ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ศิษย์บ้านธัมมะคิดอย่างนี้ไม่มีวันปฏิบัติกรรมฐานได้
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=56260
หน้า 1 จากทั้งหมด 5

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 21 ก.ค. 2018, 21:26 ]
หัวข้อกระทู้:  ศิษย์บ้านธัมมะคิดอย่างนี้ไม่มีวันปฏิบัติกรรมฐานได้

นอกจากนั้นแล้ว ยังไม่มีทางจะเข้าใจพระพุทธศาสนาในทุกด้านได้เลย ไม่ว่าด้านโลกียธรรม ด้านโลกุตรธรรม :b1:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 21 ก.ค. 2018, 21:49 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้ที่คิดแบบนี้ ไม่มีวันปฏิบัติกรรมฐานในทุกแง่มุมได้เลย

อ้างคำพูด:
Rosarin
บอกยังไงก็ไม่ฟัง คนที่รู้จริงไม่ติดนั่งสมาธิ เพราะกายหายหมด ไม่ส่งออกไปเห็นอะไรเลย

ดิ่งแน่วลงรวมสงบเลย เป็นผลของกรรม ที่สะสมปัญญา จากการฟังแต่อดีตชาติมาให้ผล
นะคะ

ส่วนที่กำลังทำอยู่เดี๋ยวนี้ทำด้วยความไม่รู้ตรงสัจจะ คือไม่รู้การสะสมความตรงตัวธัมมะตามเป็นจริง

ความจริงต้องรู้สิ่งที่เกิดมีแล้วที่กายใจ ไม่ได้ไปวอกแวกส่งไปรู้นอกกายใจ ที่มีแล้วดิ่งลงเป็น 1 ไม่ส่งไปไหน

กายไม่มีกายหายหมด แปลว่า ตัวตนเป็นสมมุติบัญญัติ ที่แยกชิ้นส่วนได้ ไม่ใช่สัจจะที่เป็นปรมัตถ์เป็นเอกคือ 1 เอกเป็น 1 สิ้นสุดแยกย่อยต่อไปอีกไม่ได้เลย รวมเป็นหนึ่ง หนึ่ง หนึ่ง มันแยกแต่ละ 1 อยู่แล้วแต่กิเลสตนปกปิดค่ะ

ต้องอาศัยคำสอนที่ค่อยเปิดเผยความจริงให้ปรากฏ ตอนกำลังมีสิ่งที่มีจริงๆ ที่กำลังปรากฏไม่ไปทำสิ่งที่ยังมิรู้

viewtopic.php?f=1&t=56209



คคห. นี้ ตัวเขาเป็นต้นเองจะไม่ทำสมาธิในชาตินี้ หากใครไปทำเข้าแล้วภาวนาไปๆ สภาวะอย่างหนึ่งอย่างใดปรากฏ เขาก็คิดไปว่านี่เป็นผลของกรรมนั่นนี่แต่อดีตชาติตามมาให้ผล แล้วอาจคิดฟุ้งซ่านไปถึงว่ามีเจ้ากรรมนายเวรภูตผีปีศาจมาทวงบุญทวงคุณอีก หนักเข้าก็จะมีการแก้กรรมตัดกรรมแถมเข้ามาอีก สรุปตอนนี้ว่า เขาจะแก้ปัญหาอะไรไม่ได้เลย เพราะมันเป็นกรรมแต่ปางก่อนแก้ไขทำอะไรไม่ได้แล้ว มันเป็นเวรเป็นกรรม เหมือนนักกรรมเก่าคนหนึ่งว่าเธอต้องแก้กรรมด้วยการให้ผู้ชายซั่มสามที คิกๆๆ จึงจะหมดกรรม สบายไป :b32:

ต่อไป ทั้งๆที่มันเป็นเรื่องของกายของใจนั่นแหละ แต่เขาคิดผิดว่ามันไม่ใช่กายใจ (กาย = รูป, ใจ = นาม) มันเป็นเรื่องของรูปของนามทั้งเพ ก็แสดงให้เห็นอีกว่า เขาไม่เข้าใจ กาย กับ ใจอีก ก็แสดงให้เห็นอีกว่า ไม่เข้าใจพระพุทธศาสนาด้วย จึงสรุปได้อีกว่า เสียเวลาเปล่า :b13:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 21 ก.ค. 2018, 22:15 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้ที่คิดแบบนี้ ไม่มีวันปฏิบัติกรรมฐานในทุกแง่มุมได้เลย

อ้างคำพูด:
Rosarin

บอกแล้วบอกอีกไม่รู้จักจำ คำสอนของพระพุทธเจ้า คือทุกคำในพระไตรปิฎก ส่องถึงเดี๋ยวนี้ที่มีแล้วตรง

ตามที่ทุกดวงจิตกำลังเป็นไป ใครกำลังทำฌานก็ได้มีฌาน

ใครกำลังทำปัญญาก็ได้ปัญญา

ใครได้นิพพานแล้วก็คือนิพพานจริง ตรงจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้เลย คือ จิ เจ รุ นิ

ไม่เข้าใจหรือคะมีแล้ว จิต เจตสิก รูป นิพพาน ต้องรู้ 1 ที่ ตน มี

ครบวิสยรูป 7 ตรงธาตุ 4 ขันธ์ 5 รู้ผ่านครบอายตนะทั้ง 6 เดี๋ยวนี้

จิต คือ วิญญาณขันธ์ เป็นประธานรู้ทุกอย่างที่มี จิต มี 89-121 ประเภท

เจตสิก คือ เจตนา เกิดพร้อมจิต เป็นคู่หู ปรุงกุศล หรือ อกุศล 52 ประเภท

ประกอบด้วยประเภทของ 3 ขันธ์ เวทนาขันธ์ 1 สัญญาขันธ์ 1 สังขารขันธ์ 50

รูปคือรูปขันธ์ คือ มหาภูตรูป 4+อุปาทายรูป 24 รวม 28 รูป 27 รูป มืด มีสว่างแค่ 1 รูป

อ่านสิครบทั้งหมดแล้ว แยะแยะละเอียดที่กายใจตน มีให้ตรง 1 สัจจะ คือ จริงของตน


ลิงค์เดียวกันนั่น คคห. นี้คำพูดเกือบจะทุกคำล้วนเป็นคำบาลี ไม่ว่าจะ ธาตุ 4 ขันธ์ 5 จิ เจ รุ นิ เวทนาขันธ์ เป็นต้น แต่ถ้อยคำที่พูดนั้น ตัวไม่เข้าใจความหมายเลยว่าเขาหมายถึงอะไร จึงออกแนวๆนกพูดภาษาคนได้ แต่ไม่รู้สื่อถึงอะไร เสียของอีกแล้ว

เจ้าของ:  Rosarin [ 22 ก.ค. 2018, 00:13 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้ที่คิดแบบนี้ ไม่มีวันปฏิบัติกรรมฐานในทุกแง่มุมได้เลย

Kiss
รู้เหรอว่าเขาเกิดมาแล้วกี่ชาติถึงคิดเอาว่าคนอื่นเป็นงั้นงี้น่ะทำไมต้องทรมาณกายล่ะ
เคยนั่งกรรมฐานรู้แล้วว่ากายไม่มีไม่ต้องคิดว่าไม่มีคืออะไรแค่ชม.เดียวเองก็รู้แล้ว
ไม่ว่าอะไรปรากฏเป็นผลของกรรมไงคะแต่ที่คิดต่อเองน่ะกิเลสไงคะ555
ในเมื่อความจริงตอนลืมตาตื่นรู้เนี่ยมีมืดแค่ตอนกะพริบตานิดเดียวแต่ตถาคต
แสดงความจริงให้รู้ไงว่าจิตเห็นเท่านั้นมีแสงสลับกับมืดอีก5ทางมีมืดเยอะกว่าสว่างไง
บอดสนิททั้งที่ลืมตาไงคะยังจะไปนั่งหลับตาหาเหรอคะลืมตาตื่นรู้ฟังพระพุทธพจน์ได้ยินไหม
ไม่มีคนมาบอกรู้ไหมแต่เป็นกรรมดีที่เคยทำมาจึงมีเหตุปัจจัยให้เหมือนมีคนมาบอกไงคะมืดไหมคะ
:b32: :b32: :b32:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 22 ก.ค. 2018, 07:30 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้ที่คิดแบบนี้ ไม่มีวันปฏิบัติกรรมฐานในทุกแง่มุมได้เลย

Rosarin เขียน:

รู้เหรอว่าเขาเกิดมาแล้วกี่ชาติถึงคิดเอาว่าคนอื่นเป็นงั้นงี้น่ะทำไมต้องทรมาณกายล่ะ
เคยนั่งกรรมฐานรู้แล้วว่ากายไม่มีไม่ต้องคิดว่าไม่มีคืออะไรแค่ชม.เดียวเองก็รู้แล้ว

ไม่ว่าอะไรปรากฏเป็นผลของกรรมไงคะแต่ที่คิดต่อเองน่ะกิเลสไงคะ555
ในเมื่อความจริงตอนลืมตาตื่นรู้เนี่ยมีมืดแค่ตอนกะพริบตานิดเดียวแต่ตถาคต
แสดงความจริงให้รู้ไงว่าจิตเห็นเท่านั้นมีแสงสลับกับมืดอีก5ทางมีมืดเยอะกว่าสว่างไง
บอดสนิททั้งที่ลืมตาไงคะยังจะไปนั่งหลับตาหาเหรอคะลืมตาตื่นรู้ฟังพระพุทธพจน์ได้ยินไหม
ไม่มีคนมาบอกรู้ไหมแต่เป็นกรรมดีที่เคยทำมาจึงมีเหตุปัจจัยให้เหมือนมีคนมาบอกไงคะมืดไหมคะ


ยิ่งตอกย้ำเข้าไปอีกว่าว่าที่กรัชกายน้อยพูดนั่นจริงทุกเม็ด ไม่ผิดเพี้ยน คิกๆๆ


อ้างคำพูด:
ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป

วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพักประมาณสิบนาทีเริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัวจึงนั่งต่อไม่ได้ ลืมตาขึ้นมานั่งดูพระรูปอื่น

เป็นอย่างนี้อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก

จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก

จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเองจนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม

คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย

ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วกจนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีกซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น

คำถามครับ

1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง

2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรมพิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจว่ามันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนาทำให้เราเข้าใจว่าทุกอย่างมีเกิดดับของมันเป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด
แต่ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการกระทำ
หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน


เคยบอกคุณโรสแล้วว่า ลืมตา กับ หลับตา ต่างกัน ดูที่เน้นไว้ซี่ ต่อให้คุณโรสลืมตาทั้งชีวิต ตั้งใจกระพริบตาจนผิดปกติ ปริบๆๆๆๆ กิเลสก็ไม่ถลอก อิอิ (ยืมคำพูดคุณหน่อย) กิเลสไม่ถลอกปอกเปือกหรอก มันต้องหลับทำ แต่ก็ไม่ห้ามลืมตานะ ลืมตาสังเกตพินิจดูเทียบกันดูได้ บางรายหลับตาทำสมาธิ (เรียกชื่ออื่นได้อย่ายึดติดชื่อเรียก) เหมือนมีตัวแมงไต่ไปมาตามเนื้อตามตัว เอามือลูบดูก็ไม่มี ลืมตาดูก็ไม่เห็น

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 22 ก.ค. 2018, 07:43 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้ที่คิดแบบนี้ ไม่มีวันปฏิบัติกรรมฐานในทุกแง่มุมได้เลย

Rosarin เขียน:
Kiss
รู้เหรอว่าเขาเกิดมาแล้วกี่ชาติถึงคิดเอาว่าคนอื่นเป็นงั้นงี้น่ะทำไมต้องทรมาณกายล่ะ
เคยนั่งกรรมฐานรู้แล้วว่ากายไม่มีไม่ต้องคิดว่าไม่มีคืออะไรแค่ชม.เดียวเองก็รู้แล้ว
ไม่ว่าอะไรปรากฏเป็นผลของกรรมไงคะแต่ที่คิดต่อเองน่ะกิเลสไงคะ555
ในเมื่อความจริงตอนลืมตาตื่นรู้เนี่ยมีมืดแค่ตอนกะพริบตานิดเดียวแต่ตถาคต
แสดงความจริงให้รู้ไงว่าจิตเห็นเท่านั้นมีแสงสลับกับมืดอีก5ทางมีมืดเยอะกว่าสว่างไง
บอดสนิททั้งที่ลืมตาไงคะยังจะไปนั่งหลับตาหาเหรอคะลืมตาตื่นรู้ฟังพระพุทธพจน์ได้ยินไหม
ไม่มีคนมาบอกรู้ไหมแต่เป็นกรรมดีที่เคยทำมาจึงมีเหตุปัจจัยให้เหมือนมีคนมาบอกไงคะมืดไหมคะ


คุณโรสม้วนเสื่อหอบหมอนออกจากสำนักแม่บริหารฯ เถอะก่อนจะสายเกินไปแล้วเลิกฟังแม่บริหารฯ กล่อมประสาทเสียที ว่าฟังมา 7-8 ปีแล้วนี่ :b13: ฟังมานานขนาดนั้น แต่เป็นยังงี้ แสดงว่าขาดสุตมยปัญญา คิกๆๆ ฟังแล้วปัญญาไม่เกิด เสียเวลาเปล่าเบย

ถามว่า เมื่อเลิกฟังคลิปแห่งโฮมสะเตย์ชั่นแล้วจะให้ไปทำอะไร ?

ตอบ ให้เริ่มต้นใหม่ โดยโล๊ะความคิดความจำเดิมๆออกให้เกลี้ยงแล้วนำไปลอยแม่น้ำโขงเลย (ทำนองเอาความข่มขื่นไปทิ้งแม่โขง -ไม่ใช่เหล้านะเดี๋ยวเข้าใจผิดว่าเป็นเหล้ายาปลาปิ้งไป) แล้วตั้งต้นทำบุญทำทานแบบพื้นฐานไปก่อน เช่น ตักบาตรพระเณรตอนเช้าๆ วัดไหนมีงานประจำปีปิดทองฝังลูกนิมิต ทอดผ้า ทอดกฐิน เป็นต้นก็ไปช่วย วันพระก็หาบสำรับคาวหวานไปวัด ฝึกตั้งนโมให้ได้ สวดอิติปิโส พาหุง มหากาไป เอาเท่านี้ก่อน ถ้าได้มากกว่านั้นก็ดี ตั้งใจสวดไป สมาธิก็เกิดได้ ในแต่ละวันๆ มีหน้าที่อะไรก็ไปทำทำไปตามหน้าที่ ปลูกพริกปลูกมะเขืออะไรก็ว่าไป ขณะที่ทำก็ฝึกจิตใจให้อยู่กับสิ่งที่ทำที่เกี่ยวข้องต้องทำ ไม่เผลอไปคิดถึงแม่บริหารฯ อีก นะขอรับ :b16:

เจ้าของ:  Rosarin [ 25 ก.ค. 2018, 00:28 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้ที่คิดแบบนี้ ไม่มีวันปฏิบัติกรรมฐานในทุกแง่มุมได้เลย

กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
รู้เหรอว่าเขาเกิดมาแล้วกี่ชาติถึงคิดเอาว่าคนอื่นเป็นงั้นงี้น่ะทำไมต้องทรมาณกายล่ะ
เคยนั่งกรรมฐานรู้แล้วว่ากายไม่มีไม่ต้องคิดว่าไม่มีคืออะไรแค่ชม.เดียวเองก็รู้แล้ว
ไม่ว่าอะไรปรากฏเป็นผลของกรรมไงคะแต่ที่คิดต่อเองน่ะกิเลสไงคะ555
ในเมื่อความจริงตอนลืมตาตื่นรู้เนี่ยมีมืดแค่ตอนกะพริบตานิดเดียวแต่ตถาคต
แสดงความจริงให้รู้ไงว่าจิตเห็นเท่านั้นมีแสงสลับกับมืดอีก5ทางมีมืดเยอะกว่าสว่างไง
บอดสนิททั้งที่ลืมตาไงคะยังจะไปนั่งหลับตาหาเหรอคะลืมตาตื่นรู้ฟังพระพุทธพจน์ได้ยินไหม
ไม่มีคนมาบอกรู้ไหมแต่เป็นกรรมดีที่เคยทำมาจึงมีเหตุปัจจัยให้เหมือนมีคนมาบอกไงคะมืดไหมคะ


คุณโรสม้วนเสื่อหอบหมอนออกจากสำนักแม่บริหารฯ เถอะก่อนจะสายเกินไปแล้วเลิกฟังแม่บริหารฯ กล่อมประสาทเสียที ว่าฟังมา 7-8 ปีแล้วนี่ :b13: ฟังมานานขนาดนั้น แต่เป็นยังงี้ แสดงว่าขาดสุตมยปัญญา คิกๆๆ ฟังแล้วปัญญาไม่เกิด เสียเวลาเปล่าเบย

ถามว่า เมื่อเลิกฟังคลิปแห่งโฮมสะเตย์ชั่นแล้วจะให้ไปทำอะไร ?

ตอบ ให้เริ่มต้นใหม่ โดยโล๊ะความคิดความจำเดิมๆออกให้เกลี้ยงแล้วนำไปลอยแม่น้ำโขงเลย (ทำนองเอาความข่มขื่นไปทิ้งแม่โขง -ไม่ใช่เหล้านะเดี๋ยวเข้าใจผิดว่าเป็นเหล้ายาปลาปิ้งไป) แล้วตั้งต้นทำบุญทำทานแบบพื้นฐานไปก่อน เช่น ตักบาตรพระเณรตอนเช้าๆ วัดไหนมีงานประจำปีปิดทองฝังลูกนิมิต ทอดผ้า ทอดกฐิน เป็นต้นก็ไปช่วย วันพระก็หาบสำรับคาวหวานไปวัด ฝึกตั้งนโมให้ได้ สวดอิติปิโส พาหุง มหากาไป เอาเท่านี้ก่อน ถ้าได้มากกว่านั้นก็ดี ตั้งใจสวดไป สมาธิก็เกิดได้ ในแต่ละวันๆ มีหน้าที่อะไรก็ไปทำทำไปตามหน้าที่ ปลูกพริกปลูกมะเขืออะไรก็ว่าไป ขณะที่ทำก็ฝึกจิตใจให้อยู่กับสิ่งที่ทำที่เกี่ยวข้องต้องทำ ไม่เผลอไปคิดถึงแม่บริหารฯ อีก นะขอรับ :b16:

cool
:b12:
ชอบกรรมฐานงั้นแปลก่อน
กรรมคือการกระทำ
ฐานคือที่ตั้ง
ที่ตั้งแห่งการกระทำ
ทำฌานนั่งขัดสมาธิหลับตาทำก็ได้ฌานแล้ว
ทำวิปัสสนาปัญญาโดยฟังพระพุทธพจน์ก็ทันวิสยรูปแล้ว
ตกลงจะให้โรสไปตั้งต้นจำบัญญัติคำใหม่หมดไปท่องทำข้อสอบหรือคะ
:b32: :b32:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 26 ก.ค. 2018, 20:30 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้ที่คิดแบบนี้ ไม่มีวันปฏิบัติกรรมฐานในทุกแง่มุมได้เลย

Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
รู้เหรอว่าเขาเกิดมาแล้วกี่ชาติถึงคิดเอาว่าคนอื่นเป็นงั้นงี้น่ะทำไมต้องทรมาณกายล่ะ
เคยนั่งกรรมฐานรู้แล้วว่ากายไม่มีไม่ต้องคิดว่าไม่มีคืออะไรแค่ชม.เดียวเองก็รู้แล้ว
ไม่ว่าอะไรปรากฏเป็นผลของกรรมไงคะแต่ที่คิดต่อเองน่ะกิเลสไงคะ555
ในเมื่อความจริงตอนลืมตาตื่นรู้เนี่ยมีมืดแค่ตอนกะพริบตานิดเดียวแต่ตถาคต
แสดงความจริงให้รู้ไงว่าจิตเห็นเท่านั้นมีแสงสลับกับมืดอีก5ทางมีมืดเยอะกว่าสว่างไง
บอดสนิททั้งที่ลืมตาไงคะยังจะไปนั่งหลับตาหาเหรอคะลืมตาตื่นรู้ฟังพระพุทธพจน์ได้ยินไหม
ไม่มีคนมาบอกรู้ไหมแต่เป็นกรรมดีที่เคยทำมาจึงมีเหตุปัจจัยให้เหมือนมีคนมาบอกไงคะมืดไหมคะ


คุณโรสม้วนเสื่อหอบหมอนออกจากสำนักแม่บริหารฯ เถอะก่อนจะสายเกินไปแล้วเลิกฟังแม่บริหารฯ กล่อมประสาทเสียที ว่าฟังมา 7-8 ปีแล้วนี่ :b13: ฟังมานานขนาดนั้น แต่เป็นยังงี้ แสดงว่าขาดสุตมยปัญญา คิกๆๆ ฟังแล้วปัญญาไม่เกิด เสียเวลาเปล่าเบย

ถามว่า เมื่อเลิกฟังคลิปแห่งโฮมสะเตย์ชั่นแล้วจะให้ไปทำอะไร ?

ตอบ ให้เริ่มต้นใหม่ โดยโล๊ะความคิดความจำเดิมๆออกให้เกลี้ยงแล้วนำไปลอยแม่น้ำโขงเลย (ทำนองเอาความข่มขื่นไปทิ้งแม่โขง -ไม่ใช่เหล้านะเดี๋ยวเข้าใจผิดว่าเป็นเหล้ายาปลาปิ้งไป) แล้วตั้งต้นทำบุญทำทานแบบพื้นฐานไปก่อน เช่น ตักบาตรพระเณรตอนเช้าๆ วัดไหนมีงานประจำปีปิดทองฝังลูกนิมิต ทอดผ้า ทอดกฐิน เป็นต้นก็ไปช่วย วันพระก็หาบสำรับคาวหวานไปวัด ฝึกตั้งนโมให้ได้ สวดอิติปิโส พาหุง มหากาไป เอาเท่านี้ก่อน ถ้าได้มากกว่านั้นก็ดี ตั้งใจสวดไป สมาธิก็เกิดได้ ในแต่ละวันๆ มีหน้าที่อะไรก็ไปทำทำไปตามหน้าที่ ปลูกพริกปลูกมะเขืออะไรก็ว่าไป ขณะที่ทำก็ฝึกจิตใจให้อยู่กับสิ่งที่ทำที่เกี่ยวข้องต้องทำ ไม่เผลอไปคิดถึงแม่บริหารฯ อีก นะขอรับ :b16:

cool
:b12:
ชอบกรรมฐานงั้นแปลก่อน
กรรมคือการกระทำ
ฐานคือที่ตั้ง
ที่ตั้งแห่งการกระทำ
ทำฌานนั่งขัดสมาธิหลับตาทำก็ได้ฌานแล้ว
ทำวิปัสสนาปัญญาโดยฟังพระพุทธพจน์ก็ทันวิสยรูปแล้ว
ตกลงจะให้โรสไปตั้งต้นจำบัญญัติคำใหม่หมดไปท่องทำข้อสอบหรือคะ


แค่พูดก็ผิดแล้ว นั่งขัดสมาธิหลับก็ได้ฌานแล้ว คิกๆๆ

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 26 ก.ค. 2018, 20:35 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้ที่คิดแบบนี้ ไม่มีวันปฏิบัติกรรมฐานในทุกแง่มุมได้เลย

กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
Rosarin
บอกยังไงก็ไม่ฟัง คนที่รู้จริงไม่ติดนั่งสมาธิ เพราะกายหายหมด ไม่ส่งออกไปเห็นอะไรเลย

ดิ่งแน่วลงรวมสงบเลย เป็นผลของกรรม ที่สะสมปัญญา จากการฟังแต่อดีตชาติมาให้ผล
นะคะ

ส่วนที่กำลังทำอยู่เดี๋ยวนี้ทำด้วยความไม่รู้ตรงสัจจะ คือไม่รู้การสะสมความตรงตัวธัมมะตามเป็นจริง

ความจริงต้องรู้สิ่งที่เกิดมีแล้วที่กายใจ ไม่ได้ไปวอกแวกส่งไปรู้นอกกายใจ ที่มีแล้วดิ่งลงเป็น 1 ไม่ส่งไปไหน

กายไม่มีกายหายหมด แปลว่า ตัวตนเป็นสมมุติบัญญัติ ที่แยกชิ้นส่วนได้ ไม่ใช่สัจจะที่เป็นปรมัตถ์เป็นเอกคือ 1 เอกเป็น 1 สิ้นสุดแยกย่อยต่อไปอีกไม่ได้เลย รวมเป็นหนึ่ง หนึ่ง หนึ่ง มันแยกแต่ละ 1 อยู่แล้วแต่กิเลสตนปกปิดค่ะ

ต้องอาศัยคำสอนที่ค่อยเปิดเผยความจริงให้ปรากฏ ตอนกำลังมีสิ่งที่มีจริงๆ ที่กำลังปรากฏไม่ไปทำสิ่งที่ยังมิรู้

viewtopic.php?f=1&t=56209



คคห. นี้ ตัวเขาเป็นต้นเองจะไม่ทำสมาธิในชาตินี้ หากใครไปทำเข้าแล้วภาวนาไปๆ สภาวะอย่างหนึ่งอย่างใดปรากฏ เขาก็คิดไปว่านี่เป็นผลของกรรมนั่นนี่แต่อดีตชาติตามมาให้ผล แล้วอาจคิดฟุ้งซ่านไปถึงว่ามีเจ้ากรรมนายเวรภูตผีปีศาจมาทวงบุญทวงคุณอีก หนักเข้าก็จะมีการแก้กรรมตัดกรรมแถมเข้ามาอีก สรุปตอนนี้ว่า เขาจะแก้ปัญหาอะไรไม่ได้เลย เพราะมันเป็นกรรมแต่ปางก่อนแก้ไขทำอะไรไม่ได้แล้ว มันเป็นเวรเป็นกรรม เหมือนนักกรรมเก่าคนหนึ่งว่าเธอต้องแก้กรรมด้วยการให้ผู้ชายซั่มสามที คิกๆๆ จึงจะหมดกรรม สบายไป :b32:

ต่อไป ทั้งๆที่มันเป็นเรื่องของกายของใจนั่นแหละ แต่เขาคิดผิดว่ามันไม่ใช่กายใจ (กาย = รูป, ใจ = นาม) มันเป็นเรื่องของรูปของนามทั้งเพ ก็แสดงให้เห็นอีกว่า เขาไม่เข้าใจ กาย กับ ใจอีก ก็แสดงให้เห็นอีกว่า ไม่เข้าใจพระพุทธศาสนาด้วย จึงสรุปได้อีกว่า เสียเวลาเปล่า :b13:



คนที่รู้จริงไม่ติดนั่งสมาธิ เพราะกายหายหมด ไม่ส่งออกไปเห็นอะไรเลย
ดิ่งแน่วลงรวมสงบเลย เป็นผลของกรรม ที่สะสมปัญญา จากการฟังแต่อดีตชาติมาให้ผล[/u]นะคะ


เจ้าสำนักบ้านธัมมะ คิดสอนแบบนิครนถ์ ไม่ว่าจะเรื่องกรรม เรื่องกรรมฐาน

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 20 ส.ค. 2018, 10:02 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ศิษย์บ้านธัมมะคิดอย่างนี้ไม่มีวันปฏิบัติกรรมฐานได้

อ้างคำพูด:

Rosarin
การนั่งสมาธิหลับตามีมาก่อนพระพุทธเจ้าตรัสรู้
ไม่เข้าใจว่าพระพุทธเจ้าสอนความจริงเดี๋ยวนี้ที่มีแล้ว
ไม่ต้องไปไหนไม่ต้องไปทำอะไรก็มีแล้วแต่ไม่รู้ว่ามีแล้ว
มีแต่ทำตามเคยชินตามประเพณีทำตามๆกันด้วยความไม่รู้
ไม่เคยศึกษาคำสอนที่แท้จริงมัวแต่เชื่อและทำตามๆกันบวชชีงี้
ชีพราหมณ์งี้ครั้งพุทธกาลลัทธิต่างๆนุ่งห่มแบบชีพราหมณ์เยอะเลย

ทำไมถึงสอนชาวบ้านทำตามๆกันแบบผิดๆเข้าใจว่าตถาคตสอนทำสมาธิแบบหลับตางั้นหรือ
ตถาคตตรัสรู้ความจริงที่ทุกคนมีแล้วไม่ต้องทำเข้าใจไหมหลงผิดทำตามๆกันไม่ฟังเลยขาดปัญญา

อะไรจะปรากฏให้รู้เป็นนิมิตต่างๆล้วนเป็นผลของกรรมเก่า
เข้าใจไหมคะว่าจิตเกิดดับเร็วกว่าความคิดหลงยึดถือตัวตน
พาตัวตนไปนั่งทำอะไรแค่กะพริบตาไม่รู้ทุกอย่างที่มีแล้วด้วย
เพราะไม่ได้กำลังคิดถูกตามคำสอนตรงความจริงที่กำลังมีก่อนดับ
เอาอะไรมาเป็นปัญญาเพราะปัญญาเริ่มเกิดเมื่อเริ่มฟังส่วนสัญญามีตลอด
เดี๋ยวนี้เลยกำลังมีอวิชชาเพราะไม่รู้จักว่าจิตที่กำลังเกิดดับน่ะมีแล้วที่กายใจตนเอง
แต่ไม่เคยคิดตามคำสอนตรงๆตามเสียงทีละ1คำในภาษาที่เข้าใจความหมายตรงๆคร่าาา
เช่นเห็นก็คิดคำว่าเห็นตรงกับที่กำลังลืมตาเห็นแปลว่ากำลังมีจิตเห็นและจิตอื่นครบแล้ว6ทาง
แต่เป็นมิจฉาตลอดเพราะขาดการฟังลืมคำสอนเสมอไม่เคยจำว่าจิตกำลังเห็นอะไรจำแต่ชื่อคนสัตว์วัตถุ
จำแต่อดีตสีคือนิมิตที่แรากฏไม่รู้เลยว่าตนเองไม่รู้ความจริงของสิ่งที่กำลังมีว่ากำลังเกิดดับมีอุปาทานขันธ์

viewtopic.php?f=1&t=55528&p=425193#p425193

เอามารวมกันไว้ด้วยกันสะ :b32:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 20 ส.ค. 2018, 10:05 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ศิษย์บ้านธัมมะคิดอย่างนี้ไม่มีวันปฏิบัติกรรมฐานได้

สรุปได้อีกครั้งว่า สำนักบ้านธัมมะ เป็นธรรมะเลียนแบบอย่างว่าไว้ เป็นความคิดแบบนิครนถ์ สมมติไปแนะนำให้สาวกทำกรรมฐาน บอกได้เลยว่า เพี้ยนทั้งสำนัก :b32: เรียนอภิธรรมต้นแบบจากสำนัก อ.แนบ อ้อมน้อย

เจ้าของ:  Rosarin [ 20 ส.ค. 2018, 10:17 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ศิษย์บ้านธัมมะคิดอย่างนี้ไม่มีวันปฏิบัติกรรมฐานได้

กรัชกาย เขียน:
สรุปได้อีกครั้งว่า สำนักบ้านธัมมะ เป็นธรรมะเลียนแบบอย่างว่าไว้ เป็นความคิดแบบนิครนถ์ สมมติไปแนะนำให้สาวกทำกรรมฐาน บอกได้เลยว่า เพี้ยนทั้งสำนัก :b32: เรียนอภิธรรมต้นแบบจากสำนัก อ.แนบ อ้อมน้อย

cool
เพราะไม่มีปัญญาไหนทั้งจักรวาลเลยนะนอกจากทศพลญาณที่รู้ว่าเห็นเพียงสีจึงต้องฟังดับมิจฉาทิฏฐิค่ะ
:b32: :b32:
https://youtu.be/Ucgs0GXEoEY

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 20 ส.ค. 2018, 10:26 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ศิษย์บ้านธัมมะคิดอย่างนี้ไม่มีวันปฏิบัติกรรมฐานได้

Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
สรุปได้อีกครั้งว่า สำนักบ้านธัมมะ เป็นธรรมะเลียนแบบอย่างว่าไว้ เป็นความคิดแบบนิครนถ์ สมมติไปแนะนำให้สาวกทำกรรมฐาน บอกได้เลยว่า เพี้ยนทั้งสำนัก :b32: เรียนอภิธรรมต้นแบบจากสำนัก อ.แนบ อ้อมน้อย

cool
เพราะไม่มีปัญญาไหนทั้งจักรวาลเลยนะนอกจากทศพลญาณที่รู้ว่าเห็นเพียงสีจึงต้องฟังดับมิจฉาทิฏฐิค่ะ
:b32: :b32:
https://youtu.be/Ucgs0GXEoEY


ชัดเจนเข้าใจผิดจริงๆ ทั้งคุณโรสทั้้งเจ้าสำนัก

แบบเขาหมายถึง รูป ตัวอย่าง ตา เห็น รูป (สี) หูได้ยินเสียง จมูกได้กลิ่น ฯลฯ แต่คุณโรสเลอะไปโน่น

เขาจัดตามอายตนะภายใน กับ อายตนะภายนอก

เจ้าของ:  Rosarin [ 20 ส.ค. 2018, 10:44 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ศิษย์บ้านธัมมะคิดอย่างนี้ไม่มีวันปฏิบัติกรรมฐานได้

กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
สรุปได้อีกครั้งว่า สำนักบ้านธัมมะ เป็นธรรมะเลียนแบบอย่างว่าไว้ เป็นความคิดแบบนิครนถ์ สมมติไปแนะนำให้สาวกทำกรรมฐาน บอกได้เลยว่า เพี้ยนทั้งสำนัก :b32: เรียนอภิธรรมต้นแบบจากสำนัก อ.แนบ อ้อมน้อย

cool
เพราะไม่มีปัญญาไหนทั้งจักรวาลเลยนะนอกจากทศพลญาณที่รู้ว่าเห็นเพียงสีจึงต้องฟังดับมิจฉาทิฏฐิค่ะ
:b32: :b32:
https://youtu.be/Ucgs0GXEoEY


ชัดเจนเข้าใจผิดจริงๆ ทั้งคุณโรสทั้้งเจ้าสำนัก

แบบเขาหมายถึง รูป ตัวอย่าง ตา เห็น รูป (สี) หูได้ยินเสียง จมูกได้กลิ่น ฯลฯ แต่คุณโรสเลอะไปโน่น

เขาจัดตามอายตนะภายใน กับ อายตนะภายนอก

:b12:
เขียนภาษาที่อ่านแล้วเข้าใจเลยดีกว่าไหม
อายตนะคือที่ประชุมรวมกันครบ6ทางคือ
กายใจตนเองกำลังมีอายตนะก็ไม่รู้คือมีจิต
ถ้าไม่มีจิตแปลว่าตายอะไรอะไรจะมีได้ไหม
จิตเห็นสี/ตาไม่เห็นค่ะ/ตาแค่กระทบรูปสีเป็นจิตเห็นสี
:b32: :b32:

เจ้าของ:  Rosarin [ 20 ส.ค. 2018, 10:53 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ศิษย์บ้านธัมมะคิดอย่างนี้ไม่มีวันปฏิบัติกรรมฐานได้

Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
สรุปได้อีกครั้งว่า สำนักบ้านธัมมะ เป็นธรรมะเลียนแบบอย่างว่าไว้ เป็นความคิดแบบนิครนถ์ สมมติไปแนะนำให้สาวกทำกรรมฐาน บอกได้เลยว่า เพี้ยนทั้งสำนัก :b32: เรียนอภิธรรมต้นแบบจากสำนัก อ.แนบ อ้อมน้อย

cool
เพราะไม่มีปัญญาไหนทั้งจักรวาลเลยนะนอกจากทศพลญาณที่รู้ว่าเห็นเพียงสีจึงต้องฟังดับมิจฉาทิฏฐิค่ะ
:b32: :b32:
https://youtu.be/Ucgs0GXEoEY


ชัดเจนเข้าใจผิดจริงๆ ทั้งคุณโรสทั้้งเจ้าสำนัก

แบบเขาหมายถึง รูป ตัวอย่าง ตา เห็น รูป (สี) หูได้ยินเสียง จมูกได้กลิ่น ฯลฯ แต่คุณโรสเลอะไปโน่น

เขาจัดตามอายตนะภายใน กับ อายตนะภายนอก

:b12:
เขียนภาษาที่อ่านแล้วเข้าใจเลยดีกว่าไหม
อายตนะคือที่ประชุมรวมกันครบ6ทางคือ
กายใจตนเองกำลังมีอายตนะก็ไม่รู้คือมีจิต
ถ้าไม่มีจิตแปลว่าตายอะไรอะไรจะมีได้ไหม
จิตเห็นสี/ตาไม่เห็นค่ะ/ตาแค่กระทบรูปสีเป็นจิตเห็นสี
:b32: :b32:

:b12:
ฟังพระพุทธพจน์ก่อนไม่มีจิตนะคะ
จิตเห็นค่ะ
ลูกกะตาไม่ได้เห็นค่ะ
คนตาบอดก็มีลูกกะตาค่ะแต่ไม่เห็น
เพราะรูปพิเศษตรงกลางตาเป็นรูปที่เกิดจากกรรมจึงทำให้ตาไม่บอด
https://youtu.be/Ucgs0GXEoEY
:b4: :b4:

หน้า 1 จากทั้งหมด 5 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/