ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

สำนักที่สามารถสั่งสอนธรรม
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=56488
หน้า 1 จากทั้งหมด 11

เจ้าของ:  student [ 04 ก.ย. 2018, 03:55 ]
หัวข้อกระทู้:  สำนักที่สามารถสั่งสอนธรรม

ตามประเพณีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล
ภิกษุที่ได้รับการบวชบรรพชาอุปสมบทจากคณะสงฆ์ในพุทธศาสนาหรือโดยตรงจากพระพุทธเจ้า ย่อมเข้าใจในกฏวินัยและการนำเอาคำสอนของพระพุทธเจ้าไปสั่งสอนธรรมให้กับผู้อื่น เพราะได้รับการรับรองจากคณะสงฆ์แล้ว ไม่ถือว่าผิดธรรมเนียมหรือประเพณีของศาสนาพุทธ ไม่ชื่อว่าขโมยธรรม หรือตู่ธรรมของศาสนาพุทธมาเป็นของตนหรือแนวทางของตน แต่ถ้าคณะใดที่ตั้งขึ้นมาโดยไม่ได้รับการรับรองจากคณะสงฆ์ เขาผู้นั้นได้ชื่อว่าผู้ศึกษาธรรมของพระพุทธเจ้า เมื่อมีคำถามจึงถาม แต่ ไม่สามารถตั้งตนเป็นเจ้าสำนัก แล้วอ้างคำสอนของพระพุทธเจ้าสอนคนหมู่มาก หรือติเตียนคณะสงฆ์สำนักอื่นว่าสอนผิด ผู้ที่ตั้งตนเป็นเจ้าสำนัก ที่ไม่ได้รับรองจากคณะสงฆ์ของพุทธศาสนา แต่เอาธรรมของพระพุทธเจ้ามาสอนคนอื่น ถือว่าขโมยธรรมของศาสนาพุทธ คนเหล่านี้มีหน้าที่ศึกษา ไม่ได้มีหน้าที่ตั้งตนเป็นเจ้าสำนักโดยไม่ได้ผ่านการรับรอง จึงอยากจะฝากให้คิดกัน ว่าอย่าไปติเตียนวัดหรือพระสงฆ์ เพราะท่านเหล่านั้นได้รับการรับรองตามประเพณีพุทธศาสนา วัดเอามาสอนคนทั้งหลายได้เต็ม100 ไม่ถือว่าขโมยธรรม มีแต่คนที่ตั้งตัวเองขึ้นมาลอยๆแล้วเอาธรรมของพระพุทธเจ้ามาสอนคนทั้งหลายนั่นแหละกำลังขโมยธรรมของพุทธศาสนาครับ ถ้าจะให้ถูกต้องไปขอรับรองจากคณะสงฆ์แห่งพุทธศาสนาก่อนครับ

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 04 ก.ย. 2018, 06:18 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สำนักที่สามารถสั่งสอนธรรม

student เขียน:
ตามประเพณีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล
ภิกษุที่ได้รับการบวชบรรพชาอุปสมบทจากคณะสงฆ์ในพุทธศาสนาหรือโดยตรงจากพระพุทธเจ้า ย่อมเข้าใจในกฏวินัยและการนำเอาคำสอนของพระพุทธเจ้าไปสั่งสอนธรรมให้กับผู้อื่น เพราะได้รับการรับรองจากคณะสงฆ์แล้ว ไม่ถือว่าผิดธรรมเนียมหรือประเพณีของศาสนาพุทธ ไม่ชื่อว่าขโมยธรรม หรือตู่ธรรมของศาสนาพุทธมาเป็นของตนหรือแนวทางของตน แต่ถ้าคณะใดที่ตั้งขึ้นมาโดยไม่ได้รับการรับรองจากคณะสงฆ์ เขาผู้นั้นได้ชื่อว่าผู้ศึกษาธรรมของพระพุทธเจ้า เมื่อมีคำถามจึงถาม แต่ ไม่สามารถตั้งตนเป็นเจ้าสำนัก แล้วอ้างคำสอนของพระพุทธเจ้าสอนคนหมู่มาก หรือติเตียนคณะสงฆ์สำนักอื่นว่าสอนผิด ผู้ที่ตั้งตนเป็นเจ้าสำนัก ที่ไม่ได้รับรองจากคณะสงฆ์ของพุทธศาสนา แต่เอาธรรมของพระพุทธเจ้ามาสอนคนอื่น ถือว่าขโมยธรรมของศาสนาพุทธ คนเหล่านี้มีหน้าที่ศึกษา ไม่ได้มีหน้าที่ตั้งตนเป็นเจ้าสำนักโดยไม่ได้ผ่านการรับรอง จึงอยากจะฝากให้คิดกัน ว่าอย่าไปติเตียนวัดหรือพระสงฆ์ เพราะท่านเหล่านั้นได้รับการรับรองตามประเพณีพุทธศาสนา วัดเอามาสอนคนทั้งหลายได้เต็ม100 ไม่ถือว่าขโมยธรรม มีแต่คนที่ตั้งตัวเองขึ้นมาลอยๆแล้วเอาธรรมของพระพุทธเจ้ามาสอนคนทั้งหลายนั่นแหละกำลังขโมยธรรมของพุทธศาสนาครับ ถ้าจะให้ถูกต้องไปขอรับรองจากคณะสงฆ์แห่งพุทธศาสนาก่อนครับ


ไปเอาความรู้ตรงนี้มาจากไหนครับ ขอที่มายืนยันด้วยครับ

เจ้าของ:  student [ 04 ก.ย. 2018, 06:52 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สำนักที่สามารถสั่งสอนธรรม

ลุงหมาน เขียน:
student เขียน:
ตามประเพณีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล
ภิกษุที่ได้รับการบวชบรรพชาอุปสมบทจากคณะสงฆ์ในพุทธศาสนาหรือโดยตรงจากพระพุทธเจ้า ย่อมเข้าใจในกฏวินัยและการนำเอาคำสอนของพระพุทธเจ้าไปสั่งสอนธรรมให้กับผู้อื่น เพราะได้รับการรับรองจากคณะสงฆ์แล้ว ไม่ถือว่าผิดธรรมเนียมหรือประเพณีของศาสนาพุทธ ไม่ชื่อว่าขโมยธรรม หรือตู่ธรรมของศาสนาพุทธมาเป็นของตนหรือแนวทางของตน แต่ถ้าคณะใดที่ตั้งขึ้นมาโดยไม่ได้รับการรับรองจากคณะสงฆ์ เขาผู้นั้นได้ชื่อว่าผู้ศึกษาธรรมของพระพุทธเจ้า เมื่อมีคำถามจึงถาม แต่ ไม่สามารถตั้งตนเป็นเจ้าสำนัก แล้วอ้างคำสอนของพระพุทธเจ้าสอนคนหมู่มาก หรือติเตียนคณะสงฆ์สำนักอื่นว่าสอนผิด ผู้ที่ตั้งตนเป็นเจ้าสำนัก ที่ไม่ได้รับรองจากคณะสงฆ์ของพุทธศาสนา แต่เอาธรรมของพระพุทธเจ้ามาสอนคนอื่น ถือว่าขโมยธรรมของศาสนาพุทธ คนเหล่านี้มีหน้าที่ศึกษา ไม่ได้มีหน้าที่ตั้งตนเป็นเจ้าสำนักโดยไม่ได้ผ่านการรับรอง จึงอยากจะฝากให้คิดกัน ว่าอย่าไปติเตียนวัดหรือพระสงฆ์ เพราะท่านเหล่านั้นได้รับการรับรองตามประเพณีพุทธศาสนา วัดเอามาสอนคนทั้งหลายได้เต็ม100 ไม่ถือว่าขโมยธรรม มีแต่คนที่ตั้งตัวเองขึ้นมาลอยๆแล้วเอาธรรมของพระพุทธเจ้ามาสอนคนทั้งหลายนั่นแหละกำลังขโมยธรรมของพุทธศาสนาครับ ถ้าจะให้ถูกต้องไปขอรับรองจากคณะสงฆ์แห่งพุทธศาสนาก่อนครับ


ไปเอาความรู้ตรงนี้มาจากไหนครับ ขอที่มายืนยันด้วยครับ


ผมพิจารณาเอาตามการศึกษาเองครับจากประเพณีการถ่ายทอดธรรมะจากพระสงฆ์สู่พระสงฆ์
ในสมัยพุทธกาล ไม่ปรากฏว่ามีฆราวาสตั้งตนเองเป็นเจ้าสำนัก หรือศึกษาก็ไม่ปรากฏว่ามี
หากว่าผิดพลาด พิจารณาผิดไปจากประเพณี ขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียวครับ

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 04 ก.ย. 2018, 07:52 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สำนักที่สามารถสั่งสอนธรรม

มีอยู่ตอนหนึ่งที่พระยามารมาทูลเชิญให้พระองค์เสด็จดับขันธปรินิพพาน
พระองค์ตรัสตอบไปว่า เมื่อ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ยังไม่แข็งแรง
ตถาคตจะยังจะไม่ปรินิพพาน ฉะนั้นตรงนี้ก็จะวินิฉัยได้ว่า
เมื่อพระองค์ปริพพานแล้วก็แสดงว่า
ท่านมอบคำสอนให้ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา อย่างสมบูรณ์

เจ้าของ:  student [ 04 ก.ย. 2018, 09:10 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สำนักที่สามารถสั่งสอนธรรม

ลุงหมาน เขียน:
มีอยู่ตอนหนึ่งที่พระยามารมาทูลเชิญให้พระองค์เสด็จดับขันธปรินิพพาน
พระองค์ตรัสตอบไปว่า เมื่อ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ยังไม่แข็งแรง
ตถาคตจะยังจะไม่ปรินิพพาน ฉะนั้นตรงนี้ก็จะวินิฉัยได้ว่า
เมื่อพระองค์ปริพพานแล้วก็แสดงว่า
ท่านมอบคำสอนให้ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา อย่างสมบูรณ์


ในข้อความนี้ ความเข้าใจผมคือ มีพุทธบริษัท4 สมบูรณ์ มีการวางรากฐาน มีประเพณี อย่างพระพุทธเจ้าบวชพระสงฆ์รุ่นแรก พระสงฆ์รุ่นแรกบวชพระสงฆ์รุ่นต่อมา มีวัด มีธรรมวินัยที่เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า แต่การสืบสานประเพณียังมีต่อไป เราจะได้ยินเสมอๆว่า ใครบวชให้เธอ นั่นก็หมายความว่า ประเพณีนี้ดั้งเดิมมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล ไม่รวมพวกเดียร์ถีย์ ที่เข้ามาบวชเพื่อขโมยธรรมอันเป็นปัญหาที่เป็นรูปธรรมให้เห็น ในสมัยนี้เรายังสืบสานประเพณีนี้อย่างสมบูรณ์ มุมมองที่พูดคือ ผู้ที่คิดว่าตนเองรักษาพุทธศาสนาหรือเข้าใจในคำสอน แต่ไม่สามารถรักษาประเพณีนี้ กลายเป็นยกตนข่มท่าน สร้างสำนักขึ้นมากล่าวตู่ว่าธรรมะที่ตนเองกำลังแสดงนั้นตรงต่อคำสอนที่สุด นั่นคือความจริงที่เห็นในปัจจุบันนี้ ข้อสรุปจึงออกมาว่าหากไม่ได้รับการรับรองจากคณะสงฆ์ ผู้ที่กำลังตั้งสำนักอบรมสั่งสอนธรรมต่างๆเสียเองนั้นเข้าข่ายขโมยธรรม

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 04 ก.ย. 2018, 11:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สำนักที่สามารถสั่งสอนธรรม

student เขียน:
ลุงหมาน เขียน:
มีอยู่ตอนหนึ่งที่พระยามารมาทูลเชิญให้พระองค์เสด็จดับขันธปรินิพพาน
พระองค์ตรัสตอบไปว่า เมื่อ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ยังไม่แข็งแรง
ตถาคตจะยังจะไม่ปรินิพพาน ฉะนั้นตรงนี้ก็จะวินิฉัยได้ว่า
เมื่อพระองค์ปริพพานแล้วก็แสดงว่า
ท่านมอบคำสอนให้ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา อย่างสมบูรณ์


ในข้อความนี้ ความเข้าใจผมคือ มีพุทธบริษัท4 สมบูรณ์ มีการวางรากฐาน มีประเพณี อย่างพระพุทธเจ้าบวชพระสงฆ์รุ่นแรก พระสงฆ์รุ่นแรกบวชพระสงฆ์รุ่นต่อมา มีวัด มีธรรมวินัยที่เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า แต่การสืบสานประเพณียังมีต่อไป เราจะได้ยินเสมอๆว่า ใครบวชให้เธอ นั่นก็หมายความว่า ประเพณีนี้ดั้งเดิมมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล ไม่รวมพวกเดียร์ถีย์ ที่เข้ามาบวชเพื่อขโมยธรรมอันเป็นปัญหาที่เป็นรูปธรรมให้เห็น ในสมัยนี้เรายังสืบสานประเพณีนี้อย่างสมบูรณ์ มุมมองที่พูดคือ ผู้ที่คิดว่าตนเองรักษาพุทธศาสนาหรือเข้าใจในคำสอน แต่ไม่สามารถรักษาประเพณีนี้ กลายเป็นยกตนข่มท่าน สร้างสำนักขึ้นมากล่าวตู่ว่าธรรมะที่ตนเองกำลังแสดงนั้นตรงต่อคำสอนที่สุด นั่นคือความจริงที่เห็นในปัจจุบันนี้ ข้อสรุปจึงออกมาว่าหากไม่ได้รับการรับรองจากคณะสงฆ์ ผู้ที่กำลังตั้งสำนักอบรมสั่งสอนธรรมต่างๆเสียเองนั้นเข้าข่ายขโมยธรรม


ไฉน....ไม่เอาพระธรรมเป็นเกณท์...ละครับ

ทุกอย่าง..มีเหตุมีปัจจัย...ไม่มีอะไรไม่เกิดแต่เหตุ..ครับ

เจ้าของ:  student [ 04 ก.ย. 2018, 11:20 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สำนักที่สามารถสั่งสอนธรรม

กบนอกกะลา เขียน:
student เขียน:
ลุงหมาน เขียน:
มีอยู่ตอนหนึ่งที่พระยามารมาทูลเชิญให้พระองค์เสด็จดับขันธปรินิพพาน
พระองค์ตรัสตอบไปว่า เมื่อ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ยังไม่แข็งแรง
ตถาคตจะยังจะไม่ปรินิพพาน ฉะนั้นตรงนี้ก็จะวินิฉัยได้ว่า
เมื่อพระองค์ปริพพานแล้วก็แสดงว่า
ท่านมอบคำสอนให้ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา อย่างสมบูรณ์


ในข้อความนี้ ความเข้าใจผมคือ มีพุทธบริษัท4 สมบูรณ์ มีการวางรากฐาน มีประเพณี อย่างพระพุทธเจ้าบวชพระสงฆ์รุ่นแรก พระสงฆ์รุ่นแรกบวชพระสงฆ์รุ่นต่อมา มีวัด มีธรรมวินัยที่เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า แต่การสืบสานประเพณียังมีต่อไป เราจะได้ยินเสมอๆว่า ใครบวชให้เธอ นั่นก็หมายความว่า ประเพณีนี้ดั้งเดิมมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล ไม่รวมพวกเดียร์ถีย์ ที่เข้ามาบวชเพื่อขโมยธรรมอันเป็นปัญหาที่เป็นรูปธรรมให้เห็น ในสมัยนี้เรายังสืบสานประเพณีนี้อย่างสมบูรณ์ มุมมองที่พูดคือ ผู้ที่คิดว่าตนเองรักษาพุทธศาสนาหรือเข้าใจในคำสอน แต่ไม่สามารถรักษาประเพณีนี้ กลายเป็นยกตนข่มท่าน สร้างสำนักขึ้นมากล่าวตู่ว่าธรรมะที่ตนเองกำลังแสดงนั้นตรงต่อคำสอนที่สุด นั่นคือความจริงที่เห็นในปัจจุบันนี้ ข้อสรุปจึงออกมาว่าหากไม่ได้รับการรับรองจากคณะสงฆ์ ผู้ที่กำลังตั้งสำนักอบรมสั่งสอนธรรมต่างๆเสียเองนั้นเข้าข่ายขโมยธรรม


ไฉน....ไม่เอาพระธรรมเป็นเกณท์...ละครับ

ทุกอย่าง..มีเหตุมีปัจจัย...ไม่มีอะไรไม่เกิดแต่เหตุ..ครับ


ครับผมเข้าใจความหมายของคุณกบ

...หากจะดูเกณฑ์ คือ พระรัตนตรัยครับ

พระพุทธ
พระธรรม
พระสงฆ์

พิจารณาดู คือ ผู้รับรอง และผู้ได้รับการรับรอง

เจ้าของ:  student [ 04 ก.ย. 2018, 11:24 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สำนักที่สามารถสั่งสอนธรรม

อย่างเราๆท่านๆคุยกันนั้น ถือเป็นผู้ศึกษาด้วยกัน แลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจ

แต่หากผมคิดจะตั้งสำนักขึ้นมา ผมคงจะรู้สึกผิดมาก เพราะว่าผมมิบังอาจจะเป็นอาจารย์สอนคนเสียเอง

เจ้าของ:  Rosarin [ 04 ก.ย. 2018, 15:28 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สำนักที่สามารถสั่งสอนธรรม

:b32:
student เขียน:
อย่างเราๆท่านๆคุยกันนั้น ถือเป็นผู้ศึกษาด้วยกัน แลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจ

แต่หากผมคิดจะตั้งสำนักขึ้นมา ผมคงจะรู้สึกผิดมาก เพราะว่าผมมิบังอาจจะเป็นอาจารย์สอนคนเสียเอง

ลืมไปไหมคะ...คำรับรองมีมาตั้งแต่ก่อนตถาคตดับขันธปรินิพพาน
ศาสนาคือคำสอนถ้าพระพุทธศาสนาก็คือคำสอนของพระพุทธเจ้าคือศาสดา
และศาสดามอบหมายให้พระธรรมและพระวินัยเป็นศาสดาแทนพระองค์
ไม่ได้ยกให้พุทธบริษัทสี่คนหนึ่งคนใดเป็นใหญ่และบุคคลใดคดในข้อ
งอจนเข้ากระดูกดำไม่เคารพพระธรรมและพระวินัยผู้รู้ทั้ง4บริษัท
ย่อมตำหนิติเตียนตามคำสอนของพระพุทธเจ้าใครอยากใหญ่
เกินพุทธบริษัททั้งสี่ที่เข้าใจทุกข้อความที่ตถาคตตรัสรู้บ้าง
จะเอาทิฏฐิมานะความสำคัญตนบรรชิตที่รับเงินมาใหญ่หรือ
:b32: :b32:

เจ้าของ:  ธรรมมา [ 04 ก.ย. 2018, 19:51 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สำนักที่สามารถสั่งสอนธรรม

Rosarin เขียน:
:b32:
student เขียน:
อย่างเราๆท่านๆคุยกันนั้น ถือเป็นผู้ศึกษาด้วยกัน แลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจ

แต่หากผมคิดจะตั้งสำนักขึ้นมา ผมคงจะรู้สึกผิดมาก เพราะว่าผมมิบังอาจจะเป็นอาจารย์สอนคนเสียเอง

ลืมไปไหมคะ...คำรับรองมีมาตั้งแต่ก่อนตถาคตดับขันธปรินิพพาน
ศาสนาคือคำสอนถ้าพระพุทธศาสนาก็คือคำสอนของพระพุทธเจ้าคือศาสดา
และศาสดามอบหมายให้พระธรรมและพระวินัยเป็นศาสดาแทนพระองค์
ไม่ได้ยกให้พุทธบริษัทสี่คนหนึ่งคนใดเป็นใหญ่และบุคคลใดคดในข้อ
งอจนเข้ากระดูกดำไม่เคารพพระธรรมและพระวินัยผู้รู้ทั้ง4บริษัท
ย่อมตำหนิติเตียนตามคำสอนของพระพุทธเจ้าใครอยากใหญ่
เกินพุทธบริษัททั้งสี่ที่เข้าใจทุกข้อความที่ตถาคตตรัสรู้บ้าง
จะเอาทิฏฐิมานะความสำคัญตนบรรชิตที่รับเงินมาใหญ่หรือ
:b32: :b32:

ฝังใจอะไรนักหนากับพระรับเงิน

เจ้าของ:  ธรรมมา [ 04 ก.ย. 2018, 19:52 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สำนักที่สามารถสั่งสอนธรรม

มันอยู่ไม่เป็นสุขหรือ

เจ้าของ:  Rosarin [ 05 ก.ย. 2018, 00:11 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สำนักที่สามารถสั่งสอนธรรม

Rosarin เขียน:
:b32:
student เขียน:
อย่างเราๆท่านๆคุยกันนั้น ถือเป็นผู้ศึกษาด้วยกัน แลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจ

แต่หากผมคิดจะตั้งสำนักขึ้นมา ผมคงจะรู้สึกผิดมาก เพราะว่าผมมิบังอาจจะเป็นอาจารย์สอนคนเสียเอง

ลืมไปไหมคะ...คำรับรองมีมาตั้งแต่ก่อนตถาคตดับขันธปรินิพพาน
ศาสนาคือคำสอนถ้าพระพุทธศาสนาก็คือคำสอนของพระพุทธเจ้าคือศาสดา
และศาสดามอบหมายให้พระธรรมและพระวินัยเป็นศาสดาแทนพระองค์
ไม่ได้ยกให้พุทธบริษัทสี่คนหนึ่งคนใดเป็นใหญ่และบุคคลใดคดในข้อ
งอจนเข้ากระดูกดำไม่เคารพพระธรรมและพระวินัยผู้รู้ทั้ง4บริษัท
ย่อมตำหนิติเตียนตามคำสอนของพระพุทธเจ้าใครอยากใหญ่
เกินพุทธบริษัททั้งสี่ที่เข้าใจทุกข้อความที่ตถาคตตรัสรู้บ้าง
จะเอาทิฏฐิมานะความสำคัญตนบรรชิตที่รับเงินมาใหญ่หรือ
:b32: :b32:

:b16:
https://youtu.be/REU5MRBYNGs
:b27: :b27:

เจ้าของ:  student [ 05 ก.ย. 2018, 01:35 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สำนักที่สามารถสั่งสอนธรรม

Rosarin เขียน:
:b32:
student เขียน:
อย่างเราๆท่านๆคุยกันนั้น ถือเป็นผู้ศึกษาด้วยกัน แลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจ

แต่หากผมคิดจะตั้งสำนักขึ้นมา ผมคงจะรู้สึกผิดมาก เพราะว่าผมมิบังอาจจะเป็นอาจารย์สอนคนเสียเอง

ลืมไปไหมคะ...คำรับรองมีมาตั้งแต่ก่อนตถาคตดับขันธปรินิพพาน
ศาสนาคือคำสอนถ้าพระพุทธศาสนาก็คือคำสอนของพระพุทธเจ้าคือศาสดา
และศาสดามอบหมายให้พระธรรมและพระวินัยเป็นศาสดาแทนพระองค์
ไม่ได้ยกให้พุทธบริษัทสี่คนหนึ่งคนใดเป็นใหญ่และบุคคลใดคดในข้อ
งอจนเข้ากระดูกดำไม่เคารพพระธรรมและพระวินัยผู้รู้ทั้ง4บริษัท
ย่อมตำหนิติเตียนตามคำสอนของพระพุทธเจ้าใครอยากใหญ่
เกินพุทธบริษัททั้งสี่ที่เข้าใจทุกข้อความที่ตถาคตตรัสรู้บ้าง
จะเอาทิฏฐิมานะความสำคัญตนบรรชิตที่รับเงินมาใหญ่หรือ
:b32: :b32:


คุณโรสกำลังจะดึงเอาประเด็นการผิดพระธรรมวินัยเรื่องรับเงิน
มาปนกันกับเรื่องฐานะการรับรองความเป็นภิกษุที่พระศาสดาอนุญาติให้เผยแผ่ธรรมะนะครับ

ถ้าพระรับเงินผิดพระธรรมะวินัยก็จะถูกตรวจสอบและถูกประเมินฐานะความเป็นภิกษุ แต่ภิกษุทุกรูปในศาสนานี้หรือครับ ผมคิดว่าคุณเหมารวมหมดทุกรูปนะครับแบบนี้

คำว่าใหญ่นี้คืออะไรครับ?

เรากำลังคุยเรื่องฐานะการถูกรับรองเรื่องการสอนพระธรรมะวินัยอยู่นะครับ ไม่อย่างนั้นก็มีการขโมยธรรมกันหมดสิครับแบบนี้ ใครจะอ้างคำสอนอะไรก็อ้างตามทิฏฐิตนเอง เอาธรรมะของศาสนาพุทธไปใช้ตั้งสำนักแล้วยกตนข่มท่านอย่างนี้ ไม่ได้ได้รับการรับรองนะครับ คุณต้องพิจารณาตรงนี้ว่า ในสมัยพุทธกาลพระพุทธเจ้าก็เคยพูดเรื่องการขโมยธรรมนะครับ ไม่ใช่ผมพึ่งมาพูด

อะไรกันครับเนี่ย คุณจะเอาเรื่องพระรับเงินคุณก็ต้องไปตั้งประเด็นของคุณในกระทู้ใหม่ แล้วก็บอกว่ามาคุณคิดว่าใครควรจะแก้ไข พระสังฆราชองค์ปัจจุบันก็บอกทางทีวีแล้วว่าอย่าให้เงินพระ เขาก็ออกทีวีทั้งประเทศแล้ว คุณมีปัญหากับใครครับเนี่ย คุณต้องไปคุยกับคนนั้นไม่ใช่มาคุยกับผม ผมไม่ใช่พระ

เจ้าของ:  Rosarin [ 05 ก.ย. 2018, 02:00 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สำนักที่สามารถสั่งสอนธรรม

student เขียน:
Rosarin เขียน:
:b32:
student เขียน:
อย่างเราๆท่านๆคุยกันนั้น ถือเป็นผู้ศึกษาด้วยกัน แลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจ

แต่หากผมคิดจะตั้งสำนักขึ้นมา ผมคงจะรู้สึกผิดมาก เพราะว่าผมมิบังอาจจะเป็นอาจารย์สอนคนเสียเอง

ลืมไปไหมคะ...คำรับรองมีมาตั้งแต่ก่อนตถาคตดับขันธปรินิพพาน
ศาสนาคือคำสอนถ้าพระพุทธศาสนาก็คือคำสอนของพระพุทธเจ้าคือศาสดา
และศาสดามอบหมายให้พระธรรมและพระวินัยเป็นศาสดาแทนพระองค์
ไม่ได้ยกให้พุทธบริษัทสี่คนหนึ่งคนใดเป็นใหญ่และบุคคลใดคดในข้อ
งอจนเข้ากระดูกดำไม่เคารพพระธรรมและพระวินัยผู้รู้ทั้ง4บริษัท
ย่อมตำหนิติเตียนตามคำสอนของพระพุทธเจ้าใครอยากใหญ่
เกินพุทธบริษัททั้งสี่ที่เข้าใจทุกข้อความที่ตถาคตตรัสรู้บ้าง
จะเอาทิฏฐิมานะความสำคัญตนบรรชิตที่รับเงินมาใหญ่หรือ
:b32: :b32:


คุณโรสกำลังจะดึงเอาประเด็นการผิดพระธรรมวินัยเรื่องรับเงิน
มาปนกันกับเรื่องฐานะการรับรองความเป็นภิกษุที่พระศาสดาอนุญาติให้เผยแผ่ธรรมะนะครับ

ถ้าพระรับเงินผิดพระธรรมะวินัยก็จะถูกตรวจสอบและถูกประเมินฐานะความเป็นภิกษุ แต่ภิกษุทุกรูปในศาสนานี้หรือครับ ผมคิดว่าคุณเหมารวมหมดทุกรูปนะครับแบบนี้

คำว่าใหญ่นี้คืออะไรครับ?

เรากำลังคุยเรื่องฐานะการถูกรับรองเรื่องการสอนพระธรรมะวินัยอยู่นะครับ ไม่อย่างนั้นก็มีการขโมยธรรมกันหมดสิครับแบบนี้ ใครจะอ้างคำสอนอะไรก็อ้างตามทิฏฐิตนเอง เอาธรรมะของศาสนาพุทธไปใช้ตั้งสำนักแล้วยกตนข่มท่านอย่างนี้ ไม่ได้ได้รับการรับรองนะครับ คุณต้องพิจารณาตรงนี้ว่า ในสมัยพุทธกาลพระพุทธเจ้าก็เคยพูดเรื่องการขโมยธรรมนะครับ ไม่ใช่ผมพึ่งมาพูด

อะไรกันครับเนี่ย คุณจะเอาเรื่องพระรับเงินคุณก็ต้องไปตั้งประเด็นของคุณในกระทู้ใหม่ แล้วก็บอกว่ามาคุณคิดว่าใครควรจะแก้ไข พระสังฆราชองค์ปัจจุบันก็บอกทางทีวีแล้วว่าอย่าให้เงินพระ เขาก็ออกทีวีทั้งประเทศแล้ว คุณมีปัญหากับใครครับเนี่ย คุณต้องไปคุยกับคนนั้นไม่ใช่มาคุยกับผม ผมไม่ใช่พระ

:b12:
คิดให้ตรง...เอาให้ชัดๆ
สำนักช่างหม้อมีไหมคะ
สำนักแปลว่าที่อยู่ของผู้ประกอบอาชีพนั้นๆเขาสอนกันทำหม้อ :b32:
สำนักของพระศาสดาคือพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนธัมมะจากพระโอษฐ์ค่ะ
และผู้ที่ฟังคำสอนมี4บุคคล2ประเภทที่ฟังคำสอนจบทุกคนก็กลับที่พักของตนของตน
ประเภทมี่1มี2บุคคลคือภิกษุและภิกษุณีนอนที่วัดหรือใต้ร่มไม้เพราะเป็นบรรพชิตไม่มีบ้านสละบ้านเรือนแล้ว
ประเภทที่2มี2บุคคลคืออุบาสกและอุบาสิกานอนบ้านคฤหาสน์เพราะเป็นคฤหัสถ์หรือฆราวาส
แม่ชีคืออุบาสิกาต้องกลับไปนอนบ้านน๊าชีพราหมณ์ก็ไม่ใช่ภิกษุณีเช่นกันเป็นอุบาสิกานอนไหนคะ
บรรพชิตเกิดจากบรรพชาได้รับอนุญาตตามอุปสมบทให้พำนักอาศัยและจำวัดไม่ใช่อนุญาตบุคคลอื่นอยู่ได้
:b32: :b32: :b32:

เจ้าของ:  student [ 05 ก.ย. 2018, 03:44 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สำนักที่สามารถสั่งสอนธรรม

Rosarin เขียน:
student เขียน:
Rosarin เขียน:
:b32:
student เขียน:
อย่างเราๆท่านๆคุยกันนั้น ถือเป็นผู้ศึกษาด้วยกัน แลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจ

แต่หากผมคิดจะตั้งสำนักขึ้นมา ผมคงจะรู้สึกผิดมาก เพราะว่าผมมิบังอาจจะเป็นอาจารย์สอนคนเสียเอง

ลืมไปไหมคะ...คำรับรองมีมาตั้งแต่ก่อนตถาคตดับขันธปรินิพพาน
ศาสนาคือคำสอนถ้าพระพุทธศาสนาก็คือคำสอนของพระพุทธเจ้าคือศาสดา
และศาสดามอบหมายให้พระธรรมและพระวินัยเป็นศาสดาแทนพระองค์
ไม่ได้ยกให้พุทธบริษัทสี่คนหนึ่งคนใดเป็นใหญ่และบุคคลใดคดในข้อ
งอจนเข้ากระดูกดำไม่เคารพพระธรรมและพระวินัยผู้รู้ทั้ง4บริษัท
ย่อมตำหนิติเตียนตามคำสอนของพระพุทธเจ้าใครอยากใหญ่
เกินพุทธบริษัททั้งสี่ที่เข้าใจทุกข้อความที่ตถาคตตรัสรู้บ้าง
จะเอาทิฏฐิมานะความสำคัญตนบรรชิตที่รับเงินมาใหญ่หรือ
:b32: :b32:


คุณโรสกำลังจะดึงเอาประเด็นการผิดพระธรรมวินัยเรื่องรับเงิน
มาปนกันกับเรื่องฐานะการรับรองความเป็นภิกษุที่พระศาสดาอนุญาติให้เผยแผ่ธรรมะนะครับ

ถ้าพระรับเงินผิดพระธรรมะวินัยก็จะถูกตรวจสอบและถูกประเมินฐานะความเป็นภิกษุ แต่ภิกษุทุกรูปในศาสนานี้หรือครับ ผมคิดว่าคุณเหมารวมหมดทุกรูปนะครับแบบนี้

คำว่าใหญ่นี้คืออะไรครับ?

เรากำลังคุยเรื่องฐานะการถูกรับรองเรื่องการสอนพระธรรมะวินัยอยู่นะครับ ไม่อย่างนั้นก็มีการขโมยธรรมกันหมดสิครับแบบนี้ ใครจะอ้างคำสอนอะไรก็อ้างตามทิฏฐิตนเอง เอาธรรมะของศาสนาพุทธไปใช้ตั้งสำนักแล้วยกตนข่มท่านอย่างนี้ ไม่ได้ได้รับการรับรองนะครับ คุณต้องพิจารณาตรงนี้ว่า ในสมัยพุทธกาลพระพุทธเจ้าก็เคยพูดเรื่องการขโมยธรรมนะครับ ไม่ใช่ผมพึ่งมาพูด

อะไรกันครับเนี่ย คุณจะเอาเรื่องพระรับเงินคุณก็ต้องไปตั้งประเด็นของคุณในกระทู้ใหม่ แล้วก็บอกว่ามาคุณคิดว่าใครควรจะแก้ไข พระสังฆราชองค์ปัจจุบันก็บอกทางทีวีแล้วว่าอย่าให้เงินพระ เขาก็ออกทีวีทั้งประเทศแล้ว คุณมีปัญหากับใครครับเนี่ย คุณต้องไปคุยกับคนนั้นไม่ใช่มาคุยกับผม ผมไม่ใช่พระ

:b12:
คิดให้ตรง...เอาให้ชัดๆ
สำนักช่างหม้อมีไหมคะ
สำนักแปลว่าที่อยู่ของผู้ประกอบอาชีพนั้นๆเขาสอนกันทำหม้อ :b32:
สำนักของพระศาสดาคือพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนธัมมะจากพระโอษฐ์ค่ะ
และผู้ที่ฟังคำสอนมี4บุคคล2ประเภทที่ฟังคำสอนจบทุกคนก็กลับที่พักของตนของตน
ประเภทมี่1มี2บุคคลคือภิกษุและภิกษุณีนอนที่วัดหรือใต้ร่มไม้เพราะเป็นบรรพชิตไม่มีบ้านสละบ้านเรือนแล้ว
ประเภทที่2มี2บุคคลคืออุบาสกและอุบาสิกานอนบ้านคฤหาสน์เพราะเป็นคฤหัสถ์หรือฆราวาส
แม่ชีคืออุบาสิกาต้องกลับไปนอนบ้านน๊าชีพราหมณ์ก็ไม่ใช่ภิกษุณีเช่นกันเป็นอุบาสิกานอนไหนคะ
บรรพชิตเกิดจากบรรพชาได้รับอนุญาตตามอุปสมบทให้พำนักอาศัยและจำวัดไม่ใช่อนุญาตบุคคลอื่นอยู่ได้
:b32: :b32: :b32:


มันเกี่ยวอะไรกับการรับรองธรรมครับ

คุณเอาอะไรมาเกียวโยงครับ ผมถามการรับรองธรรมครับ
ถ้าไปตั้งสำนักทำหม้อ กลับบ้านใครบ้านมันก็ไม่มีปัญหา

แต่ไปเปิดสำนักสอนธรรมะเอง นี่คือขโมยธรรมครับ

หน้า 1 จากทั้งหมด 11 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/