ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ภาวะของผู้บรรลุนิพพาน http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=56468 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 3 |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 01 ก.ย. 2018, 15:33 ] |
หัวข้อกระทู้: | ภาวะของผู้บรรลุนิพพาน |
ต่อจาก ภาวะแห่งนิพพาน นี่ viewtopic.php?f=1&t=56459 นิพพาน การดับกิเลสและกองทุกข์ นิรฺวาณมฺ ความดับ เป็นคำสันสกฤต เทียบกับภาษาบาลี ก็ได้แก่ศัพท์ว่า นิพพาน นั่นเอง ปัจจุบันนิยมใช้เพียงว่า นิรวาณ กับ นิรวาณะ นิโรธ ความดับทุกข์ คือ ดับตัณหาได้สิ้นเชิง, ภาวะปลอดทุกข์เพราะไม่มีทุกข์ที่จะเกิดขึ้นได้ หมายถึง พระนิพพาน |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 01 ก.ย. 2018, 15:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ภาวะของผู้บรรลุนิพพาน |
ภาวะของผู้บรรลุนิพพาน เนื่องด้วยคำสอนในพระพุทธศาสนา เน้นสิ่งที่ปฏิบัติได้จริง และการลงมือทำให้รู้เห็นประจักษ์บังเกิดผลเป็นประโยชน์แก่ชีวิต หรือเน้นสิ่งที่ใช้ประโยชน์ได้ และการนำสิ่งนั้นมาใช้ให้เป็นประโยชน์ (ดูหลักการตรัสพระวาจาของพระพุทธเจ้า ใน องฺ.จตุกฺก.21/183/233 ฯลฯ) ไม่สนับการคิดวาดภาพ และการถกเถียงหาเหตุผลในสิ่งที่พึงรู้เห็นได้ด้วยการลงมือทำนั้น ให้เกินเพียงพอแก่ความเข้าใจที่จะเป็นพื้นฐานสำหรับการลงมือปฏิบัติ ดังนั้น ในการพิจารณาเรื่องนิพพาน การศึกษาเกี่ยวกับภาวะของบุคคลผู้บรรลุนิพพาน รวมทั้งประโยชน์ที่เป็นผลของการบรรลุนิพพาน ซึ่งเห็นได้ที่ชีวิต หรือบุคลิกภาพของผู้บรรลุ จึงน่าจะมีคุณค่าในทางปฏิบัติ และสอดคล้องกับหลักการของพระพุทธศาสนา มากกว่าการอภิปรายเรื่องภาวะของนิพพานโดยตรง ภาวะของผู้บรรลุนิพพาน อาจศึกษาได้จากคำเรียกชื่อ และคำแสดงคุณลักษณะของผู้บรรลุนิพพานนั่นเอง ซึ่งมีทั้งความหมายแง่บวก และแง่ลบ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 01 ก.ย. 2018, 17:01 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ภาวะของผู้บรรลุนิพพาน |
ต่อ คำเรียกจำนวนมาก เป็นคำแสดงความยกย่องนับถือว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติดีงาม บริสุทธิ์ ประเสริฐหรือได้บรรลุจุดหมายสูงสุดแล้ว เช่น อรหันต์, ขีณาสพ, อเสขะ, ปริกขีณภวสังโยชน์, อนุปปัตตสทัตถ์, อุตมบุรุษ , มหาบุรุษ , สัมปันนกุศล, บรมกุศล |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 01 ก.ย. 2018, 17:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ภาวะของผู้บรรลุนิพพาน |
คคห.บน มีศัพท์บาลีหลายตัว ไม่ต้องรอชาติหน้า เอาชาตินี้เดี๋ยวนี้ให้คุณโรสบอกความหมายมันหน่อย อ้างคำพูด: Rosarin ไม่ต้องพูดบาลีว่าตนรู้ศัพท์เยอะได้ไหม มันไม่ตามไปชาติหน้าค่ะ บอกไม่ฟังก็บอกว่าให้สะสมสัจญาณคือปริยัติจากสุตมยปัญญา คุยมาตั้งแต่แรกไม่เข้าใจหรือคะว่าโรสฟังพระพุทธพจน์เข้าใจ ไม่ได้จดหรือไม่ได้อ่านมาก่อนไม่ได้ไปกางเปิดตำราตอบมันอยู่ในกึ๋นไงคะ เข้าใจถูกตรงตามการฟังแล้วคำตถาคตเข้าใจแล้วเวลาสนทนาก็บอกตามความเข้าใจตรงคำจริงไงคะ viewtopic.php?f=1&t=56409&p=426089#p426089 เท่ากับเป็นเครื่องวัดว่า ชาติที่แล้วคุณโรสได้เรียนมาไหม ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 01 ก.ย. 2018, 18:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ภาวะของผู้บรรลุนิพพาน |
![]() ![]() มีกิเลสแปลว่าไม่มีใครรู้ความจริง ผู้รู้ความจริงคือพระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้ ไม่ได้บรรลุตามใครเข้าใจไหมคะตรัสรู้ ด้วยปัญญาถึงทศพลญาณมีแค่1คนทั้งจักรวาล คนอื่นๆต้องฟังความจริงจากพระองค์เพื่อเกิดสัมมาตาม และการแสดงความจริงจากพระโอษฐ์ผู้ที่สะสมการฟังมาแต่ปางก่อนเท่านั้น ที่มีโอกาสได้ฟังอีกจนปัญญาเจริญขึ้นตามลำดับและบรรลุธรรมตามได้จากกำลังฟังเข้าใจไหมคะ แล้วคนสมัยนี้คิดว่าตนเองเป็นใครหรือคะแค่อ่านท่องจำคำตถาคตเอามาท่องเป็นต่อยหอยแต่กิเลสเต็ม โดยเฉพาะบรรพชิตสมัยนี้ใช้อุปนิสัยแบบคฤหัสถ์ในการครองผ้ากาสาวพัตรตายแล้วต้องตกนรกทันที ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 01 ก.ย. 2018, 18:50 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ภาวะของผู้บรรลุนิพพาน |
Rosarin เขียน: Kiss ![]() มีกิเลสแปลว่าไม่มีใครรู้ความจริง ผู้รู้ความจริงคือพระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้ ไม่ได้บรรลุตามใครเข้าใจไหมคะตรัสรู้ ด้วยปัญญาถึงทศพลญาณมีแค่1คนทั้งจักรวาล คนอื่นๆต้องฟังความจริงจากพระองค์เพื่อเกิดสัมมาตาม และการแสดงความจริงจากพระโอษฐ์ผู้ที่สะสมการฟังมาแต่ปางก่อนเท่านั้น ที่มีโอกาสได้ฟังอีกจนปัญญาเจริญขึ้นตามลำดับและบรรลุธรรมตามได้จากกำลังฟังเข้าใจไหมคะ แล้วคนสมัยนี้คิดว่าตนเองเป็นใครหรือคะแค่อ่านท่องจำคำตถาคตเอามาท่องเป็นต่อยหอยแต่กิเลสเต็ม โดยเฉพาะบรรพชิตสมัยนี้ใช้อุปนิสัยแบบคฤหัสถ์ในการครองผ้ากาสาวพัตรตายแล้วต้องตกนรกทันที ![]() ![]() ![]() เขาถามว่าไปไหนมา |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 01 ก.ย. 2018, 19:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ภาวะของผู้บรรลุนิพพาน |
ความหมายของศัพท์ข้างบนโน่น @ อรหันต์ - ผู้ควร หรือผู้ไกลกิเลส @ ขีณาสพ - ผู้สิ้นอาสวะแล้ว @ อเสขะ - ผู้ไม่ต้องศึกษา, ผู้จบการศึกษาแล้ว @ ปริกขีณภวสังโยชน์ - ผู้หมดสังโยชน์ที่เป็นเครื่องผูกมัดไว้ในภพ @ อนุปปัตตสทัตถ์ - ผู้เข้าถึงประโยชน์ตนแล้ว @ อุตมบุรุษ - คนสูงสุด, คนยอดเยี่ยม @ มหาบุรุษ - คนยิ่งใหญ่ด้วยคุณธรรม, บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์สุขของพหูชน และมีอำนาจเหนือจิตของตน @ สัมปันนกุศล - ผู้มีกุศลสมบูรณ์ @ บรมกุศล - ผู้มีกุศลธรรมอย่างยิ่ง |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 01 ก.ย. 2018, 19:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ภาวะของผู้บรรลุนิพพาน |
คำเรียกอีกไม่น้อย เป็นคำที่ใช้กันมาในลัทธิศาสนาสืบจากเดิม แต่นำมาใช้ในพุทธศาสนาโดยเน้นให้ปรับแก้ความหมายให้ถูกตรงตามสาระของพระธรรม วินัย เช่น พราหมณ์ (แท้), ทักขิไณย์, นหาตก์, เวทคู, สมณะ, เกวลี หรือเกพลี, อริยะ, อริยะ หรือ อารยชน การศึกษาตามแนวนี้ ต้องพิจารณาภาวะของผู้บรรลุนิพพาน โดยสัมพันธ์ กับ หลักธรรมที่กล่าวถึงในคำนั้นๆ เช่น อาสวะ ๓ สิกขา ๓ อเสขธรรม ๑๐ สังโยชน์ ๑๐ พรหมจรรย์ คือ มรรคมีองค์ ๘ เป็นต้น |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 01 ก.ย. 2018, 19:08 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ภาวะของผู้บรรลุนิพพาน |
ความหมายศัพท์ที่เขาใช้อยู่ก่อนแล้ว พระพุทธเจ้านำมาใช้ในความหมายใหม่ @ พราหมณ์ (แท้) ผู้ลอยบาปโดยละเลิกอกุศลธรรมทิ้งไปหมดแล้ว, เดิม = คำเรียกคนวรรณะเลิศประเสริฐเหนือวรรณะอื่น @ ทักขิไณย์ - ผู้ควรแก่ทักษิณา, เดิม = คำเรียกพราหมณ์ในฐานะผู้ควรรับค่าตอบแทนในการประกอบพิธีบูชายัญ @ นหาตก์ - ผู้สนานแล้ว, ผู้อาบน้ำธรรม ทำกรรมสะอาด สร้างความเกษมแก่สรรพสัตว์, เดิม = คำเรียกพราหมณ์ผู้ได้ประกอบพิธีสนานขึ้นสู่สถานะเป็นพราหมณ์มีระดับ @ เวทคู - ผู้ถึงเวท คือ เจนจบวิชชาล่วงพ้นความติดในสรรพเวทนา, เดิม = คำเรียกพราหมณ์ผู้จบไตรเพท @ สมณะ - ผู้สงบ, ผู้ระงับกิเลส, เดิม = คำเรียกนักบวช @ เกวลี หรือ เกพลี - คนครบถ้วน, คนสมบูรณ์, เดิม = คำเรียก บุคคลสูงสุดในศาสนาเชน @ อริยะ หรือ อารยชน - คนเจริญ, ผู้ประเสริฐ, ผู้เจริญอหิงสาต่อสรรพสัตว์, เดิม = คำเรียกคนสามวรรณะแรก หรืออารยันโดยกำเนิด |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 01 ก.ย. 2018, 19:17 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ภาวะของผู้บรรลุนิพพาน |
อนึ่ง ในหมู่ชาวพุทธจำนวนมากทีเดียวนิยมพูดถึงคุณสมบัติของพระอรหันต์ และพระอริยบุคคลอื่นๆในเชิงละ หรือเชิงลบ โดยกำหนดด้วยกิเลสที่ละได้หรือหมดไปแล้ว เช่นว่า พระโสดาบันละสังโยชน์ได้ ๓ พระสกทาคามีละสังโยชน์ ๓ นั้นได้ และทำราคะโทสะโมหะให้เบาบางลงไปอีก พระอนาคามีละสังโยชน์เบื้องต่ำได้หมด ทั้ง ๕ และ พระอรหันต์ละสังโยชน์ได้หมดสิ้นทั้ง ๑๐ หรือพูดถึงคุณสมบัติของพระอรหันต์ได้สั้นๆ เพียงว่า คือ ท่านผู้สิ้นราคะ โทสะ โมหะ หรือว่าหมดกิเลส หรือว่าไม่มีโลภ โกรธ หลง วิธีพูดแบบนี้ก็ดีในแง่ที่ว่า พูดได้ชัดวัดได้ง่าย แต่มองได้แคบ ไม่เห็นชัดออกมา และกว้างออกไปว่า พระอรหันต์ และอริยชนนั้น มีคุณสมบัติพิเศษมีคุณลักษณะเด่น ดำเนินชีวิตที่ดีงามมีคุณค่าและทำคุณประโยชน์แก่โลกอย่างไร ที่จริง คำและข้อความที่กล่าวถึงคุณสมบัติของพระอรหันต์ในเชิงบวกก็มีไม่น้อย แต่ถ้าเป็นคำบรรยายหรือพรรณนา ก็มักมีเนื้อความกว้างขวาง ยากที่จะสรุปมาวางให้จับใจความได้อย่างมีลำดับ เป็นชั้นๆหรือเป็นข้อๆ หรือไม่ก็แสดงไว้เป็นเรื่องเฉพาะกรณี ไม่ใช่คุณสมบัติร่วมที่เสมอเหมือนทั่วกันแก่ทุกท่าน |
เจ้าของ: | Rosarin [ 01 ก.ย. 2018, 23:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ภาวะของผู้บรรลุนิพพาน |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: Kiss ![]() มีกิเลสแปลว่าไม่มีใครรู้ความจริง ผู้รู้ความจริงคือพระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้ ไม่ได้บรรลุตามใครเข้าใจไหมคะตรัสรู้ ด้วยปัญญาถึงทศพลญาณมีแค่1คนทั้งจักรวาล คนอื่นๆต้องฟังความจริงจากพระองค์เพื่อเกิดสัมมาตาม และการแสดงความจริงจากพระโอษฐ์ผู้ที่สะสมการฟังมาแต่ปางก่อนเท่านั้น ที่มีโอกาสได้ฟังอีกจนปัญญาเจริญขึ้นตามลำดับและบรรลุธรรมตามได้จากกำลังฟังเข้าใจไหมคะ แล้วคนสมัยนี้คิดว่าตนเองเป็นใครหรือคะแค่อ่านท่องจำคำตถาคตเอามาท่องเป็นต่อยหอยแต่กิเลสเต็ม โดยเฉพาะบรรพชิตสมัยนี้ใช้อุปนิสัยแบบคฤหัสถ์ในการครองผ้ากาสาวพัตรตายแล้วต้องตกนรกทันที ![]() ![]() ![]() เขาถามว่าไปไหนมา ![]() ไปไหนไม่รู้(ไม่รู้ว่าจะไปเกิดภพไหน)แต่จิตไปตลอดดับไม่กลับมาเกิดให้รู้อีกเลยเกิดจิตขณะใหม่ตลอด ไม่ตรงปัจจุบันขณะตลอดแปลว่ามีกิเลสอาสาวะนอนเนื่องในจิตใหม่นอนรอมาเกิดเป็นอวิชชาตลอดเหมือนเดิม ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 02 ก.ย. 2018, 05:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ภาวะของผู้บรรลุนิพพาน |
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: Kiss ![]() มีกิเลสแปลว่าไม่มีใครรู้ความจริง ผู้รู้ความจริงคือพระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้ ไม่ได้บรรลุตามใครเข้าใจไหมคะตรัสรู้ ด้วยปัญญาถึงทศพลญาณมีแค่1คนทั้งจักรวาล คนอื่นๆต้องฟังความจริงจากพระองค์เพื่อเกิดสัมมาตาม และการแสดงความจริงจากพระโอษฐ์ผู้ที่สะสมการฟังมาแต่ปางก่อนเท่านั้น ที่มีโอกาสได้ฟังอีกจนปัญญาเจริญขึ้นตามลำดับและบรรลุธรรมตามได้จากกำลังฟังเข้าใจไหมคะ แล้วคนสมัยนี้คิดว่าตนเองเป็นใครหรือคะแค่อ่านท่องจำคำตถาคตเอามาท่องเป็นต่อยหอยแต่กิเลสเต็ม โดยเฉพาะบรรพชิตสมัยนี้ใช้อุปนิสัยแบบคฤหัสถ์ในการครองผ้ากาสาวพัตรตายแล้วต้องตกนรกทันที ![]() ![]() ![]() เขาถามว่าไปไหนมา ![]() ไปไหนไม่รู้(ไม่รู้ว่าจะไปเกิดภพไหน)แต่จิตไปตลอดดับไม่กลับมาเกิดให้รู้อีกเลยเกิดจิตขณะใหม่ตลอด ไม่ตรงปัจจุบันขณะตลอดแปลว่ามีกิเลสอาสาวะนอนเนื่องในจิตใหม่นอนรอมาเกิดเป็นอวิชชาตลอดเหมือนเดิม นี่คือผู้ที่เอาแต่ฟังคลิปโดยไม่ศึกษา ทั้งไม่ปฏิบัติ มิจฉาทิฏฐิจึงเกิดเต็มสมองและสองมือ รวมทั้งมิจฉาทิฏฐิตัวย่าด้วย บริวารที่นั่งฟังนั่งถามกันอยู่นั่น ก็ขาดความรู้เรื่องพุทธธรรมคือโต้แย้งไม่เป็นไม่ได้ ฟังเขากล่อมประสาทไป เออๆหนอๆกันไป |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 02 ก.ย. 2018, 05:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ภาวะของผู้บรรลุนิพพาน |
ในที่นี้ จะเลือกคำที่เป็นคุณบท คือคำที่ใช้เป็นคุณนาม ซึ่งแสดงคุณสมบัติ และคุณลักษณะของพระอรหันต์ได้กว้างขวางครอบคลุมอย่างเป็นระบบ สรุปก็ง่ายขยายความก็ชัด ขอนำมาบอกไว้เป็นตัวแทนของคำอื่นทั้งหมด และเป็นคำที่พระพุทธเจ้าทรงใช้เองบ่อยด้วย คำที่ว่านี้ คือ “ภาวิตัตต์” ซึ่งแปลได้ตรงตัวว่า “ผู้มีตนที่พัฒนาแล้ว” หรือ “ผู้ได้พัฒนาตนแล้ว” * เป็นคำที่ใช้แก่พระอรหันต์ทั้งหมด ทั้งพระพุทธเจ้าพระปัจเจกพุทธเจ้า และเหล่าพระอรหันตสาวก ดังในมหาปรินิพพานสูตร เล่าความระหว่างเสด็จสู่สถานที่ปรินิพพาน เรียกพระพุทธเจ้าว่าองค์พระภาวิตัตต์ ดังนี้ “พระพุทธเจ้า...เสด็จถึงแม่น้ำกกุธานที อันมีน้ำใส จืด สะอาดเสด็จลงทรงสรงและเสวยแล้ว อันหมู่ภิกษุแวดล้อม เสด็จไปในท่ามกลาง...เสด็จเข้าสู่อัมพวันแล้ว รับสั่งกะภิกษุนามจุนทกะว่า เธอจงช่วยปูผ้าสังฆาฏิซ้อนสี่ชั้น ให้เป็นที่เราจะนอน พระจุนทกะนั้น อันองค์พระภาวิตัตต์ ทรงเตือนแล้ว ได้ปูผ้าสังฆาฏิพับเป็นสี่ชั้นถวายโดยพลัน” * (ที.ม.10/125/157) แม้ที่เมตตคูมาณพทูลถามปัญหาก็ทำนองเดียวกันว่า “ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ข้าพระองค์ขอทูลถาม ขอจงตรัสบอกความนั้นแก่ข้าพระองค์เถิด ข้าพระองค์ย่อมสำคัญพระองค์ว่าทรงเป็นพระเวทคู ทรงเป็นพระภาวิตัตต์ (จึงขอทูลถามว่า) ประดาความทุกข์เหล่านี้ ที่ประดังพรั่งพรูขึ้นมาในโลก มากมายหลากหลาย เกิดมาจากไหนกันหนอ” * (ขุ.สุ.25/428/534. ในโสฬสปัญหา) .......... ที่อ้างอิง * * “ผู้มีตนที่พัฒนาแล้ว” หรือ “ผู้ได้พัฒนาตนแล้ว” จากคำบาลีว่า “ภาวิตตฺโต” = อตฺตานํ ภาเวตฺวา วฑฺเฒตฺวา ฐิโต (ภาวิตัตต์ หมายความว่า ผู้เจริญ คือได้พัฒนาตน ดำรงอยู่แล้ว) (สํ.อ.1/196) |
เจ้าของ: | Rosarin [ 02 ก.ย. 2018, 12:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ภาวะของผู้บรรลุนิพพาน |
![]() บรรพชาคือการสละหมดทั้งทรัพย์และญาติ ยังหวังอยากได้เงินเพิ่มบวชไม่ได้เลยนะคะ เพราะทำอุปนิสัยเดิมแบบก่อนบวชไม่ได้แล้ว ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 02 ก.ย. 2018, 18:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ภาวะของผู้บรรลุนิพพาน |
Rosarin เขียน: Kiss บรรพชาคือการสละหมดทั้งทรัพย์และญาติ ยังหวังอยากได้เงินเพิ่มบวชไม่ได้เลยนะคะ เพราะทำอุปนิสัยเดิมแบบก่อนบวชไม่ได้แล้ว ความคิดสำนักนี้ตกขอบโลกจริงๆ บอกให้ตอบตรงๆหลายเทื่อแล้วว่า ถ้าเขาบวช ๗ วัน ๑๕ วัน ๑ พรรษา ให้เขาสละทรัพย์สินเฮินทองเรือกสวนไร่นาตึกรามบ้านช่องหมดสิ้น พ้นจากนั้นสึกออกมาจะให้เขาไปอยู่ที่ไหน ให้เขากินอะไร คิกๆๆ ไม่ตอบ ได้แต่พร่ำย้ำคิดย้ำทำอยู่นั่น |
หน้า 1 จากทั้งหมด 3 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |