ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ต้องมีสติ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=53498
หน้า 1 จากทั้งหมด 3

เจ้าของ:  รสมน [ 23 ธ.ค. 2016, 05:01 ]
หัวข้อกระทู้:  ต้องมีสติ

"...หลวงปู่มั่นเราเทศน์ ท่านเป็นเทศน์แท้ ธรรมะในตำราก็มี ธรรมะในหัวใจก็มี ธรรมะในสมัยปัจจุบันไม่ได้ธรรมะในหัวใจก็เอาธรรมะในตำรามาอ่านสู่กันฟัง ธรรมะในตำราก็เป็นธรรมะนอกๆ ผิวๆ เผินๆ เราไม่ได้ประมาท พูดตามความจริงเป็นอย่างนั้นแต่ธรรมะภายในใจนี้เข้มข้น เพราะจิตใจของท่านทรงไว้ซึ่งธรรมเต็มเม็ดเต็มหนวย ออกมาคำไหนก็เป็นเนื้อธรรมล้วนๆ มีรส มีชาติ เต็มเม็ดเต็มหน่วยทุกขั้นทุกภูมิของธรรม เวลาฟังแล้วเหมือนว่ากล่อมลงไปเลย เวลาฟังเทศน์ของท่านผู้ทรงธรรมจะอย่างนั้น

เสียงธรรมออกจากใจท่านเป็นธรรมล้วนๆ ผู้ฟังก็มาด้วยความมุ่งมั่นต่อธรรมอย่างแรงกล้า เวลาฟังแล้วมันเพลินไปเลย ท่านเทศน์ถึง ๔ ชั่วโมงนี้ยังไม่รู้สึกว่าเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าในอวัยวะส่วนใดเลย เพราะเพลินในธรรมของท่านที่แสดงออกมา เพราะท่านเทศน์เป็นธรรมล้วนๆ ออกมา ธรรมล้วนๆออกมาเข้าถึงใจผู้มุ่งต่ออรรถต่อธรรมล้วนๆด้วยกัน มันก็ซึมซาบถึงกันได้ง่าย บางรายจิตใจรวมลงในขณะที่ท่านเทศน์ก็มี

คือเทศน์ธรรมะนี้กล่อมใจ ใจมันเคยเพลิดเคยเพลินเป็นธรรมดา พอธรรมกล่อมใจเข้าไปใจจะหดย่นเข้ามา หดเข้ามาเหมือนเขาดึงจอมแหที่ตากไว้นั่นแหละ พอจับจอมแหดึง ตีนแหก็หดเข้ามาๆ กระแสของจิตมันออกกว้างขวางมากมาย ธรรมเทศนาของท่านเหมือนหนึ่งว่าจับจอมแหดึงเข้ามาๆ จิตสงบเข้ามาๆแน่วเลยเชียว ทีนี้พอจิตลงเต็มที่แล้วเสียงธรรมท่านจะอยู่ผิวเผินจะไม่เข้าถึง แว้วๆๆ อยู่สูงๆ ปรากฏอย่างนั้น..."

เทศนาธรรมคำสอน..
องค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมฆารวาส ณ ศาลาสวนแสงธรรม
วันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๕๑




"...ถ้าขาด สติ โอกาสที่จิตใจจะวิ่งไปตามอารมณ์ภายนอกมันก็มีมากขึ้น และอารมณ์ทั้งหลาย ก็ย่อมครอบงำจิตให้หลงไหลมัวเมาได้ง่ายขึ้น..."
โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงปู่กินรี จนฺทิโย





".. สมัยโน้นท่านทำจริง จึงพบแต่ของจริง พระจริง ธรรมจริง ไม่มีปลอมแปลง ตกมาสมัยพวกเรา กลายเป็นมีแต่ชื่อเสียงเรืองนาม สูงส่งจรดพระอาทิตย์ พระจันทร์ แต่ความทำต่ำยิ่งกว่าขุมนรกอเวจี แล้วจะหาความดี ความจริง ความบริสุทธิ์มาจากไหน เพราะสิ่งที่ทำ มันกลายเป็นงานพอกพูนกิเลสและบาปกรรมไปเสียมาก มิได้เป็นงานถอดถอนกิเลสให้สิ้นไปจากใจ .."
โอวาทธรรมคำสอน...
องค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

เจ้าของ:  sirinpho [ 29 ธ.ค. 2016, 19:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ต้องมีสติ

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  asoka [ 29 ธ.ค. 2016, 20:19 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ต้องมีสติ

:b8:
ถูกใจคนไม่ยึดแน่นตำรา จังเลยครับ

ขอบพระคุณ

:b27:

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 31 ธ.ค. 2016, 06:33 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ต้องมีสติ

:b32: :b32: :b32:

ไม่ยึดแน่นำรา..นะจริงหรอ

คำก็อนัตตา..สองคำก็อนัตตา... :b9: :b9:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 01 ม.ค. 2017, 15:27 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ต้องมีสติ

asoka เขียน:

ถูกใจคนไม่ยึดแน่นตำรา จังเลยครับ

ขอบพระคุณ


ไม่เอามาจากตำรา จะเอามาจากไหน ตรัสรู้เองหรอ :b32:

เปลี่ยน พ.ศ.ใหม่ ขอถามง่ายๆนะ :b13:

คำว่า สติๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเอามาจากไหนมาพูด ถ้าไม่เอามาจากตำรา ตอบสิ :b1:

แต่กรัชกายว่า เอาจากตำรามาพูดทั้งเพ ทั้งสติ ทั้งอนัตตา จริงไม่จริงๆ

เจ้าของ:  asoka [ 05 ม.ค. 2017, 21:18 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ต้องมีสติ

:b12:
เห็นพูดเรื่องตำราๆกันทั้งกบและกรัช
ดีแล้ววันนี้จะได้ชี้แจงให้ทราบเรื่องตำรา

อโศกะไม่ได้รังเกียจตำรา เพราะก็เริ่มต้นเรียนรู้มาจากตำราและคำบอกเล่าสั่งสอนของครูบาอาจารย์และกัลยาณมิตรทั้งหลาย อโศกะใช้ความรู้จากตำราแต่เท่าที่จำเป็นในการปฏิบัติจริงและสื่อสารกับผู้อื่น

แต่รังเกียจคนที่พอศึกษาตำรามากเข้าๆแล้วยึดติดยึดแน่นอยู่กับตำราเสียจนพาลดูถูกดูแคลนผู้ที่ไม่มีโอกาสได้ศึกษาตำราอย่างมากมายเท่าตนแถมยังยกเอาก้อปเอาความรู้ในตำรามาอวดภูมิ ทับถมผู้อื่น

ที่อโศกะพยายามยึดและพยายามพูดเน้นแต่เรื่องธรรมะจากการปฏิบัติจริง ติติงคนที่ยึดตำราแน่น ก็เพื่อเป็นการถ่วงดุลย์ให้ผู้ศึกษาธรรมทั้งหลายได้สนใจและเห็นคุณค่าของการปฏิบัติจริงมากกว่าการอ่านศึกษา คิดฝันตามตำราจนบรรลุธรรมด้วยความนึกคิดตามตำราซึ่งเป็นการบรรลุปลอม
(มีต่อ)

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 05 ม.ค. 2017, 21:20 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ต้องมีสติ

asoka เขียน:
:b12:
เห็นพูดเรื่องตำราๆกันทั้งกบและกรัช
ดีแล้ววันนี้จะได้ชี้แจงให้ทราบเรื่องตำรา

อโศกะไม่ได้รังเกียจตำรา เพราะก็เริ่มต้นเรียนรู้มาจากตำราและคำบอกเล่าสั่งสอนของครูบาอาจารย์และกัลยาณมิตรทั้งหลาย อโศกะใช้ความรู้จากตำราแต่เท่าที่จำเป็นในการปฏิบัติจริงและสื่อสารกับผู้อื่น

แต่รังเกียจคนที่พอศึกษาตำรามากเข้าๆแล้วยึดติดยึดแน่นอยู่กับตำราเสียจนพาลดูถูกดูแคลนผู้ที่ไม่มีโอกาสได้ศึกษาตำราอย่างมากมายเท่าตนแถมยังยกเอาก้อปเอาความรู้ในตำรามาอวดภูมิ ทับถมผู้อื่น

ที่อโศกะพยายามยึดและพยายามพูดเน้นแต่เรื่องธรรมะจากการปฏิบัติจริง ติติงคนที่ยึดตำราแน่น ก็เพื่อเป็นการถ่วงดุลย์ให้ผู้ศึกษาธรรมทั้งหลายได้สนใจและเห็นคุณค่าของการปฏิบัติจริงมากกว่าการอ่านศึกษา คิดฝันตามตำราจนบรรลุธรรมด้วยความนึกคิดตามตำราซึ่งเป็นการบรรลุปลอม
(มีต่อ)


ไม่เห็นมีจริงตรงไหนเลย มีแต่วาทกรรม

"สะแกนร่างกาย"

"ท่องกรรมฐานถี่ยิบ"

"ท่องนั่นท่องนี่ถี่ๆ"

เจ้าของ:  asoka [ 06 ม.ค. 2017, 06:52 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ต้องมีสติ

กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
เห็นพูดเรื่องตำราๆกันทั้งกบและกรัช
ดีแล้ววันนี้จะได้ชี้แจงให้ทราบเรื่องตำรา

อโศกะไม่ได้รังเกียจตำรา เพราะก็เริ่มต้นเรียนรู้มาจากตำราและคำบอกเล่าสั่งสอนของครูบาอาจารย์และกัลยาณมิตรทั้งหลาย อโศกะใช้ความรู้จากตำราแต่เท่าที่จำเป็นในการปฏิบัติจริงและสื่อสารกับผู้อื่น

แต่รังเกียจคนที่พอศึกษาตำรามากเข้าๆแล้วยึดติดยึดแน่นอยู่กับตำราเสียจนพาลดูถูกดูแคลนผู้ที่ไม่มีโอกาสได้ศึกษาตำราอย่างมากมายเท่าตนแถมยังยกเอาก้อปเอาความรู้ในตำรามาอวดภูมิ ทับถมผู้อื่น

ที่อโศกะพยายามยึดและพยายามพูดเน้นแต่เรื่องธรรมะจากการปฏิบัติจริง ติติงคนที่ยึดตำราแน่น ก็เพื่อเป็นการถ่วงดุลย์ให้ผู้ศึกษาธรรมทั้งหลายได้สนใจและเห็นคุณค่าของการปฏิบัติจริงมากกว่าการอ่านศึกษา คิดฝันตามตำราจนบรรลุธรรมด้วยความนึกคิดตามตำราซึ่งเป็นการบรรลุปลอม
(มีต่อ)


ไม่เห็นมีจริงตรงไหนเลย มีแต่วาทกรรม

"สะแกนร่างกาย"

"ท่องกรรมฐานถี่ยิบ"

"ท่องนั่นท่องนี่ถี่ๆ"

:b17:
55555555
กรัชกายมาประกาศโพนทนาตัวเองแต่ดึกแต่เช้าเลย
คำพูดนี้

อ้างคำพูด:
ไม่เห็นมีจริงตรงไหนเลย มีแต่วาทกรรม


ช่างเหมาะสมและเป็นคุณสมบัติโดยตรงของกรัชกายเลยทีเดียว ลองกลับไปนั่งวิเคราะห์ ประเมินผล วิจัยพฤติกรรมและการแสดงออกของตนเองดูให้ดีๆสิ

กรัชกายเป็นคนรู้มาก ดีแต่พูด ทำจริงไม่เป็น ทุกวันนี้หากินอยู่แต่การลอกตำรามาแปะ ก้อปอารมณ์คนอื่นมาลองภูมิถามธรรมท่านผู้ทรงคุณธรรมในลาน ทั้งๆที่ตัวเองก็แก้ไขอะไรให้คนที่มีปัญหาทั้งหลายเหล่านั้นไม่ได้

:b3:
การประเมินผลวัดผลก้าวหน้าและความสำเร็จในการศึกษาและปฏิบัติธรรมนั้นเขาวัดกันอย่างนี้ว่า
1.รู้ทฤษฎีมาตรงตามคำสอนที่ถูกต้องของพระพุทธเจ้าหรือยัง
2.ได้พิสูจน์ธรรมคือลงมือปฏิบัติธรรมจริงๆจนเห็นจริงมาเพียงพอไหม? ได้ชิมรสแห่งธรรมบ้างหรือยัง
3.มีชีวิตอยู่กับปัจจุบันอารมณ์ได้ดีเพียงไร?
4.บริหารจัดการเวลาชีวิตของตนมาทำวิปัสสนาภาวนาได้วันละกี่ครั้ง ครั้งละกี่ชั่วโมง
5.เข้าถึงความสงบ(สัมมาสมาธิ)หรือผลปฏิบัติคือความว่างเปล่า สุขเย็น ไม่มีอะไรได้รวดเร็วเพียงใด ภายในชั่วพริตาเดียวหรือยัง เพราะความตายนั้นเกิดขึ้นได้เสมอทุกขณะไม่เลือกเวลา ถ้ายังทำอย่างที่กล่าวไม่ได้ จะหลงทำกาลกิริยาตายอย่างไร้สติขาดสัมปชัญญะเวียนว่ายต่อในวัฏฏะไปอีกนานแสนนาน

การวัดผลความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมนั้นเขาไม่ได้วัดที่ความรู้ศัพท์ธรรมะมากๆ จำพระสูตรพระอภิธรรมได้เยอะๆ
รู้พระวินัยอย่างคล่องแคล่วหรอกนะ กรัชกาย จำไว้
แล้วที่ว่ามาทั้ง 5 ข้อนั้นทำได้หรือยัง ทำได้กี่ข้อ?

s006

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 06 ม.ค. 2017, 13:21 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ต้องมีสติ

asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
เห็นพูดเรื่องตำราๆกันทั้งกบและกรัช
ดีแล้ววันนี้จะได้ชี้แจงให้ทราบเรื่องตำรา

อโศกะไม่ได้รังเกียจตำรา เพราะก็เริ่มต้นเรียนรู้มาจากตำราและคำบอกเล่าสั่งสอนของครูบาอาจารย์และกัลยาณมิตรทั้งหลาย อโศกะใช้ความรู้จากตำราแต่เท่าที่จำเป็นในการปฏิบัติจริงและสื่อสารกับผู้อื่น

แต่รังเกียจคนที่พอศึกษาตำรามากเข้าๆแล้วยึดติดยึดแน่นอยู่กับตำราเสียจนพาลดูถูกดูแคลนผู้ที่ไม่มีโอกาสได้ศึกษาตำราอย่างมากมายเท่าตนแถมยังยกเอาก้อปเอาความรู้ในตำรามาอวดภูมิ ทับถมผู้อื่น

ที่อโศกะพยายามยึดและพยายามพูดเน้นแต่เรื่องธรรมะจากการปฏิบัติจริง ติติงคนที่ยึดตำราแน่น ก็เพื่อเป็นการถ่วงดุลย์ให้ผู้ศึกษาธรรมทั้งหลายได้สนใจและเห็นคุณค่าของการปฏิบัติจริงมากกว่าการอ่านศึกษา คิดฝันตามตำราจนบรรลุธรรมด้วยความนึกคิดตามตำราซึ่งเป็นการบรรลุปลอม
(มีต่อ)


ไม่เห็นมีจริงตรงไหนเลย มีแต่วาทกรรม

"สะแกนร่างกาย"

"ท่องกรรมฐานถี่ยิบ"

"ท่องนั่นท่องนี่ถี่ๆ"

:b17:
55555555
กรัชกายมาประกาศโพนทนาตัวเองแต่ดึกแต่เช้าเลย
คำพูดนี้

อ้างคำพูด:
ไม่เห็นมีจริงตรงไหนเลย มีแต่วาทกรรม


ช่างเหมาะสมและเป็นคุณสมบัติโดยตรงของกรัชกายเลยทีเดียว ลองกลับไปนั่งวิเคราะห์ ประเมินผล วิจัยพฤติกรรมและการแสดงออกของตนเองดูให้ดีๆสิ

กรัชกายเป็นคนรู้มาก ดีแต่พูด ทำจริงไม่เป็น ทุกวันนี้หากินอยู่แต่การลอกตำรามาแปะ ก้อปอารมณ์คนอื่นมาลองภูมิถามธรรมท่านผู้ทรงคุณธรรมในลาน ทั้งๆที่ตัวเองก็แก้ไขอะไรให้คนที่มีปัญหาทั้งหลายเหล่านั้นไม่ได้


การประเมินผลวัดผลก้าวหน้าและความสำเร็จในการศึกษาและปฏิบัติธรรมนั้นเขาวัดกันอย่างนี้ว่า
1.รู้ทฤษฎีมาตรงตามคำสอนที่ถูกต้องของพระพุทธเจ้าหรือยัง
2.ได้พิสูจน์ธรรมคือลงมือปฏิบัติธรรมจริงๆจนเห็นจริงมาเพียงพอไหม? ได้ชิมรสแห่งธรรมบ้างหรือยัง
3.มีชีวิตอยู่กับปัจจุบันอารมณ์ได้ดีเพียงไร?
4.บริหารจัดการเวลาชีวิตของตนมาทำวิปัสสนาภาวนาได้วันละกี่ครั้ง ครั้งละกี่ชั่วโมง
5.เข้าถึงความสงบ(สัมมาสมาธิ)หรือผลปฏิบัติคือความว่างเปล่า สุขเย็น ไม่มีอะไรได้รวดเร็วเพียงใด ภายในชั่วพริตาเดียวหรือยัง เพราะความตายนั้นเกิดขึ้นได้เสมอทุกขณะไม่เลือกเวลา ถ้ายังทำอย่างที่กล่าวไม่ได้ จะหลงทำกาลกิริยาตายอย่างไร้สติขาดสัมปชัญญะเวียนว่ายต่อในวัฏฏะไปอีกนานแสนนาน

การวัดผลความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมนั้นเขาไม่ได้วัดที่ความรู้ศัพท์ธรรมะมากๆ จำพระสูตรพระอภิธรรมได้เยอะๆ
รู้พระวินัยอย่างคล่องแคล่วหรอกนะ กรัชกาย จำไว้
แล้วที่ว่ามาทั้ง 5 ข้อนั้นทำได้หรือยัง ทำได้กี่ข้อ?


เอาที่เขาทำจินๆมาให้ดูให้แก้อารมณ์ ก็ไม่ได้เรื่อง คิกๆๆ

เจ้าของ:  asoka [ 06 ม.ค. 2017, 19:04 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ต้องมีสติ

onion
บอกแล้วว่าที่เอามาถามปัญหาทั้งหมดนั้นเป็นพวกสติไม่ทันปัจจุบันสัมปชัญญะขาดติดปีตินิมิต
ไม่ผ่านด่านสมาธิต้องปรับปรุงสติสัปชัญญะสมาธิของเขาให้ดีก่อน ไม่ใชไปแก้ปัญหาจากความฟุ้งซ่านปรุงแต่งและอุปทานของเขาก็ยังเอาปัญหาระดับเท่าเรื่องเก่าๆมาถามอยู่ร่ำไปจึงเบื่อตอบแล้วกรัชกาย
ถ้ายังมีปัญหาของคนระดับที่สมาธิไม่ผ่านไม่ต้องเอามาถามอีกให้ไปคิดแก้ไขปัญหาเอาเอง
grin huh

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 06 ม.ค. 2017, 21:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ต้องมีสติ

asoka เขียน:
onion
บอกแล้วว่าที่เอามาถามปัญหาทั้งหมดนั้นเป็นพวกสติไม่ทันปัจจุบันสัมปชัญญะขาดติดปีตินิมิต
ไม่ผ่านด่านสมาธิต้องปรับปรุงสติสัปชัญญะสมาธิของเขาให้ดีก่อน ไม่ใชไปแก้ปัญหาจากความฟุ้งซ่านปรุงแต่งและอุปทานของเขาก็ยังเอาปัญหาระดับเท่าเรื่องเก่าๆมาถามอยู่ร่ำไปจึงเบื่อตอบแล้วกรัชกาย
ถ้ายังมีปัญหาของคนระดับที่สมาธิไม่ผ่านไม่ต้องเอามาถามอีกให้ไปคิดแก้ไขปัญหาเอาเอง


ท่านอโศกนี่แปลกคน จะเอาแต่ด้านดีด้านเดียว คิกๆๆ ชีวิตมันมีปัญหาของมัน จัยหมัย เราต้องแก้ปัญหาซี่ เออ

พระพุทธเจ้าฝันฝ่าอุปสรรคมากมายกว่าจะรู้แท้รู้จริง ใช้เวลา 6 ปีเชียวนะ

สรุปท่านอโศกนี่ไม่เข้าใจชีวิตเลย เหมือนเคยบอกหลายหนแล้วว่า ให้กลับไปเริ่มต้นที่ ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า ปิดทองฝังลูกนิมิต ปล่อยสัตว์น้ำสัตว์ปีกเอาก่อน ไม่เชื่อ :b13:

เจ้าของ:  asoka [ 07 ม.ค. 2017, 07:43 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ต้องมีสติ

huh
ลงร่องคำว่า "ชีวิต" อีกแล้ว กรัชกายนี่ติดยึดในบัญญัตินานจริงๆ คงแกะออกยากแล้วสิ

คนติดยึดแน่นนี่มักจะมีความสุดโต่ง พูดย้ำซ้ำอยู่แต่เรื่องที่ตนเองติดยึดแน่น ซ้ำแล้วซ้ำอีกอยู่อย่างนั้นเหมือนแผ่นเสียงตกร่อง ทำให้น่าเบื่อหน่าย และก็ไม่ไปไหนสักที ในลานนี้ก็มีอีกสองสามคนที่มีอาการอย่างนี้ ป่วยอย่างนี้คงรักษายากแล้วหละ ต้องให้ธรรมชาติลงโทษเอาเอง มีสัมปชัญญะรู้ตัวดีแล้วคงกลับมาเดินสายกลางได้เอง
s005

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 07 ม.ค. 2017, 08:26 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ต้องมีสติ

asoka เขียน:
huh
ลงร่องคำว่า "ชีวิต" อีกแล้ว กรัชกายนี่ติดยึดในบัญญัตินานจริงๆ คงแกะออกยากแล้วสิ

คนติดยึดแน่นนี่มักจะมีความสุดโต่ง พูดย้ำซ้ำอยู่แต่เรื่องที่ตนเองติดยึดแน่น ซ้ำแล้วซ้ำอีกอยู่อย่างนั้นเหมือนแผ่นเสียงตกร่อง ทำให้น่าเบื่อหน่าย และก็ไม่ไปไหนสักที ในลานนี้ก็มีอีกสองสามคนที่มีอาการอย่างนี้ ป่วยอย่างนี้คงรักษายากแล้วหละ ต้องให้ธรรมชาติลงโทษเอาเอง มีสัมปชัญญะรู้ตัวดีแล้วคงกลับมาเดินสายกลางได้เอง


ท่านอโศกนี่ไม่เข้าใจธรรมะจริงๆ สัมปชัญญะมันอยู่นอกจักรวาลหรอ แหมอ้างจริง สติสัมปชัญญะ อ้าวสติหายไปไหนไม่มาด้วย

สติ สัมปชัญญะมักมาคู่กันนะ

เจ้าของ:  asoka [ 07 ม.ค. 2017, 11:16 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ต้องมีสติ

:b19:
กรัชกายนั้นนะมีแต่สามัญชนสติแต่ขาดสัมปชัญญะมาโดยตลอด ลืมตัว มัวแต่อวดรู้อวดวิชา ลืมหน้าที่สำคัญของชีวิต
ลืมหน้าที่ของชาวพุทธจึงวนเวียนและพูดอยู่แต่เรื่องโลกียธรรม ไม่สนใจมุ่งตรงต่อโลกุตรธรรม

ระวังนะ ตะวันจะสาย ตลาดจะวาย สายบัวจะเน่าเสียก่อน

:b34:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 07 ม.ค. 2017, 15:50 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ต้องมีสติ

asoka เขียน:

กรัชกายนั้นนะมีแต่สามัญชนสติแต่ขาดสัมปชัญญะมาโดยตลอด ลืมตัว มัวแต่อวดรู้อวดวิชา ลืมหน้าที่สำคัญของชีวิต
ลืมหน้าที่ของชาวพุทธจึงวนเวียนและพูดอยู่แต่เรื่องโลกียธรรม ไม่สนใจมุ่งตรงต่อโลกุตรธรรม

ระวังนะ ตะวันจะสาย ตลาดจะวาย สายบัวจะเน่าเสียก่อน


นั่นๆชีวิตอีกแล้ว ชอบเอาอย่างเขาเรื่อย :b1:

ถามนะ ถ้าท่านอโศกได้โลกุตรธรรมอะไรที่คิดนั่นแล้ว จะไปอยู่ดาวอังคารไง หือ

หน้า 1 จากทั้งหมด 3 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/