วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 14:48  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 13 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2018, 13:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




Image-1988.jpg
Image-1988.jpg [ 53.48 KiB | เปิดดู 2243 ครั้ง ]
มัชฌิมาปฏิปทาไม่เอียงเข้าใกล้ที่สุด ๒ ประการนี้ที่ตถาคตได้ตรัสรู้ อันเป็น
ปฏิปทาก่อให้เกิดจักษุ ก่อให้เกิดญาณ เป็นไปเพื่อสงบระงับ เพื่อรู้ยิ่ง เพื่อตรัสรู้
เพื่อนิพพาน
มัชฌิมาปฏิปทาที่ตถาคตได้ตรัสรู้ อันเป็นปฏิปทาก่อให้เกิดจักษุ ก่อให้เกิด
ญาณ เป็นไปเพื่อสงบระงับ เพื่อรู้ยิ่ง เพื่อตรัสรู้ เพื่อนิพพานนั้น เป็นอย่างไร
คือ อริยมรรคมีองค์ ๘ นี้แล ได้แก่
๑. สัมมาทิฏฐิ ๒. สัมมาสังกัปปะ
๓. สัมมาวาจา ๔. สัมมากัมมันตะ
๕. สัมมาอาชีวะ ๖. สัมมาวายามะ
๗. สัมมาสติ ๘. สัมมาสมาธิ

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2018, 07:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




Image-4652.jpg
Image-4652.jpg [ 54.11 KiB | เปิดดู 2086 ครั้ง ]
ฌานจิต วิตก, วิจาร, ปีจิ, สุข, เอกัคคตา,

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2018, 20:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




Image-8398.jpg
Image-8398.jpg [ 85.42 KiB | เปิดดู 2197 ครั้ง ]
กิเลส ๑๐ เหล่านี้ จำแนกกิเลสออกตามอาการของกิเลส ก็จำแนกได้ ๓ พวกคือ

(๑) อนุสยกิเลส ได้แก่กิเลสที่ตามนอนเนื่องอยู่ในสันดาน หมายความว่า กิเลสจำพวกนี้นอนสงบนิ่งอยู่ ยังไม่ได้ลุกขึ้นมาแผลงฤทธิ์ ซึ่งตัวเองก็ไม่สามารถรู้ได้ และคนอื่นก็ไม่สามารถรู้ได้

(๒) ปริยุฏฐานกิเลส ได้แก่กิเลสที่เกิดอยู่ภายใน หมายความว่า กิเลสจำพวกนี้เกิดอยู่ใน มโนทวารเท่านั้น คือ ลุกขึ้นมาแผลงฤทธิ์อยู่ในใจ ยังไม่ถึงกับ แสดงออกมาทางวาจาหรือทางกาย ซึ่งตัวเองรู้ ส่วนคนอื่นบางที ก็รู้บางทีก็ไม่รู้

(๓) วีติกกมกิเลส ได้แก่กิเลสที่เกิดขึ้นภายนอก หมายความว่า กิเลสจำพวกนี้ได้ล่วง ออกมาแล้วถึงกายทวารหรือวจีทวาร อันเป็นการลุกขึ้นมาแผลงฤทธิ์ อย่างโจ่งแจ้ง

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2018, 06:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




Image-6942.jpg
Image-6942.jpg [ 73.51 KiB | เปิดดู 2177 ครั้ง ]
มรรค ๔ ที่นำไปสู่อบาย

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2018, 07:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




Image-2039.jpg
Image-2039.jpg [ 79.75 KiB | เปิดดู 2119 ครั้ง ]
พรหมวิหาร ๔
เมตตา, กรุณา, มุฑิตา, อุเบกขา,

ชื่อว่า ตัตรมัชฌัตตตา ตัตรมัชฌัตตตานั้น มีการทรงไว้ซึ่งจิตและเจตสิกให้เสมอกันเป็นลักษณะ มีการห้ามจิตและเจตสิกไม่ให้ยิ่งและหย่อนเป็นรส หรือมีการตัดขาดจากการตกไปในฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นรส มีความเป็นกลางเป็นปัจจุปัฏฐาน ด้วยอำนาจแห่งความวางเฉยต่อจิตและเจตสิก (และมีสัมปยุตตธรรมเป็นปทัฏฐาน) ตัตรมัชฌัตตตานี้ พึงเห็นเหมือนสารถีผู้วางเฉยต่อม้าอาชาไนยทั้งหลายที่วิ่งไปเรียบร้อย ฉะนั้น. ในชีวิตประจำวันตัตรมัชฌัตตา เมื่อกุศลจิตเกิดขึ้น เมื่อเป็นกุศลในขณะนั้น จึงเป็นกลาง เป็นผู้วางใจเป็นกลางในขณะนั้นด้วยตัตตรมัชฌัตตตาเจตสิกด้วยกุศลจิต อย่างเช่น อุเบกขาบารมี ความเป็นผู้วางเฉย เป็นกลางในสิ่งที่ดีหรือไม่ดี เป็นผู้มีจิตเสมอกัน คือ ไม่หวั่นไหวไปด้วยความชอบในสิ่งที่ดีและไม่ชอบ (เป็นโทสะ) ในสิ่งที่ไม่ดี ด้วยกุศลจิตที่เป็นตัตตรมัชฌัตตตาเจตสิก หรือ มีปัญญา เข้าใจความจริงว่า สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของ ๆ ตน จึงวางเฉย ไม่หวั่นไหวไปในเมื่อสัตว์ได้รับความเดือดร้อน จึงมีใจเป็นกลางด้วยตัตตรมัชฌัตตตาเจตสิก ครับ ขออนุโมทนา

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2018, 10:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




20180626_102323.jpg
20180626_102323.jpg [ 177.36 KiB | เปิดดู 2109 ครั้ง ]
กายุชุกตา มีในสมัยนั้น เป็นไฉน?
ความตรง กิริยาที่ตรง ความไม่คด ความไม่โค้ง ความไม่งอ แห่งเวทนาขันธ์
สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ ในสมัยนั้น อันใด นี้ชื่อว่า กายุชุกตา มีในสมัยนั้น.

จิตตุชุกตา มีในสมัยนั้น เป็นไฉน?
ความตรง กิริยาที่ตรง ความไม่คด ความไม่โค้ง ความไม่งอ แห่งวิญญาณขันธ์ ใน
สมัยนั้น อันใด นี้ชื่อว่า จิตตุชุกตา มีในสมัยนั้น.

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2018, 11:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




Image-4160.jpg
Image-4160.jpg [ 98.51 KiB | เปิดดู 2103 ครั้ง ]
สัมมาวาจา, สัมมากัมมันตะ, สัมมาอาชีวะ,
ทั้ง ๓ เป็นองค์ของศีล
ที่วิรตีเจตสิก ๓ ดวงมี สัมมาวาจา, สัมมากัมมันตะ, สัมมาอาชีว,

สัมมาวาจา มีวจนัตถะว่า :-

วิรตี ที่ชื่อว่า สัมมาวาจา เพราะอรรถว่า เป็นเครื่องกล่าวโดยชอบ แห่งบุคคล ได้แก่ ความงดเว้นจากวจีทุจริต ฯ สัมมาวาจา นั้น มี ๔ อย่าง คือ เจตนา เครื่องงดเว้น จากการพูดเท็จ ๑, เจตนา เครื่องงดเว้น จากการพูดส่อเสียด ๑, เจตนา เครื่องงดเว้น จากการ พูดคำหยาบ ๑, เจตนา เครื่องงดเว้น จากการพูดเพ้อเจ้อ ๑ ฯ

สัมมากัมมันตะ มีวจนัตถะว่า :-

กรรมนั่นเอง ชื่อว่า กัมมันตะ ดุจคำทั้งหลายมีคำว่า สุตตันตะ (สุตต กับ อันตะ) และ วนันตะ (วนะ กับ อันตะ) เป็นต้น ฯ กัมมันตะ (การงาน) โดยชอบ ชื่อว่า สัมมากัมมันตะ ได้แก่เจตนาเครื่องงดเว้น จากกายทุจริต ฯ การงดเว้นจากกายทุจริตนั้น มี ๓ อย่าง คือ เจตนาเครื่องงดเว้นจากการทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วง ไป ๑, เจตนาเครื่องงดเว้นจากการถือเอาสิ่งของที่เขามิได้ให้ ๑, เจตนาเครื่องงดเว้นจากความประพฤติผิดในกามทั้งหลาย ๑ ฯ

สัมมาอาชีวะ มีวจนัตถะว่า :-

ธรรม ที่ชื่อว่า สัมมาอาชีวะ เพราะอรรถว่า เป็นเครื่องดำรงชีพโดยชอบ แห่งสัตว์ทั้งหลาย ได้แก่ เจตนาเครื่องงดเว้นจาก มิจฉาชีพ ฯ ก็สัมมาอาชีวะนั้น มี ๗ อย่าง ด้วยอำนาจการงดเว้นจากกายทุจริต ๓, วจีทุจริต ๔ ซึ่งมีอาชีพเป็นเหตุ หรือว่า มีมาก อย่าง ด้วยอำนาจการงดเว้นจากมิจฉาชีพ มี กุหนา (หลอกลวง) ลปนา (พูดประจบ) เป็นต้น* ฯ วิรตีทั้ง ๓ นี้ แต่ละอย่าง ก็มี ๓ อย่าง ด้วยอำนาจ สัมปัตตวิรัติ (งดเว้นจากวัตถุที่ถึง เฉพาะหน้า) สมาทานวิรัติ (งดเว้นด้วยการสมาทาน) และ สมุจเฉทวิรัติ (งดเว้นด้วยการตัดขาด) ฯ เจตสิกทั้ง ๓ ชื่อว่า วิรตี เพราะการเว้นจากทุจริตตามที่กล่าวแล้ว ฯ
* กุหนาและลปนานิเทศ ในอรรถกถา สัมโมหวิโนทนี แห่งวิภังคปกรณ์

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2018, 12:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




Image-1985.jpg
Image-1985.jpg [ 76.97 KiB | เปิดดู 2095 ครั้ง ]
สัมมาสติ, สัมมาสมาธิ, สัมมาวิริยะ,

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2018, 12:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




Image-9197.jpg
Image-9197.jpg [ 85.52 KiB | เปิดดู 2091 ครั้ง ]
องค์ธรรมของปัญญา
สัมมาทิฏฐิ, สัมมาสังกัปปะ,))

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2018, 14:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




Image-9561.jpg
Image-9561.jpg [ 65 KiB | เปิดดู 2085 ครั้ง ]
เหตุ ๖
โลภเหตุ,โทสะเกตุ, โมหะเหตุ, อโลภเหตุ,อโทสเหตุ, อโมหเหตุ,

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2018, 17:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




Image-4056.jpg
Image-4056.jpg [ 60.45 KiB | เปิดดู 2046 ครั้ง ]
หยุด...,,.

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2018, 06:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




Image-5608.jpg
Image-5608.jpg [ 69.24 KiB | เปิดดู 1986 ครั้ง ]
สัพพจิตตสาธาณะเจตสิก

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2018, 09:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




20090127163247_p4_02_2.gif
20090127163247_p4_02_2.gif [ 42.6 KiB | เปิดดู 1961 ครั้ง ]
องค์ฌานละกิเลส

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 13 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 121 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร