วันเวลาปัจจุบัน 28 เม.ย. 2024, 19:08  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 155 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7 ... 11  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2018, 15:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
เหตุปัจจัยคือธรรมชาติ

ธรรมชาติทั้งหมดดำเนินไปเพราะเหตุปัจจัย

ภพต่างๆ ชาติต่างๆ ก็ปรากฏเพราะเป็นธรรมชาติ เห็นต้นไม้ภูเขา เสียงต่างๆ เพราะอยู่ในวงของภพ

เช่นเดียวกับเดินอาศัยบนโลก ย่อมไม่เห็นลูกโลกใบนี้ หรือไม่สามารถรับรู้สภาวะของโลกที่หมุนไปเรื่อยๆด้วยความเร็วสูงได้ แม้โลกจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วหลายพันกิโลเมตรต่อวินาที ก็ไม่มีใครสามารถรับรู้สภาพความเร็วของโลกได้ เพราะมีสิ่งบดบังไม่ให้เรารับรู้ เช่นแรงเฉื่อย

เราอย่าพึ่งกระหยิ่มใจว่าเรารับรู้สภาพตรงของธรรมชาติแล้วคิดว่าเรามีปัญญาตรง

เพราะว่าหากเราไม่ได้เอาธรรมะมาใช้ในการฝึกฝนและดำเนินชีวิต เราก็ไม่สามารถเรียกตนเองว่าพัฒนาอะไรได้เลย แถมถอยหลังเข้าคลอง แทนที่จะไปได้สวย มันจะตกม้าตายเพราะความเข้าใจผิดว่าเรารับรู้สภาวะตรงของกายจิต ไม่อย่างนั้นพยามารก็แพ้ราบคาบไปนานแล้ว เพราะกลอุบายของพยามารมีทุกรูปแบบ มันสามารถทำให้คุณหลงระเริงคิดว่าข้านี้รู้เห็นตรง ปัญญาเกิดเพราะทวารทั้ง6ทำงานตรงไม่บิดพลิ้วนั้น คุณกำลังโดนมารหลอกใช้ และผลของมันนั้น คุณจะทรมาณเป็นล้านๆเท่าเพราะความรู้เท่าไม่ถึงกาล

ตาเป็นเหตุจึงทำให้เกิดไม่หยุดเพราะลืมฟังคำสอนจึงไม่เกิดตาปัญญารู้ตัวไหมคะว่าไม่รู้มากแค่ไหน
แค่กะพริบตามีเหตุปัจจัยดับนับไม่ได้เลยไม่รู้ตรงสัจจะที่ตนมีตรง1มีปุถคือหนาแน่นด้วยกิเลสอวิชชาไงคะ
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2018, 17:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
student เขียน:
เหตุปัจจัยคือธรรมชาติ

ธรรมชาติทั้งหมดดำเนินไปเพราะเหตุปัจจัย

ภพต่างๆ ชาติต่างๆ ก็ปรากฏเพราะเป็นธรรมชาติ เห็นต้นไม้ภูเขา เสียงต่างๆ เพราะอยู่ในวงของภพ

เช่นเดียวกับเดินอาศัยบนโลก ย่อมไม่เห็นลูกโลกใบนี้ หรือไม่สามารถรับรู้สภาวะของโลกที่หมุนไปเรื่อยๆด้วยความเร็วสูงได้ แม้โลกจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วหลายพันกิโลเมตรต่อวินาที ก็ไม่มีใครสามารถรับรู้สภาพความเร็วของโลกได้ เพราะมีสิ่งบดบังไม่ให้เรารับรู้ เช่นแรงเฉื่อย

เราอย่าพึ่งกระหยิ่มใจว่าเรารับรู้สภาพตรงของธรรมชาติแล้วคิดว่าเรามีปัญญาตรง

เพราะว่าหากเราไม่ได้เอาธรรมะมาใช้ในการฝึกฝนและดำเนินชีวิต เราก็ไม่สามารถเรียกตนเองว่าพัฒนาอะไรได้เลย แถมถอยหลังเข้าคลอง แทนที่จะไปได้สวย มันจะตกม้าตายเพราะความเข้าใจผิดว่าเรารับรู้สภาวะตรงของกายจิต ไม่อย่างนั้นพยามารก็แพ้ราบคาบไปนานแล้ว เพราะกลอุบายของพยามารมีทุกรูปแบบ มันสามารถทำให้คุณหลงระเริงคิดว่าข้านี้รู้เห็นตรง ปัญญาเกิดเพราะทวารทั้ง6ทำงานตรงไม่บิดพลิ้วนั้น คุณกำลังโดนมารหลอกใช้ และผลของมันนั้น คุณจะทรมาณเป็นล้านๆเท่าเพราะความรู้เท่าไม่ถึงกาล



ตาเป็นเหตุจึงทำให้เกิดไม่หยุดเพราะลืมฟังคำสอนจึงไม่เกิดตาปัญญารู้ตัวไหมคะว่าไม่รู้มากแค่ไหน
แค่กะพริบตามีเหตุปัจจัยดับนับไม่ได้เลยไม่รู้ตรงสัจจะที่ตนมีตรง1มีปุถคือหนาแน่นด้วยกิเลสอวิชชาไงคะ


บอกให้แทงตา แทงหู ให้มันบอด มันหนวกสะ แล้วจะได้หยุดเกิด อิอิ อะวิดชาจะได้หมด

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2018, 17:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
student เขียน:
ถ้ามีจิตที่ตรงและเกิดสัมมาได้ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ถ้ามีปัญญาเกิดแทรกระหว่างธรรมต่างๆก็ถือว่าดี

แต่อย่าให้กรรมอกุศลมันเข้าแทรก ต้องเลิกด่าว่าพระสงฆ์ และขอโทษต่อพระรัตนตรัย จึงจะประเสริฐแท้

กัลยาณมิตรเขาจะพยายามสนับสนุนให้คุณได้สิ่งดีๆ ขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง ว่าจะเห็นคุณค่ากัลยาณมิตร หรือ จะยอมรับแต่ธรรมของคนพาล

:b32:
ไม่รู้จักอริยสัจจะหรือคะ
ความจริงที่รู้ตรงแล้วเดี๋ยวนี้
ไม่รู้อะไรเลยก็รับมาตรงๆสิคะ
ก็ไม่ได้กำลังทำปัญญาตามลำดับนี่
ข้ามปัญญาแรกไม่ได้ไงเหมือนเทน้ำ
จากแก้วข้างบนล้นลงมาแก้วด้านล่าง
แก้วข้างบนไม่เต็มไม่มีทางถึงแก้วที่2-3
สุตมยปัญญาจินตามยปัญญาภาวนามยปัญญา
ล้นจากปัญญาแรกจึงจะเป็น2ล้นจาก2ถึงจะเป็น3จ้ะ
เรื่องตำหนิอลัชชีน่ะไม่ทำตามพระธรรมวินัยไม่ใช่ภิกษุในธรรมวินัยไม่บาปเลยนะคะ
เพราะกำลังประกาศพระพุทธศาสนาให้คนที่สะสมปัญญามาเข้าใจถูกตามได้จะได้ตาสว่างมืดมานาน555
:b32: :b32:



อ้าวไปอริยสัจอีกแระ เดี๋ยวก็วกมากระพริบกาลามสูตร

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2018, 19:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
student เขียน:
ถ้ามีจิตที่ตรงและเกิดสัมมาได้ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ถ้ามีปัญญาเกิดแทรกระหว่างธรรมต่างๆก็ถือว่าดี

แต่อย่าให้กรรมอกุศลมันเข้าแทรก ต้องเลิกด่าว่าพระสงฆ์ และขอโทษต่อพระรัตนตรัย จึงจะประเสริฐแท้

กัลยาณมิตรเขาจะพยายามสนับสนุนให้คุณได้สิ่งดีๆ ขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง ว่าจะเห็นคุณค่ากัลยาณมิตร หรือ จะยอมรับแต่ธรรมของคนพาล

:b32:
ไม่รู้จักอริยสัจจะหรือคะ
ความจริงที่รู้ตรงแล้วเดี๋ยวนี้
ไม่รู้อะไรเลยก็รับมาตรงๆสิคะ
ก็ไม่ได้กำลังทำปัญญาตามลำดับนี่
ข้ามปัญญาแรกไม่ได้ไงเหมือนเทน้ำ
จากแก้วข้างบนล้นลงมาแก้วด้านล่าง
แก้วข้างบนไม่เต็มไม่มีทางถึงแก้วที่2-3
สุตมยปัญญาจินตามยปัญญาภาวนามยปัญญา
ล้นจากปัญญาแรกจึงจะเป็น2ล้นจาก2ถึงจะเป็น3จ้ะ
เรื่องตำหนิอลัชชีน่ะไม่ทำตามพระธรรมวินัยไม่ใช่ภิกษุในธรรมวินัยไม่บาปเลยนะคะ
เพราะกำลังประกาศพระพุทธศาสนาให้คนที่สะสมปัญญามาเข้าใจถูกตามได้จะได้ตาสว่างมืดมานาน555
:b32: :b32:



อ้าวไปอริยสัจอีกแระ เดี๋ยวก็วกมากระพริบกาลามสูตร

:b12:
ทุกขอริยสัจจ์คือเดี๋ยวนี้ที่ไม่รู้ความจริงของเห็น
หลงจำแต่ชื่อแต่เรื่องราวมีเราเข้าไปเกี่ยวข้อง
เหมือนปลากินเหยื่อก็ติดเบ็ดของกิเลสตนเอง
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2018, 19:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
student เขียน:
เหตุปัจจัยคือธรรมชาติ

ธรรมชาติทั้งหมดดำเนินไปเพราะเหตุปัจจัย

ภพต่างๆ ชาติต่างๆ ก็ปรากฏเพราะเป็นธรรมชาติ เห็นต้นไม้ภูเขา เสียงต่างๆ เพราะอยู่ในวงของภพ

เช่นเดียวกับเดินอาศัยบนโลก ย่อมไม่เห็นลูกโลกใบนี้ หรือไม่สามารถรับรู้สภาวะของโลกที่หมุนไปเรื่อยๆด้วยความเร็วสูงได้ แม้โลกจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วหลายพันกิโลเมตรต่อวินาที ก็ไม่มีใครสามารถรับรู้สภาพความเร็วของโลกได้ เพราะมีสิ่งบดบังไม่ให้เรารับรู้ เช่นแรงเฉื่อย

เราอย่าพึ่งกระหยิ่มใจว่าเรารับรู้สภาพตรงของธรรมชาติแล้วคิดว่าเรามีปัญญาตรง

เพราะว่าหากเราไม่ได้เอาธรรมะมาใช้ในการฝึกฝนและดำเนินชีวิต เราก็ไม่สามารถเรียกตนเองว่าพัฒนาอะไรได้เลย แถมถอยหลังเข้าคลอง แทนที่จะไปได้สวย มันจะตกม้าตายเพราะความเข้าใจผิดว่าเรารับรู้สภาวะตรงของกายจิต ไม่อย่างนั้นพยามารก็แพ้ราบคาบไปนานแล้ว เพราะกลอุบายของพยามารมีทุกรูปแบบ มันสามารถทำให้คุณหลงระเริงคิดว่าข้านี้รู้เห็นตรง ปัญญาเกิดเพราะทวารทั้ง6ทำงานตรงไม่บิดพลิ้วนั้น คุณกำลังโดนมารหลอกใช้ และผลของมันนั้น คุณจะทรมาณเป็นล้านๆเท่าเพราะความรู้เท่าไม่ถึงกาล



ตาเป็นเหตุจึงทำให้เกิดไม่หยุดเพราะลืมฟังคำสอนจึงไม่เกิดตาปัญญารู้ตัวไหมคะว่าไม่รู้มากแค่ไหน
แค่กะพริบตามีเหตุปัจจัยดับนับไม่ได้เลยไม่รู้ตรงสัจจะที่ตนมีตรง1มีปุถคือหนาแน่นด้วยกิเลสอวิชชาไงคะ


บอกให้แทงตา แทงหู ให้มันบอด มันหนวกสะ แล้วจะได้หยุดเกิด อิอิ อะวิดชาจะได้หมด

:b32:
ตาไม่บอดและหูไม่หนวกบอกให้ฟังพระพุทธพจน์ทุกวัน
เพื่อไตร่ตรองความจริงที่ไม่มีใครรู้นอกจากพระพุทธเจ้า
ยังจะทำเป็นเล่นทิ่มหูทิ่มตาให้มันเดือดร้อนเจ็บปวดทำไม
ฟังนี่มันปวดใจมากนักหรือที่ฟังผู้หญิงแสดงอริยสัจจ์แทนผู้ชายคริคริคริ
ตถาคตทรงมอบคำสอนไว้กับพุทธบริษัททุกคนฟังเพื่อเข้าใจดำรงความจริงที่รู้ชัดแจ้งรู้ไว้เข้าใจไว้ในใจตน
https://youtu.be/pSM8I95QMmg
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2018, 19:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
student เขียน:
ถ้ามีจิตที่ตรงและเกิดสัมมาได้ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ถ้ามีปัญญาเกิดแทรกระหว่างธรรมต่างๆก็ถือว่าดี

แต่อย่าให้กรรมอกุศลมันเข้าแทรก ต้องเลิกด่าว่าพระสงฆ์ และขอโทษต่อพระรัตนตรัย จึงจะประเสริฐแท้

กัลยาณมิตรเขาจะพยายามสนับสนุนให้คุณได้สิ่งดีๆ ขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง ว่าจะเห็นคุณค่ากัลยาณมิตร หรือ จะยอมรับแต่ธรรมของคนพาล

:b32:
ไม่รู้จักอริยสัจจะหรือคะ
ความจริงที่รู้ตรงแล้วเดี๋ยวนี้
ไม่รู้อะไรเลยก็รับมาตรงๆสิคะ
ก็ไม่ได้กำลังทำปัญญาตามลำดับนี่
ข้ามปัญญาแรกไม่ได้ไงเหมือนเทน้ำ
จากแก้วข้างบนล้นลงมาแก้วด้านล่าง
แก้วข้างบนไม่เต็มไม่มีทางถึงแก้วที่2-3
สุตมยปัญญาจินตามยปัญญาภาวนามยปัญญา
ล้นจากปัญญาแรกจึงจะเป็น2ล้นจาก2ถึงจะเป็น3จ้ะ
เรื่องตำหนิอลัชชีน่ะไม่ทำตามพระธรรมวินัยไม่ใช่ภิกษุในธรรมวินัยไม่บาปเลยนะคะ
เพราะกำลังประกาศพระพุทธศาสนาให้คนที่สะสมปัญญามาเข้าใจถูกตามได้จะได้ตาสว่างมืดมานาน555
:b32: :b32:



อ้าวไปอริยสัจอีกแระ เดี๋ยวก็วกมากระพริบกาลามสูตร

:b12:
ทุกขอริยสัจจ์คือเดี๋ยวนี้ที่ไม่รู้ความจริงของเห็น
หลงจำแต่ชื่อแต่เรื่องราวมีเราเข้าไปเกี่ยวข้อง
เหมือนปลากินเหยื่อก็ติดเบ็ดของกิเลสตนเอง


นั่นแหละอัตตโนมติ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2018, 19:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
student เขียน:
เหตุปัจจัยคือธรรมชาติ

ธรรมชาติทั้งหมดดำเนินไปเพราะเหตุปัจจัย

ภพต่างๆ ชาติต่างๆ ก็ปรากฏเพราะเป็นธรรมชาติ เห็นต้นไม้ภูเขา เสียงต่างๆ เพราะอยู่ในวงของภพ

เช่นเดียวกับเดินอาศัยบนโลก ย่อมไม่เห็นลูกโลกใบนี้ หรือไม่สามารถรับรู้สภาวะของโลกที่หมุนไปเรื่อยๆด้วยความเร็วสูงได้ แม้โลกจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วหลายพันกิโลเมตรต่อวินาที ก็ไม่มีใครสามารถรับรู้สภาพความเร็วของโลกได้ เพราะมีสิ่งบดบังไม่ให้เรารับรู้ เช่นแรงเฉื่อย

เราอย่าพึ่งกระหยิ่มใจว่าเรารับรู้สภาพตรงของธรรมชาติแล้วคิดว่าเรามีปัญญาตรง

เพราะว่าหากเราไม่ได้เอาธรรมะมาใช้ในการฝึกฝนและดำเนินชีวิต เราก็ไม่สามารถเรียกตนเองว่าพัฒนาอะไรได้เลย แถมถอยหลังเข้าคลอง แทนที่จะไปได้สวย มันจะตกม้าตายเพราะความเข้าใจผิดว่าเรารับรู้สภาวะตรงของกายจิต ไม่อย่างนั้นพยามารก็แพ้ราบคาบไปนานแล้ว เพราะกลอุบายของพยามารมีทุกรูปแบบ มันสามารถทำให้คุณหลงระเริงคิดว่าข้านี้รู้เห็นตรง ปัญญาเกิดเพราะทวารทั้ง6ทำงานตรงไม่บิดพลิ้วนั้น คุณกำลังโดนมารหลอกใช้ และผลของมันนั้น คุณจะทรมาณเป็นล้านๆเท่าเพราะความรู้เท่าไม่ถึงกาล



ตาเป็นเหตุจึงทำให้เกิดไม่หยุดเพราะลืมฟังคำสอนจึงไม่เกิดตาปัญญารู้ตัวไหมคะว่าไม่รู้มากแค่ไหน
แค่กะพริบตามีเหตุปัจจัยดับนับไม่ได้เลยไม่รู้ตรงสัจจะที่ตนมีตรง1มีปุถคือหนาแน่นด้วยกิเลสอวิชชาไงคะ


บอกให้แทงตา แทงหู ให้มันบอด มันหนวกสะ แล้วจะได้หยุดเกิด อิอิ อะวิดชาจะได้หมด

:b32:
ตาไม่บอดและหูไม่หนวกบอกให้ฟังพระพุทธพจน์ทุกวัน
เพื่อไตร่ตรองความจริงที่ไม่มีใครรู้นอกจากพระพุทธเจ้า
ยังจะทำเป็นเล่นทิ่มหูทิ่มตาให้มันเดือดร้อนเจ็บปวดทำไม
ฟังนี่มันปวดใจมากนักหรือที่ฟังผู้หญิงแสดงอริยสัจจ์แทนผู้ชายคริคริคริ
ตถาคตทรงมอบคำสอนไว้กับพุทธบริษัททุกคนฟังเพื่อเข้าใจดำรงความจริงที่รู้ชัดแจ้งรู้ไว้เข้าใจไว้ในใจตน
https://youtu.be/pSM8I95QMmg
:b32: :b32:


เลอะเทอะ คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2018, 19:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
student เขียน:
ถ้ามีจิตที่ตรงและเกิดสัมมาได้ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ถ้ามีปัญญาเกิดแทรกระหว่างธรรมต่างๆก็ถือว่าดี

แต่อย่าให้กรรมอกุศลมันเข้าแทรก ต้องเลิกด่าว่าพระสงฆ์ และขอโทษต่อพระรัตนตรัย จึงจะประเสริฐแท้

กัลยาณมิตรเขาจะพยายามสนับสนุนให้คุณได้สิ่งดีๆ ขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง ว่าจะเห็นคุณค่ากัลยาณมิตร หรือ จะยอมรับแต่ธรรมของคนพาล

:b32:
ไม่รู้จักอริยสัจจะหรือคะ
ความจริงที่รู้ตรงแล้วเดี๋ยวนี้
ไม่รู้อะไรเลยก็รับมาตรงๆสิคะ
ก็ไม่ได้กำลังทำปัญญาตามลำดับนี่
ข้ามปัญญาแรกไม่ได้ไงเหมือนเทน้ำ
จากแก้วข้างบนล้นลงมาแก้วด้านล่าง
แก้วข้างบนไม่เต็มไม่มีทางถึงแก้วที่2-3
สุตมยปัญญาจินตามยปัญญาภาวนามยปัญญา
ล้นจากปัญญาแรกจึงจะเป็น2ล้นจาก2ถึงจะเป็น3จ้ะ
เรื่องตำหนิอลัชชีน่ะไม่ทำตามพระธรรมวินัยไม่ใช่ภิกษุในธรรมวินัยไม่บาปเลยนะคะ
เพราะกำลังประกาศพระพุทธศาสนาให้คนที่สะสมปัญญามาเข้าใจถูกตามได้จะได้ตาสว่างมืดมานาน555
:b32: :b32:



อ้าวไปอริยสัจอีกแระ เดี๋ยวก็วกมากระพริบกาลามสูตร

:b12:
ทุกขอริยสัจจ์คือเดี๋ยวนี้ที่ไม่รู้ความจริงของเห็น
หลงจำแต่ชื่อแต่เรื่องราวมีเราเข้าไปเกี่ยวข้อง
เหมือนปลากินเหยื่อก็ติดเบ็ดของกิเลสตนเอง


นั่นแหละอัตตโนมติ

เป็นไปตามที่คิดพูดทำโดยขาดสุตมยปัญญาแปลว่าไม่พึ่งคิดตามคำตถาคตจากปรโตโฆษะ
:b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2018, 19:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
student เขียน:
เหตุปัจจัยคือธรรมชาติ

ธรรมชาติทั้งหมดดำเนินไปเพราะเหตุปัจจัย

ภพต่างๆ ชาติต่างๆ ก็ปรากฏเพราะเป็นธรรมชาติ เห็นต้นไม้ภูเขา เสียงต่างๆ เพราะอยู่ในวงของภพ

เช่นเดียวกับเดินอาศัยบนโลก ย่อมไม่เห็นลูกโลกใบนี้ หรือไม่สามารถรับรู้สภาวะของโลกที่หมุนไปเรื่อยๆด้วยความเร็วสูงได้ แม้โลกจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วหลายพันกิโลเมตรต่อวินาที ก็ไม่มีใครสามารถรับรู้สภาพความเร็วของโลกได้ เพราะมีสิ่งบดบังไม่ให้เรารับรู้ เช่นแรงเฉื่อย

เราอย่าพึ่งกระหยิ่มใจว่าเรารับรู้สภาพตรงของธรรมชาติแล้วคิดว่าเรามีปัญญาตรง

เพราะว่าหากเราไม่ได้เอาธรรมะมาใช้ในการฝึกฝนและดำเนินชีวิต เราก็ไม่สามารถเรียกตนเองว่าพัฒนาอะไรได้เลย แถมถอยหลังเข้าคลอง แทนที่จะไปได้สวย มันจะตกม้าตายเพราะความเข้าใจผิดว่าเรารับรู้สภาวะตรงของกายจิต ไม่อย่างนั้นพยามารก็แพ้ราบคาบไปนานแล้ว เพราะกลอุบายของพยามารมีทุกรูปแบบ มันสามารถทำให้คุณหลงระเริงคิดว่าข้านี้รู้เห็นตรง ปัญญาเกิดเพราะทวารทั้ง6ทำงานตรงไม่บิดพลิ้วนั้น คุณกำลังโดนมารหลอกใช้ และผลของมันนั้น คุณจะทรมาณเป็นล้านๆเท่าเพราะความรู้เท่าไม่ถึงกาล



ตาเป็นเหตุจึงทำให้เกิดไม่หยุดเพราะลืมฟังคำสอนจึงไม่เกิดตาปัญญารู้ตัวไหมคะว่าไม่รู้มากแค่ไหน
แค่กะพริบตามีเหตุปัจจัยดับนับไม่ได้เลยไม่รู้ตรงสัจจะที่ตนมีตรง1มีปุถคือหนาแน่นด้วยกิเลสอวิชชาไงคะ


บอกให้แทงตา แทงหู ให้มันบอด มันหนวกสะ แล้วจะได้หยุดเกิด อิอิ อะวิดชาจะได้หมด

:b32:
ตาไม่บอดและหูไม่หนวกบอกให้ฟังพระพุทธพจน์ทุกวัน
เพื่อไตร่ตรองความจริงที่ไม่มีใครรู้นอกจากพระพุทธเจ้า
ยังจะทำเป็นเล่นทิ่มหูทิ่มตาให้มันเดือดร้อนเจ็บปวดทำไม
ฟังนี่มันปวดใจมากนักหรือที่ฟังผู้หญิงแสดงอริยสัจจ์แทนผู้ชายคริคริคริ
ตถาคตทรงมอบคำสอนไว้กับพุทธบริษัททุกคนฟังเพื่อเข้าใจดำรงความจริงที่รู้ชัดแจ้งรู้ไว้เข้าใจไว้ในใจตน
https://youtu.be/pSM8I95QMmg
:b32: :b32:


เลอะเทอะ คิกๆๆ

:b1:
พุทโธคือผู้รู้ตื่นเบิกบานตื่นๆๆๆ
ลืมตาตื่นไม่รู้ว่าหลับใหลไม่รู้ตื่น
หลงเงาเหมือนฝันเลยไหมตื่นมาฝันหาย
ความจริงที่ตนไม่รู้เพราะมีตัวตนปิดบังไม่คิดตาม
พึ่งตถาคตได้เมื่อเริ่มฟังคำสอนแล้วเข้าใจถูกทีละน้อยเพื่อดับกิเลสที่กำลังมี
::b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2018, 19:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
student เขียน:
ถ้ามีจิตที่ตรงและเกิดสัมมาได้ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ถ้ามีปัญญาเกิดแทรกระหว่างธรรมต่างๆก็ถือว่าดี

แต่อย่าให้กรรมอกุศลมันเข้าแทรก ต้องเลิกด่าว่าพระสงฆ์ และขอโทษต่อพระรัตนตรัย จึงจะประเสริฐแท้

กัลยาณมิตรเขาจะพยายามสนับสนุนให้คุณได้สิ่งดีๆ ขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง ว่าจะเห็นคุณค่ากัลยาณมิตร หรือ จะยอมรับแต่ธรรมของคนพาล

:b32:
ไม่รู้จักอริยสัจจะหรือคะ
ความจริงที่รู้ตรงแล้วเดี๋ยวนี้
ไม่รู้อะไรเลยก็รับมาตรงๆสิคะ
ก็ไม่ได้กำลังทำปัญญาตามลำดับนี่
ข้ามปัญญาแรกไม่ได้ไงเหมือนเทน้ำ
จากแก้วข้างบนล้นลงมาแก้วด้านล่าง
แก้วข้างบนไม่เต็มไม่มีทางถึงแก้วที่2-3
สุตมยปัญญาจินตามยปัญญาภาวนามยปัญญา
ล้นจากปัญญาแรกจึงจะเป็น2ล้นจาก2ถึงจะเป็น3จ้ะ
เรื่องตำหนิอลัชชีน่ะไม่ทำตามพระธรรมวินัยไม่ใช่ภิกษุในธรรมวินัยไม่บาปเลยนะคะ
เพราะกำลังประกาศพระพุทธศาสนาให้คนที่สะสมปัญญามาเข้าใจถูกตามได้จะได้ตาสว่างมืดมานาน555
:b32: :b32:



อ้าวไปอริยสัจอีกแระ เดี๋ยวก็วกมากระพริบกาลามสูตร

:b12:
ทุกขอริยสัจจ์คือเดี๋ยวนี้ที่ไม่รู้ความจริงของเห็น
หลงจำแต่ชื่อแต่เรื่องราวมีเราเข้าไปเกี่ยวข้อง
เหมือนปลากินเหยื่อก็ติดเบ็ดของกิเลสตนเอง


นั่นแหละอัตตโนมติ

เป็นไปตามที่คิดพูดทำโดยขาดสุตมยปัญญาแปลว่าไม่พึ่งคิดตามคำตถาคตจากปรโตโฆษะ
:b32:


แน่ะ มีปรโตโฆสะ สะด้วย อิอิ หมายถึงอะไรอ่ะนะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2018, 19:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
student เขียน:
เหตุปัจจัยคือธรรมชาติ

ธรรมชาติทั้งหมดดำเนินไปเพราะเหตุปัจจัย

ภพต่างๆ ชาติต่างๆ ก็ปรากฏเพราะเป็นธรรมชาติ เห็นต้นไม้ภูเขา เสียงต่างๆ เพราะอยู่ในวงของภพ

เช่นเดียวกับเดินอาศัยบนโลก ย่อมไม่เห็นลูกโลกใบนี้ หรือไม่สามารถรับรู้สภาวะของโลกที่หมุนไปเรื่อยๆด้วยความเร็วสูงได้ แม้โลกจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วหลายพันกิโลเมตรต่อวินาที ก็ไม่มีใครสามารถรับรู้สภาพความเร็วของโลกได้ เพราะมีสิ่งบดบังไม่ให้เรารับรู้ เช่นแรงเฉื่อย

เราอย่าพึ่งกระหยิ่มใจว่าเรารับรู้สภาพตรงของธรรมชาติแล้วคิดว่าเรามีปัญญาตรง

เพราะว่าหากเราไม่ได้เอาธรรมะมาใช้ในการฝึกฝนและดำเนินชีวิต เราก็ไม่สามารถเรียกตนเองว่าพัฒนาอะไรได้เลย แถมถอยหลังเข้าคลอง แทนที่จะไปได้สวย มันจะตกม้าตายเพราะความเข้าใจผิดว่าเรารับรู้สภาวะตรงของกายจิต ไม่อย่างนั้นพยามารก็แพ้ราบคาบไปนานแล้ว เพราะกลอุบายของพยามารมีทุกรูปแบบ มันสามารถทำให้คุณหลงระเริงคิดว่าข้านี้รู้เห็นตรง ปัญญาเกิดเพราะทวารทั้ง6ทำงานตรงไม่บิดพลิ้วนั้น คุณกำลังโดนมารหลอกใช้ และผลของมันนั้น คุณจะทรมาณเป็นล้านๆเท่าเพราะความรู้เท่าไม่ถึงกาล



ตาเป็นเหตุจึงทำให้เกิดไม่หยุดเพราะลืมฟังคำสอนจึงไม่เกิดตาปัญญารู้ตัวไหมคะว่าไม่รู้มากแค่ไหน
แค่กะพริบตามีเหตุปัจจัยดับนับไม่ได้เลยไม่รู้ตรงสัจจะที่ตนมีตรง1มีปุถคือหนาแน่นด้วยกิเลสอวิชชาไงคะ


บอกให้แทงตา แทงหู ให้มันบอด มันหนวกสะ แล้วจะได้หยุดเกิด อิอิ อะวิดชาจะได้หมด

:b32:
ตาไม่บอดและหูไม่หนวกบอกให้ฟังพระพุทธพจน์ทุกวัน
เพื่อไตร่ตรองความจริงที่ไม่มีใครรู้นอกจากพระพุทธเจ้า
ยังจะทำเป็นเล่นทิ่มหูทิ่มตาให้มันเดือดร้อนเจ็บปวดทำไม
ฟังนี่มันปวดใจมากนักหรือที่ฟังผู้หญิงแสดงอริยสัจจ์แทนผู้ชายคริคริคริ
ตถาคตทรงมอบคำสอนไว้กับพุทธบริษัททุกคนฟังเพื่อเข้าใจดำรงความจริงที่รู้ชัดแจ้งรู้ไว้เข้าใจไว้ในใจตน
https://youtu.be/pSM8I95QMmg
:b32: :b32:


เลอะเทอะ คิกๆๆ

:b1:
พุทโธคือผู้รู้ตื่นเบิกบานตื่นๆๆๆ
ลืมตาตื่นไม่รู้ว่าหลับใหลไม่รู้ตื่น
หลงเงาเหมือนฝันเลยไหมตื่นมาฝันหาย
ความจริงที่ตนไม่รู้เพราะมีตัวตนปิดบังไม่คิดตาม
พึ่งตถาคตได้เมื่อเริ่มฟังคำสอนแล้วเข้าใจถูกทีละน้อยเพื่อดับกิเลสที่กำลังมี
::b32: :b32:



ไปพุทโธอีกอ้าว

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2018, 19:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ย้ำอีก คุณโรสขอรับ คุณเลิกฟังคลิปแม่สุจินเถอะ เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าออกจากสำนักบ้านธัมมะไปศึกษาไปเรียนยังสำนักเรียนที่เขามีการสอนการสอบวัดผลถูกต้องตามหลักวิชาให้เป็นเรื่องราวเป็นราวเถอะนะ :b13: :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2018, 19:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
student เขียน:
ถ้ามีจิตที่ตรงและเกิดสัมมาได้ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ถ้ามีปัญญาเกิดแทรกระหว่างธรรมต่างๆก็ถือว่าดี

แต่อย่าให้กรรมอกุศลมันเข้าแทรก ต้องเลิกด่าว่าพระสงฆ์ และขอโทษต่อพระรัตนตรัย จึงจะประเสริฐแท้

กัลยาณมิตรเขาจะพยายามสนับสนุนให้คุณได้สิ่งดีๆ ขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง ว่าจะเห็นคุณค่ากัลยาณมิตร หรือ จะยอมรับแต่ธรรมของคนพาล

:b32:
ไม่รู้จักอริยสัจจะหรือคะ
ความจริงที่รู้ตรงแล้วเดี๋ยวนี้
ไม่รู้อะไรเลยก็รับมาตรงๆสิคะ
ก็ไม่ได้กำลังทำปัญญาตามลำดับนี่
ข้ามปัญญาแรกไม่ได้ไงเหมือนเทน้ำ
จากแก้วข้างบนล้นลงมาแก้วด้านล่าง
แก้วข้างบนไม่เต็มไม่มีทางถึงแก้วที่2-3
สุตมยปัญญาจินตามยปัญญาภาวนามยปัญญา
ล้นจากปัญญาแรกจึงจะเป็น2ล้นจาก2ถึงจะเป็น3จ้ะ
เรื่องตำหนิอลัชชีน่ะไม่ทำตามพระธรรมวินัยไม่ใช่ภิกษุในธรรมวินัยไม่บาปเลยนะคะ
เพราะกำลังประกาศพระพุทธศาสนาให้คนที่สะสมปัญญามาเข้าใจถูกตามได้จะได้ตาสว่างมืดมานาน555
:b32: :b32:



อ้าวไปอริยสัจอีกแระ เดี๋ยวก็วกมากระพริบกาลามสูตร

:b12:
ทุกขอริยสัจจ์คือเดี๋ยวนี้ที่ไม่รู้ความจริงของเห็น
หลงจำแต่ชื่อแต่เรื่องราวมีเราเข้าไปเกี่ยวข้อง
เหมือนปลากินเหยื่อก็ติดเบ็ดของกิเลสตนเอง


นั่นแหละอัตตโนมติ

เป็นไปตามที่คิดพูดทำโดยขาดสุตมยปัญญาแปลว่าไม่พึ่งคิดตามคำตถาคตจากปรโตโฆษะ
:b32:


แน่ะ มีปรโตโฆสะ สะด้วย อิอิ หมายถึงอะไรอ่ะนะ

:b32:
ฝึกหัดดัดตนจากการฟังจะได้รู้ว่าปรโตโฆสะตรงจริงระดับไหนรู้ได้ตามระดับปัญญาไม่ข้ามขั้นเลย
ฟังโดยใช้หลักกาลามสูตร10เพื่อไตร่ตรองความจริงก่อนจิตออกจากกายนี้คือทำสุตมยปัญญาตรงจริง
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
student เขียน:
เหตุปัจจัยคือธรรมชาติ

ธรรมชาติทั้งหมดดำเนินไปเพราะเหตุปัจจัย

ภพต่างๆ ชาติต่างๆ ก็ปรากฏเพราะเป็นธรรมชาติ เห็นต้นไม้ภูเขา เสียงต่างๆ เพราะอยู่ในวงของภพ

เช่นเดียวกับเดินอาศัยบนโลก ย่อมไม่เห็นลูกโลกใบนี้ หรือไม่สามารถรับรู้สภาวะของโลกที่หมุนไปเรื่อยๆด้วยความเร็วสูงได้ แม้โลกจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วหลายพันกิโลเมตรต่อวินาที ก็ไม่มีใครสามารถรับรู้สภาพความเร็วของโลกได้ เพราะมีสิ่งบดบังไม่ให้เรารับรู้ เช่นแรงเฉื่อย

เราอย่าพึ่งกระหยิ่มใจว่าเรารับรู้สภาพตรงของธรรมชาติแล้วคิดว่าเรามีปัญญาตรง

เพราะว่าหากเราไม่ได้เอาธรรมะมาใช้ในการฝึกฝนและดำเนินชีวิต เราก็ไม่สามารถเรียกตนเองว่าพัฒนาอะไรได้เลย แถมถอยหลังเข้าคลอง แทนที่จะไปได้สวย มันจะตกม้าตายเพราะความเข้าใจผิดว่าเรารับรู้สภาวะตรงของกายจิต ไม่อย่างนั้นพยามารก็แพ้ราบคาบไปนานแล้ว เพราะกลอุบายของพยามารมีทุกรูปแบบ มันสามารถทำให้คุณหลงระเริงคิดว่าข้านี้รู้เห็นตรง ปัญญาเกิดเพราะทวารทั้ง6ทำงานตรงไม่บิดพลิ้วนั้น คุณกำลังโดนมารหลอกใช้ และผลของมันนั้น คุณจะทรมาณเป็นล้านๆเท่าเพราะความรู้เท่าไม่ถึงกาล



ตาเป็นเหตุจึงทำให้เกิดไม่หยุดเพราะลืมฟังคำสอนจึงไม่เกิดตาปัญญารู้ตัวไหมคะว่าไม่รู้มากแค่ไหน
แค่กะพริบตามีเหตุปัจจัยดับนับไม่ได้เลยไม่รู้ตรงสัจจะที่ตนมีตรง1มีปุถคือหนาแน่นด้วยกิเลสอวิชชาไงคะ


บอกให้แทงตา แทงหู ให้มันบอด มันหนวกสะ แล้วจะได้หยุดเกิด อิอิ อะวิดชาจะได้หมด

:b32:
ตาไม่บอดและหูไม่หนวกบอกให้ฟังพระพุทธพจน์ทุกวัน
เพื่อไตร่ตรองความจริงที่ไม่มีใครรู้นอกจากพระพุทธเจ้า
ยังจะทำเป็นเล่นทิ่มหูทิ่มตาให้มันเดือดร้อนเจ็บปวดทำไม
ฟังนี่มันปวดใจมากนักหรือที่ฟังผู้หญิงแสดงอริยสัจจ์แทนผู้ชายคริคริคริ
ตถาคตทรงมอบคำสอนไว้กับพุทธบริษัททุกคนฟังเพื่อเข้าใจดำรงความจริงที่รู้ชัดแจ้งรู้ไว้เข้าใจไว้ในใจตน
https://youtu.be/pSM8I95QMmg
:b32: :b32:


เลอะเทอะ คิกๆๆ

:b1:
พุทโธคือผู้รู้ตื่นเบิกบานตื่นๆๆๆ
ลืมตาตื่นไม่รู้ว่าหลับใหลไม่รู้ตื่น
หลงเงาเหมือนฝันเลยไหมตื่นมาฝันหาย
ความจริงที่ตนไม่รู้เพราะมีตัวตนปิดบังไม่คิดตาม
พึ่งตถาคตได้เมื่อเริ่มฟังคำสอนแล้วเข้าใจถูกทีละน้อยเพื่อดับกิเลสที่กำลังมี
::b32: :b32:



ไปพุทโธอีกอ้าว

หรือจะคิดแต่ว่าตถาคตไม่อยู่แล้ว
อยากจะปรับจะแก้คำสอนได้ตามใจ
อุบาสกอุบาสิกาที่เข้าใจคำสอนประกาศๆๆๆ
ให้เข้าใจความจริงอยู่นี้ไงว่าจะตกนรกเพราะทำลายวินัย
ทำลายวินัยคือทำลายสิ่งที่จะนำกิเลสออกเช่นห้ามรับเงินตรงมาก
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2018, 21:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ในบอร์ดนี้ก็มีผู้หญิงเยอะแยะที่มีความรู้และมีธรรมะในใจ ไม่ต้องไปมองคนอื่นหรือเพ่งโทษคนอื่น หาจุดที่ตัวเองบกพร่อง เริ่มใช้ธรรมะในการดำรงชีวิต

ไม่เป็นผู้ยกตนข่มท่านนี่ก็เป็นธรรมะที่พระพุทธเจ้าสอน การรู้ตรงเห็นตรง ต้องไม่สวนทางกันกับการดำรงชีวิต

รู้สัจธรรมต้องไม่ขัดแย้งกันกับการความประพฤติ นิสัยต้องเป็นคนมีสัมมาคารวะ รู้เขารู้เรา หมั่นตรวจว่าเดี๋ยวนี้ตนเองกำลังคบกับคนพาล หรือคบกับสัตบุรุษ การด่าว่าพระสงฆ์ ไม่มีใครเขาอยากคบด้วย เพราะคนเขาคุยด้วยเพราะเขาสงสาร อยากให้เห็นและละเว้นบาปอกุศลที่ทำอยู่

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ย. 2018, 07:40 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
ในบอร์ดนี้ก็มีผู้หญิงเยอะแยะที่มีความรู้และมีธรรมะในใจ ไม่ต้องไปมองคนอื่นหรือเพ่งโทษคนอื่น หาจุดที่ตัวเองบกพร่อง เริ่มใช้ธรรมะในการดำรงชีวิต

ไม่เป็นผู้ยกตนข่มท่านนี่ก็เป็นธรรมะที่พระพุทธเจ้าสอน การรู้ตรงเห็นตรง ต้องไม่สวนทางกันกับการดำรงชีวิต

รู้สัจธรรมต้องไม่ขัดแย้งกันกับการความประพฤติ นิสัยต้องเป็นคนมีสัมมาคารวะ รู้เขารู้เรา หมั่นตรวจว่าเดี๋ยวนี้ตนเองกำลังคบกับคนพาล หรือคบกับสัตบุรุษ การด่าว่าพระสงฆ์ ไม่มีใครเขาอยากคบด้วย เพราะคนเขาคุยด้วยเพราะเขาสงสาร อยากให้เห็นและละเว้นบาปอกุศลที่ทำอยู่

:b12: :b12: :b12:

ประเพณีอันดีงามของไทยเราหลายๆอย่าง..(เกือบจะหมดทุกอย่าง)...มาจากพระพุทธศาสนา..เป็นการปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวัน...เช่น.การน้อบน้อม..ทางกาย..ทางวาจา..เป็นต้น

การน้อบน้อมหรือกราบภิกษุนักบวช(แม้จะเพิ่งบวชได้เพียงแค่นาทีเดียว)..ซึ่งในการกระทำนี้แท้จริงแล้ว..เป็นการน้อบน้อมเคารพพระรัตนตรัยโดยมีผ้ากาสาวพัสตร์อันบุคคลที่เพิ่งบวขนั้นสวมอยู่...หากผู้กราบระลึกอย่างนี้...ก็บ่งบอกว่าผู้นั้นมีวิจิกิจฉาสังโยชน์น้อยลง..นี้ก็เป็นการปฏิบัติธรรมอันนึ่ง

ผู้ที่..อดทนไม่พูดโฆษณาในที่สาธารณะ..ในพฤติกรรมเสียๆบางอย่างของนักบวชส่วนน้อย..ทำให้ดูเสมือนว่า..นักบวชส่วนใหญ่เขาทำ...ขึ้นชื่อว่า..เป็นผู้ถนอมส่วนที่เป็นพระศาสนา..เป็นผู้รักษาพระศาสนา..และการเล็งเห็นผลเสียมากกว่าผลได้..จึงเป็นผู้ไม่พูดโดยไม่คิด...นี้ก็แสดงว่าผู้นี้มีสีลลัพตปรามาสสังโยชน์น้อยลง..นี้ก็เป็นการปฏิบัติธรรมอันนึง....

และการที่สามารถกราบคนที่เพิ่งบวชได้...ผู้กราบย่อมเป็นผู้มีมานะอ่อนลง...นี้ก็เป็นการปฏิบัติธรรมอันนึ่ง..

การที่บอกว่าตนเองเป็นนักปฏิบัติธรรม...แต่พฤติกรรมของชีวิต...ไม่ได้แสดงออกมาของมรรคของผลเลย...
เห็นพระ..จิตก็คิดถึงรับเงิบรับทอง..
เห็นคนห่มขาว...จิตก็คิดไปนอนวัดได้งัย...
เห็นพระไปสวดมนต์หน้าถ่ำ..จิตก็คิดไม่ใช่กิจของสงฆ์...

เป็นต้น..เช่นนี้..ยังเป็นผู้เอาตนไม่รอด..อยู่...ผู้ไม่สามารถระงับยับยั่งจิตอกุศลไม่ให้เกิดได้จะว่าเป็นผู้รอดจากอบายได้อย่างไร...

ในส่วนที่เห็นฆราวาส.ตั้งสำนัก..ตั้งบริษัท..สั่งสอนอบรมธรรมะ..ทั่วราชอาณาจักร...อันนี้..ก็เป็นสัญญาณความเสื่อมของพระศาสนาในสังคมมนุษย์..ได้อย่างหนึ่ง
แม้ตัวพระธรรม..จะเป็นอกาลิโก..เป็นของแท้ที่เที่ยง...แต่ตัวคนเป็นของไม่เที่ยง...สมัยหนึ่งมีความเห็นอย่างนี้ดี..พอกาลสมัยเปลี่ยนไปก็อาจจะเห็นอีกอย่างดี..ขึ้นมาแทนได้..นี้แหละ..ความรู้สึกนึกคิดของคนมันไม่เที่ยง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 155 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7 ... 11  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 186 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร