ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

กบฟังธรรมของพระพุทธเจ้าได้เป็นเทพบุตร
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=54282
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 28 ก.ค. 2017, 12:09 ]
หัวข้อกระทู้:  กบฟังธรรมของพระพุทธเจ้าได้เป็นเทพบุตร

[เรื่องกบฟังธรรมของพระพุทธเจ้าได้เป็นเทพบุตร]
ได้ยินว่า เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงธรรมแก่ชนชาวนครจำปา อยู่ที่ริมฝั่งสระโบกขรณี ชื่อคัคครา ยังมีกบตัวหนึ่งได้ถือเอานิมิตในพระสุรเสียงของพระผู้มีพระภาคเจ้า (ซึ่งกำลังทรงแสดงธรรมอยู่). (ขณะนั้น) มีคนเลี้ยงโคคนหนึ่ง เมื่อจะยืนยันไม้เท้าได้ (ยืน) กดลงที่ศีรษะกบนั้น.
กบตัวนั้นก็ตายในทันใดนั้นนั่นเอง แล้วเกิดในวิมานทองประมาณ ๑๒ โยชน์ ในภพดาวดึงส์ เหมือนนอนหลับแล้วตื่นขึ้นฉะนั้น.
ในภพดาวดึงห์นั้น มัณฑูกเทพบุตรเห็นตนเองอันหมู่นางฟ้าแวดล้อมแล้ว ใคร่ครวญอยู่ว่า เว้ย ชื่อแม้เรามาเกิดในที่นี้ ได้กระทำกรรมอะไรหนอแล? ก็มิได้เห็นกรรมอะไรๆ อย่างอื่น นอกจากการถือเอานิมิตในพระสุรเสียงของพระผู้มีพระภาคเจ้า (เท่านั้น).
มัณฑูกเทวบุตรจึงมาพร้อมทั้งวิมานในทันใดนั้นนั่นเอง แล้วถวายบังคมพระบาทยุคลของพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยเศียรเกล้า.
พระผู้มีพระภาคเจ้า ทั้งที่ทรงทราบอยู่แล (แต่) ตรัสถามว่า
ใครช่างรุ่งเรืองด้วยฤทธิ์ (และ) ยศ
มีพรรณงดงามยิ่งนัก ยังทิศทั้งปวงให้สว่าง
อยู่ กำลังไหว้เท้าของเรา?
มัณฑูกเทวบุตร กราบทูลว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ! ในชาติปาง
ก่อน ข้าพระองค์ได้เป็นกบอยู่ในน้ำ มีน้ำเป็น
ที่เที่ยวไป เมื่อข้าพระองค์กำลังฟังธรรมของ
พระองค์อยู่ คนเลี้ยงโคได้ฆ่าข้าพระองค์แล้ว.๑-
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงธรรมแก่มัณฑูกเทวบุตรนั้นแล้ว. สัตว์จำนวนแปดหมื่นสี่พันได้บรรลุธรรม. ฝ่ายเทพบุตรก็ดำรงอยู่ในพระโสดาปัตติผล ได้ทำการแย้มแล้วก็หลีกไปแล.
___________________________

ไฟล์แนป:
20170728_122609.png
20170728_122609.png [ 595.75 KiB | เปิดดู 1077 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 28 ก.ค. 2017, 12:53 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กบฟังธรรมของพระพุทธเจ้าได้เป็นเทพบุตร

อรรถกถา ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ มหารถวรรคที่ ๕
๑. มัณฑุกเทวปุตตวิมาน
ปุริสวิมานวัตถ
มหารถวรรคที่ ๕
อรรถกถามัณฑูกเทวปุตตวิมาน
มัณฑูกเทวปุตตวิมาน มีคาถาว่า โก เม วนฺทติ ปาทานิ เป็นต้น.
มัณฑูกเทวปุตตวิมานเกิดขึ้นอย่างไร?
พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ริมฝั่งสระโบกขรณี ชื่อคัคครา นครจัมปา.
เวลาใกล้รุ่ง พระองค์ทรงเข้ามหากรุณาสมาบัติอันเป็นพุทธาจิณวัตร ทรงออกจากสมาบัตินั้น แล้วทรงตรวจดูเหล่าสัตว์พวกที่เป็นเวไนยพอจะแนะนำได้ ทรงเห็นว่า เวลาเย็นวันนี้ เมื่อเรากำลังแสดงธรรม กบตัวหนึ่งถือนิมิตในเสียงของเรา จักตายด้วยความพยายามของผู้อื่นแล้วบังเกิดในเทวโลก มาให้มหาชนเห็นพร้อมด้วยเทพบริวารเป็นอันมาก คนเป็นจำนวนมากจักได้ตรัสรู้ธรรมในที่นั้น.
ครั้นทรงเห็นแล้ว เวลาเช้าทรงนุ่งแล้วทรงถือบาตรและจีวร เสด็จเข้าไปบิณฑบาตยังจัมปานครพร้อมด้วยภิกษุหมู่ใหญ่ ทรงทำให้ภิกษุทั้งหลายหาบิณฑบาตได้ง่าย เสวยภัตกิจ เสร็จแล้วเสด็จเข้าพระวิหาร.
เมื่อภิกษุทั้งหลายทำวัตรปฏิบัติแล้วไปที่พักกลางวันของตนๆ ก็เสด็จเข้าพระคันธกุฎี ทรงใช้เวลาครึ่งวันให้หมดไปด้วยสุขในผลสมาบัติ เวลาเย็นเมื่อบริษัททั้ง ๔ ประชุมกัน เสด็จออกจากพระคันธกุฎีอันหอมตลบ เสด็จเข้ามณฑปศาลาประชุมธรรม ริมฝั่งสระโบกขรณี ด้วยพระปาฏิหาริย์ซึ่งเหมาะแก่ขณะนั้น ประทับนั่งเหนือพระบวรพุทธอาสน์ที่ประดับไว้ ทรงเปล่งพระสุรเสียงเพียงดังเสียงพรหม ซึ่งประกอบด้วยองค์ ๘#- ราวกะว่าพญาไกรสรสีหราชมิหวาดหวั่น บันลือสีหนาทเหนือพื้นมโนศิลาฉะนั้น ทรงเริ่มแสดงธรรมด้วยพระพุทธสีลาอันหาอุปมามิได้ ด้วยพระพุทธานุภาพอันเป็นอจินไตย.
____________________________

ไฟล์แนป:
20170728_124443.jpg
20170728_124443.jpg [ 85.5 KiB | เปิดดู 1077 ครั้ง ]

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/