ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
สมาธิ - ระลึกถึงอดีต ชอบนะ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=55011 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | walaiporn [ 13 ธ.ค. 2017, 21:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | สมาธิ - ระลึกถึงอดีต ชอบนะ |
ระลึกถึงอดีต ชอบนะ 17 ก.พ. 2009 ยังจำได้อยู่ ตอนที่เคยได้สนทนากับพระอาจารย์ปรีชา ในเรื่องการกำหนดลมหายใจลงสู่สมาธิ สมาธิตรงนี้มันลงไปลึกกว่าปกติ (ถ้าปกติ มันจะมีแต่ความรู้ตัว ไม่มีความอิ่มเอิบใจ ) คือ มันจะขาดความรู้ตัวข้างนอก จะรู้อยู่แต่ภายใน รู้อยู่อย่างนั้น เราเล่าให้พระอาจารย์ฟัง ว่า แรกๆก่อนเราจะต้องการเข้าสมาธินั้น จะหายใจเหมือนเวลาสะอื้น ไม่รู้ว่าเปรียบเทียบถูกไหม แล้วมันก็จะเข้าไปสู่สมาธิตรงนั้นได้ทันที พระอาจารย์บอกว่า ให้ค่อยๆปรับลมหายใจไปเรื่อยๆ จนหายใจได้แบบธรรมชาติ ตอนนี้เราเหมือนคนหัดขับรถมือใหม่ ยังเข้าจังหวะไม่ถูก ค่อยๆไป เดี๋ยวทำได้ชำนาญเอง วันนี้ ก็ เข้าสู่สมาธิแบบปกติที่เคยทำนะแหละ คือ เดินจงกรม แล้วมานั่ง พอลงนั่งก็เข้าสู่สมาธิได้เลย เราค่อยๆปรับลมหายใจ แรกๆก็ยังเหมือนเดิมอยู่ สมาธิเกิดแล้วก็คลายอยู่อย่างนั้น ต่อมาเพียงเราหายใจยาวๆ เบาๆ สบายๆ … เออ … เราทำได้แฮะ .. จิตมันเข้าสู่สมาธิส่วนลึกทันที ร่างกายเหมือนเป็นอะไรว่างๆสักอยู่ คือ กายสักแต่รู้ว่ากายน่ะ บอกไม่ถูก ลมหายใจไม่มี จับไม่ได้ พองยุบ จับไม่ได้ คือ รู้น่ะ แต่จับอะไรไม่ได้เลย เหมือนมันว่างเปล่าไปหมด มีแต่แสงสว่างไปหมด เรารู้สึกถึงแสงสว่างที่ห่อหุ้มตัวเราไว้ เหมือนตัวเราอยู่ท่ามกลางแสงสว่างน่ะ มันอิ่มเอิบ บอกไม่ถูก พอมันเริ่มคลาย เราก็เข้าไปอีก อยู่นานนะ กว่าจะคลายน่ะ เข้าไปแบบเดิม โดยหายใจยาวๆเบาๆสบายๆ … บอกไม่ถูกว่ามันคืออะไร รู้แต่ว่ารู้ ข้างนอกรู้หมด แต่เหมือนกับเราถูกกั้นจากที่ไกลๆ เสียงดังหรือเสียงอะไรก็ไม่มีผลกระทบต่อสมาธินี้ ภายในเหมือนไม่มีอะไรเลย มันเหมือนเราอยู่ในที่กว้างๆเวิ้งว้าง ไม่มีขอบเขต หาจุดจบไม่ได้ประมาณนั้น มีแต่ความอิมอกอิ่มใจเพียงอย่างเดียว รู้ตัวตลอดนะ ในเวลา 1 ช.ม. ที่นั่งนี่ เหมือนกับเวลาช่วงนั้นนานมากๆ เหมือนหลายช.ม. พอดีเสียงนาฬิกาที่ตั้งไว้มันดัง เราก็นั่งต่ออีกนิดหนึ่ง ประมาณ 15 นาที ปรับลมหายใจให้สมาธิมันคลายตัวออกมา … เสร็จแล้วมานั่งคิดนะ … ตายเลย … ถ้าเกิดเราต้องตกตายไปขณะนั้น แล้วจิตเรามันดันไปเสวยอารมณ์ตรงนี้ เราล่ะเสร็จแน่ๆ ไปอยู่พรหมลูกฟักแน่ๆ จะต้องเสียเวลาอีกกี่กัปกี่กัลป์ล่ะเนี่ย … นี่หรือเปล่า ที่เขาเรียกว่า นิพพานหลง … เฮ้ยยย … น่ากลัวชะมัดแฮะ … แต่อยากจะลองชิมลางตรงนี้บ่อยๆแฮะ … แบบว่า … มันอิ่มไปหมดน่ะ เหมือนโลกทั้งโลกมีแค่เราคนเดียว มีแต่แสงสว่างห่อหุ้มเราไว้เท่านั้น สุขสุดๆเลยยยย … ออกจากสมาธินี้มา รู้สึก สดชื่นมากกกกกก …. รอบบ่าย … ลองทำอีกครั้งหนึ่ง .. เดินจงกรม 1 ช.ม. เดินเสร็จ ก็ไปนั่งที่อาสนะ กำหนดลมหายใจยาวๆเบาๆสบายๆ แบบที่เคยทำ … กำหนดจิตไปเข้าสู่สมาธิตรงที่เคยเข้าไป … เข้าไปสู่สมาธิตรงนั้นได้ทันที … อาการ ความรู้สึกที่เกิดขึ้น เหมือนเดิมทุกอย่าง … เริ่มชำนาญการเข้าออกสมาธิระดับนี้มากขึ้น … แต่ความดื่มด่ำหรือความตั้งมั่น ยังไม่นานเท่าเมื่อตอนกลางวัน สมาธิอาจจะไม่มีกำลังมากพอ …. เดี๋ยวจะลองทำบ่อยๆ 23 ก.พ. 2009 ยิ่งสภาวะมีการเปลี่ยนไปมากเท่าไหร่ สมาธิยิ่งพัฒนามากขึ้นเท่านั้น สมาธิตั้งมั่นนานกว่าเมื่อก่อน มีการดับถี่ขึ้น ดับหมดไม่รับรู้อะไรเลย คราวแรกตั้งใจจะโทรฯหาครูบาฯ แต่เห็นว่า คงได้คำตอบเดิม เฮ้อ …. ก็เลยไม่โทรฯ มีแต่ ดู รู้ อยู่กับมันไป … (ถอนหายใจอีกแล้วเรา) เคยเข้าห้องอาบแสง uv ไหม อบอุ่น อิ่มเอิบ สุขประมาณมิได้ คือ มันมากกว่า อาบแสงยูวี … มันยังคงมีเหมือนเดิม โอภาสมากกว่าเดิม เข้มแข็งกว่าเดิม มันห่อและโอบเราไว้ทั้งตัว ยิ่งข้างนอกเสียงดังมากเท่าไหร่ (มีบางขณะที่ได้ยินเสียงแว่วๆมา แต่จิตไม่ยอมคลายออกจากสมาธิ ) โอภาสยิ่งห่อหุ้มตัวเรามากเท่านั้น ต้องรอจนกระทั่งเขาคลายตัวของเขาเอง เราก็รอ พออกมาจะแผ่เมตตา กรวดน้ำ ก็สว่างจ้าเลยทีนี้ เป็นอย่างนี้มาตลอด จนกระทั่งกรวดน้ำเสร็จ เคยได้ยินครูบาฯท่านพูดไว้ว่า เวลาแผ่เมตตา กรวดน้ำ ถ้ามีโอภาสเกิดร่วมด้วย ส่งถึงได้หมด แม้แต่นรกโลกันต์ หรือนรกขุมลึกๆที่กุศลอื่นๆไม่สามารถส่งถึง แต่ถ้าทำแบบนี้ สามารถส่งถึงได้หมดทั้งสามภพ … เดี่ยวนี้มันเป็นออโต้ไปซะละ … พอตั้งจิตแผ่เมตตา สว่างนำก่อนเลย หมายเหตุ; กำลังสมาธิที่มีเกิดขึ้นลักษณะแบบนี้แหละ ที่เคยใช้รักษาตัวตอนที่ป่วยหนัก เกือบเอาชีวิตไม่รอด ไม่หาหมอ ไม่กินยาอะไรทั้งสิ้น อบตัวด้วยสมุนไพร ทำสมาธิระหว่างอบตัว หลังจากนั้นอาบน้ำด้วยสมุนไพร สรุปโดยย่อ ใช้สมาธิรักษาตัวเป็นหลัก |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |