วันเวลาปัจจุบัน 29 เม.ย. 2024, 01:38  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 59 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มิ.ย. 2016, 06:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อัตตา...เต็มหัวใจ...ก็ยังไม่รู้ตัว

ความประพฤติ..มันบอก..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2016, 07:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นับถือพุทธแล้วก็คิดอย่างนี้ได้ อย่างน้อยๆในนี้ก็มีท่านอโศกหนึ่งคนล่ะ :b13:

ปรมาตมัน อาตมันสูงสุด หรืออัตตาสูงสุด (บรมอาตมัน หรือบรมอัตตา) เป็นสภาวะแท้จริง และเป็นจุดหมายสูงสุดตามหลักความเชื่อของศาสนาฮินดู (เดิมศาสนาพราหมณ์) ซึ่งถือว่า ในบุคคลแต่ละคนนี้ มีอาตมัน คืออัตตา หรือตัวตน สิงสู่อยู่ครอง เป็นสภาวะเที่ยงแท้ถาวร เป็นผู้คิดผู้นึก ผู้เสวยเวทนา เป็นต้น ซึ่งเป็นส่วนย่อยที่แบ่งภาคออกมาจากปรมาตมันนั้นเอง เมื่อคนตาย อาตมันนี้ ออกจากร่างไปสิงอยู่ร่างอื่นต่อไป เหมือนออกจากเรือนเก่าไปอยู่ในเรือนใหม่ ได้เสวยสุขหรือทุกข์ เป็นต้น สุดแต่กรรมที่ได้ทำไว้ เวียนว่ายตายเกิดเรื่อยไป จนกว่าจะตระหนักรู้ว่าตนเองเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับปรมาตมัน และเข้าถึงความบริสุทธิ์จากบาปโดยสิ้นเชิง จึงจะได้กลับเข้ารวมกับปรมาตมันดังเดิม ไม่เวียนตายเวียนเกิดอีกต่อไป ปรมาตมันนี้ ก็คือ พรหม หรือพรหมัน นั่นเอง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2016, 07:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อัตตา - อนัตตา เป็นหลักทางปัญญาที่สำคัญยิ่ง

พระพุทธศาสนาสอนเรื่องนี้ไว้ ถ้าพูดเป็นภาษาธรรมดา ก็ว่าอัตตาที่ไม่มีนั้น ใช้มันไปเถอะ ได้ประโยชน์ดีจริงๆ ท่านสอนให้พัฒนาไปจนถึงที่สุด แล้วจะประสบพบสิ่งที่เลิศประเสริฐยิ่ง แต่อัตตามีขึ้นเมื่อไรเป็นปัญหาทุกที เกิดอัตตาขึ้นมาเมื่อไรก็ยุ่งเมื่อนั้น มีปัญหา เกิดทุกข์ เกิดการกระทบกระทั่งอะไรต่างๆ

พระพุทธศาสนามีคำสอนว่าด้วยอัตตา หรือตัวตนนี้มากมาย เช่น

อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ ตนเป็นทีพึ่งของตน

อตฺตทีปา อตฺตสรณา จงมีตนเป็นเกาะ จงมีตนเป็นที่พึ่ง

อตฺตานํ ทมยนฺติ ปณฺฑิตา บัณฑิตทั้งหลายย่อมฝึกตน

สุทฺธิ อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ ความบริสุทธิ์ ไม่บริสุทธิ์เป็นของเฉพาะตัว

อตฺตานญฺจ ปิยํ ชญฺญา น นํ ปาเปน สํยุเช หากรู้ว่าตัวนี้เป็นที่รัก ก็ไม่ควรเอาตัวนั้นไปเกลือกกลั้วกับความชั่ว

ฯลฯ

เรื่องตัวเรื่องตนนี้ พระพุทธศาสนาสอนไว้มากมาย ในระดับตัวตนสมมตินี้ ที่มันไม่มีนี่แหละ พระพุทธศาสนาพูดเต็มที่เลย ให้ใช้ ให้ปฏิบัติ ให้พัฒนามัน จะเป็นประโยชน์ดีเหลือเกิน ท่านไม่มาเที่ยวพูดยุ่งในระดับสมมติ ว่าไม่มีอัตตา

แต่ในระดับปรมัตถ์ ท่านให้รู้เท่าทันว่าอัตตามันไม่ใช่เป็นของจริง ถ้ามันมีขึ้นมาเมื่อไร เกิดยึดถือขึ้นเมื่อไร เป็นเกิดโทษทุกที ปัญหาจะมา

จึงบอกว่า อัตตาที่ไม่มีนั้น พัฒนาไปเถิด จะประสบสิ่งที่เลิศประเสริฐยิ่ง แต่อัตตามีเมื่อไร เกิดปัญหาทุกที

อัตตาที่ไม่มีนั้น ใช้มันไปเถิดอย่างรู้กันและรู้ทัน ส่วนอัตตาที่จะมีก็ให้รู้แจ้งรู้ทัน มันจะได้ไม่เกิดขึ้นมา

ยิ่งพัฒนาอัตตาที่ไม่มีขึ้นไป อัตตาที่จะมีก็ยิ่งไม่เกิดขึ้นมา อันนี้ ก็ตีให้แตกด้วย



ย้อนกลับมาที่เดิมอีกที :b32: ตีให้แตก

Kiss
ทุกอย่างเป็นสิ่งที่มีจริงเป็นธัมมะ
ธัมมะทั้งหลายเป็นอนัตตาก็ถูกต้อง
คำว่าตนหมายถึงจิตที่รู้มีเจ้าของคือตัวรู้
จะรู้ว่าตัวรู้ไม่ใช่สัตว์ไม่ใช่บุคคลไม่ใช่ตัวตนยังไง
ก็ต้องฟังเสียงที่เป็นคำของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าค่า
อาศัยตัวตนด้วยความไม่รู้นี่แหละสร้างเหตุปัจจัยให้ฟังและได้ยินเสียง
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2016, 08:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อัตตา - อนัตตา เป็นหลักทางปัญญาที่สำคัญยิ่ง

พระพุทธศาสนาสอนเรื่องนี้ไว้ ถ้าพูดเป็นภาษาธรรมดา ก็ว่าอัตตาที่ไม่มีนั้น ใช้มันไปเถอะ ได้ประโยชน์ดีจริงๆ ท่านสอนให้พัฒนาไปจนถึงที่สุด แล้วจะประสบพบสิ่งที่เลิศประเสริฐยิ่ง แต่อัตตามีขึ้นเมื่อไรเป็นปัญหาทุกที เกิดอัตตาขึ้นมาเมื่อไรก็ยุ่งเมื่อนั้น มีปัญหา เกิดทุกข์ เกิดการกระทบกระทั่งอะไรต่างๆ

พระพุทธศาสนามีคำสอนว่าด้วยอัตตา หรือตัวตนนี้มากมาย เช่น

อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ ตนเป็นทีพึ่งของตน

อตฺตทีปา อตฺตสรณา จงมีตนเป็นเกาะ จงมีตนเป็นที่พึ่ง

อตฺตานํ ทมยนฺติ ปณฺฑิตา บัณฑิตทั้งหลายย่อมฝึกตน

สุทฺธิ อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ ความบริสุทธิ์ ไม่บริสุทธิ์เป็นของเฉพาะตัว

อตฺตานญฺจ ปิยํ ชญฺญา น นํ ปาเปน สํยุเช หากรู้ว่าตัวนี้เป็นที่รัก ก็ไม่ควรเอาตัวนั้นไปเกลือกกลั้วกับความชั่ว

ฯลฯ

เรื่องตัวเรื่องตนนี้ พระพุทธศาสนาสอนไว้มากมาย ในระดับตัวตนสมมตินี้ ที่มันไม่มีนี่แหละ พระพุทธศาสนาพูดเต็มที่เลย ให้ใช้ ให้ปฏิบัติ ให้พัฒนามัน จะเป็นประโยชน์ดีเหลือเกิน ท่านไม่มาเที่ยวพูดยุ่งในระดับสมมติ ว่าไม่มีอัตตา

แต่ในระดับปรมัตถ์ ท่านให้รู้เท่าทันว่าอัตตามันไม่ใช่เป็นของจริง ถ้ามันมีขึ้นมาเมื่อไร เกิดยึดถือขึ้นเมื่อไร เป็นเกิดโทษทุกที ปัญหาจะมา

จึงบอกว่า อัตตาที่ไม่มีนั้น พัฒนาไปเถิด จะประสบสิ่งที่เลิศประเสริฐยิ่ง แต่อัตตามีเมื่อไร เกิดปัญหาทุกที

อัตตาที่ไม่มีนั้น ใช้มันไปเถิดอย่างรู้กันและรู้ทัน ส่วนอัตตาที่จะมีก็ให้รู้แจ้งรู้ทัน มันจะได้ไม่เกิดขึ้นมา

ยิ่งพัฒนาอัตตาที่ไม่มีขึ้นไป อัตตาที่จะมีก็ยิ่งไม่เกิดขึ้นมา อันนี้ ก็ตีให้แตกด้วย



ย้อนกลับมาที่เดิมอีกที :b32: ตีให้แตก

Kiss
ทุกอย่างเป็นสิ่งที่มีจริงเป็นธัมมะ
ธัมมะทั้งหลายเป็นอนัตตาก็ถูกต้อง
คำว่าตนหมายถึงจิตที่รู้มีเจ้าของคือตัวรู้
จะรู้ว่าตัวรู้ไม่ใช่สัตว์ไม่ใช่บุคคลไม่ใช่ตัวตนยังไง
ก็ต้องฟังเสียงที่เป็นคำของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าค่า
อาศัยตัวตนด้วยความไม่รู้นี่แหละสร้างเหตุปัจจัยให้ฟังและได้ยินเสียง
onion onion onion




คุณโรสนี่ไปไกลทีเดียว

นี่เพราะคุณโรส ไม่เห็นเหตุปัจจัยของมัน

อ้างคำพูด:
คำว่า ตน หมายถึงจิตที่รู้มีเจ้าของคือตัวรู้
จะรู้ว่าตัวรู้ไม่ใช่สัตว์ไม่ใช่บุคคลไม่ใช่ตัวตนยังไง


มันเป็นเหตุปัจจัยของมันเองอยู่แล้ว ไม่ต้องไปสร้างให้วุ่นวายหรอกคุณโรส :b32:


เอางีไหมล่ะง่ายๆ คุณโรสบอกให้ปอดหยุดทำงานได้ไหม บอกให้หัวใจหยุดเต้นหยุดสูบฉีกโลหิตได้ไหม กรัชกายว่าคุณโรสสั่งไม่ได้ หรือได้ :b32:

ทางนามธรรมก็ฉันเดียวกัน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2016, 15:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
Rosarin
คำว่า ตน หมายถึงจิตที่รู้ มีเจ้าของ คือ ตัวรู้
จะรู้ว่าตัวรู้ไม่ใช่สัตว์ไม่ใช่บุคคลไม่ใช่ตัวตน...ยังไง


คุณโรส จิตที่คิดยังงี้เป็นตน เป็นตัวตนมั้ย นี่ๆ

อ้างคำพูด:
ไม่ได้ตั้งใจจะลบลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่จิตมันแว๊บขึ้นมา จะทำอย่างไร จะให้คำหยาบคำด่า หรืออะไรที่คิดอกุศลหายไปค่ะ

พยายามนึกคิดในสิ่งที่ดี..สวดมนต์ก็แล้วยังไม่หยุดไปรบกวน แนะนำด้วยค่ะ


มีเจ้าของมั้ย :b1:

ฟังประกอบ

https://www.youtube.com/watch?v=cNHtquEL7Kw

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2016, 19:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อัตตา - อนัตตา เป็นหลักทางปัญญาที่สำคัญยิ่ง

พระพุทธศาสนาสอนเรื่องนี้ไว้ ถ้าพูดเป็นภาษาธรรมดา ก็ว่าอัตตาที่ไม่มีนั้น ใช้มันไปเถอะ ได้ประโยชน์ดีจริงๆ ท่านสอนให้พัฒนาไปจนถึงที่สุด แล้วจะประสบพบสิ่งที่เลิศประเสริฐยิ่ง แต่อัตตามีขึ้นเมื่อไรเป็นปัญหาทุกที เกิดอัตตาขึ้นมาเมื่อไรก็ยุ่งเมื่อนั้น มีปัญหา เกิดทุกข์ เกิดการกระทบกระทั่งอะไรต่างๆ

พระพุทธศาสนามีคำสอนว่าด้วยอัตตา หรือตัวตนนี้มากมาย เช่น

อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ ตนเป็นทีพึ่งของตน

อตฺตทีปา อตฺตสรณา จงมีตนเป็นเกาะ จงมีตนเป็นที่พึ่ง

อตฺตานํ ทมยนฺติ ปณฺฑิตา บัณฑิตทั้งหลายย่อมฝึกตน

สุทฺธิ อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ ความบริสุทธิ์ ไม่บริสุทธิ์เป็นของเฉพาะตัว

อตฺตานญฺจ ปิยํ ชญฺญา น นํ ปาเปน สํยุเช หากรู้ว่าตัวนี้เป็นที่รัก ก็ไม่ควรเอาตัวนั้นไปเกลือกกลั้วกับความชั่ว

ฯลฯ

เรื่องตัวเรื่องตนนี้ พระพุทธศาสนาสอนไว้มากมาย ในระดับตัวตนสมมตินี้ ที่มันไม่มีนี่แหละ พระพุทธศาสนาพูดเต็มที่เลย ให้ใช้ ให้ปฏิบัติ ให้พัฒนามัน จะเป็นประโยชน์ดีเหลือเกิน ท่านไม่มาเที่ยวพูดยุ่งในระดับสมมติ ว่าไม่มีอัตตา

แต่ในระดับปรมัตถ์ ท่านให้รู้เท่าทันว่าอัตตามันไม่ใช่เป็นของจริง ถ้ามันมีขึ้นมาเมื่อไร เกิดยึดถือขึ้นเมื่อไร เป็นเกิดโทษทุกที ปัญหาจะมา

จึงบอกว่า อัตตาที่ไม่มีนั้น พัฒนาไปเถิด จะประสบสิ่งที่เลิศประเสริฐยิ่ง แต่อัตตามีเมื่อไร เกิดปัญหาทุกที

อัตตาที่ไม่มีนั้น ใช้มันไปเถิดอย่างรู้กันและรู้ทัน ส่วนอัตตาที่จะมีก็ให้รู้แจ้งรู้ทัน มันจะได้ไม่เกิดขึ้นมา

ยิ่งพัฒนาอัตตาที่ไม่มีขึ้นไป อัตตาที่จะมีก็ยิ่งไม่เกิดขึ้นมา อันนี้ ก็ตีให้แตกด้วย



ย้อนกลับมาที่เดิมอีกที :b32: ตีให้แตก

Kiss
ทุกอย่างเป็นสิ่งที่มีจริงเป็นธัมมะ
ธัมมะทั้งหลายเป็นอนัตตาก็ถูกต้อง
คำว่าตนหมายถึงจิตที่รู้มีเจ้าของคือตัวรู้
จะรู้ว่าตัวรู้ไม่ใช่สัตว์ไม่ใช่บุคคลไม่ใช่ตัวตนยังไง
ก็ต้องฟังเสียงที่เป็นคำของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าค่า
อาศัยตัวตนด้วยความไม่รู้นี่แหละสร้างเหตุปัจจัยให้ฟังและได้ยินเสียง
onion onion onion




คุณโรสนี่ไปไกลทีเดียว

นี่เพราะคุณโรส ไม่เห็นเหตุปัจจัยของมัน

อ้างคำพูด:
คำว่า ตน หมายถึงจิตที่รู้มีเจ้าของคือตัวรู้
จะรู้ว่าตัวรู้ไม่ใช่สัตว์ไม่ใช่บุคคลไม่ใช่ตัวตนยังไง


มันเป็นเหตุปัจจัยของมันเองอยู่แล้ว ไม่ต้องไปสร้างให้วุ่นวายหรอกคุณโรส :b32:


เอางีไหมล่ะง่ายๆ คุณโรสบอกให้ปอดหยุดทำงานได้ไหม บอกให้หัวใจหยุดเต้นหยุดสูบฉีกโลหิตได้ไหม กรัชกายว่าคุณโรสสั่งไม่ได้ หรือได้ :b32:

ทางนามธรรมก็ฉันเดียวกัน

Kiss
ตลกบริโภคเลยนะคุณกรัชกาย
ข้าพเจ้าถามอรัมภบทไม่ได้ขอคำตอบ
คำว่าธัมมะทั้งหลายเป็นอนัตตาก็ถูกต้อง
หมายถึงไม่มีใครไปบังคับให้ธัมมะเกิดหรือดับได้
เกิดเองดับเองตามเหตุปัจจัยไม่เป็นของใครได้เลย
คิกๆๆเก่งนี่คุณกรัชกายชอบเอาความไม่รู้ของตนวัดผู้อื่น
การเอ่ยถึงคำว่าตนเพื่อให้เข้าใจที่ตั้งของตัวรู้ที่ส่งออกมาก็ไม่รู้
เวลาสนทนาพระพุทธเจ้าแสดงคำแทนพระองค์ว่าตถาคตใช่หรือไม่
แล้วที่เขียนเนี่ยเป็นการระบุเจาะจงให้เข้าใจว่าคืออะไรไม่รู้จักตนเลยนะ
:b32: :b32:
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2016, 19:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
Rosarin
คำว่า ตน หมายถึงจิตที่รู้ มีเจ้าของ คือ ตัวรู้
จะรู้ว่าตัวรู้ไม่ใช่สัตว์ไม่ใช่บุคคลไม่ใช่ตัวตน...ยังไง


คุณโรส จิตที่คิดยังงี้เป็นตน เป็นตัวตนมั้ย นี่ๆ

อ้างคำพูด:
ไม่ได้ตั้งใจจะลบลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่จิตมันแว๊บขึ้นมา จะทำอย่างไร จะให้คำหยาบคำด่า หรืออะไรที่คิดอกุศลหายไปค่ะ

พยายามนึกคิดในสิ่งที่ดี..สวดมนต์ก็แล้วยังไม่หยุดไปรบกวน แนะนำด้วยค่ะ


มีเจ้าของมั้ย :b1:

ฟังประกอบ

https://www.youtube.com/watch?v=cNHtquEL7Kw

Kiss
เค๊าเรียกว่าฟังไม่ได้ศัพท์จับมากระเดียด
จิตที่รู้แต่ละ1ของแต่ละคนมีเจ้าของคืออะไร
รู้เลยคิดไม่ออกถึงถามมาแบบนี้อะไรล่ะที่ระลึกรู้
ตัวรู้ที่ข้าพเจ้าหมายให้รู้คือสติสัมปชัญญะที่รู้ตรงที่มีของตน
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มิ.ย. 2016, 21:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
คลิปสั้นๆไม่มีเราแล้วมีอะไร
https://m.youtube.com/watch?v=w4dRIqr__ro
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มิ.ย. 2016, 04:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
Rosarin
คำว่า ตน หมายถึงจิตที่รู้ มีเจ้าของ คือ ตัวรู้
จะรู้ว่าตัวรู้ไม่ใช่สัตว์ไม่ใช่บุคคลไม่ใช่ตัวตน...ยังไง


คุณโรส จิตที่คิดยังงี้เป็นตน เป็นตัวตนมั้ย นี่ๆ

อ้างคำพูด:
ไม่ได้ตั้งใจจะลบลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่จิตมันแว๊บขึ้นมา จะทำอย่างไร จะให้คำหยาบคำด่า หรืออะไรที่คิดอกุศลหายไปค่ะ

พยายามนึกคิดในสิ่งที่ดี..สวดมนต์ก็แล้วยังไม่หยุดไปรบกวน แนะนำด้วยค่ะ


มีเจ้าของมั้ย :b1:

ฟังประกอบ

https://www.youtube.com/watch?v=cNHtquEL7Kw

Kiss
เค๊าเรียกว่าฟังไม่ได้ศัพท์จับมากระเดียด
จิตที่รู้แต่ละ1ของแต่ละคนมีเจ้าของคืออะไร
รู้เลยคิดไม่ออกถึงถามมาแบบนี้อะไรล่ะที่ระลึกรู้
ตัวรู้ที่ข้าพเจ้าหมายให้รู้คือสติสัมปชัญญะที่รู้ตรงที่มีของตน
:b32: :b32:


อ้างคำพูด:
ตัวรู้ ที่ข้าพเจ้า หมายให้รู้ คือสติ สัมปชัญญะ ที่รู้ตรงที่มีของตน


พูดเอาฮงแต่เช้ามืดเลย คิกๆๆๆ

คุณโรส ให้รู้ สติ สัมปชัญญะ ยังงั้นหรือครับน่า :b10: หรือสติสัมปชัญญะ รู้ทีีมีของตน มีตน ฮง

ทั้งสติ ทั้งสัมปชัญญะ (ตัวรู้) ที่รู้ว่า ตน ตนที่ว่านี่เป็นใครครับน่า

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มิ.ย. 2016, 11:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
Rosarin
คำว่า ตน หมายถึงจิตที่รู้ มีเจ้าของ คือ ตัวรู้
จะรู้ว่าตัวรู้ไม่ใช่สัตว์ไม่ใช่บุคคลไม่ใช่ตัวตน...ยังไง


คุณโรส จิตที่คิดยังงี้เป็นตน เป็นตัวตนมั้ย นี่ๆ

อ้างคำพูด:
ไม่ได้ตั้งใจจะลบลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่จิตมันแว๊บขึ้นมา จะทำอย่างไร จะให้คำหยาบคำด่า หรืออะไรที่คิดอกุศลหายไปค่ะ

พยายามนึกคิดในสิ่งที่ดี..สวดมนต์ก็แล้วยังไม่หยุดไปรบกวน แนะนำด้วยค่ะ


มีเจ้าของมั้ย :b1:

ฟังประกอบ

https://www.youtube.com/watch?v=cNHtquEL7Kw

Kiss
เค๊าเรียกว่าฟังไม่ได้ศัพท์จับมากระเดียด
จิตที่รู้แต่ละ1ของแต่ละคนมีเจ้าของคืออะไร
รู้เลยคิดไม่ออกถึงถามมาแบบนี้อะไรล่ะที่ระลึกรู้
ตัวรู้ที่ข้าพเจ้าหมายให้รู้คือสติสัมปชัญญะที่รู้ตรงที่มีของตน
:b32: :b32:



อ้างคำพูด:
ตัวรู้ ที่ข้าพเจ้า หมายให้รู้ คือสติ สัมปชัญญะ ที่รู้ตรงที่มีของตน


พูดเอาฮงแต่เช้ามืดเลย คิกๆๆๆ

คุณโรส ให้รู้ สติ สัมปชัญญะ ยังงั้นหรือครับน่า :b10: หรือสติสัมปชัญญะ รู้ทีีมีของตน มีตน ฮง

ทั้งสติ ทั้งสัมปชัญญะ (ตัวรู้) ที่รู้ว่า ตน ตนที่ว่านี่เป็นใครครับน่า

:b12:
สติสัมปชัญญะเป็นปัญญาเจตสิกเกิดร่วมกับสติเป็นกุศลจิตน๊า
การเข้าใจความจริงของสิ่งที่มีตามคำสอนในพระพุทธศาสนา
ต้องเข้าใจสิ่งที่ตนกำลังมีแก้ที่ตนไม่ใช่ไปแก้ที่คนอื่นที่ไม่ใช่ตน
ถ้ายังมีโมหะยังไม่เป็นอริยบุคคลมีไม่ไดเลยสติสัมปชัญญะน่ะค่ะ
เพราะวิปัสสนาภาวนาเป็นกุศลจิตที่ประกอบด้วยปัญญารู้ความจริง
:b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มิ.ย. 2016, 20:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
Rosarin
คำว่า ตน หมายถึงจิตที่รู้ มีเจ้าของ คือ ตัวรู้
จะรู้ว่าตัวรู้ไม่ใช่สัตว์ไม่ใช่บุคคลไม่ใช่ตัวตน...ยังไง


คุณโรส จิตที่คิดยังงี้เป็นตน เป็นตัวตนมั้ย นี่ๆ

อ้างคำพูด:
ไม่ได้ตั้งใจจะลบลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่จิตมันแว๊บขึ้นมา จะทำอย่างไร จะให้คำหยาบคำด่า หรืออะไรที่คิดอกุศลหายไปค่ะ

พยายามนึกคิดในสิ่งที่ดี..สวดมนต์ก็แล้วยังไม่หยุดไปรบกวน แนะนำด้วยค่ะ


มีเจ้าของมั้ย :b1:

ฟังประกอบ

https://www.youtube.com/watch?v=cNHtquEL7Kw

Kiss
เค๊าเรียกว่าฟังไม่ได้ศัพท์จับมากระเดียด
จิตที่รู้แต่ละ1ของแต่ละคนมีเจ้าของคืออะไร
รู้เลยคิดไม่ออกถึงถามมาแบบนี้อะไรล่ะที่ระลึกรู้
ตัวรู้ที่ข้าพเจ้าหมายให้รู้คือสติสัมปชัญญะที่รู้ตรงที่มีของตน
:b32: :b32:



อ้างคำพูด:
ตัวรู้ ที่ข้าพเจ้า หมายให้รู้ คือสติ สัมปชัญญะ ที่รู้ตรงที่มีของตน


พูดเอาฮงแต่เช้ามืดเลย คิกๆๆๆ

คุณโรส ให้รู้ สติ สัมปชัญญะ ยังงั้นหรือครับน่า :b10: หรือสติสัมปชัญญะ รู้ทีีมีของตน มีตน ฮง

ทั้งสติ ทั้งสัมปชัญญะ (ตัวรู้) ที่รู้ว่า ตน ตนที่ว่านี่เป็นใครครับน่า

:b12:
สติสัมปชัญญะเป็นปัญญาเจตสิกเกิดร่วมกับสติเป็นกุศลจิตน๊า
การเข้าใจความจริงของสิ่งที่มีตามคำสอนในพระพุทธศาสนา
ต้องเข้าใจสิ่งที่ตนกำลังมีแก้ที่ตนไม่ใช่ไปแก้ที่คนอื่นที่ไม่ใช่ตน
ถ้ายังมีโมหะยังไม่เป็นอริยบุคคลมีไม่ไดเลยสติสัมปชัญญะน่ะค่ะ
เพราะวิปัสสนาภาวนาเป็นกุศลจิตที่ประกอบด้วยปัญญารู้ความจริง
:b32:


อ้างคำพูด:
สติ สัมปชัญญะ เป็นปัญญาเจตสิก เกิดร่วมกับสติเป็นกุศลจิต


คุณโรสเริ่มจะออกทะเลแระ คิกๆๆ

คุณโรส ได้แต่ใดมาว่า สติ เป็นปัญญาเจตสิก วานบอก แนะๆยังแถมไปเกิดร่วมกับสติเป็นกุศลจิต :b32: อีก

เสียเวลาเปล่าอีกคน :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มิ.ย. 2016, 21:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
Rosarin
คำว่า ตน หมายถึงจิตที่รู้ มีเจ้าของ คือ ตัวรู้
จะรู้ว่าตัวรู้ไม่ใช่สัตว์ไม่ใช่บุคคลไม่ใช่ตัวตน...ยังไง


คุณโรส จิตที่คิดยังงี้เป็นตน เป็นตัวตนมั้ย นี่ๆ

อ้างคำพูด:
ไม่ได้ตั้งใจจะลบลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่จิตมันแว๊บขึ้นมา จะทำอย่างไร จะให้คำหยาบคำด่า หรืออะไรที่คิดอกุศลหายไปค่ะ

พยายามนึกคิดในสิ่งที่ดี..สวดมนต์ก็แล้วยังไม่หยุดไปรบกวน แนะนำด้วยค่ะ


มีเจ้าของมั้ย :b1:

ฟังประกอบ

https://www.youtube.com/watch?v=cNHtquEL7Kw

Kiss
เค๊าเรียกว่าฟังไม่ได้ศัพท์จับมากระเดียด
จิตที่รู้แต่ละ1ของแต่ละคนมีเจ้าของคืออะไร
รู้เลยคิดไม่ออกถึงถามมาแบบนี้อะไรล่ะที่ระลึกรู้
ตัวรู้ที่ข้าพเจ้าหมายให้รู้คือสติสัมปชัญญะที่รู้ตรงที่มีของตน
:b32: :b32:



อ้างคำพูด:
ตัวรู้ ที่ข้าพเจ้า หมายให้รู้ คือสติ สัมปชัญญะ ที่รู้ตรงที่มีของตน


พูดเอาฮงแต่เช้ามืดเลย คิกๆๆๆ

คุณโรส ให้รู้ สติ สัมปชัญญะ ยังงั้นหรือครับน่า :b10: หรือสติสัมปชัญญะ รู้ทีีมีของตน มีตน ฮง

ทั้งสติ ทั้งสัมปชัญญะ (ตัวรู้) ที่รู้ว่า ตน ตนที่ว่านี่เป็นใครครับน่า

:b12:
สติสัมปชัญญะเป็นปัญญาเจตสิกเกิดร่วมกับสติเป็นกุศลจิตน๊า
การเข้าใจความจริงของสิ่งที่มีตามคำสอนในพระพุทธศาสนา
ต้องเข้าใจสิ่งที่ตนกำลังมีแก้ที่ตนไม่ใช่ไปแก้ที่คนอื่นที่ไม่ใช่ตน
ถ้ายังมีโมหะยังไม่เป็นอริยบุคคลมีไม่ไดเลยสติสัมปชัญญะน่ะค่ะ
เพราะวิปัสสนาภาวนาเป็นกุศลจิตที่ประกอบด้วยปัญญารู้ความจริง
:b32:


อ้างคำพูด:
สติ สัมปชัญญะ เป็นปัญญาเจตสิก เกิดร่วมกับสติเป็นกุศลจิต


คุณโรสเริ่มจะออกทะเลแระ คิกๆๆ

คุณโรส ได้แต่ใดมาว่า สติ เป็นปัญญาเจตสิก วานบอก แนะๆยังแถมไปเกิดร่วมกับสติเป็นกุศลจิต :b32: อีก

เสียเวลาเปล่าอีกคน :b32:

รู้จักคำว่าหัวเราะทีหลังดังกว่าไหมคุณกรัชกาย
ตัวเองเขียนเองไหมคะที่ว่าสติเป็นปัญญาเจตสิกน่ะ
ข้าพเจ้าเขียนว่าสติสัมปชัญญะเป็นปัญญาเจตสิกมีต่อกันว่า
เกิดร่วมกับสติเป็นกุศลจิตหมายถึงมีทั้งปัญญาและสติทั้ง2เจตสิกนี้
เกิดเป็นสหชาตปัจจัยแค่อ่านยังตีไม่แตกเข้าใจไหมว่าจิตเกิดดับพร้อมเจตสิก
และในการเกิดดับ1ขณจิตนั้นมีเจตสิกเกิดร่วมมากกว่า1เจตสิกแยกจากกันด้วยอีกต่างหาก
ขณะใดจิตเป็นกุศลก็เกิดเจตสิกที่ดีได้สูงสุดถึง19เจตสิกถ้าเป็นอกุศลจิตเจตสิกก็เป็นอกุศลด้วย
เจตสิกมี52ประเภทเป็นโสภณเจตสิกที่ดีงามอ่านว่าโสภะนะเจตะสิกกะชัดเจนขึ้นบ้างไหมคะ
และในเจตสิกทั้ง52ประเภทนั้นแบ่งเป็นอกุศลเจตสิก14ประเภทที่ทำให้จิตเป็นอกุศลกรรม
รู้รึยังคะว่าปกติมีกุศลหรืออกุศลมากกว่ากันแต่ละขณะในชีวิตประจำวัน/กุศลเกิดง่ายไหม
เจตสิกที่ดีงามที่เป็นกุศลเท่ากับ52-14=โสภณเจตสิกมีถึง38ประเภทเช่นสมาธิ/สติ/วิริยะ/ปัญญา
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มิ.ย. 2016, 21:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
Rosarin
คำว่า ตน หมายถึงจิตที่รู้ มีเจ้าของ คือ ตัวรู้
จะรู้ว่าตัวรู้ไม่ใช่สัตว์ไม่ใช่บุคคลไม่ใช่ตัวตน...ยังไง


คุณโรส จิตที่คิดยังงี้เป็นตน เป็นตัวตนมั้ย นี่ๆ

อ้างคำพูด:
ไม่ได้ตั้งใจจะลบลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่จิตมันแว๊บขึ้นมา จะทำอย่างไร จะให้คำหยาบคำด่า หรืออะไรที่คิดอกุศลหายไปค่ะ

พยายามนึกคิดในสิ่งที่ดี..สวดมนต์ก็แล้วยังไม่หยุดไปรบกวน แนะนำด้วยค่ะ


มีเจ้าของมั้ย :b1:

ฟังประกอบ

https://www.youtube.com/watch?v=cNHtquEL7Kw

Kiss
เค๊าเรียกว่าฟังไม่ได้ศัพท์จับมากระเดียด
จิตที่รู้แต่ละ1ของแต่ละคนมีเจ้าของคืออะไร
รู้เลยคิดไม่ออกถึงถามมาแบบนี้อะไรล่ะที่ระลึกรู้
ตัวรู้ที่ข้าพเจ้าหมายให้รู้คือสติสัมปชัญญะที่รู้ตรงที่มีของตน
:b32: :b32:



อ้างคำพูด:
ตัวรู้ ที่ข้าพเจ้า หมายให้รู้ คือสติ สัมปชัญญะ ที่รู้ตรงที่มีของตน


พูดเอาฮงแต่เช้ามืดเลย คิกๆๆๆ

คุณโรส ให้รู้ สติ สัมปชัญญะ ยังงั้นหรือครับน่า :b10: หรือสติสัมปชัญญะ รู้ทีีมีของตน มีตน ฮง

ทั้งสติ ทั้งสัมปชัญญะ (ตัวรู้) ที่รู้ว่า ตน ตนที่ว่านี่เป็นใครครับน่า

:b12:
สติสัมปชัญญะเป็นปัญญาเจตสิกเกิดร่วมกับสติเป็นกุศลจิตน๊า
การเข้าใจความจริงของสิ่งที่มีตามคำสอนในพระพุทธศาสนา
ต้องเข้าใจสิ่งที่ตนกำลังมีแก้ที่ตนไม่ใช่ไปแก้ที่คนอื่นที่ไม่ใช่ตน
ถ้ายังมีโมหะยังไม่เป็นอริยบุคคลมีไม่ไดเลยสติสัมปชัญญะน่ะค่ะ
เพราะวิปัสสนาภาวนาเป็นกุศลจิตที่ประกอบด้วยปัญญารู้ความจริง
:b32:



ใครเขียนน่ะ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มิ.ย. 2016, 21:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มอบให้คุณโรส คิกๆๆ

แต่ที่ทำเฉยเฉย ไม่เอ่ยไม่พูดอะไร
เพราะถึงยังไงเธอก็เลื่อนก็ไหลอยู่ดี


https://www.youtube.com/watch?v=-RsunPrGBmE

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มิ.ย. 2016, 21:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
Rosarin
คำว่า ตน หมายถึงจิตที่รู้ มีเจ้าของ คือ ตัวรู้
จะรู้ว่าตัวรู้ไม่ใช่สัตว์ไม่ใช่บุคคลไม่ใช่ตัวตน...ยังไง


คุณโรส จิตที่คิดยังงี้เป็นตน เป็นตัวตนมั้ย นี่ๆ

อ้างคำพูด:
ไม่ได้ตั้งใจจะลบลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่จิตมันแว๊บขึ้นมา จะทำอย่างไร จะให้คำหยาบคำด่า หรืออะไรที่คิดอกุศลหายไปค่ะ

พยายามนึกคิดในสิ่งที่ดี..สวดมนต์ก็แล้วยังไม่หยุดไปรบกวน แนะนำด้วยค่ะ


มีเจ้าของมั้ย :b1:

ฟังประกอบ

https://www.youtube.com/watch?v=cNHtquEL7Kw

Kiss
เค๊าเรียกว่าฟังไม่ได้ศัพท์จับมากระเดียด
จิตที่รู้แต่ละ1ของแต่ละคนมีเจ้าของคืออะไร
รู้เลยคิดไม่ออกถึงถามมาแบบนี้อะไรล่ะที่ระลึกรู้
ตัวรู้ที่ข้าพเจ้าหมายให้รู้คือสติสัมปชัญญะที่รู้ตรงที่มีของตน
:b32: :b32:



อ้างคำพูด:
ตัวรู้ ที่ข้าพเจ้า หมายให้รู้ คือสติ สัมปชัญญะ ที่รู้ตรงที่มีของตน


พูดเอาฮงแต่เช้ามืดเลย คิกๆๆๆ

คุณโรส ให้รู้ สติ สัมปชัญญะ ยังงั้นหรือครับน่า :b10: หรือสติสัมปชัญญะ รู้ทีีมีของตน มีตน ฮง

ทั้งสติ ทั้งสัมปชัญญะ (ตัวรู้) ที่รู้ว่า ตน ตนที่ว่านี่เป็นใครครับน่า

:b12:
สติสัมปชัญญะเป็นปัญญาเจตสิกเกิดร่วมกับสติเป็นกุศลจิตน๊า[/size]
การเข้าใจความจริงของสิ่งที่มีตามคำสอนในพระพุทธศาสนา
ต้องเข้าใจสิ่งที่ตนกำลังมีแก้ที่ตนไม่ใช่ไปแก้ที่คนอื่นที่ไม่ใช่ตน
ถ้ายังมีโมหะยังไม่เป็นอริยบุคคลมีไม่ไดเลยสติสัมปชัญญะน่ะค่ะ
เพราะวิปัสสนาภาวนาเป็นกุศลจิตที่ประกอบด้วยปัญญารู้ความจริง
:b32:


อ้างคำพูด:
สติ สัมปชัญญะ เป็นปัญญาเจตสิก เกิดร่วมกับสติเป็นกุศลจิต


คุณโรสเริ่มจะออกทะเลแระ คิกๆๆ

[size=150]คุณโรส ได้แต่ใดมาว่า สติ เป็นปัญญาเจตสิก วานบอก แนะๆยังแถมไปเกิดร่วมกับสติเป็นกุศลจิต :b32: อีก

เสียเวลาเปล่าอีกคน :b32:

รู้จักคำว่าหัวเราะทีหลังดังกว่าไหมคุณกรัชกาย
ตัวเองเขียนเองไหมคะที่ว่าสติเป็นปัญญาเจตสิกน่ะ
ข้าพเจ้าเขียนว่าสติสัมปชัญญะเป็นปัญญาเจตสิกมีต่อกันว่า
เกิดร่วมกับสติเป็นกุศลจิตหมายถึงมีทั้งปัญญาและสติทั้ง2เจตสิกนี้
เกิดเป็นสหชาตปัจจัยแค่อ่านยังตีไม่แตกเข้าใจไหมว่าจิตเกิดดับพร้อมเจตสิก
และในการเกิดดับ1ขณจิตนั้นมีเจตสิกเกิดร่วมมากกว่า1เจตสิกแยกจากกันด้วยอีกต่างหาก
ขณะใดจิตเป็นกุศลก็เกิดเจตสิกที่ดีได้สูงสุดถึง19เจตสิกถ้าเป็นอกุศลจิตเจตสิกก็เป็นอกุศลด้วย
เจตสิกมี52ประเภทเป็นโสภณเจตสิกที่ดีงามอ่านว่าโสภะนะเจตะสิกกะชัดเจนขึ้นบ้างไหมคะ
และในเจตสิกทั้ง52ประเภทนั้นแบ่งเป็นอกุศลเจตสิก14ประเภทที่ทำให้จิตเป็นอกุศลกรรม
รู้รึยังคะว่าปกติมีกุศลหรืออกุศลมากกว่ากันแต่ละขณะในชีวิตประจำวัน/กุศลเกิดง่ายไหม
เจตสิกที่ดีงามที่เป็นกุศลเท่ากับ52-14=โสภณเจตสิกมีถึง38ประเภทเช่นสมาธิ/สติ/วิริยะ/ปัญญา
:b32: :b32: :b32:

ดูให้ชัดๆของคุณกรัชกายตัวสีเขียว
ที่ข้าพเจ้าเขียนสีน้ำเงิน
ตรงสีบานเย็นตัวเองคือ
คุณนะคุณกรัชกายที่เขียนใช่ไหม
:b32: :b16: :b12:


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 03 มิ.ย. 2016, 21:36, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 59 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 233 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร