56519.คุณยายโรส บอกว่า มิจฉาทิฏฐิ=ความเห็นผิดไม่ได้เห็นสีคริคริคริ

โลกสวย

คุณยายโรส บอกว่า มิจฉาทิฏฐิ=ความเห็นผิดไม่ได้เห็นสีคริคริคริ

คุณยายโรสขา หนูถามหน่อยนะคะ

พระโสดาบัน พระสกิทามีตัดสังโยชน์สามไป แต่ไม่เห็นสี
พระอนาคาตัดสังโยชน์ห้า แต่ไม่เห็นสี
พระอรหันต์ ตัดสังโยชน์สิบ แต่ก็ไม่เห็นสี

ท่านเหล่านั้น เป็นมิจฉาทิฎฐิ เห็นผิด เพราะไม่เห็นสี แบบที่ คุณยายโรส และคุณยายจินยูทูปสอนไว้

จริงหรอคะ ?

Rosarin

โลกสวย เขียน:

คุณยายโรส บอกว่า มิจฉาทิฏฐิ=ความเห็นผิดไม่ได้เห็นสีคริคริคริ

คุณยายโรสขา หนูถามหน่อยนะคะ

พระโสดาบัน พระสกิทามีตัดสังโยชน์สามไป แต่ไม่เห็นสี
พระอนาคาตัดสังโยชน์ห้า แต่ไม่เห็นสี
พระอรหันต์ ตัดสังโยชน์สิบ แต่ก็ไม่เห็นสี

ท่านเหล่านั้น เป็นมิจฉาทิฎฐิ เห็นผิด เพราะไม่เห็นสี แบบที่ คุณยายโรส และคุณยายจินยูทูปสอนไว้

จริงหรอคะ ?

ดูกิเลสตนเองไม่ออกหรือคะเลยสงสัย
ความจริงที่ตาตนเองเห็นเดียวนี้มีกี่สีล่ะ
ก็ตถาคตตรัสว่าจิตเกิดดับทีละ1ขณะ
จะรู้จะเห็นตามเป็นจริงก็ตรงทีละขณะ
ตาบอดหรือไม่รู้ว่าตนเองเห็นอะไร555
:b32:

Rosarin

ขนาดบอกให้มองดูด้วยตาเนื้อว่าเห็นอะไรยังไม่รู้ตัวเลย555
:b32:

Rosarin

พระพุทธเจ้าตรัสรู้ว่าจิตเห็นรูปสีสันวรรณกระทบตาดับแล้วเป็นเพียงสีล้วน1สีไม่มีอะไรปน
เสียงก็ไม่มีรสก็ไม่มีเย็นร้อนสุขทุกข์ไม่มีเป็นเพียงโลกของตากระทบสีดับทันทีไม่กลับมาอีก
ตอนนี้ใครเห็นสีเพียงสีเดียวบ้างล่ะไม่มีน๊าจะไปทำให้เห็นสีก็ไม่ได้ไงเป็นทศพลญาณตรัสรู้
:b12:

โลกสวย

คุณยายโรสขา

หนูถามว่า

พระโสดาบัน พระสกิทา พระอนาคา พระอรหันต์
ท่านไม่เห็นสี

ท่านเป็นมิจฉาทิฎฐิหรือเปล่าคะ ตามที่คุณยายบอกหรือเปล่าคะ ?

คุณยายโรสตอบกลับมาว่า

"พระพุทธเจ้าตรัสรู้ว่าจิตเห็นรูปสีสันวรรณกระทบตาดับแล้วเป็นเพียงสีล้วน1สีไม่มีอะไรปน
เสียงก็ไม่มีรสก็ไม่มีเย็นร้อนสุขทุกข์ไม่มีเป็นเพียงโลกของตากระทบสีดับทันทีไม่กลับมาอีก
ตอนนี้ใครเห็นสีเพียงสีเดียวบ้างล่ะไม่มีน๊าจะไปทำให้เห็นสีก็ไม่ได้ไงเป็นทศพลญาณตรัสรู้"

คำพูดข้างบนอันนี้คือคำตอบคุณยายใช่มั๊ยคะ

ก็หมายความว่า แสดงว่า พระโสดาบัน พระสกิทา พระอนาคา พระอรหันต์ ไม่สามารถเห็นสีได้
เพราะไม่มีทศพลญานอันเป็นสิ่งตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า

ท่านเหล่านั้น ก็เป็นมิจฉาทิฎฐิคริคริ แบบคุณยายบอก ใช่มั๊ยคะ ?

โลกสวย

เมถามคำถามข้อเดียว คุณยายถึงกะเอาคอไปพาดเขียงเองไปแล้ว

รู้ตัวมั๊ยคะ คุณยายโรสขา

โลกสวย

คุณยายโรส บอกว่า " มิจฉาทิฏฐิ=ความเห็นผิดไม่ได้เห็นสีคริคริคริ "

หนูแนะนำด้วยความเมตตา นะคะ ว่า

ให้คุณยายโรส ไปขอขมา ไปถอนคำพูดที่พูดไปด้วยความเขลาแบบนั้น เสียก่อนนะคะ

รักนะคะ

จุ๊ฟๆๆ

Rosarin

โลกสวย เขียน:

คุณยายโรสขา

หนูถามว่า

พระโสดาบัน พระสกิทา พระอนาคา พระอรหันต์
ท่านไม่เห็นสี

ท่านเป็นมิจฉาทิฎฐิหรือเปล่าคะ ตามที่คุณยายบอกหรือเปล่าคะ ?

คุณยายโรสตอบกลับมาว่า

"พระพุทธเจ้าตรัสรู้ว่าจิตเห็นรูปสีสันวรรณกระทบตาดับแล้วเป็นเพียงสีล้วน1สีไม่มีอะไรปน
เสียงก็ไม่มีรสก็ไม่มีเย็นร้อนสุขทุกข์ไม่มีเป็นเพียงโลกของตากระทบสีดับทันทีไม่กลับมาอีก
ตอนนี้ใครเห็นสีเพียงสีเดียวบ้างล่ะไม่มีน๊าจะไปทำให้เห็นสีก็ไม่ได้ไงเป็นทศพลญาณตรัสรู้"

คำพูดข้างบนอันนี้คือคำตอบคุณยายใช่มั๊ยคะ

ก็หมายความว่า แสดงว่า พระโสดาบัน พระสกิทา พระอนาคา พระอรหันต์ ไม่สามารถเห็นสีได้
เพราะไม่มีทศพลญานอันเป็นสิ่งตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า

ท่านเหล่านั้น ก็เป็นมิจฉาทิฎฐิคริคริ แบบคุณยายบอก ใช่มั๊ยคะ ?

ใครจะฟังหรือไม่ฟังก็เป็นตามอุปนิสัย
แต่คำสอนตรงๆไม่ฟังย่อมไม่มีปัญญา
ฉลาดแต่ไม่เฉลียวถ้าตถาคตเป็นผู้บอก
แล้วไม่มีคนฟังจะมีอริยสาวกไหมคะ555
ยังไม่ถึงอรหันต์ตราบใดก็ดีไม่ได้ไม่รู้หรือคะ
ตถาคตตรัสว่าดีแล้วสำหรับพระอรหันต์เท่านั้น
ละโลภะยังไม่ได้น่ะอรหัตตมรรคก็ยังมีกิเลสเยอะค่ะ
ประมาทการฟังเมื่อใดก็โง่เมื่อนั้นแหละค่ะเพราะไม่มีปัญญาเพิ่มไงคะ555
:b32:

โลกสวย

Rosarin เขียน:

โลกสวย เขียน:

คุณยายโรสขา

หนูถามว่า

พระโสดาบัน พระสกิทา พระอนาคา พระอรหันต์
ท่านไม่เห็นสี

ท่านเป็นมิจฉาทิฎฐิหรือเปล่าคะ ตามที่คุณยายบอกหรือเปล่าคะ ?

คุณยายโรสตอบกลับมาว่า

"พระพุทธเจ้าตรัสรู้ว่าจิตเห็นรูปสีสันวรรณกระทบตาดับแล้วเป็นเพียงสีล้วน1สีไม่มีอะไรปน
เสียงก็ไม่มีรสก็ไม่มีเย็นร้อนสุขทุกข์ไม่มีเป็นเพียงโลกของตากระทบสีดับทันทีไม่กลับมาอีก
ตอนนี้ใครเห็นสีเพียงสีเดียวบ้างล่ะไม่มีน๊าจะไปทำให้เห็นสีก็ไม่ได้ไงเป็นทศพลญาณตรัสรู้"

คำพูดข้างบนอันนี้คือคำตอบคุณยายใช่มั๊ยคะ

ก็หมายความว่า แสดงว่า พระโสดาบัน พระสกิทา พระอนาคา พระอรหันต์ ไม่สามารถเห็นสีได้
เพราะไม่มีทศพลญานอันเป็นสิ่งตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า

ท่านเหล่านั้น ก็เป็นมิจฉาทิฎฐิคริคริ แบบคุณยายบอก ใช่มั๊ยคะ ?

ใครจะฟังหรือไม่ฟังก็เป็นตามอุปนิสัย
แต่คำสอนตรงๆไม่ฟังย่อมไม่มีปัญญา
ฉลาดแต่ไม่เฉลียวถ้าตถาคตเป็นผู้บอก
แล้วไม่มีคนฟังจะมีอริยสาวกไหมคะ555
ยังไม่ถึงอรหันต์ตราบใดก็ดีไม่ได้ไม่รู้หรือคะ
ตถาคตตรัสว่าดีแล้วสำหรับพระอรหันต์เท่านั้น
ละโลภะยังไม่ได้น่ะอรหัตตมรรคก็ยังมีกิเลสเยอะค่ะ
ประมาทการฟังเมื่อใดก็โง่เมื่อนั้นแหละค่ะเพราะไม่มีปัญญาเพิ่มไงคะ555
:b32:

คุณยายโรส บอกว่า " มิจฉาทิฏฐิ=ความเห็นผิดไม่ได้เห็นสีคริคริคริ "

เมก็ถามว่า พระอริยะบุคคลจนถึงพระอรหันต์ ท่านเหล่านั้น ไม่เห็นสี เป็นมิจฉาทิฎฐิใช่มั๊ยคะ ?

คุณยายก็ตอบแล้วว่า ไม่เห็นสีเพราะไม่มีทศพลญาน อันมีแก่พระพุทธเจ้าเท่านั้น

ก็แสดงว่า โลกุตระมรรค โลกุตรผล พระอริยะบุคคลเหล่านั้น ก็เป็นมิจฉาทิฎฐิเหมือนที่คุณยายโรสบอกไว้จริงๆ

คุณยายโรส บอกว่า " มิจฉาทิฏฐิ=ความเห็นผิดไม่ได้เห็นสีคริคริคริ "

โลกสวย

คุณยายโรส บอกว่า " มิจฉาทิฏฐิ=ความเห็นผิดไม่ได้เห็นสีคริคริคริ "

หนูแนะนำด้วยความเมตตา อีกครั้งนะคะ ว่า

ให้คุณยายโรส ไปขอขมา ไปถอนคำพูดที่พูดไปด้วยความเขลาแบบนั้น เสียก่อนนะคะ

รักนะคะ

จุ๊ฟๆๆ

Rosarin

โลกสวย เขียน:

Rosarin เขียน:

โลกสวย เขียน:

คุณยายโรสขา

หนูถามว่า

พระโสดาบัน พระสกิทา พระอนาคา พระอรหันต์
ท่านไม่เห็นสี

ท่านเป็นมิจฉาทิฎฐิหรือเปล่าคะ ตามที่คุณยายบอกหรือเปล่าคะ ?

คุณยายโรสตอบกลับมาว่า

"พระพุทธเจ้าตรัสรู้ว่าจิตเห็นรูปสีสันวรรณกระทบตาดับแล้วเป็นเพียงสีล้วน1สีไม่มีอะไรปน
เสียงก็ไม่มีรสก็ไม่มีเย็นร้อนสุขทุกข์ไม่มีเป็นเพียงโลกของตากระทบสีดับทันทีไม่กลับมาอีก
ตอนนี้ใครเห็นสีเพียงสีเดียวบ้างล่ะไม่มีน๊าจะไปทำให้เห็นสีก็ไม่ได้ไงเป็นทศพลญาณตรัสรู้"

คำพูดข้างบนอันนี้คือคำตอบคุณยายใช่มั๊ยคะ

ก็หมายความว่า แสดงว่า พระโสดาบัน พระสกิทา พระอนาคา พระอรหันต์ ไม่สามารถเห็นสีได้
เพราะไม่มีทศพลญานอันเป็นสิ่งตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า

ท่านเหล่านั้น ก็เป็นมิจฉาทิฎฐิคริคริ แบบคุณยายบอก ใช่มั๊ยคะ ?

ใครจะฟังหรือไม่ฟังก็เป็นตามอุปนิสัย
แต่คำสอนตรงๆไม่ฟังย่อมไม่มีปัญญา
ฉลาดแต่ไม่เฉลียวถ้าตถาคตเป็นผู้บอก
แล้วไม่มีคนฟังจะมีอริยสาวกไหมคะ555
ยังไม่ถึงอรหันต์ตราบใดก็ดีไม่ได้ไม่รู้หรือคะ
ตถาคตตรัสว่าดีแล้วสำหรับพระอรหันต์เท่านั้น
ละโลภะยังไม่ได้น่ะอรหัตตมรรคก็ยังมีกิเลสเยอะค่ะ
ประมาทการฟังเมื่อใดก็โง่เมื่อนั้นแหละค่ะเพราะไม่มีปัญญาเพิ่มไงคะ555
:b32:

คุณยายโรส บอกว่า " มิจฉาทิฏฐิ=ความเห็นผิดไม่ได้เห็นสีคริคริคริ "

เมก็ถามว่า พระอริยะบุคคลจนถึงพระอรหันต์ ท่านเหล่านั้น ไม่เห็นสี เป็นมิจฉาทิฎฐิใช่มั๊ยคะ ?

คุณยายก็ตอบแล้วว่า ไม่เห็นสีเพราะไม่มีทศพลญาน อันมีแก่พระพุทธเจ้าเท่านั้น

ก็แสดงว่า เหมือนที่คุณยายโรสบอกไว้จริงๆ

คุณยายโรส บอกว่า " มิจฉาทิฏฐิ=ความเห็นผิดไม่ได้เห็นสีคริคริคริ "

ไม่เก็ตหรือคะ
ตาเนื้อเห็นน่ะผิดตามปกติมีกิเลสไหลให้ดูตลอดเวลาไงที่ดูโดยไม่ฟังนั้นน่ะ
ปัญญาเกิดเมื่อฟังและอริยสาวกไม่เคยขาดการฟังแม้จะรู้ตรงสัจจะแล้วไงคะ
เพราะอริยบุคคลรู้จักตนเองตามเป็นจริงว่าขาดฟังเมื่อใดไม่มีปัญญาดับอวิชชาไงคะ
:b32:

โลกสวย

Rosarin เขียน:

โลกสวย เขียน:

Rosarin เขียน:

โลกสวย เขียน:

คุณยายโรสขา

หนูถามว่า

พระโสดาบัน พระสกิทา พระอนาคา พระอรหันต์
ท่านไม่เห็นสี

ท่านเป็นมิจฉาทิฎฐิหรือเปล่าคะ ตามที่คุณยายบอกหรือเปล่าคะ ?

คุณยายโรสตอบกลับมาว่า

"พระพุทธเจ้าตรัสรู้ว่าจิตเห็นรูปสีสันวรรณกระทบตาดับแล้วเป็นเพียงสีล้วน1สีไม่มีอะไรปน
เสียงก็ไม่มีรสก็ไม่มีเย็นร้อนสุขทุกข์ไม่มีเป็นเพียงโลกของตากระทบสีดับทันทีไม่กลับมาอีก
ตอนนี้ใครเห็นสีเพียงสีเดียวบ้างล่ะไม่มีน๊าจะไปทำให้เห็นสีก็ไม่ได้ไงเป็นทศพลญาณตรัสรู้"

คำพูดข้างบนอันนี้คือคำตอบคุณยายใช่มั๊ยคะ

ก็หมายความว่า แสดงว่า พระโสดาบัน พระสกิทา พระอนาคา พระอรหันต์ ไม่สามารถเห็นสีได้
เพราะไม่มีทศพลญานอันเป็นสิ่งตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า

ท่านเหล่านั้น ก็เป็นมิจฉาทิฎฐิคริคริ แบบคุณยายบอก ใช่มั๊ยคะ ?

ใครจะฟังหรือไม่ฟังก็เป็นตามอุปนิสัย
แต่คำสอนตรงๆไม่ฟังย่อมไม่มีปัญญา
ฉลาดแต่ไม่เฉลียวถ้าตถาคตเป็นผู้บอก
แล้วไม่มีคนฟังจะมีอริยสาวกไหมคะ555
ยังไม่ถึงอรหันต์ตราบใดก็ดีไม่ได้ไม่รู้หรือคะ
ตถาคตตรัสว่าดีแล้วสำหรับพระอรหันต์เท่านั้น
ละโลภะยังไม่ได้น่ะอรหัตตมรรคก็ยังมีกิเลสเยอะค่ะ
ประมาทการฟังเมื่อใดก็โง่เมื่อนั้นแหละค่ะเพราะไม่มีปัญญาเพิ่มไงคะ555
:b32:

คุณยายโรส บอกว่า " มิจฉาทิฏฐิ=ความเห็นผิดไม่ได้เห็นสีคริคริคริ "

เมก็ถามว่า พระอริยะบุคคลจนถึงพระอรหันต์ ท่านเหล่านั้น ไม่เห็นสี เป็นมิจฉาทิฎฐิใช่มั๊ยคะ ?

คุณยายก็ตอบแล้วว่า ไม่เห็นสีเพราะไม่มีทศพลญาน อันมีแก่พระพุทธเจ้าเท่านั้น

ก็แสดงว่า เหมือนที่คุณยายโรสบอกไว้จริงๆ

คุณยายโรส บอกว่า " มิจฉาทิฏฐิ=ความเห็นผิดไม่ได้เห็นสีคริคริคริ "

ไม่เก็ตหรือคะ
ตาเนื้อเห็นน่ะผิดตามปกติมีกิเลสไหลให้ดูตลอดเวลาไงที่ดูโดยไม่ฟังนั้นน่ะ
ปัญญาเกิดเมื่อฟังและอริยสาวกไม่เคยขาดการฟังแม้จะรู้ตรงสัจจะแล้วไงคะ
เพราะอริยบุคคลรู้จักตนเองตามเป็นจริงว่าขาดฟังเมื่อใดไม่มีปัญญาดับอวิชชาไงคะ
:b32:

เม เก๊ตสิคะ

รู้ว่า คุณยายโรส มั่วแหลก

ว่า พระอริยะบุคคล พระอรหันต์ เป็นมิจฉาทิฎฐิ เพราะไม่เห็นสี

เพราะเป็นทศพลญานที่มีแก่พระพุทธเจ้าพระองค์เดียวเท่านั้น

ตามที่คุณยายโรส บอกว่า " มิจฉาทิฏฐิ=ความเห็นผิดไม่ได้เห็นสีคริคริคริ "

แต่คุณยายไม่เก๊ตเรย แม้ เมจะถามซ้ำๆๆๆ ว่า คุณยาย พูดอะไรออกมา พูดจาอะไรผิดไปบ้าง

น่าสงสารจุงเบยค่ะ

โลกสวย

คุณยายโรส บอกว่า " มิจฉาทิฏฐิ=ความเห็นผิดไม่ได้เห็นสีคริคริคริ "

เก๊ตมั๊ยคะ คุณยายโรส ว่าพูดอะไรผิดมั่วไป

นี่เมแค่ถามคำถามเดียว คุณยายก็ไปสามวาสองศอกแล้ว เอาหัวไปพาดเขียงเองซะแล้ว

Rosarin

โลกสวย เขียน:

Rosarin เขียน:

โลกสวย เขียน:

Rosarin เขียน:

โลกสวย เขียน:

คุณยายโรสขา

หนูถามว่า

พระโสดาบัน พระสกิทา พระอนาคา พระอรหันต์
ท่านไม่เห็นสี

ท่านเป็นมิจฉาทิฎฐิหรือเปล่าคะ ตามที่คุณยายบอกหรือเปล่าคะ ?

คุณยายโรสตอบกลับมาว่า

"พระพุทธเจ้าตรัสรู้ว่าจิตเห็นรูปสีสันวรรณกระทบตาดับแล้วเป็นเพียงสีล้วน1สีไม่มีอะไรปน
เสียงก็ไม่มีรสก็ไม่มีเย็นร้อนสุขทุกข์ไม่มีเป็นเพียงโลกของตากระทบสีดับทันทีไม่กลับมาอีก
ตอนนี้ใครเห็นสีเพียงสีเดียวบ้างล่ะไม่มีน๊าจะไปทำให้เห็นสีก็ไม่ได้ไงเป็นทศพลญาณตรัสรู้"

คำพูดข้างบนอันนี้คือคำตอบคุณยายใช่มั๊ยคะ

ก็หมายความว่า แสดงว่า พระโสดาบัน พระสกิทา พระอนาคา พระอรหันต์ ไม่สามารถเห็นสีได้
เพราะไม่มีทศพลญานอันเป็นสิ่งตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า

ท่านเหล่านั้น ก็เป็นมิจฉาทิฎฐิคริคริ แบบคุณยายบอก ใช่มั๊ยคะ ?

ใครจะฟังหรือไม่ฟังก็เป็นตามอุปนิสัย
แต่คำสอนตรงๆไม่ฟังย่อมไม่มีปัญญา
ฉลาดแต่ไม่เฉลียวถ้าตถาคตเป็นผู้บอก
แล้วไม่มีคนฟังจะมีอริยสาวกไหมคะ555
ยังไม่ถึงอรหันต์ตราบใดก็ดีไม่ได้ไม่รู้หรือคะ
ตถาคตตรัสว่าดีแล้วสำหรับพระอรหันต์เท่านั้น
ละโลภะยังไม่ได้น่ะอรหัตตมรรคก็ยังมีกิเลสเยอะค่ะ
ประมาทการฟังเมื่อใดก็โง่เมื่อนั้นแหละค่ะเพราะไม่มีปัญญาเพิ่มไงคะ555
:b32:

คุณยายโรส บอกว่า " มิจฉาทิฏฐิ=ความเห็นผิดไม่ได้เห็นสีคริคริคริ "

เมก็ถามว่า พระอริยะบุคคลจนถึงพระอรหันต์ ท่านเหล่านั้น ไม่เห็นสี เป็นมิจฉาทิฎฐิใช่มั๊ยคะ ?

คุณยายก็ตอบแล้วว่า ไม่เห็นสีเพราะไม่มีทศพลญาน อันมีแก่พระพุทธเจ้าเท่านั้น

ก็แสดงว่า เหมือนที่คุณยายโรสบอกไว้จริงๆ

คุณยายโรส บอกว่า " มิจฉาทิฏฐิ=ความเห็นผิดไม่ได้เห็นสีคริคริคริ "

ไม่เก็ตหรือคะ
ตาเนื้อเห็นน่ะผิดตามปกติมีกิเลสไหลให้ดูตลอดเวลาไงที่ดูโดยไม่ฟังนั้นน่ะ
ปัญญาเกิดเมื่อฟังและอริยสาวกไม่เคยขาดการฟังแม้จะรู้ตรงสัจจะแล้วไงคะ
เพราะอริยบุคคลรู้จักตนเองตามเป็นจริงว่าขาดฟังเมื่อใดไม่มีปัญญาดับอวิชชาไงคะ
:b32:

เม เก๊ตสิคะ

รู้ว่า คุณยายโรส มั่วแหลก

ว่า พระอริยะบุคคล พระอรหันต์ เป็นมิจฉาทิฎฐิ เพราะไม่เห็นสี

เพราะเป็นทศพลญานที่มีแก่พระพุทธเจ้าพระองค์เดียวเท่านั้น

ตามที่คุณยายโรส บอกว่า " มิจฉาทิฏฐิ=ความเห็นผิดไม่ได้เห็นสีคริคริคริ "

แต่คุณยายไม่เก๊ตเรย แม้ เมจะถามซ้ำๆๆๆ ว่า คุณยาย พูดอะไรออกมา พูดจาอะไรผิดไปบ้าง

น่าสงสารจุงเบยค่ะ

หล่อนไม่เก็ตไงล่ะ
ก็บอกว่าเห็นผิดเป็นคนสัตว์วัตถุ
จะเห็นถูกมีสัมมาตามตอนกำลังฟังไม่เก็ตหล่อนฟังไหมNOW
ต้องกำลังทำฟังถึงมีสัมมาตามได้แล้วรู้หรือว่าใครปัญญาระดับไหนรู้ที่กายใจตนเองนี่
ตถาคตบอกรู้ได้ที่กายใจตนเองเท่านั้นที่รู้ถูกตรงตามคำตถาคตไม่ใช่คำเกจิอื่นๆ
คำวาจาสัจจะของตถาคตคนไม่มีปัญญาแสดงไม่ตรงหรอกค่ะเพราะคิดไม่ซื่อตรงไง
ก็ถ้าอริยบุคคลบวชจะไม่มีใครแก้คำสอนให้รับเงินได้และอริยบุคคลไม่รับเงินแน่นอน
และที่บวชโดยยังรับเงินนั้นไม่ใช่อริยบุคคลแน่นอนคิดตรงเป็นไหมคะ
แล้วเอาบรรพชิตที่รับเงินมาสอนคนอื่นจะถูกตรงตามคำสอนไหมคะ
คิดคดทรยศต่อตัวเองยังไม่รู้เลยที่บวชแล้วใช้เงินทองตามนิสัยเดิมก่อนบวช
ไม่รู้จักตถาคตเลยว่าพระองค์ตรงจริงแค่ไหนตามพระองค์ไม่ได้ไม่ทันสมัยปัจจุบันน๊า555
:b32:

Rosarin

คุณประมาททั้งหลายคะ
แค่แวะมาบอกให้ฟังคำตถาคตบ้างน๊า
ไม่ฟังไม่มีปัญญาดับอวิชชาก็โง่ต่อไปเรื่อยๆคร่าาาา
ไม่ได้ว่าใครนะคะแต่คำว่าอวิชชาคือภาษาบาลีแปลตรงภาษาไทยว่าโง่ค่ะ
https://youtu.be/SaO4cus51qA
:b4:

56519.คุณยายโรส บอกว่า มิจฉาทิฏฐิ=ความเห็นผิดไม่ได้เห็นสีคริคริคริ

ผู้ใช้งานขณะนี้