วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 17:09  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 219 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6 ... 15  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2016, 08:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นี่อีก ทำไปทำไมกัน :b10: ในเมื่อไม่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา

อ้างคำพูด:
เดินจงกรม

ทำไมเราเดินจงกรมไม่ได้ สวดมนต์ทำสมาธิปกติ จนรู้สึกว่าอยากเดินจงกรม แต่พอเดินทีไร เหมือนไม่มีสมาธิต้องไปนั่งสมาธิทุกครั้ง ใครแนะนำการเริ่มเดินจงกรมให้ทีได้ไหมค่ะ



http://pantip.com/topic/35619186

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2016, 08:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นี่อีก :b1: :b14: จะถามจะทำกันไปทำไม

อ้างคำพูด:
ถ้าเริ่มต้นการฝึกสมาธิด้วยอานาปานสติได้ไหมครับ ?

คือพอดีได้มีโอกาส ฟังเกี่ยวกับการเจริญอานาปานสติ แล้วมีความสนใจ
แต่ไม่เคยทำสมาธิมาก่อน อยากทราบว่าเริ่มด้วยการทำอานาปานสติได้ไหมครับ
แล้วพอดีมีอดีตเพื่อนซึ่งตอนนี้เป็นหลวงพี่แนะนำให้เดินจงกรมก่อนจะได้ไม่ฟุ้ง
ซึ่งส่วนตัวแล้วผมก็ปฏิบัติไม่เป็นเลย จึงอยากทราบว่าควรเริ่มต้นอย่างไรดี
ปล.ไม่ค่อยมีความรู้ทางด้านธรรมข้อความไหนที่ผิดพลาดหรือตกหล่นต้องขอโทษด้วยครับ


http://pantip.com/topic/35619462


เสียเวลา ปลูกผักปลูกหญ้าขายยังได้เงิน :b10:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2016, 09:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ลึกลงไปอีกหน่อย

เวลาผมนั่งสมาธิ พอภาวนาไปซักพัก เริ่มตัดภาวนาไปแล้วทีนี้ก็จะเกิดอาการขนลุกเย็นทั้งตัว แล้วหลังจากนั้นก็จะมีภาพ คน สัตว์ แมลง ที่เราเคยทำร้ายเคยทำให้เค้าตาย หรือเจ็บลอยมาให้เห็น คือ แปลกใจว่า บางเรื่องเป็นเรื่องที่นานมาก บางเรื่องเป็นเรื่องสมัยเด็กๆอยู่ด้วยซ้ำ ซึ่งบางทีนึกถึงยังนึกไม่ออกเลย เพราะนานมาก แต่พอมานั่งสมาธิ ก็ลอยมาให้เห็นเฉยเลย


สัญญาไม่เที่ยงครับ

บางทีก็จำได้
บางทีก็จำไม่ได้

ผ่านมาหลาย10ปี พอจำได้ก็นึกแปลกใจในสัญญานั้น

Kiss
:b32:
ขำสติวเด้น แปลกใจอะไร ธรรมดาตามภพภูมิอยู่แล้วนี่ เรื่องจำได้ หรือ จำไม่ได้คือลืมนะ
ที่สำคัญคือจำถูกตามคำสอนแค่ไหน เพราะเป็นปัญญา เป็นจิต เจตสิก รูปจำ ไม่ใช่ตัวตน
:b41: :b41: :b41: :b41: :b41:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2016, 09:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ชาวพุทธบ้านเรา ท่องติดปาก ประมาณว่า กายใจไม่ใช่เรา มันเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้ ไม่ควรยึดมั่นถือมั่นว่า

ครั้นเผชิญกับอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้เข้าจริงๆร้องเป็นเจ๊กขายขวด :b1:


เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะผู้นั้นเพียงจำได้จากการอ่านบ้าง การฟังบ้าง ว่าเออ...ทุกสรรพสิ่งไม่เที่ยง เป็นอนิจจังเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอไม่คงที่ มันเป็นทุกข์ทนอยู่ในสภาพเดิมมิได้ นี่มันเป็นอนัตตามิใช่ตัวตน

เราฟังแล้วอ่านแล้วคิดตามด้วยเหตุด้วยผล เห็นจริงด้วยเชื่อเลย ว่าเออ...จริงๆนะ จำได้จำไว้ แต่ก็ยังขาดประสบการณ์ ต่อเมื่อไรประสบเหตุการณ์จริงต่อตาแล้ว ที่จำได้ลืมหมดเลยไปไม่เป็น ตัวอย่างเช่น แม่บ้านได้รับโทรศัพท์บอกแจ้งว่า สามีและลูกของคุณประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ตอนนี้ศพอยู่ที่โรงพยาบาลนี้ๆ เท่านั้นแหละ ช๊อค ทรุดเลย

หรืออย่างคนหนุ่มคนสาว ทะเลาะกันแฟนขอเลิก เสียใจร้องไห้นานเลยกว่าหาย บางรายถึงขั้นทำร้ายตนเองแขวนคอตาย


เขาเข้าใจดีว่าทุกข์
อนิจจัง
อนัตตา

แต่เขายังนึกเสียดายชีวิต
เพราะกิจความเพียรยังไม่ลุล่วง

Kiss
นี่ก็น่าขำอีก...พระพุทธเจ้าสอนให้เข้าใจจิตตนเอง...แล้วไปเข้าใจว่าคนอื่นเข้าใจน่ะตรงคำสอนไหมคะ
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2016, 10:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ดูชื่อกระทู้ แล้วดูตย.นี้อีก


ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป

วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพักประมาณสิบนาทีเริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัวจึงนั่งต่อไม่ได้ ลืมตาขึ้นมานั่งดูพระรูปอื่น

เป็นอย่างนี้อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก

จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก

จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเองจนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม

คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย

ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วก จนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีก ซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น

คำถามครับ


1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง

2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรมพิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจว่ามันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนาทำให้เราเข้าใจว่าทุกอย่างมีเกิดดับของมัน เป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด

แต่

ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการ กระทำ

หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน


ความกลัวต่อสภาวะธรรมเพราะลังเลสงสัย

อินทรีย์5ไม่มีกำลังที่จะยอมรับสภาวะนั้นๆ

Kiss
คุณสติวเด้นคะ อินทรีย์5 ใช้กับจิตที่เป็นกุศลธรรมที่มีสติรู้ตรงความจริงที่มีจริงๆ
สติและปัญญารู้ในสภาพธรรมที่กำลังมีจริงๆค่ะถึงมีกำลังอินทรีย์ที่เป็นกุศลเท่านั้น
กุศลกับอกุศลเกิดดับคนละขณะจิตถ้าเป็นสติและปัญญารู้ผ่านอินทรีย์5เป็นกุศลจิต
ปัญญาจำเพาะเจาะจงคือเข้าใจคำสอนและสติรู้ตัวตรงความจริงของสิ่งที่จิตตนกำลังรู้นะคะ
ถ้าไม่รู้ตรงกับความจริงที่สภาพธรรมกำลังมีที่ปรากฏกับจิตตนก็สะสมขณะจิตที่เป็นอกุศลแล้ว
onion onion onion
:b8:


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 22 ก.ย. 2016, 10:52, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2016, 10:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อีกสัก ตย.

ขณะกำลังทำสมาธิอยู่ จู่ๆร่างของเราก็เหมือนถูกดึง เราก็ปล่อยตามสะบายแค่ตามดู คิดว่าเป็นนิมิตธรรมดา แต่ไม่ใช่ค่ะ เพราะนิมิตธรรมดา เรากำหนดรู้มักจะหายไปได้เอง แต่นี้ไม่ใช่ เขาวิ่งผ่านตัวเราไปค่ะ กระแสของเขาตอนที่ผ่านร่าง เหมือนจิตกับกายเราจะแยกออกจากกัน ความเจ็บปวดที่เราเคยปวด (เวทนา) ที่นั่งสมาธิตอนแรกไม่เจ็บเท่านี้ เหมือนร่างกายเราถูกฉีก เหมือนเส้นเลือดจะระเบิดประมาณนั้นจริง ๆ ค่ะ เราแผ่เมตตาให้เขา เขาก็ไม่ยอม แรงเหวี่ยงเยอะมาก ๆ ทั้งที่ห้องปิดหมดเปิดแอร์นะ แต่มีกระแสลมหมุนตลอดเวลา


เรากำลังสร้างความเชื่อให้กับตนเอง
เวลาปฎิบัติ ต้องทิ้งทุกอย่าง ทิ้งความเห็น ให้เหลือแต่สัมมาทิฎฐิเกี่ยวกับธรรมตรงหน้า

tongue
:b32:
ทิ้งความเห็นทำยังไง
ในเมื่อความเห็นผิด
ว่าเป็นเราทำมีตัวตน
แล้วจะทิ้งยังไงนะเออ
:b22: :b22: :b22:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2016, 10:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ดูชื่อกระทู้ แล้วดูตย.นี้อีก


ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป

วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพักประมาณสิบนาทีเริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัวจึงนั่งต่อไม่ได้ ลืมตาขึ้นมานั่งดูพระรูปอื่น

เป็นอย่างนี้อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก

จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก

จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเองจนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม

คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย

ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วก จนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีก ซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น

คำถามครับ


1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง

2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรมพิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจว่ามันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนาทำให้เราเข้าใจว่าทุกอย่างมีเกิดดับของมัน เป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด

แต่

ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการ กระทำ

หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน


ความกลัวต่อสภาวะธรรมเพราะลังเลสงสัย

อินทรีย์5ไม่มีกำลังที่จะยอมรับสภาวะนั้นๆ



คุณstudentแนะนำวิธีปฏิบัติเพื่อให้ยอมรับต่อสภาวะนั้นๆสิครับ


ก่อนอื่น การปฎิบัติด้วยการยกเอาอินทรีย์5มาพิจารณา
เพื่อปรับความเห็นให้ยอมรับสภาวะธรรมที่เกิด ล้วนแล้วแต่เหตุปัจจัย หาใช่บุคคล ตัวเรา ตัวเขา สักแต่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
สมมุติคุณยืนอยู่ในเวลากลางวัน มีคนบอกคุณว่า นี่คือเวลากลางคืน คุณจะมีความเห็นว่าอย่างไร?
คุณก็ต้องบอกว่า นี่คือเวลากลางวัน

แต่หากวันหนึ่งคุณถูกจองจำในคุกที่มืด ไม่รู้วันเวลาเป็นเวลานาน หากมีใครคนหนึ่งบอกว่า นี่เป็นเวลากลางวัน คุณจะมีความเห็นว่าอย่างไร?
คุณจะพิสูจน์อย่างไร?

Kiss
คุณสติวเด้นคะ อินทรีย์5 เป็นปัญญาที่เข้าถึงความจริงที่สติตรงลักษณะสภาวะต่างๆตรงตามคำสอน
ต้องตรงความจริงที่กำลังเห็นทีละ1ทางเช่นเห็นก็ต้องรู้ความจริงของเห็นไม่มีสิ่งอื่นปนแค่เห็นแล้วดับ
ทันทีไม่มีเสียงไม่มีสัมผัสไม่มีกลิ่นและไม่มีรสด้วยนะคะ...ถ้าไม่ตรงทีละ1ที่จิตตนสะสมเป็นอกุศลแล้ว
:b22: :b22: :b22:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2016, 10:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ดูชื่อกระทู้ แล้วดูตย.นี้อีก


ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป

วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพักประมาณสิบนาทีเริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัวจึงนั่งต่อไม่ได้ ลืมตาขึ้นมานั่งดูพระรูปอื่น

เป็นอย่างนี้อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก

จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก

จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเองจนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม

คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย

ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วก จนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีก ซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น

คำถามครับ


1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง

2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรมพิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจว่ามันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนาทำให้เราเข้าใจว่าทุกอย่างมีเกิดดับของมัน เป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด

แต่

ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการ กระทำ

หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน


ความกลัวต่อสภาวะธรรมเพราะลังเลสงสัย

อินทรีย์5ไม่มีกำลังที่จะยอมรับสภาวะนั้นๆ



คุณstudentแนะนำวิธีปฏิบัติเพื่อให้ยอมรับต่อสภาวะนั้นๆสิครับ


ก่อนอื่น การปฎิบัติด้วยการยกเอาอินทรีย์5มาพิจารณา
เพื่อปรับความเห็นให้ยอมรับสภาวะธรรมที่เกิด ล้วนแล้วแต่เหตุปัจจัย หาใช่บุคคล ตัวเรา ตัวเขา สักแต่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
สมมุติคุณยืนอยู่ในเวลากลางวัน มีคนบอกคุณว่า นี่คือเวลากลางคืน คุณจะมีความเห็นว่าอย่างไร?
คุณก็ต้องบอกว่า นี่คือเวลากลางวัน

แต่หากวันหนึ่งคุณถูกจองจำในคุกที่มืด ไม่รู้วันเวลาเป็นเวลานาน หากมีใครคนหนึ่งบอกว่า นี่เป็นเวลากลางวัน คุณจะมีความเห็นว่าอย่างไร?
คุณจะพิสูจน์อย่างไร?



อ้างคำพูด:
การปฎิบัติด้วยการยกเอา อินทรีย์ 5 มาพิจารณา


อินทรีย์ 5 ได้แก่

-ศรัทธา
-วิริยะ
-สติ
-สมาธิ
-ปัญญา

พิจารณายังไงครับ


พิจารณาว่าความเป็นศรัทธานั้นเคียงคู่กับปัญญาครับ
ไม่งั้นจะกลายเป็นความเชื่องมงาย

วิริยะเคียงคู่กับสมาธิครับ ไม่งั้นจะกลายเป็นความสุดโต่ง

ส่วนสตินั้นควรทำให้เกิด ยิ่งมีสติ ยิ่งน้อมอินทรีย์ให้สมบูรณ์

Kiss
ศรัทธานั้นเคียงคู่กับปัญญา...อันนี้ถูกค่ะแต่เกิดกับกุศลจิตเท่านั้น...
ถ้ายังเป็นมิจฉาคือความเห็นผิดอยู่...ก็แค่จำคำไม่ตรงความจริงที่จิตตนมีนะคะ...
วิริยะเคียงคู่กับสมาธิ...อันนี้เกิดกับมิจฉาคือความเห็นผิดว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นอกุศลจิตค่ะ...
และหากเป็นปัญญา+สติ+วิริยะ+สมาธิ+กุศลจิตจึงเป็นความเห็นถูกเข้าใจถูกตามคำสอนเข้าใจนะคะ...
:b29: :b29: :b29:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2016, 12:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ดูชื่อกระทู้ แล้วดูตย.นี้อีก


ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป

วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพักประมาณสิบนาทีเริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัวจึงนั่งต่อไม่ได้ ลืมตาขึ้นมานั่งดูพระรูปอื่น

เป็นอย่างนี้อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก

จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก

จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเองจนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม

คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย

ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วก จนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีก ซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น

คำถามครับ


1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง

2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรมพิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจว่ามันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนาทำให้เราเข้าใจว่าทุกอย่างมีเกิดดับของมัน เป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด

แต่

ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการ กระทำ

หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน


ความกลัวต่อสภาวะธรรมเพราะลังเลสงสัย

อินทรีย์5ไม่มีกำลังที่จะยอมรับสภาวะนั้นๆ



คุณstudentแนะนำวิธีปฏิบัติเพื่อให้ยอมรับต่อสภาวะนั้นๆสิครับ


ก่อนอื่น การปฎิบัติด้วยการยกเอาอินทรีย์5มาพิจารณา
เพื่อปรับความเห็นให้ยอมรับสภาวะธรรมที่เกิด ล้วนแล้วแต่เหตุปัจจัย หาใช่บุคคล ตัวเรา ตัวเขา สักแต่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
สมมุติคุณยืนอยู่ในเวลากลางวัน มีคนบอกคุณว่า นี่คือเวลากลางคืน คุณจะมีความเห็นว่าอย่างไร?
คุณก็ต้องบอกว่า นี่คือเวลากลางวัน

แต่หากวันหนึ่งคุณถูกจองจำในคุกที่มืด ไม่รู้วันเวลาเป็นเวลานาน หากมีใครคนหนึ่งบอกว่า นี่เป็นเวลากลางวัน คุณจะมีความเห็นว่าอย่างไร?
คุณจะพิสูจน์อย่างไร?

Kiss
คุณสติวเด้นคะ อินทรีย์5 เป็นปัญญาที่เข้าถึงความจริงที่สติตรงลักษณะสภาวะต่างๆตรงตามคำสอน
ต้องตรงความจริงที่กำลังเห็นทีละ1ทางเช่นเห็นก็ต้องรู้ความจริงของเห็นไม่มีสิ่งอื่นปนแค่เห็นแล้วดับ
ทันทีไม่มีเสียงไม่มีสัมผัสไม่มีกลิ่นและไม่มีรสด้วยนะคะ...ถ้าไม่ตรงทีละ1ที่จิตตนสะสมเป็นอกุศลแล้ว
:b22: :b22: :b22:


อินทรีย์5เป็นโพธิปักขิยธรรมครับ
เป็นแนวทางแห่งการสร้างวิชชา

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2016, 12:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ดูชื่อกระทู้ แล้วดูตย.นี้อีก


ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป

วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพักประมาณสิบนาทีเริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัวจึงนั่งต่อไม่ได้ ลืมตาขึ้นมานั่งดูพระรูปอื่น

เป็นอย่างนี้อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก

จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก

จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเองจนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม

คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย

ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วก จนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีก ซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น

คำถามครับ


1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง

2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรมพิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจว่ามันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนาทำให้เราเข้าใจว่าทุกอย่างมีเกิดดับของมัน เป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด

แต่

ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการ กระทำ

หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน


ความกลัวต่อสภาวะธรรมเพราะลังเลสงสัย

อินทรีย์5ไม่มีกำลังที่จะยอมรับสภาวะนั้นๆ



คุณstudentแนะนำวิธีปฏิบัติเพื่อให้ยอมรับต่อสภาวะนั้นๆสิครับ


ก่อนอื่น การปฎิบัติด้วยการยกเอาอินทรีย์5มาพิจารณา
เพื่อปรับความเห็นให้ยอมรับสภาวะธรรมที่เกิด ล้วนแล้วแต่เหตุปัจจัย หาใช่บุคคล ตัวเรา ตัวเขา สักแต่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
สมมุติคุณยืนอยู่ในเวลากลางวัน มีคนบอกคุณว่า นี่คือเวลากลางคืน คุณจะมีความเห็นว่าอย่างไร?
คุณก็ต้องบอกว่า นี่คือเวลากลางวัน

แต่หากวันหนึ่งคุณถูกจองจำในคุกที่มืด ไม่รู้วันเวลาเป็นเวลานาน หากมีใครคนหนึ่งบอกว่า นี่เป็นเวลากลางวัน คุณจะมีความเห็นว่าอย่างไร?
คุณจะพิสูจน์อย่างไร?



อ้างคำพูด:
การปฎิบัติด้วยการยกเอา อินทรีย์ 5 มาพิจารณา


อินทรีย์ 5 ได้แก่

-ศรัทธา
-วิริยะ
-สติ
-สมาธิ
-ปัญญา

พิจารณายังไงครับ


พิจารณาว่าความเป็นศรัทธานั้นเคียงคู่กับปัญญาครับ
ไม่งั้นจะกลายเป็นความเชื่องมงาย

วิริยะเคียงคู่กับสมาธิครับ ไม่งั้นจะกลายเป็นความสุดโต่ง

ส่วนสตินั้นควรทำให้เกิด ยิ่งมีสติ ยิ่งน้อมอินทรีย์ให้สมบูรณ์

Kiss
ศรัทธานั้นเคียงคู่กับปัญญา...อันนี้ถูกค่ะแต่เกิดกับกุศลจิตเท่านั้น...
ถ้ายังเป็นมิจฉาคือความเห็นผิดอยู่...ก็แค่จำคำไม่ตรงความจริงที่จิตตนมีนะคะ...
วิริยะเคียงคู่กับสมาธิ...อันนี้เกิดกับมิจฉาคือความเห็นผิดว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นอกุศลจิตค่ะ...
และหากเป็นปัญญา+สติ+วิริยะ+สมาธิ+กุศลจิตจึงเป็นความเห็นถูกเข้าใจถูกตามคำสอนเข้าใจนะคะ...
:b29: :b29: :b29:


อินทรีย์5เป็นธรรมที่นำสู่การบรรลุธรรม
เป็นกุศลอยู่แล้วครับ
หากไม่เป็นกุศล ไม่เรียกว่าทำอินทรีย์5ให้สมบูรณ์

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2016, 12:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ลึกลงไปอีกหน่อย

เวลาผมนั่งสมาธิ พอภาวนาไปซักพัก เริ่มตัดภาวนาไปแล้วทีนี้ก็จะเกิดอาการขนลุกเย็นทั้งตัว แล้วหลังจากนั้นก็จะมีภาพ คน สัตว์ แมลง ที่เราเคยทำร้ายเคยทำให้เค้าตาย หรือเจ็บลอยมาให้เห็น คือ แปลกใจว่า บางเรื่องเป็นเรื่องที่นานมาก บางเรื่องเป็นเรื่องสมัยเด็กๆอยู่ด้วยซ้ำ ซึ่งบางทีนึกถึงยังนึกไม่ออกเลย เพราะนานมาก แต่พอมานั่งสมาธิ ก็ลอยมาให้เห็นเฉยเลย


สัญญาไม่เที่ยงครับ

บางทีก็จำได้
บางทีก็จำไม่ได้

ผ่านมาหลาย10ปี พอจำได้ก็นึกแปลกใจในสัญญานั้น

Kiss
:b32:
ขำสติวเด้น แปลกใจอะไร ธรรมดาตามภพภูมิอยู่แล้วนี่ เรื่องจำได้ หรือ จำไม่ได้คือลืมนะ
ที่สำคัญคือจำถูกตามคำสอนแค่ไหน เพราะเป็นปัญญา เป็นจิต เจตสิก รูปจำ ไม่ใช่ตัวตน
:b41: :b41: :b41: :b41: :b41:


สัญญา เป็นเจตสิกอยู่แล้วครับ
ไม่ใช่รูป
เป็นนาม
เกิดตามเหตุปัจจัย
นั่งสมาธิ อาจเป็นเหตุปัจจัยให้สัญญาในอดีตปรากฎชัด

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2016, 12:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อีกสัก ตย.

ขณะกำลังทำสมาธิอยู่ จู่ๆร่างของเราก็เหมือนถูกดึง เราก็ปล่อยตามสะบายแค่ตามดู คิดว่าเป็นนิมิตธรรมดา แต่ไม่ใช่ค่ะ เพราะนิมิตธรรมดา เรากำหนดรู้มักจะหายไปได้เอง แต่นี้ไม่ใช่ เขาวิ่งผ่านตัวเราไปค่ะ กระแสของเขาตอนที่ผ่านร่าง เหมือนจิตกับกายเราจะแยกออกจากกัน ความเจ็บปวดที่เราเคยปวด (เวทนา) ที่นั่งสมาธิตอนแรกไม่เจ็บเท่านี้ เหมือนร่างกายเราถูกฉีก เหมือนเส้นเลือดจะระเบิดประมาณนั้นจริง ๆ ค่ะ เราแผ่เมตตาให้เขา เขาก็ไม่ยอม แรงเหวี่ยงเยอะมาก ๆ ทั้งที่ห้องปิดหมดเปิดแอร์นะ แต่มีกระแสลมหมุนตลอดเวลา


เรากำลังสร้างความเชื่อให้กับตนเอง
เวลาปฎิบัติ ต้องทิ้งทุกอย่าง ทิ้งความเห็น ให้เหลือแต่สัมมาทิฎฐิเกี่ยวกับธรรมตรงหน้า

tongue
:b32:
ทิ้งความเห็นทำยังไง
ในเมื่อความเห็นผิด
ว่าเป็นเราทำมีตัวตน
แล้วจะทิ้งยังไงนะเออ
:b22: :b22: :b22:


เคยได้ยินพุทธคาถานี้ไหมครับ
"เราจะทำความเพียร แม้เทวดาก็ห้ามเราไม่ได้"
นั่นคือ เราไม่ต้องไปใส่ใจกับเรื่องต่างๆ ดำรงตนกับธรรมเฉพาะหน้า

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2016, 12:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ตอบคำถามคุณกรัธกายทีเดียวกับตัวอย่างที่นำมาลง

ลัทธิอื่นก็มีนั่งสมาธิ เดินจงกรม

นั่งเก่ง เข้าญาณระดับลึกได้

แต่ทำไมไม่บรรลุธรรมครับ

เขาขาดตกบกพร่องตรงไหน?

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2016, 14:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
Rosarin เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ดูชื่อกระทู้ แล้วดูตย.นี้อีก


ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป

วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพักประมาณสิบนาทีเริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัวจึงนั่งต่อไม่ได้ ลืมตาขึ้นมานั่งดูพระรูปอื่น

เป็นอย่างนี้อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก

จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก

จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเองจนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม

คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย

ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วก จนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีก ซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น

คำถามครับ


1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง

2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรมพิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจว่ามันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนาทำให้เราเข้าใจว่าทุกอย่างมีเกิดดับของมัน เป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด

แต่

ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการ กระทำ

หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน


ความกลัวต่อสภาวะธรรมเพราะลังเลสงสัย

อินทรีย์5ไม่มีกำลังที่จะยอมรับสภาวะนั้นๆ



คุณstudentแนะนำวิธีปฏิบัติเพื่อให้ยอมรับต่อสภาวะนั้นๆสิครับ


ก่อนอื่น การปฎิบัติด้วยการยกเอาอินทรีย์5มาพิจารณา
เพื่อปรับความเห็นให้ยอมรับสภาวะธรรมที่เกิด ล้วนแล้วแต่เหตุปัจจัย หาใช่บุคคล ตัวเรา ตัวเขา สักแต่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
สมมุติคุณยืนอยู่ในเวลากลางวัน มีคนบอกคุณว่า นี่คือเวลากลางคืน คุณจะมีความเห็นว่าอย่างไร?
คุณก็ต้องบอกว่า นี่คือเวลากลางวัน

แต่หากวันหนึ่งคุณถูกจองจำในคุกที่มืด ไม่รู้วันเวลาเป็นเวลานาน หากมีใครคนหนึ่งบอกว่า นี่เป็นเวลากลางวัน คุณจะมีความเห็นว่าอย่างไร?
คุณจะพิสูจน์อย่างไร?

Kiss
คุณสติวเด้นคะ อินทรีย์5 เป็นปัญญาที่เข้าถึงความจริงที่สติตรงลักษณะสภาวะต่างๆตรงตามคำสอน
ต้องตรงความจริงที่กำลังเห็นทีละ1ทางเช่นเห็นก็ต้องรู้ความจริงของเห็นไม่มีสิ่งอื่นปนแค่เห็นแล้วดับ
ทันทีไม่มีเสียงไม่มีสัมผัสไม่มีกลิ่นและไม่มีรสด้วยนะคะ...ถ้าไม่ตรงทีละ1ที่จิตตนสะสมเป็นอกุศลแล้ว
:b22: :b22: :b22:


อินทรีย์5เป็นโพธิปักขิยธรรมครับ
เป็นแนวทางแห่งการสร้างวิชชา

Kiss
อันนี้ก็รู้แต่ชื่อ ส่วนความจริงที่เข้าใจถูกมีนิดเดียวคือ อินทรีย์5เป็นความจริงที่มีสติค่ะ
ที่รับรู้สภาพธรรมที่มีทางตา หู จมูก ลิ้น กายที่ส่งเข้าไปถึงใจด้วยอารมณ์วิปัสสนานะคะ
มีความสามารถในการแยกแยะสิ่งที่กำลังปรากฏแต่ละทางได้ตรงตามคำสอนเป็นปัญญาที่
รวมลงในหมวดของสภาพธรรมตามเป็นจริงที่เป็นกุศลธรรม5ข้อที่มีใน37ของโพธิปักขิยธรรม
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2016, 14:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
Rosarin เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ดูชื่อกระทู้ แล้วดูตย.นี้อีก


ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป

วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สามนั่งไปซักพักประมาณสิบนาทีเริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัวจึงนั่งต่อไม่ได้ ลืมตาขึ้นมานั่งดูพระรูปอื่น

เป็นอย่างนี้อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก

จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก

จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเองจนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม

คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ หายใจตอนแรกก็ยาว ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย

ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วก จนถอนสมาธิออกมา ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีก ซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น

คำถามครับ


1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง

2. จุดมุ่งหมายจริงๆ คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรมพิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจว่ามันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนาทำให้เราเข้าใจว่าทุกอย่างมีเกิดดับของมัน เป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด

แต่

ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการ กระทำ

หลังสึกออกมาทุกวันนี้ เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน


ความกลัวต่อสภาวะธรรมเพราะลังเลสงสัย

อินทรีย์5ไม่มีกำลังที่จะยอมรับสภาวะนั้นๆ



คุณstudentแนะนำวิธีปฏิบัติเพื่อให้ยอมรับต่อสภาวะนั้นๆสิครับ


ก่อนอื่น การปฎิบัติด้วยการยกเอาอินทรีย์5มาพิจารณา
เพื่อปรับความเห็นให้ยอมรับสภาวะธรรมที่เกิด ล้วนแล้วแต่เหตุปัจจัย หาใช่บุคคล ตัวเรา ตัวเขา สักแต่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
สมมุติคุณยืนอยู่ในเวลากลางวัน มีคนบอกคุณว่า นี่คือเวลากลางคืน คุณจะมีความเห็นว่าอย่างไร?
คุณก็ต้องบอกว่า นี่คือเวลากลางวัน

แต่หากวันหนึ่งคุณถูกจองจำในคุกที่มืด ไม่รู้วันเวลาเป็นเวลานาน หากมีใครคนหนึ่งบอกว่า นี่เป็นเวลากลางวัน คุณจะมีความเห็นว่าอย่างไร?
คุณจะพิสูจน์อย่างไร?



อ้างคำพูด:
การปฎิบัติด้วยการยกเอา อินทรีย์ 5 มาพิจารณา


อินทรีย์ 5 ได้แก่

-ศรัทธา
-วิริยะ
-สติ
-สมาธิ
-ปัญญา

พิจารณายังไงครับ


พิจารณาว่าความเป็นศรัทธานั้นเคียงคู่กับปัญญาครับ
ไม่งั้นจะกลายเป็นความเชื่องมงาย

วิริยะเคียงคู่กับสมาธิครับ ไม่งั้นจะกลายเป็นความสุดโต่ง

ส่วนสตินั้นควรทำให้เกิด ยิ่งมีสติ ยิ่งน้อมอินทรีย์ให้สมบูรณ์

Kiss
ศรัทธานั้นเคียงคู่กับปัญญา...อันนี้ถูกค่ะแต่เกิดกับกุศลจิตเท่านั้น...
ถ้ายังเป็นมิจฉาคือความเห็นผิดอยู่...ก็แค่จำคำไม่ตรงความจริงที่จิตตนมีนะคะ...
วิริยะเคียงคู่กับสมาธิ...อันนี้เกิดกับมิจฉาคือความเห็นผิดว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นอกุศลจิตค่ะ...
และหากเป็นปัญญา+สติ+วิริยะ+สมาธิ+กุศลจิตจึงเป็นความเห็นถูกเข้าใจถูกตามคำสอนเข้าใจนะคะ...
:b29: :b29: :b29:


อินทรีย์5เป็นธรรมที่นำสู่การบรรลุธรรม
เป็นกุศลอยู่แล้วครับ
หากไม่เป็นกุศล ไม่เรียกว่าทำอินทรีย์5ให้สมบูรณ์

Kiss
ปัญญาดับอวิชชาจึงบรรลุธรรมได้...ต้องประกอบกันทั้ง37ประการ
ปัญญานำไปในกิจทั้งปวงค่ะ...ไม่ใช่ทำอินทรีย์5ได้แบบไม่รู้คือไร้สติปัญญา
เพราะทำไม่ได้ไม่ใช่เอาตัวตนไปทำแต่เป็นปัญญารู้ทั้งสิ่งที่ถูกและผิดแล้วละสิ่งที่ผิดค่ะ
เป็นปัญญารู้ถูกต้องตรงความจริงที่ถูกจนสามารถแทงตลอดธรรมตามความเป็นจริงจนถึงที่สุด
onion onion onion


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 219 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6 ... 15  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 136 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร