ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ช่วยผมด้วย....มี(คน)แกล้ง
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=53540
หน้า 1 จากทั้งหมด 2

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 06 ม.ค. 2017, 06:07 ]
หัวข้อกระทู้:  ช่วยผมด้วย....มี(คน)แกล้ง

ใครมีความรู้....ก็ลองช่วยหน่อยนะครับ :b13: :b13:
.............................................
จุดเทียน..แล้วดูที่เปลวไฟ...จำภาพ...หลับตา...เห็นเปลวไฟ..แต่ไม่กี่วินาที...เปลวไฟก็ดับเหลือแต่ใส้เทียนดำ..ดำ..มีควันสีขาวลอยเอื่อยๆ..ซะด้วย....ผมก็ลืมตามาดูเปลวไฟใหม่..จำภาพ..แล้วก็หลับตาลง...แล้วมันก็เป็นอย่างเดิมอีก..คือ..เปลวไฟดับเหลือแต่ใสัดำดำกับควันขาวๆลอยเอื่อยๆ...บางครั้ง...ก็มีประเภท...เปลวไฟค่อยๆ..หรี่ลง..หรี่ลง...จนดับไปเหลือแต่ใส้เทียนดำดำ..กับควันขาวๆลอยเอื่อยๆ...นี้ยิ่งช้ำใจหนัก...

ใครมาดับไฟผม...ไม่ทราบ...ครับ...ต้องการอะไรหน่อ?

ใครรู้...ช่วยที
................................................

:b9: :b9: :b9:

เจ้าของ:  asoka [ 06 ม.ค. 2017, 07:20 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ช่วยผมด้วย....มี(คน)แกล้ง

:b12:
อุปาทาน

สร้างอุปาทานและนิมิตมาหลอกตัวเอง
เร่งดึงสติสัมปชัญญะที่สมบูรณ์กลับมาเร็วๆ
:b11:

เจ้าของ:  ธรรมมา [ 06 ม.ค. 2017, 12:29 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ช่วยผมด้วย....มี(คน)แกล้ง

มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเลย เป็นธรรมชาติของจิตเขาที่จะต้องแสวงหาอารมณ์ใหม่ เพราะคุณไปบังคับจิตให้รู้ในอารมณ์เดียว เมื่อเป็นเช่นนั้นจิตก็ไปปรุงแต่งอารมณ์ให้เกิดขึ้น คนที่ฝึกจิตมาทางด้านนี้โดยที่ขาดการศึกษาก่อน มักจะเพื้ยนไปตามอารมณ์นั้น ฝึกเองโดยขาดครูบาจารย์คอยแนะนำ บางคนยิ่งไปกว่านั้นมีเยอะแยะเลย ไปนรกสวรรค์ได้รู้เห็นอะไรต่อมิอะไไปต่างๆนาๆ ขอแนะนำครับให้เลิกฝึกตรงนี้เสีย แล้วเซาะแสวงหาผู้แล้วไต่ถามครับ ไม่งั้นคุณจะต้องเข้าโรงพยาบาลอย่างแน่นอน

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 06 ม.ค. 2017, 12:35 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ช่วยผมด้วย....มี(คน)แกล้ง

กบนอกกะลา เขียน:
ใครมีความรู้....ก็ลองช่วยหน่อยนะครับ :b13: :b13:
.............................................
จุดเทียน..แล้วดูที่เปลวไฟ...จำภาพ...หลับตา...เห็นเปลวไฟ..แต่ไม่กี่วินาที...เปลวไฟก็ดับเหลือแต่ใส้เทียนดำ..ดำ..มีควันสีขาวลอยเอื่อยๆ..ซะด้วย....ผมก็ลืมตามาดูเปลวไฟใหม่..จำภาพ..แล้วก็หลับตาลง...แล้วมันก็เป็นอย่างเดิมอีก..คือ..เปลวไฟดับเหลือแต่ใสัดำดำกับควันขาวๆลอยเอื่อยๆ...บางครั้ง...ก็มีประเภท...เปลวไฟค่อยๆ..หรี่ลง..หรี่ลง...จนดับไปเหลือแต่ใส้เทียนดำดำ..กับควันขาวๆลอยเอื่อยๆ...นี้ยิ่งช้ำใจหนัก...

ใครมาดับไฟผม...ไม่ทราบ...ครับ...ต้องการอะไรหน่อ?

ใครรู้...ช่วยที
................................................

:b9: :b9: :b9:



https://youtu.be/7h-QKkDsfzE

คงต้องกินยา

พวกที่เพ่งเปลวเทียน เพื่อให้นิมิตติดตา
แรกๆ ก็เป็นแบบนั้น
พยายามต่อไป

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 06 ม.ค. 2017, 12:55 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ช่วยผมด้วย....มี(คน)แกล้ง

asoka เขียน:
:b12:
อุปาทาน

สร้างอุปาทานและนิมิตมาหลอกตัวเอง
เร่งดึงสติสัมปชัญญะที่สมบูรณ์กลับมาเร็วๆ


บอกไม่จำเด๋วก็ทุ่มด้วยรถตู้ เออ :b32:

คือ บอกว่า เจตสิกกับจิตมันเป็นสัมปยุตกันเกิดพร้อมกันดับพร้อมกันมีอารมณ์เป็นอย่างเดียวกัน จะดึงแต่สติไม่ได้ มันต้องดึงจิตด้วย เออ

เจ้าของ:  ธรรมมา [ 06 ม.ค. 2017, 13:25 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ช่วยผมด้วย....มี(คน)แกล้ง

การเพ่งไฟถ้ามันดีจริงทำไมชฏิล ๓ พี่น้องยังจะต้องให้พระพุทธเจ้ามาสอน
ทำไมไม่บรรลุก่อนหน้านั้น คุณกบโดนผีหลอกแล้วขืนทำไปอีกบ้าแน่ๆ

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 06 ม.ค. 2017, 13:46 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ช่วยผมด้วย....มี(คน)แกล้ง

กบนอกกะลา เขียน:
ใครมีความรู้....ก็ลองช่วยหน่อยนะครับ :b13: :b13:
.............................................
จุดเทียน..แล้วดูที่เปลวไฟ...จำภาพ...หลับตา...เห็นเปลวไฟ..แต่ไม่กี่วินาที...เปลวไฟก็ดับเหลือแต่ใส้เทียนดำ..ดำ..มีควันสีขาวลอยเอื่อยๆ..ซะด้วย....ผมก็ลืมตามาดูเปลวไฟใหม่..จำภาพ..แล้วก็หลับตาลง...แล้วมันก็เป็นอย่างเดิมอีก..คือ..เปลวไฟดับเหลือแต่ใสัดำดำกับควันขาวๆลอยเอื่อยๆ...บางครั้ง...ก็มีประเภท...เปลวไฟค่อยๆ..หรี่ลง..หรี่ลง...จนดับไปเหลือแต่ใส้เทียนดำดำ..กับควันขาวๆลอยเอื่อยๆ...นี้ยิ่งช้ำใจหนัก...

ใครมาดับไฟผม...ไม่ทราบ...ครับ...ต้องการอะไรหน่อ?

ใครรู้...ช่วยที
................................................



ใส้เทียนจะขาว (เขาทำด้วยด้าย) ก็ตอนที่เรายังไม่จุดไฟแม่นก่อ พอเราจุดเทียนแล้วไฟดับ ไส้เทียนก็ดำๆเพราะมันไหม้ไฟ จะให้มันขาวเหมือนเดิมได้ยังไงกันล่ะ เออ ถ้าจะให้ขาวเหมือนเดิม เราก็เอาของมีคมตัดเทียนทิ้งสะหน่อยก็จะเห็นไส้ขาวๆข้างในอีก :b1: ลองทำดูซี่

ที่ว่าควันขาวๆลอยไป ก็เหมือนเราสูบบุหรี่แล้วพ่นควันออกจากปาก เราก็จะเห็นควันขาวๆลอยคลุ้งไป :b32: แม่นก่อ ไม่มีอะไรผิดปกติ

ปล.ที่ว่าไฟดับ เพราะเราไปนั่งที่ที่มีลมพัดเทียนก็ดับเป็นธรรมดา ลองเปลี่ยนไปนั่งในโลงเย็นซึ่งเป็น 0 ยากาสดิ เทียนก็จะติดได้หมดเล่ม :b32:

เจ้าของ:  ธรรมมา [ 06 ม.ค. 2017, 15:44 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ช่วยผมด้วย....มี(คน)แกล้ง

เช่นนั้น เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ใครมีความรู้....ก็ลองช่วยหน่อยนะครับ :b13: :b13:
.............................................
จุดเทียน..แล้วดูที่เปลวไฟ...จำภาพ...หลับตา...เห็นเปลวไฟ..แต่ไม่กี่วินาที...เปลวไฟก็ดับเหลือแต่ใส้เทียนดำ..ดำ..มีควันสีขาวลอยเอื่อยๆ..ซะด้วย....ผมก็ลืมตามาดูเปลวไฟใหม่..จำภาพ..แล้วก็หลับตาลง...แล้วมันก็เป็นอย่างเดิมอีก..คือ..เปลวไฟดับเหลือแต่ใสัดำดำกับควันขาวๆลอยเอื่อยๆ...บางครั้ง...ก็มีประเภท...เปลวไฟค่อยๆ..หรี่ลง..หรี่ลง...จนดับไปเหลือแต่ใส้เทียนดำดำ..กับควันขาวๆลอยเอื่อยๆ...นี้ยิ่งช้ำใจหนัก...

ใครมาดับไฟผม...ไม่ทราบ...ครับ...ต้องการอะไรหน่อ?

ใครรู้...ช่วยที
................................................

:b9: :b9: :b9:



https://youtu.be/7h-QKkDsfzE

คงต้องกินยา

พวกที่เพ่งเปลวเทียน เพื่อให้นิมิตติดตา
แรกๆ ก็เป็นแบบนั้น
พยายามต่อไป


คนเขากำลังสับสนยังจะไปยุให้เขาทำอีก

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 07 ม.ค. 2017, 08:35 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ช่วยผมด้วย....มี(คน)แกล้ง

asoka เขียน:
:b12:
อุปาทาน

สร้างอุปาทานและนิมิตมาหลอกตัวเอง
เร่งดึงสติสัมปชัญญะที่สมบูรณ์กลับมาเร็วๆ
:b11:


อุปาทาน...

เห็นพูดกันเยอะ....แต่ไม่แน่ใจว่าที่พูดๆกัน...เข้าใจดีมั้ยนะ..คำนี้นะ

อโสกะ...คับ..ยังงัยรึคับ...อุปาทาน..นี้นะ..ยังงัยถึงเป็นอปาทาน..ยังงัยไม่เป็นอุปาทาน..??
:b9: :b9:

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 07 ม.ค. 2017, 09:08 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ช่วยผมด้วย....มี(คน)แกล้ง

กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
อุปาทาน

สร้างอุปาทานและนิมิตมาหลอกตัวเอง
เร่งดึงสติสัมปชัญญะที่สมบูรณ์กลับมาเร็วๆ
:b11:


อุปาทาน...

เห็นพูดกันเยอะ....แต่ไม่แน่ใจว่าที่พูดๆกัน...เข้าใจดีมั้ยนะ..คำนี้นะ

อโสกะ...คับ..ยังงัยรึคับ...อุปาทาน..นี้นะ..ยังงัยถึงเป็นอปาทาน..ยังงัยไม่เป็นอุปาทาน..??
:b9: :b9:


ขอแยกคำว่า"อุปาทาน"ให้เป็นรูปธรรมเพื่อจะได้มองภาพออก
ตัณหา+อุปาทาน ซึ่งเป็นองค์ธรรมเดียวกัน คือ โลภะเจตสิก
ที่นี้เราจะแยกให้เห็นว่าอุปาทานเกิดขึ้นขณะใด ก็ต้องยกอุปมาอุปมัย

เช่นว่าเราเดินไปในห้างฯ เกิดเห็นแว่นตาที่เขาวางขายเกิดความยินดีชอบใจในแว่นนั้นว่าสวย (ตัณหา) และก็ได้เจรจาข้อซื้อเป็นที่เรียบร้อย ตรงนี้แหละ "อุปาทาน" ได้เกิดขึ้นแล้ว มีความเห็นว่าแว่นอันนี้เป็นแว่นของเรา เกิดการหวงแหนขึ้นมาทันที ใครจะมาแย่งชิงเอาไปไม่ได้

จะเห็นได้ชัดเจนว่าอุปาทานเกิดขึ้นต่อจากความยินดีพอใจก็ได้แก่ตัณหานั่นเอง ขณะนั้นตัณหาได้ดับไปแล้วคงเหลือแต่อุปานทำงานอยู่ และใขณะเดียวกันนั้นเราก็ได้เดินต่อไปอีก เราก็เห็นแว่นอีกร้านหนึ่ง ซึ่งมีความสวยกว่าอันที่ซื้อมาอีก อยากได้อันที่เห็นขึ้นมาอีก ชณะที่อยากได้ของใหม่ ตัณหา + อุปาทานเก่าก็ได้ดับไป ตัณหา+อุปาทาน ได้เกิดใหม่อีก ก็จะเป็นเช่นนี้ตลอดไปจนกว่าจะมีสติรู้เท่าทัน

เจ้าของ:  asoka [ 07 ม.ค. 2017, 10:44 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ช่วยผมด้วย....มี(คน)แกล้ง

กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
อุปาทาน

สร้างอุปาทานและนิมิตมาหลอกตัวเอง
เร่งดึงสติสัมปชัญญะที่สมบูรณ์กลับมาเร็วๆ
:b11:


อุปาทาน...

เห็นพูดกันเยอะ....แต่ไม่แน่ใจว่าที่พูดๆกัน...เข้าใจดีมั้ยนะ..คำนี้นะ

อโสกะ...คับ..ยังงัยรึคับ...อุปาทาน..นี้นะ..ยังงัยถึงเป็นอปาทาน..ยังงัยไม่เป็นอุปาทาน..??
:b9: :b9:

อุปาทานในเรื่องนี้คือ สร้างภาพเทียนดับ(นิมิต)แล้วยึดไว้เอามาหลอกตัวเองให้ปรุงแต่งต่อเป็นนั่นเป็นนี่ จนสุดท้ายปรุงว่าใครมาดับเทียนของฉัน (กู)

อุปาทาน= ความผูกยึด ความยึดติด
:b38:

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 07 ม.ค. 2017, 20:54 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ช่วยผมด้วย....มี(คน)แกล้ง

asoka เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
อุปาทาน

สร้างอุปาทานและนิมิตมาหลอกตัวเอง
เร่งดึงสติสัมปชัญญะที่สมบูรณ์กลับมาเร็วๆ
:b11:


อุปาทาน...

เห็นพูดกันเยอะ....แต่ไม่แน่ใจว่าที่พูดๆกัน...เข้าใจดีมั้ยนะ..คำนี้นะ

อโสกะ...คับ..ยังงัยรึคับ...อุปาทาน..นี้นะ..ยังงัยถึงเป็นอปาทาน..ยังงัยไม่เป็นอุปาทาน..??
:b9: :b9:

อุปาทานในเรื่องนี้คือ สร้างภาพเทียนดับ(นิมิต)แล้วยึดไว้เอามาหลอกตัวเองให้ปรุงแต่งต่อเป็นนั่นเป็นนี่ จนสุดท้ายปรุงว่าใครมาดับเทียนของฉัน (กู)

อุปาทาน= ความผูกยึด ความยึดติด
:b38:


ว่าแล้ว...อีเหล๊าะนี้..... :b9: :b9:

อุปาทาน...พูด..พูด...พูด....ก็สักแต่ว่าพูดกันไป..จริงจริง..

อุปาทาน..ที่ว่ายึด..นั้นนะ..ก็ถูกแล้ว...พวกตั้งเอาใว้ก่อน..คิดเอาใว้ก่อน..แล้วหลับตา..แล้วก็เห็นอย่างที่คิดใว้..นั้นแหละ..เรียกว่ามี...อุปาทาน...ที่อโสกะมักเป็นบ๋อยๆ....จะวาง..จะปล่อย..ฝึกวาง..ฝึกปล่อย...ไม่แน่นะ..สแกนแล้วสั่น..นี้..ก็ไม่แน่... :b32: :b32: :b32:

แต่ที่ไปเข้าใจว่ามัน..สร้างภาพ..ได้นั้นนะ..มันผิดนะคราบท่าน.. :b13: :b13:

คุณอโสกะคราบ....โปรด..เข้าใจอุปาทาน..ใหม่ซะนะครับ...

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 07 ม.ค. 2017, 21:12 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ช่วยผมด้วย....มี(คน)แกล้ง

ลุงหมาน เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
อุปาทาน

สร้างอุปาทานและนิมิตมาหลอกตัวเอง
เร่งดึงสติสัมปชัญญะที่สมบูรณ์กลับมาเร็วๆ
:b11:


อุปาทาน...

เห็นพูดกันเยอะ....แต่ไม่แน่ใจว่าที่พูดๆกัน...เข้าใจดีมั้ยนะ..คำนี้นะ

อโสกะ...คับ..ยังงัยรึคับ...อุปาทาน..นี้นะ..ยังงัยถึงเป็นอปาทาน..ยังงัยไม่เป็นอุปาทาน..??
:b9: :b9:


ขอแยกคำว่า"อุปาทาน"ให้เป็นรูปธรรมเพื่อจะได้มองภาพออก
ตัณหา+อุปาทาน ซึ่งเป็นองค์ธรรมเดียวกัน คือ โลภะเจตสิก
ที่นี้เราจะแยกให้เห็นว่าอุปาทานเกิดขึ้นขณะใด ก็ต้องยกอุปมาอุปมัย

เช่นว่าเราเดินไปในห้างฯ เกิดเห็นแว่นตาที่เขาวางขายเกิดความยินดีชอบใจในแว่นนั้นว่าสวย (ตัณหา) และก็ได้เจรจาข้อซื้อเป็นที่เรียบร้อย ตรงนี้แหละ "อุปาทาน" ได้เกิดขึ้นแล้ว มีความเห็นว่าแว่นอันนี้เป็นแว่นของเรา เกิดการหวงแหนขึ้นมาทันที ใครจะมาแย่งชิงเอาไปไม่ได้

จะเห็นได้ชัดเจนว่าอุปาทานเกิดขึ้นต่อจากความยินดีพอใจก็ได้แก่ตัณหานั่นเอง ขณะนั้นตัณหาได้ดับไปแล้วคงเหลือแต่อุปานทำงานอยู่ และใขณะเดียวกันนั้นเราก็ได้เดินต่อไปอีก เราก็เห็นแว่นอีกร้านหนึ่ง ซึ่งมีความสวยกว่าอันที่ซื้อมาอีก อยากได้อันที่เห็นขึ้นมาอีก ชณะที่อยากได้ของใหม่ ตัณหา + อุปาทานเก่าก็ได้ดับไป ตัณหา+อุปาทาน ได้เกิดใหม่อีก ก็จะเป็นเช่นนี้ตลอดไปจนกว่าจะมีสติรู้เท่าทัน


:b8:

ครับ...

เห็นบ๋อย..ทำสมาธิ..อยากเป็นสมาธิ...รู้อยู่ก่อนแล้วว่า...พอถึงฌานลึกๆ...จะไม่รู้สึกว่ามีลมหายใจ...พอลงมือทำ....ก็เอาแหละ..เริ่มผ่อนลมหายใจ...โดยไม่รู้ตัว...พออากาศไม่เพียงพอกับร่างกาย..ก็เกิดความอึดอัด....บางคนอยากเห็นเทวดา..อยากดี..ก็ได้เห็นเทวดาอย่างที่เคยๆเห็นตามรูปภาพ..เป็นต้น..

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 07 ม.ค. 2017, 21:38 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ช่วยผมด้วย....มี(คน)แกล้ง

ธรรมมา เขียน:

คนเขากำลังสับสนยังจะไปยุให้เขาทำอีก

เขาเพียงรำพึง
ไม่ได้สงสัยจริงหรอก
ก็ต้องพยายามต่อไป

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 07 ม.ค. 2017, 21:41 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ช่วยผมด้วย....มี(คน)แกล้ง

ผู้ปฏิบัติท่านนี้
เท่าที่ยกมา
ไม่มีข้อไหน บอกว่าเขาต้องการปฏิบัติเพื่อพ้นทุกข์
เขาอาจจะมุ่งหวังเพียงนิมิตติดตาเป็นหลัก
แต่ จะมีเจตนาเพ่งให้ติดตาเพื่อประการอื่นใด ไม่มีข้อมูลชี้ชัด
จึงต้องพยายามต่อไปให้สมความตั้งใจ

หน้า 1 จากทั้งหมด 2 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/