วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 08:27  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 224 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 ... 15  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มี.ค. 2016, 09:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
:b12:
ขออนุโมทนากับกุศลจิตของจิตทุกดวงที่ได้ปัญญาเข้าใจจริงๆค่ะ
แล้วก็น่าเห็นใจความไม่รู้และอกุศลจิตของจิตทุกดวงเช่นกันนะคะ
สัพเพ ธัมมา อนัตตา สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ ตามเหตุปัจจัย


คุณโรส :b1: :b8:

อ้างคำพูด:
กระพริบตาทั้ง 6 ทางดับแล้ว...คำว่าดับแล้วคือดับทุกอย่างที่คิดว่ามีไม่เหลือ...
...ดับตัวตนตับปอดหัวใจ...ดับที่ดินบ้านรถยนต์...ดับวงศาคณาญาติเพื่อนฝูง.


จริงๆนะขอรับ กรัชกายเพิ่งเคยได้ยิน ที่อื่นๆว่าเจ๋งแล้วนี่เจ๋งกว่า

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มี.ค. 2016, 12:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
:b12:
ขออนุโมทนากับกุศลจิตของจิตทุกดวงที่ได้ปัญญาเข้าใจจริงๆค่ะ
แล้วก็น่าเห็นใจความไม่รู้และอกุศลจิตของจิตทุกดวงเช่นกันนะคะ
สัพเพ ธัมมา อนัตตา สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ ตามเหตุปัจจัย


คุณโรส :b1: :b8:

อ้างคำพูด:
กระพริบตาทั้ง 6 ทางดับแล้ว...คำว่าดับแล้วคือดับทุกอย่างที่คิดว่ามีไม่เหลือ...
...ดับตัวตนตับปอดหัวใจ...ดับที่ดินบ้านรถยนต์...ดับวงศาคณาญาติเพื่อนฝูง.


จริงๆนะขอรับ กรัชกายเพิ่งเคยได้ยิน ที่อื่นๆว่าเจ๋งแล้วนี่เจ๋งกว่า

Kiss
คุณกรัชกายคิดตามนะคะ 1ครั้งที่ดับไม่เป็นสัตว์บุคคลวัตถุ
1ขณะจิตของสภาพเห็นเป็นแต่เพียงเกิดขึ้นเห็นรูปสีแล้วดับ
1ขณะอันเดียวนั้นแหละมีเพียงอายตนะเดียวคือตาเห็นเท่านั้น
1ขณะนี้เองเป็นธาตุรู้ที่เกิดขึ้นรู้เห็นแล้วดับเป็นโลกของการเห็นสี
ลักษณะของเห็นในจิตเห็นเป็นแต่เพียงสิ่งที่ปรากฏให้เห็นได้แล้วดับ
ตกลงมีตัวตนมีคนมีสัตว์มีสิ่งของไหม...ตรงตามที่พระพุทธเจ้าสอนไหม
ว่าไม่มีสัตว์บุคคลตัวตนเราเขา...เป็นจิตเห็นเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปมีช่องว่างคั่น
ทุกขณะจิตทีละ1ขณะต้องมีอากาศธาตุแทรกคั่นเป็นการสืบต่อตามเหตุปัจจัยทุกขณะ
เสมือนไม่มีอะไรดับเลย...ทรงแสดงความว่างแทรกการเกิดดับแต่ละขณะละเอียดพอไหมคะ
จิตเกิดดับทั้ง6ทางเป็นแต่ละทางเกิดดับสืบต่อสลับกันจนกลายเป็นนิมิตรที่เพียงปรากฏให้เห็นได้
จิตเห็นสีดับปรากฏเป็นสีสัณฐานของสีหลายสีรวมกันที่ไหนมีธาตุที่นั่นมีสีกลิ่นรสสัมผัสแตะต้องได้
ตกลงตอนนี้1เห็นดับ1ได้ยินดับ1ได้กลิ่นดับ1ได้รสดับ1สัมผัสเย็นร้อนอ่อนแข็งตึงไหวดับมีหัวใจใคร
:b16:
onion onion onion


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 19 มี.ค. 2016, 14:39, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มี.ค. 2016, 13:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คิดไม่ถูกเพราะไม่รู้และคิดเอง
ลองคิดตามตอนที่กำลังฟังนะคะ
สุตมยปัญญาปัญญาเข้าใจสิ่งที่ฟัง
รู้จักจิตตนได้ทันทีขณะที่กำลังฟังค่ะ
ขณะไม่ฟังคิดเองก็ไม่พึ่งพระรัตนตรัย
จำเป็นที่ต้องฟังสะสม1ขณะที่เป็นปัญญาค่ะ
https://m.youtube.com/watch?v=g3TLepPnbXs
:b45:
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มี.ค. 2016, 17:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จำคุก 2 ปีครึ่ง หนุ่มนิวซีแลนด์ ข้อหา "หมิ่นศาสนาพุทธ" ในเมียนมาร์

http://www.prachachat.net/news_detail.p ... 1426588577

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มี.ค. 2016, 17:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
คิดไม่ถูกเพราะไม่รู้และคิดเอง
ลองคิดตามตอนที่กำลังฟังนะคะ

เลอะเทอะครับ คิดไม่ถูกมันเป็นเรื่องของสมมติ แต่ความไม่รู้ตามความของอวิชชา
เป็นธรรมชาติของปุถุชน มันไม่เกี่ยวกับความคิด...ป้าสุจินต์แกก็พูดไปเรื่อย

Rosarin เขียน:
สุตมยปัญญาปัญญาเข้าใจสิ่งที่ฟัง
รู้จักจิตตนได้ทันทีขณะที่กำลังฟังค่ะ
ขณะไม่ฟังคิดเองก็ไม่พึ่งพระรัตนตรัย
จำเป็นที่ต้องฟังสะสม1ขณะที่เป็นปัญญาค่ะ


ก็เข้าใจไงว่าป้าแกมั่ว :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มี.ค. 2016, 17:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
จำคุก 2 ปีครึ่ง หนุ่มนิวซีแลนด์ ข้อหา "หมิ่นศาสนาพุทธ" ในเมียนมาร์

http://www.prachachat.net/news_detail.p ... 1426588577


คลั่งศาสนา!!!! :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มี.ค. 2016, 17:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
จำคุก 2 ปีครึ่ง หนุ่มนิวซีแลนด์ ข้อหา "หมิ่นศาสนาพุทธ" ในเมียนมาร์

http://www.prachachat.net/news_detail.p ... 1426588577


คลั่งศาสนา!!!! :b32:


คิกๆๆ

http://f.ptcdn.info/061/041/000/o4a045l ... I4zC-o.jpg

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มี.ค. 2016, 21:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระสงฆ์นักพัฒนาฯ ออกแถลงการณ์
ขอให้รัฐบาลยุติการหนุนหลังผู้ให้ร้ายคณะสงฆ์
สร้างความวุ่นวายแก่พระพุทธศาสนา
โดยระบุว่า

บัดนี้ เป็นที่ปรากฏชัดแล้วว่า มีรัฐมนตรีในคณะรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ให้การหนุนหลัง "พุทธอิสระ" และนายไพบูลย์ นิติตะวัน ออกมาเคลื่อนไหวกล่าวโจมตีให้ร้ายคณะสงฆ์ เพื่อให้เห็นว่า คณะสงฆ์อ่อนแอ เป็นการสร้างความชอบธรรมในการเข้าแทรกแซงกิจการคณะสงฆ์ โดยเฉพาะการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช มีการปล่อยให้คนเหล่านั้นแถลงข่าวให้ร้ายคณะสงฆ์ ครั้งแล้วครั้งเล่าในสถานที่ของรัฐบาล โดยที่รัฐบาลไม่เคยห้ามปราม ตักเตือน ครั้นมีพระสงฆ์ออกมาแสดงความคิดเห็น ชี้แจง ทำความเข้าใจต่อสังคม เพื่อปกป้องคณะสงฆ์จากการกระทำดังกล่าว กลับถูกรัฐบาลสั่งห้าม มีการส่งทหารไปคุกคามพระผู้ใหญ่ตามวัดต่างๆ เหมือนคณะสงฆ์ถูกมัดมือมัดเท้าให้ถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว

พระสงฆ์นักพัฒนาตามอุดมการณ์แผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง รู้สึกหดหู่ใจที่เห็นรัฐมนตรีในรัฐบาลของประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองพุทธ กลับมีรัฐมนตรีของประเทศแสดงอาการดูหมิ่นดูแคลนผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระ สังฆราช ซึ่งเป็นพระมหาเถระในคณะสงฆ์ บวชมายาวนาน จนเข้าสู่ปูนชรา บำเพ็ญประโยชน์แก่พระศาสนาจนเป็นที่เคารพศรัทธาของพระภิกษุสามเณร ทั้งฝ่ายธรรมยุติและมหานิกาย

พวกเราในนามพระสงฆ์นักพัฒนาฯ ไม่อาจนิ่งดูดาย จึงขอถามนายกรัฐมนตรีผ่านไปยังพลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ว่า พฤติการณ์ที่ท่านกระทำกับผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ประมุขของคณะสงฆ์ในพระพุทธศาสนา เช่นนั้น ท่านสามารถกระทำกับจุฬาราชมนตรี ประมุขของอีกศาสนาได้หรือไม่

พระสงฆ์นักพัฒนาตามอุดมการณ์แผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง ขอแสดงจุดยืนประกาศเข้าร่วมกับองค์พุทธทุกองค์กร เพื่อเรียกร้องให้พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา แสดงความรับผิดชอบต่อการดูหมิ่นประมุขสงฆ์ ด้วยการลาออก เพื่อให้บุคคลที่มีความเป็นผู้ใหญ่ มีสัมมาคารวะต่อพระสงฆ์ สมเกียรติแก่ตำแหน่งมาทำหน้าที่ อันจะเป็นการดำรงค์ไว้ซึ่งเกียรติภูมิแห่งประมุขสงฆ์ในพระพุทธศาสนา

https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =3&theater

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มี.ค. 2016, 06:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เรีิ่มต้นที่ดี

http://video.postjung.com/105555.html

แต่มนุษย์ไม่ชอบศึกษา เลยติดอยู่แค่นั้น

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มี.ค. 2016, 07:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
พระสงฆ์นักพัฒนาฯ ออกแถลงการณ์
ขอให้รัฐบาลยุติการหนุนหลังผู้ให้ร้ายคณะสงฆ์
สร้างความวุ่นวายแก่พระพุทธศาสนา
โดยระบุว่า

บัดนี้ เป็นที่ปรากฏชัดแล้วว่า มีรัฐมนตรีในคณะรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ให้การหนุนหลัง "พุทธอิสระ" และนายไพบูลย์ นิติตะวัน ออกมาเคลื่อนไหวกล่าวโจมตีให้ร้ายคณะสงฆ์ เพื่อให้เห็นว่า คณะสงฆ์อ่อนแอ เป็นการสร้างความชอบธรรมในการเข้าแทรกแซงกิจการคณะสงฆ์ โดยเฉพาะการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช มีการปล่อยให้คนเหล่านั้นแถลงข่าวให้ร้ายคณะสงฆ์ ครั้งแล้วครั้งเล่าในสถานที่ของรัฐบาล โดยที่รัฐบาลไม่เคยห้ามปราม ตักเตือน ครั้นมีพระสงฆ์ออกมาแสดงความคิดเห็น ชี้แจง ทำความเข้าใจต่อสังคม เพื่อปกป้องคณะสงฆ์จากการกระทำดังกล่าว กลับถูกรัฐบาลสั่งห้าม มีการส่งทหารไปคุกคามพระผู้ใหญ่ตามวัดต่างๆ เหมือนคณะสงฆ์ถูกมัดมือมัดเท้าให้ถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว

พระสงฆ์นักพัฒนาตามอุดมการณ์แผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง รู้สึกหดหู่ใจที่เห็นรัฐมนตรีในรัฐบาลของประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองพุทธ กลับมีรัฐมนตรีของประเทศแสดงอาการดูหมิ่นดูแคลนผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระ สังฆราช ซึ่งเป็นพระมหาเถระในคณะสงฆ์ บวชมายาวนาน จนเข้าสู่ปูนชรา บำเพ็ญประโยชน์แก่พระศาสนาจนเป็นที่เคารพศรัทธาของพระภิกษุสามเณร ทั้งฝ่ายธรรมยุติและมหานิกาย

พวกเราในนามพระสงฆ์นักพัฒนาฯ ไม่อาจนิ่งดูดาย จึงขอถามนายกรัฐมนตรีผ่านไปยังพลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ว่า พฤติการณ์ที่ท่านกระทำกับผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ประมุขของคณะสงฆ์ในพระพุทธศาสนา เช่นนั้น ท่านสามารถกระทำกับจุฬาราชมนตรี ประมุขของอีกศาสนาได้หรือไม่

พระสงฆ์นักพัฒนาตามอุดมการณ์แผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง ขอแสดงจุดยืนประกาศเข้าร่วมกับองค์พุทธทุกองค์กร เพื่อเรียกร้องให้พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา แสดงความรับผิดชอบต่อการดูหมิ่นประมุขสงฆ์ ด้วยการลาออก เพื่อให้บุคคลที่มีความเป็นผู้ใหญ่ มีสัมมาคารวะต่อพระสงฆ์ สมเกียรติแก่ตำแหน่งมาทำหน้าที่ อันจะเป็นการดำรงค์ไว้ซึ่งเกียรติภูมิแห่งประมุขสงฆ์ในพระพุทธศาสนา

https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =3&theater

cool
ศึกสงฆ์ ถามตรงๆ หลวงปู่พุทธอิสระ VS จอมขวัญ หลาวเพ็ชร์
https://m.youtube.com/watch?v=7K95zu5dSTY
rolleyes


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มี.ค. 2016, 07:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
Rosarin เขียน:
โฮฮับ เขียน:

ธรรมของพระพุทธองค์ไม่ใช่พระไตรปิฎก ธรรมที่พระพุทธองค์ตรัสสอนเรียกเรียกว่า พระธรรมวินัย
"พระไตรปิฎก"เป็นคำที่เหล่าสาวกที่ทำการสังคายนาธรรมะของพระพุทธองค์ แล้วจึงกำหนดให้เรียกว่าพระไตรปิฎก

คำสอนของพระพุทธองค์เรียก....ธรรมวินัย....

อานนท์ ! ธรรมก็ดี วินัยก็ดี ที่เราแสดงแล้ว
บัญญัติแล้ว แก่พวกเธอทั้งหลาย
ธรรมวินัยนั้น จักเป็นศาสดา
ของพวกเธอทั้งหลาย
โดยกาล ล่วงไปแห่งเรา


มหาปรินิพพานสูตร มหา.ที. ๑๐ / ๑๕๙ / ๑๒๘

Rosarin เขียน:
ทรงค่อยๆแสดงความจริงทีละคำแล้วอธิบายขยายความให้เข้าใจทีละคำ
และการอธิบายทีละคำมีใครรู้ล่วงหน้าไหมว่าคำต่อไปจะแสดงคำไหนต่อไป
เพื่อที่จะทำให้ผู้ฟังค่อยๆคิดแล้วเข้าใจสิ่งที่ทุกคนที่กำลังฟังค่อยๆเข้าใจความจริง

ธรรมที่พระพุทธองค์แสดงไม่ใช่แสดงที่ละคำอย่างที่คุณโรสมั่ว
พระพุทธองค์จะสอนเหล่าสาวกด้วยพระธรรมที่เป็นเรื่องๆไป
นั้นก็คือกล่าวธรรมของมาทั้งบท
อันเป็นบทที่พระพุทธองค์ต้องการสอน....ตัวอย่างเช่น ทรงแสดงบทธัมมจักกัปปวัตนสูตรให้เหล่าปัญจวัคคีย์ฟัง
พระองค์ก็ทรงแสดงทั้งบท จนทำให้ปัจจวัคคีย์เกิดดวงตาเห็นธรรม


Rosarin เขียน:
แล้วที่ทุกวันนี้แต่ละคนไปอ่านหรือเรียนพระไตรปิฎกแล้วจำได้ทั้งหมดคิดว่ารู้คิดถูกไหม
มีแต่ความจำคำทั้งหมดเอาไว้ตอบคนอื่นแบบที่คิดว่าตนรู้จริงแต่จริงคือจำคำไม่เข้าใจจิตจริงๆ
จะเริ่มเข้าใจจิตตนว่าจิตตนกำลังสะสมจิตอย่างไรต้องฟังเสียงอธิบายแล้วคิดตามจึงจะรู้จิตที่สะสม

ไอ้ที่กรัชกายต้องการคำตอบของคุณคือ คำอธิบายให้ตรงกับสิ่งที่เขาถาม
คุณจะตอบอย่างไรก็ได้ตามความเห็นของคุณ.....แต่ไอ้สิ่งที่คุณตอบ มันเป็นลักษณะเพ้อเจ้อ
พูดจาแบบไปไหนมาสามวาสองศอก

เขาถามสิ่งที่เป็นสมมติสัจจะ คุณก็ไปเพ้อเรื่องจิตดวงนั้นดวงนี้
แถมตอบผิดๆถูกๆ ไม่รู้จักแยกแยะ ว่าไรเป็นสมมติ อะไรเป็นปรมัตถ์
และที่สำคัญ จิตมันเป็นอนิจจัง(ไม่เที่ยง) ยังเพ้อพพูดจิตดวงนั้นดวงนี้
:b32:

:b32: :b32: :b32:
อ้างคำพูด:
ธรรมที่พระพุทธองค์แสดงไม่ใช่แสดงที่ละคำอย่างที่คุณโรสมั่ว
พระพุทธองค์จะสอนเหล่าสาวกด้วยพระธรรมที่เป็นเรื่องๆไป

...เก่งกว่าพระพุทธเจ้าผู้เลิศด้วยปัญญาจริงๆ...ถึงได้คิดว่าพระพุทธเจ้าพูดเป็นเรื่องน่ะ...นั่งฟังนานไหม...
...ถามว่าเวลาพูดคนพูด...พูดทีละคำไหม...กว่าจะเป็นเรื่องยาวๆที่อ่านให้คิดเป็นเรื่องได้...ไม่รู้จักจิตเลย...
:b32: :b32: :b32:


คนบ้าเท่านั้นแหล่ะที่พูดที่ละคำ การสื่อสารกันระหว่างมนุษย์กับมนุษย์เขาพูดกันเป็นประโยค :b32:

Kiss
:b12:
แล้วโฮฮับไม่คิดเลยหรือว่าตัวเองก็เป็นคนบ้าคนนึงอย่างที่เขียนไหม
ก็เวลาพูดๆทีละ1คำต่อเนื่องกันหลายๆคำจึงเป็นประโยคใช่หรือไม่
พระพุทธเจ้านิยามว่าจิตวิปลาศเพราะเหตุอย่างนี้อย่างนี้จึงทีละคำ
:b32:
onion onion onion


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 20 มี.ค. 2016, 08:00, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มี.ค. 2016, 07:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
โฮฮับ เขียน:
Rosarin เขียน:

...กิเลสแปลว่าความไม่รู้...:


คุณโรสมั่วแล้วครับ! กิเลสก็อย่างความไม่รู้ก็อย่าง เล่นเอามาผสมปนเปกันซะเละ :b32:

ความไม่รู้โดยภาษาธรรมท่านเรียก อวิชชา
อวิชชาเป็นกฎของธรรมธรรมชาติอย่างหนึ่งในปฏิจจสมุบาท (อิทัปปจยตา)

ส่วนกิเลสเป็นภาษาธรรมเรียกว่า...สังโยชน์
สังโยญชน์เป็นตัวเหนี่ยวรั้งสัตว์โลกให้วนเวียนอยู่ในวัฏฏสงสาร

ไม่รู้ไม่มีใครว่า ขออย่างเดียวอย่ามั่วครับ :b32:


Rosarin เขียน:
.ขยายต่อว่าไม่รู้ทุกอย่างที่กำลังมี...อกุศลจิตของตนมากขนาดนี้ไม่รู๊...
:


รักจะสนทนาธรรมก็ควรเอาเหตุผลทางธรรมมาพูด ไม่ใช่ดีแต่พูดจาประชดประชัน
มิหน่ำซ้ำเอาคำมาใช่แบบผิดๆ.....อยากจะสอนให้ก่อนที่จะโหนธรรมของพุทธองค์
ก็ควรจะรู้ว่า......พระพุทธองค์เน้นสอนว่า บุคคลควรละสิ่งที่เป็นกุศลและอกุศล
เพราะกุศลและอกุศลล้วนมีปัจจัยมาจากสังโยชน์(กิเลส)


Rosarin เขียน:
.เรามีกรรมเป็นของๆตน...มีกรรมเป็นทายาท...มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์...มีกรรมที่รอให้ผลอกุศลตนด้วย...
:

สงสัยเป็นพวกหมอผีสแกนกรรม ประโยคนี้เป็นประโยคหากินของเขาล่ะ :b13:

:b32:
แล้วที่คิดก็เป็นตัวหนังสือข้างบนมาให้อ่านจิตเกิดดับมีไหมจำนวนกี่ขณะมีคนไหม
ถ้ายังมีคนที่มีตัวตนเหนียวแน่นที่มาแต่งประโยคที่ชวนให้คิดนอกเหนือคำจริงแล้ว
ทุกขณะที่ดับไปแล้วนั้น...ละชั่วไม่ได้เลยก็ไม่รู้...เป็นตัวตนโฮฮับคิดมาเขียนใช่รึไม่
:b15: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มี.ค. 2016, 08:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
พระผู้มีพระภาคอะระหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสวาจาสัจจะคำไหนคำนั้น
ตรัสคำไหนกับใครตรงความจริงที่ผู้นั้นกำลังฟังและเข้าใจสิ่งที่กำลังมี
ไม่ว่าคำไหนที่สามารถอธิบายให้รู้ความจริงที่จิตกำลังมีเป็นคำตถาคต
คำไหนที่ไม่ทำให้เข้าใจความจริงของสิ่งที่มีก็กล่าวตู่คำของพระองค์น๊า
:b13:
:b27: :b11:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มี.ค. 2016, 08:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
:b1:
โลกมีเพราะคิดและโลกวุ่นวายเพราะกิเลสคือความไม่รู้ค่ะ
พระพุทธเจ้าสอนให้ใช้ปัญญายกจิตให้พ้นโลกน๊า
แล้วปัญญารู้ความจริงที่จิตมีเท่านั้นไม่ใช่จิตคิด
ทรงแสดงหิริให้ละอายชั่วที่ไม่รู้โดยการฟัง
โอตัปปะให้ละอายบาปที่ไม่รู้ว่าไม่มีตัวตน
จิตเกิดดับแต่ละ1ขณะไม่มีใครๆเลย
เป็นจิตแต่ละ1ท่องเที่ยวแต่ละทาง
เกิดดับสลับกันจนคิดว่าเป็นคน
ก็ตราบใดที่ยังละตัวตนไม่ได้
ก็ละชั่วไม่ได้เลยเกิดแล้วน๊า
เปลี่ยนร่างตามยถากรรม
ละชั่วไม่ได้ก็ยังไม่ดี
ใจจะบริสุทธิ์ยังไง
:b22:
ฟังคำจริงที่ทำให้เข้าใจจิตสะสมอริยทรัพย์นะคร๊าาาาาาาา
http://www.dhammahome.com/video/topic/1916
onion onion onion


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 20 มี.ค. 2016, 09:01, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มี.ค. 2016, 09:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
โฮฮับ เขียน:
Rosarin เขียน:
โฮฮับ เขียน:

ธรรมของพระพุทธองค์ไม่ใช่พระไตรปิฎก ธรรมที่พระพุทธองค์ตรัสสอนเรียกเรียกว่า พระธรรมวินัย
"พระไตรปิฎก"เป็นคำที่เหล่าสาวกที่ทำการสังคายนาธรรมะของพระพุทธองค์ แล้วจึงกำหนดให้เรียกว่าพระไตรปิฎก

คำสอนของพระพุทธองค์เรียก....ธรรมวินัย....

อานนท์ ! ธรรมก็ดี วินัยก็ดี ที่เราแสดงแล้ว
บัญญัติแล้ว แก่พวกเธอทั้งหลาย
ธรรมวินัยนั้น จักเป็นศาสดา
ของพวกเธอทั้งหลาย
โดยกาล ล่วงไปแห่งเรา


มหาปรินิพพานสูตร มหา.ที. ๑๐ / ๑๕๙ / ๑๒๘

Rosarin เขียน:
ทรงค่อยๆแสดงความจริงทีละคำแล้วอธิบายขยายความให้เข้าใจทีละคำ
และการอธิบายทีละคำมีใครรู้ล่วงหน้าไหมว่าคำต่อไปจะแสดงคำไหนต่อไป
เพื่อที่จะทำให้ผู้ฟังค่อยๆคิดแล้วเข้าใจสิ่งที่ทุกคนที่กำลังฟังค่อยๆเข้าใจความจริง

ธรรมที่พระพุทธองค์แสดงไม่ใช่แสดงที่ละคำอย่างที่คุณโรสมั่ว
พระพุทธองค์จะสอนเหล่าสาวกด้วยพระธรรมที่เป็นเรื่องๆไป
นั้นก็คือกล่าวธรรมของมาทั้งบท
อันเป็นบทที่พระพุทธองค์ต้องการสอน....ตัวอย่างเช่น ทรงแสดงบทธัมมจักกัปปวัตนสูตรให้เหล่าปัญจวัคคีย์ฟัง
พระองค์ก็ทรงแสดงทั้งบท จนทำให้ปัจจวัคคีย์เกิดดวงตาเห็นธรรม


Rosarin เขียน:
แล้วที่ทุกวันนี้แต่ละคนไปอ่านหรือเรียนพระไตรปิฎกแล้วจำได้ทั้งหมดคิดว่ารู้คิดถูกไหม
มีแต่ความจำคำทั้งหมดเอาไว้ตอบคนอื่นแบบที่คิดว่าตนรู้จริงแต่จริงคือจำคำไม่เข้าใจจิตจริงๆ
จะเริ่มเข้าใจจิตตนว่าจิตตนกำลังสะสมจิตอย่างไรต้องฟังเสียงอธิบายแล้วคิดตามจึงจะรู้จิตที่สะสม

ไอ้ที่กรัชกายต้องการคำตอบของคุณคือ คำอธิบายให้ตรงกับสิ่งที่เขาถาม
คุณจะตอบอย่างไรก็ได้ตามความเห็นของคุณ.....แต่ไอ้สิ่งที่คุณตอบ มันเป็นลักษณะเพ้อเจ้อ
พูดจาแบบไปไหนมาสามวาสองศอก

เขาถามสิ่งที่เป็นสมมติสัจจะ คุณก็ไปเพ้อเรื่องจิตดวงนั้นดวงนี้
แถมตอบผิดๆถูกๆ ไม่รู้จักแยกแยะ ว่าไรเป็นสมมติ อะไรเป็นปรมัตถ์
และที่สำคัญ จิตมันเป็นอนิจจัง(ไม่เที่ยง) ยังเพ้อพพูดจิตดวงนั้นดวงนี้
:b32:

:b32: :b32: :b32:
อ้างคำพูด:
ธรรมที่พระพุทธองค์แสดงไม่ใช่แสดงที่ละคำอย่างที่คุณโรสมั่ว
พระพุทธองค์จะสอนเหล่าสาวกด้วยพระธรรมที่เป็นเรื่องๆไป

...เก่งกว่าพระพุทธเจ้าผู้เลิศด้วยปัญญาจริงๆ...ถึงได้คิดว่าพระพุทธเจ้าพูดเป็นเรื่องน่ะ...นั่งฟังนานไหม...
...ถามว่าเวลาพูดคนพูด...พูดทีละคำไหม...กว่าจะเป็นเรื่องยาวๆที่อ่านให้คิดเป็นเรื่องได้...ไม่รู้จักจิตเลย...
:b32: :b32: :b32:


คนบ้าเท่านั้นแหล่ะที่พูดที่ละคำ การสื่อสารกันระหว่างมนุษย์กับมนุษย์เขาพูดกันเป็นประโยค :b32:

Kiss
:b12:
แล้วโฮฮับไม่คิดเลยหรือว่าตัวเองก็เป็นคนบ้าคนนึงอย่างที่เขียนไหม
ก็เวลาพูดๆทีละ1คำต่อเนื่องกันหลายๆคำจึงเป็นประโยคใช่หรือไม่
พระพุทธเจ้านิยามว่าจิตวิปลาศเพราะเหตุอย่างนี้อย่างนี้จึงทีละคำ
:b32:
onion onion onion


ลักษณะของคนที่พูดทีละคำตามที่ รสริน อ้าง.....

รูปภาพ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 224 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 ... 15  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 147 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร