ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

เกิดเป็นมนุษย์ใช้ร่างกายให้คุ้มค่า
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=53601
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  รสมน [ 24 ม.ค. 2017, 05:21 ]
หัวข้อกระทู้:  เกิดเป็นมนุษย์ใช้ร่างกายให้คุ้มค่า

ถาม : ถ้าเราทำบุญแต่เราหวังผลจากบุญที่ทำ เช่น บริจาคเงินให้วัดเพื่อหวังใบอนุโมทนาบัตร เพื่อเอาไปลดหย่อนภาษี จะผิดไหมครับ เพราะเป็นการทำบุญที่ประกอบด้วยความโลภ

พระอาจารย์ : ก็ทำให้บุญได้น้อยลงไง เพราะแทนที่เราจะทำ ๑๐๐ หนึ่ง ก็ขอคืน ๑๐ เปอร์เซ็นต์ งี้ก็ทำแค่ ๙๐ บาท มันก็ให้คนอื่นมาร่วมอีก ๑๐ บาท คือให้รัฐบาลมาร่วมแทนเรา เราก็ทำไม่ได้ครบ ๑๐๐ เราก็ได้แค่ ๙๐

ถ้าอยากจะได้บุญเต็ม ๑๐๐ เราก็ต้องไม่ไปขอใบลดหย่อนภาษีอะไรทำไปเลยเราจะได้บุญเต็มที่

ธรรมะบนเขา
วันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๖๐

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต







"...ทั้งๆที่เกลียดกลัวความทุกข์ แต่ผู้ไม่มีปัญญาก็หาได้เห็นคุณค่าสูงส่งที่สุดของพระพุทธศาสนาไม่ หาได้เข้าถึงความจริง ที่ยิ่งเสียกว่าจริงที่ว่า ใจที่ถึงพระพุทธศาสนาเป็นที่พึ่งอย่างแท้จริง จะพาให้ถึงความพ้นทุกข์ได้จริง

ในทางตรงกันข้าม ใจที่ไม่แยแสไม่เทิดทูนพระพุทธศาสนา อันเป็นเหตุให้คิด พูด ทำ เหยียบย่ำทำลายพระพุทธศาสนา จะโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม ย่อมไม่อาจหนีพ้นผลที่รุนแรงนักหนาของกรรมนั้นได้..."

พระโอวาทธรรมคำสอน..
องค์สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก(เจริญ สุวัฑฺฒโน)





"...การฟังธรรมะตามแบบของผู้อยู่ป่า อาศัยความสงบของสถานที่ เพื่อไม่ให้เสียงภายนอกเข้ามารบกวน การที่เราฝึกนั่งภาวนา ก็คือ การฝึกฟังธรรมในจิตของเราที่กำหนดภาวนาอยู่ เพราะ เรากำหนดภาวนา มีสติรู้อารมณ์อยู่ อะไรที่มันคิดเกิดขึ้นในขณะจิตที่เรานั่งภาวนาอยู่ อันนั้นก็คือ ธรรม..."
โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญามากโร






“...ความไม่ประมาท คือความไม่ตายใจ
ไม่นอนใจ ไม่ไว้ใจ ในสังขารทั้งหลายเหล่านั้น

ส่วนใดที่เป็นความดีควรได้ควรถึง
ให้มีความพยายามสร้างสรรค์ขึ้นให้มีในตน

บุคคลผู้นั้นชื่อว่า เป็นผู้ไม่ประมาท...”

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์ท่านพ่อลี ธมฺมธโร






เหล็ก โลหะ เมื่อทิ้งเอาไว้ หรือนำเอาไปฝังดินเป็นเวลานาน ๆ
เมื่อขุดดู เหล็กนั้นมันก็ไม่เหลือ เพราะสนิมมันกินจนหมดไม่มีเหลือ
ใจมนุษย์ของเราก็เหมือนกัน หากทิ้งเปล่าไว้ ไม่ดูแลรักษา คบกับกิเลส
โลภ โกรธ หลง ราคะ โทสะ โมหะ รัก ชัง หัวเราะ ร้องไห้ เหล่านี้
ใจมนุษย์ของเรามันก็ไม่เหลือ หมด ! กลายเป็นสัตว์เดรัจฉาน
เป็นมนุสสติรัจฉาโนไป ต้องระวังอย่าไปคบกิเลส
มันเป็นเพื่อนชั่ว เพื่อนช่างยุ
เราอย่าไปคบ อย่าไปเป็นทาสของมัน
สนิมกินเหล็ก กิเลสกินใจนะ ให้ระวังให้ดี !

หลวงปู่ท่อน ญาณธโร





เกิดเป็นมนุษย์ ใช้ร่างกายให้คุ้มค่า
ทาน ของเราดีหรือเปล่า ?
ศีล ของเราดีหรือเปล่า ?
ภาวนา ของเราตั้งใจมั่นหรือเปล่า ?
ถ้าไม่แน่วแน่ ยังวอกแวก ไม่เป็นอันเดียว
มันก็งมโข่งไปเรื่อย
ถ้าเราแน่วแน่ในใจเต็มที่ ไว้วางใจตนเอง
เป็นที่เชื่อมั่นในตัวเอง ไม่เกี่ยวข้องอะไร
มีดวงจิตดวงเดียวเท่านั้น
เวลาตาย ยิ้มตาย ไม่กลัวอะไรเลย

หลวงปู่ท่อน ญาณธโร






เรามาอาศัยกายนี้ทำคุณงามความดี
ร่างกายนี้ไม่ได้อยู่กับเรานานเท่าไรนะ
มันคร่ำคร่าชราภาพไปเรื่อย
มันเดินตามทางมันไปอยู่แล้ว ห้ามมันไม่อยู่
มันไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน ไม่ใช่เรา
ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล
มันเป็นสภาพสูญห้ามไม่อยู่
ดังนั้นจงรีบทำความเพียรให้อาสวะกิเลสมันสิ้นไปโดยเร็ว

หลวงปู่ท่อน ญาณธโร






"อกุปปธรรมจิต" เป็น "จิตที่ไม่กำเริบ" ด้วยกิเลสทั้งปวง ทั้งภายใน และภายนอก เป็น "ผู้สงบระงับ"

บุคคลนั้น "บริสุทธิ์" ด้วย "หิริโอตตัปปะ" เป็นธรรม บริสุทธิ์สะอาด มีใจมั่นคง "หมาย" เอา "พระอรหันต์" แน่นอน

"วิสุทธิเทวา" ท่านผู้เป็นเช่นนั้นเป็น "สัตตบุคคล" ได้ "สัจจธรรม ๔" คือ "ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค" ยังเป็น "กิริยา" ที่จะต้องทำ

"ทุกข์" กำหนดรู้
"สมุทัย" ต้องละ
"นิโรธ" ทำให้แจ้ง
"มรรค" เจริญให้มาก

ล้วนแต่เป็น "กิริยา" ที่จะต้องทำทั้งหมด
รวมความว่า "อริยสัจ ๔" เป็น "กิริยา" สัจจะ๔ จะต้องก้าวขึ้นไป

"เสร็จกิจ" จึงเรียกว่า "อกิริยา" อุปมาดังเขีบนเลข ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ เหลือ ๐ ไม่เขียน อ่านว่า "ศูนย์" แต่ไม่มีค่าอะไร "จิตไปอยู่" "ไม่สมมุติ" คือ "อกิริยา" นั่นเอง

หลวงปู่หลุย จันทสาโร
วัดถ้ำผาบิ้ง บ้านนาแก ต.นาแก อ.วังสะพุง จ.เลย

เจ้าของ:  JANDHRA [ 24 ม.ค. 2017, 10:57 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เกิดเป็นมนุษย์ใช้ร่างกายให้คุ้มค่า

...สาธุ สาธุ สาธุ...

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/