ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

พูดบ่อย สังขารุเบกขาญาณบ้าง สัมมาสมาธิบ้างเป็นต้น
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=56133
หน้า 1 จากทั้งหมด 8

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 30 มิ.ย. 2018, 13:17 ]
หัวข้อกระทู้:  พูดบ่อย สังขารุเบกขาญาณบ้าง สัมมาสมาธิบ้างเป็นต้น

กบนอกกะลาพูดบ่อย คือไปเอาคำพูดใครมาไม่รู้แล้วมาอ้างเป็นคำพระสอน พระสอนให้คนเกียจคร้าน สอนให้คนขี้เกียจทำงาน ถ้าเป็นพระจริงๆอย่างกบพูดอ้าง พระองค์นี้เลอะแล้ว ควรส่งเข้าถ้ำหลวงสะให้เข็ด


อ้างคำพูด:
กบนอกกะลา เขียน:

คำพระสอน..

"การตั้งอารมณ์พระนิพพานที่ถูก ต้องพิจารณาเข้าหาทุกข์ของการทำงานให้มาก โดยเห็นโทษของการมีขันธ์ ๕ เป็นเหตุให้ต้องทำงาน จุดนี้จักทำให้เกิดนิพพิทาญาณในงาน ทำให้ละขันธ์ ๕ ได้ง่าย ดังนั้นวิปัสสนาญาณ ๙ ต้องหมั่นทบทวนพิจารณาให้จิตรู้ความจริงแล้วยอมรับ
และให้คอยระวังอารมณ์เศร้าหมองหดหู่ จักต้องลงตัวธรรมดาจนชิน เป็นสังขารุเบกขาญาณให้ได้

(หมายความว่า เห็นการทำงานทางโลกไม่เที่ยง ทำให้เกิดทุกข์ เป็นของธรรมดาจิตพร้อมที่จะปล่อยวางงานทุกชนิดได้ทันทีเมื่อกายพัง จิตพร้อมไปนิพพานได้เสมอรู้ลม รู้ตาย รู้นิพพาน คือทางลัดที่จำเป็นจะต้องซ้อมและพร้อมอยู่เสมอ)"

การหมั่นพิจารณาในบทธรรม..โดยเฉพาะอารมณ์ในวิปัสสนาญาณ 9. (พิจารณาในอารมณ์ 9... เกิดอารมณ์ใน 9 )..ก็เสมือนได้ฟังคำพระศาสดานั้นแหละคุณโรส...อย่ารอแค่ตอนฟังอย่างเดียว...หนึ่งวันคุณโรสจะฟังได้กี่ชั่วโมงกัน?
viewtopic.php?f=1&t=56020&p=421343#p421343


เจ้าของ:  กรัชกาย [ 30 มิ.ย. 2018, 13:22 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พูดบ่อย สังขารุเบกขาญาณบ้าง สัมมาสมาธิบ้างเป็นต้น

พูดทำนองใครคนหนึ่ง ไม่ต้องมีมันแล้วชีวิต คือ ไม่ต้องมีมันแล้วขันธ์ ๕ ตายสะจะได้ไม่ต้องทำฮาน คิกๆๆ

พูดไปพืดมาโยงไปสังขารุเบกขาญาณโน่นเลย จะไปนิพพานทางลัดด้วย ป๊าดติเถเถนา :b32:

กบไปศึกษาหลักพระพุทธศาสนาเถอะขอรับ กรัชกายอายแทนจริงๆ แต่ไม่รู้จะทำยังไงได้ จึงได้แต่หน้าด้านทนดูทนอ่านอยู่เนี่ย :b13:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 30 มิ.ย. 2018, 13:28 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พูดบ่อย สังขารุเบกขาญาณบ้าง สัมมาสมาธิบ้างเป็นต้น

พูดอ้างถึง สังขารุเปกขาญาณ ซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดาวิปัสสนาญาณ 9 มาดูกัน


วิปัสสนาญาณ 9 มี ดังนี้

1. อุทยัพพยานุปัสสนา หรือเรียกสั้นๆว่า อุทยัพพยญาณ ญาณหรือปัญญา อันตามเห็นความเกิดดับ คือ พิจารณาความเกิดขึ้นและความดับไปแห่งเบญจขันธ์ จนเห็นปัจจุบันธรรมที่กำลังเกิดขึ้น และดับสลายไปๆ ชัดเจน เข้าใจภาวะที่เป็นของไม่เที่ยง ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ ไม่อยู่ในบังคับบัญชาตามความอยากของใคร หยั่งทราบว่า สิ่งทั้งหลาย เกิดขึ้น ครั้นแล้ว ก็ต้องดับไป ล้วนเกิดขึ้นแล้วก็ดับไปทั้งหมด เมื่อเกิดการรับรู้ หรือเคลื่อนไหวใดๆ ในแต่ละขณะ ก็มองเห็นนามธรรม รูปธรรม และตัวรู้หรือผู้รู้ที่เกิดขึ้นแล้วทั้งรูปธรรม นามธรรม และตัวรู้นั้นก็ดับไปพร้อมกันทั้งหมด เป็นความรู้เห็นชัดแก่กล้า (พลววิปัสสนา) ทำให้ละนิจจสัญญา สุขสัญญา และอัตตสัญญาได้

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 30 มิ.ย. 2018, 13:33 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พูดบ่อย สังขารุเบกขาญาณบ้าง สัมมาสมาธิบ้างเป็นต้น

2. ภังคานุปัสสนาญาณ เรียกสั้นๆ ว่า ภังคญาณ ญาณอันตามเห็นความสลาย คือ เมื่อเห็นความเกิดดับเช่นนั้น ชัดเจนถี่เข้าๆ ก็จะคำนึงเห็นเด่นชัด ในส่วนความดับที่เป็นจุดจบสิ้น มองเห็นแต่อาการที่สิ่งทั้งหลายดับไปๆ เห็นว่าสิ่งทั้งหลายทั้งปวง ล้วนจะต้องดับสลายไปทั้งหมด

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 30 มิ.ย. 2018, 13:38 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พูดบ่อย สังขารุเบกขาญาณบ้าง สัมมาสมาธิบ้างเป็นต้น

3. ภยตูปัฏฐานญาณ เรียกสั้นว่า ภยญาณ ญาณอันมองเห็นสังขารปรากฏเป็นของน่ากลัว คือ เมื่อพิจารณาเห็นแต่ความแตกสลาย อันมีแก่สิ่งทั้งปวงหมดทุกอย่างเช่นนั้นแล้ว สังขารทั้งปวงไม่ว่าจะเป็นไปในภพใดคติใด ก็ปรากฏเป็นของน่ากลัว เพราะล้วนแต่จะต้องแตกสลายไป ไม่ปลอดภัยทั้งสิ้น

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 30 มิ.ย. 2018, 13:39 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พูดบ่อย สังขารุเบกขาญาณบ้าง สัมมาสมาธิบ้างเป็นต้น

4. อาทีนวานุปัสสนาญาณ เรียกสั้นว่า อาทีนวญาณ ญาณอันคำนึงเห็นโทษ คือ เมื่อพิจารณาเห็นสังขารทั้งปวง ล้วนต้องแตกสลายไป เป็นของน่ากลัว ไม่ปลอดภัยทั้งสิ้นแล้ว ย่อมคำนึงเห็นสังขารทั้งปวงนั้นว่าเป็นโทษ เป็นสิ่งที่มีความบกพร่อง จะต้องระคนอยู่ด้วยทุกข์

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 30 มิ.ย. 2018, 13:43 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พูดบ่อย สังขารุเบกขาญาณบ้าง สัมมาสมาธิบ้างเป็นต้น

5. นิพพิทานุปัสสนาญาณ เรียกสั้นว่า นิพพิทาญาณ ญาณอันคำนึงเห็นความหน่าย คือ เมื่อพิจารณาเห็นสังขารว่าเป็นโทษเช่นนั้นแล้ว ย่อมเกิดความหน่าย ไม่เพลิดเพลินติดใจ

รูปภาพ


จงกรม เดินไปมาโดยมีสติกำกับ (รู้ตัวขณะเดินๆ ไม่ใช่สักแต่เดิน)

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 30 มิ.ย. 2018, 13:45 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พูดบ่อย สังขารุเบกขาญาณบ้าง สัมมาสมาธิบ้างเป็นต้น

6. มุญจิตุกัมยตาญาณ ญาณหยั่งรู้ที่ทำให้ต้องการจะพ้นไปเสีย คือ เมื่อหน่ายสังขารทั้งหลายแล้ว ย่อมปรารถนาที่จะพ้นไปเสียจากสังขารเหล่านั้น


รูปภาพ

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 30 มิ.ย. 2018, 13:47 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พูดบ่อย สังขารุเบกขาญาณบ้าง สัมมาสมาธิบ้างเป็นต้น

7. ปฏิสังขานุปัสสนาญาณ หรือ ปฏิสังขาญาณ ญาณอันพิจารณาทบทวนเพื่อให้เห็นทาง คือ เมื่อต้องการจะพ้นไปเสีย จึงกลับหันไปยกเอาสังขารทั้งหลายขึ้นมาพิจารณากำหนดด้วยไตรลักษณ์ เพื่อมองอุบายที่จะปลดเปลื้องออกไป

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 30 มิ.ย. 2018, 13:50 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พูดบ่อย สังขารุเบกขาญาณบ้าง สัมมาสมาธิบ้างเป็นต้น

8. สังขารุเปกขาญาณ ญาณอันเป็นไปโดยความเป็นกลางต่อสังขาร คือ เมื่อพิจารณาสังขารทั้งหลายต่อไป ย่อมเกิดความรู้เห็นสภาวะของสังขารตามเป็นจริงว่า มันก็เป็นอยู่เป็นไปของมันอย่างนั้นเป็นธรรมดา หรือ เป็นธรรมดาของมันอย่างนั้นเอง จึงวางใจเป็นกลางทำเฉยได้ ไม่ยินดียินร้าย ไม่ขัดใจติดใจในสังขารทั้งหลาย แต่นั้นก็มองเห็นนิพพานเป็นสันติบท ญาณจึงโน้มน้อมที่จะมุ่งแล่นไปยังนิพพาน เลิกละความเกี่ยวเกาะกับสังขารทั้งหลาย ญาณข้อนี้ จัดเป็นสิขาปปัตตวิปัสสนา คือ วิปัสสนาที่ถึงจุดสุดยอด และเป็นวุฏฐานคามินีวิปัสสนา คือ วิปัสสนาที่เชื่อมถึงมรรค อันเป็นที่ออกจากสิ่งที่ยึด หรือออกจากสังขาร

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 30 มิ.ย. 2018, 13:54 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พูดบ่อย สังขารุเบกขาญาณบ้าง สัมมาสมาธิบ้างเป็นต้น

9. สัจจานุโลมิกญาณ หรือ อนุโลมญาณ ญาณอันเป็นไปโดยอนุโลมแก่การหยั่งรู้อริยสัจ คือ เมื่อวางใจเป็นกลางต่อสังขารทั้งหลาย ไม่พะวง และญาณก็โน้มน้อมแล่นมุ่งตรงสู่นิพพานแล้ว ญาณอันคล้อยต่อการตรัสรู้อริยสัจ ย่อมเกิดขึ้นในลำดับถัดไป
เป็นขั้นสุดท้ายของวิปัสสนาญาณ

ต่อจากอนุโลมญาณ ก็จะเกิด โคตรภูญาณ (ญาณครอบโคตร คือ ญาณที่เป็นหัวต่อ ระหว่างภาวะปุถุชน กับ ภาวะอริยบุคคล) มาคั่นกลาง แล้วจึงเกิดมรรคญาณ ให้สำเร็จความเป็นอริยบุคคลต่อไป


โคตรภูญาณนี้ ท่านว่าอยู่ระหว่างกลาง ไม่จัดเข้าในวิสุทธิ ไม่ว่าข้อ 6 หรือ ข้อ 7 แต่ให้นับเข้าเป็นวิปัสสนาได้เพราะอยู่ในกระแสของวิปัสสนา

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 30 มิ.ย. 2018, 13:55 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พูดบ่อย สังขารุเบกขาญาณบ้าง สัมมาสมาธิบ้างเป็นต้น

โสฬสญาณ, วิสุทธิ ๗ ก็ครอบนี้แหละ กบสนใจก็บอก จะจัดให้

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 30 มิ.ย. 2018, 14:04 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พูดบ่อย สังขารุเบกขาญาณบ้าง สัมมาสมาธิบ้างเป็นต้น

ดูความคิดเขาซี่

(หมายความว่า เห็นการทำงานทางโลกไม่เที่ยง ทำให้เกิดทุกข์ เป็นของธรรมดาจิตพร้อมที่จะปล่อยวางงานทุกชนิดได้ทันทีเมื่อกายพัง จิตพร้อมไปนิพพานได้เสมอรู้ลม รู้ตาย รู้นิพพาน คือทางลัดที่จำเป็นจะต้องซ้อมและพร้อมอยู่เสมอ)"


ก็คนมันตายห่าเข้าโลงไปแล้ว จะมาทำงานห่วงฮานอะไรอีก

ดูๆก็เหมือนกบคิดเองนะ ไม่ใช่พระที่ไหนหรอก เพราะไปสอดคล้องกับกระทู้พิจารณาความตายที่กบตั้งที่ลานโน่น

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 30 มิ.ย. 2018, 19:51 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พูดบ่อย สังขารุเบกขาญาณบ้าง สัมมาสมาธิบ้างเป็นต้น

กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลาพูดบ่อย คือไปเอาคำพูดใครมาไม่รู้แล้วมาอ้างเป็นคำพระสอน พระสอนให้คนเกียจคร้าน สอนให้คนขี้เกียจทำงาน ถ้าเป็นพระจริงๆอย่างกบพูดอ้าง พระองค์นี้เลอะแล้ว ควรส่งเข้าถ้ำหลวงสะให้เข็ด


อ้างคำพูด:
กบนอกกะลา เขียน:

คำพระสอน..

"การตั้งอารมณ์พระนิพพานที่ถูก ต้องพิจารณาเข้าหาทุกข์ของการทำงานให้มาก โดยเห็นโทษของการมีขันธ์ ๕ เป็นเหตุให้ต้องทำงาน จุดนี้จักทำให้เกิดนิพพิทาญาณในงาน ทำให้ละขันธ์ ๕ ได้ง่าย ดังนั้นวิปัสสนาญาณ ๙ ต้องหมั่นทบทวนพิจารณาให้จิตรู้ความจริงแล้วยอมรับ
และให้คอยระวังอารมณ์เศร้าหมองหดหู่ จักต้องลงตัวธรรมดาจนชิน เป็นสังขารุเบกขาญาณให้ได้

(หมายความว่า เห็นการทำงานทางโลกไม่เที่ยง ทำให้เกิดทุกข์ เป็นของธรรมดาจิตพร้อมที่จะปล่อยวางงานทุกชนิดได้ทันทีเมื่อกายพัง จิตพร้อมไปนิพพานได้เสมอรู้ลม รู้ตาย รู้นิพพาน คือทางลัดที่จำเป็นจะต้องซ้อมและพร้อมอยู่เสมอ)"

การหมั่นพิจารณาในบทธรรม..โดยเฉพาะอารมณ์ในวิปัสสนาญาณ 9. (พิจารณาในอารมณ์ 9... เกิดอารมณ์ใน 9 )..ก็เสมือนได้ฟังคำพระศาสดานั้นแหละคุณโรส...อย่ารอแค่ตอนฟังอย่างเดียว...หนึ่งวันคุณโรสจะฟังได้กี่ชั่วโมงกัน?
viewtopic.php?f=1&t=56020&p=421343#p421343



นิสัยขี้ตู่...บิดเบื่อน..ใส่ร้าย...เป็นกรรมของเจ้าเอง....

ตามสบาย...

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 30 มิ.ย. 2018, 20:01 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พูดบ่อย สังขารุเบกขาญาณบ้าง สัมมาสมาธิบ้างเป็นต้น

อาการของคนที่มีสมาธิขณะหลับ....ต่างกับคนหลับไม่มีสมาธิ..ยังงัยหรือ?..

เห็นว่า ตย. ที่กักกายยกมา..กักกายคิดว่าเขามีสมาธิขณะหลับ...ก็เลยอยากรู้..ว่ากักกายรู้จริงป้าว?

:b1: :b1: :b1:

หน้า 1 จากทั้งหมด 8 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/