วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 07:16  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 53 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2018, 20:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


ตามหัวข้อที่เราเขียน น่ะคะ !! เพื่อนๆ ในเว๊บนี้ ที่คุยๆ อยู่กับเราทุกๆคน
ก้อรู้นะคะ ว่า เรานั่งสมาธิ ได้ ก้อมาจาก คำแนะนำ ของหลายๆคน ที่ในเว๊บนี้ !!
แต่ ทีนี้ ตอนนี้ เราไม่เข้าใจ ตรงจุดนี้ค่ะ !!
คือเพื่อน ของเราที่กรุงเทพ ฯ เค้าไปเรียน การนั่งสมาธิ
แล้วเค้า ก้อมาคุยกับเรา !! เราบอกว่า !!นั่งสมาธิแล้วติดสุขนะ !!
( คือ เรา หมายถึงพอจิต เป็นสมาธิแล้ว ก็ปล่อยให้จิตว่างอยู่อย่างนั้น !ไม่อยากออกจากสมาธิ พอเจอปัญหาอะไร
ก้อพยายามที่จะทำให้จิต ว่าง เป็นสมาธิ )
เพื่อน ของเราบอกว่า ! " การนั่งสมาธิ แบบเธอ อาจารย์บอกว่า
เป็นการนั่งสมาธิ ที่ผิด "( เรางง ) เค้าบอกว่า
ถ้านั่งสมาธิแล้ว พอจิตว่าง ต้อง ......( เราลืม ว่านางพูดว่าอะไร)
เราถามนาง นางก้อยังไม่ค่อย เข้าใจ เพราะตอนนี้ นางยังนั่งสมาธิ
ไม่ค่อยได้ !! คือนางพูด เหมือนมีคำว่า ญาน !!
ตรงนี้ เราไม่เข้าใจ ค่ะ !! คือนาง บอกว่า พอจิตนิ่ง
จนเป็นสมาธิแล้ว ต้องทำอย่างไงต่อเหรอคะ !!
นางบอกว่า ถ้าปล่อยให้จิตนิ่งตลอด อาจารย์ ของนาง
บอกว่า เป็นการนั่งสมาธิ ที่ผิดค่ะ !! ขอคำแนะนำ
จากท่านผู้รู้ ตรงจุดนี้ ด้วยคะ !!


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2018, 20:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สติปัฏฐานในฐานะสัมมาสติ

สติปัฏฐาน แปลว่า ที่ตั้งของสติบ้าง การที่สติเข้าไปตั้งอยู่ คือมีสติกำกับอยู่บ้าง ฯลฯ ว่าโดยหลักการก็ คือ การใช้สติ หรือวิธีปฏิบัติเพื่อใช้สติให้บังเกิดผลดีที่สุด ดังความแห่งพุทธพจน์ในมหาสติปัฏฐานสูตรว่า

"ภิกษุทั้งหลาย ทางนี้เป็นมรรคาเอก เพื่อความบริสุทธิ์ของสัตว์ทั้งหลาย เพื่อข้ามพ้นโสกะ และปริเทวะ เพื่อความอัสดงแห่งทุกข์และโทมนัส เพื่อบรรลุโลกุตรมรรค เพื่อกระทำให้แจ้ง ซึ่งนิพพาน นี้คือสติปัฏฐาน ๔" (ที.ม.10/273/245 ฯลฯ)

การเจริญสติปัฏฐาน ๔ นี้ เป็นวิธีปฏิบัติธรรมที่นิยมกันมาก และยกย่องนับถือกันอย่างสูง ถือว่ามีพร้อมทั้งสมถะและวิปัสสนาในตัว ผู้ปฏิบัติอาจเจริญสมถะจนได้ฌาน อย่างที่จะกล่าวถึงในเรื่องสัมมาสมาธิอันเป็นองค์มรรคข้อที่ ๘ ก่อนแล้ว จึงเจริญวิปัสสนาตามแนวสติปัฏฐานไปจนถึงที่สุดก็ได้ หรือจะอาศัยสมาธิเพียงขั้นต้นๆ เท่าที่จำเป็นมาประกอบ เจริญวิปัสสนาเป็นตัวนำตามแนวสติปัฏฐานนี้ ไปจนถึงที่สุดก็ได้

(ไม่ใช่ไปทำทีละอย่างๆนะ ไม่ใช่ ไม่ใช่ เรานั่งดูลมหายใจเข้า-ออกอยู่ก็ดี, นั่งกำหนดดูรู้ทัน อาการพอง อาการยุบของท้อง เป็นต้นก็ดี นี่หลัก สติปัฏฐาน ๔ คือ กาย เวทนา จิต ธรรม เข้าหมด อะไรเกิดกำหนดรู้ไป )

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2018, 20:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จะวางทั้งหลัก ทั้งประสบการณ์จาการปฏิบัติให้คุณเต้พินาก่อน นี่ตัวอย่างหนึ่ง

อ้างคำพูด:
แฟนเป็นคนที่เสเพลมาก กินเหล้า แบบว่าไม่ได้เรื่องน่ะค่ะ

แต่มีหมอดูหลายท่านทักว่าถ้าแฟนได้ศึกษาธรรมะอย่างจริงจังจะบวชไม่สึกตลอดชีวิต

ตอนแรกดิฉันคบกับแฟนก็ไม่ทราบหรอกนะคะว่ามีหมอดูเคยทักไว้กับพ่อแม่แฟน

ดิฉันเป็นคนชอบทำบุญทำทาน นั่งสมาธิและสวดมนต์ แฟน ก็ทำตามดิฉันเพราะดิฉันบังคับแรกๆเมื่อไม่กี่วันนี้พาแฟนไปนั่งสมาธิมา (แบบยุบหนอพองหนอ) แค่ไม่กี่ชั่วโมง แฟนดิฉันก็ผิดปกติไปค่ะ

เค้าตื่นมาจากสมาธิ เค้าถามดิฉันว่า รู้สึกถึงลมหายใจที่ชัดเห็นเค้ารู้สึกว่าส่วนท้องเค้ามันยุบลงไปแค่ไหนอย่างไรเวลาหายใจเข้าออก เวลาเดินจงกรม เค้ารู้สึกถึงเท้าที่ย่ำลงพื้นว่าส่วนไหนที่กระทบพื้นชัดเจน

เค้าถามดิฉันว่ามันคืออะไร ดิฉันได้แต่นั่ง ไม่เคยเป็นแบบนี้เลยค่ะ

กลับมาจากวัดเค้าพูดว่า เค้าสดชื่น จับพวงมาลัยรถรู้ว่า มือเค้าจับพวงมาลัย รู้สึกชัดเจนมากๆ มีสติ
เค้าบอกเค้าเข้าใจถึงคำว่า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานว่ามันมีจริงๆ เหมือนคนใส่เเว่นมัวๆมาแล้วเช็ดจนมันใสชัดเจน

เค้าพูดแต่เรื่องนั่งสมาธิ กลับมาเค้าไม่ดื่มเหล้า สวดมนต์ นั่งสมาธิ ยิ้ม ใจเย็นและดูจะอิ่มบุญมากมาหลายวันแล้วค่ะ

ดิฉันดีใจค่ะที่เค้าเป็นแบบนี้ เค้าบอกเค้ากลัวที่ไปสูบบุหรี่ หรือ กินเหล้าอีกความรู้สึกแบบนี้จะหายไป
เค้ากำลังเข้าถึงสมาธิใช่ไหมคะ ดิฉันจะพาเค้าไปนั่งบ่อยๆเค้าจะได้เป็นคนดี

ดิฉันอยากนั่งได้แบบเค้าจังเลยค่ะ ทำมาตั้งนานก็ยังไม่เป็นเหมือนเค้า เค้านั่งแป๊บเดียวเองไม่เคยสนใจเรื่องนี้ด้วย
มันน่าน้อยใจนัก!!

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2018, 20:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


รายละเอียดที่เล่าให้ฟังนั้นยังไม่เข้าใจครับ
งั้นขอถามต่อนะครับ ขณะที่นั่งทำสมาธิใช้อะไรเป็นอารมณ์
หรือใช้อะไรเป็นการบริกรรมเป็นองค์ภาวนา
แล้วเข้าถึงองค์ฌานหรือยัง หรือเพียงแค่นึกเอาเอง

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2018, 20:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้าว ตั้งกระทู้ใหม่

ดูแบบก่อน นี่ก็สุข

อ้างคำพูด:
หลังจากนั้นมีวันหนึ่ง ผมเกิดนึกอยากนั่งสมาธิขึ้นมา ผมก็เลยนั่งสมาธิกำหนดลมหายใจ

ในการนั่งสมาธิครั้งนี้ผมสามารถรับรู้ลมหายใจได้ตลอดสายเป็นเวลานาน แต่ผมก็คิดว่าเวลาจิตเราสงบมากแล้ว แต่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้ายังไงเราลองเปลี่ยนวิธีกำหนดดูดีกว่าผมเลยเปลี่ยนวิธีกำหนดในใจเป็นสมถแบบอัปปมัญญา ๔

แล้วกำหนดคำบริกรรมในใจแผ่เมตตาให้สัตว์ทั้งหลายไม่มีประมาณในทิศเบื้องหน้า จากนั้นก็เบื้องหลัง จากนั้นก็เบื้องบน เบื้องล่าง เบื้องซ้าย ฯลฯ

เวลานี้รู้สึกว่าความรู้สึกของเราเหมือนจุ่มอยู่ในปิติ มีแต่ความสุขไปหมด จากนั้นผมก็คิดขึ้นมาว่า

"มีความสุขขนาดนี้ในโลกด้วยหรือ ความสุขนี้ดีกว่าความสุขในโลกที่เราเคยพบมาทั้งหมด โอ ความสุขนี้แค่นั่งก็ได้แล้ว คนทั้งโลก มัวแต่วุ่นวายทำอะไรกันอยู่ บางคนทำทุจริตต่างๆเพื่อหาเงินมาสนองความสุขตน ทำไปทำไมนะ มันเทียบกับความสุขที่เกิดจากความสงบนี้ไม่ได้เลย ความสุขนี้ไม่ต้องไขว่คว้ามาก อยู่กับตัวเองแท้ๆ คนในโลกกลับไม่รู้"

จากนั้นผมก็สังเกตลมหายใจก็รู้สึกว่าลมหายใจตอนนี้มันละเอียดมาก ถึงค่อยเข้าใจคำว่าลมหายใจหยาบลมหายใจละเอียดว่าเป็นยังไง ก่อนหน้านี้เข้าใจว่าคือลมหายใจแรงๆเบาๆซะอีก :)

ความรู้สึกจากการเกิดสมาธิครั้งแรกนี้มันเหมือนจุ่มค้างอยู่ปิติ แต่ไม่เห็นนิมิตอะไรทั้งสิ้น แต่รู้สึกจิตเวลานี้ไม่มีนิวรณ์เลย คือมีความรู้พร้อมอยู่

จากนั้นผมก็รู้สึกยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วคิดไปเรื่อยว่า "นี่คือปฐมฌานหรือเปล่านี่ ปฐมฌานเกิดกับเราหรือ"

จนจิตเริ่มไม่เป็นสมาธิ เริ่มปั่นป่วน หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงห้องข้างๆตะโกนเสียงดัง (คาดว่าน่าจะดูบอล) ผมก็เลยหลุดออกมาจากสภาวะนั้น

http://larndham.org/index.php?/topic/27 ... ntry393770


มันเป็นธรรมดามากๆๆ เมือจิตสงบความสุขก็มา อิอิ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2018, 20:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
ตามหัวข้อที่เราเขียน น่ะคะ !! เพื่อนๆ ในเว๊บนี้ ที่คุยๆ อยู่กับเราทุกๆคน
ก้อรู้นะคะ ว่า เรานั่งสมาธิ ได้ ก้อมาจาก คำแนะนำ ของหลายๆคน ที่ในเว๊บนี้ !!
แต่ ทีนี้ ตอนนี้ เราไม่เข้าใจ ตรงจุดนี้ค่ะ !!
คือเพื่อน ของเราที่กรุงเทพ ฯ เค้าไปเรียน การนั่งสมาธิ
แล้วเค้า ก้อมาคุยกับเรา !! เราบอกว่า !!นั่งสมาธิแล้วติดสุขนะ !!

( คือ เรา หมายถึงพอจิต เป็นสมาธิแล้ว ก็ปล่อยให้จิตว่างอยู่อย่างนั้น !ไม่อยากออกจากสมาธิ พอเจอปัญหาอะไรก้อพยายามที่จะทำให้จิต ว่าง เป็นสมาธิ )

เพื่อน ของเราบอกว่า ! " การนั่งสมาธิ แบบเธอ อาจารย์บอกว่า
เป็นการนั่งสมาธิ ที่ผิด "( เรางง ) เค้าบอกว่า
ถ้านั่งสมาธิแล้ว พอจิตว่าง ต้อง ......( เราลืม ว่านางพูดว่าอะไร)
เราถามนาง นางก้อยังไม่ค่อย เข้าใจ เพราะตอนนี้ นางยังนั่งสมาธิ
ไม่ค่อยได้ !! คือนางพูด เหมือนมีคำว่า ญาน !!
ตรงนี้ เราไม่เข้าใจ ค่ะ !! คือนาง บอกว่า พอจิตนิ่ง
จนเป็นสมาธิแล้ว ต้องทำอย่างไงต่อเหรอคะ !!
นางบอกว่า ถ้าปล่อยให้จิตนิ่งตลอด อาจารย์ ของนาง
บอกว่า เป็นการนั่งสมาธิ ที่ผิดค่ะ !! ขอคำแนะนำ
จากท่านผู้รู้ ตรงจุดนี้ ด้วยคะ !!


ปัญหาจากคนทีอยู่ร่วมกันใช่ไหมครับ

อย่างว่า เมื่อจิตสงบก็มีความสุข เมื่อสุขแล้วว่าติดสุข พอเจอะปัญหา (ปัญหาอะไรบอกชัดๆ) จะทำให้จิตว่างเป็นสมาธิ (คือจะหลบปัญหาใช่ไหมหรือยังไง) ตรงความสุขว่าติดสุข ไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตอะไร พึงคิดเสียว่า ติดสุขดีกว่าไม่มีสุขให้ติด คิกๆๆ แต่ที่แน่ๆถ้าอยากไปต่อก็ให้กำหนด คือ ว่าในใจ สุขหนอๆๆๆ แล้วจะไม่ติด แค่นี้ก่อน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2018, 20:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
ตามหัวข้อที่เราเขียน น่ะคะ !! เพื่อนๆ ในเว๊บนี้ ที่คุยๆ อยู่กับเราทุกๆคน
ก้อรู้นะคะ ว่า เรานั่งสมาธิ ได้ ก้อมาจาก คำแนะนำ ของหลายๆคน ที่ในเว๊บนี้ !!
แต่ ทีนี้ ตอนนี้ เราไม่เข้าใจ ตรงจุดนี้ค่ะ !!
คือเพื่อน ของเราที่กรุงเทพ ฯ เค้าไปเรียน การนั่งสมาธิ
แล้วเค้า ก้อมาคุยกับเรา !! เราบอกว่า !!นั่งสมาธิแล้วติดสุขนะ !!
( คือ เรา หมายถึงพอจิต เป็นสมาธิแล้ว ก็ปล่อยให้จิตว่างอยู่อย่างนั้น !ไม่อยากออกจากสมาธิ พอเจอปัญหาอะไร
ก้อพยายามที่จะทำให้จิต ว่าง เป็นสมาธิ )
เพื่อน ของเราบอกว่า ! " การนั่งสมาธิ แบบเธอ อาจารย์บอกว่า
เป็นการนั่งสมาธิ ที่ผิด "( เรางง ) เค้าบอกว่า
ถ้านั่งสมาธิแล้ว พอจิตว่าง ต้อง ......( เราลืม ว่านางพูดว่าอะไร)
เราถามนาง นางก้อยังไม่ค่อย เข้าใจ เพราะตอนนี้ นางยังนั่งสมาธิ
ไม่ค่อยได้ !! คือนางพูด เหมือนมีคำว่า ญาน !!
ตรงนี้ เราไม่เข้าใจ ค่ะ !! คือนาง บอกว่า พอจิตนิ่ง
จนเป็นสมาธิแล้ว ต้องทำอย่างไงต่อเหรอคะ !!
นางบอกว่า ถ้าปล่อยให้จิตนิ่งตลอด อาจารย์ ของนาง
บอกว่า เป็นการนั่งสมาธิ ที่ผิดค่ะ !! ขอคำแนะนำ
จากท่านผู้รู้ ตรงจุดนี้ ด้วยคะ !!


สมาธิอยู่ที่จิตค่ะ
ไม่ใช่อยู่ที่อิริยาบท
คนเป็นๆ แม้นแต่คนพิการ ก็ไม่ได้นั่งอยู่ตลอดเวลา

การทำจิตให้นิ่ง ว่าง
ก็สามารถทำให้ดิ่งลงไป อย่างสภาพว่างเฉย ไม่รู้ไม่ชี้ ได้เหมือนกัน

ธรรมชาติของจิต วิจิตร มีมากกว่าว่างเฉยๆค่ะ
ป่วยการที่จะไปฝืนไปบังคับธรรมชาติของจิต
แม้ว่าจะพยายามสักแสนกัปป ก็ไม่อาจทำให้ธรรมชาติของจิตที่วิจิตร เหลือแต่นิ่งว่างได้ค่ะ

มีแต่การปลุกธรรมธรรมชาติ ที่รู้และไม่หลงในอวิชชา ของจิต ที่ไม่เคยมีมาก่อน ให้ปรากฎชึ้น
นั่นแหละค่ะ คือศีล สมาธิ และปัญญาค่ะ






โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2018, 20:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
คุณ ลุงสมาน เขียน

รายละเอียดที่เล่าให้ฟังนั้นยังไม่เข้าใจครับ
งั้นขอถามต่อนะครับ ขณะที่นั่งทำสมาธิใช้อะไรเป็นอารมณ์
หรือใช้อะไรเป็นการบริกรรมเป็นองค์ภาวนา
แล้วเข้าถึงองค์ฌานหรือยัง หรือเพียงแค่นึกเอาเอง


จะใช้ คำ บริกรรม คำว่า พุท - โธ ค่ะ จิต จับ ที่ลมหายใจ
เข้า- ออก !! พอบริกรรม ไปเรื่อยๆ คำว่า พุท - โธ จะเริ่ม
ค่อยๆ หายไป ทุกสิ่งทุกอย่าง จะเหมือนมีแต่ความว่างค่ะ!!
แต่จิต ก้อยังจับ ที่ ลมหายใจ เข้าออกตลอด
( แต่ตรงนี้ เหมือนเป็น บางครั้ง ที่รู้ค่ะ )
เพื่อน บอกว่า จิตเข้าสู่ญาน ( รู้สึกว่า นางจะใช้คำพูด คำนี้ ค่ะ )
นางบอกว่า อาจารย์ มีบอกว่า พอจิต เข้าสู่ ญาน .....
( คือตัว ของนางเอง นางยังไม่ค่อยเข้าใจค่ะ )
คือพอ จิตนิ่ง แล้วทำยังไงต่อค่ะ !!
ตอนนี้ ก้อเลยใช้วิธี คือพอคำบริกรรม หลุด ก้อใช้วิธี
เอาจิต ไปจับ ที่ลม หายใจ เข้า - ออกค่ะ !!
แต่ บางครั้ง เหมือน เป็นการฝืนๆ ค่ะ !! ก้อเลย คิดว่า
คงไม่ใช่ค่ะ !! ขอคำแนะนำด้วยค่ะ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2018, 21:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ โลกสวยเ ขียน

อ้างคำพูด:
การทำจิตให้นิ่ง ว่าง
ก็สามารถทำให้ดิ่งลงไป อย่างสภาพว่างเฉย ไม่รู้ไม่ชี้ ได้เหมือนกัน


ใช่ค่ะ !เราใช้วิธีนี้ ทุกครั้ง ที่เรา มีความรู้สึกว่า
จิตของเรา เข้าสู่ ภาวะ ของความฟุ้งซ่าน !!
แต่ไม่ถึงกับ วาง เฉย ไม่รู้ไม่ชี้ !!
คือ ให้จิต เป็นสมาธิ เพื่อดับความฟุ้งซ่าน !!
เราทำบ่อยค่ะ !! จิต ของเราก้อเลย เข้าสู่ความนิ่ง
ได้ง่ายค่ะ ! เราก้อเลย มีความรู้สึกว่า
อาจจะ เป็นเพราะ เรานั่งสมาธิ บ่อย เลย
เป็นคน ติดสุขค่ะ !!


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2018, 21:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
อ้างคำพูด:
คุณ ลุงสมาน เขียน

รายละเอียดที่เล่าให้ฟังนั้นยังไม่เข้าใจครับ
งั้นขอถามต่อนะครับ ขณะที่นั่งทำสมาธิใช้อะไรเป็นอารมณ์
หรือใช้อะไรเป็นการบริกรรมเป็นองค์ภาวนา
แล้วเข้าถึงองค์ฌานหรือยัง หรือเพียงแค่นึกเอาเอง


จะใช้ คำ บริกรรม คำว่า พุท - โธ ค่ะ จิต จับ ที่ลมหายใจ
เข้า- ออก !! พอบริกรรม ไปเรื่อยๆ คำว่า พุท - โธ จะเริ่ม
ค่อยๆ หายไป ทุกสิ่งทุกอย่าง จะเหมือนมีแต่ความว่างค่ะ!!
แต่จิต ก้อยังจับ ที่ ลมหายใจ เข้าออกตลอด
( แต่ตรงนี้ เหมือนเป็น บางครั้ง ที่รู้ค่ะ )
เพื่อน บอกว่า จิตเข้าสู่ญาน ( รู้สึกว่า นางจะใช้คำพูด คำนี้ ค่ะ )
นางบอกว่า อาจารย์ มีบอกว่า พอจิต เข้าสู่ ญาน .....
( คือตัว ของนางเอง นางยังไม่ค่อยเข้าใจค่ะ )
คือพอ จิตนิ่ง แล้วทำยังไงต่อค่ะ !!
ตอนนี้ ก้อเลยใช้วิธี คือพอคำบริกรรม หลุด ก้อใช้วิธี
เอาจิต ไปจับ ที่ลม หายใจ เข้า - ออกค่ะ !!
แต่ บางครั้ง เหมือน เป็นการฝืนๆ ค่ะ
!! ก้อเลย คิดว่า
คงไม่ใช่ค่ะ !! ขอคำแนะนำด้วยค่ะ :b8:


ไม่ใช่ญาณแยนอะไรหรอกครับ ถ้าเป็นญาณ (ปัญญา) จะรู้จักวิธีแก้ปัญหา เข้าใจปัญหาแล้ว

อ้อ ใช้ พุท-โธ หายใจเข้าว่า พุท หายใจออก ว่าโธ อย่างนี้แบบนี้อย่างเดียวเลย ไม่ภาวนาอย่างอื่นเลยนะครับนะ ดังนั้นจะต้องปรับแก้นิดหน่อย เพื่อให้ไปได้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2018, 21:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ กรัชกาย เขียน
อ้างคำพูด:
ไม่ใช่ญาณแยนอะไรหรอกครับ ถ้าเป็นญาณ (ปัญญา) จะรู้จักวิธีแก้ปัญหา เข้าใจปัญหาแล้ว 

อ้อ ใช้ พุท-โธ หายใจเข้าว่า พุท หายใจออก ว่าโธ อย่างนี้แบบนี้อย่างเดียวเลย ไม่ภาวนาอย่างอื่นเลยนะครับนะ ดังนั้นจะต้องปรับแก้นิดหน่อย เพื่อให้ไปได้


ใช่ค่ะ เราใช้ คำบริกรรม พุท - โ ธ คำเดียวค่ะ !!


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2018, 21:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
คุณ โลกสวยเ ขียน

อ้างคำพูด:
การทำจิตให้นิ่ง ว่าง
ก็สามารถทำให้ดิ่งลงไป อย่างสภาพว่างเฉย ไม่รู้ไม่ชี้ ได้เหมือนกัน


ใช่ค่ะ !เราใช้วิธีนี้ ทุกครั้ง ที่เรา มีความรู้สึกว่า
จิตของเรา เข้าสู่ ภาวะ ของความฟุ้งซ่าน !!
แต่ไม่ถึงกับ วาง เฉย ไม่รู้ไม่ชี้ !!
คือ ให้จิต เป็นสมาธิ เพื่อดับความฟุ้งซ่าน !!
เราทำบ่อยค่ะ !! จิต ของเราก้อเลย เข้าสู่ความนิ่ง
ได้ง่ายค่ะ ! เราก้อเลย มีความรู้สึกว่า
อาจจะ เป็นเพราะ เรานั่งสมาธิ บ่อย เลย
เป็นคน ติดสุขค่ะ !!


ไม่ใช่สมาธิหรอกค่ะ
องค์ธรรมของสมาธินั้น แม้นมี ปิติ มีสุข แต่ไม่มีอะไร ที่จะให้ไปติด
การไปติดเครื่องข้องแบบนั้น นั้น ไม่ใช่สมาธิหรอกค่ะ
หลุดจากสมาธิไปนานแล้วหละค่ะ
และสุขนั้น ก็ไม่จีรัง
ทำวนเวียนซ้ำซาก จนตาย
สุขปรากฎ สุขหายก็กลับมาทำใหม่
กลับทำตัวให้ตกอยู่ในวังวนได้
นี่แหละค่ะ ความไม่รู้ไม่ชี้

เมเรยบอก ว่า นั่นไม่ใช่สมาธิ ไม่มีกำลังจิตเอาเสียเลย
ติดกาวดักหนู ไปจนจิตอ่อนกำลังร่อแร่ ติดจนกาวหมดอายุ จึงหลุดออกมาค่ะ

ถ้ารู้ ถ้าชี้ มันไม่ติดอยู่จนหัวปักหัวปำหรอกค่ะ






โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2018, 21:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


คำว่า "ญาณ" กับ "ฌาน" ก็ได้แก่ ปัญญาเหมือนกัน
แต่คำว่า ฌาน จะใช้ในการเจริญสมถะ ส่วนคำว่า
ญาณ จะใช้กับวิปัสสนา เพื่อให้รู้ว่ากรรมฐานสายไหน
การเจริญสมถะจนจิตสงบเข้าถึงองค์ฌานได้
ย่อมกำจัดนิวรณ์ธรรม ๕ ถ้าหากจะเจริญฌานในขั้นสูงก็ต้อง
ละองค์ฌานมี วิตก วิจาร ปิติ สุข ก็จะเข้าทุติยฌาน
ตติยฌาน จตุตถฌาน จนถึงเนวสัญญานาสัญญายตนะฌาน
แต่เช้าถึงระดับนี้ได้ย่อมเข้าถึงความสงบที่ไม่เคยได้พบมาก่อนเลย

แต่มีข้อควรระวังอย่างมากอาจจะเข้าใจว่าได้ถึงขั้นบรรลุธรรมแล้ว
เพราะกิเลสมัยสงบอย่างราบคาบ ชนิดที่ว่ามองไม่เห็นเลย แต่ทางสายนี้
เป็นเพียงละกิเลสเท่านั้นแต่มิได้ประหานกิเลสได้เลย
ที่นี้ข้อสำคัญการทำสมาธิอีกก็ไปเน้นอยากให้พบกับความสุขเช่นนั้นอีก
เมื่อทำสมาธิกิ่ครั้งๆ ก็จะไปติดอยู่แค่นั่น บางคนเรียกว่าเข้าถึงทางตัน

ฉะนั้นเราต้องยกจิตขึ้นสู่วิปัสสนาโดยเอาองค์ฌานที่ได้นั่นพิจารณา
ให้เห็นความไม่เที่ยง หรือให้เห็นความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
เมื่อเห็นความเป็นจริงเช่นนั้นจิตจะคลายจากความยึดมั่นถือมั่น ข้ามโคตภูญานเข้า มรรคผลได้ในที่สุด

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2018, 21:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2157

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
คุณ กรัชกาย เขียน
อ้างคำพูด:
ไม่ใช่ญาณแยนอะไรหรอกครับ ถ้าเป็นญาณ (ปัญญา) จะรู้จักวิธีแก้ปัญหา เข้าใจปัญหาแล้ว 

อ้อ ใช้ พุท-โธ หายใจเข้าว่า พุท หายใจออก ว่าโธ อย่างนี้แบบนี้อย่างเดียวเลย ไม่ภาวนาอย่างอื่นเลยนะครับนะ ดังนั้นจะต้องปรับแก้นิดหน่อย เพื่อให้ไปได้


ใช่ค่ะ เราใช้ คำบริกรรม พุท - โ ธ คำเดียวค่ะ !!



บริกรรมพุท โธ แต่ไม่รู้ความหมาย
ก็เหมือนท่องบ่นไปค่ะ
ระหว่างบริกรรม ความคิด ความรู้สึก อารมณ์ ต่างๆ ก็ผุดขึ้นแทรกได้มากมาย และตลอดเวลา

สติในบริกรรมอย่างเดียวไม่พอหรอกค่ะ
ต้องรู้ทั่วพร้อมไปด้วยทั้งกายและจิต ความคิดความรู้สึกและอารมณ์ต่างๆด้วย

พุทโธ แปลง่ายๆ ว่า ผู้รู้แล้ว ไม่หลงแล้ว

จะหายใจเข้า หายใจออก
ก็ไม่ได้หลงตามลม
ไม่ได้หลงตามตัวตนคนที่กำลังภาวนาบริกรรม

ให้เห็นไปด้วย ลมเข้าไม่ออก ก็ตาย
ลมออกไม่เข้าก็ตาย

ได้มรณานุสติควบไปขณะบริกรรมด้วยค่ะ

จะไม่ได้หลงตามภาวะต่างๆที่เป็นไปค่ะ



แก้ไขล่าสุดโดย โลกสวย เมื่อ 21 ส.ค. 2018, 21:44, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2018, 21:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณโลกสวยเขียน

อ้างคำพูด:
ไม่ใช่สมาธิหรอกค่ะ 
องค์ธรรมของสมาธินั้น แม้นมี ปิติ มีสุข แต่ไม่มีอะไร ที่จะให้ไปติด
การไปติดเครื่องข้องแบบนั้น นั้น ไม่ใช่สมาธิหรอกค่ะ
หลุดจากสมาธิไปนานแล้วหละค่ะ
และสุขนั้น ก็ไม่จีรัง
ทำวนเวียนซ้ำซาก จนตาย 
สุขปรากฎ สุขหายก็กลับมาทำใหม่ 
กลับทำตัวให้ตกอยู่ในวังวนได้ 
นี่แหละค่ะ ความไม่รู้ไม่ชี้ 

เมเรยบอก ว่า นั่นไม่ใช่สมาธิ ไม่มีกำลังจิตเอาเสียเลย
ติดกาวดักหนู ไปจนจิตอ่อนกำลังร่อแร่ ติดจนกาวหมดอายุ จึงหลุดออกมาค่ะ

ถ้ารู้ ถ้าชี้ มันไม่ติดอยู่จนหัวปักหัวปำหรอกค่ะ 


:b32: :b32: :b32: ต้องขอบคุณ ในคำติ เตือน
ของคุณเมย์ ด้วยค่ะ !! พี่ไม่ค่อยว่าง เลยไม่ได้มาคุย
ทำเอง เข้าใจเอง ผิดถูกไม่รู้ !!รู้แค่ว่า นั่งสมาธิ
ทำให้จิตว่าง จิตสงบ จิตสะอาด หลุดจากกิเลส !!
รู้แค่นี้ จริงๆค่ะ !!


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 53 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 86 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร