ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
พระไม่รู้ว่านั่นคือของโจร แล้วไปรับเข้าทำไมปาราชิก ? http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=56341 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | deecup [ 10 ส.ค. 2018, 18:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | พระไม่รู้ว่านั่นคือของโจร แล้วไปรับเข้าทำไมปาราชิก ? |
อย่างเช่นกรณีวัดใหญ่แถวปทุมธานี รับเงินอะไรสักอย่างนั่นแหละ รับปุ๋บ แล้วเงินที่ถวายได้มามิชอบ ทำไมพระซึ่งไม่รู้ไปรับเข้าถึงปาราชิก แบบนี้กรณีเณรคำ ที่ถูกพิพากษาจำคุกหลายร้อยปี เที่ยวหลอกลวงคนมาบริจาค แล้วเอาเงินบริจาคไปซื้อรถให้พระรูปนั้นรูปนี้ แบบนี้พระที่รับรถไป ไม่ปาราชิกไปด้วยเหรอ |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 11 ส.ค. 2018, 07:51 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระไม่รู้ว่านั่นคือของโจร แล้วไปรับเข้าทำไมปาราชิก ? |
deecup เขียน: อย่างเช่นกรณีวัดใหญ่แถวปทุมธานี รับเงินอะไรสักอย่างนั่นแหละ รับปุ๋บ แล้วเงินที่ถวายได้มามิชอบ ทำไมพระซึ่งไม่รู้ไปรับเข้าถึงปาราชิก แบบนี้กรณีเณรคำ ที่ถูกพิพากษาจำคุกหลายร้อยปี เที่ยวหลอกลวงคนมาบริจาค แล้วเอาเงินบริจาคไปซื้อรถให้พระรูปนั้นรูปนี้ แบบนี้พระที่รับรถไป ไม่ปาราชิกไปด้วยเหรอ วัดแถวปทุมฯ ..เอาเงินวัดไปซื้อที่(กะทำเหมืองทอง) แล้วใส่เป็นชื่อของตัวเองเป็นเจ้าของ...พอเรื่องแดงขึ้นมา..คณะสงฆ์ให้แก้ไขโดยคืนเป็นชื่อของวัด...แต่ไม่แก้ไข...พระสังฆราชจึงมีลิขิตทำนองว่า..รู้แล้วแต่ไม่คืน..แสดงว่ามีเจตนาเอาของผู้อื่นไป...เกิน 5 มาสก.เป็นปราชิกขาดจากความเป็นพระ...(ไม่ใช่ปราชิกจากเงินสหกรณ์ยูเนี่ยนเครดิตคลองจั่น) กรณีพระรับรถ....ตอนแรกรับ..ไม่รู้ว่ารถซื้อมาด้วยเงินอะไร..ไม่ปราชิก..ภายหลังรู้แล้วว่าอาจมีการเบียดบังเงินบริจาคมาซื้อ (ก็ยังไม่ชัดว่าเอาเงินส่วนไหนมาซื้อ)..คืนเป็นของคณะสงฆ์เสียก็ไม่ปราชิก..หรือ..เป็นของสงฆ์(มีชื่อวัดเป็นเจ้าของรถ)ตั้งแต่แรกแล้วก็ไม่จำเป็นต้องคืน... เว้นใว้แต่เจ้าของเงินที่บริจาคร้องเรียกคืน...ก็ต้องส่งกลับวัดที่เขาบริจาค |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |