วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 21:35  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 67 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2020, 17:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เห็นมาเข้ากับหัวข้อ กท.นี้ได้ ต่างกันหน่อย กล่าวคือเขามี คคห.ว่ายังงี้

อ้างคำพูด:
หทเย นิเธตพฺพยุตฺตกํ (ข้อความที่ควรเก็บไว้ในหทัย) [๑๕๙] สิ่งที่จะทำให้ทุกคนดีได้
----------
ทุกวันนี้ต้องกล่าวได้เลย ถ้าดูโทรทัศน์ ข่าวอาชญากรรมมากที่สุด ที่จังหวัดนี้ยิงกันอย่างนั้น ที่จังหวัดนั้นยิงกันอย่างนี้ ทั้งหมดก็เป็นสิ่งซึ่งน่าอนาถใจว่าเป็นไปได้ถึงอย่างนี้ แล้วจะแก้กันอย่างไร?
แต่ส่วนใหญ่ลืมสิ่งที่สำคัญกว่าอย่างอื่นหมด คือ คนดีต้องมาจากคำสอนที่เป็นความจริงที่ทุกคนรู้ว่าไม่มีอะไรประเสริฐในชีวิตเท่ากับการได้เข้าใจคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ชื่อนี้เป็นสิ่งซึ่งทุกคนลืมสนิท เป็นหลวงพ่อ เป็นหลวงปู่ เป็นคนนั้นเป็นคนนี้
แต่ถ้าถามว่าแล้วพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่าอย่างไร จะไม่มีคำตอบ
เพราะฉะนั้น ก็จะเห็นได้จริงๆ ว่า ถ้าเราไม่เมินเฉย และรู้จริงๆ ว่า สิ่งที่จะทำให้ทุกคนดีได้ แม้ไม่ทั้งหมด แต่ดีขึ้น ต่อเมื่อมีความเข้าใจถูกต้องในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รู้คุณว่าผู้ที่เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีคุณอย่างนี้ที่จะทำให้คนซึ่งไม่เข้าใจอะไรเลยจึงได้ฟังพระธรรม หรือใครเข้าใจก่อน ใช่ไหม?
ต้องไม่เข้าใจก่อน จึงฟัง เพื่อที่จะรู้ว่าพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงมีพระคุณอย่างไร เพราะฉะนั้น แต่ละคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กล่าวได้เลยว่าเหมือนปาฏิหาริย์ (คำสอนที่น่าอัศจรรย์) ถ้ามีคนที่เข้าใจจริงๆ ทุกคนจะดีแน่นอน


https://www.facebook.com/profile.php?id ... mU&fref=nf


ศิษย์สำนักเดียวกับคุณโรส :b12: ลากโยงไปนั่นมานี่แล้วก็สรุปตามแนวทิฏฐิ คือ ตามความคิดความเห็นของตัว

ทุกๆข้อทุกๆ คคห. จะขึ้นต้นเหมือนกัน "หทเย นิเธตพฺพยุตฺตกํ (ข้อความที่ควรเก็บไว้ในหทัย)"

อ้างคำพูด:
หทเย นิเธตพฺพยุตฺตกํ


ไปเอามาจากไหนนิดหนึ่งแล้วก็ว่าเก็บข้อความนี้ไว้ในหทัย :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2020, 18:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เห็นมาเข้ากับหัวข้อ กท.นี้ได้ ต่างกันหน่อย ของเขาว่ายังงี้

อ้างคำพูด:
หทเย นิเธตพฺพยุตฺตกํ (ข้อความที่ควรเก็บไว้ในหทัย) [๑๕๙] สิ่งที่จะทำให้ทุกคนดีได้
----------
ทุกวันนี้ต้องกล่าวได้เลย ถ้าดูโทรทัศน์ ข่าวอาชญากรรมมากที่สุด ที่จังหวัดนี้ยิงกันอย่างนั้น ที่จังหวัดนั้นยิงกันอย่างนี้ ทั้งหมดก็เป็นสิ่งซึ่งน่าอนาถใจว่าเป็นไปได้ถึงอย่างนี้ แล้วจะแก้กันอย่างไร?
แต่ส่วนใหญ่ลืมสิ่งที่สำคัญกว่าอย่างอื่นหมด คือ คนดีต้องมาจากคำสอนที่เป็นความจริงที่ทุกคนรู้ว่าไม่มีอะไรประเสริฐในชีวิตเท่ากับการได้เข้าใจคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ชื่อนี้เป็นสิ่งซึ่งทุกคนลืมสนิท เป็นหลวงพ่อ เป็นหลวงปู่ เป็นคนนั้นเป็นคนนี้
แต่ถ้าถามว่าแล้วพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่าอย่างไร จะไม่มีคำตอบ
เพราะฉะนั้น ก็จะเห็นได้จริงๆ ว่า ถ้าเราไม่เมินเฉย และรู้จริงๆ ว่า สิ่งที่จะทำให้ทุกคนดีได้ แม้ไม่ทั้งหมด แต่ดีขึ้น ต่อเมื่อมีความเข้าใจถูกต้องในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
รู้คุณ ว่าผู้ที่เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีคุณอย่างนี้ที่จะทำให้คน ซึ่งไม่เข้าใจอะไรเลยจึงได้ฟังพระธรรม หรือใครเข้าใจก่อน ใช่ไหม?
ต้องไม่เข้าใจก่อน จึงฟัง เพื่อที่จะรู้ว่า พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงมีพระคุณอย่างไร
เพราะฉะนั้น แต่ละคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กล่าวได้เลยว่าเหมือนปาฏิหาริย์ (คำสอนที่น่าอัศจรรย์) ถ้ามีคนที่เข้าใจจริงๆ ทุกคนจะดีแน่นอน


เอาศีล 5 มาวางเทียบดังนี้

1.ปาณาติบาต
2.อทินนาทาน
3.กาเมสุมิจฉาจาร
4.มุสาวาท
5.สุราเมรยมัฏชปมาทัฏฐาน

เทียบกันกับข้อความเน้นสีแดงที่ว่า ที่เกิดอาชญากรรมฆ่ากัน...ก็เพราะคนไม่มีศีลข้อที่ 1 (จึงฆ่ากันยิงกัน) ไม่มีเบญจธรรมข้อ 1 คือเมตตา
หากมองลึกไปถึงภายในจิตใจ ก็เกิดจากกิเลสที่เป็นอกุศลมูล 3 ตัวหลักๆ คือ โลภะ โทสะ โมหะ ซึ่งมีอยู่ในจิตใจของคน

ถ้าถามว่า ต้องทำยังไงจึงกำจัดมูลรากของเครื่องเศร้าหมองสามตัวนั้นลงได้ คำตอบก็ต้องปฏิบัติตามหลัก ศีล สมาธิ ปัญญา ดังที่ว่า ศีลเพื่อสมาธิ สมาธิเพื่อปัญญา ปัญญาเพื่อวิมุตติ จบข่าว
นี่พูดก็ง่ายๆอย่างนี้ แต่เวลาทำเวลาปฏิบัติมันแข็งยิ่งกว่าหินอีก มีอุปสรรค คือ กิเลสมารมากมาย มีทั้งกิเลสตัวเล็กตัวน้อยจนถึงโคตรกิเลส :b32: แค่ถีนมิทธะนิวรณ์ตัวเดียว ก็หัวทิ่มหัวตำแล้ว :b32: บอกไม่เชื่อ




นิวรณ์นี่ท่านว่า ต้องกำจัดด้วยสมาธิ เมื่อสมาธิเกิดแล้ว นิวรณ์ก็อายหายหน้าไป

เอาหลักอีก

ศีล กำจัดกิเลสอย่างหยาบๆที่มันล่วงออกมากาย ทางวาจา

สมาธิ กำจัดกิเลสอย่างกลาง คือ นิวรณ์

ปัญญา กำจัดกิเลสอย่างละเอียดที่นอนเนื่องอยู่ในจิตในใจ คือ อวิชชา

แต่ของสำนักคุณโรส ไม่เอาทั้งศีล ทั้งสมาธิ คิดว่าเอาแต่ปัญญา แต่เป็นปัญญาหามิได้ อ้าวยังงั้น เป็นอะไร เป็นมโน (ภาษาร่วมสมัย) ถ้าว่าเป็นปัญญาก็เป็นปัญญาชื่อคน (คนชื่อปัญญา นามสกุล ณ บ้านเพ) ไม่ใช่ปัญญาเจตสิก :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มิ.ย. 2020, 20:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ดูๆแล้วความคิดนี้ยังสับสนในตัวเอง คือ โยงไปนั่นมานี่แล้วก็ไปฟังให้เข้าใจ คนเราไม่เข้าใจอะไรมาเลย ก็ต้องฟังให้เข้าใจก่อน (ประเด็นเท่านี้เอง) แล้วก็ฟังคนพูดให้ฟัง

อ้างคำพูด:
รู้คุณว่าผู้ที่เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีคุณอย่างนี้ที่จะทำให้คน ซึ่งไม่เข้าใจอะไรเลยจึงได้ฟังพระธรรม หรือใครเข้าใจก่อน ใช่ไหม?
ต้องไม่เข้าใจก่อน จึงฟัง เพื่อที่จะรู้ว่า พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงมีพระคุณอย่างไร เพราะฉะนั้น แต่ละคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กล่าวได้เลยว่าเหมือนปาฏิหาริย์


คุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มี ๙ อย่าง ดังนี้

พุทธคุณ คุณของพระพุทธเจ้า มี ๙ คือ

๑.อรหํ เป็นพระอรหันต์
๒.สมฺมาสมฺพุทฺโธ ตรัสรู้เองโดยชอบ
๓.วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ
๔.สุคโต เสด็จไปดีแล้ว
๕.โลกวิทู เป็นผู้รู้แจ้งโลก
๖.อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ เป็นสารถีฝึกคนได้ไม่มีใครยิ่งกว่า
๗. สตฺถา เทวมนุสฺสานํ เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
๘.พุทฺโธ เป็นผู้ตื่นและเบิกบานแล้ว
๙.ภควา เป็นผู้มีโชค

พุทธคุณทั้งหมดนั้น โดยย่อมี ๒ คือ

๑.พระปัญญาคุณ พระคุณคือพระปัญญา
๒.พระกรุณาคุณ พระคุณคือพระมหากรุณา หรือ

ตามที่นิยมกล่าวกันในประเทศไทย ย่อเป็น ๓ คือ

๑.พระปัญญาคุณ พระคุณคือพระปัญญา
๒.พระวิสุทธิคุณ พระคุณคือความบริสุทธิ์
๓.พระมหากรุณาคุณ พระคุณคือพระมหากรุณา

ไม่ต้องฟังก็ได้อ่านเอา
เอ้าถ้าไปนั่งฟังเขาพูดในห้อง ผู้พูดบอก พระคุณของพระพุทธเจ้า มี ๙ อะไรบ้างก็ว่าไป
คนฟังก็ต้องจดให้ทันอีก จดไม่ทันก็ไม่ครบ หรือไม่ก็ต้องบันทึกเสียงไว้แล้วมาทบทวนที่บ้าน
เปิดหนังสือดูเองดีกว่าไหม ถ้าอยากจำให้ขึ้นสมองก็ท่องเลย ท่องแบบสูตรคูณ สองหนึ่งสอง สองสองสี่ สองสามหก :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2020, 18:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
เมียปรี๊ดแตก! สามีพาสาวมานอนด้วย คว้ามีดฟันหัวเลือดอาบ

เหตุเกิดที่ นครปฐม (ภรรยาเล่าว่า) ก่อนเกิดเหตุได้ออกไปซื้อของเพื่อจะเตรียมขายในวันรุ่งขึ้น เมื่อซื้อของเสร็จได้กลับเข้ามาในบ้าน ปรากฏว่าพบสามีของตนพาหญิงสาวเข้ามานอนอยู่ในบ้าน ด้วยความโมโหจึงคว้ามีดทำครัวเข้าฟันทันทีทำให้ถูกศีรษะจนได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากกลับมาเห็นต่อหน้าต่อตาว่าพาสาวมานอนด้วย.



https://www.one31.net/uploads/news/pict ... 103118.jpg

เรื่องของกาเมสุมิจฉาจาร

แต่อย่างว่า

บ้างก็ว่า เสียทองเท่าหัว ไม่ยอมเสียผัวให้ใคร

บ้างก็ว่า ได้ทองเท่าหัว อยากได้ผัวฉันก็เอาไป

เป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ส.ค. 2020, 23:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ดูๆแล้วความคิดนี้ยังสับสนในตัวเอง คือ โยงไปนั่นมานี่แล้วก็ไปฟังให้เข้าใจ คนเราไม่เข้าใจอะไรมาเลย ก็ต้องฟังให้เข้าใจก่อน (ประเด็นเท่านี้เอง) แล้วก็ฟังคนพูดให้ฟัง

อ้างคำพูด:
รู้คุณว่าผู้ที่เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีคุณอย่างนี้ที่จะทำให้คน ซึ่งไม่เข้าใจอะไรเลยจึงได้ฟังพระธรรม หรือใครเข้าใจก่อน ใช่ไหม?
ต้องไม่เข้าใจก่อน จึงฟัง เพื่อที่จะรู้ว่า พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงมีพระคุณอย่างไร เพราะฉะนั้น แต่ละคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กล่าวได้เลยว่าเหมือนปาฏิหาริย์


คุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มี ๙ อย่าง ดังนี้

พุทธคุณ คุณของพระพุทธเจ้า มี ๙ คือ

๑.อรหํ เป็นพระอรหันต์
๒.สมฺมาสมฺพุทฺโธ ตรัสรู้เองโดยชอบ
๓.วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ
๔.สุคโต เสด็จไปดีแล้ว
๕.โลกวิทู เป็นผู้รู้แจ้งโลก
๖.อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ เป็นสารถีฝึกคนได้ไม่มีใครยิ่งกว่า
๗. สตฺถา เทวมนุสฺสานํ เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
๘.พุทฺโธ เป็นผู้ตื่นและเบิกบานแล้ว
๙.ภควา เป็นผู้มีโชค

พุทธคุณทั้งหมดนั้น โดยย่อมี ๒ คือ

๑.พระปัญญาคุณ พระคุณคือพระปัญญา
๒.พระกรุณาคุณ พระคุณคือพระมหากรุณา หรือ

ตามที่นิยมกล่าวกันในประเทศไทย ย่อเป็น ๓ คือ

๑.พระปัญญาคุณ พระคุณคือพระปัญญา
๒.พระวิสุทธิคุณ พระคุณคือความบริสุทธิ์
๓.พระมหากรุณาคุณ พระคุณคือพระมหากรุณา

ไม่ต้องฟังก็ได้อ่านเอา
เอ้าถ้าไปนั่งฟังเขาพูดในห้อง ผู้พูดบอก พระคุณของพระพุทธเจ้า มี ๙ อะไรบ้างก็ว่าไป
คนฟังก็ต้องจดให้ทันอีก จดไม่ทันก็ไม่ครบ หรือไม่ก็ต้องบันทึกเสียงไว้แล้วมาทบทวนที่บ้าน
เปิดหนังสือดูเองดีกว่าไหม ถ้าอยากจำให้ขึ้นสมองก็ท่องเลย ท่องแบบสูตรคูณ สองหนึ่งสอง สองสองสี่ สองสามหก :b32:

cool
ยกตัวอย่างให้คิดตามนะ
พอพระพุทธเจ้าพูดกับคุณว่า...ไม่มีเรา
พระองค์มีคุณแบบไหนเหรอ...หรือว่าได้ยินปุ๊บกราบปั๊บเพราะคิดได้ว่าไม่มีตัวตน...คริคริคริ
เห็นพระคุณของพระพุทธเจ้าที่เมตตาบอกว่าไม่มีตัวเราทรงบอกว่าบวชคือสละเงินทองของรักได้จึงบวชได้
ถามหน่อยเถอะ...เอาจริงๆนะ...คิดสิ...คนที่บวชเพราะรู้คุณของพระพุทธเจ้า...จะบังอาจขอหรือเรี่ยไรเงินมั๊ย
เวลาที่ไม่มีความละลายแก่ใจในการที่มีความโลภรับเงินนั้น...คือไม่ละอายไม่กลัวบาป(มีอหิริกะ+อโนตัปปะ)
ขณะจิตที่เป็นอกุศลประกอบด้วยความกล้าล่วงเกินคำสอนและมีจิตคิดละโมบรับมีโลภะ+โมหะคือขาดสติ
อาบัติทันทีขาดจากภิกษุตามพระธรรมวินัยแล้วค่ะ...ปลงอาบัติกับพระภิกษุที่ไม่ทำผิดเรื่องรับเงินได้เท่านั้น
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2020, 00:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ดูๆแล้วความคิดนี้ยังสับสนในตัวเอง คือ โยงไปนั่นมานี่แล้วก็ไปฟังให้เข้าใจ คนเราไม่เข้าใจอะไรมาเลย ก็ต้องฟังให้เข้าใจก่อน (ประเด็นเท่านี้เอง) แล้วก็ฟังคนพูดให้ฟัง

อ้างคำพูด:
รู้คุณว่าผู้ที่เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีคุณอย่างนี้ที่จะทำให้คน ซึ่งไม่เข้าใจอะไรเลยจึงได้ฟังพระธรรม หรือใครเข้าใจก่อน ใช่ไหม?
ต้องไม่เข้าใจก่อน จึงฟัง เพื่อที่จะรู้ว่า พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงมีพระคุณอย่างไร เพราะฉะนั้น แต่ละคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กล่าวได้เลยว่าเหมือนปาฏิหาริย์


คุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มี ๙ อย่าง ดังนี้

พุทธคุณ คุณของพระพุทธเจ้า มี ๙ คือ

๑.อรหํ เป็นพระอรหันต์
๒.สมฺมาสมฺพุทฺโธ ตรัสรู้เองโดยชอบ
๓.วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ
๔.สุคโต เสด็จไปดีแล้ว
๕.โลกวิทู เป็นผู้รู้แจ้งโลก
๖.อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ เป็นสารถีฝึกคนได้ไม่มีใครยิ่งกว่า
๗. สตฺถา เทวมนุสฺสานํ เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
๘.พุทฺโธ เป็นผู้ตื่นและเบิกบานแล้ว
๙.ภควา เป็นผู้มีโชค

พุทธคุณทั้งหมดนั้น โดยย่อมี ๒ คือ

๑.พระปัญญาคุณ พระคุณคือพระปัญญา
๒.พระกรุณาคุณ พระคุณคือพระมหากรุณา หรือ

ตามที่นิยมกล่าวกันในประเทศไทย ย่อเป็น ๓ คือ

๑.พระปัญญาคุณ พระคุณคือพระปัญญา
๒.พระวิสุทธิคุณ พระคุณคือความบริสุทธิ์
๓.พระมหากรุณาคุณ พระคุณคือพระมหากรุณา

ไม่ต้องฟังก็ได้อ่านเอา
เอ้าถ้าไปนั่งฟังเขาพูดในห้อง ผู้พูดบอก พระคุณของพระพุทธเจ้า มี ๙ อะไรบ้างก็ว่าไป
คนฟังก็ต้องจดให้ทันอีก จดไม่ทันก็ไม่ครบ หรือไม่ก็ต้องบันทึกเสียงไว้แล้วมาทบทวนที่บ้าน
เปิดหนังสือดูเองดีกว่าไหม ถ้าอยากจำให้ขึ้นสมองก็ท่องเลย ท่องแบบสูตรคูณ สองหนึ่งสอง สองสองสี่ สองสามหก :b32:

cool
ยกตัวอย่างให้คิดตามนะ
พอพระพุทธเจ้าพูดกับคุณว่า...ไม่มีเรา
พระองค์มีคุณแบบไหนเหรอ...หรือว่าได้ยินปุ๊บกราบปั๊บเพราะคิดได้ว่าไม่มีตัวตน...คริคริคริ
เห็นพระคุณของพระพุทธเจ้าที่เมตตาบอกว่าไม่มีตัวเราทรงบอกว่าบวชคือสละเงินทองของรักได้จึงบวชได้
ถามหน่อยเถอะ...เอาจริงๆนะ...คิดสิ...คนที่บวชเพราะรู้คุณของพระพุทธเจ้า...จะบังอาจขอหรือเรี่ยไรเงินมั๊ย
เวลาที่ไม่มีความละลายแก่ใจในการที่มีความโลภรับเงินนั้น...คือไม่ละอายไม่กลัวบาป(มีอหิริกะ+อโนตัปปะ)
ขณะจิตที่เป็นอกุศลประกอบด้วยความกล้าล่วงเกินคำสอนและมีจิตคิดละโมบรับมีโลภะ+โมหะคือขาดสติ
อาบัติทันทีขาดจากภิกษุตามพระธรรมวินัยแล้วค่ะ...ปลงอาบัติกับพระภิกษุที่ไม่ทำผิดเรื่องรับเงินได้เท่านั้น
:b12:
:b32: :b32:

ชาตินี้โชคดีแล้วที่ได้เกิดมาเป็นคน
และได้พบว่ายังมีพระไตรปิฏกอยู่
ที่ยังเกิดอยู่เนี่ยเพราะปัญญาไม่มี
การจะรู้ตัวว่าทำถูกหรือผิดนั้น
จะต้องฟังคำเตือนตรงตาม
พระไตรปิฏกจากผู้รู้ตรง
ตามคำสอนที่บัญญัติไว้
ให้สาวกได้ศึกษาโดย
ต้องอาศัยฟังผู้อื่นบอก
ตรงตามคำวาจาสัจจะ
ฟังบ้างนะตายแล้วหมดโอกาสแก้ตัวนะคะ
https://youtu.be/ttUCxF-VRHM
:b12:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2020, 03:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เห็นมาเข้ากับหัวข้อ กท.นี้ได้ ต่างกันหน่อย กล่าวคือเขามี คคห.ว่ายังงี้

อ้างคำพูด:
หทเย นิเธตพฺพยุตฺตกํ (ข้อความที่ควรเก็บไว้ในหทัย) [๑๕๙] สิ่งที่จะทำให้ทุกคนดีได้
----------
ทุกวันนี้ต้องกล่าวได้เลย ถ้าดูโทรทัศน์ ข่าวอาชญากรรมมากที่สุด ที่จังหวัดนี้ยิงกันอย่างนั้น ที่จังหวัดนั้นยิงกันอย่างนี้ ทั้งหมดก็เป็นสิ่งซึ่งน่าอนาถใจว่าเป็นไปได้ถึงอย่างนี้ แล้วจะแก้กันอย่างไร?
แต่ส่วนใหญ่ลืมสิ่งที่สำคัญกว่าอย่างอื่นหมด คือ คนดีต้องมาจากคำสอนที่เป็นความจริงที่ทุกคนรู้ว่าไม่มีอะไรประเสริฐในชีวิตเท่ากับการได้เข้าใจคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ชื่อนี้เป็นสิ่งซึ่งทุกคนลืมสนิท เป็นหลวงพ่อ เป็นหลวงปู่ เป็นคนนั้นเป็นคนนี้
แต่ถ้าถามว่าแล้วพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่าอย่างไร จะไม่มีคำตอบ
เพราะฉะนั้น ก็จะเห็นได้จริงๆ ว่า ถ้าเราไม่เมินเฉย และรู้จริงๆ ว่า สิ่งที่จะทำให้ทุกคนดีได้ แม้ไม่ทั้งหมด แต่ดีขึ้น ต่อเมื่อมีความเข้าใจถูกต้องในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รู้คุณว่าผู้ที่เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีคุณอย่างนี้ที่จะทำให้คนซึ่งไม่เข้าใจอะไรเลยจึงได้ฟังพระธรรม หรือใครเข้าใจก่อน ใช่ไหม?
ต้องไม่เข้าใจก่อน จึงฟัง เพื่อที่จะรู้ว่าพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงมีพระคุณอย่างไร เพราะฉะนั้น แต่ละคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กล่าวได้เลยว่าเหมือนปาฏิหาริย์ (คำสอนที่น่าอัศจรรย์) ถ้ามีคนที่เข้าใจจริงๆ ทุกคนจะดีแน่นอน


https://www.facebook.com/profile.php?id ... mU&fref=nf


ศิษย์สำนักเดียวกับคุณโรส :b12: ลากโยงไปนั่นมานี่แล้วก็สรุปตามแนวทิฏฐิ คือ ตามความคิดความเห็นของตัว

ทุกๆข้อทุกๆ คคห. จะขึ้นต้นเหมือนกัน "หทเย นิเธตพฺพยุตฺตกํ (ข้อความที่ควรเก็บไว้ในหทัย)"

อ้างคำพูด:
หทเย นิเธตพฺพยุตฺตกํ


ไปเอามาจากไหนนิดหนึ่งแล้วก็ว่าเก็บข้อความนี้ไว้ในหทัย :b32:

onion
คริคริคริ
สมมุติชาตินี้เกิดใหม่นะ
ไม่รู้จักพระพุทธเจ้าและคำสอนเลย
พอมีพระพุทธเจ้าเดินมาบอกคุณว่า...ไม่มีเรา ไม่มีตัวตน
จะก้มลงกราบพระองค์ไหมคะ...ก็ในเมื่อในใจเรายังคิดอยู่ตลอดเวลาว่ามีตัวกูของกูอยู่
ที่เกิดมาเนี่ยเพราะไม่มีปัญญาใหม่เกิดภายในใจ...จึงมีแต่กิเลสใหม่เกิดในใจ...จึงไม่รู้จักกิเลสในใจตัวเองไง
คิดว่าปัญญาบันทึกไว้ในพระไตรปิฏกล่ะซิจึงคิดว่าอ่าน+ท่องจำคำสอนได้แล้วก็ยึดเอาบัญญัติเป็นปัญญาได้
จึงไม่สนใจฟังคำสอนจากการเตือนที่คนอื่นบอกตรงตามคำสอนของพระพุทธเจ้า...เวลาฟังคนพูดทำคิดตาม
ชาติหน้าไปเกิดเป็นแมว...ที่ท่องๆจำๆเอาไว้มันตามไปทำให้แมวทำฟังได้รึหรือเอาแต่ร้องเมียวๆๆๆหาผัว-เมีย
:b12:
:b32: :b32:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 67 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 134 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร