ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

คนที่มีปัญญามาก กับคนที่มีความเห็นถูก
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=53584
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  student [ 18 ม.ค. 2017, 03:49 ]
หัวข้อกระทู้:  คนที่มีปัญญามาก กับคนที่มีความเห็นถูก

คนที่มีปัญญามากมีหน้าที่ปรับอินทรีย์ให้สมบูรณ์
แล้วคนที่มีความเห็นถูกหรือมีสัมมาทิฎฐิ มีการปฏิบัติพอสมควรแก่ธรรม
มีการรักษากาย วาจาใจ ต่างกันอย่างไรครับ

เจ้าของ:  ธรรมมา [ 18 ม.ค. 2017, 07:53 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนที่มีปัญญามาก กับคนที่มีความเห็นถูก

student เขียน:
คนที่มีปัญญามากมีหน้าที่ปรับอินทรีย์ให้สมบูรณ์
แล้วคนที่มีความเห็นถูกหรือมีสัมมาทิฎฐิ มีการปฏิบัติพอสมควรแก่ธรรม
มีการรักษากาย วาจาใจ ต่างกันอย่างไรครับ


มันจะต่างกันยังไงได้ในเมื่อปัญญากับสัมมาทิฏฐิ มันเป็นตัวเดียวกัน
จะต่างกันที่การเขียนเป็นภาษาบาลีกับภาษาไทยเท่านั้น

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 18 ม.ค. 2017, 11:04 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนที่มีปัญญามาก กับคนที่มีความเห็นถูก

student เขียน:
คนที่มีปัญญามากมีหน้าที่ปรับอินทรีย์ให้สมบูรณ์
แล้วคนที่มีความเห็นถูกหรือมีสัมมาทิฎฐิ มีการปฏิบัติพอสมควรแก่ธรรม
มีการรักษากาย วาจาใจ ต่างกันอย่างไรครับ

คุณ student :

ปัญญามาก ก็ดับทุกข์ได้มาก
ปัญญาน้อย ก็ดับทุกข์ได้น้อย

มีปฏิภาณมาก ก็เข้าใจอรรถ เข้าใจธรรมได้เร็ว
มีปฏิภาณน้อย ก็เข้าใจอรรถ เข้าใจธรรมได้ช้า

มีสัมมาทิฏฐิ ก็มีทัศนคติความรู้ความเข้าใจในธรรมเกี่ยวกับความทุกข์ กุศล อกุศลตามที่พระพุทธองค์ตรัสสอน
หากมีปัญญา ก็มีทัศนคติความรู้ความเข้าใจนั้นๆ ได้ ปัญญาในระดับนี้ก็มีชื่อเรียกว่า สุตมยปัญญา

การรักษา กาย วาจา ใจเหมือนกันหมด คือให้เกิดความสุจริต เป็นกุศล ปฏิบัติสมควรแก่ธรรม

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 19 ม.ค. 2017, 06:52 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนที่มีปัญญามาก กับคนที่มีความเห็นถูก

student เขียน:
คนที่มีปัญญามากมีหน้าที่ปรับอินทรีย์ให้สมบูรณ์
แล้วคนที่มีความเห็นถูกหรือมีสัมมาทิฎฐิ มีการปฏิบัติพอสมควรแก่ธรรม
มีการรักษากาย วาจาใจ ต่างกันอย่างไรครับ


คนมีปัญญามาก....คุณ student คงหมายถึงคนที่มีลักษณะชอบเรียนรู้..ชอบศึกษาหาความรู้หลายๆด้าน...เมื่อมาปฏิบัติธรรม...จึงจำเป็นต้องปรับอินทรีย์ตัวอื่นๆให้สมดุลย์...

คนที่มีความเห็นถูกหรือมีสัมมาทิฏฐิ....คุุณ student คงหมายถึง..คนที่เห็นว่าพระธรรมคำสั่งสอนของบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า..เป็นจริง...บุญกรรมมีจริง...นรกสวรรค์มีจริง..วัฎฎะสงสารมีแต่ทุกข์จริง...ตั้งจิตตั้งใจบุญทานศีลภาวนา...ทำอะไรไปก็เพื่อให้เป็นปัจจัยได้ออกจากทุุุุกข์...

ส่วนคำถามที่ถามว่า...คนที่มีปัญญามาก...กับคนที่มีสัมมาทิฏฐิที่ปฏิธรรมสมควรแก่ธรรม....มีการรักษากาย..วาจาใจ..ต่างกันอย่างไร?..

คนมีปัญญามาก....ก็อาจเป็นคนที่มีสัมมาทิฏฐิแล้วก็ได้...การปฏิบัติตัวก็คงไม่ได้ต่างกัน

แต่คำถาม...คงหมายถึง...คนที่มีลักษณะชอบการเรียนรู้.ปัญญานำ...กับคนที่มีลักษณะศรัทธานำที่มีสัมมาทิฏฐิแล้ว...มีการรักษา..กาย..วาจา..ใจ..ต่างกันยังงัย?

คนมีปัญญามาก....ในลานเราเยอะ..แต่ขอยกตัวอย่าง..เช่น..คุณ กรัชกาย...คุณเช่นนั้น...ฯลฯ เรียนรู้เยอะพอกันแต่ก็ไม่ลงกัน...เนื่องเพราะศรัทธาคนละแนวคนละสำนัก..

คนมีปัญญามาก..เรียนรู้เยอะ...จึงมีภาระต้องมาปรับในเรื่องของกำลังศรัทธา...แต่กำลังศรัทธาของคนมีปัญญามาก...ไม่ใช่เกิดจากคำว่า..ต้องเชื่อ...แต่เกิดจากการพิจารณาให้เห็นธรรมอย่างที่รู้มาให้ได้จริงๆ..นั้นแหละ...จึงจะเกิดศรัทธาในพระธรรมจริง..(คนละอาการกับคำว่าแค่..เชื่อ.)..จนเกิดญาณในธรรม(ผัสสะ)...เมื่อตนผัสสะกับอะไร...คนที่เราชอบ..คนที่ไม่ชอบ..สำนักที่เราชอบ..สำนักที่ไม่ชอบ..ฯลฯ..ใจจะเกิดความรู้สึก..เกิดธรรมสอนตนขึ้นมาได้...จิตใจย่อมมีสติมีสัมปชัญญะ...รักษาใจ...รักษากายวาจา..ให้อยู่ในภาวะปกติ.ไม่กระทำสิ่งใดใดที่ออกไปจากอกุศลจิต...จะกระทำแต่สิ่งที่ออกจากกุศลจิต...

คนมีศรัทธามาก...ในลานเราก็มีเยอะ...แต่ขอยกตัวอย่างเช่น..คุณอโสกะ...(ไม่ขอยกตัวอย่างตัวเองนะ :b32: )..เมื่อศรัทธาคนไหนแล้วคนนั้นพูดอะไรมาก็จะเชื่อได้ง่าย...เจอของจริงก็ไปโลด..เจอของไม่จริงก็ไปโลดลิ่วเหมือนกัน.. :b9: :b9:

คนศรัทธานำ...จึงมีภาวระต้องมาปรับเรื่องของกำลังปัญญา.......ต้องศึกษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ให้พอกับเรื่องที่ตนเชื่อ...เชื่อมากเรื่องก็ควรศึกษาให้มาก...แล้วลงมือปฏิบัติตามแนวของพระธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า...ส่วนเรื่องที่เชื่อมา..ควรตกลงในใจตนก่อนว่า..เชื่อแต่รอพิสูจน์...อย่าด่วนลงใจไป 100 %...พร้อมเปลี่ยนแปลงกับความเชื่อนั้นได้ทุุกเมื่อ....เราจะปฏิบัติตามแนวธรรมจนเห็นจริง..เสียก่อน...มีโยนิโสมนสิการพิจารณาให้เห็นธรรม..ทำญาณรู้ให้เกิด...เมื่อตนผัสสะกับอะไร...คนที่เราชอบ..คนที่ไม่ชอบ..สำนักที่เราชอบ..สำนักที่ไม่ชอบ..ฯลฯ..ใจก็จะเกิดความรู้สึก..เกิดธรรมสอนตนขึ้นมาได้...จิตใจย่อมมีสติมีสัมปชัญญะ...รักษาใจ...รักษากายวาจา..ให้อยู่ในภาวะปกติ.ไม่กระทำสิ่งใดใดที่ออกไปจากอกุศลจิต...จะกระทำแต่สิ่งที่ออกจากกุศลจิต....

เมื่อคนมีปัญญามากมีสัมมาทิฏฐิ...กับคนมีศรัทธามากมีสัมมาทิฏฐิ...ย่อมกระทำการเหมือนกัน..คือ...รักษาใจ...รักษากายวาจา..ให้อยู่ในภาวะปกติ.ไม่กระทำสิ่งใดใดที่ออกไปจากอกุศลจิต...จะกระทำแต่สิ่งที่ออกจากกุศลจิต..

แต่..ลักษณะที่แสดงออกภายนอก..จะต่างกันได้..ตามสไตล์ของตน...ที่เรียกว่า..จริตนิสัยสันดานที่สะสมมา..ซึ่งเราเราที่เป็นสาวก...ไม่อาจดัดจริตสันดานได้...เป็นธรรมดา

ขณะเดียวกัน คนมีปัญญามาก..กับคนมีศรัทธามาก...แต่สติไม่ทัน..สัมปชัญญะไม่เกิด..ก็ง่ายที่จะเกิดการกระทำที่มาจากอกุศลจิต...คับ

เจ้าของ:  student [ 22 ม.ค. 2017, 04:09 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คนที่มีปัญญามาก กับคนที่มีความเห็นถูก

อนุโมทนาครับ

เข้ามาตอบให้ความรู้ที่ลึกซึ้งทุกท่าน

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/