วันเวลาปัจจุบัน 10 พ.ค. 2024, 08:29  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ย. 2017, 05:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


รักษาเนื้อรักษาตัวให้มันแข็งแรงเอาไว้
ทำงานเพื่อเลี้ยงตัวเอง เลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่
ทำงานเพื่อตอบแทนบุญคุณพ่อแม่
ถ้าเราไม่มีโอกาสได้บวชเรียนเขียนอ่าน
ก็ให้จำศีลภาวนา ทำบุญอุทิศให้พ่อแม่เรา อย่างนั้นแหละผู้เจริญ มาตาปิตุ อุปัฏฐานังการบำรุงดูแลพ่อแม่เป็นมงคลชีวิต
โอวาทธรรม...หลวงปู่ท่อน ญาณธโร




"ดีอันใด ไม่มีโทษ ดีอันนั้นชื่อว่า ดีเลิศ
ได้สมบัติใดๆ ไม่เท่าได้สมบัติคือตน
เพราะตน เป็นที่ตั้งของสมบัติทั้งปวง"
-:-หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต-:-






"ความสุขมีเงื่อนไขมาก
คือ ความสุขคุณภาพต่ำ

ความสุขมีเงื่อนไขน้อย
คือ ความสุขคุณภาพดี

ความสุขไม่มีเงื่อนไข
คือ ความสุขสูงสุด"

-:-พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ-:-







"มีธรรมะนี้ ก็คือ
จะทำอะไรก็ตาม จะพูดอะไรก็ตาม
ให้ทำด้วยปัญญา ให้พูดด้วยปัญญา
ให้นึกคิดด้วยปัญญา

ผู้ใดมี สติสัมปชัญญะ
ควบคู่กับปัญญา อยู่ตลอดเวลาแล้ว
ผู้นั้นย่อมอยู่ใกล้พระพุทธเจ้าทุกเมื่อ"

-:-หลวงปู่ชา สุภทฺโท-:-






มัจจุราชมันไล่เข้าๆ แล้วนะ มันบีบเข้าๆ อนู่นั่น
คนเรานี้ มันก็เท่านั้น เกิดแล้วตาย ตายแล้วเกิดๆ อยู่อย่างนั้น
มีแต่พระอริยเจ้าทั้งหลาย ท่านไม่อุปทานความยึดมั่น

ฟังไป ก็ไม่เอาไปพิจารณา
ไปกำกับจิตของเจ้าของ มันก็ไม่เกิดผลนะ
มันเอาแต่ความจำ "ความจริง" มันไม่เกิดกับใจเจ้าของ

หลวงปู่ลี กุสลธโร






อยู่ด้วยศีลธรรม...

..เรื่องศีลธรรมนี้เป็นของสำคัญ คนเราอยู่ด้วยกันด้วยอำนาจของศีลธรรมนะโลกทุกวันนี้ ถ้าคนไม่มีศีลธรรม ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีความเห็นอกเห็นใจกันแล้ว อยู่ด้วยกันได้ยาก..

..หลวงปู่ศรี มหาวีโร..





"วันพระทำบุญไม่ใช่แค่ใส่บาตรพระ ปฏิบัติดูแลพ่อแม่ ดูแลลูกและญาติพี่น้อง สิ่งนี้ก็ได้บุญเหมือนกัน"

คำสอน
หลวงพ่อมาร์ติน ปิยธัมโม
วัดภูฆ้องทอง จ.หนองบัวลำภู






"คติเตือนใจ จากท่านพ่อลี ธมฺมธโร"

....คนเราที่เกิดมา มาแต่ตัว อย่านำความชั่วติดตามไป จงฝักใฝ่ในกุศล เป็นทรัพย์ของตนเครื่องประกันตัว

ตายแล้วจากโลกนี้ ย่อมเสวยความดีที่ทำแล้ว ชีวิตและร่างกายสาบสูญไป แต่จิตใจย่อมคงอยู่ ผู้เสวยบุญกรรมจิตใจไม่สาบสูญ การทำบุญจึงไม่เสียผล ควรสร้างกุศลไว้เนื่องๆ เพราะชีวิตเป็นของไม่เที่ยง ย่อมแปรผัน อย่างเราท่านที่แลเห็นเป็นพยาน

ขึ้นชื่อว่าสังขาร เมื่อเกิดขึ้นแล้วตั้งอยู่ชั่วครู่ ย่อมดับไป เกิดขึ้นใหม่ รู้ไม่ได้ ย่อมหมุนเวียน สิ่งเหล่านั้นก็ดับสูญคือความตาย แต่ส่วนบุญและโคตรแซ่ก็ยังมี ส่วนความดีที่ได้ทำไว้จะไปกับตน.






"จงอย่าประมาท"

...ท่านทั้งหลายจงอย่าทำตัวเป็น ตัวบุ้ง ตัวหนอน คอยกัดแทะกระดาษแห่งคัมภีร์ใบลานเปล่าๆ โดยไม่สนใจพิจารณาสัจธรรมอันประเสริฐที่มีอยู่กับตัว แต่มัวไปยึดธรรมที่ศึกษามาถ่ายเดียว ซึ่งเป็นสมบัติของพระพุทธเจ้า มาเป็นสมบัติของตน ด้วยความเข้าใจผิดว่าตนเรียนรู้และฉลาดพอตัวแล้ว ทั้งที่กิเลสยังกองเต็มหัวใจยิ่งกว่าภูเขาไฟ มิได้ลดน้อยลงบ้างเลย

จงพากันมีสติคอยระวังตัว อย่าให้เป็นคนประเภทใบลานเปล่าๆ เรียนเปล่าและตายทิ้งเปล่า ไม่มีธรรมอันเป็นสมบัติของตัวอย่างแท้จริงติดตัวบ้างเลย

วาสนานั้นเป็นไปตามอัธยาศัย คนที่มีวาสนาในทางที่ดีมาแล้ว แต่คบคนพาล วาสนาก็อาจเป็นคนพาลได้ บางคนวาสนายังอ่อน เมื่อคบบัณฑิต วาสนาก็เลื่อนขึ้นเป็นบัณฑิต

ฉะนั้นบุคคลควรพยายามคบแต่บัณฑิต เพื่อเลื่อนภูมิวาสนาของคนให้สูงขึ้น

ถ้าใครกลัวตาย เสียดายทุกข์ ชอบถือเอาความสนุกในการเกิดว่าเลิศเลอ ผู้นั้นต้องจัดว่า ลืมตัว มัวประมาท และชอบผัดเปลี่ยนเลื่อนเวลา ว่า เช้า สาย บ่าย เย็น ไม่อยากบำเพ็ญความดีสำหรับตน ในเวลาที่มีฐานะพอทำได้อยู่ ความประมาทยังจะพาให้หลังน้ำตาด้วยความทุกข์ในสงสาร ไม่อาจประมาณได้ว่า ยังอีกนานเท่าไหร่จึงจะผ่านพ้นแหล่งกันดารอันเป็นที่ทรมานไปได้.

.

"หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต"







กายอันนี้เกิดมาทีแรกก็เป็นทุกข์
ความเป็นอยู่ในปัจจุบันก็เป็นทุกข์
คราวที่สุดจวนจะตายก็เป็นทุกข์
หาความสุขสบายของกายอันนี้
แม้แต่น้อยหนึ่งย่อมไม่มีเลย

เว้นไว้แต่ผู้ยังหลงมัวเมา
เข้าใจว่าทุกข์เป็นสุข เท่านั้น

เหตุนี้พระพุทธองค์จึงได้ทรงตรัสไว้ว่า
“ในโลกนี้นอกจากทุกข์เท่านั้นเกิดขึ้น
ทุกข์เท่านั้นย่อมดับไป ย่อมไม่มีอะไร”

ดังนี้ ฉะนั้น ผู้มาพิจารณากายนี้ให้เห็นเป็นทุกข์ ดังอธิบายมานี้แล้ว ย่อมเบื่อหน่ายในกายนี้ แล้วพยายามหาวิถีทางที่จะหนีให้พ้นจากทุกข์

หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี





...ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่
ควรถามตัวเองว่า
วันนี้ได้สร้างบุญบารมีหรือยัง
.
...ถ้ายังไม่ได้สร้าง ก็รีบสร้างเสีย
อย่าไป..ผัดวันประกันพรุ่ง
เพราะไม่มีใครทราบว่า
จะมีโอกาสอยู่ในโลกนี้อีกนานเท่าไหร่.
......................................
คัดลอกการแสดงธรรม
ธรรมะบนเขา 4/ 2 / 2544
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี




ถ้าถามธรรมในตัวเอง เราเกิดมานี้เราจะตายเหมือนโลกทั่วๆ ไป
แล้วเรามีความดีงามอะไรบ้างติดเนื้อติดตัวเรา
พุทโธเคยมีในหัวใจไหม ธัมโมเคยมีในหัวใจไหม สังโฆเคยมีในหัวใจไหม
การให้ทานเราเคยได้ให้ทานมากน้อยเพียงไร
การรักษาศีลรักษาธรรมอย่างน้อยศีล ๕
เราเคยได้รักษากับโลกแห่งชาวพุทธเขาบ้างไหม
ให้พิจารณา การภาวนาพุทโธ ธัมโม สังโฆ
ซึ่งพระพุทธเจ้าเลิศด้วยการภาวนา เราเคยได้ภาวนาบ้างสัก ๑ นาทีไหม
เหล่านี้เปล่าทั้งนั้นพวกเรา เรียกว่าเปล่าหมดไม่มีในตัว
แสดงว่าขาดทุนมากมายก่ายกอง
.
หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมฆราวาส ณ เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น
เมื่อค่ำวันที่ ๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๑
"ไม่มีอะไรหนักยิ่งกว่ากรรมดีกรรมชั่วของเรา"





ในโลกมนุษย์นี้ เราจะหลบหนีจากคำตำหนิติเตียนไม่ได้
แม้แต่พระพุทธเจ้าเองซึ่งเป็นจอมปราชญ์ทั้งหลาย
ก็ยังถูกโลกติเตียนอยู่ พระพุทธเจ้าท่านจึงตรัสเป็นพุทธภาษิตไว้ว่า
นัตถิ โลเก อนินทิโต แปลใจความว่า คนที่ไม่ถูกนินทาไม่มีในโลก
เราจะให้สัตว์โลกปราศจากสิ่งดังกล่าวไม่ได้
เพราะฉะนั้นเราผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลาย
ก็อย่าพากันไปเอาเรื่องของโลกมาเป็นอารมณ์ของใจ
จะทำให้จิตใจของเรามัวหมอง
.
หลวงปู่คำดี ปภาโส


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 25 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร