียด ซึ่งนอนเนื่องอยู่ในขันธสันดาน

หลักเขามีอยู่แล้ว ทีนี้ก็ต้องไปทำเอา ต่างคนต่างทำ เรื่องนี้ถึงเป็นแฟนกันก็ทำแทนกันไม่ได้ คิกๆๆ ตัวใครตัวมัน :b32: อ้อ แต่อย่านึกว่ามันง่ายนะขอรับ หัวทิ่มหัวตำกันนักต่อนักแล้ว บางกลุ่มบอกว่า ง่วงก็ให้ลุกขึ้นเดิน ลุกเข้าห้องน้ำ หายง่วงแล้วนั่งใหม่ หรือไม่ก็นอนสะตื่นขึ้นทำใหม่ คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2018, 05:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
พูดไม่สุดแล้วคันปาก ต่อประเด็นให้ถกเถียงกันอีกหน่อย ไม่ว่าที่นี่ หรือที่ไหนๆ ที่พูดที่ถกเถียงกันนั่น ไม่พ้นจากขันธ์ ๕ ไปได้เลย ขันธ์ ๕ นี่ว่าตามภาษาพระภาษาทางธรรมเขาใช้ ถ้าพูดตามภาษาชาวบ้านร้านตลาด มันก็คนนี่เอง ก็มนุษย์หมดทั้งเนื้อทั้งตัวที่กิน ขี้ อี้ นอน อยู่นี่่ :b32:

พูดให้คิดต่ออีก เราๆ ท่านๆ ไอๆ ยูๆ อั้วๆ ลื้อๆ ฯลฯ จะกิน ดื่ม ทำ พูด คิด ขีด เขียน อะไรต่ออะไรจิปาถะ ถ้าพูดภาษาทางธรรมก็ใช้ขันธ์ ๕ นี่เอง กิน ดื่ม เป็นต้น ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย :b12:

:b12:
ตถาคตไม่ทะเลาะกับใครเลยนะคะ
คนทั้งโลกที่ทะเลาะกับคำตถาคตน๊า
เห็นตอนที่ภิกษุทะเลาะกันไหมล่ะคะ
พระองค์เสด็จไปอยู่ป่าให้สัตว์ดูแลแทนคน555
แสดงว่าสัตว์ยังรู้คุณของตถาคตมากกว่าผู้ที่คิดว่าตนเป็นภิกษุ
:b32: :b32:


จากตถาคตมีองค์เดียว มาตถาคตไม่ทะเลาะกับใครๆนะคะ คิกๆๆ ต่อไป ตถาคตจะไปไหนไปทำยังไง ดูกันต่อไป :b13:

:b12:
ตถาคตเป็นแต่เพียงผู้บอกโรสมาบอกว่าให้ทำฟังไม่ใช่ไปทำโดยขาดการฟังไงคะ
เพราะคิดและเชื่อแล้วถึงไปทำบอกให้ฟังไม่ใช่ให้เชื่อก็ไม่เชื่อคริคริคริ
นานแค่ไหนก็ขาดฟังไม่ได้ก็เพราะฟังเข้าใจถึงมีปัญญาเพิ่มขึ้น
ปัญญาเพิ่มได้ทีละนิดๆพอหยุดฟังคิดเองต่อมันผิดทันที
บอกให้ฟังไม่ใช่ให้เชื่อพอฟังแค่นิดหน่อยก็เลิกฟัง
ทะเลาะแล้วถึงไม่ฟังฟังนิดเดียวไม่เข้าใจแล้วเบื่อ
แล้วก็เลิกฟังแล้วก็คิดว่าเสียเวลาไปลงมือทำดีกว่า
ถึงว่าไงว่าไม่มีปัญญาเกิดรู้ตามเสียงตรงสัจจะได้ไงคะ
ปัญญาแปลว่าคิดตามถูกเข้าใจคำสอนถูกตัวตนตามได้
อ่านช้าๆชัดๆละเอียดๆรอบคอบๆคิดทุกๆคำทีละ1คำย้ำๆ
ซ้ำไปซ้ำมาออกเสียงดังๆดูสิว่าเก็ตอะไรไหมแค่ไม่กี่บรรทัด
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2018, 06:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

ถ้าไม่รู้จักกิเลสให้ดูตอนที่กำลังง่วง
ภาษาบาลีว่าถีนมิทธะจะไม่รู้ตัว
ว่ายังมีกิเลสเลยหรือคะ555
หาวิธีหลับที่นอนนุ่มๆสวัสดี
ถ้านอนไม่หลับก็เป็นทุกข์
พ้นกิเลสความไม่รู้ได้ไหม


คคห. มานิวรณ์ คิกกๆๆ

ดู

https://www.youtube.com/watch?v=gKXoSWwfzmU


นั่นแหละ ที่ทำกรรมฐานกันก็เพื่อกำจัดกิเลสมีนิวรณ์เป็นต้น นิวรณ์ ท่านว่าต้องใช้สมาธิปราบ

ศีล กำจัดกิเลสอย่างหยาบ ซึ่งล่วงออกมาทาง กาย วาจา

สมาธิ กำจัดกิเลสอย่างกลาง มีนิวรณ์ เป็นต้น

ปัญญา กำจัดอนุสัยกิเลส คือ กิเลสอย่างละเอียด ซึ่งนอนเนื่องอยู่ในขันธสันดาน

หลักเขามีอยู่แล้ว ทีนี้ก็ต้องไปทำเอา ต่างคนต่างทำ เรื่องนี้ถึงเป็นแฟนกันก็ทำแทนกันไม่ได้ คิกๆๆ ตัวใครตัวมัน :b32: อ้อ แต่อย่านึกว่ามันง่ายนะขอรับ หัวทิ่มหัวตำกันนักต่อนักแล้ว บางกลุ่มบอกว่า ง่วงก็ให้ลุกขึ้นเดิน ลุกเข้าห้องน้ำ หายง่วงแล้วนั่งใหม่ หรือไม่ก็นอนสะตื่นขึ้นทำใหม่ คิกๆๆ

ลืมตาตื่นรู้ฟังคำสอนง่วงก็รู้ว่ามีถีนมิทธะไง
ใครบ้าไม่รู้เรื่องไม่รู้ตัวว่าง่วงเวลาง่วงคริคริคริ
ฟังแล้วรู้ตามตรงขณะคือขณิกสมาธิขณิกมรณะ
ขณิกสัจญาณคือสัมมามรรคคิดเห็นถูกตามคำสอนได้ไงคะ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2018, 07:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

ถ้าไม่รู้จักกิเลสให้ดูตอนที่กำลังง่วง
ภาษาบาลีว่าถีนมิทธะจะไม่รู้ตัว
ว่ายังมีกิเลสเลยหรือคะ555
หาวิธีหลับที่นอนนุ่มๆสวัสดี
ถ้านอนไม่หลับก็เป็นทุกข์
พ้นกิเลสความไม่รู้ได้ไหม


คคห. มานิวรณ์ คิกกๆๆ

ดู

https://www.youtube.com/watch?v=gKXoSWwfzmU


นั่นแหละ ที่ทำกรรมฐานกันก็เพื่อกำจัดกิเลสมีนิวรณ์เป็นต้น นิวรณ์ ท่านว่าต้องใช้สมาธิปราบ

ศีล กำจัดกิเลสอย่างหยาบ ซึ่งล่วงออกมาทาง กาย วาจา

สมาธิ กำจัดกิเลสอย่างกลาง มีนิวรณ์ เป็นต้น

ปัญญา กำจัดอนุสัยกิเลส คือ กิเลสอย่างละเอียด ซึ่งนอนเนื่องอยู่ในขันธสันดาน

หลักเขามีอยู่แล้ว ทีนี้ก็ต้องไปทำเอา ต่างคนต่างทำ เรื่องนี้ถึงเป็นแฟนกันก็ทำแทนกันไม่ได้ คิกๆๆ ตัวใครตัวมัน :b32: อ้อ แต่อย่านึกว่ามันง่ายนะขอรับ หัวทิ่มหัวตำกันนักต่อนักแล้ว บางกลุ่มบอกว่า ง่วงก็ให้ลุกขึ้นเดิน ลุกเข้าห้องน้ำ หายง่วงแล้วนั่งใหม่ หรือไม่ก็นอนสะตื่นขึ้นทำใหม่ คิกๆๆ

ลืมตาตื่นรู้ฟังคำสอนง่วงก็รู้ว่ามีถีนมิทธะไง
ใครบ้าไม่รู้เรื่องไม่รู้ตัวว่าง่วงเวลาง่วงคริคริคริ
ฟังแล้วรู้ตามตรงขณะคือขณิกสมาธิขณิกมรณะ
ขณิกสัจญาณคือสัมมามรรคคิดเห็นถูกตามคำสอนได้ไงคะ
:b32: :b32:



ดูคลิปเณรซึ่งกำลังง่วงประกอบคำอธิบาย ดูซิขณะที่เขานั่งง่วงสัปหงกหงายท้องหงายไส้อยู่ ขณะนั้นตัวเขาเองรู้ไหม ไม่รู้ คิกๆๆ
วิธีพูดแบบคุณโรสเนี่ย เป็นคำพูดของคนขณะที่ตัวเองไม่ง่วง อิอิ ก็พูดได้ พูดยังไงก็พูดได้

อืมมรึงๆ เจ้าความง่วง เจ้าถีนมิทธะ ถ้าเจ้าง่วงนะ กูจะรู้ รู้ว่าถีนมิทธะ นึกภาพออกไหม

จะเปรียบเทียบให้ฟัง ตย. คุณโรสนั่งล้อมวงคุยกันอยู่ในบ้าน คุณโรสเอ่ยขึ้นว่า นี่ๆหล่อน ฉันนะไม่เคยกลัวอะไร เสือก็ไม่กลัว ช้างก็ไม่กลัว คู่สนทนาแย้งว่า โรสอุจจาระโม้ (ขี้โม้) :b32: โรสเสียงจริงจัง พูดอย่างมีอารมณ์ว่า จริงๆ ถ้าฉันเจอะมันที่ไหนนะ จะจับขี่หลัง จะหักงาเอาทำเป็นเครื่องประดับสะว่า คุยใหญ่เลย

วันหนึ่งคุณโรสมีโอกาสขึ้นเขาใหญ่ ขับรถไป ขับไปๆ ไปเจอะช้างยืนงาโง้งร้องแปร๋ๆเดินเข้าใส่ เป็นไงอ่ะท่านผู้ชม ก็ขี้แตกเยียวราดเต็มกระโปรงสิขอรับ คิกๆๆ อ้าวไหนบอกไม่กลัวจะขี่หลังจะหักงามันไง ฉันใดก็ฉันนั้น

คนกำลังง่วงสับหงกโงกเงกๆอยู่ ถ้ากำลังสมาธิไม่พอ เสร็จมัน หัวโขกพื้นโป๊ก ดูคลิปเณรเป็นตัวอย่าง

ยกตัวอย่างอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งทำให้มีคนตายยกคันบ่อยๆ คือ คนขับรถเขาเรียกเป็นศัทพ์หลับใน มันวิปเดี๋ยวแท้ๆตกเหวขอรับท่าน ตายหมู่ขอรับโผม

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2018, 14:57 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2018, 07:07
โพสต์: 482

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
กิเลสแปลว่าไม่รู้อยู่ที่จิตมีแล้ว
กรรมคือเจตสิกที่ปรุงแต่งจิต
วิบากคือผลที่ได้รับตามกรรม
หมุนวนไปเรื่อยๆผลกรรมเก่า
มาปรากฏเมื่อไม่รู้ก็หลงผิดทำ
ทำกรรมใหม่แล้วรอให้ผลในอนาคตแล้วค่ะ
จนกว่าจะเริ่มฟังพระพุทธพจน์เพื่อสะสมปัญญาค่ะ
onion onion onion


..ความคิดเห็น

..กิเลสคืออกุศลเจตสิกมีอกุศลจิตเป็นมูลเหตุต้องจริญกุศลเจตสิก
..เพื่อจิตเป็นกุศล ผ่องใสบริสุทธิ์ แล้วเจริญปัญญา

..กรรมคือการกระทำโดยเจตนา มีกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม
..กายนี้ใจนี้คือภพเป็นกรรมเก่า เมื่อจิตมาเกิด เจตสิกก็ปรุงเจตนา
..พากายนี้ใจนี้ทำกรรมไหม่จึงมีภพไหม่ ชาติไหม่ต่อไป

..คนเราอยู่ดี ๆ หยุดกรรมไม่ได้ เพราะมันเป็นอนัตตาไม่ใช่ตัวตนเรา
..ของเรา บัญคับบัญชาให้เป็นดั่งใจไม่ได้

..เพียรมีสติเจริญกุศลให้ถึงพร้อมมีทาน ศีล ภาวนาเป็นต้น เป็นการ
..สร้างกรรมไหม่อันเป็นเหตุปัจจัยให้ถึงมรรคถึงผล อยู่เหนือกรรม
..ด้วยสัมมาปัญญา สัมมาวิมุติ หลุดพ้นชอบตามจริง

..ปล.ผมเป็นเพียงผู้ศึกษา แลกเปลี่ยนความรู้กันเหมือนเพื่อนร่วม รร.
..สถาบันเดียวกัน มีบรมครูองค์เดียวกันคือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอ
..เจริญในธรรมครับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 26 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 133 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร