ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
พระพุทธเจ้าเป็นใคร ? http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=52272 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 17 เม.ย. 2016, 20:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | พระพุทธเจ้าเป็นใคร ? |
![]() |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 17 เม.ย. 2016, 20:57 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพุทธเจ้าเป็นใคร ? |
ครั้งหนึ่ง เมื่อพระพุทธเจ้ากำลังเสด็จพุทธดำเนินทางไกล พราหมณ์ผู้หนึ่ง ซึ่งได้เดินทางไกลทางเดียวกับพระองค์ มองเห็นรูปจักรที่รอยพระบาทแล้ว มีความอัศจรรย์ใจ ครั้นพระองค์เสด็จลงไปประทับนั่งพักที่โคนต้นไม้ต้นหนึ่งข้างทาง พราหมณ์เดินตามรอยพระบาทมา มองเห็นพุทธลักษณาการที่ประทับนั่ง สงบลึกซึ้ง น่าเลื่อมใสยิ่งนัก จึงเข้าไปเฝ้าแล้ว ทูลถาม: ท่านผู้เจริญคงจักเป็นเทพเจ้า ตรัสตอบ: เทพเจ้าเราก็จักไม่เป็น ทูลถาม: ท่านผู้เจริญคงจักเป็นคนธรรพ์ ตรัสตอบ: คนธรรพ์เราก็จักไม่เป็น ทูลถาม: ท่านผู้เจริญคงจักเป็นยักษ์ ตรัสตอบ: ยักษ์เราก็จักไม่เป็น ทูลถาม: ท่านผู้เจริญคงจักเป็นมนุษย์ ตรัสตอบ: มนุษย์เราก็จักไม่เป็น ทูลถาม: เมื่อถามว่า ท่านผู้เจริญคงจักเป็นเทพ ท่านก็กล่าวว่า เทพเจ้าเราก็จักไม่เป็น เมื่อถามว่า ท่านผู้เจริญคงจักเป็นคนธรรพ์...เป็นยักษ์...เป็นมนุษย์ ท่านก็กล่าวว่า จักไม่เป็น เมื่อเป็นเช่นนั้น ท่านผู้เจริญจะเป็นใครกันเล่า ตรัสตอบ: นี่แน่ะพราหมณ์ อาสวะเหล่าใด ที่เมื่อยังละไม่ได้ จะเป็นเหตุให้เราเป็นเทพเจ้า...เป็นคนธรรพ์...เป็นยักษ์...เป็นมนุษย์ อาสวะเหล่านั้น เราละได้แล้ว ถอนรากเสียแล้ว...หมดสิ้น ไม่มีทางเกิดขึ้นได้อีกต่อไป เปรียบเหมือนดอกอุบล ดอกปทุม ดอกบุณฑริก เกิดในน้ำ เจริญในน้ำ แต่ตั้งอยู่เหนือน้ำ ไม่ถูกน้ำฉาบติด ฉันใด เราก็ฉันนั้นเหมือนกัน เกิดในโลก เติบโตขึ้นในโลก แต่เป็นอยู่เหนือโลก ไม่ติดกลั้วด้วยโลก ฉันนั้น นี่แน่ะพราหมณ์ จงถือเราว่าเป็น "พุทธะ" เถิด องฺ.จตุกฺก.21/36/48 ข้อความมีลักษณะเล่นถ้อยคำ จึงแปลรักษาสำนวน เพื่อผู้ศึกษามีโอกาสพิจารณา |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 25 เม.ย. 2016, 05:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระพุทธเจ้าเป็นใคร ? |
พุทธประวัติ “นครของเราชื่อกบิลพัสดุ์ พระราชา พุทธบิดา พระนามว่าสุทโธทนะ พระมารดา ผู้ชนนี มีพระนามว่ามายาเทวี เราครองอาคาริยวิสัยอยู่ ๒๙ พรรษา มีปราสาทเลิศ ๓ หลัง ชื่อ สุจันทะ โกกนุท และโกญจะ พร้อมด้วยสตรีสี่หมื่นนางเฝ้าแหนอลังการ ยอดนารี มีนามว่ายโสธรา โอรสนามว่าราหุล “เราเห็นนิมิต ๔ ประการ จึงออกบวชด้วยอัศวราชยาน ได้บำเพ็ญเพียรประพฤติทุกรกิริยาอยู่ ๖ พรรษา เราประการธรรมจักรที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แขวงเมืองพาราณสี “เราคือสัมมาสัมพุทธ นามว่าโคตรมะ เป็นสรณะของสรรพสัตว์ ฯลฯ อายุของเราในยุคสมัยบัดนี้ น้อยเพียงชั่วร้อยปี ถึงจะดำรงชีวีอยู่เพียงเท่านั้น เราก็ช่วยหมู่ชนให้ข้ามพ้นวัฏฏะไปได้จำนวนมากมาย และได้ตั้งคบเพลิงธรรมไว้ปลุกประชาชนภายหลังให้เกิดปัญญาตื่นขึ้นมาตรัสรู้ต่อไป “ไม่นานเลย เราพร้อมทั้งหมู่สาวก ก็จักปรินิพพาน เหมือนไฟดับไปเพราะสิ้นเชื้อ เรือนกายร่างนี้ที่ทรงไว้ซึ่งคุณสมบัติ วิจิตรด้วยวรลักษณ์ทั้ง ๓๒ ประการ มีเดชหาที่เทียบเทียมมิได้ กับทั้งทศพลและประดาฤทธิ์ ฉายประภาฉัพพรรณรังสี สว่างไสวทั่วทศทิศ ดุจดังดวงอาทิตย์ศตรังสี ก็จักลับดับหาย สังขารทั้งหมดทั้งหลายไร้แก่นสาร ล้วนว่างเปล่าดังนี้แหละหนอ” ขุ.พุทฺธ.33/26/544 “วัยของเราหง่อมแล้ว ชีวิตของเรายังอยู่เพียงเล็กน้อย เราจะจากพวกเธอไป เราได้ทำสรณะให้แก่ตนแล้ว ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงเป็นผู้ไม่ประมาท มีสติ มีความประพฤติดีงาม มีความดำริมั่นคง จงตามรักษาจิตของตน ผู้ใดในธรรมวินัยนี้ จักเป็นอยู่อย่างไม่ประมาท ผู้นั้น จะละชาติสงสาร กระทำความจบสิ้นทุกข์ได้” |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |