ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ภาวะแห่งนิพพาน
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=56459
หน้า 2 จากทั้งหมด 2

เจ้าของ:  Rosarin [ 30 ส.ค. 2018, 07:40 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ภาวะแห่งนิพพาน

กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ในเมื่อนิพพานเป็นสิ่งที่เห็นได้ยาก หยั่งรู้ตามได้ยาก เมื่อยังไม่เห็น ก็นึกไม่เห็น เมื่อยังไม่เข้าถึง ก็คิดไม่เข้าใจ ถ้อยคำที่ใช้บอกตรงๆและสัญญาที่จะใช้กำหนดก็ไม่มี ดังกล่าวมาฉะนี้ จึงน่าสังเกตว่า ในการกล่าวถึงนิพพาน ท่านจะพูดอย่างไร หรือใช้ถ้อยคำอย่างไร

ต่อที่

viewtopic.php?f=1&t=56450

:b12:
ดับกิเลสได้หมดก็ถึงแหละ
ก่อนอื่นต้องเข้าใจความจริง
ที่กายใจตนกำลังมีให้ได้ก่อนว่า
อะไรที่กำลังมีจริงๆเดี๋ยวนนี้เลยค่ะ
:b4: :b4:


แล้วอะไรล่ะทีมันมีจริงๆเดี๋ยวนี้น่าขอรับโผม :b32:

:b12:
ไม่มีตัวตนคนมีแต่จิตเกิดดับสืบต่อไม่ขาดสายแต่ละ1ประเภท
หลากหลายตามการสะสมไม่ซ้ำตรงทุกคำที่กำลังมีในพระไตรปิฎก
ที่ดับไปแล้วไม่กลับมาเกิดให้รู้อีกเลยเกิดจิตขณะใหม่ตลอดก็ไม่รู้เพราะขาดสุตมยปัญญา
:b32: :b32:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 30 ส.ค. 2018, 07:51 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ภาวะแห่งนิพพาน

Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ในเมื่อนิพพานเป็นสิ่งที่เห็นได้ยาก หยั่งรู้ตามได้ยาก เมื่อยังไม่เห็น ก็นึกไม่เห็น เมื่อยังไม่เข้าถึง ก็คิดไม่เข้าใจ ถ้อยคำที่ใช้บอกตรงๆและสัญญาที่จะใช้กำหนดก็ไม่มี ดังกล่าวมาฉะนี้ จึงน่าสังเกตว่า ในการกล่าวถึงนิพพาน ท่านจะพูดอย่างไร หรือใช้ถ้อยคำอย่างไร

ต่อที่

viewtopic.php?f=1&t=56450

:b12:
ดับกิเลสได้หมดก็ถึงแหละ
ก่อนอื่นต้องเข้าใจความจริง
ที่กายใจตนกำลังมีให้ได้ก่อนว่า
อะไรที่กำลังมีจริงๆเดี๋ยวนนี้เลยค่ะ
:b4: :b4:


แล้วอะไรล่ะทีมันมีจริงๆเดี๋ยวนี้น่าขอรับโผม :b32:

:b12:
ไม่มีตัวตนคนมีแต่จิตเกิดดับสืบต่อไม่ขาดสายแต่ละ1ประเภท
หลากหลายตามการสะสมไม่ซ้ำตรงทุกคำที่กำลังมีในพระไตรปิฎก
ที่ดับไปแล้วไม่กลับมาเกิดให้รู้อีกเลยเกิดจิตขณะใหม่ตลอดก็ไม่รู้เพราะขาดสุตมยปัญญา
:b32: :b32:



พูดอยู่หยกๆ ไม่ดูเออนี่

อ้างคำพูด:
บอกเลยว่ามโนอย่างแท้จริง
เพราะมโนไปอนาคตธรรม
ยกตัวอย่างเช่น
ให้รู้ว่าตนไม่ใช่คน สัตว์ สิ่งของ
สิ่งนี้เป็นอารมณ์ของพระอรหันต์
ให้ตนไปรู้รสนิพพาน
ตนไม่ได้พระอริยะจะไปรู้รสนิพพานไม่ได้
เป็นโสดาบันจึงจะรู้รสนิพพาน
เขาสอนเหมือนตนเป็นพระอรหันต์ไปแล้ว
คนที่ฟังก็มโนตาม แต่ปฏิบัติตามไม่ได้ เพราะต่างคนต่างมโนไป
ใครมีกามราคะมากก็มโนไปอีกทาง
ใครมีโทสะมากก็มโนไปอีกทาง
ใครที่โลภมากก็มโนไปอีกทาง
ใครโมหะมากก็มโนไปอีกทาง
การปฏิบัติสมาธิพร้อมเจริญสติปัฏฐาน
เป็นการแก้ไขการมโน แก้การฟุ้งซ่าน

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 30 ส.ค. 2018, 07:58 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ภาวะแห่งนิพพาน

เชื่อหัวไอ้เรืองเหอะ 7-8 ปีที่ฟังแม่สุจินพูดมา เสียเวลาเปล่า บอกไม่เชื่อว่า ให้เซ็ตซีโร่ความจำแต่เก่าก่อนออกให้หมดให้เกลี้ยงเลย แล้วไปเริ่มต้นใหม่ สร้างสัมมาทิฏฐิเบื้องต้นไปก่อน เช่น ตักบาตรพระเณรตอนเช้าๆ วันพระก็หาบสำรับกับข้าวไปวัดใกล้บ้าน สนทนาพูดคุยกับเจ้าอาวาส ทางวัดมีงานก็ไปช่วยขวนขวายวัดทำงานไป มีเวลาอีกก็ปิดทองงานประจำปี ให้อภัยทาน ปล่อยปลา ปล่อยนกเป็นต้นเอาก่อน เชื่อดิ :b12:

เจ้าของ:  Rosarin [ 31 ส.ค. 2018, 21:53 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ภาวะแห่งนิพพาน

กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ในเมื่อนิพพานเป็นสิ่งที่เห็นได้ยาก หยั่งรู้ตามได้ยาก เมื่อยังไม่เห็น ก็นึกไม่เห็น เมื่อยังไม่เข้าถึง ก็คิดไม่เข้าใจ ถ้อยคำที่ใช้บอกตรงๆและสัญญาที่จะใช้กำหนดก็ไม่มี ดังกล่าวมาฉะนี้ จึงน่าสังเกตว่า ในการกล่าวถึงนิพพาน ท่านจะพูดอย่างไร หรือใช้ถ้อยคำอย่างไร

ต่อที่

viewtopic.php?f=1&t=56450

:b12:
ดับกิเลสได้หมดก็ถึงแหละ
ก่อนอื่นต้องเข้าใจความจริง
ที่กายใจตนกำลังมีให้ได้ก่อนว่า
อะไรที่กำลังมีจริงๆเดี๋ยวนนี้เลยค่ะ
:b4: :b4:


แล้วอะไรล่ะทีมันมีจริงๆเดี๋ยวนี้น่าขอรับโผม :b32:

:b12:
ไม่มีตัวตนคนมีแต่จิตเกิดดับสืบต่อไม่ขาดสายแต่ละ1ประเภท
หลากหลายตามการสะสมไม่ซ้ำตรงทุกคำที่กำลังมีในพระไตรปิฎก
ที่ดับไปแล้วไม่กลับมาเกิดให้รู้อีกเลยเกิดจิตขณะใหม่ตลอดก็ไม่รู้เพราะขาดสุตมยปัญญา
:b32: :b32:



พูดอยู่หยกๆ ไม่ดูเออนี่

อ้างคำพูด:
บอกเลยว่ามโนอย่างแท้จริง
เพราะมโนไปอนาคตธรรม
ยกตัวอย่างเช่น
ให้รู้ว่าตนไม่ใช่คน สัตว์ สิ่งของ
สิ่งนี้เป็นอารมณ์ของพระอรหันต์
ให้ตนไปรู้รสนิพพาน
ตนไม่ได้พระอริยะจะไปรู้รสนิพพานไม่ได้
เป็นโสดาบันจึงจะรู้รสนิพพาน
เขาสอนเหมือนตนเป็นพระอรหันต์ไปแล้ว
คนที่ฟังก็มโนตาม แต่ปฏิบัติตามไม่ได้ เพราะต่างคนต่างมโนไป
ใครมีกามราคะมากก็มโนไปอีกทาง
ใครมีโทสะมากก็มโนไปอีกทาง
ใครที่โลภมากก็มโนไปอีกทาง
ใครโมหะมากก็มโนไปอีกทาง
การปฏิบัติสมาธิพร้อมเจริญสติปัฏฐาน
เป็นการแก้ไขการมโน แก้การฟุ้งซ่าน

rolleyes
เดี๋ยวนี้เลยคริคริคริเลือกเห็นที่กำลังเห็นได้หรือคะ
เลือกรับรู้แต่กลิ่นหอมๆไม่มีกลิ่นเหม็นเลยได้หรือคะ
เลือกได้ยินแต่เสียงไพเราะเสนาะหูโดยไม่ได้ยินเสียงด่ากันได้หรือ
จิตได้ยินทีละ1เสียงก็ดับคนทั้งตัวไม่มีตัวคนแล้วเดี๋ยวนี้เลยนับสิได้ยินกี่เสียง
อย่าลืมน๊า...จิตเกิดดับทีละ1ขณะได้แค่1ทางและทั้ง6ทางไม่ปนกันไม่พร้อมกัน
กุศลและอกุศลไม่ปนกันเป็นคนละขณะจิตถ้าไม่ฟังเพื่อรู้แยกทางกันจริงๆจะไปรู้อะไรได้คะดับหมดแล้ว
:b12:
:b17: :b17:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 01 ก.ย. 2018, 15:20 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ภาวะแห่งนิพพาน

Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ในเมื่อนิพพานเป็นสิ่งที่เห็นได้ยาก หยั่งรู้ตามได้ยาก เมื่อยังไม่เห็น ก็นึกไม่เห็น เมื่อยังไม่เข้าถึง ก็คิดไม่เข้าใจ ถ้อยคำที่ใช้บอกตรงๆและสัญญาที่จะใช้กำหนดก็ไม่มี ดังกล่าวมาฉะนี้ จึงน่าสังเกตว่า ในการกล่าวถึงนิพพาน ท่านจะพูดอย่างไร หรือใช้ถ้อยคำอย่างไร

ต่อที่

viewtopic.php?f=1&t=56450

:b12:
ดับกิเลสได้หมดก็ถึงแหละ
ก่อนอื่นต้องเข้าใจความจริง
ที่กายใจตนกำลังมีให้ได้ก่อนว่า
อะไรที่กำลังมีจริงๆเดี๋ยวนนี้เลยค่ะ
:b4: :b4:


แล้วอะไรล่ะทีมันมีจริงๆเดี๋ยวนี้น่าขอรับโผม :b32:

:b12:
ไม่มีตัวตนคนมีแต่จิตเกิดดับสืบต่อไม่ขาดสายแต่ละ1ประเภท
หลากหลายตามการสะสมไม่ซ้ำตรงทุกคำที่กำลังมีในพระไตรปิฎก
ที่ดับไปแล้วไม่กลับมาเกิดให้รู้อีกเลยเกิดจิตขณะใหม่ตลอดก็ไม่รู้เพราะขาดสุตมยปัญญา
:b32: :b32:



พูดอยู่หยกๆ ไม่ดูเออนี่

อ้างคำพูด:
บอกเลยว่ามโนอย่างแท้จริง
เพราะมโนไปอนาคตธรรม
ยกตัวอย่างเช่น
ให้รู้ว่าตนไม่ใช่คน สัตว์ สิ่งของ
สิ่งนี้เป็นอารมณ์ของพระอรหันต์
ให้ตนไปรู้รสนิพพาน
ตนไม่ได้พระอริยะจะไปรู้รสนิพพานไม่ได้
เป็นโสดาบันจึงจะรู้รสนิพพาน
เขาสอนเหมือนตนเป็นพระอรหันต์ไปแล้ว
คนที่ฟังก็มโนตาม แต่ปฏิบัติตามไม่ได้ เพราะต่างคนต่างมโนไป
ใครมีกามราคะมากก็มโนไปอีกทาง
ใครมีโทสะมากก็มโนไปอีกทาง
ใครที่โลภมากก็มโนไปอีกทาง
ใครโมหะมากก็มโนไปอีกทาง
การปฏิบัติสมาธิพร้อมเจริญสติปัฏฐาน
เป็นการแก้ไขการมโน แก้การฟุ้งซ่าน

rolleyes
เดี๋ยวนี้เลยคริคริคริเลือกเห็นที่กำลังเห็นได้หรือคะ
เลือกรับรู้แต่กลิ่นหอมๆไม่มีกลิ่นเหม็นเลยได้หรือคะ
เลือกได้ยินแต่เสียงไพเราะเสนาะหูโดยไม่ได้ยินเสียงด่ากันได้หรือ
จิตได้ยินทีละ1เสียงก็ดับคนทั้งตัวไม่มีตัวคนแล้วเดี๋ยวนี้เลยนับสิได้ยินกี่เสียง
อย่าลืมน๊า...จิตเกิดดับทีละ1ขณะได้แค่1ทางและทั้ง6ทางไม่ปนกันไม่พร้อมกัน
กุศลและอกุศลไม่ปนกันเป็นคนละขณะจิตถ้าไม่ฟังเพื่อรู้แยกทางกันจริงๆจะไปรู้อะไรได้คะดับหมดแล้ว


หลงได้ใจจริงๆ ยิ่งกว่าหลงถ้ำอีก คิกๆๆ

เจ้าของ:  Rosarin [ 02 ก.ย. 2018, 00:06 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ภาวะแห่งนิพพาน

กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ในเมื่อนิพพานเป็นสิ่งที่เห็นได้ยาก หยั่งรู้ตามได้ยาก เมื่อยังไม่เห็น ก็นึกไม่เห็น เมื่อยังไม่เข้าถึง ก็คิดไม่เข้าใจ ถ้อยคำที่ใช้บอกตรงๆและสัญญาที่จะใช้กำหนดก็ไม่มี ดังกล่าวมาฉะนี้ จึงน่าสังเกตว่า ในการกล่าวถึงนิพพาน ท่านจะพูดอย่างไร หรือใช้ถ้อยคำอย่างไร

ต่อที่

viewtopic.php?f=1&t=56450

:b12:
ดับกิเลสได้หมดก็ถึงแหละ
ก่อนอื่นต้องเข้าใจความจริง
ที่กายใจตนกำลังมีให้ได้ก่อนว่า
อะไรที่กำลังมีจริงๆเดี๋ยวนนี้เลยค่ะ
:b4: :b4:


แล้วอะไรล่ะทีมันมีจริงๆเดี๋ยวนี้น่าขอรับโผม :b32:

:b12:
ไม่มีตัวตนคนมีแต่จิตเกิดดับสืบต่อไม่ขาดสายแต่ละ1ประเภท
หลากหลายตามการสะสมไม่ซ้ำตรงทุกคำที่กำลังมีในพระไตรปิฎก
ที่ดับไปแล้วไม่กลับมาเกิดให้รู้อีกเลยเกิดจิตขณะใหม่ตลอดก็ไม่รู้เพราะขาดสุตมยปัญญา
:b32: :b32:



พูดอยู่หยกๆ ไม่ดูเออนี่

อ้างคำพูด:
บอกเลยว่ามโนอย่างแท้จริง
เพราะมโนไปอนาคตธรรม
ยกตัวอย่างเช่น
ให้รู้ว่าตนไม่ใช่คน สัตว์ สิ่งของ
สิ่งนี้เป็นอารมณ์ของพระอรหันต์
ให้ตนไปรู้รสนิพพาน
ตนไม่ได้พระอริยะจะไปรู้รสนิพพานไม่ได้
เป็นโสดาบันจึงจะรู้รสนิพพาน
เขาสอนเหมือนตนเป็นพระอรหันต์ไปแล้ว
คนที่ฟังก็มโนตาม แต่ปฏิบัติตามไม่ได้ เพราะต่างคนต่างมโนไป
ใครมีกามราคะมากก็มโนไปอีกทาง
ใครมีโทสะมากก็มโนไปอีกทาง
ใครที่โลภมากก็มโนไปอีกทาง
ใครโมหะมากก็มโนไปอีกทาง
การปฏิบัติสมาธิพร้อมเจริญสติปัฏฐาน
เป็นการแก้ไขการมโน แก้การฟุ้งซ่าน

rolleyes
เดี๋ยวนี้เลยคริคริคริเลือกเห็นที่กำลังเห็นได้หรือคะ
เลือกรับรู้แต่กลิ่นหอมๆไม่มีกลิ่นเหม็นเลยได้หรือคะ
เลือกได้ยินแต่เสียงไพเราะเสนาะหูโดยไม่ได้ยินเสียงด่ากันได้หรือ
จิตได้ยินทีละ1เสียงก็ดับคนทั้งตัวไม่มีตัวคนแล้วเดี๋ยวนี้เลยนับสิได้ยินกี่เสียง
อย่าลืมน๊า...จิตเกิดดับทีละ1ขณะได้แค่1ทางและทั้ง6ทางไม่ปนกันไม่พร้อมกัน
กุศลและอกุศลไม่ปนกันเป็นคนละขณะจิตถ้าไม่ฟังเพื่อรู้แยกทางกันจริงๆจะไปรู้อะไรได้คะดับหมดแล้ว


หลงได้ใจจริงๆ ยิ่งกว่าหลงถ้ำอีก คิกๆๆ

Kiss
:b32:
เวลาหอมกะเหม็นเป็นกิเลสทั้งคู่เลยอุดจมูกเวลาเหม็นคริคริคริมีตัวตนทันทีที่กั้นลมหายใจ
หรือเอามืออุดจมูกเพราะมีวิภวตัณหาไม่อยากได้กลิ่นเหม็นที่ไม่น่าพอใจมีโทสะ+โมหะ
และมีภวตัณหาอยากได้แต่กลิ่นหอมดีๆมีโลภะ+โมหะหนีไม่พ้นกิเลสในชีวิตประจำวัน
เวลาได้กลิ่นเนี่ยมันหอมทันทีแล้วก็เหม็นทันทีไม่ใช่หรือคะเอากิเลสออกไปตอนไหนคะ
แสวงหานายช่างผู้สร้างเรือนไปไหมไปตลาดร้านค้าเพื่อซื้อน้ำหอมที่ชอบใจมีกามตัณหา
ทุกคำในพระไตรปิฎกคือปัจจุบันธรรมตรงขณะก่อนดับไม่มีใครรู้ความจริงนอกจากพระสุคต
ตถาคตตรัสรู้ความจริงที่ไม่มีใครรู้ได้นอกจากฟังแล้วไตร่ตรองจนเห็นโทษของความไม่รู้จึงมีศรัทธาที่จะฟัง
https://youtu.be/vbXP_lKScnw
:b8:
onion onion onion

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 02 ก.ย. 2018, 18:02 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ภาวะแห่งนิพพาน

Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ในเมื่อนิพพานเป็นสิ่งที่เห็นได้ยาก หยั่งรู้ตามได้ยาก เมื่อยังไม่เห็น ก็นึกไม่เห็น เมื่อยังไม่เข้าถึง ก็คิดไม่เข้าใจ ถ้อยคำที่ใช้บอกตรงๆและสัญญาที่จะใช้กำหนดก็ไม่มี ดังกล่าวมาฉะนี้ จึงน่าสังเกตว่า ในการกล่าวถึงนิพพาน ท่านจะพูดอย่างไร หรือใช้ถ้อยคำอย่างไร

ต่อที่

viewtopic.php?f=1&t=56450

:b12:
ดับกิเลสได้หมดก็ถึงแหละ
ก่อนอื่นต้องเข้าใจความจริง
ที่กายใจตนกำลังมีให้ได้ก่อนว่า
อะไรที่กำลังมีจริงๆเดี๋ยวนนี้เลยค่ะ
:b4: :b4:


แล้วอะไรล่ะทีมันมีจริงๆเดี๋ยวนี้น่าขอรับโผม :b32:

:b12:
ไม่มีตัวตนคนมีแต่จิตเกิดดับสืบต่อไม่ขาดสายแต่ละ1ประเภท
หลากหลายตามการสะสมไม่ซ้ำตรงทุกคำที่กำลังมีในพระไตรปิฎก
ที่ดับไปแล้วไม่กลับมาเกิดให้รู้อีกเลยเกิดจิตขณะใหม่ตลอดก็ไม่รู้เพราะขาดสุตมยปัญญา
:b32: :b32:



พูดอยู่หยกๆ ไม่ดูเออนี่

อ้างคำพูด:
บอกเลยว่ามโนอย่างแท้จริง
เพราะมโนไปอนาคตธรรม
ยกตัวอย่างเช่น
ให้รู้ว่าตนไม่ใช่คน สัตว์ สิ่งของ
สิ่งนี้เป็นอารมณ์ของพระอรหันต์
ให้ตนไปรู้รสนิพพาน
ตนไม่ได้พระอริยะจะไปรู้รสนิพพานไม่ได้
เป็นโสดาบันจึงจะรู้รสนิพพาน
เขาสอนเหมือนตนเป็นพระอรหันต์ไปแล้ว
คนที่ฟังก็มโนตาม แต่ปฏิบัติตามไม่ได้ เพราะต่างคนต่างมโนไป
ใครมีกามราคะมากก็มโนไปอีกทาง
ใครมีโทสะมากก็มโนไปอีกทาง
ใครที่โลภมากก็มโนไปอีกทาง
ใครโมหะมากก็มโนไปอีกทาง
การปฏิบัติสมาธิพร้อมเจริญสติปัฏฐาน
เป็นการแก้ไขการมโน แก้การฟุ้งซ่าน

rolleyes
เดี๋ยวนี้เลยคริคริคริเลือกเห็นที่กำลังเห็นได้หรือคะ
เลือกรับรู้แต่กลิ่นหอมๆไม่มีกลิ่นเหม็นเลยได้หรือคะ
เลือกได้ยินแต่เสียงไพเราะเสนาะหูโดยไม่ได้ยินเสียงด่ากันได้หรือ
จิตได้ยินทีละ1เสียงก็ดับคนทั้งตัวไม่มีตัวคนแล้วเดี๋ยวนี้เลยนับสิได้ยินกี่เสียง
อย่าลืมน๊า...จิตเกิดดับทีละ1ขณะได้แค่1ทางและทั้ง6ทางไม่ปนกันไม่พร้อมกัน
กุศลและอกุศลไม่ปนกันเป็นคนละขณะจิตถ้าไม่ฟังเพื่อรู้แยกทางกันจริงๆจะไปรู้อะไรได้คะดับหมดแล้ว


หลงได้ใจจริงๆ ยิ่งกว่าหลงถ้ำอีก คิกๆๆ

Kiss
:b32:
เวลาหอมกะเหม็นเป็นกิเลสทั้งคู่เลยอุดจมูกเวลาเหม็นคริคริคริมีตัวตนทันทีที่กั้นลมหายใจ
หรือเอามืออุดจมูกเพราะมีวิภวตัณหาไม่อยากได้กลิ่นเหม็นที่ไม่น่าพอใจมีโทสะ+โมหะ
และมีภวตัณหาอยากได้แต่กลิ่นหอมดีๆมีโลภะ+โมหะหนีไม่พ้นกิเลสในชีวิตประจำวัน
เวลาได้กลิ่นเนี่ยมันหอมทันทีแล้วก็เหม็นทันทีไม่ใช่หรือคะเอากิเลสออกไปตอนไหนคะ
แสวงหานายช่างผู้สร้างเรือนไปไหมไปตลาดร้านค้าเพื่อซื้อน้ำหอมที่ชอบใจมีกามตัณหา
ทุกคำในพระไตรปิฎกคือปัจจุบันธรรมตรงขณะก่อนดับไม่มีใครรู้ความจริงนอกจากพระสุคต
ตถาคตตรัสรู้ความจริงที่ไม่มีใครรู้ได้นอกจากฟังแล้วไตร่ตรองจนเห็นโทษของความไม่รู้จึงมีศรัทธาที่จะฟัง
https://youtu.be/vbXP_lKScnw
:b8:
onion onion onion



เลอะเทอะได้ใจไอ้เรืองจริงๆ :b13: ไม่ได้มีอะไรเลย

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 14 มิ.ย. 2020, 09:24 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ภาวะแห่งนิพพาน

อ้างคำพูด:
สิ้นแล้ว! หลวงปู่สุข โกวิโท เทพเจ้าแดนอีสานใต้ น้อมกราบสู่พระนิพพาน



https://www.onbnews.today/post/pd/30605 ... krwiVcB2MI

นิพพานแนวตายแล้วไปสู่นิพพาน กล่าวคือ เป็นสถานที่แห่งหนึ่งนั้น เป็นนิพพานแนวมหายาน

หน้า 2 จากทั้งหมด 2 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/