จะรักษาพระศาสนาได้....ก็ต่อเมื่อ...ตน...ได้ทำหน้าที่ตนของตนให้ได้สมบูรณ์...

เมื่อทำหน้าที่ของตนได้สมบูรณ์...

ทุกๆคนจะเป็นจิกซอร์...ต่อพระศาสนาให้ยืนยาวต่อไปได้เอง...

มิใช่..ไปต่อว่า...คนอื่น..ไม่ช่วย..ไม่ทำอะไร...

อย่างเช่น..คุณจะไปคาดหวังคนที่แค่ศรัทธาหลังเต่า...ต้องให้มารู้หลักการอะไรที่มันยากๆเกินความสามารถของเขา..ก็เขาไม่มีความรู้...จะไปว่าเขาก็ไม่ได้อะไร..ศาสนาจะสิ้น..มิใช่จากพวกไม่มีความรู้หรอกท่านฯ....ที่เสื่อมเพราะคนที่ควรจะมีความรู้แต่ไม่ทำให้เกิดความรู้ที่ถูกต้อง..ต่างหาก...เมื่อไม่มีความรู้ที่ถูกต้อง....ความพยายามที่จะรักษาพระศาสนาก็ล่มเหลว...

เช่น....

เป็นฆราวาสก็ไม่รักษาศีล..ไม่ตักบาตรให้กำลังแก่นักบวช..ทำบุญทำทานเพื่อช่วยเหลือนักบวชทำศาสนกิจได้สะดวก..ไม่ฟังธรรมศึกษาหาความรู้ตามฐานะของฆราวาส...

เป็นนักบวชก็ไม่ทำหน้าที่ตน..ไม่ทำความรู้ให้แจ้ง...เมื่อไม่รู้ก็เลยไม่มีอะไรไปสอนฆราวาส...สอนแบบอ่านตำราให้ญาติโยมฟังอย่างเดียวแต่ตนเองกลับไม่แน่ใจว่าจริงหรือไม่..การสอนแบบนี้ขาดพลัง..ไม่สามารถทำให้คนที่ยังไม่ศรัทธาพระศาสนามาศรัทธาได้...(ก็เพราะความไม่รู้อะไรนี้แหละ)

สรุปรวมๆแล้วพระศาสนาเสื่อมก็เพราะพุทธบริษัท 4 ไม่ทำหน้าที่ตนให้ดีนี้เอง..ไม่ใช่ใครที่ไหน...ไม่ใช่เป็นพระก็มาโทษโยม..เป็นโยมก็ไปโทษพระ...คนที่มีความรู้ก็โทษคนไม่มีความรู้.....มันใช้ได้ที่ไหน..

กักกายเป็นโยมใช่มั้ย?..จะศีล5 หรือศีล 8 ก็เลือกเอา..แล้วทำให้ได้..มีข้อคิดดีดีที่ได้จากการศึกษาปฏิบัติก็แบ่งปันคนรอบข้างที่เกี่ยวข้องกัน.ให้เพิ่มพูน.งอกงาม...แล้วก็เลิกวาทะกรรมอันทำให้ผิดศีล..ซะ...

ถ้าทำไม่ได้...ยังจะมีหน้าไปว่าใครเขาว่าทำศาสนาเสื่อม..

โทษศาสนาโน้น..โทษศาสนานั้น....มันแสดงถึงความอ่อนของปัญญาโดยแท้..

จะรักษาพระศาสนาได้....ก็ต่อเมื่อ...ตน...ได้ทำหน้าที่ตนของตนให้ได้สมบูรณ์...

เมื่อทำหน้าที่ของตนได้สมบูรณ์...

ทุกๆคนจะเป็นจิกซอร์...ต่อพระศาสนาให้ยืนยาวต่อไปได้เอง...

มิใช่..ไปต่อว่า...คนอื่น..ไม่ช่วย..ไม่ทำอะไร...

อย่างเช่น..คุณจะไปคาดหวังคนที่แค่ศรัทธาหลังเต่า...ต้องให้มารู้หลักการอะไรที่มันยากๆเกินความสามารถของเขา..ก็เขาไม่มีความรู้...จะไปว่าเขาก็ไม่ได้อะไร..ศาสนาจะสิ้น..มิใช่จากพวกไม่มีความรู้หรอกท่านฯ....ที่เสื่อมเพราะคนที่ควรจะมีความรู้แต่ไม่ทำให้เกิดความรู้ที่ถูกต้อง..ต่างหาก...เมื่อไม่มีความรู้ที่ถูกต้อง....ความพยายามที่จะรักษาพระศาสนาก็ล่มเหลว...

เช่น....

เป็นฆราวาสก็ไม่รักษาศีล..ไม่ตักบาตรให้กำลังแก่นักบวช..ทำบุญทำทานเพื่อช่วยเหลือนักบวชทำศาสนกิจได้สะดวก..ไม่ฟังธรรมศึกษาหาความรู้ตามฐานะของฆราวาส...

เป็นนักบวชก็ไม่ทำหน้าที่ตน..ไม่ทำความรู้ให้แจ้ง...เมื่อไม่รู้ก็เลยไม่มีอะไรไปสอนฆราวาส...สอนแบบอ่านตำราให้ญาติโยมฟังอย่างเดียวแต่ตนเองกลับไม่แน่ใจว่าจริงหรือไม่..การสอนแบบนี้ขาดพลัง..ไม่สามารถทำให้คนที่ยังไม่ศรัทธาพระศาสนามาศรัทธาได้...(ก็เพราะความไม่รู้อะไรนี้แหละ)

สรุปรวมๆแล้วพระศาสนาเสื่อมก็เพราะพุทธบริษัท 4 ไม่ทำหน้าที่ตนให้ดีนี้เอง..ไม่ใช่ใครที่ไหน...ไม่ใช่เป็นพระก็มาโทษโยม..เป็นโยมก็ไปโทษพระ...คนที่มีความรู้ก็โทษคนไม่มีความรู้.....มันใช้ได้ที่ไหน..

กักกายเป็นโยมใช่มั้ย?..จะศีล5 หรือศีล 8 ก็เลือกเอา..แล้วทำให้ได้..มีข้อคิดดีดีที่ได้จากการศึกษาปฏิบัติก็แบ่งปันคนรอบข้างที่เกี่ยวข้องกัน.ให้เพิ่มพูน.งอกงาม...แล้วก็เลิกวาทะกรรมอันทำให้ผิดศีล..ซะ...

ถ้าทำไม่ได้...ยังจะมีหน้าไปว่าใครเขาว่าทำศาสนาเสื่อม..

โทษศาสนาโน้น..โทษศาสนานั้น....มันแสดงถึงความอ่อนของปัญญาโดยแท้..

:b32:

กักกายเป็นโยมใช่มั้ย?..จะศีล5 หรือศีล 8 ก็เลือกเอา..แล้วทำให้ได้..มีข้อคิดดีดีที่ได้จากการศึกษาปฏิบัติก็แบ่งปันคนรอบข้างที่เกี่ยวข้องกัน.ให้เพิ่มพูน.งอกงาม...แล้วก็เลิกวาทะกรรมอันทำให้ผิดศีล..ซะ...





ไปไม่เป็นเลยซี่กบ อิอิ กบเอ้ย จะถือศีล จะมีธรรมอะไรนั่น ไม่ต้องโม้หรอก เออ แหมๆๆ ถือศีลจนมีคนนำรถมาให้ มีเงินแต่งเมีย อ่านแล้วขรรมเบย

[quote name='sssboun' date='02/10/2017 - 08:39' timestamp='1506908357' post='819070']
:09:

ขอเรียนเชิญทุกท่านประกอบ แสดงคำคิดคำเห็น ความเข้าใจของตนและจากพระคัมภีครับ เพื่อสร้างเสริมศรัทธาแด่บุคคลทั่วไปเพื่อเพิ่มกำลังใจในการสร้างบุญกุศลให้ยิ่งๆขึ้นไปด้วยกันครับ

สาธุอนุโมทนาในกุศลจิต และความเมตตาของทุกท่านด้วยครับ :09:

:82:

[quote name='กบนอกกะลา'

รักษาศีลแล้วได้อะไร?...

จากคำสมาทานศีล5..



นี้..จากคำสมาทาน...นะครับ

ส่วนจากประสพการณ์จริง...สามารถยืนยันได้ 2 ข้อแรก...คือ..ศีลทำให้ถึงความสุข..ศีลทำให้ได้มาซึ่งโภคทรัพย์..ส่วน...ศีลให้ได้ถึงนิพพานนั้น..กระผมยังไม่นิพพานจึงไม่สามารถพูดได้..นะครับ..แต่ก็เชื่อว่า..ถึงได้เพราะ..2 ข้อแรกเป็นจริงได้แล้ว..ข้อที่3ก็ย่อมจะเป็นจริงได้เช่นกัน..

ผลอานิสงค์ของการรักษาศีล....ที่พบจริงกับตัว..นะครับ

1..ศีล...ทำให้ถึงความสุข...

ใช่ว่ามีศีลจะไม่ทุกข์นะครับ...เพราะยังไม่ใช่ผู้หมดกิเลสตัณหา..[size="5"].แต่สุขของผู้มีศีล...เป็นสุขที่เกิดจากความไม่กังวน...จากการเพ่งเล็ง..ตำนิติเตียนทั้งจากผู้อื่น..และตนเอง[/size]

อยู่ที่ไหน..ก็สบายหมด....อยู่ในคนหมู่มาก..ก็สบาย...จะอยู่คนเดียวก็สบาย...เพราะแม้ตนเองก็ไม่ตำนิตน

ศีลกับพรหมวิหาร4...เป็นของคู่กัน...จะรักษาศีลได้ก็ต้องมีพรหมวิหาร...พรหมวิหารเกิดศีลจึงสมบูรณ์...

เมื่อเกิดความรู้สึกรักผู้อื่น..รักสรรพสัตว์...ก็จะรู้สึกว่า...สรรพสัตว์เทวดาอินทร์พรหมก็รักตน...เมื่อรู้สึกว่าตนเป็นที่รัก...ใจมันก็สบาย...ครับ

นี้แหละครับ..ที่ว่า.มีศีลแล้วมีสุข


..ศีล..ทำให้มีทรัพย์....อันนี้ก็เจอกับตัวครับ...ของคนอื่นเป็นอย่างไรไม่ทราบนะ..แต่ของผมนี้ประหลาดมาก...

เมื่อก่อน...ผมทำงาน..มีเงินเดือนเยอะนะ...แต่..บ้าน..รถ..ไม่มี..แต่งงานก็ไม่ได้เพราะไม่มีเงิน

แต่พอเห็นทุกข์..อยากพ้นทุกข์...ศึกษาทางพ้นทกข์..เริ่มลงมือปฏิบัติก็เริ่มจากการรักษาศีลก่อนเลยนี้แหละ...ธุรกิจส่วนตัวที่ทำก็ใช่ว่าจะดีนะ..มีขาดทุนเรื่อยเพราะเศรษฐกิจไม่ดี..กำไรที่พอมีก็น้อยกว่าเงินเดือนที่เคยได้รับซะอีก...แต่เงินทองก็มีมาเรื่อย..มีคนเมตตาเราเยอะ...ให้เราเยอะ..ให้เฉยๆนี้แหละ...จนมีบ้าน..มีรุถ...แต่งภรรยาได้...ก็ประหลาดนะ...เมื่อไม่กี่วันมานี้..ก็จะให้รถเรามาอีกคัน..แต่ไม่เอา..ที่มีอยู่ก็พอแล้ว...

ประหลาดนะ..มีมาได้แบบแปลกๆ..

[size="5"]จากสิ่งที่ประสพมากับตัว....จึงขอยืนยันได้เลยว่า...

ศีล...ทำให้มีความสุข

ศีล..ทำให้มีโภคทรัพย์[/size]

อคติ ฐานะอันไม่พึงถึง, ทางความประพฤติที่ผิด, ความลำเอียง มี ๔
คือ
๑.ฉันทาคติ ลำเอียงเพราะรัก

๒.โทสาคติ ลำเอียงเพราะไม่ชอบกัน

๓. โมหาคติ ลำเอียงเพราะโง่

๔.ภยาคติ ลำเอียงเพราะกลัว

ริษยา ความไม่อยากให้คนอื่นได้ดี, เห็นเขาได้ดีทนอยู่ไม่ได้, เห็นผู้อื่นได้ดีไม่สบายใจ, คำเดิมในสันสกฤตเป็น อีรฺษา บาลีใช้ว่า อิสฺสา

อิจฉา ความปรารถนา, ความอยากได้, ไทยมักใช้ในความหมายว่า ริษยา

ทำไมกักกาย..ถึงคิดว่า..เป็นการโม้..?

ในเว้ปโน้น..มีคนตั้งกระทู้...

การรักษาศีล 5 จะได้อะไร ได้ผลตอบแทนอะไรครับ ทั้งปัจจุบัน และอนาคตครับ ขอเรียนเชิญร่วมแบ่งความรู้ครับ
http://larndham.org/index.php?/topic/44 ... 70__st__0&

.......

กระผมก็แชร์จะที่ตัวเองพบเจอว่า...อานิสงค์ของการรักษาศีลเป็นไปตามที่พูดในคำสมาทานศีล..

ว่า..
สีเลนะ สุคติง ยันติ (ศีล นั้นจักเป็นเหตุให้ถึงความสุข)...ว่าที่เจอมานั้น...สุข..นั้นสุขอย่างไร

สีเลนะ โภคะสัมปะทา (ศีล นั้นจักเป็นเหตุให้ได้มาซึ่ง โภคทรัพย์)..ว่า..ที่มีโภคทรัพย์นั้นนะ...ส่วนตัวเจออะไรมาบ้าง....ซึ่งก็ว่าของตัวเองได้มาแปลกๆอยู่..


ประหลาด..ประหลาด..กระผมยืนยันว่าอานิสงค์จากคำสมาทานศีลตามตำรานั้น..เป็นจริง....แต่ก็ประหลาดนะ....ที่กักกายกลับคิดว่าเป็นการโม้...
ประหลาด...ประหลาด...


ประหลาด...ประหลาด..ทำไมถึงดั้นด้นไปเอาความเห็นผมที่อื่น..มา...ประหลาด..ประหลาด


ประหลา...ประหลาด....ถ้าไม่เห็นด้วยอย่างที่ผมเจอ...ก็คุยค้านที่บอร์ดโน้นไปเลย...เก็บกดเอามาที่นี้ทำไม..ประหลาด..ประหลาด..แท้

มีคนกล่าวถึง อคติ4...

อย่าจำได้แต่คำแปล..ซะละ

ผู้ดูแลลาน...ครับผม...

ผมว่าแบนตากักกาย..ได้แล้วคับ...เพราะชอบ..นำภาพตัดแต่งแฝงการเมือง..มุ่งให้คนเกลียดชังกันเพราะการเมือง...

กาหัวไปเลยคับ...ไม่มีกักกาย...ลานไม่ตายดอกคับ..

555....