ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ความเข้าใจโลกตามเป็นจริง http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=55738 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | Rosarin [ 21 เม.ย. 2018, 20:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | ความเข้าใจโลกตามเป็นจริง |
![]() หัวข้อนี้เพื่อเข้าใจธัมมะค่ะ ความเข้าใจโลกตามเป็นจริง ของธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6 โลกแปลว่าสิ่งที่เกิดดับ ขันธ์แปลว่าเกิดดับ อุปาทานขันธ์คือยึดมั่นถือมั่นขันธ์ว่าเป็นตัวตน ธัมมะของพระพุทธเจ้าเป็นการละไม่รู้เพื่อรู้ ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 22 เม.ย. 2018, 03:08 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความเข้าใจโลกตามเป็นจริง |
![]() คำสอนเป็นความจริงถึงที่สุดและเปลี่ยนแปลงไม่ได้ คือละเอียดยิ่งเป็นปรมัตถธรรมเป็นพระอภิธรรมและ เป็นปรมัตถสัจจะตรงความจริงตรง1คำต้องรู้ชัดตรง และเป็นปัจจุบันธรรมที่กำลังมีกำลังปรากฏว่ามีแล้ว ความเข้าใจตามเป็นจริงต้องตรงสัจจะที่ตนกำลังมี การส่งออกไปตามการมองเห็นเป็นอดีตไปแล้วค่ะ กรุณาทราบว่าคำสอนต้องศึกษาตรงคำตรงจริงที่ กำลังมีกำลังปรากฏซึ่งมีแล้วแต่ไม่รู้ว่ามีคือมีกิเลส กิเลสแปลว่าไม่รู้,อวิชชาแปลว่าความไม่รู้ความจริง ![]() ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 25 เม.ย. 2018, 05:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความเข้าใจโลกตามเป็นจริง |
Rosarin เขียน: Kiss หัวข้อนี้เพื่อเข้าใจธัมมะค่ะ ความเข้าใจโลกตามเป็นจริง ของธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6 โลกแปลว่าสิ่งที่เกิดดับ ขันธ์แปลว่าเกิดดับ อุปาทานขันธ์คือยึดมั่นถือมั่นขันธ์ว่าเป็นตัวตน ธัมมะของพระพุทธเจ้าเป็นการละไม่รู้เพื่อรู้ ![]() ความจริงที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงนั้น ทรงบอกละเอียดทุกอย่างทั้งถูกและผิด เพื่อป้องกันไม่ให้คิดต่อเอาเองต้องคิดตาม โดยตลอดการศึกษาจึงต้องอาศัยฟังการสนทนา ที่มีการอธิบายขยายความตรงตามที่ทรงแสดงไว้ใน ภาษาที่คนฟังเข้าใจตามได้ไม่ใช่การท่องในคำบาลีเลย เพราะคำวาจาสัจจะคิดเองหลงผิดทันที่ก็จิตเกิดดับรวดเร็ว ให้ทราบว่าเดี๋ยวนี้เองที่กำลังกะพริบจิตดับไปนับไม่ถ้วนครบ ทั้ง6ทางอายตนะไม่ขาดโลกทาง1ตา2หู3จมูก4ลิ้น5กาย6ใจ และมีใจเป็นประธานรับรู้สิ่งที่ปรากฏตั้งมั่นตรงทางอย่างยิ่ง แต่ไม่รู้ว่าพระองค์ตรัสแสดงความจริงที่ทุกคนมีแล้วให้เข้าใจถูก ว่าแต่ละลักษณะเกิดอย่างไรมีตัวธัมมะอะไรบ้างเกิดร่วมกัน เพื่อไม่ให้ไปคิดค้นขึ้นมาใหม่ต่างหากไปจากปกติเพราะ ความจริงกำลังปรากฏกับอวิชชาของผู้ที่กำลังเรียนรู้ สำหรับผู้รู้ความจริงปรากฏกับสติปัญญาตามเป็นจริง จงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมแม้สุตมยปัญญา คือปัญญาแรกที่เกิดและไม่ทำปัญญาขั้นการฟัง ปัญญาอื่นๆเกิดเพิ่มไม่ได้เพราะทุกปัญญาต้อง เจริญมาจากฟังคำของตถาคตแล้วรู้ตรงขณะ ก่อนสภาวะธรรมดับแค่กะพริบตาดับครบ6ทาง ประมาทไหมถ้ายังหลงคิดเองและไปทำโดยไม่ฟัง ให้เข้าใจความจริงที่กายใจตนกำลังมีอย่างมั่นคงก่อน เพราะทุกอย่างมีแล้วกำลังเกิดดับครบธาตุ4ขันธ์5อายตนะ6 ไม่ขาดแม้แต่ขณะเดียวขณะฟังนั้นเองที่คิดถูกตามคือปัญญา พอคิดเองลืมฟังคำสอนแปลว่าทำตามเคยชินที่เห็นทางตา การเห็นทางตาเนื้อเป็นความคิดตามเห็นผิดชื่อว่ามิจฉามรรค เริ่มเป็นสัมมามรรคเมื่อเริ่มคิดตามการฟังถูกตรงคำตรงจริง ที่ระลึกตามตรงคำตรงจริงที่กายใจตนกำลังมีคือจริงที่ตนมี ไม่ใช่ไปท่องจำบัญญัติคำยาวๆเกิน1คำนั่นคือสัญญา จงเพียรพยายามอดทนฟังเพื่อเข้าใจความจริงที่กำลังมี จนกว่าจะละจางคลายลงซึ่งความมีตัวตนคิดจะไปทำนั่นเอง ![]() ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 25 เม.ย. 2018, 05:17 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความเข้าใจโลกตามเป็นจริง |
![]() คำสอนของพระพุทธเจ้าไม่ใช่วิชาการเพื่อท่องจำ แต่เป็นการประจักษ์ความจริงที่กายใจตนกำลังมี ตรงตามที่กำลังฟังทันทีไม่เปลี่ยนตามกาลเวลา และต้องเป็นการเจริญของปัญญาตรงจริงคือฟัง เป็นการใช้สมาธิทางจิตได้ยินเท่านั้นไม่มีทางอื่น ให้ทราบว่าการอ่านคือจิตคิดนึกหลังเห็นดับและ เป็นการจำสัญลักษณ์ตัวอักษรเพื่อแปลความต่อ เลยขณะตามคำสอนไปแล้วต้องฟังเสียงตรงคิดคำ ทราบหรือไม่ปัญญาเกิดตามลำดับคือสุตะ-จินตะ-ภาวนะ คือการไตร่ตรองตามคำที่กำลังได้ยินอย่างถูกต้องตรงคำ คลิปวิดีโอไม่ใช่สภาพรู้แต่เป็นจิตผู้ดูเห็นแล้วคิดถูกตามได้ค่ะ ธาตุรู้ https://youtu.be/IJcFM6oRmUE ต้องการเข้าใจควรเริ่มทำปัญญาตามเป็นจริง เห็นดับกิเลสเกิดต่อทันทีสะสมอวิชชาไปแล้ว เพียงกะพริบตาคิดไม่ทันตรงขณะคือกิเลสมีแล้ว ที่ไม่มีเพิ่มคือปัญญาเพราะขาดสุตมยปัญญานั่นเอง |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |