ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
สำหรับRosarinต้องกังขาวิตรณวิสุทธิจึงหยุดฟุ้งซ่านได้ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=56409 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 19 ส.ค. 2018, 07:43 ] |
หัวข้อกระทู้: | สำหรับRosarinต้องกังขาวิตรณวิสุทธิจึงหยุดฟุ้งซ่านได้ |
กังขาวิตรณวิสุทธิ ความบริสุทธิ์ด้วยหมดสงสัยในนามรูป คือ กำหนดรู้ปัจจัยแห่งนามรูปได้ว่า เพราะอะไรเกิด นามรูปจึงเกิด เพราะอะไรดับ นามรูปจึงดับ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 19 ส.ค. 2018, 08:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สิ่งที่ทำให้คุณRosarinศิษย์บ้านธัมมะทุเลาฟุ้งซ่านธัมม์ได |
ทุกๆ คคห.ของคุณโรสเป็นความฟุ้งซ่านธัมม์ทั้งเพ เอ้า คคห.นี้ตัวอย่าง อ้างคำพูด: จิต 1 ขณะ มีครบธาตุ 4 ขันธ์ 5 รู้ผ่านอายตนะ 6 ทีละ 1 คำ 1 ทาง พร้อมกัน 6 ทางไม่ได้ เพราะต้องคิดตามตรงคำตรงขณะตามเสียงจริงๆ ที่ตรงความจริงที่กายใจตนด้วย ตามพระอภิธรรม จิตแต่ละ 1 ขณะมีครบ 4 ชาติเลยนะคะ ทั้งวิบาก กิริยา กุศล และอกุศล ถ้าแต่ละ 1 ขณะ ไม่ทันความจริงที่ตนมีตรง 1 คำวาจาสัจจะ ของตน แปลว่า ไม่เกิดสติเลย เพราะการตรงจริงต้องระลึกได้ตรง 1 สัจจะ ที่ตนกำลังมีตรงปัจจุบันขณะ ถ้าไม่เคยตรงคือไม่รู้แน่ๆ จิต เจตสิก รูป นิพพาน ตนตรงสภาพธรรมไหน 1 คำ ใน 4 ประเภทนั้น ต้องรู้ความจริง ที่กายใจตนเดี๋ยวนี้ ไม่รู้เดี๋ยวนี้ แสดงว่าเป็นปุถุชน ที่ไม่เคยระลึกตามคำสอน และไม่เคยคิดได้ตรงปรมัตถสัจจะ มีกิเลสหนาแน่น เหมือนจอกแหนแน่นปิดหน้าผิวน้ำตรง 1 คำ หยิบออก 1 คำ ไม่เห็นผิวน้ำเลย คริคริคริ ต้องตรงทีละคำทุกขณะ ถึงจะเริ่มเห็นผิวน้ำได้น๊า ไม่เชื่อลองลืมตาดูสิ่งที่อยู่ตรงหน้าสิ จำได้หมดเลยยังไม่ต้องเอ่ยชื่อแยกออกหมด ว่ามีอะไรเยอะแยะมากมายหลับตาลงแล้วลืมตาใหม่ดูสิมีเหมือนเดิมมันเป็นแค่สีหรือยังถ้ายังต้องทำฟังน๊า เพราะลืมตาดูมีกิเลสใหม่เพิ่มตลอดเวลาไม่มีปัญญาเจตสิกจากสัทบัญญัติทีละคำมาคั่นกิเลสที่ไหลไปเลย viewtopic.php?f=1&t=56392&p=425120#p425120 ทั้งเพทั้งระยองนั่น เกิดจากความคิดฟุ้งซ่าน ที่เรียกว่าฟุ้งซ่านธัมม์ เกิดจากการฟังแม่สุจินพูดกรองหูทุกวัน ซึ่งแม่สุจินเองก็ไม่เห็นความเป็นอย่างนั้นของกายของใจ ของรูปของนาม ซึ่งมีอยู่เป็นไปในขณะนั้น แม่สุจินเรียนแล้วมโนไปตามหนังสือนั่น อย่างนี้แหละ เรียกว่า รู้ตามหมึกพิมพ์ในกระดาษ ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 30 ส.ค. 2018, 07:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สำหรับRosarinต้องกังขาวิตรณวิสุทธิจึงหยุดฟุ้งซ่านได้ |
มีทางเดียวที่จะให้คุณโรสศิษย์บ้านธัมมะซึ่งนำโดยแม่สุจินหยุดความเพ้อหยุดฟุ้งซ่านได้ ต้องลงมือลงเท้า อิอิ ทำภาวนา ภาวนาไปๆๆ จนกระทั่งปัญญาซึ่งเกิดจากการภาวนาเกิด (ภาวนามยปัญญา) โน่นกังขาวิตรณวิสุทธิเกิดโน่นแหละ หยุดฟุ้งแน่นวล ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 30 ส.ค. 2018, 07:50 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สำหรับRosarinต้องกังขาวิตรณวิสุทธิจึงหยุดฟุ้งซ่านได้ |
ที่พันทิพก็มีกระทู้สนทนากัน เช่น อ้างคำพูด: การปฏิบัติธรรม ตามแนวของ อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เป็นอย่างไรครับ ฟังดูเป็นวิชาการ ที่ต้องพิจารณาตามอย่างละเอียด แต่ส่วนตัวรู้สึกแห้งแล้ง ขาดความสดชื่นและอิ่มเอม แม้สิ่งที่อาจารย์สุจินต์สอน จะเป็นข้อเท็จจริงหลายๆอย่างที่ชาวพุทธควรรู้ ควรตระหนัก อีกด้านหนึ่ง จากที่ฟังๆ มา เข้าใจว่า แนวของ อาจารย์สุจินต์ ไม่มีกรรมฐาน เหมือนแนวทางอื่นๆ เช่นวัดป่า ที่เน้น กรรมฐานมากๆ https://pantip.com/topic/38001354 คคห.ที่ 1 บอกว่า อ้างคำพูด: บอกเลยว่ามโนอย่างแท้จริง เพราะมโนไปอนาคตธรรม ยกตัวอย่างเช่น ให้รู้ว่าตนไม่ใช่คน สัตว์ สิ่งของ สิ่งนี้เป็นอารมณ์ของพระอรหันต์ ให้ตนไปรู้รสนิพพาน ตนไม่ได้พระอริยะจะไปรู้รสนิพพานไม่ได้ เป็นโสดาบันจึงจะรู้รสนิพพาน เขาสอนเหมือนตนเป็นพระอรหันต์ไปแล้ว คนที่ฟังก็มโนตาม แต่ปฏิบัติตามไม่ได้ เพราะต่างคนต่างมโนไป ใครมีกามราคะมากก็มโนไปอีกทาง ใครมีโทสะมากก็มโนไปอีกทาง ใครที่โลภมากก็มโนไปอีกทาง ใครโมหะมากก็มโนไปอีกทาง การปฏิบัติสมาธิพร้อมเจริญสติปัฏฐาน เป็นการแก้ไขการมโน แก้การฟุ้งซ่าน ใช่เลย ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 30 ส.ค. 2018, 08:01 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สำหรับRosarinต้องกังขาวิตรณวิสุทธิจึงหยุดฟุ้งซ่านได้ |
![]() รู้สิ่งที่เกิดแล้วไม่ใช่ก้มหน้าก้มตาแต่อ่านตำรา กาลามสูตร10มีว่าไม่ให้เชื่อตำรามิใช่หรือ เชื่อตำราแล้วนี่ถึงเลือกบางตอนเอาไปทำ ไม่ได้รู้ว่าเห็นแล้วจำแล้วได้ยินแล้วมีแล้ว มีอกุศลเกิดรู้ตัวทันทีนั่นน่ะมีปัญญา ส่วนที่คิดว่าตนดีแล้วน่ะไม่รู้ว่าไม่ดี เพราะไม่มีตัวตนไปทำดีหรือชั่วเลย แต่เป็นเดี๋ยวนี้ที่ละชั่วไม่ได้เพราะไม่รู้ เอาอะไรไปรู้เพราะสุตมยปัญญาทำอย่างไร ข้ามสุตมยปัญญาคือละชั่วไม่ได้เลยเพราะมีแต่อยากทำลืมฟังไงคะ อัธยาศัยการบรรลุธรรมของคฤหัสถ์น่ะสบายๆชิวๆไม่ลำบากเดือดร้อนเรื่องรับเงินใช้เงินถึงอรหันต์ก็บวชไง แต่เข้าไปครองผ้ากาสาวพัตรก่อนแต่ไม่บรรลุแม้แต่โสดาบันแล้วก็รับเงินรับทองนั้นน่ะไปอบายภูมิน๊า ปิดกั้นสวรรค์และมรรคและผลและนิพพาน...หวังอะไรที่รับเงินมีแต่สะสมความโลภอยากได้เพิ่มไหมงเงิน ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 30 ส.ค. 2018, 08:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สำหรับRosarinต้องกังขาวิตรณวิสุทธิจึงหยุดฟุ้งซ่านได้ |
Rosarin เขียน: Kiss รู้สิ่งที่เกิดแล้วไม่ใช่ก้มหน้าก้มตาแต่อ่านตำรา กาลามสูตร10มีว่าไม่ให้เชื่อตำรามิใช่หรือ เชื่อตำราแล้วนี่ถึงเลือกบางตอนเอาไปทำ ไม่ได้รู้ว่าเห็นแล้วจำแล้วได้ยินแล้วมีแล้ว มีอกุศลเกิดรู้ตัวทันทีนั่นน่ะมีปัญญา ส่วนที่คิดว่าตนดีแล้วน่ะไม่รู้ว่าไม่ดี เพราะไม่มีตัวตนไปทำดีหรือชั่วเลย แต่เป็นเดี๋ยวนี้ที่ละชั่วไม่ได้เพราะไม่รู้ เอาอะไรไปรู้เพราะสุตมยปัญญาทำอย่างไร ข้ามสุตมยปัญญาคือละชั่วไม่ได้เลยเพราะมีแต่อยากทำลืมฟังไงคะ อัธยาศัยการบรรลุธรรมของคฤหัสถ์น่ะสบายๆชิวๆไม่ลำบากเดือดร้อนเรื่องรับเงินใช้เงินถึงอรหันต์ก็บวชไง แต่เข้าไปครองผ้ากาสาวพัตรก่อนแต่ไม่บรรลุแม้แต่โสดาบันแล้วก็รับเงินรับทองนั้นน่ะไปอบายภูมิน๊า ปิดกั้นสวรรค์และมรรคและผลและนิพพาน...หวังอะไรที่รับเงินมีแต่สะสมความโลภอยากได้เพิ่มไหมงเงิน ความคิดสับสนปนเปื้อนเละเทะไปหมด แล้วที่คุณโรสนำมาพูดมาเล่านี่เอามาจากไหนขอรับ ถ้าไม่ได้เอามาจากตำรา ตรัสรู้เองหรือยังไง คิกๆๆ อ้างบ่อยๆ คือ ไปนำวิธีที่พระพุทธเจ้าบอกชาวกาลามะมา แต่ไม่เข้าใจเจตนารมณ์ที่พระองค์สอนชาวบ้านนั่น |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 30 ส.ค. 2018, 08:47 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สำหรับRosarinต้องกังขาวิตรณวิสุทธิจึงหยุดฟุ้งซ่านได้ |
![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 31 ส.ค. 2018, 23:56 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สำหรับRosarinต้องกังขาวิตรณวิสุทธิจึงหยุดฟุ้งซ่านได้ |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: Kiss รู้สิ่งที่เกิดแล้วไม่ใช่ก้มหน้าก้มตาแต่อ่านตำรา กาลามสูตร10มีว่าไม่ให้เชื่อตำรามิใช่หรือ เชื่อตำราแล้วนี่ถึงเลือกบางตอนเอาไปทำ ไม่ได้รู้ว่าเห็นแล้วจำแล้วได้ยินแล้วมีแล้ว มีอกุศลเกิดรู้ตัวทันทีนั่นน่ะมีปัญญา ส่วนที่คิดว่าตนดีแล้วน่ะไม่รู้ว่าไม่ดี เพราะไม่มีตัวตนไปทำดีหรือชั่วเลย แต่เป็นเดี๋ยวนี้ที่ละชั่วไม่ได้เพราะไม่รู้ เอาอะไรไปรู้เพราะสุตมยปัญญาทำอย่างไร ข้ามสุตมยปัญญาคือละชั่วไม่ได้เลยเพราะมีแต่อยากทำลืมฟังไงคะ อัธยาศัยการบรรลุธรรมของคฤหัสถ์น่ะสบายๆชิวๆไม่ลำบากเดือดร้อนเรื่องรับเงินใช้เงินถึงอรหันต์ก็บวชไง แต่เข้าไปครองผ้ากาสาวพัตรก่อนแต่ไม่บรรลุแม้แต่โสดาบันแล้วก็รับเงินรับทองนั้นน่ะไปอบายภูมิน๊า ปิดกั้นสวรรค์และมรรคและผลและนิพพาน...หวังอะไรที่รับเงินมีแต่สะสมความโลภอยากได้เพิ่มไหมงเงิน ความคิดสับสนปนเปื้อนเละเทะไปหมด แล้วที่คุณโรสนำมาพูดมาเล่านี่เอามาจากไหนขอรับ ถ้าไม่ได้เอามาจากตำรา ตรัสรู้เองหรือยังไง คิกๆๆ อ้างบ่อยๆ คือ ไปนำวิธีที่พระพุทธเจ้าบอกชาวกาลามะมา แต่ไม่เข้าใจเจตนารมณ์ที่พระองค์สอนชาวบ้านนั่น ![]() ไม่ต้องพูดบาลีว่าตนรู้ศัพท์เยอะได้ไหมมันไม่ตามไปชาติหน้าค่ะ บอกไม่ฟังก็บอกว่าให้สะสมสัจญาณคือปริยัติจากสุตมยปัญญา คุยมาตั้งแต่แรกไม่เข้าใจหรือคะว่าโรสฟังพระพุทธพจน์เข้าใจ ไม่ได้จดหรือไม่ได้อ่านมาก่อนไม่ได้ไปกางเปิดตำราตอบมันอยู่ในกึ๋นไงคะ เข้าใจถูกตรงตามการฟังแล้วคำตถาคตเข้าใจแล้วเวลาสนทนาก็บอกตามความเข้าใจตรงคำจริงไงคะ ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 01 ก.ย. 2018, 14:49 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สำหรับRosarinต้องกังขาวิตรณวิสุทธิจึงหยุดฟุ้งซ่านได้ |
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: Kiss รู้สิ่งที่เกิดแล้วไม่ใช่ก้มหน้าก้มตาแต่อ่านตำรา กาลามสูตร10มีว่าไม่ให้เชื่อตำรามิใช่หรือ เชื่อตำราแล้วนี่ถึงเลือกบางตอนเอาไปทำ ไม่ได้รู้ว่าเห็นแล้วจำแล้วได้ยินแล้วมีแล้ว มีอกุศลเกิดรู้ตัวทันทีนั่นน่ะมีปัญญา ส่วนที่คิดว่าตนดีแล้วน่ะไม่รู้ว่าไม่ดี เพราะไม่มีตัวตนไปทำดีหรือชั่วเลย แต่เป็นเดี๋ยวนี้ที่ละชั่วไม่ได้เพราะไม่รู้ เอาอะไรไปรู้เพราะสุตมยปัญญาทำอย่างไร ข้ามสุตมยปัญญาคือละชั่วไม่ได้เลยเพราะมีแต่อยากทำลืมฟังไงคะ อัธยาศัยการบรรลุธรรมของคฤหัสถ์น่ะสบายๆชิวๆไม่ลำบากเดือดร้อนเรื่องรับเงินใช้เงินถึงอรหันต์ก็บวชไง แต่เข้าไปครองผ้ากาสาวพัตรก่อนแต่ไม่บรรลุแม้แต่โสดาบันแล้วก็รับเงินรับทองนั้นน่ะไปอบายภูมิน๊า ปิดกั้นสวรรค์และมรรคและผลและนิพพาน...หวังอะไรที่รับเงินมีแต่สะสมความโลภอยากได้เพิ่มไหมงเงิน ความคิดสับสนปนเปื้อนเละเทะไปหมด แล้วที่คุณโรสนำมาพูดมาเล่านี่เอามาจากไหนขอรับ ถ้าไม่ได้เอามาจากตำรา ตรัสรู้เองหรือยังไง คิกๆๆ อ้างบ่อยๆ คือ ไปนำวิธีที่พระพุทธเจ้าบอกชาวกาลามะมา แต่ไม่เข้าใจเจตนารมณ์ที่พระองค์สอนชาวบ้านนั่น ![]() ไม่ต้องพูดบาลีว่าตนรู้ศัพท์เยอะได้ไหมมันไม่ตามไปชาติหน้าค่ะ บอกไม่ฟังก็บอกว่าให้สะสมสัจญาณคือปริยัติจากสุตมยปัญญา คุยมาตั้งแต่แรกไม่เข้าใจหรือคะว่าโรสฟังพระพุทธพจน์เข้าใจ ไม่ได้จดหรือไม่ได้อ่านมาก่อนไม่ได้ไปกางเปิดตำราตอบมันอยู่ในกึ๋นไงคะ เข้าใจถูกตรงตามการฟังแล้วคำตถาคตเข้าใจแล้วเวลาสนทนาก็บอกตามความเข้าใจตรงคำจริงไงคะ ![]() ![]() ข้ามภพข้ามชาติไปโน่นเลย ปัจจุบันชาติเดี๋ยวนี้คุณโรสไม่รู้เรื่อง นั่นก็แปลว่าเพ้อเจ้อ ตัวอย่าง เช่น เอา สติ ของเขามา ก็มาว่าเป็นคำๆ อิอิ เช่นที่ว่า ส คำหนึ่ง ติ คำหนึ่ง ว่าฟังทีละคำๆ นิพพาน ก็เอาของเขามาว่า เป็นคำๆ เช่น นิพ คำหนึ่ง พาน คำหนึ่ง ว่าฟังทีละคำๆ เนี่ยมันเละเห็นๆ จบข่าว อย่างที่บอกนับครั้งไม่ถ้วนว่าเสียเวลาเปล่า |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 01 ก.ย. 2018, 17:16 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สำหรับRosarinต้องกังขาวิตรณวิสุทธิจึงหยุดฟุ้งซ่านได้ |
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: Kiss รู้สิ่งที่เกิดแล้วไม่ใช่ก้มหน้าก้มตาแต่อ่านตำรา กาลามสูตร10มีว่าไม่ให้เชื่อตำรามิใช่หรือ เชื่อตำราแล้วนี่ถึงเลือกบางตอนเอาไปทำ ไม่ได้รู้ว่าเห็นแล้วจำแล้วได้ยินแล้วมีแล้ว มีอกุศลเกิดรู้ตัวทันทีนั่นน่ะมีปัญญา ส่วนที่คิดว่าตนดีแล้วน่ะไม่รู้ว่าไม่ดี เพราะไม่มีตัวตนไปทำดีหรือชั่วเลย แต่เป็นเดี๋ยวนี้ที่ละชั่วไม่ได้เพราะไม่รู้ เอาอะไรไปรู้เพราะสุตมยปัญญาทำอย่างไร ข้ามสุตมยปัญญาคือละชั่วไม่ได้เลยเพราะมีแต่อยากทำลืมฟังไงคะ อัธยาศัยการบรรลุธรรมของคฤหัสถ์น่ะสบายๆชิวๆไม่ลำบากเดือดร้อนเรื่องรับเงินใช้เงินถึงอรหันต์ก็บวชไง แต่เข้าไปครองผ้ากาสาวพัตรก่อนแต่ไม่บรรลุแม้แต่โสดาบันแล้วก็รับเงินรับทองนั้นน่ะไปอบายภูมิน๊า ปิดกั้นสวรรค์และมรรคและผลและนิพพาน...หวังอะไรที่รับเงินมีแต่สะสมความโลภอยากได้เพิ่มไหมงเงิน ความคิดสับสนปนเปื้อนเละเทะไปหมด แล้วที่คุณโรสนำมาพูดมาเล่านี่เอามาจากไหนขอรับ ถ้าไม่ได้เอามาจากตำรา ตรัสรู้เองหรือยังไง คิกๆๆ อ้างบ่อยๆ คือ ไปนำวิธีที่พระพุทธเจ้าบอกชาวกาลามะมา แต่ไม่เข้าใจเจตนารมณ์ที่พระองค์สอนชาวบ้านนั่น ![]() ไม่ต้องพูดบาลีว่าตนรู้ศัพท์เยอะได้ไหมมันไม่ตามไปชาติหน้าค่ะ บอกไม่ฟังก็บอกว่าให้สะสมสัจญาณคือปริยัติจากสุตมยปัญญา คุยมาตั้งแต่แรกไม่เข้าใจหรือคะว่าโรสฟังพระพุทธพจน์เข้าใจ ไม่ได้จดหรือไม่ได้อ่านมาก่อนไม่ได้ไปกางเปิดตำราตอบมันอยู่ในกึ๋นไงคะ เข้าใจถูกตรงตามการฟังแล้วคำตถาคตเข้าใจแล้วเวลาสนทนาก็บอกตามความเข้าใจตรงคำจริงไงคะ อ้างคำพูด: คุยมาตั้งแต่แรกไม่เข้าใจหรือคะ ว่าโรสฟังพระพุทธพจน์เข้าใจ คุณโรสว่า ว่าฟังพระพุทธพจน์เข้าใจ ไหนเอาพุทธพจน์ที่ว่ามาให้ดูหน่อยสิขอรับ ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 05 ก.ย. 2018, 10:44 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สำหรับRosarinต้องกังขาวิตรณวิสุทธิจึงหยุดฟุ้งซ่านได้ |
อ้างคำพูด: Rosarin ความจริงตรงปัจจุบันเดี๋ยวนี้กำลังมีจิตเกิดดับทีละ1ขณะสืบต่อไม่ขาดสาย ไม่มีตัวตนคนสัตว์และวัตถุมีแต่สภาพธรรมกำลังปรากฏว่ามีที่กายจิตตนเท่านั้น ไม่รู้ทัน1สัจจะที่ตนมีแปลว่าความจริงกำลังปรากฏกับอวิชชาของคุณแล้วจะทำอะไร เห็นคุณของพระรัตนตรัยตอนไหนในเมื่อทุกอย่างดับไปตลอดเวลาไม่ฟังไม่มีทางเกิดปัญญา ทำได้แค่บอกให้ฟังความจริงเพื่อรู้ตามเสียงตรงขณะว่าตนไม่รู้อะไรบ้างทุกขณะมีสัญญาจำแล้ว ขาดปัญญาที่ต้องเริ่มจากการฟังทุกครั้งเพื่อเป็นประตูคือปากทางที่ปัญญาจะแทรกเข้าแทนกิเลสคร่าาาา การเรียนแบบทำข้อสอบรับปริญญาไม่ตรงสัจจะที่กำลังมีเพราะปัญญารู้เดี๋ยวนี้ที่กำลังมีไม่ใช่บัญญัติคำนี่ viewtopic.php?f=1&t=56488&p=426329#p426329 อ้างคำพูด: ความจริงตรงปัจจุบันเดี๋ยวนี้กำลังมีจิตเกิดดับทีละ 1 ขณะ สืบต่อไม่ขาดสาย ไม่มีตัวตนคนสัตว์ และวัตถุ มีแต่สภาพธรรม กำลังปรากฏว่า มีที่ กายจิตตน เท่านั้น ความคิดสองบรรทัดนั่น เราจะเห็นความเพ้อเจ้อฟุ้งซ่านของคุณโรสศิษย์บ้านธัมมะนำโดยแม่สุจินชัดว่า เกิดจากคิดเพ้อเจ้อไปเรื่อย เพราะอะไร? เพราะอ่านหนังสืออภิธรรมว่าจิตเกิดดับมาบ้าง ฟังเขามาบ้าง แล้วก็มาสรุปเอาตามอัตตโนมติ ว่าไม่ใช่ตัวตนคนสัตว์ อะไรก็ว่าไป ซึ่งตนเองยังไม่รู้ไม่เห็นเลยสักกะติ๊ดว่าจิตมันเกิดดับทีละ 1 ขณะ ขะแน่ะ อะไรเลย คิกๆๆ นี่เพราะขาดภาวนามยปัญญาล้าน % + ขาดการศึกษาให้ถ้วนทั่วรอบด้าน จึงเป็นเหตุให้ฟัุงซ่านพล่านไปสุดเสียงกู่ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 05 ก.ย. 2018, 18:52 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สำหรับRosarinต้องกังขาวิตรณวิสุทธิจึงหยุดฟุ้งซ่านได้ |
ให้ดูทั้งหมด วิสุทธิ ความบริสุทธิ์, ความหมดจด, การชำระสัตว์ให้บริสุทธิ์ด้วยการบำเพ็ญไตรสิกขาให้บริบูรณ์เป็นขั้นๆ ไปโดยลำดับ จนบรรลุจุดหมาย คือ พระนิพพาน มี ๗ ขั้น (ในที่นี้ ได้ระบุธรรมที่มีที่ได้เป็นความหมายของแต่ละขั้น ตามที่แสดงไว้ในอภิธัมมัตถสงคหะ) คือ ๑. สีลวิสุทธิ ความหมดจดแห่งศีล (ได้แก่ ปาริสุทธิศีล ๔) ๒. จิตตวิสุทธิ ความหมดจดแห่งจิตต์ (ได้แก่ สมาธิ ๒ คือ อุปจารสมาธิ และอัปปนาสมาธิ) ๓. ทิฏฐิวิสุทธิ ความหมดจดแห่งทิฏฐิ (ได้แก่ นามรูปปริคคหญาณ) ๔. กังขาวิตรณวิสุทธิ ความหมดจดแห่งญาณเป็นเครื่องข้ามพ้นความสงสัย (ได้แก่ ปัจจัยปริคคหญาณ) ๕. มัคคามัคคญาณทัสสนวิสุทธิ ความหมดจดแห่งญาณเป็นเครื่องรู้เห็นว่าทางหรือมิใช่ทาง (ได้แก่ ต่อสัมมสนญาณ ขึ้นสู่อุทยัพพยญาณ เป็นตรุณวิปัสสนา เกิดวิปัสสนูปกิเลส แล้วรู้เท่าทันว่า อะไรใช่ทาง อะไรมิใช่ทาง) ๖. ปฏิปทาญาณทัสสนวิสุทธิ ความหมดจดแห่งญาณอันรู้เห็นทางดำเนิน (ได้แก่ วิปัสสนาญาณ ๙ นับแต่อุทยัพพยญาณที่ผ่านพ้นวิปัสสนูปกิเลสแล้ว เกิดเป็นพลววิปัสสนา เป็นต้นไป จนถึงอนุโลมญาณ) ๗. ญาณทัสสนวิสุทธิ ความหมดจดแห่งญาณทัสสนะ (ได้แก่ มรรคญาณ ๔ มีโสดาปัตติมรรค เป็นต้น แต่ละขั้น) (วิสุทธิทั้งนั้น สุตะ จินตะ ไม่ถึงหรอก ต้องภาวนา) |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |