ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ว่าด้วยศีลและธรรม http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=55213 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | สายน้ำเมย [ 22 ม.ค. 2018, 10:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | ว่าด้วยศีลและธรรม |
แนบไฟล์: 020ความดี22.01.61.jpg [ 67.94 KiB | เปิดดู 5351 ครั้ง ] ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ส่วนคนที่ยังไม่สามารถทำให้ความดีลงที่ใจได้ ยังไม่สามารถมีธรรมเกิดที่ใจได้ จะใช้ศีลในการระงับการเบียดเบียนผุ้อื่นและตนเอง และฝึกจิตตนด้วยการสละออก โดยการให้ ที่เรียกว่า ทาน ทำสม่ำเสมอ จนความดีมีกำลัง.. ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | วิริยะ [ 22 ม.ค. 2018, 17:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยศีลและธรรม |
"ศีล" ข้อห้าม ไม่ควรทำ ไม่ควรประพฤติ "ธรรม" ความดีงาม ควรทำ ควรนำไปประพฤติปฏิบัติ ทั้ง "ศีลและธรรม" ต้องรักษาและประพฤติปฏิบัติลงที่ "ใจ" ด้วยกันทั้งสิ้น ![]() |
เจ้าของ: | สายน้ำเมย [ 24 ม.ค. 2018, 11:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยศีลและธรรม |
แนบไฟล์: 001ศีลและธรรม01.01.61.jpg [ 66.58 KiB | เปิดดู 5277 ครั้ง ] ![]() ![]() ![]() ![]() . . . ![]() แต่เมื่อธรรมไม่สามารถเกิดที่จิตได้ จิตเรานั้นก็มีกิเลสเหมือนเดิม พระท่านให้เราละกิเลสในจิตเพื่อให้ธรรมเกิด แนะนำบอกทางให้เดิน ในการละกิเลสในจิต โดยบอกวิธีเดินคือ กรรมฐานสี่สิบและสติปัฏฐานสี่ ซึ่งรวมๆเรียกว่า อริยะมรรค ![]() . . ![]() แต่เมื่อใด เรายังไม่สามารถละกิเลสในจิตออกได้ ก็อย่าให้มันละเมิดออกมาทางกายและวาจา ที่เราเรียกว่า “ศีล” ศีลจึงเป็นเครื่องมือในการระงับทางกายและวาจาเท่านั้น ส่วนธรรมจะมีได้ ต้องเกิดที่จิตอย่างเดียว ที่เรียกว่าธรรมในจิต คนเราจึงต้องมีทั้งศีลและธรรม มันจึงจะครบทั้งด้าน กาย วาจาและใจ ![]() |
เจ้าของ: | วิริยะ [ 25 ม.ค. 2018, 07:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยศีลและธรรม |
สายน้ำเมย เขียน: ศีลจึงเป็นเครื่องมือในการระงับทางกายและวาจาเท่านั้น ถามว่า คนตายหรือคนเป็นใบ้แขนขาขาด เป็นคนมีศีลหรือไม่ ![]() |
เจ้าของ: | สายน้ำเมย [ 25 ม.ค. 2018, 12:28 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยศีลและธรรม |
วิริยะ เขียน: สายน้ำเมย เขียน: ศีลจึงเป็นเครื่องมือในการระงับทางกายและวาจาเท่านั้น ถามว่า คนตายหรือคนเป็นใบ้แขนขาขาด เป็นคนมีศีลหรือไม่ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() พิจารณาไปทีละข้อในทุกๆศีล.. จะเห็นว่า ศีลนั้นเป็นข้อห้ามทางกายและวาจา เท่านั้นคะ ![]() . . คราวนี้ตอบคำถามนะคะ ![]() ![]() ![]() . . ![]() ![]() ว่าเขาจะมีศีลหรือไม่.. ![]() ![]() แค่เด็กทารกที่เพิ่งเกิดขึ้นมา ![]() ![]() เด็กๆเหล่านี้มีศีลบริบูรณ์ตั้งแต่เกิดเลยคะ ![]() ![]() แต่จะมาผิดศีลในภายหลังเท่านั้น ![]() ![]() . . คนแขนขาขาดเป็นใบ้ ถ้าไม่มีการลงมือกระทำทางกายและวาจา ถือว่าไม่มีผิดศีลคะ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | สายน้ำเมย [ 25 ม.ค. 2018, 14:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยศีลและธรรม |
วิริยะ เขียน: สายน้ำเมย เขียน: ศีลจึงเป็นเครื่องมือในการระงับทางกายและวาจาเท่านั้น ถามว่า คนตายหรือคนเป็นใบ้แขนขาขาด เป็นคนมีศีลหรือไม่ ![]() ลืม ตอบเรื่องตาย ไปคะ ![]() ![]() ![]() จะเป็นไปตามวิบากที่สะสมมาในขณะมีชีวิตอยู่ ศีลที่ทรงจะทรงได้ตามสภาวะภพภูมิ ที่ตนได้รับวิบากนั้นมาคะ หรือจะไม่มีศีลเลยก็ได้ ถ้าไปในทางทุคติ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | วิริยะ [ 26 ม.ค. 2018, 06:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยศีลและธรรม |
- "อะไรเป็นศีล" ท่านว่า "เจตนาเป็นศีล" เจตนาละเว้น(วิรัต)ตามข้อห้าม - "เจตนา" แปลว่า "ตั้งใจ มุ่งมั่น จงใจ" เด็ก ๆ เกิดมามีศีลบริสุทธิ์เลยหรือ ตอบว่า ไม่ใช่ "เพราะเด็กไม่รู้จักศีล ไม่มีเจตนาละเว้น" ไม่มีความมุ่งมั่น ไม่มีความตั้งใจ เด็กก็เหมือนลูกเสือ ลูกสิงโต ลูกจรเข้นั้นแหละ เพียงแต่ยังไม่มีโอกาสทำผิด เรียกว่ายังไร้เดียงสา เหตุนั้น "ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ หากไม่มีเจตนาที่จะละเว้น ไม่มีเจตนาที่จะรักษาศีล ก็ไม่เป็นศีล ไม่ใช่ผู้มีศีล" ท่านว่า "ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว" ถ้าไม่มีใจคอยออกคำสั่งแล้ว หรือปราศจากใจเสียแล้ว ก็กลายเป็นซากศพไป เหมือนหุ่นยนต์ คือถ้าไม่มีคำสั่ง(Software) ก็เป็นได้แค่เศษเหล็ก(hardware) เท่านั้น "การรักษาศีลการปฏิบัติธรรม จึงต้องรักษาต้องปฏติบัติลงที่ใจ" เพื่อให้กายวาจา สงบระงับเป็นปกติ ![]() |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 26 ม.ค. 2018, 07:30 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยศีลและธรรม |
วิริยะ เขียน: สายน้ำเมย เขียน: ศีลจึงเป็นเครื่องมือในการระงับทางกายและวาจาเท่านั้น ถามว่า คนตายหรือคนเป็นใบ้แขนขาขาด เป็นคนมีศีลหรือไม่ ![]() ![]() คนใบ้ จะเป็นคนที่มีศีลก็ได้ไม่มีศีลก็ได้ การโกหกนั้นไม่ได้แสดงออกทางวาจาอย่างเดียว โกหกทางกายก็มีได้ เข่น ส่ายหน้าปฏิเสธทั้งๆที่รูู้ พยักหน้ายอมรับว่าใช่ ทั้งๆที่สิ่งนั้นไม่เป็นความจริง โบกมือปฏิเสธว่าไม่รู้ ไม่เห็น ทั้งสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่รู้มา ซึ่งไม่ตรงต่อความจริง ![]() คือ เป็นจิตที่เขาคิดที่จะกล่าวออกมา แต่ผู้ฟังไม่รู้เรื่องในภาษาของเขา เหมือนกับคนต่างชาติด่าทอ เราก็ไม่รู้เช่นกัน สิ่งเหล่านี้จึงผิด"ข้อมุสา"แต่เป็นการแสดงออกทางกาย ![]() ไม่ว่าจะเป็นขา หรือเท้าก็กระทำกรรมได้ เช่น เอาเท้าเขี่ยสัตว์ที่นอนขวางทางรถมาจะได้ไม่ถูกทับตาย หรือว่ากรรมในทางที่ไม่ดี ก็เอาเท้าเหยียบสัตว์ให้ตาย ที่ยกมานี้ย่อมทำให้พอเห็นว่าคนพิการ ทางใดทางหนึงก็รักษาศีล หรือไม่มีศีลก็ได้ ![]() |
เจ้าของ: | สายน้ำเมย [ 26 ม.ค. 2018, 07:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยศีลและธรรม |
วิริยะ เขียน: - "อะไรเป็นศีล" ท่านว่า "เจตนาเป็นศีล" เจตนาละเว้น(วิรัต)ตามข้อห้าม - "เจตนา" แปลว่า "ตั้งใจ มุ่งมั่น จงใจ" เด็ก ๆ เกิดมามีศีลบริสุทธิ์เลยหรือ ตอบว่า ไม่ใช่ "เพราะเด็กไม่รู้จักศีล ไม่มีเจตนาละเว้น" ไม่มีความมุ่งมั่น ไม่มีความตั้งใจ เด็กก็เหมือนลูกเสือ ลูกสิงโต ลูกจรเข้นั้นแหละ เพียงแต่ยังไม่มีโอกาสทำผิด เรียกว่ายังไร้เดียงสา เหตุนั้น "ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ หากไม่มีเจตนาที่จะละเว้น ไม่มีเจตนาที่จะรักษาศีล ก็ไม่เป็นศีล ไม่ใช่ผู้มีศีล" ท่านว่า "ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว" ถ้าไม่มีใจคอยออกคำสั่งแล้ว หรือปราศจากใจเสียแล้ว ก็กลายเป็นซากศพไป เหมือนหุ่นยนต์ คือถ้าไม่มีคำสั่ง(Software) ก็เป็นได้แค่เศษเหล็ก(hardware) เท่านั้น "การรักษาศีลการปฏิบัติธรรม จึงต้องรักษาต้องปฏติบัติลงที่ใจ" เพื่อให้กายวาจา สงบระงับเป็นปกติ ![]() ![]() ![]() ![]() . . ไม่ว่าจะเป็น มโนกรรม วจีกรรมและกายกรรม.. เมื่อทุกคนลงมือกระทำ มันเป็นกรรมขึ้นมา... ![]() . . ![]() เพื่อให้ไม่เบียดเบียนผู้อื่นและเบียดเบียนตัวเอง..ด้วยกรรมที่ตนสร้างขึ้นมา และเพื่อเอื้อในการที่จะสำรวมจิตในการฝึกละกิเลสเท่านั้น.. ![]() . . ![]() ![]() . . ![]() การที่เราจะละกิเลส..เพื่อให้ถึงพระนิพพาน ![]() มันไม่ต่างกับการพายเรือข้ามฝั่ง..ศีลเป็นแค่เรือ..เท่านั้นคะ..เครื่องมือ... ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | วิริยะ [ 27 ม.ค. 2018, 07:13 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยศีลและธรรม |
สายน้ำเมย เขียน: . ![]() ![]() . ศีล ละกิเลสอย่างหยาบ ที่แสดงออกทางกาย วาจา สมาธิ ละกิเลสอย่างกลาง คือ นิวรณ์ห้า ปัญญา ละกิเลสอย่างละเอียด คืออุปทานและอวิชชา สายน้ำเมย เขียน: . ![]() การที่เราจะละกิเลส..เพื่อให้ถึงพระนิพพาน ![]() มันไม่ต่างกับการพายเรือข้ามฝั่ง..ศีลเป็นแค่เรือ..เท่านั้นคะ..เครื่องมือ... ![]() ![]() ![]() ไม่ใช่แค่ศีล .. ท่านว่า "ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา" ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น .. ![]() |
เจ้าของ: | สายน้ำเมย [ 27 ม.ค. 2018, 10:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยศีลและธรรม |
อ้างคำพูด: ศีล ละกิเลสอย่างหยาบ ที่แสดงออกทางกาย วาจา สมาธิ ละกิเลสอย่างกลาง คือ นิวรณ์ห้า ปัญญา ละกิเลสอย่างละเอียด คืออุปทานและอวิชชา คุยกันนะคะสบายๆๆ ![]() ![]() ![]() . . ![]() เมื่อออกจากสมาธินิวรณ์ห้าก็อยู่ในใจเราอีก นิวรณ์ห้า จะละขาดสะบั้นได้ ต้องเป็อนาคามีผลคะ ถึงสามารถละออกจากจิตได้แบบขาดสะบั้น ![]() . . อ้างคำพูด: ไม่ใช่แค่ศีล .. ท่านว่า "ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา" ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น ไม่ขัดแย้งคะ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 27 ม.ค. 2018, 10:10 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยศีลและธรรม | ||
.......
|
เจ้าของ: | สายน้ำเมย [ 27 ม.ค. 2018, 10:53 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยศีลและธรรม |
จากภาพ แปลให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ ลุงหมาน..ว่าภาพแปลว่าอะไร เมยแปลไม่เป็น ![]() ![]() (ไม่ได้แกล้ง หรือกวนนะคะ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 27 ม.ค. 2018, 11:19 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยศีลและธรรม | ||
สายน้ำเมย เขียน: จากภาพ แปลให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ ลุงหมาน..ว่าภาพแปลว่าอะไร เมยแปลไม่เป็น ![]() ![]() (ไม่ได้แกล้ง หรือกวนนะคะ ![]() ![]() ![]() ภาพเหมือนเป็นปริศนาธรรม แท้จริงไม่มีตัวตน ในภาพแสดงให้เห็นว่าและเข้าใจว่ามันเป็นก้อนเป็นหัว แท้จริงแล้ว เมื่อเราค่อยๆลอกออกทีละใบ ๆ จนหมดก็จะไม่พบเป็นก้อนเป็นหัว อยู่ในนั้นเลย เปรียบได้กับทางธรรมเราจะเข้าใจว่าเป็นกลุ่มเป็นก้อน เช่นว่า เห็นว่าเป็นคนบ้าง เป็นหญิง เป็นชายบ้าง แท้จริงเราลองเอาออกทีละอย่างๆ ก็จะไม่พบคน หญิง ชาย อยู่ในนั้นเลย เปรียบได้ให้เห็นความจริงทุกสิ่งว่างเปล่า เป็น อนัตตา
|
เจ้าของ: | สายน้ำเมย [ 27 ม.ค. 2018, 11:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ว่าด้วยศีลและธรรม |
ลุงหมาน เขียน: สายน้ำเมย เขียน: จากภาพ แปลให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ ลุงหมาน..ว่าภาพแปลว่าอะไร เมยแปลไม่เป็น ![]() ![]() (ไม่ได้แกล้ง หรือกวนนะคะ ![]() ![]() ![]() ภาพเหมือนเป็นปริศนาธรรม แท้จริงไม่มีตัวตน ในภาพแสดงให้เห็นว่าและเข้าใจว่ามันเป็นก้อนเป็นหัว แท้จริงแล้ว เมื่อเราค่อยๆลอกออกทีละใบ ๆ จนหมดก็จะไม่พบเป็นก้อนเป็นหัว อยู่ในนั้นเลย เปรียบได้กับทางธรรมเราจะเข้าใจว่าเป็นกลุ่มเป็นก้อน เช่นว่า เห็นว่าเป็นคนบ้าง เป็นหญิง เป็นชายบ้าง แท้จริงเราลองเอาออกทีละอย่างๆ ก็จะไม่พบคน หญิง ชาย อยู่ในนั้นเลย เปรียบได้ให้เห็นความจริงทุกสิ่งว่างเปล่า เป็น อนัตตา ![]() ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |