เฮอๆๆๆไม่ดูแสงสีกันเลย
ยึดเห็นผิดเป็นใหญ่กันยู่
ตถาคตบอกจิตเห็นสีค่ะ
ตถาคตไม่ได้บอกว่าจิตเห็นตัวอักษร
และทรงย้ำอีกว่าไม่ให้เชื่อเพราะตำรา
ตัวอักษรใช่ตำราไหมยึดเห็นผิดยังคิดตามเห็นผิดกันยุ่อีก...บอกให้เริ่มฟัง

แล้วจะวงเล็บ.."เป็นอนัตตา"...ทำไมละคับ?



ยิ่งอธิบาย..ก็ยิ่งพันกัน..สับสนในตัว..นะครับ..

" เราจะเห็นธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตาได้
เราต้องเข้าถึงความดับทุกข์ นิโรธ หรือ นิพพาน ธรรมอันเป็นที่สิ้นตัณหาอุปาทาน"

นี้..คุณเลิฟกำลังจะบอกว่า...จะเห็นอนัตตาหลังนิโรธ...อยู่นะครับ
รู้ตัวรึเปล่า?

อนัตตา...นั้น..เห็นตั้งกะ..ตอนเป็นโสดาบันแล้วครับ..ยังไม่นิโรธเลยนะครับนั้น
โสดาบันยังทุกข์อยู่...

ไปไล่ดูลำดับวิปัสสนาญาณ..ก็ได้ครับ...

้ต้นเหตุ..ของคำคำนี้..."ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น ( เป็นอนัตตา )"

ผมคิดว่า...เนื่องมาจาก..การตีความในอนัตตลักขณสูตร..ผิดผิด..ตามตามกันมา



มักเข้าใจ..ว่า..

ไม่เที่ยง...คือ..อนิจจลักษณะ
เป็นทุกข์..คือ..ทุกขลักษณะ
ไม่ควรเห็นสิ่งนั้นนั้น..เป็นตน..คือ..อนัตตลักษณะ

อาจเป็นเพราะ...พอเห็นชื่อพระสูตร...ก็เลยคิดว่ามีแค่..ไตรลักษณะ..เท่านั้น
ก็เลยเป็นที่มา..คำของเลิฟ...ที่ว่า.."ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น ( เป็นอนัตตา )"

ทั้งๆที่ในพระสูตร..พระองค์ท่าน..สอนว่าโลกทั้งปวงเป็นไตรลักษณ์...เป็นทุกข์เพราะยึด..ไม่ยึดก็ไม่ทุกข์..คือ..บอกทั้งไตรลักษณ์..บอกทั้งเหตุของทุกข์..และทางพ้นทุกข์..อันเป็นอริยะสัจ 4..ครบจบ

พอจะเห็น..เหตุที่ทำให้แปลกๆ..ในคำของตน..ยังคับ

ขอโทษทีครับลุงกบ พอดีผมรู้สึกไม่ค่อยสบายจึงมาอธิบายช้า ผมขออธิบายสั้น ๆ นะครับ

สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงเป็นทุกข์ ... ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา ... เราจะเห็นธรรมทั้งปวงเมื่อเรา
ถึง อสังขาร หรือ อสังขตธรรม ถ้ายังไม่ถึงก็เป็นเพียงอนุโลมให้เกิดญาณ ไม่รู้ใช้คำถูกรึเปล่านะคัรบ

จะอุปมาเหมือนเราจะบอกว่าเห็นพีระมิดโดยไม่มีส่วนเหลือ ... เราก็ต้องไปถึงจุดยอดสุดของพีระมิต
ถ้ายังไม่ถึงแล้วจะเห็นไม่ใช่ฐานะ ไม่ใช่โอกาส

พระโสดาบันก็เห็นนิโรธแล้วครับ ท่านจึงว่ารู้อริยสัจ ๔ เพียงแต่นิโรธไม่แจ้ง

นิพพานคือนิโรธ1เดียวนะคะ
ต้องถึงมรรคก่อน ก่อนจะถึงผล และถ้าไม่ถึงอรหัตตผลก่อนก็ยังไม่รู้นิพพานคือนิโรธ1ค่ะ
นิพพานหวังไม่ได้ไม่ต้องถามหาเพราะยังไม่รู้ว่าทำมรรคแรกทำยังไงยังไม่หมดอยากรู้ถึงทำไงคะบอกให้ฟัง

รู้ทุกข์
ไม่รู้ว่าทุกข์เพราะมีตัวตน

ละสมุทัย
ไม่ละตัวตนเพราะไม่รู้ว่าทุกข์เพราะยึดตัวตนเป็นใหญ่คิดเองทำเองไม่คิดตามคำสอนของพระพุทธเจ้า

ถึงมรรคถึงผลถึงนิพพาน
มันถึงได้ตามลำดับปัญญาจากมรรคแรกคือสัมมาทิฏฐิคือความคิดเห็นถูกเข้าใจถูกตามคำสอนได้ก่อนไปทำ
ถ้าคิดเห็นที่กำลังเห็นเดี๋ยวนี้ไม่ถูกตามคำสอนอยู่ก็แปลว่าคิดตามเห็นผิดเพราะกำลังเห็นและไม่รู้ว่าเห็นคือจิต

ตัวตนคนก็เหมือนน้ำพริกที่สำเร็จแล้วแหลกละเอียดจนไม่เหลือซากตัวตน/ตัวอยู่ไหนคะมีตัวไหมคะ
ถ้ายังมีตัวแปลว่ายังมีกิเลสแปลว่าอวิชชาไหลแล้วเพราะไม่รู้ว่าก่อนจะเป็นตัวมีอะไรเอามาคลุกรวมกันบ้าง
https://youtu.be/pNUhjkteKt8

นิพพานคือนิโรธ1เดียวนะคะ
ต้องถึงมรรคก่อน ก่อนจะถึงผล และถ้าไม่ถึงอรหัตตผลก่อนก็ยังไม่รู้นิพพานคือนิโรธ1ค่ะ
นิพพานหวังไม่ได้ไม่ต้องถามหาเพราะยังไม่รู้ว่าทำมรรคแรกทำยังไงยังไม่หมดอยากรู้ถึงทำไงคะบอกให้ฟัง

รู้ทุกข์
ไม่รู้ว่าทุกข์เพราะมีตัวตน

ละสมุทัย
ไม่ละตัวตนเพราะไม่รู้ว่าทุกข์เพราะยึดตัวตนเป็นใหญ่คิดเองทำเองไม่คิดตามคำสอนของพระพุทธเจ้า

ถึงมรรคถึงผลถึงนิพพาน
มันถึงได้ตามลำดับปัญญาจากมรรคแรกคือสัมมาทิฏฐิคือความคิดเห็นถูกเข้าใจถูกตามคำสอนได้ก่อนไปทำ
ถ้าคิดเห็นที่กำลังเห็นเดี๋ยวนี้ไม่ถูกตามคำสอนอยู่ก็แปลว่าคิดตามเห็นผิดเพราะกำลังเห็นและไม่รู้ว่าเห็นคือจิต

ขอโทษทีครับลุงกบ พอดีผมรู้สึกไม่ค่อยสบายจึงมาอธิบายช้า ผมขออธิบายสั้น ๆ นะครับ

สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงเป็นทุกข์ ... ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา ... เราจะเห็นธรรมทั้งปวงเมื่อเรา
ถึง อสังขาร หรือ อสังขตธรรม ถ้ายังไม่ถึงก็เป็นเพียงอนุโลมให้เกิดญาณ ไม่รู้ใช้คำถูกรึเปล่านะคัรบ

จะอุปมาเหมือนเราจะบอกว่าเห็นพีระมิดโดยไม่มีส่วนเหลือ ... เราก็ต้องไปถึงจุดยอดสุดของพีระมิต
ถ้ายังไม่ถึงแล้วจะเห็นไม่ใช่ฐานะ ไม่ใช่โอกาส

พระโสดาบันก็เห็นนิโรธแล้วครับ ท่านจึงว่ารู้อริยสัจ ๔ เพียงแต่นิโรธไม่แจ้ง

หลังจากคุณเลิฟตอบกลับมานี้..มีประเด็น..ที่คิดจะพูดเยอะ.

เด้วเอาแค่..คำว่า.." นิโรธไม่แจ้ง". ก่อนนะครับ..

คำนี้...หมายความว่าอย่างไร..คุณเลิฟพอจะอธิบายเพิ่มเติมได้มั้ยครับ?

ไปถามท่านอาจารย์สุจินด์ดูสิครับ พระโสดาบันถึงนิพพานมั้ย

ใครสงสัยก็ถามสิคะ
มีแต่คนไม่รู้ค่ะที่จะถาม
เพราะคนที่เข้าใจจะไม่ถาม
เพราะไม่ได้ลังเลสงสัยในคำสอนของพระพุทธเจ้า
แค่นี้ก็ไม่คิด นิพพานเที่ยงไม่เกิดคืออเสขะบุคคล
ส่วนจะอริยะระดับไหนก็ตามถ้ายังไม่ถึงอรหัตตผลก็ยังไม่หลุดพ้นยังเกิดอยู่แค่นี้ยังคิดไม่ได้
ก่อนถึงนิพพานยังไง๊ยังไงก็ไม่หลุดพ้นยังกลับมาเวียนไหว้ตายเกิดอยู่ค่ะจำแม่นๆนิพพานเท่านั้นไม่เกิดค่ะ