วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 10:04  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2018, 04:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


"ถ้าโยมให้ความสำคัญ
กับการแต่งใจให้งาม
เท่ากับการแต่งกายให้สวย
สังคมเราคงจะน่าอยู่กว่านี้มาก"

พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ





"เราสร้างความดีกับใคร
เราก็ดีใจ ถึงเขาไม่รู้ เราก็รู้

ในทำนองเดียวกัน การทำความชั่ว
ถึงเขาไม่รู้ เราก็รู้"

หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม





ทุกข์ทั้งหลายอยู่ที่ความยึดถือ
อะไรที่เป็นกิเลสให้ละให้วาง อย่าไปยึดมั่นถือมั่น ยึดมากเป็นทุกข์มาก ยึดน้อยเป็นทุกข์น้อย ไม่ยึดเลยทุกข์ก็ไม่มี
ทุกข์ทั้งหลายอยู่ที่ตัวอุปาทานความยึดถือ เมื่อจิตไม่ไปยึดไปถือ จิตรู้จักปล่อยวาง มันก็ไม่ทุกข์ไม่ร้อน
เหมือนไฟมันจะร้อนแค่ไหนก็เป็นเรื่องของไฟ ถ้าเราไม่เอามือไปแหย่ไปจับเข้า มันจะร้อนได้อย่างไร มันก็ร้อนอยู่ที่ไฟ ไม่ร้อนที่ตัวเรา

โอวาทธรรม
หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร





องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนให้เราเข้าใจตนเอง พระองค์ชี้แจงเปิดเผยธรรมชาติของกายธรรมชาติของใจ ธรรมชาติของความทุกข์และความสุข ถ้าจะให้พุทธธรรมเป็นศาสตร์ก็ต้องเป็นสุขทุกขศาสตร์ ศาตร์อื่นทั้งหมดเป็นแค่บริวารของศาสตร์นี้เท่านั้น หากขาดพุทธศาสตร์เป็นหลักเป็นฐานเสียแล้ว ศาสตร์ทางโลกย่อมเป็นดาบสองคมทั้งสิ้น

พระพุทธองค์ทรงสอนวิธีดับทุกข์หาสุขที่ถูกต้องและได้ผล ส่วนเรื่องสวรรค์ นรก ชาติก่อน ชาตินี้ เชื่อได้ก็เป็นบุญ ยังไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร ค่อยเอาไว้คุยทีหลัง สิ่งที่เป็นแก่นแท้ของพุทธธรรมคือเรื่องภพนี้และชาตินี้ พระองค์ตรัสว่า ""โดยปกติชีวิตของมนุษย์ไม่เป็นสุขเพราะหลงยึดมั่นถือมั่นในสิ่งต่างๆ ว่าเป็นเรา เป็นของเรา การฝึกให้เห็นสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง ถอดถอนอุปาทาน จนจิตเป็นอิสระพ้นการบีบคั้นของกิเลส คือ การเข้าถึงความสุขที่แท้จริง"" ในสายตาของนักปราชญ์เมื่อเปรียบเทียบแล้ว ความสุขอย่างอื่นก็เป็นเหมือนของเด็กเล่น

หลักการสำคัญจึงอยู่ที่การระงับกิเลสด้วยการควบคุม กาย วาจา (ศีล) การพัฒนาคุณธรรม เช่น ความอดทน ความขยัน ความเมตตากรุณา ความสงบ (สมาธิ) และการพิจารณาสิ่งที่มากระทบให้เห็นความไม่คงที่ ไม่คงตัว ไม่เป็นตัวหรือของตัว (ปัญญา)

พระอาจารย์ชยสาโร





"..เงินทอง ส่งถึงโรงพยาบาล
ลูกหลาน ส่งถึงหลุมศพ
บุญกุศล ส่งถึงภพหน้า
ภาวนา ส่งถึงนิพพาน.."

ซึ่งเป็นคติธรรมที่สั้นๆ แต่ความหมายลึกซึ้งอย่างยิ่ง ทำให้เราเกิดสติจิตคิดตาม ว่าชีวิตคนเราก็มีเพียงเท่านี้เอง ด้วยเหตุนี้ ผู้เขียนจึงใคร่ขอเชิญชวนท่านผู้อ่านทุกท่านได้พิจารณาคติธรรมดังกล่าวกันนะครับ สำหรับผู้เขียนเองคงต้องใช้เวลาอีกนานมากกว่าจะเข้าใจคติธรรมดังกล่าว แต่ก็จะพยายามต่อไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเช่นเคยก่อนจากกันย่อมเป็นธรรมเนียมที่จะต้องนำเสนอเป็นกาพย์ยานี ๑๑ ดังต่อไปนี้

เงินทองของนอกกาย อย่าเสียดายตายไม่มี
ใช้รักษาชีวี ให้สุขดีตามใจตน

ลูกหลานเพียงดูแล เพื่อพ่อแม่สุขมากล้น
ความตายหนีไม่พ้น บุญกุศลส่งภพหน้า

ฝึกจิตให้เบิกบาน สุขสำราญศีลนำพา
ตั้งมั่นภาวนา ทรงคุณค่าหานิพพาน

ชีวิตที่น้อยนัก สำคัญนักทุกประการ
ตั้งจิตสู่นิพพาน คงไม่นานชาตินี้เอย

คติธรรม ..หลวงปู่แหวน สุจิณโณ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2018, 19:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 10:51
โพสต์: 2758


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 138 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร