ลานธรรมจักร :: แสดงกระทู้ - เอาของเหลือเดน ใส่บาตร ได้ด้วยเหรอครับ

-- ช่วยขยายความพระสูตรนี้หน่อยครับ ของเหลือ หมายถึงแบบใหน -- onion

ในสมัยพุทธกาลมีพรามณ์นำของเหลือมาใส่บาตร เนื่องจากเห็นพระพุทธเจ้าเสด็จบิณฑบาตรผ่านมากระทันหัน
ขณะใส่บาตรก็เกิดความกังวลใจว่าของเหลือแบบนี้ไม่เหมาะกับพระพุทธเจ้า

พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า พราหมณ์ ส่วนอันเลิศก็ดี ภัตที่ท่านแบ่งครึ่งบริโภคแล้วก็ดี เป็นของสมควรแก่เราทั้งนั้น
แม้ก้อนภัตที่เป็นเดน เป็นของสมควรแก่เราเหมือนกัน พราหมณ์ เพราะพวกเราเป็นผู้อาศัยอาหารที่ผู้อื่นให้เลี้ยงชีพ เป็นเช่นกับพวกเปรต

http://www.84000.org/tipitaka/attha/att ... 5&i=35&p=6

เครดิต http://pantip.com/topic/35222425

เขาไม่มีเหลือเฟือมีเท่าที่เหลือเก็บไว้รับประทานต่อแต่
เห็นพระพุทธเจ้าปรารถนาการแบ่งสิ่งที่ตนมีเพื่อให้ทาน
แต่คิดว่าสิ่งที่ตนมีเป็นที่น่ารังเกียจคิดกังวลในทานนั้นค่ะ
ด้วยพระญาณหยั่งทราบวาระจิตทรงมีอุปการะต่อผู้ที่คิดนั้น
จึงตรัสเพื่อให้ผู้นั้นได้รู้ว่าสิ่งที่เขาจะถวายนั้นเป็นของมีค่าค่ะ

ให้อย่างไร ย่อมได้รับอย่างนั้น

คนผู้ให้ทานด้วยไม่เคารพแม้วัตถุปราณีตก็ดี ไม่ปราณีตก็ดี ก็มีเยอะ
คนผู้ให้ทานด้วยความเคารพแต่วัตถุทานไม่ปราณีตก็มีเยอะ
คนผู้ให้ทานด้วยความเคารพทั้งวัตถุทานก็ปราณีตก็มีเยอะ

คนผู้ให้ทานด้วยความเคารพ แม้วัตถุทานไม่ปราณีต แต่มีปีติแรงกล้า เพราะวัตถุทานนั่นคือทุกอย่างที่เขามี และได้ถวายแด่บุคคลอันควรบูชาอย่างยิ่งด้วยนี่อานิสงส์แรงกล้าอีกเนาะ :b20:

ในอดีตคนที่ตัดความตระหนี่ถวายของที่ตนมี แม้ไม่ปราณีต แม้ใช้แล้ว แม้กำลังกินกำลังใช้แต่ตัดใจได้เดี๋ยวนั้นก็มีเยอะ
ในอดีตของพระอนุรุทธเถระก็ได้ถวายอาหารที่ตนกำลังจะกินนั้นต่อพระปัจเจกพุทธเจ้า ตั้งจิตอธิษฐานขอให้อย่าได้รู้จักคำว่าไม่มี ก็ยังอานิสงส์แรง
นึกถึงพราหมณ์จูเฬกสาฎก ที่ถวายผ้าห่มผืนเดียวที่มีแด่พระบรมศาสดา ก็แสดงว่าผ้านั้นจะคร่ำคร่าแค่ไหน ห่มแล้วด้วย เหงื่อไคลก็มี แต่ก็ทรงรับและสรรเสริญที่ตัดความตระหนี่ในใจได้

:b1:

ทรงสรรเสริญการข่มหรือตัดกิเลสได้เป็นสำคัญ

เจ้าของ:	deecup [ 02 มิ.ย. 2016, 17:46 ]
หัวข้อกระทู้:	เอาของเหลือเดน ใส่บาตร ได้ด้วยเหรอครับ
-- ช่วยขยายความพระสูตรนี้หน่อยครับ ของเหลือ หมายถึงแบบใหน -- ในสมัยพุทธกาลมีพรามณ์นำของเหลือมาใส่บาตร เนื่องจากเห็นพระพุทธเจ้าเสด็จบิณฑบาตรผ่านมากระทันหัน ขณะใส่บาตรก็เกิดความกังวลใจว่าของเหลือแบบนี้ไม่เหมาะกับพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า พราหมณ์ ส่วนอันเลิศก็ดี ภัตที่ท่านแบ่งครึ่งบริโภคแล้วก็ดี เป็นของสมควรแก่เราทั้งนั้น แม้ก้อนภัตที่เป็นเดน เป็นของสมควรแก่เราเหมือนกัน พราหมณ์ เพราะพวกเราเป็นผู้อาศัยอาหารที่ผู้อื่นให้เลี้ยงชีพ เป็นเช่นกับพวกเปรต http://www.84000.org/tipitaka/attha/att ... 5&i=35&p=6 เครดิต http://pantip.com/topic/35222425

เจ้าของ:	กบนอกกะลา [ 02 มิ.ย. 2016, 20:16 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: เอาของเหลือเดน ไส่บาตร ได้ด้วยเหรอครับ

เจ้าของ:	กบนอกกะลา [ 02 มิ.ย. 2016, 20:17 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: เอาของเหลือเดน ไส่บาตร ได้ด้วยเหรอครับ
จะให้ขยายไปทางไหนละคับ...

เจ้าของ:	Rosarin [ 03 มิ.ย. 2016, 14:31 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: เอาของเหลือเดน ใส่บาตร ได้ด้วยเหรอครับ
deecup เขียน: -- ช่วยขยายความพระสูตรนี้หน่อยครับ ของเหลือ หมายถึงแบบใหน -- ในสมัยพุทธกาลมีพรามณ์นำของเหลือมาใส่บาตร เนื่องจากเห็นพระพุทธเจ้าเสด็จบิณฑบาตรผ่านมากระทันหัน ขณะใส่บาตรก็เกิดความกังวลใจว่าของเหลือแบบนี้ไม่เหมาะกับพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า พราหมณ์ ส่วนอันเลิศก็ดี ภัตที่ท่านแบ่งครึ่งบริโภคแล้วก็ดี เป็นของสมควรแก่เราทั้งนั้น แม้ก้อนภัตที่เป็นเดน เป็นของสมควรแก่เราเหมือนกัน พราหมณ์ เพราะพวกเราเป็นผู้อาศัยอาหารที่ผู้อื่นให้เลี้ยงชีพ เป็นเช่นกับพวกเปรต http://www.84000.org/tipitaka/attha/att ... 5&i=35&p=6 เครดิต http://pantip.com/topic/35222425 เอาไปตอบผิดกระทู้รีบยกมาที่นี่เลยค่ะ เขาไม่มีเหลือเฟือมีเท่าที่เหลือเก็บไว้รับประทานต่อแต่ เห็นพระพุทธเจ้าปรารถนาการแบ่งสิ่งที่ตนมีเพื่อให้ทาน แต่คิดว่าสิ่งที่ตนมีเป็นที่น่ารังเกียจคิดกังวลในทานนั้นค่ะ ด้วยพระญาณหยั่งทราบวาระจิตทรงมีอุปการะต่อผู้ที่คิดนั้น จึงตรัสเพื่อให้ผู้นั้นได้รู้ว่าสิ่งที่เขาจะถวายนั้นเป็นของมีค่าค่ะ

เจ้าของ:	Hanako [ 04 มิ.ย. 2016, 17:38 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: เอาของเหลือเดน ใส่บาตร ได้ด้วยเหรอครับ
ให้อย่างไร ย่อมได้รับอย่างนั้น คนผู้ให้ทานด้วยไม่เคารพแม้วัตถุปราณีตก็ดี ไม่ปราณีตก็ดี ก็มีเยอะ คนผู้ให้ทานด้วยความเคารพแต่วัตถุทานไม่ปราณีตก็มีเยอะ คนผู้ให้ทานด้วยความเคารพทั้งวัตถุทานก็ปราณีตก็มีเยอะ คนผู้ให้ทานด้วยความเคารพ แม้วัตถุทานไม่ปราณีต แต่มีปีติแรงกล้า เพราะวัตถุทานนั่นคือทุกอย่างที่เขามี และได้ถวายแด่บุคคลอันควรบูชาอย่างยิ่งด้วยนี่อานิสงส์แรงกล้าอีกเนาะ ในอดีตคนที่ตัดความตระหนี่ถวายของที่ตนมี แม้ไม่ปราณีต แม้ใช้แล้ว แม้กำลังกินกำลังใช้แต่ตัดใจได้เดี๋ยวนั้นก็มีเยอะ ในอดีตของพระอนุรุทธเถระก็ได้ถวายอาหารที่ตนกำลังจะกินนั้นต่อพระปัจเจกพุทธเจ้า ตั้งจิตอธิษฐานขอให้อย่าได้รู้จักคำว่าไม่มี ก็ยังอานิสงส์แรง นึกถึงพราหมณ์จูเฬกสาฎก ที่ถวายผ้าห่มผืนเดียวที่มีแด่พระบรมศาสดา ก็แสดงว่าผ้านั้นจะคร่ำคร่าแค่ไหน ห่มแล้วด้วย เหงื่อไคลก็มี แต่ก็ทรงรับและสรรเสริญที่ตัดความตระหนี่ในใจได้ ทรงสรรเสริญการข่มหรือตัดกิเลสได้เป็นสำคัญ

ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/

เอาของเหลือเดน ใส่บาตร ได้ด้วยเหรอครับ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=52490	หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:	กบนอกกะลา [ 04 มิ.ย. 2016, 17:51 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: เอาของเหลือเดน ใส่บาตร ได้ด้วยเหรอครับ
Rosarin เขียน: เขาไม่มีเหลือเฟือมีเท่าที่เหลือเก็บไว้รับประทานต่อแต่ เห็นพระพุทธเจ้าปรารถนาการแบ่งสิ่งที่ตนมีเพื่อให้ทาน แต่คิดว่าสิ่งที่ตนมีเป็นที่น่ารังเกียจคิดกังวลในทานนั้นค่ะ ด้วยพระญาณหยั่งทราบวาระจิตทรงมีอุปการะต่อผู้ที่คิดนั้น จึงตรัสเพื่อให้ผู้นั้นได้รู้ว่าสิ่งที่เขาจะถวายนั้นเป็นของมีค่าค่ะ Hanako เขียน: ให้อย่างไร ย่อมได้รับอย่างนั้น คนผู้ให้ทานด้วยไม่เคารพแม้วัตถุปราณีตก็ดี ไม่ปราณีตก็ดี ก็มีเยอะ คนผู้ให้ทานด้วยความเคารพแต่วัตถุทานไม่ปราณีตก็มีเยอะ คนผู้ให้ทานด้วยความเคารพทั้งวัตถุทานก็ปราณีตก็มีเยอะ คนผู้ให้ทานด้วยความเคารพ แม้วัตถุทานไม่ปราณีต แต่มีปีติแรงกล้า เพราะวัตถุทานนั่นคือทุกอย่างที่เขามี และได้ถวายแด่บุคคลอันควรบูชาอย่างยิ่งด้วยนี่อานิสงส์แรงกล้าอีกเนาะ ในอดีตคนที่ตัดความตระหนี่ถวายของที่ตนมี แม้ไม่ปราณีต แม้ใช้แล้ว แม้กำลังกินกำลังใช้แต่ตัดใจได้เดี๋ยวนั้นก็มีเยอะ ในอดีตของพระอนุรุทธเถระก็ได้ถวายอาหารที่ตนกำลังจะกินนั้นต่อพระปัจเจกพุทธเจ้า ตั้งจิตอธิษฐานขอให้อย่าได้รู้จักคำว่าไม่มี ก็ยังอานิสงส์แรง นึกถึงพราหมณ์จูเฬกสาฎก ที่ถวายผ้าห่มผืนเดียวที่มีแด่พระบรมศาสดา ก็แสดงว่าผ้านั้นจะคร่ำคร่าแค่ไหน ห่มแล้วด้วย เหงื่อไคลก็มี แต่ก็ทรงรับและสรรเสริญที่ตัดความตระหนี่ในใจได้ ทรงสรรเสริญการข่มหรือตัดกิเลสได้เป็นสำคัญ

หน้า 1 จากทั้งหมด 1	เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/