ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

อานาปานสติบ้านธัมมะว่าเป็นกิเลส
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=53021
หน้า 1 จากทั้งหมด 2

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 10 ส.ค. 2016, 07:54 ]
หัวข้อกระทู้:  อานาปานสติบ้านธัมมะว่าเป็นกิเลส

รู้จักอานาปานสติ

คำว่า “อานาปานสติ” แยกออกเป็นสามคำ คือ คำว่า อานะ แปลว่า ลมหายใจเข้า ตรงกับคำว่า อัสสาสะ คำว่า อาปานะ ลมหายใจออก ตรงกับคำว่า ปัสสาสะ และ

คำว่า “สติ” แปลว่า ความกำหนดพิจารณา ความระลึกรู้ตาม

รวมสามคำเข้าด้วยกันเป็น “อานาปานสติ” แปลว่า ความกำหนดพิจารณาลมหายใจเข้า และลมหายใจออก หมายถึงการใช้สติเป็นตัวกำหนดดูลมหายใจเข้า และลมหายใจออกที่เป็นปัจจุบัน แต่ ละขณะๆ

เป็นหนึ่งในวิธีฝึกกัมมัฏฐาน 40 วิธี โดยจัดอยู่ในข้อที่ 9 แห่งกัมมัฏฐานประเภทที่ใช้สติเป็นตัวนำ ซึ่งเรียกว่า อนุสติ 10

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 10 ส.ค. 2016, 07:55 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: รู้ จัก อานาปานสติ

ความสำคัญของอานาปานสติ


อานาปานสติกัมมัฏฐาน เป็นวิธีการฝึกสมาธิเจริญวิปัสสนาที่นิยมกันมากที่สุดในพระพุทธศาสนา เพราะสามารถเจริญเป็นสมถกัมมัฏฐานให้สมบูรณ์ และยังสามารถเจริญเป็นวิปัสสนากัมมัฏฐาน ให้สติปัฏฐาน ๔ สมบูรณ์ได้

อีกทั้งยังเป็นสมาธิภาวนาแบบที่พระเจ้าตรัสยืนยันว่า เป็นระบบที่พระองค์ได้ทรงปฏิบัติ และตรัสรู้ เพราะพระองค์คุ้นเคยกับการฝึกสมาธิแบบนี้มาตั้งแต่ยังทรงเยาว์ ดังหลักฐานปรากฏในหนังสือพุทธประวัติตอนเสด็จพิธีแรกนาขวัญ ความว่า สิทธัตถราชกุมาร ได้ตามเสด็จพระเจ้าสุทโธทะนะ พระราชบิดาไปในพิธีแรกนาขวัญของชาวกรุงกบิลพัสดุ์ ขณะที่พิธีการกำลังดำเนินอยู่นั้น ได้ปลีกตัวไปประทับใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง เจริญอานาปานสติ คือทรงใช้สติกำหนดลมหายใจเข้า-ออก ซึ่งนับว่า พระองค์เป็นนักภาวนาหรือนักสมาธิโดยกำเนิดก็ว่าได้

ดังนั้น พุทธบริษัททั้งในอดีต และปัจจุบันจึงนิยมใช้อานาปานสติเป็นแบบอย่าง ในการฝึกกัมมัฏฐาน เพราะศรัทธาเชื่อมั่นว่า เป็นสมาธิภาวนาที่พระพุทธองค์ใช้โดยมีหลักฐานอ้างอิงในพระไตรปิฎกหลากที่หลายแห่งมากที่สุด

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 10 ส.ค. 2016, 07:57 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: รู้ จัก อานาปานสติ

อนุสติ 10 คือ อารมณ์ที่ดีงามที่ควรระลึกถึงเนื่องๆ ได้แก่

1. พุทธานุสติ - ระลึกถึงพระพุทธเจ้า และพิจารณาคุณของพระองค์

2. ธัมมานุสติ - ระลึกถึงพระธรรม และพิจารณาคุณของพระธรรม

3. สังฆานุสติ - ระลึกถึงพระสงฆ์ และพิจารณาคุณของพระสงฆ์

4. สีลานุสติ - ระลึกถึงศีล พิจารณาศีลของตนที่ได้ประพฤติบริสุทธิ์ ไม่ด่างพร้อย

5. จาคานุสติ - ระลึกถึงจาคะ ทานที่ตนได้บริจาคแล้ว และพิจารณาเห็นคุณธรรม คือ ความเผื่อแผ่เสียสละที่มีในตน

6. เทวตานุสติ - ระลึกถึงเทวดา หมายถึงเทวดาที่ตนเคยได้รู้ได้ยินมา และพิจารณาเห็นคุณธรรมซึ่งทำคนให้เป็นเทวดา ตามที่มีในตน

7. มรณสติ - ระลึกถึงความตายอันจะต้องมีถึงตนเป็นธรรมดา พิจารณาให้เกิดความไม่ ประมาท

8. กายคตาสติ - สติอันไปในกาย หรือระลึกถึงเกี่ยวกับร่างกาย คือ กำหนดพิจารณากายนี้ ให้เห็นว่าประกอบด้วยส่วนต่างๆ คืออาการ 32 อันไม่สะอาด ไม่งาม น่าเกลียด เป็นทางรู้เท่าทันสภาวะของกายนี้ มิให้หลงใหลมัวเมา

9. อานาปานสติ - สติกำหนดลมหายใจเข้า หายใจออก

10. อุปสมานุติ - ระลึกถึงธรรมเป็นที่สงบคือนิพพาน และพิจารณาคุณของนิพพาน อันเป็นที่หาย ร้อนดับกิเลสและไร้ทุกข์

เจ้าของ:  Rosarin [ 22 ส.ค. 2016, 15:09 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: รู้ จัก อานาปานสติ

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 31 ก.ค. 2018, 19:22 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: รู้ จัก อานาปานสติ

:b16: มั่วได้ใจจริงๆ

รูปภาพ


ทำอะไรๆเข้าใจว่าเป็นกิเลสไปหมด และว่าอะไรๆก็ธรรม ธรรม ธรรม :b13: นี่ถ้าพูดถึง "ธรรม" กิเลส ก็เป็นธรรม เป็นธรรมะด้วย ธรรมะเป็นคำรวม

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 02 ส.ค. 2018, 07:42 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อานาปานสติบ้านธัมมะว่าเป็นกิเลส

เปลี่ยนชื่อกระทู้ใหม่เป็นยังงั้นแหละ :b1: เพราะแย้งกับบ้านธัมมะได้ เกี่ยวกับลมหายใจเข้า-ออกด้วยกัน

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 02 ส.ค. 2018, 19:50 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อานาปานสติบ้านธัมมะว่าเป็นกิเลส

ชีวิต (รูปนาม) ตัวเจ้าของเองยังงง ไม่เข้าใจ

อ้างคำพูด:
นั่งสมาธิแล้วเหมือนร่างกายลอยจากพื้น

ใช้วิธีอานาปานสติ ช่วงแรกนั่งสมาธิดิ่งลงมากๆจะเห็นแสงสว่างจ้ามากๆเป็นดวงแว๊บๆและสว่างตลอดเวลา เคยอ่านหนังสือหลวงพ่อสดว่าอย่าวอกแวก เรานึกได้ก็ดูลมหายใจต่อ
จากนั้น ตัวมันเบามาก แถมเหมือนได้ยินเสียงอะไรบางอย่างคุยกัน ทั้งๆที่ในห้องก็เงียบมาก และจู่ๆก็ได้ยินเสียงคนพูด "นั่นแหละกำหนดรู้ใจคน" ก็เกิดตกใจขึ้น
ร่างกายที่เคยมี ก็หายไป แต่พอได้สติ นึกได้ก็ภาวนาต่อ
ทีนี้ร่างกายเหมือนจะลอยจากพื้นดิน อาการคือตัวโครงไม่อยู่นิ่งกับพื้น ทีนี้ก็เลยกลัว รีบออกจากสมาธิ
แบบนี้เรียกว่าอะไรครับ

เจ้าของ:  Rosarin [ 02 ส.ค. 2018, 20:15 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อานาปานสติบ้านธัมมะว่าเป็นกิเลส

Kiss
เริ่มฟังก่อนตาย
ก่อนฟังพระธรรม
ทำตามๆกันด้วยกิเลส
หลังจากฟังเข้าใจเกิดปัญญา
รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิดทีละน้อยบ่อยๆ
จนละความไม่รู้เกิดความคิดเห็นถูกตามคำสอนได้จริงๆค่ะ
:b4: :b4:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 03 ส.ค. 2018, 07:58 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อานาปานสติบ้านธัมมะว่าเป็นกิเลส

Rosarin เขียน:
Kiss
เริ่มฟังก่อนตาย
ก่อนฟังพระธรรม
ทำตามๆกันด้วยกิเลส
หลังจากฟังเข้าใจเกิดปัญญา
รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิดทีละน้อยบ่อยๆ
จนละความไม่รู้เกิดความคิดเห็นถูกตามคำสอนได้จริงๆค่ะ
:b4: :b4:


ฟังแม่สุจินพูดแล้วพากันคิดไปตามอำนาจกิเลสของแต่ละคนๆ :b32:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 30 ส.ค. 2018, 17:15 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อานาปานสติบ้านธัมมะว่าเป็นกิเลส

พันทิพก็มีผู้ตั้งกระทู้ถาม เช่นว่า


อ้างคำพูด:
การปฏิบัติธรรม ตามแนวของ อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เป็นอย่างไรครับ

ฟังดูเป็นวิชาการ ที่ต้องพิจารณาตามอย่างละเอียด

แต่ส่วนตัวรู้สึกแห้งแล้ง ขาดความสดชื่นและอิ่มเอม แม้สิ่งที่อาจารย์สุจินต์สอน จะเป็นข้อเท็จจริงหลายๆอย่างที่ชาวพุทธควรรู้ ควรตระหนัก

อีกด้านหนึ่ง จากที่ฟังๆ มา เข้าใจว่า แนวของ อาจารย์สุจินต์ ไม่มีกรรมฐาน เหมือนแนวทางอื่นๆ เช่นวัดป่า ที่เน้น กรรมฐานมากๆ

https://pantip.com/topic/38001354



คคห. 1 ตอบว่า
อ้างคำพูด:

บอกเลยว่ามโนอย่างแท้จริง เพราะมโนไปอนาคตธรรม

ยกตัวอย่างเช่น

ให้รู้ว่าตนไม่ใช่คน สัตว์ สิ่งของ
สิ่งนี้เป็นอารมณ์ของพระอรหันต์
ให้ตนไปรู้รสนิพพาน
ตนไม่ได้พระอริยะจะไปรู้รสนิพพานไม่ได้
เป็นโสดาบันจึงจะรู้รสนิพพาน
เขาสอนเหมือนตนเป็นพระอรหันต์ไปแล้ว
คนที่ฟังก็มโนตาม แต่ปฏิบัติตามไม่ได้ เพราะต่างคนต่างมโนไป
ใครมีกามราคะมากก็มโนไปอีกทาง
ใครมีโทสะมากก็มโนไปอีกทาง
ใครที่โลภมากก็มโนไปอีกทาง
ใครโมหะมากก็มโนไปอีกทาง
การปฏิบัติสมาธิพร้อมเจริญสติปัฏฐาน
เป็นการแก้ไขการมโน แก้การฟุ้งซ่าน


ชัดแล้ว คือ เขาคิดว่า อานาปานะ (ลมหายใจเข้า-ออก) เป็นกิเลสไปแล้ว เขาก็ไม่ทำ คิดว่าหลับตาเป็นฌาน เขาก็ไม่หลับตา ฯลฯ ความคิดนึกดังว่านี้ กีดกั้นการปฏิบัติอย่างอื่นหมด

สุตะไปสุตะมา ฟังมาฟังไปก็จะเป็นนั่นเป็นนี่เป็นออระหันเอาดื่อๆ เหมือนออระหันสำนักนี้

https://www.youtube.com/watch?v=AnnomLIxYm0

http://g-picture2.wunjun.com/6/full/2b6 ... ?s=779x537

เจ้าของ:  Rosarin [ 30 ส.ค. 2018, 22:42 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อานาปานสติบ้านธัมมะว่าเป็นกิเลส

กรัชกาย เขียน:
เปลี่ยนชื่อกระทู้ใหม่เป็นยังงั้นแหละ :b1: เพราะแย้งกับบ้านธัมมะได้ เกี่ยวกับลมหายใจเข้า-ออกด้วยกัน

:b12:
กระทู้เก่าชื่ออะไรคะ
ทำไมไม่ตั้งชื่อใหม่
แล้วอ้างกระทู้เดิมๆ
แบบที่เคยทำล่ะคะ
:b32:
ปกติก็หายใจเข้าและออก
มีแล้วไม่ใช่คนตายนี่คะ
สติเกิดกับกุศลจิต
ที่ระลึกคำสัจจะ
ตรงความจริง
ถ้ายังมีกิเลส
จะถึงสติหรือ
สติแปลให้ตรงคือ
ระลึกตามคำสอนได้
อ่านทบทวนหลายๆครั้ง
กิเลสคือคิดตามความเข้าใจผิด
ปัญญาคือเข้าใจถูกตามเป็นจริงบ่อยๆค่อยๆเพียรรู้ทีละน้อยจนมากขึ้น
ระลึกตามคำสอนได้ตรงจริงตามเสียงก่อนดับคือตามรู้สิ่งที่เกิดแล้วก่อนดับค่ะ
แล้วที่ไปทำกำหนดลมแล้วรู้คิดถูกตามคำสอนตรงเสียงคำสัจจะไหนที่ตนกำลังมีคะตรงปรมัตถะสัจจะน๊า
:b16: :b16: :b16:

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 31 ส.ค. 2018, 02:57 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อานาปานสติบ้านธัมมะว่าเป็นกิเลส

Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เปลี่ยนชื่อกระทู้ใหม่เป็นยังงั้นแหละ :b1: เพราะแย้งกับบ้านธัมมะได้ เกี่ยวกับลมหายใจเข้า-ออกด้วยกัน

:b12:
กระทู้เก่าชื่ออะไรคะ
ทำไมไม่ตั้งชื่อใหม่
แล้วอ้างกระทู้เดิมๆ
แบบที่เคยทำล่ะคะ
:b32:
ปกติก็หายใจเข้าและออก
มีแล้วไม่ใช่คนตายนี่คะ
สติเกิดกับกุศลจิต
ที่ระลึกคำสัจจะ
ตรงความจริง
ถ้ายังมีกิเลส
จะถึงสติหรือ
สติแปลให้ตรงคือ
ระลึกตามคำสอนได้
อ่านทบทวนหลายๆครั้ง
กิเลสคือคิดตามความเข้าใจผิด
ปัญญาคือเข้าใจถูกตามเป็นจริงบ่อยๆค่อยๆเพียรรู้ทีละน้อยจนมากขึ้น
ระลึกตามคำสอนได้ตรงจริงตามเสียงก่อนดับคือตามรู้สิ่งที่เกิดแล้วก่อนดับค่ะ
แล้วที่ไปทำกำหนดลมแล้วรู้คิดถูกตามคำสอนตรงเสียงคำสัจจะไหนที่ตนกำลังมีคะตรงปรมัตถะสัจจะน๊า
:b16: :b16: :b16:


เมื่อไม่เคยฟังคำสอน หรืออ่านพระไตรปิฎกมาจึงไม่อาจระลึกตรงตามคำสอนได้จริงๆ
อานาปานสติภาวนา เจริญให้มากทำให้มาก จะได้วิปัสสนาอย่างลึกซึ้ง จนสิ้นกิเลสได้

ไปฟังแต่ ป้ามโนเอา ไม่รู้เรื่องสมถะวิปัสสนา พร่ำบอกแต่ทุกสิ่งเป็นธรรมะ อยู่นั่นล่ะ จึงมีความเข้าใจไม่ตรงตามพุทธพจน์ เช่นนั้นออกมา

เจ้าของ:  Rosarin [ 31 ส.ค. 2018, 05:41 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อานาปานสติบ้านธัมมะว่าเป็นกิเลส

เช่นนั้น เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เปลี่ยนชื่อกระทู้ใหม่เป็นยังงั้นแหละ :b1: เพราะแย้งกับบ้านธัมมะได้ เกี่ยวกับลมหายใจเข้า-ออกด้วยกัน

:b12:
กระทู้เก่าชื่ออะไรคะ
ทำไมไม่ตั้งชื่อใหม่
แล้วอ้างกระทู้เดิมๆ
แบบที่เคยทำล่ะคะ
:b32:
ปกติก็หายใจเข้าและออก
มีแล้วไม่ใช่คนตายนี่คะ
สติเกิดกับกุศลจิต
ที่ระลึกคำสัจจะ
ตรงความจริง
ถ้ายังมีกิเลส
จะถึงสติหรือ
สติแปลให้ตรงคือ
ระลึกตามคำสอนได้
อ่านทบทวนหลายๆครั้ง
กิเลสคือคิดตามความเข้าใจผิด
ปัญญาคือเข้าใจถูกตามเป็นจริงบ่อยๆค่อยๆเพียรรู้ทีละน้อยจนมากขึ้น
ระลึกตามคำสอนได้ตรงจริงตามเสียงก่อนดับคือตามรู้สิ่งที่เกิดแล้วก่อนดับค่ะ
แล้วที่ไปทำกำหนดลมแล้วรู้คิดถูกตามคำสอนตรงเสียงคำสัจจะไหนที่ตนกำลังมีคะตรงปรมัตถะสัจจะน๊า
:b16: :b16: :b16:


เมื่อไม่เคยฟังคำสอน หรืออ่านพระไตรปิฎกมาจึงไม่อาจระลึกตรงตามคำสอนได้จริงๆ
อานาปานสติภาวนา เจริญให้มากทำให้มาก จะได้วิปัสสนาอย่างลึกซึ้ง จนสิ้นกิเลสได้

ไปฟังแต่ ป้ามโนเอา ไม่รู้เรื่องสมถะวิปัสสนา พร่ำบอกแต่ทุกสิ่งเป็นธรรมะ อยู่นั่นล่ะ จึงมีความเข้าใจไม่ตรงตามพุทธพจน์ เช่นนั้นออกมา

onion
ผิดค่ะเช่นนั้น
ทำไมไม่ไตร่ตรอง
ศึกษาผิดอ่านไม่ตรงทางรู้คือปัญญาเกิดไม่ข้ามสุตมยปัญญาทุกครั้งคร่าาา
ศีล.สมาธิ.ปัญญา.สติ.สัมปชัญญะ.หิริ.โอตัปปะ.ฯลฯเป็นเจตสิกมีถึง52ประเภท
จิตเกิดดับทีละ1ขณะมีเจตสิกเกิดร่วมด้วยมากกว่า1เจตสิก(เวทนา.สัญญา.สังขารเป็น3ขันธ์)
เอาแค่ปัญญาแรกก่อนให้ถึงสัจญาณเพราะปัญญานำไปในกิจทั้งปวงถ้าไม่ฟังจะเกิดปัญญาเจตสิกไม่ได้
เพราะการนั่งสมาธิหลับตารู้อารมณ์สมาธิเจตสิกอย่างเดียวทื่อๆไม่มีปัญญาเกิดร่วมด้วยคือสมถภาวนาไงคะ
ส่วนวิปัสสนาภาวนาคือการฟังคำสอนแล้วไตร่ตรองความจริงตอนทำสมาธิลืมตาดูโลกตามปกติทำให้รู้แยก
วิคือรู้แยกแยะเหมือนทำงานวิจัยจิตไงคะต้องรู้แยกแยะย่อยละเอียดเป็นแต่ละ1ขณะจิตตรงทางตามการฟัง
เพราะสติ+ปัญญา+อหิริกะ+อโนตัปปะ+สมาธิ+อินทรีย5มีตอนลืมตาดูนะจ๊ะและสมาธิเจตสิกชื่อว่า"เอกัคตา"
เกิดดับทีละ1ขณะพร้อมจิตไม่ทราบหรือคะว่านั่งสมาธิหลับตาไม่มีจักขุนทรีย์ทำไม่รู้ไหม(กิเลสมีเมื่อเห็นค่ะ)
เข้าใจไหมคะในการจะเกิดปัญญานั้นเกิดตอนมีวิถีจิตค่ะและวิถีจิตครบ6ทางต้องตื่นรู้เบิกบานในธรรมที่ตนมี
ถ้าไม่ฟังให้เกิดปัญญาดับกิเลสคือดับความไม่รู้สิ่งที่ตนกำลังมีจะรู้อะไรเพราะจิตเกิดดับทีละ1ขณะแค่1ทาง
และวิปัสสนาต้องรู้อารมณ์ของจิตครบ6ทางอายตนะต้องมีจักขุนทรีย์ลืมตาเห็นจึงสะสมวิบากและกิริยาจิต
:b12:
:b32: :b32:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 31 ส.ค. 2018, 05:54 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อานาปานสติบ้านธัมมะว่าเป็นกิเลส

Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เปลี่ยนชื่อกระทู้ใหม่เป็นยังงั้นแหละ :b1: เพราะแย้งกับบ้านธัมมะได้ เกี่ยวกับลมหายใจเข้า-ออกด้วยกัน

:b12:
กระทู้เก่าชื่ออะไรคะ
ทำไมไม่ตั้งชื่อใหม่
แล้วอ้างกระทู้เดิมๆ
แบบที่เคยทำล่ะคะ
:b32:
ปกติก็หายใจเข้าและออก
มีแล้วไม่ใช่คนตายนี่คะ
สติเกิดกับกุศลจิต
ที่ระลึกคำสัจจะ
ตรงความจริง
ถ้ายังมีกิเลส
จะถึงสติหรือ
สติแปลให้ตรงคือ
ระลึกตามคำสอนได้
อ่านทบทวนหลายๆครั้ง
กิเลสคือคิดตามความเข้าใจผิด
ปัญญาคือเข้าใจถูกตามเป็นจริงบ่อยๆค่อยๆเพียรรู้ทีละน้อยจนมากขึ้น
ระลึกตามคำสอนได้ตรงจริงตามเสียงก่อนดับคือตามรู้สิ่งที่เกิดแล้วก่อนดับค่ะ
แล้วที่ไปทำกำหนดลมแล้วรู้คิดถูกตามคำสอนตรงเสียงคำสัจจะไหนที่ตนกำลังมีคะตรงปรมัตถะสัจจะน๊า
:b16: :b16: :b16:



เดิมชื่อ เรียนรู้อานาปานสติ อย่างว่า อิอิ เห็นคุณแม่สุจินว่า หายใจเข้าหายใจออกเป็นกิเลส เข้ากันได้ เลยเปลี่ยนนิดหน่อย จะได้รู้ลมหายใจมันเป็นกิเลส ดังนั้น ถ้าเราจะตัดกิเลสก็ต้องหยุดหายใจ คิกๆๆๆ

เจ้าของ:  Rosarin [ 31 ส.ค. 2018, 06:05 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อานาปานสติบ้านธัมมะว่าเป็นกิเลส

Rosarin เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เปลี่ยนชื่อกระทู้ใหม่เป็นยังงั้นแหละ :b1: เพราะแย้งกับบ้านธัมมะได้ เกี่ยวกับลมหายใจเข้า-ออกด้วยกัน

:b12:
กระทู้เก่าชื่ออะไรคะ
ทำไมไม่ตั้งชื่อใหม่
แล้วอ้างกระทู้เดิมๆ
แบบที่เคยทำล่ะคะ
:b32:
ปกติก็หายใจเข้าและออก
มีแล้วไม่ใช่คนตายนี่คะ
สติเกิดกับกุศลจิต
ที่ระลึกคำสัจจะ
ตรงความจริง
ถ้ายังมีกิเลส
จะถึงสติหรือ
สติแปลให้ตรงคือ
ระลึกตามคำสอนได้
อ่านทบทวนหลายๆครั้ง
กิเลสคือคิดตามความเข้าใจผิด
ปัญญาคือเข้าใจถูกตามเป็นจริงบ่อยๆค่อยๆเพียรรู้ทีละน้อยจนมากขึ้น
ระลึกตามคำสอนได้ตรงจริงตามเสียงก่อนดับคือตามรู้สิ่งที่เกิดแล้วก่อนดับค่ะ
แล้วที่ไปทำกำหนดลมแล้วรู้คิดถูกตามคำสอนตรงเสียงคำสัจจะไหนที่ตนกำลังมีคะตรงปรมัตถะสัจจะน๊า
:b16: :b16: :b16:


เมื่อไม่เคยฟังคำสอน หรืออ่านพระไตรปิฎกมาจึงไม่อาจระลึกตรงตามคำสอนได้จริงๆ
อานาปานสติภาวนา เจริญให้มากทำให้มาก จะได้วิปัสสนาอย่างลึกซึ้ง จนสิ้นกิเลสได้

ไปฟังแต่ ป้ามโนเอา ไม่รู้เรื่องสมถะวิปัสสนา พร่ำบอกแต่ทุกสิ่งเป็นธรรมะ อยู่นั่นล่ะ จึงมีความเข้าใจไม่ตรงตามพุทธพจน์ เช่นนั้นออกมา

onion
ผิดค่ะเช่นนั้น
ทำไมไม่ไตร่ตรอง
ศึกษาผิดอ่านไม่ตรงทางรู้คือปัญญาเกิดไม่ข้ามสุตมยปัญญาทุกครั้งคร่าาา
ศีล.สมาธิ.ปัญญา.สติ.สัมปชัญญะ.หิริ.โอตัปปะ.ฯลฯเป็นเจตสิกมีถึง52ประเภท
จิตเกิดดับทีละ1ขณะมีเจตสิกเกิดร่วมด้วยมากกว่า1เจตสิก(เวทนา.สัญญา.สังขารเป็น3ขันธ์)
เอาแค่ปัญญาแรกก่อนให้ถึงสัจญาณเพราะปัญญานำไปในกิจทั้งปวงถ้าไม่ฟังจะเกิดปัญญาเจตสิกไม่ได้
เพราะการนั่งสมาธิหลับตารู้อารมณ์สมาธิเจตสิกอย่างเดียวทื่อๆไม่มีปัญญาเกิดร่วมด้วยคือสมถภาวนาไงคะ
ส่วนวิปัสสนาภาวนาคือการฟังคำสอนแล้วไตร่ตรองความจริงตอนทำสมาธิลืมตาดูโลกตามปกติทำให้รู้แยก
วิคือรู้แยกแยะเหมือนทำงานวิจัยจิตไงคะต้องรู้แยกแยะย่อยละเอียดเป็นแต่ละ1ขณะจิตตรงทางตามการฟัง
เพราะสติ+ปัญญา+อหิริกะ+อโนตัปปะ+สมาธิ+อินทรีย5มีตอนลืมตาดูนะจ๊ะและสมาธิเจตสิกชื่อว่า"เอกัคตา"
เกิดดับทีละ1ขณะพร้อมจิตไม่ทราบหรือคะว่านั่งสมาธิหลับตาไม่มีจักขุนทรีย์ทำไม่รู้ไหม(กิเลสมีเมื่อเห็นค่ะ)
เข้าใจไหมคะในการจะเกิดปัญญานั้นเกิดตอนมีวิถีจิตค่ะและวิถีจิตครบ6ทางต้องตื่นรู้เบิกบานในธรรมที่ตนมี
ถ้าไม่ฟังให้เกิดปัญญาดับกิเลสคือดับความไม่รู้สิ่งที่ตนกำลังมีจะรู้อะไรเพราะจิตเกิดดับทีละ1ขณะแค่1ทาง
และวิปัสสนาต้องรู้อารมณ์ของจิตครบ6ทางอายตนะต้องมีจักขุนทรีย์ลืมตาเห็นจึงสะสมวิบากและกิริยาจิต
:b12:
:b32: :b32:

:b12:
ทำสุตมยปัญญาคือเพิ่มปัญญาคือคิดถูกเข้าใจถูกตามคำสอนจนรู้ชัดสิ่งที่กำลังปรากฏตรงขณะครบ6ทาง
เพราะจิตทั้ง6ทางเป็นวิบากและกริยาส่วนกุศลอกุศลอยู่ที่เจตสิกและจิต+เจตสิกเป็นคู่หูรู้อารมณ์เดียวกัน
https://youtu.be/GRNMpdllfm4
:b4: :b4:

หน้า 1 จากทั้งหมด 2 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/