ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ท้าวพกาพรหม http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=54147 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ธรรมมา [ 08 ก.ค. 2017, 18:22 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | ท้าวพกาพรหม | ||
ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พรัหมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ พระจอมมุนี ได้เอาชนะพระพรหมผู้มีนามว่า ท้าวผกาพรหม ผู้มีฤทธิ์ คิดว่าตนเป็นผู้รุ่งเรืองด้วยคุณอันบริสุทธิ์ ผู้ถูกพญานาครัดมือไว้แน่น เพราะมีจิตคิดถือเอาความเห็นผิด ด้วยวิธีวางยา คือ ทรงแสดงเทศนาให้ถูกใจ, ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแด่ท่าน ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้นเถิดฯ สมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้า ประทับอยู่โคนต้นรังใหญ่ ในสุภควัน ใกล้เมืองอุกกัฏฐา ทรงตรวจดูด้วยสัพพัญญุตาญาณ ก็เห็นว่าท้าวพกาพรหมมีมิจฉาทิฎฐิ หลงเชื่อว่า พรหมโลกนี้เที่ยง ยั่งยืน มั่นคง มีความไม่เคลื่อนเป็นธรรมดา และพระพรหมนี้ไม่ต้อง เกิด ไม่แก่ ไม่จาย ไม่จุติ ไม่เคลื่อน ไม่อุบัติ การได้เกิดเป็นพรหมนี้พ้นทุกข์ เหตุที่ท้าวพกาพรหมมีมิจฉาทิฏฐินี้ ก็เนื่องจากสมัยท่านเกิดเป็น มนุษย์ ได้บวชเป็นพระดาบส ประกอบกุศลกรรมและรักษาฌาณ สสมาบัติ เมื่อสิ้นชีวิตแล้วจึงมาอุบัติในพรหมโลก เมื่อแรกมาอุบัติในพรหมโลกนั้น ท้าวพกาพรหมอุบัติในพรหม โลกชั้นที่10คือ เวหัปผลาพรหมภูมิ มีอายุ500กัป เมื่อจุติจากเวหัป ผลาพรหมภูมิก็ไปอุบัติยังพรหมโลกชั้นที่9คือสุภกิณหาพรหมภูมิ มีอายุได้64กัป เมื่อจุติจากสุกิณหาพรหมภูมิ ก็อุบัติยังพรหมโลกชั้น ที่6คือชั้นอาภัสราพรหมมีอายุอีก8กัป รวมแล้ว ท้าวพกาพรหมอุบัติเป็นพรหมมาแล้วมากกว่า500กัป ด้วยเวลาอันยาวนานมากจนไม่อาจจดจำ อดีตของตนว่าได้กระทำ กรรมอะไรจึงได้เป็นพรหม แล้วหลงเข้าใจอีกว่าตนนั้นมีมาอยู่ก่อนสิ่ง ใด พรหมนี้เที่ยง ไม่มีเกิด แก่ ดับ สุขอื่นยิ่งกว่าพรหมอีกไม่มี เมื่อพระพุทธเจ้าทรงทราบวาระจิตของท้าวพกาพรหมแล้ว พระองค์จึงหายไปจากโคนต้นรังใหญ่ เสด็จถึงพรหมโลกเพียงครู่ เดียว เหมือนบุรุษมีกำลังเหยียดแขนออกแล้วคู้แขนเข้าฉะนั้น
|
เจ้าของ: | ธรรมมา [ 08 ก.ค. 2017, 18:33 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: ท้าวพกาพรหม | ||
ท้าวพกาพรหมเห็นพระโลกเชษฐ์เสด็จมา ก็กราบทูลพระพุทธองค์ว่า "ดูกร ท่านผู้นิรทุกข์ เชิญท่านมาสู่พรหมโลกนี้เถิด พรหมโลกนี้เที่ยง ยั่งยืน มั่นคง แข็งแรง มีความไม่เคลื่อนเป็นธรรมดา พรหมโลกนี้ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่จาย ไม่จุติ ไม่อุบัติ สุขอื่นกว่าพรหมโลกนี้ไม่มีอีกแล้ว" พระพุทธเจ้าจึงตรัสตอบว่า "ดูกร พรหมผู้เจริญ ท่านกล่าวว่าสิ่งที่ไม่เที่ยงว่าเที่ยง กล่าวว่าสิ่งที่ไม่ ยั่งยืนว่ายั่งยืน กล่าวว่าสิ่งที่ไม่มั่นคงว่ามั่นคง กล่าวว่าสิ่งที่ไม่แข็งแรงว่า แข็งแรง กล่าวว่าสิ่งที่มีความเคลื่อนเป็นธรรมดาว่ามีความไม่เคลื่อน พรหมโลกนี้มีทั้งเกิด ทั้งแก่ ทั้งตาย ทั้งจุติ ทั้งอุบัติอยู่เป็นปกติ แต่ท่าน กลับกล่าวว่าพรหมโลกนี้ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่ตาย ไม่จุติ ไม่อุบัติ ดูกร ท่านผู้ เจริญท่านกำลังหลงในอวิชชาแล้วหนอ" ท้าวพกาพรหมกล่าวแย้งว่า "ข้าแต่พระโคดม พวกข้าพระองค์มี72คน ล้วนได้ทำบุญมาดีแล้ว มี อำนาจเหนือคนเหล่าอื่น ก้าวล่วงพ้นจากความเกิดและความแก่ การเกิด เป็นพรหมนี้ชื่อว่าถึงพระเวทแล้ว ข้าแต่พระโคดม การเกิดเป็นพรหมนี้ เป็นการเกิดครั้งสุดท้าย ความสุขยิ่งกว่าพรหมนี้ไม่มีอีกแล้ว"
|
เจ้าของ: | ธรรมมา [ 08 ก.ค. 2017, 18:36 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: ท้าวพกาพรหม | ||
ครั้งนั้น มารก็เข้าสิงกายของพรหมบริวารผู้หนึ่ง กล่าวกับพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า "ดูกรสมณะ ท่านอย่ารุกรานท้าวพกาพรหมนี้เลย พกาพรหมผู้นี้เป็น มหาพรหม เป็นพรหมผู้เป็นใหญ่ปกครองพรหมโลก เป็นผู้สร้างโลกและ สรรพสัตว์ เป็นบิดาของสรรพสิ่งทั้งหลาย ดูกรสมณะ สมณะและพราหมณ์เหล่าใด เป็นผู้ติเตียนดินเกลียดดิน เป็น ผู้ติเตียนน้ำ เกลียดน้ำ เป็นผู้ติเตียนไฟ เกลียดไฟ เป็นผู้ติเตียนลม เกลียดลม เป็นผู้ติเตียนสัตว์เกลียดสัตว์ เป็นผู้ติเตียนเทวดา เกลียด เทวดา เป็นผู้ติเตียนพรหม เกลียดพรหม ว่าพรหมนี้ไม่เที่ยง สมณะและ พราหมณ์เหล่านั้นเมื่อกายแตกดับไปแล้ว ล้วนต้องไปเกิดในอบาย ดูกรสมณะ สมณะและพราหมณ์เหล่าใด เป็นผู้สรรเสริญดินชมเชยดิน เป็นผู้สรรเสริญน้ำ ชมเชยน้ำ เป็นผู้สรรเสริญไฟ ชมเชยไฟ เป็นผู้ สรรเสริญลม เกลียดลม เป็นผู้สรรเสริญสัตว์ชมเชยสัตว์ เป็นผู้สรรเสริญ เทวดา ชมเชยเทวดา เป็นผู้สรรเสริญพรหม ชมเชยพรหม ว่าพรหมนี้ เที่ยง สมณะและพราหมณ์เหล่านั้นเมื่อกายแตกดับไปแล้วก็ได้ไปอุบัติในพรหมโลก ดูกรสมณะ เพราะเหตุนั้น ท่านจงทำตามคำที่พกาพรหมบอกแก่ท่าน เท่านั้น ท่านอย่าฝ่าฝืนคำของพกาพรหมเลย"
|
เจ้าของ: | ธรรมมา [ 08 ก.ค. 2017, 18:40 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: ท้าวพกาพรหม | ||
พระชินสีห์ทรงทราบว่ามารเข้าสิงสู่ในพรหมผู้นั้น จึงมีพุทธดำรัสตอบโต้มารว่า "นี่แน่ะมาร ท่านอย่าเข้าใจว่าเราไม่รู้จักท่าน เรานี้รู้จักท่าน และไม่อยู่ใน สอำนาจของท่านดังเช่นพรหมที่ท่านครอบงำอยู่" มารฟังคำของพระทศพลแล้วจึงหนีไป ส่วนท้าวพกาพรหมนั้น ได้เจรจาอวดอ้างมหิทฤทธานุภาพของตนว่า เหนือกว่าผู้ใด ตนนั้นเป็นผู้สร้างทุกสรรพสิ่งและไม่มีสิ่งใดในสากล จักรวาลซ่อนเร้นทิพยจักษุของเราได้ มีดำริคิดต่อกรท้าทายพระพุทธเจ้า ว่า จะหายตัวไปไม่ให้พระพุทธเจ้าทรงมองเห็นได้ พระพุทธองค์ทรง รับคำท้าแล้ว พกาพรหมก็หายตัวไปเพียงครู่เดียว ครั้งแรกท้าวพกาพรหมจำแลงตนเป็นนก เพียงครู่เดียวพระพุทธเจ้าก็มี พุทธดำรัสว่า พกาพรหมท่านต้องการเป็นนกหรือ ครั้งที่สองก็จำแลงตนเป็นผึ้ง เพียงครู่เดียวพระพุทธเจ้าก็มีพุทธดำรัสว่า พกาพรหมท่านต้องการเป็นผึ้งหรือถึงได้เที่ยวตอมดมดอกไม้อยู่ ครั้งสุดท้ายพกาพรหมได้จำแลงตนให้ละเอียดลงถึงขั้นกลายเป็นเม็ด สอดแทรกในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ถึงกระนั้นเพียงครู่เดียวก็มี พระพุทธดำรัสว่า พกาพรหมท่านไม่ต้องการเสวยสุขบนสวรรค์แล้วหรือ จึงได้ไปแฝงตัวซ่อนเร้นอยู่ในเม็ดทรายในมหาสมุทร พกาพรหมนั้น ยังไม่ละทิฎฐิ ท้าทายให้พระพุทธองค์ทรงายตัวบ้าง พระ ทศพลญาณก็หายตัวไปทันใด พกาพรหมนั้นก็ได้เข้าฌาณส่อง ทิพยจักษุญาณไปยังโลกธาตุต่างๆ เข้าไปยังนิคม ในบ้าน ในราชฐาน ใน ภูเขา ในแผ่นดินฝากโน้น แผ่นดินฝากนี้ ในแอ่งน้ำ แม่น้ำ ในมหาสมุทร ในโลกมนุษย์ ครั้นไม่พบก็ ส่องทิพยจักษุญาณไปยังโลกธาตุอื่น ใน อบายภูมิ ในเทวโลกทั้ง6ชั้น ส่องไปในพรหมโลกทั้งหลาย ตลอดจนโลก สธาตุและธาตุอันละเอียด ก็หาพระจอมไตรไม่พบ จึงยอมพ่ายแพ้ กล่าว ขอให้พระผู้มีพระภาคเจ้าปรากฎตัวออกมา ทันใดนั้น พระโลกนาถก็ตรัสขึ้นว่า "พกาพรหม ตลอดเวลาที่ท่านหาเรา อยู่นั้น เราเดินจงกรมอยู่เหนือเศียรของท่าน"และพระพุทธเจ้าก็ทรง แสดงพระสัทธรรมด้วยพระสุรเสียงอันไพเราะยิ่ง
|
เจ้าของ: | ธรรมมา [ 08 ก.ค. 2017, 18:43 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: ท้าวพกาพรหม | ||
พระพุทธเจ้าทรงแสดงกุศลธรรมของท้าวพกาพรหมว่า "ดูก่อนท่านผู้เจริญ เรานี้รู้อดีตของท่าน ก่อนนี้ในกัปหนึ่ง ท่านเกิดเป็น ดาบสอยู่ในทะเลทรายที่กันดาร ได้เนรมิตน้ำให้พ่อค้าเกวียน500เล่มที่ ขหลงทาง นี้เป็นกุศลของท่าน ก่อนนี้ท่านเป็นดาบสอาศัยอยู่ชายป่า มีโจรลงมาจากเขา มาปล้น ชาวบ้านแล้วจับเอาคนจำนวนมากขึ้นไปบนเขา ท่านแปลงกายเป็นพระ ราชพร้อมกองทหาร ขับไล่โจรไป แล้วช่วยชีวิตชาวบ้านเอาไว้ นี่เป็นกุศลของท่าน ก่อนนี้ท่านเป็นดาบสอยู่ริมฝั่งน้ำ ชาวเรือทิ้งเศษอาหารลงไปในน้ำ ทำให้พระยานาคโกรธ ขึ้นมาจะทำลายเรือ ท่านแปลงเป็นครุฑขับไล่ พระยานาคไป นี้เป็นกุศลของท่าน ดูกรพรหมผู้เจริญ เรารู้บุญกรรมของท่านดุจนอนหลับแล้วตื่นขึ้น" พระพุทธเจ้าทรงแสดงความไม่เที่ยงต่อไปว่า "ดูก่อนพกาพรหม ความจริงอายุของท่านไม่มากเลย ท่านอย่าสำคัญว่า สอายุของท่านมาก อายุของท่านเหลือเพียงหนึ่งแสนนิรพุทเท่านั้น" ในที่สุดท้าวพกาพรหมจึงยอมจำนน เมื่อนั้น เหล่าพรหมทั้งหลายกล่าว่า องค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าชนะท้าวพกาพรหมแล้ว การพ่ายแพ้ของท้าวพกาพรหมครั้งนี้ดุจหิงห้อยที่ด้อยแสงคิดขันแข่ง มพระสุริยันย่อมย่อยยับอัปราเป็นแน่แท้ เมื่อจบการเทศนาญาณแล้ว พรหมทั้งหลายจำนวนหนึ่งหมื่นองค์ก็บรรลุ ธรรม มีโสดาปัตติผลเป็นต้น https://www.dek-d.com/board/view/2316048/
|
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 08 ก.ค. 2017, 18:53 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: ท้าวพกาพรหม | ||
![]() ![]() ![]()
|
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |