ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

กายใจ ไม่ใช่เรา (ว่า)
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=52905
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 23 ก.ค. 2016, 09:26 ]
หัวข้อกระทู้:  กายใจ ไม่ใช่เรา (ว่า)

หากเข้าใจพุทธธรรมผิด จะหลุดโลกความเป็นจริงไปเลย โดยเฉพาะ คำสอนระดับสูง เช่นว่า กายใจ ไม่ใช่เรา ไร้ตัวมิใช่ตน ....

ผู้ปฏิบัติทางจิตจนเห็นความจริงของธรรมชาติ (กาย-ใจ) ระดับนี้ จะใช้ชีวิตที่พอดี ไม่สุดโต่งไปทางใดทางหนึ่ง ซึ่งต่างจากผู้คิดด้วยเหตุผล มักสุดโต่ง

ไม่พึงลืมปัจฉฺิมโอวาทที่ว่า ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เราขอเตือนเธอทั้งหลายว่า สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา เธอทั้งหลาย จึงยังประโยชน์ตนและผู้อื่นให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิด (หนฺททานิ ภิกฺขเว อามนฺตยามิ โว วยธมฺมา สงฺขารา อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ-ติ)

(...เธอทั้งหลาย จงยังตนให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท ก็ได้)

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 23 ก.ค. 2016, 09:29 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กายใจ ไม่ใช่เรา (ว่า)

ตอนนี้ลาออกจากงานแล้ว ทำให้จิตสงบขึ้น ไม่วุ่นวายเหมือนแต่ก่อน
เพียงต้องการออกมาใช้ขีวิตพอเพียง สโลว์ ไลฟ์ แบบคำที่เขาฮิตกัน
แต่สิ่งที่ได้ มันได้มากกว่าความสบาย ๆ สไตล์พอเพียง คือ...

จิตสงบเป็นอัตโนมัติบ่อยครั้ง แยกออกมาจากกายหยาบนี้
เห็นกายและจิตนี้ทำงานตามธรรมชาติของขันธ์ 5
ที่เกิดจาก ความคุ้นเคย ที่เรารู้จักมานาน

จิตว่าง สงบนี้ เป็นเพียงแค่มองเท่านั้น
อยากร้องไห้ อยากหัวเราะ สุข ทุกข์ ก็ทำไป
เพราะ นิสัยที่เราเพาะมาแต่เล็ก ๆ

กายและจิตนี้ ยืมเขามาจริง ๆ เราเป็นเพียงคนเผ้าดู
รอเวลาทิ้งกายและจิต ก็แค่นั้น
ไม่ใช่เราจริง ๆ

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 23 ก.ค. 2016, 09:40 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กายใจ ไม่ใช่เรา (ว่า)

พระอริยบุคคล ตั้งแต่โสดาบันไป ยิ่งรู้ว่ากายใจไม่ใช่เรา ของยืมเขามา ท่านยิ่งทำประโยชน์ ทำงาน เช่น พระพุทธเจ้าทำงานจนวันตาย ขนาดนอนอยู่บนเตียงปรินิพพาน ยังสอนสุภัททะ ปริพพาชก ซึ่งมาถามปัญหา

ส่วนเราๆท่านๆ เออ ...กายใจไม่ใช่เราจริงๆ ของยืมเขามา ไม่รู้จะทำนั่นนี่ไปทำไม ท้อแท้ มันไม่ใช่ของเรา ไม่นานก็ตายแล้วก็ต้องคืนเขาไป คือ คืนสู่สามัญ ตอนนี้ยังมีลมหายใจอยู่พักผ่อนก่อนดีกว่า :b1:


รูปภาพ

เจ้าของ:  Rosarin [ 23 ก.ค. 2016, 10:11 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กายใจ ไม่ใช่เรา (ว่า)

กรัชกาย เขียน:
หากเข้าใจพุทธธรรมผิด จะหลุดโลกความเป็นจริงไปเลย โดยเฉพาะ คำสอนระดับสูง เช่นว่า กายใจ ไม่ใช่เรา ไร้ตัวมิใช่ตน ....

ผู้ปฏิบัติทางจิตจนเห็นความจริงของธรรมชาติ (กาย-ใจ) ระดับนี้ จะใช้ชีวิตที่พอดี ไม่สุดโต่งไปทางใดทางหนึ่ง ซึ่งต่างจากผู้คิดด้วยเหตุผล มักสุดโต่ง

ไม่พึงลืมปัจฉฺิมโอวาทที่ว่า ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เราขอเตือนเธอทั้งหลายว่า สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา เธอทั้งหลาย จึงยังประโยชน์ตนและผู้อื่นให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิด (หนฺททานิ ภิกฺขเว อามนฺตยามิ โว วยธมฺมา สงฺขารา อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ-ติ)

(...เธอทั้งหลาย จงยังตนให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท ก็ได้)

Kiss
จะคนไหน จะกายไหนๆ ก็กายเดียวใจเดียว ไม่ก้าวก่ายกัน
แต่ที่มันวุ่นว่ายมี2อย่างนะ คือรู้กะไม่รู้ มันไม้รู้มากกว่ารู้นี่สิ
มันถึงคิดวุ่นวายส่ายแส่ไปหาเรื่องวุ่นมาครุ่นคิดให้วุ่นวายใจ
:b32: :b32:

เจ้าของ:  Rosarin [ 23 ก.ค. 2016, 10:18 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กายใจ ไม่ใช่เรา (ว่า)

กรัชกาย เขียน:
ตอนนี้ลาออกจากงานแล้ว ทำให้จิตสงบขึ้น ไม่วุ่นวายเหมือนแต่ก่อน
เพียงต้องการออกมาใช้ขีวิตพอเพียง สโลว์ ไลฟ์ แบบคำที่เขาฮิตกัน
แต่สิ่งที่ได้ มันได้มากกว่าความสบาย ๆ สไตล์พอเพียง คือ...

จิตสงบเป็นอัตโนมัติบ่อยครั้ง แยกออกมาจากกายหยาบนี้
เห็นกายและจิตนี้ทำงานตามธรรมชาติของขันธ์ 5
ที่เกิดจาก ความคุ้นเคย ที่เรารู้จักมานาน

จิตว่าง สงบนี้ เป็นเพียงแค่มองเท่านั้น
อยากร้องไห้ อยากหัวเราะ สุข ทุกข์ ก็ทำไป
เพราะ นิสัยที่เราเพาะมาแต่เล็ก ๆ

กายและจิตนี้ ยืมเขามาจริง ๆ เราเป็นเพียงคนเผ้าดู
รอเวลาทิ้งกายและจิต ก็แค่นั้น
ไม่ใช่เราจริง ๆ

tongue
จะทำอะไรก็สงบเพราะสงบจากอกุศลจิตค่ะ
ใจสบายไม่เดือดร้อนไม่คิดฟุ้งไปไหนเลยล่ะ
คำว่าถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งนําจึงพึ่งตนได้
ที่สุดโต่งเพราะไม่รู้ว่าพึ่งพระรัตนตรัยตอนไหน
พระรัตนตรัยจึงเป็นที่พึ่งเพื่อให้อ่านตัวออกบอกตัวได้น๊า
:b12:
:b4: :b4:

เจ้าของ:  Rosarin [ 23 ก.ค. 2016, 10:19 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กายใจ ไม่ใช่เรา (ว่า)

กรัชกาย เขียน:
พระอริยบุคคล ตั้งแต่โสดาบันไป ยิ่งรู้ว่ากายใจไม่ใช่เรา ของยืมเขามา ท่านยิ่งทำประโยชน์ ทำงาน เช่น พระพุทธเจ้าทำงานจนวันตาย ขนาดนอนอยู่บนเตียงปรินิพพาน ยังสอนสุภัททะ ปริพพาชก ซึ่งมาถามปัญหา

ส่วนเราๆท่านๆ เออ ...กายใจไม่ใช่เราจริงๆ ของยืมเขามา ไม่รู้จะทำนั่นนี่ไปทำไม ท้อแท้ มันไม่ใช่ของเรา ไม่นานก็ตายแล้วก็ต้องคืนเขาไป คือ คืนสู่สามัญ ตอนนี้ยังมีลมหายใจอยู่พักผ่อนก่อนดีกว่า :b1:


รูปภาพ

wink
อยู่ก็คิดน้อยอกน้อยใจอยากตายเลยเหรอออออออ
:b13:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 23 ก.ค. 2016, 10:47 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กายใจ ไม่ใช่เรา (ว่า)

จะให้คุณโรส ยืมรถไปใช้คันหนึ่ง :b1:

แต่ถามก่อน

แต่ละวันๆ ใช้รถแล้ว ช่วยดูแลทำความสะอาดให้ด้วย อย่าจอดตากแดดตากฝนทั้งกะปีกะชาติ อย่าใช้บรรทุกหนักเกิน
เครื่องเคราอะไรตรงไหนชำรุดเสียหาย ช่วยซ่อมให้ด้วย

รับปากได้ไหม :b10: ว่าจะทำจะใช้เหมือนของของตัวเอง

เจ้าของ:  Rosarin [ 23 ก.ค. 2016, 10:55 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กายใจ ไม่ใช่เรา (ว่า)

กรัชกาย เขียน:
จะให้คุณโรส ยืมรถไปใช้คันหนึ่ง :b1:

แต่ถามก่อน

แต่ละวันๆ ใช้รถแล้ว ช่วยดูแลทำความสะอาดให้ด้วย อย่าจอดตากแดดตากฝนทั้งกะปีกะชาติ อย่าใช้บรรทุกหนักเกิน
เครื่องเคราอะไรตรงไหนชำรุดเสียหาย ช่วยซ่อมให้ด้วย

รับปากได้ไหม :b10: ว่าจะทำจะใช้เหมือนของของตัวเอง

:b14:
ห๊ะว่าไงนะ อ๋อให้ยืมรถ พูดจริงหรือล้อเล่นง่ะ
มันดูแปลกๆแฮะ รถอะไรให้ยืมกันง๊ายง่าย
:b13: :b12:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 23 ก.ค. 2016, 11:18 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กายใจ ไม่ใช่เรา (ว่า)

ให้ยืมรถยนต์คือร่างกาย (ใจ)


สรีรยนต์ กลไกคือร่างกาย

สรีระ ร่างกาย

สรีราพยพ ส่วนของร่างกาย, อวัยวะในร่างกาย

สรรพางค์ ทุกๆส่วนแห่งร่างกาย, ร่างกายทุกๆส่วน

เจ้าของ:  Rosarin [ 23 ก.ค. 2016, 11:41 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กายใจ ไม่ใช่เรา (ว่า)

กรัชกาย เขียน:
ให้ยืมรถยนต์คือร่างกาย (ใจ)


สรีรยนต์ กลไกคือร่างกาย

สรีระ ร่างกาย

สรีราพยพ ส่วนของร่างกาย, อวัยวะในร่างกาย

สรรพางค์ ทุกๆส่วนแห่งร่างกาย, ร่างกายทุกๆส่วน

tongue
น่าเอามายืนลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวเนาะ
:b32: :b32: :b32:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 23 ก.ค. 2016, 17:08 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กายใจ ไม่ใช่เรา (ว่า)

ปูพรมก่อน


"ดูกรภิกษุทั้งหลาย จงดูกายอันนี้เถิด ฟันหัก ผมหงอก หนังเหี่ยวๆ ยานๆ มีอาการทรุดโทรมให้เห็นอย่างเด่นชัด เหมือนเกวียนที่ชำรุดและชำรุดอีก ได้อาศัยแต่ไม้ไผ่มาซ่อมไว้ผูกกระหนาบคาบค้ำไว้ จะยืนนานไปได้สักเท่าไร การแตก สลาย ย่อมจะมาถึงเข้าสักวันหนึ่ง
ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงมีธรรมเป็นที่เกาะที่พึ่งเถิด อย่าคิดยึดสิ่งอื่นเป็นที่พึ่งเลย แม้ตถาคตก็เป็นแต่เพียงผู้บอกทางเท่านั้น"


"ดูกรภิกษุทั้งหลาย จงดูกายอันเปื่อยเน่านี้เถิด มันอาดูรไม่สะอาด มีสิ่งสกปรกไหลเข้าไหลออกมาอยู่เสมอ ถึงกระนั้นก็ตาม มันยังเป็นที่พอใจปรารถนายิ่งนักของผู้ไม่รู้ ความจริงข้อนี้
ภิกษุทั้งหลาย ร่างกายนี้ไม่นานนักหรอกคงจะนอนทับถมแผ่นดิน ร่างกายนี้ เมื่อปราศจากวิญญาณครองแล้ว ก็ถูกทอดทิ้งเหมือนท่อนไม้ที่ไร้ค่า อันเขาทิ้งเสียแล้วไม่ใยดี"


"ดูกรภิกษุทั้งหลาย อันร่างกายนี้ สะสมไว้แต่ของสกปรกโสโครก มีสิ่งปฏิกูลไหลออกจากทวารทั้งเก้า มีช่องหู ช่องจมูก เป็นต้น เป็นที่อาศัยแห่งสัตว์เล็กสัตว์น้อย เป็นป่าช้าแห่งซากสัตว์นานาชนิด เป็นรังแห่งโรค เป็นที่เก็บมูตรและกรีษ อุปมาเหมือนถุงหนัง ซึ่งบรรจุเอาสิ่งโสโครกต่างๆ เข้าไว้แล้วซึมออกมาเสมอๆ เจ้าของกายจึง ต้องชำระล้างขัดถูวันละหลายๆครั้ง เมื่อเว้นจากการชำระล้างแม้เพียงวันเดียวหรือสองวัน กลิ่นเหม็นปรากฏเป็นที่รังเกียจ เป็นของน่าขยะแขยง"


"ดูกรภิกษุทั้งหลาย ร่างกายนี้ เป็นเหมือนเรือน ซึ่งสร้างด้วยโครงกระดูก มีหนังและเลือดเป็นเครื่องฉาบทา ที่มองเห็นเปล่งปลั่งผุดผาดนั้น เป็นแต่เพียงผิวหนังเท่านั้น เหมือนมองเห็นความงามแห่งหีบศพอันวิจิตรตระการตา ผู้ไม่รู้ก็ติดในหีบศพนั้น แต่ผู้รู้เมื่อทราบว่าเป็นหีบศพ แม้ภายนอกจะวิจิตรตระการตาเพียงไร ก็หาพอใจยินดีไม่ เพราะทราบชัดว่าภายในแห่งหีบอันสวยงามนั้นมีสิ่งปฏิกูลพึงรังเกียจ"



สรีรยนต์ - กลไกคือร่างกาย
สรีระ - ร่างกาย
สรีราพยพ - ส่วนของร่างกาย, อวัยวะในร่างกาย
สรรพางค์ - ทุกๆส่วนแห่งร่างกาย, ร่างกายทุกๆส่วน

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/