ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ตัดกรรม
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=56569
หน้า 1 จากทั้งหมด 4

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 24 ก.ย. 2018, 12:00 ]
หัวข้อกระทู้:  ตัดกรรม

เรื่องกรรม ก็คือตัว "เจตนาเจตสิก"
เจตนาย่อมเกิดขึ้นกับการกระทำทางกาย ทางวาจา และทางใจ
ย่อมส่งผลเป็นกรรมวิบาก รอการให้ผลตรงตามที่กระทำ
เมื่อกระทำสิ่งใดทั้งกายวาจาใจ จะไม่มีการกระทำใดๆ
หรือจะเป็นพิธีใดๆ เพื่อตัดกรรมที่กระทำได้เลย

แต่ก็จะมีวิธีเดียวที่จะทำให้กรรมไม่มาให้ผล โดยการกระทำกุศลให้มากๆ
เพื่อไม่ให้วิบากที่เป็นอกุศลกรรมมีโอกาสได้ส่งผล เพราะถ้าเราทำแต่กุศล
ก็จะเปิดโอกาสให้กุศลกรรมที่เป็นกรรมฝ่ายดีมาส่งผลแต่เพียงฝ่ายเดียว
การกระทำแบบนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นการตัดกรรมได้อีกอย่างหนึ่ง

ไฟล์แนป:
cart-2845274_960_720.png
cart-2845274_960_720.png [ 233.93 KiB | เปิดดู 2952 ครั้ง ]

เจ้าของ:  สายน้ำเมย [ 24 ก.ย. 2018, 12:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดกรรม

:b8: ต่อคะลุง เมยตามอ่าน :b53:

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 24 ก.ย. 2018, 15:17 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดกรรม

สายน้ำเมย เขียน:
:b8: ต่อคะลุง เมยตามอ่าน :b53:

เดี๋ยวมาต่อ

ไฟล์แนป:
wagon-2812990_960_720.png
wagon-2812990_960_720.png [ 453.99 KiB | เปิดดู 2948 ครั้ง ]

เจ้าของ:  สายน้ำเมย [ 24 ก.ย. 2018, 15:20 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดกรรม

ลุงหมาน เขียน:
สายน้ำเมย เขียน:
:b8: ต่อคะลุง เมยตามอ่าน :b53:

เดี๋ยวมาต่อ

รอคะ :b53: (อ่อนอภิธรรม ลุงคุยอภิธรรมเยอะๆนะคะ เมยจะได้ถาม)

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 24 ก.ย. 2018, 15:25 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดกรรม

สายน้ำเมย เขียน:
ลุงหมาน เขียน:
สายน้ำเมย เขียน:
:b8: ต่อคะลุง เมยตามอ่าน :b53:

เดี๋ยวมาต่อ

รอคะ :b53: (อ่อนอภิธรรม ลุงคุยอภิธรรมเยอะๆนะคะ เมยจะได้ถาม)

อยากให้ถามอยู่แล้ว

เรื่องกรรมทรงแสดงไว้ทั้งพระสูตรและอภิธรรม
กรรม ๓ อย่าง ได้แก่ ๑.กายกรรม ๒.วจีกรรม ๓.มโนกรรม
กรรม ๖ อย่าง ได้แ่ก่ ๑.กายสังขาร ๒.วจีสังขาร ๓.มโนสังขาร
๔.ปุญญาภิสังขาร ๕.อปุญญาภิสังขาร ๖.อเนญชาภิสังขาร
และ กรรม ๑๒ ต้องเข้าใจที่ละเล็กน้อยคอยไป ถ้าอ่่านพบที่ใดก็อย่าเพิ่งค้ดค้านว่าไม่จริง

แต่ขอให้จำไว้อย่างหนึ่ง "กรรม" ก็ได้แก่ "เจตนาเจตสิก"

ไฟล์แนป:
20180912_192250.png
20180912_192250.png [ 606.92 KiB | เปิดดู 2946 ครั้ง ]

เจ้าของ:  สายน้ำเมย [ 24 ก.ย. 2018, 15:39 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดกรรม

ขอบคุณล่วงหน้านะคะ ลุง :b8:



แต่ขอเกริ่นไว้ก่อน ถ้าเมยถาม ขอให้ลุงคิดไว้ก่อนเลย ว่าเมยไม่รุ้

ไม่ใช่เมยรุ้แล้วแต่ลองของกับลุง

เพราะบางครั้งเมยยก็รู้ว่า สิ่งที่เมยพูดคล้ายคนกวนต.. อยู่บ้าง

แต่ที่่ถาม เพราะไม่รู้ และรู้ไม่หมด รู้ไม่จริง เป็นหลักใหญ่นะคะ :b53: :b55:

เจ้าของ:  สายน้ำเมย [ 24 ก.ย. 2018, 17:29 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดกรรม

อ้างคำพูด:
แต่ขอให้จำไว้อย่างหนึ่ง "กรรม" ก็ได้แก่ "เจตนาเจตสิก"


มุมเมย เมยเข้าใจคะ ว่าเจตนาเจตสิก..แต่เมยมองว่า ไม่ใช่ตัวเดียวที่ทำให้เกิดกรรม..

เจตสิกที่อยู่หลัง เจตนาเจตสิก ก็ทำให้เกิดกรรมเหมือนกัน...เมยเข้าใจถูกไหมคะลุง? :b55:

(จริงๆ เมยสนใจรูปปรมัตถ์ ที่ทำงาน ตามเหตุปัจจัยที่เกิดขึ้นมา ว่ารูปปรมัตถ์มีผลต่อ จิตเจตสิก แบบไหนบ้าง)
.
.
.
แต่ค่อยๆเรียนรู้ไป เรื่อยๆได้คะ..ใน รุป จิต เจตสิก

เจ้าของ:  สายน้ำเมย [ 24 ก.ย. 2018, 17:36 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดกรรม

ลุงหมาน เขียน:
สายน้ำเมย เขียน:
ลุงหมาน เขียน:
สายน้ำเมย เขียน:
:b8: ต่อคะลุง เมยตามอ่าน :b53:

เดี๋ยวมาต่อ

รอคะ :b53: (อ่อนอภิธรรม ลุงคุยอภิธรรมเยอะๆนะคะ เมยจะได้ถาม)

อยากให้ถามอยู่แล้ว

เรื่องกรรมทรงแสดงไว้ทั้งพระสูตรและอภิธรรม
กรรม ๓ อย่าง ได้แก่ ๑.กายกรรม ๒.วจีกรรม ๓.มโนกรรม
กรรม ๖ อย่าง ได้แ่ก่ ๑.กายสังขาร ๒.วจีสังขาร ๓.มโนสังขาร
๔.ปุญญาภิสังขาร ๕.อปุญญาภิสังขาร ๖.อเนญชาภิสังขาร
และ กรรม ๑๒ ต้องเข้าใจที่ละเล็กน้อยคอยไป ถ้าอ่่านพบที่ใดก็อย่าเพิ่งค้ดค้านว่าไม่จริง

แต่ขอให้จำไว้อย่างหนึ่ง "กรรม" ก็ได้แก่ "เจตนาเจตสิก"


ด้วยนิสัยคะ อ่านแล้วค้านก่อน ว่าจริงไหม..ไม่เชื่อเต็มร้อย แต่ต้องพิสูจน์ด้วยการปฎิบัติก่อน

ปฎิบัติตามคำสอน เห็นชัดแจ้งตามคำสอนที่บอกไว้ ในเรื่องผล..เจอเองค่อยเชื่อคะ

อภิธรรมก็เหมือนกันคะ..ต้องลองด้วยตัวเองก่อน จึง เออ ใช่ ใช่ตามคำสอนพระสัมมา :b8:

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 25 ก.ย. 2018, 05:36 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดกรรม

สายน้ำเมย เขียน:
อ้างคำพูด:
แต่ขอให้จำไว้อย่างหนึ่ง "กรรม" ก็ได้แก่ "เจตนาเจตสิก"


มุมเมย เมยเข้าใจคะ ว่าเจตนาเจตสิก..แต่เมยมองว่า ไม่ใช่ตัวเดียวที่ทำให้เกิดกรรม..

เจตสิกที่อยู่หลัง เจตนาเจตสิก ก็ทำให้เกิดกรรมเหมือนกัน...เมยเข้าใจถูกไหมคะลุง? :b55:

(จริงๆ เมยสนใจรูปปรมัตถ์ ที่ทำงาน ตามเหตุปัจจัยที่เกิดขึ้นมา ว่ารูปปรมัตถ์มีผลต่อ จิตเจตสิก แบบไหนบ้าง)
.
.
.
แต่ค่อยๆเรียนรู้ไป เรื่อยๆได้คะ..ใน รุป จิต เจตสิก


กรรม ได้แก่เจตนาตัวเดียว แต่ตัวเจตสิกเหล่าที่เกิดร่วมกันก็ทำตามหน้าที่ของเขา หน้าที่ของเจตสิกเหล่านั้นก็ต้องคล้อยตามเจตนาเจสิกได้ทั้งหมดจะไม่ขัดกัน ถ้าไม่ได้ศึกษาคำสอนให้ชัดเจนแล้วจะดูเหมือนเป็นอันเดียวกัน
เช่นว่า การเห็นเกิดขึ้นนั้นที่จริงแล้วที่เห็นนั้นไม่ใช่ตาเห็น สิ่งที่เห็นได้คือ จิต ที่เรียกว่าจักขุวิญญาณจิต แต่ว่าจักขุวิญญาณจะเห็นได้นั้นต้องอาศัยตาเกิดจึงจะเห็นได้ การเห็นได้ก็จะต้องมี่รูปารมณ์มาปรากฎในระยะที่สมควรไม่ไกลเกินไปหรือใกล้เกินไป และจะต้องอาศัยแสงสว่างเป็นปัจจัยทำจักขุวิญญาณเห็นได้ ฉะนั้นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมานั้นจะต้องพร้อมกันจึงจะเห็นได้ ถ้าสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่พร้องเพรียงกันการเกิดขึ้นก็จะไม่ปรากฏให้การเห็นปรากฏขึ้นเลย ฉะนั้นการเห็นจะตัองอาศัยปัจจัยหลายอย่างจึงจะเกิดขึ้นได้ และการเห็นนั้นแหละที่เป็นการที่ทำให้ขันธ์ ๕ เกิดขึ้นอีกด้วย เมื่อขันธ์ ๕ เกิดขึ้นตรงที่ตา แล้ว"ตัณหาอุปาทาน" ก็เข้ายึดทันทีว่าเราเห็นเมื่ออุปาทานยึดในการเห็นหรือว่ายึดในขันธ์ ๕ นั้นมันจะไปสร้าง "กรรม"ให้เกิดขึ้นทีนี้ภพชาติก็จะตามมาด้วย... ถ้าเรียนอภิธรรมให้เข้าจะเห็นจริง
มาเรียนเถอะน้องเมย เดี๋ยวพอเข้ามาเรียนในไลน์แล้วจะมีหนังสือส่งไปให้ถึงบ้านฟรี (น้องเมยเล่นไลน์หรือเปล่า)

ไฟล์แนป:
haywagon_png_by_camelfobia-d5mfooa.png
haywagon_png_by_camelfobia-d5mfooa.png [ 377.29 KiB | เปิดดู 2921 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 25 ก.ย. 2018, 05:47 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดกรรม

สายน้ำเมย เขียน:

ด้วยนิสัยคะ อ่านแล้วค้านก่อน ว่าจริงไหม..ไม่เชื่อเต็มร้อย แต่ต้องพิสูจน์ด้วยการปฎิบัติก่อน

ปฎิบัติตามคำสอน เห็นชัดแจ้งตามคำสอนที่บอกไว้ ในเรื่องผล..เจอเองค่อยเชื่อคะ

อภิธรรมก็เหมือนกันคะ..ต้องลองด้วยตัวเองก่อน จึง เออ ใช่ ใช่ตามคำสอนพระสัมมา :b8:


นิสัยกวนตีนนี้เปลี่ยนแปลงได้แน่นอนถ้าได้เข้าใจคำสอนโดยเฉพาะพระอภิธรรมครับ

ไฟล์แนป:
coach-2838235_960_720.png
coach-2838235_960_720.png [ 348.23 KiB | เปิดดู 2921 ครั้ง ]

เจ้าของ:  สายน้ำเมย [ 25 ก.ย. 2018, 09:49 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดกรรม

อ้างคำพูด:
นิสัยกวนตีนนี้เปลี่ยนแปลงได้แน่นอนถ้าได้เข้าใจคำสอนโดยเฉพาะพระอภิธรรมครับ


:b32: เมยจะลองดูอีกสักทีคะ..ว่าอภิธรรม จะเกลา จริตของเมยได้ไหม :b9:

เจ้าของ:  สายน้ำเมย [ 25 ก.ย. 2018, 09:56 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดกรรม

ลุงหมาน เขียน:
กรรม ได้แก่เจตนาตัวเดียว แต่ตัวเจตสิกเหล่าที่เกิดร่วมกันก็ทำตามหน้าที่ของเขา หน้าที่ของเจตสิกเหล่านั้นก็ต้องคล้อยตามเจตนาเจสิกได้ทั้งหมดจะไม่ขัดกัน ถ้าไม่ได้ศึกษาคำสอนให้ชัดเจนแล้วจะดูเหมือนเป็นอันเดียวกัน


เมยก็เข้าใจที่ลุงบอกนะคะ..แต่ขอแย้งอีกคะ..เมยอ่านข้อความของลุงแล้ว ในหัวเมยมีคำถามขึ้นมาว่า..อ้าว แล้วผัสสะเจตสิกหล่ะ..เมื่อมันผัสสะ และเรายึดมั่นผัสสะ(มันต้องยึดมั่นอยู่แล้ว เพราะเราเป็นผุ้ที่ยังไม่จบกิจ)..ภพชาติเกิด..กรรมก็เกิดด้วยแล้ว...นี่เป็นสิ่งที่มันผุดขึ้นมาในหัว..ตอนอ่านนะคะ...ลุงว่าไงคะ ในความเห็นของเมย
.
.
.
และอีกมุม สำหรับผู้จบกิจ


เมื่อท่านมีเจตนา ทำสิ่งใดสิ่งนึง เหตุใด ไม่เป็นกรรมคะ..ในเมื่อมีเจตนาเจตสิก เกิดขึ้นมาด้วย

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 25 ก.ย. 2018, 10:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดกรรม

สายน้ำเมย เขียน:

เมยก็เข้าใจที่ลุงบอกนะคะ..แต่ขอแย้งอีกคะ..เมยอ่านข้อความของลุงแล้ว ในหัวเมยมีคำถามขึ้นมาว่า..อ้าว แล้วผัสสะเจตสิกหล่ะ..เมื่อมันผัสสะ และเรายึดมั่นผัสสะ(มันต้องยึดมั่นอยู่แล้ว เพราะเราเป็นผุ้ที่ยังไม่จบกิจ)..ภพชาติเกิด..กรรมก็เกิดด้วยแล้ว...นี่เป็นสิ่งที่มันผุดขึ้นมาในหัว..ตอนอ่านนะคะ...ลุงว่าไงคะ ในความเห็นของเมย
.
.
.
และอีกมุม สำหรับผู้จบกิจ


เมื่อท่านมีเจตนา ทำสิ่งใดสิ่งนึง เหตุใด ไม่เป็นกรรมคะ..ในเมื่อมีเจตนาเจตสิก เกิดขึ้นมาด้วย


จร้า...ตรงนี้อาจจะเข้าใจยากสักหน่อย แต่ว่าเข้าใจปฏิจจสมุปบาทจะไม่ยากเลย
แต่ก็จะลองอธิบายดูว่าจะเข้าใจตามได้แค่ไหน เพราะมีความตั้งใจถาม

ผัสสะ เกิดขึ้นเพราะอาศัยสิ่ง ๓ สิ่งมาประจวบพร้อมกันคือ รูปารมณ์ ๑ จักขุปสาท ๑ จิต ๑
ดังนั้นตรงนี้จะเห็นได้ว่าการเกิดขึ้นตรงนี้เรียกว่าผัสสะ มีเพียงการเกิดขึ้นของ "รูปกับนาม" เท่านั้น
ขอขยายรูปกับนามให้ชัดเจนอีกนิดนึง (รูปารมณ์ ๑จักขุปสาท ๑)=รูป (จิต ๑ )=นาม
ทีนี้ก็ต้องขยาย "นาม" ได้แก่ จิตกับเจตสิก ที่นี้ จิต ๑ มีเจตสิกเกิดร่วมด้วย ๗ ดวง คือ
ผัสสะ ๑ เวทนา ๑ สัญญา ๑ เจตนา ๑ เอกัคคตา ๑ ชีวิตินทรีย์ ๑ มนสิการ ๑

ในขบวนเการเกิดผัสสะนี้ จะไม่มี ( ตัณหา อุปาทาน กรรม)เกิดร่วมชึ้นเลยฉะนั้นเมื่อมันไม่มี
การเข้าไปยินดีความพอใจเข้าไปยึดถือตรงผัสสะจึงไม่มีไม่เกิดขึ้นอย่างแต่นอน เมือมีสติเข้าไปรู้ชัด
ตรงนี้ ขบวนการของขันธ์ ๕ ก็จะหยุดหมุนดำเนินไปด้วย (ตัณหา ทิฏฐิ กรรม)เพราะว่า ตัณหาจะเกิดได้
ต้องอาศัยเวทนาในกลุ่มของผัสสะเป็นผู้ล้อหมุนมาให้ ตัณหา อุปาทาน กรรม ภพ ชาติ หมุนต่อไป
ถ้าสติปัญญามารู้ทันตรงนี้ภพชาติก็จะขาดลงทันที แน่นอนได้ว่าเมื่อภพชาติขาดเสียล้วการเกิดก็จะไม่มีอีกแน่นอน

เจ้าของ:  โลกสวย [ 25 ก.ย. 2018, 13:22 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดกรรม

ลุงหมาน เขียน:
สายน้ำเมย เขียน:

เมยก็เข้าใจที่ลุงบอกนะคะ..แต่ขอแย้งอีกคะ..เมยอ่านข้อความของลุงแล้ว ในหัวเมยมีคำถามขึ้นมาว่า..อ้าว แล้วผัสสะเจตสิกหล่ะ..เมื่อมันผัสสะ และเรายึดมั่นผัสสะ(มันต้องยึดมั่นอยู่แล้ว เพราะเราเป็นผุ้ที่ยังไม่จบกิจ)..ภพชาติเกิด..กรรมก็เกิดด้วยแล้ว...นี่เป็นสิ่งที่มันผุดขึ้นมาในหัว..ตอนอ่านนะคะ...ลุงว่าไงคะ ในความเห็นของเมย
.
.
.
และอีกมุม สำหรับผู้จบกิจ


เมื่อท่านมีเจตนา ทำสิ่งใดสิ่งนึง เหตุใด ไม่เป็นกรรมคะ..ในเมื่อมีเจตนาเจตสิก เกิดขึ้นมาด้วย


จร้า...ตรงนี้อาจจะเข้าใจยากสักหน่อย แต่ว่าเข้าใจปฏิจจสมุปบาทจะไม่ยากเลย
แต่ก็จะลองอธิบายดูว่าจะเข้าใจตามได้แค่ไหน เพราะมีความตั้งใจถาม

ผัสสะ เกิดขึ้นเพราะอาศัยสิ่ง ๓ สิ่งมาประจวบพร้อมกันคือ รูปารมณ์ ๑ จักขุปสาท ๑ จิต ๑
ดังนั้นตรงนี้จะเห็นได้ว่าการเกิดขึ้นตรงนี้เรียกว่าผัสสะ มีเพียงการเกิดขึ้นของ "รูปกับนาม" เท่านั้น
ขอขยายรูปกับนามให้ชัดเจนอีกนิดนึง (รูปารมณ์ ๑จักขุปสาท ๑)=รูป (จิต ๑ )=นาม
ทีนี้ก็ต้องขยาย "นาม" ได้แก่ จิตกับเจตสิก ที่นี้ จิต ๑ มีเจตสิกเกิดร่วมด้วย ๗ ดวง คือ
ผัสสะ ๑ เวทนา ๑ สัญญา ๑ เจตนา ๑ เอกัคคตา ๑ ชีวิตินทรีย์ ๑ มนสิการ ๑

ในขบวนเการเกิดผัสสะนี้ จะไม่มี ( ตัณหา อุปาทาน กรรม)เกิดร่วมชึ้นเลยฉะนั้นเมื่อมันไม่มี
การเข้าไปยินดีความพอใจเข้าไปยึดถือตรงผัสสะจึงไม่มีไม่เกิดขึ้นอย่างแต่นอน เมือมีสติเข้าไปรู้ชัด
ตรงนี้ ขบวนการของขันธ์ ๕ ก็จะหยุดหมุนดำเนินไปด้วย (ตัณหา ทิฏฐิ กรรม)เพราะว่า ตัณหาจะเกิดได้
ต้องอาศัยเวทนาในกลุ่มของผัสสะเป็นผู้ล้อหมุนมาให้ ตัณหา อุปาทาน กรรม ภพ ชาติ หมุนต่อไป
ถ้าสติปัญญามารู้ทันตรงนี้ภพชาติก็จะขาดลงทันที แน่นอนได้ว่าเมื่อภพชาติขาดเสียล้วการเกิดก็จะไม่มีอีกแน่นอน


สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมค่ะ

ไม่มีชีวิตไหน ในโลกนี้ ไม่สร้างกรรมแม้แต่เสี้ยววินาที

กรรมอันเป็นกุศล อกุศล อัพพยา

กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม บรรจุมาสำเร็จแล้วตั้งแต่วันแรกที่มาเกิด

เมื่อชาติภพดับลง วิบากกรรม ก้ยังดำเนินต่อไป พระพุทธองค์ และพระอรหันนต์
ยังต้องรับวิบากที่เหลือ จนกว่าละขันธ์ เป็นอนุปาทิเสสนิพพาน ค่ะ

ส่วนเจตนาเจตสิกนั้น ผู้จบกิจ ไม่มีค่ะ ดับไปหมดตามปฎิจจสมุบาทก่อนหน้าแล้ว



เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 25 ก.ย. 2018, 13:32 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดกรรม

โลกสวย เขียน:
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมค่ะ

ไม่มีชีวิตไหน ในโลกนี้ ไม่สร้างกรรมแม้แต่เสี้ยววินาที

กรรมอันเป็นกุศล อกุศล อัพพยา

กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม บรรจุมาสำเร็จแล้วตั้งแต่วันแรกที่มาเกิด

เมื่อชาติภพดับลง วิบากกรรม ก้ยังดำเนินต่อไป พระพุทธองค์ และพระอรหันนต์
ยังต้องรับวิบากที่เหลือ จนกว่าละขันธ์ เป็นอนุปาทิเสสนิพพาน ค่ะ




การตัดกรรมมิใช่การตัดกรรมในชาตินี้ แต่เป็นการตัดกรรมในภพหน้า คือภพที่จะไปเกิดอีกไม่มี
และการตัดกรรมก็มิใช่จะตัดกรรมกันโดยตรงๆ แต่จะต้องตัดที่เหตุของการเกิดกรรม
เหตุของการเกิดกรรมก็คือ ตัณหา อุปาทาน

หน้า 1 จากทั้งหมด 4 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/