ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ศิษย์บ้านธัมมะว่าเงินปิดกั้นมรรคผลนิพพาน http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=56317 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 3 |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 05 ส.ค. 2018, 07:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | ศิษย์บ้านธัมมะว่าเงินปิดกั้นมรรคผลนิพพาน |
คคห.คุณโรสศิษย์บ้านธัมมะ มันผสมปนเปมั่วไปหมด มีทั้งกาลามสูตร ผสมกับ พุทธพยากรณ์ ผสมความคิดเห็นเจ้าสำนัก เรื่องฟังสุตะอะไรของเขานั่นแหละ ตายแล้วกลับมาบอกมาอธิบายอะไรไม่ได้ ฯลฯ เละไปหมด อ้างคำพูด: Rosarin เทียบอันนี้ดูนะคะลืมตาตื่นรู้ความจริง ตามปกติเป็นปกติโดยใช้กาลามสูตร10 โดยวางใจเป็นกลางๆไม่เข้าข้างใครแม้แต่ตนเอง ถ้ามีพระพุทธเจ้าพยากรณ์ล่วงหน้าว่า ใครจะเป็นพระพุทธเจ้าต่อไปเมื่อไหร่ได้ พระสมณโคตมพุทธเจ้าพยากรณ์ไว้ใน พระไตรปิฎกว่ายุคพันปีที่ 3 ไม่มีพระอรหันต์ แล้วมีผู้ออกมาประกาศตนว่าเป็นพระอรหันต์ แล้วมีการรับเงินทองเป็นปกติ ถามว่าวินัยรับเงิน คือการปิดกั้นมรรคผลนิพพานแล้วอะไรจริง พระพุทธเจ้าแกล้งพยากรณ์ผิดอย่างนั้นหรือ ไตร่ตรองหลายๆรอบหน่อยนะตายแล้วนั้น ไม่มีใครกลับมาอธิบายความจริงให้รู้น๊า มีแต่ต้องเพียรฟังและมีศรัทธาเลื่อมใสคำสอน ไม่ใช่เลื่อมใสตัวบุคคล เพราะศาสนาคือคำสอน พระธรรมและพระวินัยแทนศาสดาไม่ใช่ตัวบุคคล คำสอนตรงมากว่าต้องฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า viewtopic.php?f=1&t=56314 อ้างคำพูด: ถามว่าวินัยรับเงินคือการปิดกั้นมรรคผลนิพพานแล้วอะไรจริง แต่ กท.นี้เอาประเด็นเงินเป็นอะไรจึงมาปิดกั้นมรรค ผล นิพพานได้ ซึ่งเป็นเรื่องประหลาดมากๆ เพิ่งเคยได้ยินเนี่ยแหละ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 05 ส.ค. 2018, 07:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ศิษย์บ้านธัมมะว่าเงินปิดกั้นมรรคผลนิพพาน |
อ้างคำพูด: ไตร่ตรองหลายๆรอบหน่อยนะ ตายแล้วนั้น ไม่มีใครกลับมาอธิบายความจริงให้รู้น๊า มีแต่ต้องเพียรฟังและมีศรัทธาเลื่อมใสคำสอน ไม่ใช่เลื่อมใสตัวบุคคล คุณโรสจะสื่อถึงใครว่า ตายแล้วกลับมาอธิบายความจริงไม่ได้ ใครตาย ใครไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ใครไม่เข้าใจ ไม่ใช่เลื่อมใสในตัวบุคคลว่า แต่คุณโรสก็ศรัทธาปสาทะฟังคลิปแม่บริหารฯอยู่นั่น เจ้าสำนักบ้านธัมมะไม่ใช่บุคคลหรือ ที่ฟังๆอยู่นั่นมันเป็นความคิดความเห็นเจ้าสำนัก เออ คิกๆๆ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 05 ส.ค. 2018, 07:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ศิษย์บ้านธัมมะว่าเงินปิดกั้นมรรคผลนิพพาน |
ทำความเข้าใจคำว่า ปัจจัย ให้ชัดให้ขาด ซึ่งมี ๒ นัย ปัจจัย 1. เหตุที่ให้ผลเป็นไป, เหตุ, เครื่องหนุนให้เกิด, 2. ของสำหรับอาศัยใช้, เครื่องอาศัยของชีวิต, สิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต มี ๔ อย่าง คือ ๑. เครื่องนุ่งห่ม (จีวร) ๒ . อาหาร (บิณฑบาต) ๓. ที่อยู่อาศัย (เสนาสนะ) ๔. ยาบำบัดโรค (คิลานเภสัช) |
เจ้าของ: | Rosarin [ 05 ส.ค. 2018, 07:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ศิษย์บ้านธัมมะว่าเงินปิดกั้นมรรคผลนิพพาน |
![]() คิดไปเถอะคิดเองให้เกิดอีกกี่ชาติก็ตายฟรีไงคะ ปัญญาตามคำสอนเกิดจากฟังเหตุผลตรงตามคำสอน พระพุทธเจ้าตรัสรู้แปลว่ารู้ทุกคำที่บัญญัติไว้ทั้งหมดเลย ทรงรู้ความจริงที่ทุกคนกำลังมีตรงทุกคำทั้งหมดด้วยเข้าใจไหม เพราะฉะนั้นเดี๋ยวนี้เลยทุกคนกำลังมีตรง1สัจจะอันไหนไม่มีใครรู้ค่ะ ตนเองต้องฟังเพื่อรู้ตามตรงความจริง1สัจจะที่ตรงตัวมันตรงกับคำไหน1คำ คือคำนั้นที่ตรงสภาพธรรมของตนเองมันกำลังปรากฏแต่ไม่ยอมฟังเพื่อตามรู้ไงคะ คุณกรัชกายคุณรู้ทุกคำใน3ปิฎกหรือแค่จำเงาสภาวะต่างๆตามบัญญัติที่อธิบายความหมายล่ะ ตัวจริงสภาวะทุกสภาวะมีที่ตัวตนคนทุกๆคนที่ทรงแจกแจงให้เข้าใจตามโดยละเอียดทั้งถูกผิดดีชั่ว ไม่เข้าใจโดยรอบรู้เสียก่อนต้องรู้จากการฟังด้วยนะถึงจะมีปัญญาไม่ใช่ไปหลงจำแต่เงา/ตัวจริงมีที่ตัวตนน๊า ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 05 ส.ค. 2018, 08:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ศิษย์บ้านธัมมะว่าเงินปิดกั้นมรรคผลนิพพาน |
Rosarin เขียน: Kiss คิดไปเถอะคิดเองให้เกิดอีกกี่ชาติก็ตายฟรีไงคะ ปัญญาตามคำสอนเกิดจากฟังเหตุผลตรงตามคำสอน พระพุทธเจ้าตรัสรู้แปลว่ารู้ทุกคำที่บัญญัติไว้ทั้งหมดเลย ทรงรู้ความจริงที่ทุกคนกำลังมีตรงทุกคำทั้งหมดด้วยเข้าใจไหม เพราะฉะนั้นเดี๋ยวนี้เลยทุกคนกำลังมีตรง1สัจจะอันไหนไม่มีใครรู้ค่ะ ตนเองต้องฟังเพื่อรู้ตามตรงความจริง1สัจจะที่ตรงตัวมันตรงกับคำไหน1คำ คือคำนั้นที่ตรงสภาพธรรมของตนเองมันกำลังปรากฏแต่ไม่ยอมฟังเพื่อตามรู้ไงคะ คุณกรัชกายคุณรู้ทุกคำใน3ปิฎกหรือแค่จำเงาสภาวะต่างๆตามบัญญัติที่อธิบายความหมายล่ะ ตัวจริงสภาวะทุกสภาวะมีที่ตัวตนคนทุกๆคนที่ทรงแจกแจงให้เข้าใจตามโดยละเอียดทั้งถูกผิดดีชั่ว ไม่เข้าใจโดยรอบรู้เสียก่อนต้องรู้จากการฟังด้วยนะถึงจะมีปัญญาไม่ใช่ไปหลงจำแต่เงา/ตัวจริงมีที่ตัวตนน๊า ![]() ![]() นั่งหัวโด่อยู่ชาตินี้ นี่คิดไปเกิดชาติใหม่อีกแล้ว ชาตินี้เอาให้มันรอดสะก่อนเถอะ คิกๆๆ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 05 ส.ค. 2018, 08:23 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ศิษย์บ้านธัมมะว่าเงินปิดกั้นมรรคผลนิพพาน |
Rosarin เขียน: Kiss คิดไปเถอะคิดเองให้เกิดอีกกี่ชาติก็ตายฟรีไงคะ ปัญญาตามคำสอนเกิดจากฟังเหตุผลตรงตามคำสอน พระพุทธเจ้าตรัสรู้แปลว่ารู้ทุกคำที่บัญญัติไว้ทั้งหมดเลย ทรงรู้ความจริงที่ทุกคนกำลังมีตรงทุกคำทั้งหมดด้วยเข้าใจไหม เพราะฉะนั้นเดี๋ยวนี้เลยทุกคนกำลังมีตรง1สัจจะอันไหนไม่มีใครรู้ค่ะ ตนเองต้องฟังเพื่อรู้ตามตรงความจริง1สัจจะที่ตรงตัวมันตรงกับคำไหน1คำ คือคำนั้นที่ตรงสภาพธรรมของตนเองมันกำลังปรากฏแต่ไม่ยอมฟังเพื่อตามรู้ไงคะ คุณกรัชกายคุณรู้ทุกคำใน3ปิฎกหรือแค่จำเงาสภาวะต่างๆตามบัญญัติที่อธิบายความหมายล่ะ ตัวจริงสภาวะทุกสภาวะมีที่ตัวตนคนทุกๆคนที่ทรงแจกแจงให้เข้าใจตามโดยละเอียดทั้งถูกผิดดีชั่ว ไม่เข้าใจโดยรอบรู้เสียก่อนต้องรู้จากการฟังด้วยนะถึงจะมีปัญญาไม่ใช่ไปหลงจำแต่เงา/ตัวจริงมีที่ตัวตนน๊า ![]() ![]() พระไตรปิฎกมีเงาอีกแระ ป๊าดติเถ เถนา อิอิ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 05 ส.ค. 2018, 08:28 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ศิษย์บ้านธัมมะว่าเงินปิดกั้นมรรคผลนิพพาน |
ุคุณโรสเชื่อกรัชกายเถอะ คุณรีบออกจากบ้านธัมมะก่อนสิ้นลมเถอะ ออกมาแล้วก็เลิกฟังคลิปแม่บริหารฯ ด้วยนะ แล้วหาบสำรับคาวหวานไปวัดใกล้บ้าน กวาดวิหารลานเจดีย์ มีจิตสาธารณะล้างห้องน้ำห้องสุขา ทำงี้ไปก่อน เมื่อกรัชกายน้อยเห็นว่าคุณพอจะเลื่อนขั้นได้แล้วจะบอกอีกที ![]() คิดไปได้ เงินปิดกั้นมรรค ผล นิพพาน กิเลสในใจของตนของตนนั่นต่างหากปิดกั้นมรรค ผล นิพพาน ไม่ใช่เฮิน เข้าใจไหม |
เจ้าของ: | Rosarin [ 06 ส.ค. 2018, 00:16 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ศิษย์บ้านธัมมะว่าเงินปิดกั้นมรรคผลนิพพาน |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: Kiss คิดไปเถอะคิดเองให้เกิดอีกกี่ชาติก็ตายฟรีไงคะ ปัญญาตามคำสอนเกิดจากฟังเหตุผลตรงตามคำสอน พระพุทธเจ้าตรัสรู้แปลว่ารู้ทุกคำที่บัญญัติไว้ทั้งหมดเลย ทรงรู้ความจริงที่ทุกคนกำลังมีตรงทุกคำทั้งหมดด้วยเข้าใจไหม เพราะฉะนั้นเดี๋ยวนี้เลยทุกคนกำลังมีตรง1สัจจะอันไหนไม่มีใครรู้ค่ะ ตนเองต้องฟังเพื่อรู้ตามตรงความจริง1สัจจะที่ตรงตัวมันตรงกับคำไหน1คำ คือคำนั้นที่ตรงสภาพธรรมของตนเองมันกำลังปรากฏแต่ไม่ยอมฟังเพื่อตามรู้ไงคะ คุณกรัชกายคุณรู้ทุกคำใน3ปิฎกหรือแค่จำเงาสภาวะต่างๆตามบัญญัติที่อธิบายความหมายล่ะ ตัวจริงสภาวะทุกสภาวะมีที่ตัวตนคนทุกๆคนที่ทรงแจกแจงให้เข้าใจตามโดยละเอียดทั้งถูกผิดดีชั่ว ไม่เข้าใจโดยรอบรู้เสียก่อนต้องรู้จากการฟังด้วยนะถึงจะมีปัญญาไม่ใช่ไปหลงจำแต่เงา/ตัวจริงมีที่ตัวตนน๊า ![]() ![]() นั่งหัวโด่อยู่ชาตินี้ นี่คิดไปเกิดชาติใหม่อีกแล้ว ชาตินี้เอาให้มันรอดสะก่อนเถอะ คิกๆๆ ![]() ไม่รู้จริงๆหรือคะว่าที่ยังเกิดอยู่เนี่ยเป็นประเภทปะทะปะระมะ ไม่ฟังคำสอนแล้วยังกร่างไม่รู้เลยหรือว่าปัญญาตนเองสะสมทีละ1ขณะ ไม่มีปัญญาไหนสะสมยาวนานเป็นชั่วโมงตามที่คิดว่าต้องไปนั่งใบ้โดยไม่รู้จักกิเลส กิเลสเกิดทีละขณะนั้นน่ะมันมีทุกขณะที่ลืมตาเห็นเลยระหว่างลืมตา/หลับตาทำอันไหนมากกว่า จะบอกให้นะคะลืมตาไม่เข้าใจคำสอนตรงขณะไม่มีทางที่หลับตาจะรู้ตรงขณะได้คือมืดสนิททั้งวันทั้งคืนไง อ่านตำราคือจิตคิดนึกหลังเห็นดับอ่านสภาพธรรมว่ามีชื่ออะไรได้แต่ตัวธัมมะจริงที่กะพริบตานับไม่ถ้วนเลย ทำเห็นได้ไหมกำลังเห็นตลอดเลยดับแล้วด้วยเป็นกิเลสแล้วด้วยคิดเห็นที่กำลังดับไปตลอดถูกตามตอนไหน ฟังพระพุทธพจน์ก่อนจิตออกจากร่างคือสิ่งเดียวเอกายโนมัคโคที่สะสมปัญญาไม่มีใครทำฟังแทนกันได้คร่า ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 06 ส.ค. 2018, 17:27 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ศิษย์บ้านธัมมะว่าเงินปิดกั้นมรรคผลนิพพาน |
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: Kiss คิดไปเถอะคิดเองให้เกิดอีกกี่ชาติก็ตายฟรีไงคะ ปัญญาตามคำสอนเกิดจากฟังเหตุผลตรงตามคำสอน พระพุทธเจ้าตรัสรู้แปลว่ารู้ทุกคำที่บัญญัติไว้ทั้งหมดเลย ทรงรู้ความจริงที่ทุกคนกำลังมีตรงทุกคำทั้งหมดด้วยเข้าใจไหม เพราะฉะนั้นเดี๋ยวนี้เลยทุกคนกำลังมีตรง1สัจจะอันไหนไม่มีใครรู้ค่ะ ตนเองต้องฟังเพื่อรู้ตามตรงความจริง1สัจจะที่ตรงตัวมันตรงกับคำไหน1คำ คือคำนั้นที่ตรงสภาพธรรมของตนเองมันกำลังปรากฏแต่ไม่ยอมฟังเพื่อตามรู้ไงคะ คุณกรัชกายคุณรู้ทุกคำใน3ปิฎกหรือแค่จำเงาสภาวะต่างๆตามบัญญัติที่อธิบายความหมายล่ะ ตัวจริงสภาวะทุกสภาวะมีที่ตัวตนคนทุกๆคนที่ทรงแจกแจงให้เข้าใจตามโดยละเอียดทั้งถูกผิดดีชั่ว ไม่เข้าใจโดยรอบรู้เสียก่อนต้องรู้จากการฟังด้วยนะถึงจะมีปัญญาไม่ใช่ไปหลงจำแต่เงา/ตัวจริงมีที่ตัวตนน๊า ![]() ![]() นั่งหัวโด่อยู่ชาตินี้ นี่คิดไปเกิดชาติใหม่อีกแล้ว ชาตินี้เอาให้มันรอดสะก่อนเถอะ คิกๆๆ ![]() ไม่รู้จริงๆหรือคะว่าที่ยังเกิดอยู่เนี่ยเป็นประเภทปะทะปะระมะ ไม่ฟังคำสอนแล้วยังกร่างไม่รู้เลยหรือว่าปัญญาตนเองสะสมทีละ1ขณะ ไม่มีปัญญาไหนสะสมยาวนานเป็นชั่วโมงตามที่คิดว่าต้องไปนั่งใบ้โดยไม่รู้จักกิเลส กิเลสเกิดทีละขณะนั้นน่ะมันมีทุกขณะที่ลืมตาเห็นเลยระหว่างลืมตา/หลับตาทำอันไหนมากกว่า จะบอกให้นะคะลืมตาไม่เข้าใจคำสอนตรงขณะไม่มีทางที่หลับตาจะรู้ตรงขณะได้คือมืดสนิททั้งวันทั้งคืนไง อ่านตำราคือจิตคิดนึกหลังเห็นดับอ่านสภาพธรรมว่ามีชื่ออะไรได้แต่ตัวธัมมะจริงที่กะพริบตานับไม่ถ้วนเลย ทำเห็นได้ไหมกำลังเห็นตลอดเลยดับแล้วด้วยเป็นกิเลสแล้วด้วยคิดเห็นที่กำลังดับไปตลอดถูกตามตอนไหน ฟังพระพุทธพจน์ก่อนจิตออกจากร่างคือสิ่งเดียวเอกายโนมัคโคที่สะสมปัญญาไม่มีใครทำฟังแทนกันได้คร่า ![]() ![]() ![]() อะไรอ่ะนะ เอกายโนมัคโค ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 08 ส.ค. 2018, 14:21 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ศิษย์บ้านธัมมะว่าเงินปิดกั้นมรรคผลนิพพาน |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: Kiss คิดไปเถอะคิดเองให้เกิดอีกกี่ชาติก็ตายฟรีไงคะ ปัญญาตามคำสอนเกิดจากฟังเหตุผลตรงตามคำสอน พระพุทธเจ้าตรัสรู้แปลว่ารู้ทุกคำที่บัญญัติไว้ทั้งหมดเลย ทรงรู้ความจริงที่ทุกคนกำลังมีตรงทุกคำทั้งหมดด้วยเข้าใจไหม เพราะฉะนั้นเดี๋ยวนี้เลยทุกคนกำลังมีตรง1สัจจะอันไหนไม่มีใครรู้ค่ะ ตนเองต้องฟังเพื่อรู้ตามตรงความจริง1สัจจะที่ตรงตัวมันตรงกับคำไหน1คำ คือคำนั้นที่ตรงสภาพธรรมของตนเองมันกำลังปรากฏแต่ไม่ยอมฟังเพื่อตามรู้ไงคะ คุณกรัชกายคุณรู้ทุกคำใน3ปิฎกหรือแค่จำเงาสภาวะต่างๆตามบัญญัติที่อธิบายความหมายล่ะ ตัวจริงสภาวะทุกสภาวะมีที่ตัวตนคนทุกๆคนที่ทรงแจกแจงให้เข้าใจตามโดยละเอียดทั้งถูกผิดดีชั่ว ไม่เข้าใจโดยรอบรู้เสียก่อนต้องรู้จากการฟังด้วยนะถึงจะมีปัญญาไม่ใช่ไปหลงจำแต่เงา/ตัวจริงมีที่ตัวตนน๊า ![]() ![]() นั่งหัวโด่อยู่ชาตินี้ นี่คิดไปเกิดชาติใหม่อีกแล้ว ชาตินี้เอาให้มันรอดสะก่อนเถอะ คิกๆๆ ![]() ไม่รู้จริงๆหรือคะว่าที่ยังเกิดอยู่เนี่ยเป็นประเภทปะทะปะระมะ ไม่ฟังคำสอนแล้วยังกร่างไม่รู้เลยหรือว่าปัญญาตนเองสะสมทีละ1ขณะ ไม่มีปัญญาไหนสะสมยาวนานเป็นชั่วโมงตามที่คิดว่าต้องไปนั่งใบ้โดยไม่รู้จักกิเลส กิเลสเกิดทีละขณะนั้นน่ะมันมีทุกขณะที่ลืมตาเห็นเลยระหว่างลืมตา/หลับตาทำอันไหนมากกว่า จะบอกให้นะคะลืมตาไม่เข้าใจคำสอนตรงขณะไม่มีทางที่หลับตาจะรู้ตรงขณะได้คือมืดสนิททั้งวันทั้งคืนไง อ่านตำราคือจิตคิดนึกหลังเห็นดับอ่านสภาพธรรมว่ามีชื่ออะไรได้แต่ตัวธัมมะจริงที่กะพริบตานับไม่ถ้วนเลย ทำเห็นได้ไหมกำลังเห็นตลอดเลยดับแล้วด้วยเป็นกิเลสแล้วด้วยคิดเห็นที่กำลังดับไปตลอดถูกตามตอนไหน ฟังพระพุทธพจน์ก่อนจิตออกจากร่างคือสิ่งเดียวเอกายโนมัคโคที่สะสมปัญญาไม่มีใครทำฟังแทนกันได้คร่า ![]() ![]() ![]() อะไรอ่ะนะ เอกายโนมัคโค ![]() ![]() เอารูปร่างคนสัตว์เปรตอสุรกายเทวดาพรหมออกมีแต่จิตเกิดดับทีละ1ลักษณะจริงๆ เป็น1ตัวธัมมะที่จิตแต่ละ1ดวงสะสมกำลังเกิดดับที่คิดเห็นถูกตามคำสอนได้หรือเห็นผิดพลาด เป็นความคลาดเคลื่อนของตนที่ไม่ตรง1สัจจะของตนคือความจริงกำลังปรากฏกับความไม่รู้ไงคะ เอก+กาย+มรรคคือเอกายโนมัคโคทางสายเอกสายเดียวคือฟังสะสมปัญญาตรงปัจจุบันขณะ1คำไงคะ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | เช่นนั้น [ 08 ส.ค. 2018, 17:57 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ศิษย์บ้านธัมมะว่าเงินปิดกั้นมรรคผลนิพพาน |
Rosarin เขียน: เอารูปร่างคนสัตว์เปรตอสุรกายเทวดาพรหมออกมีแต่จิตเกิดดับทีละ1ลักษณะจริงๆ เป็น1ตัวธัมมะที่จิตแต่ละ1ดวงสะสมกำลังเกิดดับที่คิดเห็นถูกตามคำสอนได้หรือเห็นผิดพลาด เป็นความคลาดเคลื่อนของตนที่ไม่ตรง1สัจจะของตนคือความจริงกำลังปรากฏกับความไม่รู้ไงคะ เอก+กาย+มรรคคือเอกายโนมัคโคทางสายเอกสายเดียวคือฟังสะสมปัญญาตรงปัจจุบันขณะ1คำไงคะ Rosarin เขียน: ภิกษุณีไม่มีได้ก็ไม่ต้องมีภิกษุใครจะกราบลงเห็นผ้าเหลืองเดินหนีค่ะ ตรงปัจจุบันจริงๆ ก็ไม่มีแม้แต่ความเห็นเช่นนี้ |
เจ้าของ: | Rosarin [ 08 ส.ค. 2018, 23:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ศิษย์บ้านธัมมะว่าเงินปิดกั้นมรรคผลนิพพาน |
![]() คิดให้ตรงเกิดเท่าไหร่ตายเท่านั้นไม่เหลือทุกขณะ เป็นจิตเจตสิกรูปนิพพานแต่ละ1หลากหลายมีแล้ว กำลังมีตรงตามที่ตรัสรู้ทุกคำเลยค่ะไม่เปลี่ยนเลย แต่จิตแต่ละ1เดียวที่มาท่องเที่ยวผ่านที่ประชุมรวม ที่ประชุมรวมกันต้องมีครบทางตาหูจมูกลิ้นกายใจ คือครบอายตนะ6ต้องลืมตาดูด้วยนะเพราะตื่นรู้ไง เป็นผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบานเมื่อรู้ความจริงถูกตามได้แล้ว เพราะการตั้งใจฟังคือหนทางเดียวที่รู้คุณตถาคต ก็ตถาคตตรัสรู้มาเพื่อตรัสให้ทุกคนฟังเข้าใจตาม ไม่ได้ต้องการลาภสักการะใดๆทั้งสิ้นเข้าใจไหมคะ ทรงสิ้นกิเลสและตรัสรู้ความจริงเหมือนพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ คนต่อไปที่จะมากล่าวทุกคำตามที่ทรงแสดงคือพระพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป สำหรับยุคนี้ยังมีคำสอนจึงคิดเองไม่ได้แม้แต่คำเดียวแปลว่าฟังเพื่อคิดตามเท่านั้น จะไปคิดค้นด้นเดาหรือกลั้นใจตายลงก็รู้อย่างพระพุทธเจ้าไม่ได้ยิ่งคิดไปทำยิ่งผิดกว่าเดิมไปกันใหญ่ไงคะ สวากขาตธรรม...ตรัส...ไว้...ชอบ...แล้ว...จง...เพียร...ฟัง...เพื่อ...ให้...คิด...เห็น...ถูก...ตาม...ได้จึงจะตรงจ้ะ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 09 ส.ค. 2018, 04:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ศิษย์บ้านธัมมะว่าเงินปิดกั้นมรรคผลนิพพาน |
กรัชกาย เขียน: อ้างคำพูด: ไตร่ตรองหลายๆรอบหน่อยนะ ตายแล้วนั้น ไม่มีใครกลับมาอธิบายความจริงให้รู้น๊า มีแต่ต้องเพียรฟังและมีศรัทธาเลื่อมใสคำสอน ไม่ใช่เลื่อมใสตัวบุคคล คุณโรสจะสื่อถึงใครว่า ตายแล้วกลับมาอธิบายความจริงไม่ได้ ใครตาย ใครไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ใครไม่เข้าใจ ไม่ใช่เลื่อมใสในตัวบุคคลว่า แต่คุณโรสก็ศรัทธาปสาทะฟังคลิปแม่บริหารฯอยู่นั่น เจ้าสำนักบ้านธัมมะไม่ใช่บุคคลหรือ ที่ฟังๆอยู่นั่นมันเป็นความคิดความเห็นเจ้าสำนัก เออ คิกๆๆ ![]() ทางสายกลางคือทางเดียวที่เป็นเอกายโนมัคโค คือฟังคำของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกคนนั่นแหละที่ตายลงจุติจิตสุดท้ายสิ้นลงไปเร็วแบบกะพริบตา ไปไม่กลับมาบอกอะไรได้มีแต่ต้องฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าคือคำวาจาสัจจะ เพื่อเข้าใจตรงปัจจุบันขณะไม่ใช่ให้เชื่อแต่ให้ฟังเพื่อคิดเห็นถูกเข้าใจถูกเกิดสัมมามรรคตามได้คร่าาา ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 09 ส.ค. 2018, 07:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ศิษย์บ้านธัมมะว่าเงินปิดกั้นมรรคผลนิพพาน |
Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: อ้างคำพูด: ไตร่ตรองหลายๆรอบหน่อยนะ ตายแล้วนั้น ไม่มีใครกลับมาอธิบายความจริงให้รู้น๊า มีแต่ต้องเพียรฟังและมีศรัทธาเลื่อมใสคำสอน ไม่ใช่เลื่อมใสตัวบุคคล คุณโรสจะสื่อถึงใครว่า ตายแล้วกลับมาอธิบายความจริงไม่ได้ ใครตาย ใครไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ใครไม่เข้าใจ ไม่ใช่เลื่อมใสในตัวบุคคลว่า แต่คุณโรสก็ศรัทธาปสาทะฟังคลิปแม่บริหารฯอยู่นั่น เจ้าสำนักบ้านธัมมะไม่ใช่บุคคลหรือ ที่ฟังๆอยู่นั่นมันเป็นความคิดความเห็นเจ้าสำนัก เออ คิกๆๆ ![]() ทางสายกลางคือทางเดียวที่เป็นเอกายโนมัคโค คือฟังคำของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกคนนั่นแหละที่ตายลงจุติจิตสุดท้ายสิ้นลงไปเร็วแบบกะพริบตา ไปไม่กลับมาบอกอะไรได้มีแต่ต้องฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าคือคำวาจาสัจจะ เพื่อเข้าใจตรงปัจจุบันขณะไม่ใช่ให้เชื่อแต่ให้ฟังเพื่อคิดเห็นถูกเข้าใจถูกเกิดสัมมามรรคตามได้คร่าาา ![]() ![]() ![]() ![]() อ้างคำพูด: ทางสายกลางคือทางเดียวที่เป็นเอกายโนมัคโค คือฟังคำของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกคนนั่นแหละที่ตายลงจุติจิตสุดท้ายสิ้นลงไปเร็วแบบกะพริบตา ปนกันมั่วไปหมด คิกๆๆ เอกายนมรรค ทางอันเอก คือ ข้อปฏิบัติไปสู่ความบริสุทธิ์หมดจด หมดความทุกข์ และบรรลุนิพพาน ได้แก่ สติปัฏฐาน ๔; อย่างกว้างขวาง เช่น ในมหานิทเทส หมายถึง โพธิปักขิยธรรมด้วย |
เจ้าของ: | Rosarin [ 09 ส.ค. 2018, 08:11 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ศิษย์บ้านธัมมะว่าเงินปิดกั้นมรรคผลนิพพาน |
กรัชกาย เขียน: Rosarin เขียน: กรัชกาย เขียน: อ้างคำพูด: ไตร่ตรองหลายๆรอบหน่อยนะ ตายแล้วนั้น ไม่มีใครกลับมาอธิบายความจริงให้รู้น๊า มีแต่ต้องเพียรฟังและมีศรัทธาเลื่อมใสคำสอน ไม่ใช่เลื่อมใสตัวบุคคล คุณโรสจะสื่อถึงใครว่า ตายแล้วกลับมาอธิบายความจริงไม่ได้ ใครตาย ใครไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ใครไม่เข้าใจ ไม่ใช่เลื่อมใสในตัวบุคคลว่า แต่คุณโรสก็ศรัทธาปสาทะฟังคลิปแม่บริหารฯอยู่นั่น เจ้าสำนักบ้านธัมมะไม่ใช่บุคคลหรือ ที่ฟังๆอยู่นั่นมันเป็นความคิดความเห็นเจ้าสำนัก เออ คิกๆๆ ![]() ทางสายกลางคือทางเดียวที่เป็นเอกายโนมัคโค คือฟังคำของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกคนนั่นแหละที่ตายลงจุติจิตสุดท้ายสิ้นลงไปเร็วแบบกะพริบตา ไปไม่กลับมาบอกอะไรได้มีแต่ต้องฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าคือคำวาจาสัจจะ เพื่อเข้าใจตรงปัจจุบันขณะไม่ใช่ให้เชื่อแต่ให้ฟังเพื่อคิดเห็นถูกเข้าใจถูกเกิดสัมมามรรคตามได้คร่าาา ![]() ![]() ![]() ![]() อ้างคำพูด: ทางสายกลางคือทางเดียวที่เป็นเอกายโนมัคโค คือฟังคำของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกคนนั่นแหละที่ตายลงจุติจิตสุดท้ายสิ้นลงไปเร็วแบบกะพริบตา ปนกันมั่วไปหมด คิกๆๆ เอกายนมรรค ทางอันเอก คือ ข้อปฏิบัติไปสู่ความบริสุทธิ์หมดจด หมดความทุกข์ และบรรลุนิพพาน ได้แก่ สติปัฏฐาน ๔; อย่างกว้างขวาง เช่น ในมหานิทเทส หมายถึง โพธิปักขิยธรรมด้วย ![]() เอกายโนมัคโค...มัคโคคือมรรคและมรรคแรกคือสัมมาทิฏฐิ=เข้าใจคำสอนถูกตรง1คำ=ปัญญา=วิปัสสนา มีมรรค8เป็นหนทางเดียวที่รู้ที่กายใจตนทีละ1ตัวธัมมะตรง1คำวาจาสัจจะคือสิ่งที่ตนจะรู้ได้ทันปัจจุบันค่ะ ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 3 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |