วันเวลาปัจจุบัน 29 เม.ย. 2024, 09:51  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ค. 2016, 19:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หนังสือจาริกบุญ จารึกธรรม หน้า ๑๐๗

..........


พระพุทธศาสนา สูญสิ้นไปจากอินเดียเมื่อ พ.ศ.๑๗๐๐ เศษ ด้วยการฆ่าฟันทำลาย

แต่ก่อนที่กองทัพมุสลิมจะเข้ามาทำลายนั้น พระพุทธศาสนาก็อ่อนแออยู่แล้ว ด้วยการที่มีความเสื่อมโทรมในตัวเอง และการไปกลมกลืนกับศาสนาฮินดู การทำลายของกองทัพมุสลิมนี้นับว่าเป็นการลงดาบสุดท้าย

สรุปได้ง่ายว่า นาลันทาก็สลายหมดไป พร้อมกับที่พระพุทธศาสนาก็สูญสิ้นจากประเทศอินเดีย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ค. 2016, 19:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระพุทธศาสนา ในมือของพุทธบริษัท

การสูญสิ้นของพระพุทธศาสนา เป็นเครื่องเตือนใจชาวพุทธว่า หลักสำคัญที่สุดที่จะรักษาพระพุทธศาสนาไว้ได้ก็คือ พุทธบริษัททั้ง ๔ ของเรา จะต้องมีความมั่นคงในหลักการของพระพุทธศาสนา และจะต้องสำนึกในความมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อพระพุทธศาสนา จะต้องยึดถือหลักการเป็นสำคัญ และพัฒนาตนเองให้เป็นชาวพุทธที่มีคุณภาพ

เวลานี้ สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากก็คือ คนที่มีชื่อว่าเป็นพุทธศาสนิกชนมักมีความรู้สึกคล้ายๆ จะแบ่งกัน เช่น ชาวบ้านก็มองว่า ผู้ที่จะต้องรับผิดชอบพระพุทธศาสนาคือพระ

เวลามีพระทำอะไรไม่ดี โยมก็บอกว่า เออ พระพุทธศาสนานี่อะไรกัน พระไม่ดี ไม่ได้ความ ไม่น่านับถือ ก็พาลจะเลิกนับถือพระพุทธศาสนา หาได้คิดไม่ว่าพระพุทธศาสนาเป็นของบริษัท ๔

ถ้าพระเสียแต่โยมยังอยู่ อุบาสก อุบาสิกา ก็ต้องรักษาพระพุทธศาสนาไว้ ยามที่พระสงฆ์เพลี่ยงพล้ำ อุบาสก อุบาสิกา ต้องเป็นหลักกลับมาช่วยพื้นฟูหนุนให้มีพระดีมารักษาพระพุทธศาสนา

คติอย่างหนึ่งก็คือ การวางท่าทีต่อสถานการณ์ของพระพุทธศาสนาให้ถูกต้อง เวลาเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดีขึ้นมา ชาวพุทธจะต้องมองอีกแบบหนึ่ง คือจะต้องมองว่า พระพุทธศาสนาเป็นสมบัติของชาวพุทธเป็นสมบัติของประเทศชาติ ของสังคม และของเรา พระพุทธศาสนามีคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติของเรา ได้ให้อะไรๆ แก่สังคมของเรามามาก ทำให้สังคมของเรามีวัฒนธรรม มีความเจริญรุ่งเรือง มีสันติสุขมานานแล้ว บัดนี้ พระพุทธศาสนาของเราตกต่ำ มีปัญหาเกิดขึ้นแล้ว เราชาวพุทธจะต้องช่วยเหลือกัน เราจะช่วยพระพุทธศาสนาของเราอย่างไรดี


เมื่อเกิดมีปัญหา ไม่ควรจะคิดว่า เอ้อ พระไม่ดีแล้ว พระพุทธศาสนาไม่ได้ความ แต่ควรจะคิดว่า เวลานี้ พระพุทธศาสนาของเรา เพลี่ยงพล้ำ เราจะช่วยได้อย่างไร คือ ชาวพุทธต้องมองในแง่ว่าเราจะช่วยพระพุทธศาสนาของเราอย่างไร ถ้าตั้งท่าทีอย่างนี้ เราจะมีความเข้มแข็งขึ้น เท่าที่เป็นมาในอดีต ท่าทีของชาวพุทธเป็นอย่างนี้ เราจึงรักษาพระพุทธศาสนาไว้ได้


ในการที่รักษาพระพุทธศาสนาไว้ได้นั้น นอกจากมีจิตสำนึกที่จะไม่ประมาท มีความรู้สึกรับผิดชอบร่วมกัน และมีความรู้สึกร่วมเป็นเจ้าของด้วยแล้ว ตัวเราเองจะต้องมีคุณสมบัติที่จะรักษาพระพุทธศาสนาไว้ได้ด้วย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ค. 2016, 19:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระพุทธเจ้าได้ตรัสหลักนี้ไว้ให้แล้วในมหาปรินิพพานสูตรว่า พระองค์จะปรินิพพาน ต่อเมื่อพุทธบริษัททั้ง ๔ ไม่ว่าจะเป็นภิกษุก็ตาม ภิกษุณีก็ตาม อุบาสก ก็ตาม อุบาสิกา ก็ตาม ไม่ใช่แต่เฉพาะพระสงฆ์ ต้องมีคุณสมบัติ ๓ ข้อต่อไปนี้ คือ (ที.ม.10/102)

๑. ในด้านส่วนตัว แต่ละคนจะต้องมีความแกล้วกล้ามั่นใจในธรรม ครบทั้ง ๒ ขั้นตอน คือ

๑) รู้เข้าใจหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า

๒) ปฏิบัติตามหลักธรรมนั้นได้ถูกต้อง

๒. ในความสัมพันธ์กับผู้อื่น ก็มีความรู้เพียงพอ และมีเมตตาธรรม มีน้ำใจเผื่อแผ่ สามารถแนะนำสั่งสอนธรรมนั้นแก่ผู้อื่นด้วย เช่น เป็นคุณพ่อคุณแม่ ก็เอาธรรมไปสั่งสอนลูก อบรมลูก เป็นครูอาจารย์ก็สั่งสอนลูกศิษย์ เป็นเพื่อนก็แนะนำแก่เพื่อน เป็นผู้ใหญ่ก็แนะนำแก่ผู้น้อย ผู้ใต้บังคับบัญชา เป็นต้น เป็นการทำหน้าที่ต่อสังคม และต่อพระพุทธศาสนา

เป็นอันว่า คุณสมบัติประการที่สอง คือทำหน้าที่ต่อผู้อื่นด้วยความมีน้ำใจ และมีความสามารถที่จะแนะนำให้ความรู้ธรรมแก่เขาได้

๓. ในแง่หลักการ ก็สามารถรักษาหลักการของพระพุทธศาสนาไว้ได้ เมื่อมีใครพูดจาผิดพลาด ปฏิบัติผิดพลาดเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา มีวาทะกล่าวร้ายต่อพระพุทธศาสนา ทำให้พระธรรมวินัยคลาดเคลื่อน ต้องสามารถที่จะชี้แจงแก้ไขได้ ท่านเรียกว่า กำราบปรัปวาทได้

พุทธบริษัททุกคน ถือว่ามีหน้าที่จะต้องศึกษา จนมีคุณสมบัติครบ ๓ อย่างนี้ ขอย้ำอีกทีหนึ่ง

๑.ในแง่ตนเอง ก็ทั้งรู้ และปฏิบัติได้ถูกต้อง

๒. ในแง่สัมพันธ์กับผู้อื่น ก็มีความรู้ความสามารถ และมีน้ำใจเมตตาที่จะเผื่อแผ่ให้ความรู้ธรรมแก่เขา

๓. ในแง่หลักการ ก็สามารถรักษาหลักการของพระพุทธศาสนา ชี้แจงแก่ผู้ที่มาพูดกล่าวร้าย หรือแก้ไขคามเข้าใจที่คลาดเคลื่อนต่อพระพุทธศาสนาได้

ถ้าทุกคนที่เป็นชาวพุทธ อยู่ในพุทธบริษัท ๔ เป็นอุบาสิกา เป็นอุบาสก เป็นภิกษุณี เป็นภิกษุ ที่มีความสามารถเช่นนี้ แล้วช่วยกันรับผิดชอบ ก็จะสามารถรักษาพระพุทธศาสนาไว้ได้แน่นอน เราจะไม่มีปัญหา

แต่เมื่อใดความเสื่อมเกิดขึ้น และรุกเข้ามาจนถึงจุดศูนย์กลาง กล่าวคือ แม้แต่ความรู้และการปฏิบัติต่อพระพุทธศาสนา ที่เป็นส่วนของพระเองก็พลอยคลาดเคลื่อน หรือพระองก็ไม่มีคุณสมบัติ เมื่อนั่นพระพุทธศาสนาก็จะเสื่อมโทรมลง

จากที่นาลันทา เราจะเห็นได้ว่า ความเสื่อมได้เข้ามาถึงตัวแกน คือ ศูนย์กลางของพระพุทธศาสนา พระสงฆ์ไม่มั่นคงในหลักการของตนเอง จนกระทั่งเข้าไปกลมกลืนกับลัทธิศาสนาอื่น จึงทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมลงจนสูญสิ้น

การที่พระพุทธศาสนาเสื่อมจากอินเดีย เราต้องมองปัจจัยหลายด้าน แม้ว่าเหตุสำคัญที่เป็นตัวตัดสินสุดท้าย คือ สงคราม (เรียกได้ไม่เต็มปากว่าเป็นสงคราม เพราะแทบจะเป็นการรุกรานหรือบุกทำลายข้างเดียว) จากการทำลายของชาวมุลลิมเตอร์ก แต่ก่อนหน้านั้นก็ได้มีความผุกร่อน ความโทรมของพระพุทธศาสนาเอง จากการที่เข้าไปกลมกลืนกับศาสนาฮินดู รวมทั้งความวิปลาสคลาดเคลื่อนของวัตรปฏิบัติ ความรู้เข้าใจธรรม และความประพฤติทั่วไป

โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างชาวพุทธ ซึ่งเป็นข้อที่สำคัญมาก พุทธบริษัท ๔ ไม่มีความสัมพันธ์ที่รับผิดชอบต่อกัน ไม่ร่วมมือกันเท่าที่ควร พระก็ไม่ทำหน้าที่ด้วยดีต่อประชาชน และฝ่ายชาวบ้านก็เอาพระพุทธศาสนามาฝากไว้กับพระฝ่ายเดียว เป็นต้น จนในที่สุดพระพุทธศาสนาก็เสื่อมจนสูญสิ้นไป

เมื่อเข้าใจอย่างนี้แล้ว เราก็จะได้ประโยชน์ ได้สติปัญญาในการที่จะมารักษาพระพุทธศาสนาต่อไป คือ เอาอดีตมาเป็นบทเรียน ถ้าไม่สามารถโยงมาสู่ปัจจุบันได้ ประโยชน์นั้นก็น้อย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ค. 2016, 20:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ย้อนอดีต เทียบกับปัจจุบัน

รูปภาพ

จะเห็นเค้าลางเฉกเช่นอดีต

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 104 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร